คำตอบที่ 1
       ไม่รู้ว่าเป็นคำถาม คำบ่น หรือ คำบอกกล่าว?
ถือว่าเป็นคำถามบางส่วนก็แล้วกันนะครับ
คำถาม กระสุนขนาด .38 สเปเชี่ยล+P กับกระสุนขนาด .357 แมกนั่ม ทำไมไม่ทำขนาดเดียวกัน เพราะปลอกกว้างเท่ากัน แต่ความยาวไม่เท่ากันทำให้ใส่ปืนสลับกันไม่ได้
คำตอบ ตรงประเด็นเลยครับ ก็เพราะบริษัทฯผู้ผลิตกลัวว่าคนใช้ปืนจะเอาลูก.38 +P ไปใส่สลับกับลูก .357 ซิครับเลยทำมาให้ปลอกยาวไม่เท่ากัน
ถ้าเอา .38+Pไปใส่ใน"ปืน" .357 ก็ไม่มีปัญหาอย่างใด เพราะปลอกสั้นใส่ในโม่ยาวได้และตัวปืนรับแรงดันของลูกกระสุน.38+pได้สบายมาก
แต่ถ้าเอาลูกกระสุน.357 ไปใส่ในโม่"ปืน".38สเปเชี่ยลได้(โดยทำปลอกให้ยาวเท่ากันซึ่งสามารถทำได้เพราะมีช่องว่างเหลือเฟือในปลอกของกระสุนขนาด.38 สเปเชี่ยลที่จะอัดดินปืนให้แรงเท่ากระสุน .357 แมกนั่ม) ผลก็คือปืนพัง มือหรือหน้าคนยิงแหก บริษัทฯผู้ผลิตกระสุนโดนฟ้องยับเยินจนต้องปิดบริษัทฯแน่ๆครับ
แรงดันในรังเพลิงหรือในโม่ของกระสุนสองขนาดนี่ แตกต่างกันประมาณ 3 เท่าตัวมังครับ เราคาดเดาด้วยสายตาในเรื่องพลังงานคงไม่ได้หรอกครับ
และแม้แต่ปืนขนาด .38สเปเชี่ยลรุ่นเก่าๆบางรุ่น ก็ใช้กระสุน .38 +P ไม่ได้นะครับ เพราะวิวัฒนาการของปืนสมัยนั้นโบราณเกินไปที่จะผลิตเหล็กให้มีคุณภาพรับแรงดันสูงๆของกระสุน+Pได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       มัวแต่ใส่รหัส เลยลืมภาพประกอบเรื่องไปเลย เอาภาพมาเทียบให้ดูเล่นน่ะครับว่า ปลอกกระสุน .357 แมกนั่มยาวกว่า .38 สเปเชี่ยลนิดหน่อย ทำให้ใส่ในโม่ปืน .38 ฯไม่ได้ เป็นความตั้งใจอย่างแรงกล้าของบริษัทฯผู้ผลิตกระสุนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       กระสุนขนาด .38 Special มีแรงดันในรังเพลิงประมาณ 17,000 ปอนด์/ตร.นิ้ว
กระสุนขนาด .38 Special ความแรงระดับ +P
มีแรงดันในรังเพลิงประมาณ 20,000 ปอนด์/ตร.นิ้ว

ส่วนกระสุนขนาด .357 Magnum
จะมีแรงดันในรังเพลิงประมาณ 35,000 ปอนด์/ตร.นิ้ว ครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       สำหรับความสามารถในการ "เจาะเกราะ" ของกระสุนในขนาด .357 magnum นั้น

ต้องขอเรียนให้ทราบก่อนนะครับ ว่า
มีการกำหนดระดับ...ของ เสื้อต่อต้านกระสุน (Bulletproof vest)
ไม่แน่ใจว่าแปลเป็นไทย...เหมาะสมหรือไม่นะครับ....
เพราะ...ไม่น่าจะแปลว่า...เสื้อเกราะ....

NIJ กำหนดระดับของ Bulletproof vest ไว้ 6 ระดับ ครับ...ได้แก่...

ระดับ 1
Type 1 (ชนิด 1) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนในขนาด .22 LR
ที่มีหัวกระสุนหนัก 40 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,050 ฟุต/วินาที
และกระสุนขนาด .380ACP
ที่มีหัวกระสุนหนัก 95 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,025 ฟุต/วินาที
หรือกระสุนในขนาด .38 RNL
ที่มีหัวกระสุนหนัก 158 เกรนและความเร็วไม่เกิน 850 ฟุต/วินาที ครับ

ระดับ 2
Type 2A (ชนิด 2A) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ แบบ FMJ
ที่มีหัวกระสุนหนัก 124 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,090 ฟุต/วินาที
และกระสุนขนาด .40 S&W แบบ FMJ
ทีมีหัวกระสุนหนัก 180 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,025 ฟุต/วินาที
รวมไปถึงป้องกันกระสุนในระดับ 1 ด้วย

ระดับ 3
Type 2 (ชนิด 2) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ แบบ FMJ
ที่มีหัวกระสุนหนัก 124 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,175 ฟุต/วินาที
และกระสุนในขนาด .357 แม็กนั่ม แบบ Jacketed Soft Point (JSP)
ที่มีหัวกระสุนหนัก 158 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,400 ฟุต/วินาที
รวมไปถึงป้องกันกระสุนในระดับ 1 และ 2 ด้วย

ระดับ 4
Type 3A (ชนิด 3A) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ แบบ FMJ
ที่มีหัวกระสุนหนัก 124 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,400 ฟุต/วินาที
และกระสุนในขนาด .44 แม็กนั่ม แบบ SJHP
ที่มีหัวกระสุนหนัก 240 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 1,400 ฟุต/วินาที
รวมไปถึงป้องกระสุนในระดับ 1, 2 และ 3 ด้วย

ระดับ 5
Type 3 (ชนิด 3) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนจากปืนเล็กยาวในขนาด 7.62 มม. แบบ FMJ
หรือแบบ M 80 ของกองทัพอเมริกา
ที่มีหัวกระสุนหนัก 148 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 2,750 ฟุต/วินาที
ซึ่งในเสื้อระดับนี้...จะมีอุปกรณ์ใดเพิ่มเติมทางทหารอีกหรือไม่...ผมไม่แน่ใจครับ
รวมไปถึงป้องกันกระสุนในระดับ 1, 2, 3 และ 4 ด้วย

ระดับ 6
Type 4 (ชนิด 4) คือ เสื้อที่สามารถป้องกันกระสุนแบบเจาะเกราะขนาด 30-06
แบบ M 2 AP ของกองทัพอเมริกา
ที่มีหัวกระสุนหนัก 166 เกรนและมีความเร็วไม่เกิน 2,850 ฟุต/วินาที
ซึ่งในเสื้อระดับนี้...จะมีอุปกรณ์ใดเพิ่มเติมทางทหารอีกหรือไม่...ผมไม่แน่ใจครับ
รวมไปถึงป้องกันกระสุนในระดับ 1, 2, 3, 4 และ 5 ด้วย

แต่ทั้งนี้...และทั้งนั้น....
มิได้หมายความว่า...การสวมเสื้อในลักษณะนี้....
ท่านผู้ตกเป็นเป้าหมาย...จะสามารถเดินเหิน...หรือทำการตอบโต้ได้อย่างเป็นปกติสุข
เหมือนในภาพยนตร์นะครับ



ดังนั้น ความสามารถในกรณี การเจาะเกราะ ของกระสุน นั้น
จะถูกแบ่งไปตามความสามารถในการต่อต้านหรือ ต้านทานของเสื้อกันกระสุน ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       แล้วกระสุนขนาด .380 ล่ะครับ เทียบในภาพ Standard Pistol Rounds คือขนาดไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       แล้วกระสุนขนาด .380 ล่ะครับ เทียบในภาพ Standard Pistol Rounds คือขนาดไหน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีในรูปครับ เป็นอีกขนาดเล็กกว่า 9 มม.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ทุกคำตอบเยี่ยมยอดมากครับ ปลอก .38 สั้นกว่า.357 ประมาณ .01 นิ้ว แต่ดินปืนที่ใส่ให้แรงดันมหาศาลครับ
อีกเรื่องต้องแยกเสื้อเกราะกับต้นไม้ครับ เสื้อเกราะเกิดจากเส้นใยเครฟล่าถักทอจนเป็นเสื้อซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันเสื้อที่มีความหนามากๆแต่เส้นใยที่ทำมีค่า tensile strength สูงมากๆ แต่ยังมีช่องว่างที่กระสุนหัวแหลมจะลอดผ่านช่องว่างได้แต่ต้นไม้นั้นเกิดจากเนื้อไม้ที่แน่นไม่มีช่องว่างเมื่อกระสุนกระทบก็จะกระจายแรงออกไปจนลูกกระสุนหมดแรงหละครับ และเสื้อเกราะที่จะกันลูกกระสุนหัวแหลมอย่างพวกไรเฟิลได้ต้องมีแผ่นโลหะ หรือแผ่นengineering plastic ไว้ให้กระสุนชนเพื่อให้ลูกแตกก่อนที่เส้นใยจะหยุดยั้งความแรงของกระสุน ส่วนลูก .380 ACP นั้นขนาดเล็กกว่า 9mm Luger อีก 2 mm เค้าอาจเรียกว่าเก้าสั้นก็ได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      

แสดงความคิดเห็นย่อย