คำตอบที่ 1
       ผมขอถามคุณก่อนว่าจะรู้ไปทำไมครับ ขอทราบคำตอบก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       นั้นซิครับ.. ผมประชาชนธรรมดา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       เคยได้ยินจาก รักยม ว่าใส่กระเป๋าเดินทางแล้วลากไปครับ (จะอยากรู้ไปทำไมเนี่ย )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ผมไม่ใช่ประชาชนธรรมดาเลยต้องรู้
ฅนที่เป็นประชาชนธรรมดาไม่จำเป็นต้องรู้
เพราะผมไม่ใช้ประชาชนธรรมดาจำเป็นต้องรู้
งงรึป่าวครับ ผมก็งง
เกิดมางงเลยต้องถามถามเพื่อรู้
ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้
ผมอยากรู้ก็เพื่อให้ผมรู้
ผมไม่ถามชาตินี้ผมก็ไม่รู้
ตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้
เกิดแล้วตายใหม่ก็ไม่รู้
ถามเพื่อรู้ ถ้าไม่ถามก็ไม่รู้

สรุปคือผมงง แล้วผมก็งงต่อไป555 ผมอยากรู้แล้วมันผิดหรือครับ ต่อไปผมก็จะไม่ถาม ของแบบนี้ต้องศึกษาเอง
(งงกับชีวิต)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมอ่านแล้ว ก็สงสัยเลยหล่ะครับ ว่าทำไมท่านเอ่ยคำว่า ภาคใต้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       Basicload เป็นคำเรียกที่ตรงกับคำว่า "อัตรากระสุนมูลฐาน" ของกองทัพบก ครับ

ตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วย การส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ประเภท 5 พ.ศ.2542 ข้อ 5.1.26 ระบุว่า
"อัตรากระสุนมูลฐาน" หมายถึง จำนวนกระสุนซึ่งกองทัพบกอนุมัติให้หน่วยสะสมไว้ เพื่อใช้รบหรือเผชิญสถานการณ์
และสามารถนำไปได้ด้วยกำลังพลและยานพาหนะของหน่วย



อ้างอิงจาก "อัตรากระสุนของอาวุธในกองพันทหารราบ"
โดย พ.อ.สุวิชา หอมจันทร์ ผอ.กกลร.สวท.รร.จปร.

แจ้งไว้ว่า จำนวนอัตรากระสุนมูลฐาน ปลย. M-16 ต่อกำลัง 1 นาย นั้น
คือ จำนวน 380 นัด ครับ

สำหรับไว้ติดตัวทหาร จำนวน 140 นัด หรือ 210 นัด
ไว้ที่หน่วยจ่ายกองร้อย จำนวน 200 นัด หรือ 130 นัด
ไว้ที่หน่วยจ่ายกองพัน จำนวน 40 นัด




ส่วนซองกระสุน นั้น มิได้มีอยู่ในระเบียบปฏิบัติ ครับ
แต่โดยมาก หน่วยจ่ายจะจ่ายซองกระสุนให้คนละ 7 ซอง
ไม่ว่าจะเป็นซองกระสุนแบบ 20 หรือ 30 นัด


หวังว่าคงจะ clear นะครับ


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       สำหรับไว้ติดตัวทหาร จำนวน 140 นัด

มีน้ำหนักแค่ไหนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ซองกระสุนพร้อมกระสุนขนาด 5.56x45 มม. แบบ M-855 จำนวน 30 นัด ของ ปลย. M-16 A2
จะหนักอยู่ราว ๆ 450 กรัม ครับ....

ถ้าใช้ซองกระสุนติดตัวทั้งหมด 7 ซองกระสุน (พร้อมกระสุน 210 นัด)
ก็จะมีน้ำหนักประมาณ 3,150 กรัม
รวมกับน้ำหนักปืน M-16 A2 ไม่รวมซองกระสุนอีกประมาณ 3,530 กรัม
ก็จะอยู่ราว ๆ 6,680 กรัม ครับ






ส่วนกระสุน 5.56x45 แบบ M-855 จำนวน 1 นัด
จะมีน้ำหนักประมาณ 179 เกรน หรือราว ๆ 11.6 กรัม
ถ้ากระสุนแบบ M-855 จำนวน 140 นัด
ก็จะอยู่ราว ๆ 1,624 กรัม ครับ

ถ้าเป็นจำนวน 210 นัด ก็จะอยู่ราว ๆ 2,436 กรัม


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ถ้าจะให้แน่ ๆ ต้องรบกวนให้ท่าน Kalashnikov Jr.
ชั่งน้ำหนักกระสุน 5.56x45 แบบ M-855 แล้วคำนวณออกมาล่ะครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       จากการสืบค้น บางที่ก็แจ้งว่า
กระสุนขนาด 5.56x45 มม. แบบ M-855
จะมีน้ำหนักประมาณ 190 เกรน หรือ 12.31 กรัม ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ผมเอง มิได้รับราชการทหารหรอกครับ
เพียงแต่ สืบค้น จากใน website อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและมีข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่องนี้ เท่านั้น

เท่าที่ทราบจำนวนกระสุน basicload ตามอัตราปกติ นั้น...
คือ 380 นัดต่อกำลังทหาร 1 นาย ครับ...
ส่วน basicload ที่ทหารจะนำติดตัวไป นั้น
ถ้าหน่วยจ่ายจ่ายซองกระสุนมา 7 ซอง ก็คือ 140 นัด หรือ 210 นัด แล้วแต่ชนิดของซองกระสุน ครับ

กระสุนที่เหลือก็แบ่งเก็บไว้ที่หน่วยจ่ายของกองร้อยและหรือหน่วยจ่ายของกองพัน ตามแต่ความเหมาะสมครับ

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ในสถานการณ์รบจริง มันอยู่ที่ว่าคุณมีปัญญาโหลดของไปได้แค่ไหนมากกว่าครับ กระสุนตามอัตรามูลฐาน 380 นัด ถ้าพูดกันตามตรง ยิงโหมด Full Auto แปบเดียวก็หมดแล้ว ขนาดผมใช้แมก 30 นัดพันเทปสลับหัวท้ายใส่สายสะพายได้ 6 ซอง บวกกับแมกติดปืนอีก นับรวมๆกันเอาไปได้ตั้ง 420-480 นัดยังแทบไม่พอยิงเลยในบางครั้ง เวลาเจอกับข้าศึกเช่นพวกขบวนการขนยาบ้าตามชายแดนไทย-พม่าพวกนี้ ยิงกันทีสิบกว่านาที บางทีเป็นชั่วโมง สาดกระสุนทียังกับสาดน้ำสงกรานต์ กระสุนปลิวว่อนไปหมด

ส่วนเรื่องการบรรจุกระสุนในแมกกาซีนนั้น เราจะเว้นไว้ 2 นัดจากความจุสูงสุดเพื่อป้องกันแหนบสปริงในแมกมันล้า แล้วใน 2 นัดแรกของที่บรรจุลงไป เราต้องใส่กระสุนส่องวิถี (Tracer) ไว้ เพื่อเตือนให้รู้เวลายิงว่ากระสุนจะหมดแมกแล้วครับ

ส่วนเรื่องวิทยุนั้น เรายังใช้ทั้ง PRC 77 และ PRC 25 อยู่ครับ เพราะถึงจะเก่าแต่เก๋ากว่าที่คิด ขนาดเดินมาไกลจากฐาน 20-30 กิโลเมตรยังคุยกับฐานได้ เป็นโทรศัพท์มือถือแค่ห่างฐาน 2-3 กิโลเมตรสัญญาณหายหมดแล้ว ที่สำคัญเราต้องติดต่อกับหน่วยเหนือผ่านข่ายวิทยุตลอดว่า ตอนนี้เราเดินไปถึงจุดไหนแล้ว หรือขอให้ทำการยิงปืนใหญ่หรือปืนค.สนับสนุน ส่วนโทรศัพท์มือถือห้ามใช้ครับ เพราะมันทำทหารวินัยเสีย (เคยพาทั้งกองร้อยไปช่วยกวาดลานวัดกับถางหญ้าให้วัดแถวค่าย พวกมัวแต่ยืนโทรศัพท์คุยกับแฟนมันอยู่นั้นแหละ กวาดไปคุยไป ลานกว้างแค่ 50 กว่าตารางวา มันกวาดมาตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 10 โมงก็ยังกวาดไม่เสร็จเลย ผมเลยสั่งจ่ายึดโทรศัพท์มือถือ แค่ 10 นาทีกวาดเสร็จเลย พูดแล้วเซ็งกับมันจริงๆ) ถ้าตรวจค้นเจอ มีเตะรวบยอดทั้งคนทั้งมือถือแน่นอนครับ (คิดเอาว่าถ้ากำลังซุ่มข้าศึกแล้วมือถือมันดังขึ้นมา พวกผมจะไปเหลือหรือ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณมากครับ

เรื่องวิทยุนั้นผมแค่อยากรู้ว่าทหารยังใช้รุ่นนี้อยู่หรือป่าว
ผมมาคิดเอาเองว่าทหารคนที่แบกวิทยุถ้าไม่โดนยิงตายก็โดนวิทยุทับตายเสียก่อน 555 (ผมคิดเอาเองครับ)

ผมหมดคำถามแล้วครับไม่มีอะไรจะถามแล้วครับ
(งงกับชีวิต)....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       วิทยุพวกนี้หนักแค่ไหนก็ต้องแบกไปครับ วิทยุเป็นของสำคัญพอๆกับปืนเลย คิดเอาว่าเดินเข้าป่าไป 10 กว่ากิโลแล้วคุณว.เข้าหาฐานไม่ได้ เกิดไปเจอทางแยกหรือเดินไม่เจอจุดสังเกตในพิกัดแผนที่ขึ้นมา หรือโดนข้าศึกซุ่มโจมตี แล้วติดต่อวิทยุไปที่ฐานไม่ได้ หมู่นั้นจะเดินลาดตระเวนไปต่อหรือขอการยิงสนับสนุนอาวุธหนักได้อย่างไรครับ จะพึ่งมือถือก็คงยากเพราะคงไม่มีบริษัทไหนกว่าไปตั้งเสาสัญญาณในเขตป่าแถวชายแดนแน่ๆครับ

แล้วถ้าเกิดผบ.หมู่นั้นตัดสินใจเดินต่อ แล้วเกิดพลัดหลงเข้าไปในเขตประเทศเพื่อนบ้าน เกิดมีรายการยิงกันขึ้นมา เราผิดอย่างเดียวเลยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย