คำตอบที่ 131
เมื่อไรรัฐจะจัดให้มีโครงการจัดซื้ออาวุธปืนสวัสดิการอีกหนอ จะได้ซื้อบ้าง ขอราคาถูก ๆหน่อยนะ การจัดซื้อและนำเข้าน่าจะเป็นการกระทำระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลไปเลย ราคาก็จะพิเศษไป หรือจะจัดซื้อโดยรัฐบาลไทยอาจยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลประเทศที่ขายอาวุธปืนให้ โดยเป็นการซื้อต่างตอบแทนคือเราซื้อปืนเขาแต่เราไม่จ่ายเป็นเงินสด ให้เขาซื้อสินค้าอะไรของประเทศเราแทน เช่น อาหารเกษตร,อาหารแปรรูปต่าง ๆ ฯลฯ ส่วนในการเก็บเงินการซื้อปืนก็เป็นการจ่ายเงินผ่านธนาคารหรือหน่วยงานนั้น ๆ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผมนะครับ ได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งผู้ที่ต้องการซื้อปืนสวัสดิการก็จะได้ปืนตามต้องการที่อยากซื้อ ,รัฐก็ได้เงินค่าปืนของผู้ต้องการซื้อไปใช้จ่าย (รวมทั่วประเทศก็ก้อนใหญ่ไม่ใช่เล่นนะ) เงินไม่รั่วไหลออกนอกประเทศเพราะเราไม่ได้จ่ายเงินสดให้กับประเทศคู่ค้า แต่เขาจะได้รับเป็นสินค้าที่เขาตกลงซื้อแลกเปลี่ยนกันไง ส่วนธุรกิจในประเทศก็ได้รับผลดีเพราะจะมียอดการสั่งซื้อจากประเทศเหล่านี้ผ่านทางรัฐบาลเราและ มั่นใจเพราะดำเนินการโดยรัฐเป็นประกันอยู่แล้ว สำหรับผมมองว่าปืนแต่ละยี่ห้อประสิทธิภาพต่างกันไม่มาก คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าประเทศไหนเขาสนใจจะมาค้าขายกับเราตามวิธีการของเรา สิ่งที่ผมมั่นใจว่าจะมีหลายประเทศเขาสนใจ เพราะเขาก็สนใจที่จะขายของเขาเช่นกัน เขาสนที่ยอดจองของเรานั่นไง อย่าลืมว่าหากเขาขายปืนให้เราคิดเป็นเงินไทย กระบอกละ 30,000 บาท แล้วทั้งประเทศมียอดจองสินค้าเขาสัก 1,000 หรือ 10,000 กระบอก หรือมากกว่านั้น รวมมูลค่าเงินจะได้สักกี่บาท ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่เชียวนะ
ให้มันรู้ไปสิว่าจะไม่มีประเทศไหนเขาสนใจมาเสนอราคาขายให้เรา มีแต่จะรีบวิ่งมาเสนอกันจ้าละหวั่น ก็ในเมื่อในโลกนี้ไม่ได้มีประเทศหนึ่งประเทศใดที่จะผลิตปืนได้ประเทศเดียวซะเมื่อไร ทุกประเทศที่เขาผลิตปืนได้เขาก็ต้องการขายสินค้าประเทศเขาอยู่แล้ว ไม่ว่า รัสเซีย ,เชค,จีน,ออสเตรีย,อิสราเอล,สเปน,ฯลฯ ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐ
คราวนี้มันก็อยู่ที่ราคาและคุณภาพประสิทธิภาพของสินค้า ความสามารถพิเศษที่เหนือกว่าสินค้าเดียวกัน ที่เขาเสนอมาให้รัฐบาลเราพิจารณา 
ไม่เห็นมีปัญหาเลย ที่ทำงานจองกันไว้ได้ไปหลายกระบอกแล้ว ทั้ง Glock และ CZ ก็ได้นี่ (น่าจะเป็นที่ตัวบุคคลมั้ง 
?????? )
