คำตอบที่ 1
       ถามสั้น แต่จะตอบเล่นเหนื่อยน๊ะเนี่ย..... สำหรับ ZJ ที่ได้มาใหม่นั้นควรดูแลอย่างมาตรฐานหน่อยครับ

1. เฟืองท้าย หน้า-หลัง ชอบเห่าหอนได้ง่ายครับ อาจจะเป็นเพราะการที่เป็นรถที่ใช้ Full Time ทำให้การสึกหรอกมากกว่าพวก XJ ที่สามารถเลือกขับ 2 หรือ 4 ล้อก็ได้ครับ

- จัดการเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย เน้นที่ขวดบอกว่า For Limited Slip ครับ ถ้าจำไม่ผิดมียี่ห้อ Penzoil - Valvoline ใช้เกรด 75-90 ครับ....ทั่วไปเปลี่ยนทุก 20000 ก.ม. ครับ

2. น้ำมันเกียร์ออโต้ สำหรับ ZJ WJ นี่ต้องใช้เกรด ATF+4 ครับ ....เปลี่ยนทุก 20000 ก.ม. ดีกว่าครับ บางทีหลังจากเที่ยวออกทริปขึ้นเขาชัน ๆ ยาว ๆ น้ำมันเกียร์ร้อน เกียร์ทำงานหนัก....นี่ผมเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งครับ ใช้แค่ไม่กี่ลิตรเท่านั้นชัวร์ดี

- มีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ Mopar Citgo Valvoline เกรด ATF+4 สะดวกยี่ห้อไหนใช้ยี่ห้อนั้นครับ

3. น้ำมันเพาเวอร์ สังเกตุดู ถ้าสีออกน้ำตาลใหม้แล้วจัดการเปลี่ยนใหม่ทั้งระบบเลยครับ

-ตามมาตรฐานก็ Mopar สำหรับ Power โดยเฉพาะครับ...แต่ถ้าหาไม่ได้อาจจะใช้น้ำมันเกียร์ออโต้แทนก็ได้ ....แต่...เค้าเล่าว่า (เค้าไหนก็ไม่รู้ เพราะผมก็ใช้อย่างนี้ตลอด) ว่าถ้าไม่ใช้ Mopar แล้วจะทำให้ซีลรั่วเร็ว

4. น้ำมันเกียร์ทรานส์เฟอร์ บางคนก็เรียกเกียร์ฝาก หรือบางคนก็อาจจะเรียกเกียร์ Slow แต่บางคนก็อาจจะเรียกเกียร์ 4x4 ....แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี่คือตัวเดียวกันล่ะครับ แล้วแต่ใครจะถนัดปากเรียกอย่างไหน

- นี่เปลี่ยนทุก 20000 ก.ม. ครับ ก็ใช้น้ำมันเกียร์ออโต้นั่นแหล่ะ ประมาณลิตรครึ่ง หรือว่า 2 ควอร์ทก็พอ

5. ใส้กรองน้ำมันเครื่อง เทียบได้กับ TOYOTA D4D เลยครับหาไม่อยาก ....ส่วนใส้กรองอากาศ ก็มีของเทียบยี่ห้อ Full ครับ ราคาประมาณ 250 +- ครับ

รถซื้อมาใหม่ ๆ สังเกตุสภาพปั๊มน้ำดูครับ ถ้ามีรอยคราบรั่วซึมล่ะก็เปลี่ยนใหม่เลยครับ ไม่ต้องรอให้พังก่อนแล้วค่อยซ่อม....ถ้ามีโอกาสรื้อแล้วก็จัดการเปลี่ยนวาล์วน้ำรูใหญ่ 82C ซะเลยจะได้เปิดเร็วขึ้นหน่อย ของเดิมกว่าจะเปิดก็ 92-95c เลยอ่ะ

สังเกตุสภาพระบบหล่อเย็นครับ โดยการเปิดฝาถังพักน้ำ หรือฝาหม้อน้ำดู (ตอนเครื่องยนต์เย็นล่ะ) ...ถ้าเห็นคราบสนิมเกรอะกรัง ก็จัดการล้างหม้อน้ำ และระบบทางเดินน้ำก่อนดีกว่า เพราะ Jeep กับปัญหาความร้อนนี้ ต้องเจอกันทุกคนครับ

มีโอกาสหาทางเพิ่มออยล์คูลเลอร์เกียร์ออโต้ครับ ใช้ของ Misubishi Delica แจ่ม ๆ ให้มันออกมารับลม อย่าให้น้ำมันเกียร์ไปผ่านหม้อน้ำ อันนั้นเค้าทำไว้สำหรับเมืองหนาวง่ะ....ช่วยถนอมเกียร์ออโต้ไม่ให้พังเร็วดี

สายพานตรวจสอบไม่ยากครับ เห็นแตกร้าวก็จัดการเปลี่ยนใหม่ซะ

ลูกปืนลูกรอก ให้ช่างเช็คทุกตัวเลยครับ ถ้าเสียงดังเตือนแล้ว ก็จัดการเปลี่ยนใหม่ซะ....ลูกรอกเกลี้ยงนี่เปลี่ยนเฉพาะลูกปืนเบอร์ 6203 ได้ตลับละประมาณ 100 +- ....ส่วนลูกรอกร่องนี่ต้องเปลี่ยนทั้งตัวครับ ไม่งั้นต้องเอาไปโมดิฟายปาดของออกแล้วก็เปลี่ยนเฉพาะลูกปืนก็ได้ (ถ้ามีเวลาทำ)

ทีเด็ดเลยก็ต้องนี่เลยครับ....พูลเลย์แครงค์ชาร์ฟท ก้มลงมองดู เอาไฟฉายส่อง ถ้าเห็นขอบยางแตกร้าวล่ะก็จัดการเปลี่ยนใหม่....จะเปลี่ยนแบบตีปลอกเหล็กลงไป ราคาประหยัด หรือ เอาแบบเดิม ๆ ก็แล้วแต่จะเลือกเสพเอาครับ

ทั้งหลายทั้งปวงนี้เป็นปัญหา ที่ถาม ๆ ตอบ ๆ กันบ่อยมาก ....ผมบอกคร่าว ๆ เอาไว้ แล้วว่าง ๆ หาทาง searh ดูครับ รับรองว่ามีทุกเรื่องครับ

ขอให้มีความสุขกับรถใหม่น๊ะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณคุณป้อมมากๆครับ แล้วเหมือนจะเคยเห็นคุณป้อมแนะนำร้านบริการแถวเกษตร์นวมินทร์ไม่ทราบว่ายังอยู่รึเปล่าครับ หรือปั้มรับเปลี่ยนแถวรามอืนทรา พอจะมีแนะนำให้มั้ยครับ
ขอบคุณอีกครั้งในความมีน้ำใจครับ สุดยอดแฟนจิ้ปพันธ์แท้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       หลายอย่างสามารถทำเองได้ครับ หรือไม่สะดวกก็ให้ช่างตามอู่ทั่วไปทำก็ได้ครับ แต่เราต้องรู้เสป็คการเปลี่ยนให้แน่ก่อน เพราะช่างตามอู่รถทั่วไปเค้าไม่รู้หรอกครับ...หรือจะเพื่อนสมาชิกตรวจสอบ ช่วยทำให้ก็ได้ครับ อย่างคุณต้น คุณSkk นี่ก็ฝีมือดีครับ ต้องนัดเค้าก่อนว่าว่างรึเปล่า เพราะเค้าไม่ได้เปิดอู่อย่างเป็นทางการ....แต่ ....ถ้าให้อู่ Jeep ทำนี่ก็ดีที่สุดครับ บอกให้เค้าเช็คจุดต่าง ๆ ให้ด้วย เจออะไรไม่ดีให้แจ้งเราก่อนทำการซ่อมอย่างนี้ดีที่สุดครับ...ส่วนตัวผมแนะนำน้าหนวด M Pat ครับ 081-510-2120....ไหน ๆ ก็จะ Reset แล้วให้เค้า อัดจารบีให้ทั้งคันเลย พร้อมเช็คความแรงพัดลม และตั้งเบรกหลังให้ด้วยครับ...เรียกว่าดูละเอียดให้ทุกจุด แล้วให้ช่างเค้าแจ้งมาว่า จำเป็นต้องรีบซ่อม หรือเปลี่ยนรึเปล่า ราคาเท่าไหร่ เรารับได้มั๊ย แล้วค่อยตัดสินใจครับ ช่างเค้าจะประเมินสถานะให้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ขอบคุณอีกครั้งครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย