คำตอบที่ 1
       O2 Sensor ถ้าใน Jeep XJ
ECU ไม่ค่อยเลือกซักเท่าไหร่
ใช้ O2 ชนิดที่ Volt ออกมา 0-1 Volt เป็นใช้ได้

ใช้ของ TOYOTA ที่เป็นแบบ 4 เส้นจับสายให้ตรงกัน
สายใดเป็นสัญญาณ + /- ก้อต่อกลับให้ตรงกัน
สาย Heater ไม่มี +/- ต่อสลับได้ ไม่มีผล Heater ทำงานได้ปกติ

แต่ซื้อของเซียงกง
ก้อเสี่ยงหน่อย เจอถอดจากคันที่อายุใช้งานมาก
มาถึงเรา ใช้งานได้แป่บเดียว เสื่อม

เสื่อม คืออ่านค่าได้ช้า
ศัพท์แสงทางด้านเทคนิคว่า
Response Time มันมาก อึดอาด ยืดยาด
คือมันตอบสนองช้า อ่านค่าได้ช้า
เพราะ Zirconia Oxzide ที่เป็นหัวใจหลักๆ ของการวัดค่า === https://en.wikipedia.org/wiki/Oxygen_sensor

มันผ่านศึกมาเยอะ ภาษาบ้านๆ เราว่า
มันกร้านโลก

มันไม่เหมือนของสดๆซิงๆ ที่ไวต่อความรู้สึก แตะโดนปั๊บ มีปฏิกิริยา ตอบสนองทันทีทันใด

พอมันเพี้ยนๆ ตอบสนองช้า
มันจะมีผลต่อการตอบสนองของเครื่องยนต์ ต่อความสิ้นเปลือง
บทสรุปของมันคือ มีผลต่อการขับขี่

มีผลต่อเครื่องยนต์ ยังงัย????

มันมีผลทำให้สมรรถนะ หรือการทำงานเครื่องยนต์ ด้อยลง

รถจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น

เพราะ O2 มันมีผลต่อการควบคุมการจ่ายเชื้อเพลิง

เช่น
ขณะที่เครื่องยนต์ต้องการลดส่วนผสมเชื้อเพลิงให้บางลง เพราะขณะนี้ชงหนา บาดคอ

แต่ O2 เพิ่งจะตอบสนองและส่งค่าออกมาว่า ส่วนผสมบาง ===> ECU จะสั่งเพิ่มการจ่ายเชื้อเพลิงให้มากขึ้น ===> สิ้นเปลือง ไม่ถูกกาล เทศะ

ในทำนองกลับกัน
ขณะที่เครื่องยนต์ต้องการเพิ่มส่วนผสมเชื้อเพลิงให้หนาขึ้น (ณ เสี้ยววินาทีนั้น แอร์ต่อ ลมพัดปะทะหน้ารถ ตกหลุม เจอทราย ฯลฯ)
แต่ O2 เพิ่งจะตอบสนองและส่งค่าออกมาว่า ส่วนผสมหนา ===> ECU จะสั่งลดการเชื้อเพลิงให้น้อยลง ===> ม้าหาย แรงหด

การทำงานที่ว่านี้ ทั้งบางๆ หนาๆ มันจะสลับกันไป ด้วยความไวของเศษเสี้ยววินาที




แต่หากใน JeeP WJ V8 มันเลือก O2 มากๆ
Part No ไม่ตรง O2 พังไวมากๆ เปลี่ยนที่อู่ ขับมาดีๆ
ยังไม่ทันถึงบ้าน ขึ้น Code
เจอมา 2 ครั้ง ติดๆ พอจะสรุปเป็นบทเรียน สอนตัวเองได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ถ้าใช้ของเก่า ลองต่อดูครับ
ใช้ Sleeve ต่อสายนะครับ
สาย O2 บัดกรี ยาก แทบเป็นไปไม่ได้
และการต่อ ไม่ทน นึกถึงความร้อนท่อไอเสียด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย