WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เบอร์หัวเทียนยี่ห้อต่างๆ สำหรับ XJ,ZJ,WJ(4.0X) เท่าที่รวบรวมได้ครับ
AKE8411
จาก AKE8411
203.146.125.236
พุธที่ , 26/8/2552
เวลา : 13:38

อ่านแล้ว = 9411 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       Borsh :
- FR8HC (อันนี้ใช้อยู่ คุณสมบัติเหมาะกับรถรอบไม่จัด ใช้ วิ่งทางไม่ไกลหัวล่ะ 100)
- FR9HC (เที่ยวบ่อย วิ่งไกล ควรใช้เบอร์นี้ เพราะจะเย็นกว่า คายควาร้อนดีกว่า เหมาะกับรอบจัด วิ่งทางยาว)
- FR9HD
- Super 4 (กำลังหาอยู่ มี 4 เขี้ยว)

NGK :
- FR5-1

Denso :
- IK16L (อันนี้เป็นแบบหัวเทียนเข็ม Iredium)
- KJ16CR-L11 (อันนี้แบบเขี้ยวธรรมดา แนะนำ)

Champion :
- RC12LYC แสตนดาร์ด พี่หยอง 60 บาท

เอามาให้เป็นทางเลือกครับ ที่เหลือก็แล้วแต่ท่านจะชอบอะไร

หัวเทียนเข็ม ไม่แนะนำ เพราะมันทำมาเพราะรถรอบจัดๆ ไฟแรง ส่วนผสมต้องค่อนข้างคงที่ ไม่เหมาะกับรถสแตนดาร็ด และรถใช้แก๊ส และแพง หัวนึง 300 กว่าบาท ถ้าเป็นแพลทตินัมก็แพงเข้าไปอีก


ผู้รู้ท่านอื่นๆ มีอะไรเพิ่มเติม ใส่กันเข้ามาครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       Champion





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 13:43   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 434994

คำตอบที่ 2
       Denso





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 13:44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 434996

คำตอบที่ 3
       หมดมุขแว้ววววว เดี๋ยวได้อะไรมาอีก จะมาเพิ่มทีหลังครับ

พี่ๆ ท่านอื่นๆ มีอะไรแนะนำ แบ่งปัน เพิ่มเติม ใส่กันมาเลยครับ ไม่ต้องยั้ง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 13:46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 434997

คำตอบที่ 4
       ถ้าไม่รู้ได้ป่าวตัวเอง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.comtu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง 112.143.8.114 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 13:49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 434998

คำตอบที่ 5
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.11.97.77 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 19:14   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435087

คำตอบที่ 6
       เพิ่มเติม

- หัวเทียนร้อน เบอร์ต่ำกว่า7ลงมาจนถึงเบอร์2 หัวเทียนร้อนจะมีระยะทางห่างจากเขี้ยวหัวเทียนถึงปลายล่างฉนาวยาว ทำให้การระบายความร้อนนาน ความร้อนสะสมตัวอยุ่ได้นาน
เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยความเร็วต่ำๆหรือมีช่วงการทำงานสั้นๆ เครื่องยนต์จึงร้อนถึงอุรหภูมิทำงานเร็ว

- หัวเทียนเบอร์มาตราฐาน เบอร์กลางวๆประมาณเบอร์6-7 เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยความร็วระดับปานกลาง

- หัวเทียนเย็น เบอร์7ขึ้นไปถึงเบอร์13 หัวเทียนร้อนจะมีระยะทางห่างจากเขี้ยวหัวเทียนถึงปลายล่างฉนาวสั้น ทำให้การระบายความร้อนเร็ว เครื่องยนต์ไม่ร้อนมากจนเกินไป เหมาะสำหรับรถที่เดินทางไกลหรือทำงานด้วยความเร็วสูง / การแข่งขัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 124.120.246.219 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 22:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435162

คำตอบที่ 7
       จะเกิดอะไรขึ้นกับการใช้หัวเทียน ไม่ตรงกับลักษณะการใช้งาน ?

- หัวเทียนร้อน แต่เอาไปใช้กับเครื่องยนต์ ที่ทำงานหนัก และต่อเนื่องตลอดเวลา เป็นเวลานานๆ ความร้อน จะสะสมอยู่ในหัวเทียนมาก เมื่อความร้อนเพิ่มมากขึ้น จนถึงจุดหนึ่ง ก็มีโอกาส ที่จะเกิดการชิง จุดระเบิดก่อน เครื่องยนต์อาจได้รับความเสียหาย
- หัวเทียนเย็น แต่เอาไปใช้กับเครื่องยนต์ ที่ทำงานไม่หนัก เมื่อเกิดการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ หัวเทียนเย็น จะมีความสามารถในการระบายความร้อนได้เร็ว อุณหภูมิที่เกิดขึ้นตรงหัวเทียน มีโอกาสที่จะต่ำกว่าประสิทธิภาพที่ี่ควรจะเป็น จึงอาจเกิดคราบสกปรก ที่บริเวณหัวเทียน ซึ่งเป็น สาเหตุให้กระแสไฟวิ่งผ่านลำบาก เครื่องยนต์อาจวิ่งสะดุดได้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 124.120.246.219 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 22:51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435166

คำตอบที่ 8
       การสังเกตสีและลักษณะของหัวเทียน

- มีสภาพสีดำแห้ง สามารถเช็ดออกได้ง่าย แสดงว่าส่วนผสมหนา
- มีสภาพน้ำมันเครื่องเปียก แสดงว่าลูกสูบ กระบอกสูบ แหวนลูกสูบสึกหรอ
- มีสภาพไหม้กร่อน แสดงว่าเครื่องยนต์ทำงานที่อุณหภูมิสูงเกินไป อาจใช้หัวเทียนผิดเบอร์
- มีสภาพสีขาวจับหรือสีเหลืองจับ แสดงว่าไฟอ่อนเปลี่ยนหัวเทียนให้ร้อนขึ้น






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 124.120.246.219 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 22:52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435168

คำตอบที่ 9
       อีกหน่อย

ข้อเท็จจริงบางประการเกี่ยวกับหัวเทียนที่ควรรู้

1.หัวเทียนไม่สามารถทำให้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นได้ แต่สามารถทำให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงได้ หากใช้หัวเทียนผิดประเภท

2.ยี่ห้อของหัวเทียนไม่มีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ เพราะเครื่องยนต์ไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ว่าหัวเทียนที่ใส่นั้นเป็นยี่ห้ออะไร หัวเทียนต่างยี่ห้อ แต่ถ้ามีเกรดเดียวกัน เป็นหัวเทียนประเภทเดียวกัน กำลังที่ได้จากเครื่องยนต์ก็จะเท่ากัน

3.หัวเทียนที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น แพลตทินั่ม (Platinum) หรือ อีรีเดียม (Iridium) จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะสามารถให้ช่องว่างระหว่างเขี้ยวหัวเทียนและแกนกลางมากกว่า สามาถช่วยลดปัญหาหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากส่วนผสมหนา แต่ไม่ได้ทำให้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้น4.การออกแบบรูปทรงของหัวเทียน ไม่ได้ช่วยให้การเผาไหม้ดีขึ้น การเผาไหม้จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนผสม ลักษณะของห้องเผาไหม้ การเคลื่อนที่หรือการหมุนเวียนของเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้

ง่วงงงงงง แว้ววว





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 124.120.246.219 พุธ, 26/8/2552 เวลา : 23:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435173

คำตอบที่ 10
       อืม ข้อมูลแน่น ไม่ธรรมดาเลยจริงๆไอ้น้องเอก





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

MrTon จาก MrTonJeepDang 110.164.7.50 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 06:03   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435204

คำตอบที่ 11
       เอาไปเพิ่มอีกซักยี่ห้อเนอะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

MrTon จาก MrTonJeepDang 110.164.7.50 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 09:44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435252

คำตอบที่ 12
       ขอ BOSCH นะครับลืมบอกไป ไหนๆก็ไหนๆแล้วเอาขอต่อพ่วงไปด้วย
แนะนำให้เปลี่ยนสายหัวเทียนที่มีความเสียหาย หรือทำงานผิดปกติเพื่อ :

ทำให้รถยนต์มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม

ป้องกันการกินน้ำมันเพิ่มขึ้น

ป้องกันการรบกวนจากคลื่นวิทยุ

ปกป้องแคททาไลติค คอนเวอร์เตอร์จากความเสียหาย

ป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วเพื่อปกป้องระบบอิเลคโทรนิคภายในรถยนต์

สาเหตุที่ทำให้สายหัวเทียนมีความผิดปกติ

กินน้ำมันมากขึ้น

ทำให้ระบบแคททาไลติค คอนเวอร์เตอร์ เกิดความเสียหาย (น้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดจะเข้าไปเผาไหม้ใน แคททาไลติค คอนเวอร์เตอร์)

สมรรณะของเครื่องยนต์ลดลง

กระแสไฟฟ้ารั่ว

รบกวนการทำงานของวงจรไฟฟ้าของการจุดระเบิด

รบกวนเคลื่อนวิทยุ

เครื่องยนต์มีการจุดระเบิดผิดพลาด

เกิดไอเสียมากขึ้น

รบกวนการทำงานของระบบอิเลคโทรนิคในเครื่องยนต์




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

MrTon จาก MrTonJeepDang 110.164.7.50 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 09:52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435254

คำตอบที่ 13
       ว่าแต่ว่าอย่าลืมดูคอยล์และฝากะลากับหัวนกกระจอกกันด้วยนะครับ เดี๋ยวจะปลาตายน้ำตื้นกันเป็นเบืออีกอิอิอิ....





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

MrTon จาก MrTonJeepDang 110.164.7.50 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 09:57   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435259

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณครับอาจารย์ต้น จีพแดง แถมแรงอีกต่างหาก

ไม่ได้เก่ง
แต่ขวนขวาย
ได้อะไรมา ก็แบ่งกัน
เก็บไว้คนเดียว ไม่มีประโยชน์ครับ


อัพไว้ให้อ่านๆ กัน เก็บข้อมูลไว้เป็นความรู้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 10:27   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435268

คำตอบที่ 15
       อ้ายต้นมาเห็ดยังอยู่นี่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.comtu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง 112.143.11.56 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 10:31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435269

คำตอบที่ 16
       และมันยังแอบกัดเราด้วยนะ ไอ้บ้าเอ้ย
ก็พี่เล่นไฟช๊อกจะไม่ตายได๋จะได 555



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.comtu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง 112.143.11.56 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 10:34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435270

คำตอบที่ 17
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

MrTon จาก MrTonJeepDang 110.164.7.50 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 10:48   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435274

คำตอบที่ 18
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kob_zaa จาก kob_zaa 58.8.169.132 พฤหัสบดี, 27/8/2552 เวลา : 12:38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435306

คำตอบที่ 19
       ขออัพทีนึง จะได้อ่านกันเยอะๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 ศุกร์, 28/8/2552 เวลา : 09:12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435552

คำตอบที่ 20
       ขอบคุณมากคับ คุณเอก สงสัยเป็นเด็กซิ่งรถมาก่อนแน่เลย ข้อมูลเพียบ

ถึงนายต้นแดงวันหลังขอลองกล่องแดงๆๆที่ติดมาหน่อยนะ อยากรู้ว่าแรงหรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

meeza จาก meeza 58.10.87.2 ศุกร์, 28/8/2552 เวลา : 09:44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 435573

คำตอบที่ 21
       จำเป็นหรือเปล่าที่รถใช้แก๊ส ต้องใช้หัวเทียนเข็ม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จ่ายา จาก จ่ายักษ์ 117.47.229.251 พุธ, 2/9/2552 เวลา : 21:12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 437155

คำตอบที่ 22
       อัพๆๆๆ ข้อมูลเอาไว้อ่าน

หัวเทียนเข็ม หรือแพลทตินัม โดยประสบการ์ส่วนตัวที่ใช้มาทั้งรถยนต์ แล้วก็ SuperBike เหมาะกัยรถรอบจัดจิงๆ ปรับแต่งระบบไฟ แล้วส่วนผสมก็ต้องคอ่นข้างที่จะคงที่ ถึงจะเห็นผลครับ

ก่อนหน้านี้เสียหัวเทียนเข็มไปเยอะมาก ในช่วงจูนเครื่อง ตั้งส่วนผสมอากาศ น้ำมัน เพราะพอส่วนผสมยังไม่นิ่ง ซักพักก็บอร์ด

ถ้ามีการสำลักน้ำมัน หรือจูนไว้หนาหน่อยเพื่อเล่นรอบสูง ให้ปลายมา หัวเทียนเข็มก็จะไปได้ง่ายๆ เลย เพราะรอบต่ำน้ำมันเยอะ

หัวเทียนเข็ม น้ำมันท่วมแล้ว บอร์ดเลย หัวเทียนเขี้ยวธรรมดา เขม่าจับยังถอดล้าง ใช้ได้ต่อ หรือถ้ารถเดินไม่ครบสูบหัวเทียนเข็มไปแล้วไปเลยครับ ส่วนธรรมดา ถ้าสภาพหัวเทียนไม่สาหัสมาก พอเครื่องร้อนเดี๋ยวก็มา ใจมันสู้กว่าเยอะครับ

สุดท้ายก็มาตายที่หัวเทียนเขี้ยวธรรมดา แต่เลือกดีๆ หน่อย จาก NGK เขี้ยวเดียว ก็ไปหา 2-3 เขี้ยวมาใช้ ตอนนี้ใช้ Bosch Super แต่ก็กำลังมองหา Super 4 ซึ่งมี 4 เขี้ยวครับ

ส่วนตัวผม รถใช้แก๊สไม่จำเป็นกับหัวเทียนเข็มครับ แค่หาเบอร์เป็นแบบหัวเทียนเย็นขึ้นมาหน่อย ระบายความร้อนเร็วๆ น่าจะพอครับ เพราะแก๊สมันร้อนกว่าน้ำมัน

ที่เหลือรอกูรูท่านอื่นมาต่อครับ ความเข้าใจของผมอาจจะไม่ถูกก็ได้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 ศุกร์, 4/9/2552 เวลา : 09:41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 437577

คำตอบที่ 23
       เลือกหัวเทียนอย่างไร? ถึงจะเข้ากับรถคุณ!!

เริ่มแรกขอเริ่มที่เบอร์หัวเทียนกันก่อนนะครับ หัวเทียนในแต่ละยี่ห้อนั้น มันบอกเบอร์ไม่ได้ ( เพราะมันไม่มีปาก ! ) ตัวเลขแต่ละแบรนด์ก็ไม่เหมือนกัน ถ้าจะเทียบกันจริง ๆ คงต้องใช้ตารางเทียบว่าแบรนด์นี้ เบอร์นี้ ตรงกับรุ่นอะไร ถึงจะชัวร์ และอย่างที่ใช้กันประจำ ๆ พูดกันติดปากก็ไม่พ้น " NGK " หัวเทียนทั่ว ๆ ไปที่เรียกว่า หัวเทียนร้อน จะเป็นเบอร์ต่ำเสมอ ส่วนหัวเทียนเย็นจะเป็นเบอร์สูง ว่าแต่....ร้อนกับเย็นมันต่างกันยังไง เดี๋ยวจะอภิปรายให้ฟัง...

หัวเทียนร้อน

" หัวเทียนร้อนเนี่ย....ตัวมันเองจะระบายความร้อนออกได้ช้า " เมื่อเราใช้งานจริง ในห้องเผาไหม้มันมีความร้อนจากการจุดระเบิด เมื่อหัวเทียนรับความร้อนนั้นมา จะส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมที่หัวเทียนอยู่อย่างนั้น

หัวเทียนเย็น

" หัวเทียนเย็นก็คือ...ตัวมันสามารถถ่ายเทความร้อนออกไปได้เร็วกว่าหัวเทียนร้อน " แต่ใช่ว่าจะมันจะหายร้อนเลยนะ อย่างนั้นไม่ใช่ จริง ๆ แล้ว หัวเทียนจะมีความร้อนสะสมอยู่ระดับนึงเพื่อให้แห้งตลอดเวลา เป็นทั้งหัวเทียนร้อนและหัวเทียนเย็น เพียงแต่ว่าหัวเทียนเย็นจะถ่ายเทความร้อนได้เร็วกว่าเท่านั้นเอง มันก็เหมือนกับเหล็กเผาไฟนั่นแหละ เมื่อโดนน้ำมันก็จะดัง " ฟู่ " ควันฉุยแล้วก็หายไป แต่เหล็กนั้นก็ยังร้อนอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเงื่อนไขมันเป็นอย่างนี้นะ " ไอดี " มันเป็น " ความชื้น " เมื่อความชื้นพ่นมาโดนอะไรสักอย่าง มันก็จะทำให้ของชิ้นนั้นเปียก ดังนั้นถ้าเราเปรียบของชิ้นนั้นเป็นหัวเทียน ถ้ามันเปียก ก็จะส่งผลให้ " หัวเทียนบอด " ผมลองยกตัวอย่างให้ดูนะ รถที่วิ่งใช้งานในเมืองทุกวัน วิ่งช้าตลอดเวลา คลานกระดึ๊บๆไปเรื่อย " ชิว ชิว " รถจำพวกนี้อุณหภูมิในห้องเผาไหม้จะต่ำมากเลย ซึ่งถ้าในสถานการณ์นี้ควรเลือกใช้ " หัวเทียนร้อน " เพราะว่าเราต้องการระบายความร้อนช้าๆ เพื่อเก็บความร้อนสะสมไว้ ไม่ให้ " หัวเทียนบอด... ! " ไงจ๊ะ กลับกัน ถ้าเป็นรถที่ใช้ความเร็วสูงมาก ๆ ถ้าเราใช้หัวเทียนร้อน มันจะทำให้ระบายความร้อนไม่ทัน อาจสร้างความ " ชิ...หาย " ได้ ต่าง ๆ นานา เช่น หัวเทียนละลาย กระเบื้องแตก และ เกิดอาการชิงจุด ก็เป็นได้ " คือว่าหัวเทียนมันร้อนเกินไป มันก็เหมือนโละหะเผาไฟร้อนแดง เมื่อมีไอดีเข้ามา มันเป็นเชื้อเพลิงพร้อมที่จะจุดระเบิด พอมากระทบตัวหัวเทียนปุ๊บ ซึ่งมันยังไม่ทันถึงจังหวะจุดระเบิด มันก็จุดระเบิดทันทีจากความร้อนสะสมของหัวเทียน " ซึ่งรถที่ใช้ความเร็วตลอดควรเลือกใช้ " หัวเทียนเย็น " เพื่อการระบายความร้อนจะดีกว่า แต่ว่า...มันก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานให้ถูกประเภท ( เฉพาะกิจ ) ด้วย อย่าง รถแต่งเครื่องซิ่งสุดประเทศ...! มันจะมีความร้อนสูงมากกว่าเครื่องยนต์สแตนดาร์ดทั่ว ๆ ไป และส่วนมากมักเป็นเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ ( TURBO ) ซึ่งเครื่องยนต์ประเภทนี้เป็นเครื่อง " Over Lap " มาก จุดระเบิดไม่ค่อยดีในรอบต่ำ หัวเทียนที่ใช้จึงเป็นหัวเทียนเย็นเสมอ แต่ถ้าเรานำเครื่องซิ่งวิ่งผิดที่ ( ในเมือง ) อันนี้ก็ต้องจบข่าว " ผิดแผน " กันไป เพราะเครื่องประเภทนี้มันต้อง " เหนี่ยว " อย่างเดียว แต่ถ้ามาวิ่งผิดที่ รับรองวิ่งไม่ได้เลย เพราะเครื่องซิ่งเหล่านี้ ส่วนมากรอบต่ำมันวิ่ง " สับปะรดหมาไม่แด...กอยู่แล้ว " ยิ่งเจอรถติดในเมืองอีก รับรองแม่เจ้า....ไม่รอด " บอดสนิท " ทุกราย ซึ่งถ้าจะมาใช้ในเมืองจริง ๆ คงต้องเปลี่ยนเป็นหัวเทียนร้อนแทน แต่ถ้าดันทุรังมีหวัง " หลับ " ทุกราย

RECYCLE สนองนโยบายรัฐ

หัวเทียนที่บอดส่วนมากก็จะลงถัง แต่จริง ๆ แล้ว หัวเทียนเหล่านั้นยังใช้งานได้อยู่ เพราะที่หัวเทียนบอดมันเกิดจาก " คราบเขม่า " วิธี " Recycle " ไล่ตั้งแต่ " ฌาปนกิจยันล้างส้วม! " แล้วแต่สะดวกตามกำลังศรัทธา คือ ใช้ไฟลน ก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ใช้ไฟร้อนมากนะ เปลวเพลิงสีเขียว ๆ ฟ้า ๆ นั่นน่ะดี ( แต่ก็ระวังด้วยนะ....ร้อนมากไปเดี๋ยวจะโพละ..! เสียก่อน ) หรือไม่ก็ใช้วิธีล้างด้วยเบนซิน แล้วใช้แปรงสีฟันขัดให้สะอาด ใส่แล้วพอวิ่งได้ แล้วนำไปใส่รถสแตนดาร์ด ลองออกไป " เหนี่ยว " สัก 1-2 รอบ กลับมาแล้วอย่าปล่อยเดินเบานะ ดับเครื่องแล้วถอดมาดูรับรอง " เนื้อตัวดี " ขาวนวลชวนสยิวเลย จุ๊กกรู จุ๊กกรู... ( อ๋อ...มันร้อนนะระวังด้วย ) ตบท้ายด้วยวิธี " นังแจ๋ว " กับ " วิกซอล " คู่ชีพ เพียงจุ่มแค่ปลาย ก็โอ...แล้ว เตือนอย่างนึงนะ อย่างทะลึ่งใช้ " กระดาษทราย " หรือ " ปั่นลวดบนเครื่องเจียร์ " นะครับ " เสียของ " และก็ " ของเสีย " ด้วยครับ...ทีนี้เรามาสังเกตหัวเทียนที่บอดกันดีกว่า ปกติแล้วไฟมันจะโดดจากแกนหัวเทียนไปหาเขี้ยวหัวเทียน แต่พวกหัวเทียนที่บอด มันจะไม่เป็นอย่างนั้นนะดิ มันจะโดดออกข้าง ๆ ไม่ไปหาเขี้ยวหัวเทียน ซึ่งมันก็สั่งจุดระเบิดไม่ได้ อาการแบบนี้ทำความสะอาดก็หายแล้ว...ระบบ " ไฟฟ้า " มันก็เหมือน " น้ำ " นั่นแหละครับ มันจะไหลไปตามจุดต่าง ๆ ที่มันไหลง่าย ดังนั้นเมื่อหัวเทียนบอด สกปรกจากคราบเขม่า แทนที่ไฟจะโดดจากแกนหัวเทียนไปหาเขี้ยวหัวเทียน แต่เขี้ยวมันมีเขม่าจับอยู่ มันก็โดดออกข้าง ๆ ไปตามที่มันสะดวก ไปตามที่ชอบ ที่ชอบ

วิวัฒนาการแกนหัวเทียน

ในปีลึก ๆ ที่ผ่านมา แกนหัวเทียนจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ถ้าเป็นพวก " แพลทตินัม " ก็จะมีลักษณะสามเหลี่ยมคล้ายยอด " พีระมิด " ซึ่งแกนเนี่ยสำคัญ มันเป็นตัวปล่อยให้กระแสไฟไหลผ่าน ยิ่งปลายยอดแกนยิ่งเล็กก็ยิ่งดี ซึ่งมันมีที่มาที่ไปคือ ในห้องเผาไหม้มันมีกำลังอัดสูง ไฟฟ้ามันจะโดดยากบนเงื่อนไขที่มีแรงดันสูง แต่ที่เราเห็นตามร้านประดับยนต์ทั่วไป กับชุด " Display " ที่โชว์กระแสไฟแรงๆ นั่นน่ะ ซึ่งถ้ามันอยู่บนเงื่อนไขสถานการณ์จริง ๆ ในห้องเผาไหม้แล้ว มันแทบจะไม่ยิงให้เห็นเลย ยิ่งเครื่องบูสต์หนักๆ นั้น แทบจะไม่ออกเลย ดังนั้นหัวเทียนรุ่นใหม่ ๆ ผู้ผลิตจึงเน้นผลิตแกนให้เล็กลง เพื่อให้กระแสไฟมาไหลมาอยู่ที่ปลายแกนแบบเข้ม ๆ แล้วค่อยยิงออกไป ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่เป็นแกนเบ้อเริ่ม ก็เพราะว่าโลหะสมัยก่อนมันยังพัฒนาไม่เต็มที่เหมือนปัจจุบัน ถ้าทำแกนหัวเทียนออกมาเล็ก ๆ แล้ว ส่วนมากมักทนความร้อนไม่ไหว ก็จะละลายในที่สุด ยุคปัจจุบันคำว่า " แพลทตินัม " เริ่มบางหูลง เพราะอิทธิพลของ " อิริเดียม " เข้ามายืนแป้นแทน เนื่องจากจุดหลอมเหลวหรือจุดสึกหรอจาการสปาร์คมันแทบจะไม่มี ดังนั้น " อิริเดียม " มันจึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน

เขี้ยวหัวเทียน

ก็ว่ากันเรื่องแกนกันไปแล้ว แถมเรื่องของเขี้ยวหัวเทียนกันต่อเลย เขี้ยวหัวเทียนมันก็จะมีขนาดใหญ่ ๆ เป็นตัว U บ้าง ตัว V บ้าง สารพัดเลย และบางรุ่นก็ใจปล้ำคือ " ไม่มีเขี้ยว..!! " แต่สุดท้ายเนี่ยก็คือ " ยิ่งเขี้ยวใหญ่ก็ยิ่งขวางทาง " อันนี้เป็นทริคเล็กๆนะ ขณะที่เราขันหัวเทียน ควรให้ฝั่งที่เป็นขาของเขี้ยวหันไปด้านฝั่งไอเสีย ส่วนด้านฝั่งที่เปิดอยู่ก็หันไปหาไอดีเสมอ ซึ่งจุดนี้มันสร้าง " เพาเวอร์ " ให้กับรถอีกนิดหน่อยเลยล่ะ สาเหตุมาจาก มวลไอดีมันจะเข้มมากในห้องเผาไหม้ทางฝั่งไอดี พอหัวเทียนสั่งจุดระเบิด มันจะจุดฝั่งที่มีไอดีเข้มและขยายตัวไปจนเต็มห้องเผาไหม้ มันจะเป็นการเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่า

อายุการใช้งาน

สำหรับอายุการใช้งานมันไม่ตายตัว ส่วนมากมันไม่ค่อยสึก เว้นแต่พวก " ไฟแรงทรงเครื่อง " นั่นแหละ ใส่ออปชั่นเสริม MSD ประมาณนี้ ก็อาจจะมีสึกบ้าง ซึ่งถ้าจะให้ชัวร์จริง ๆ ก็ควรตรวจสอบทุกๆ 10,000 กิโลเมตร น่าจะดีกว่า

สายหัวเทียนควรจัดเก็บเป็นที่...ไม่งั้นเศร้า

สายหัวเทียนกับชุด CDI หรือพวกหัวฉีดเนี่ย ในรถแข่งก็จะเป็นลักษณะคอยล์แยก สายหัวเทียนมันก็จะพาดผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งลักษณะนี้มันสร้าง " ปาฏิหาริย์ " มาแล้ว คือ " วิ่งแล้วสะดุด " แล้วหาต้นสายไม่เจอสักที ทำมาแล้วทุกอย่างก็ดีหมด แต่ก็ไม่หาย ในที่สุดตรวจเช็คเรื่องของระบบจุดระเบิดอีกครั้งจึงรู้ว่า สายหัวเทียนซิ่งที่มีค่าความต้านทานต่ำ ๆ จำพวกไฟแรงมาก ๆ มันไปพาดผ่าน CDI กับ หัวฉีดนะสิ เกิดคลื่นสนามแม่เหล็กรบกวนเพียบทำให้เพี้ยนไปหมด ดังนั้น เราควรจะให้เป็นระเบียบ อย่าให้มันยุ่ง เพื่อความสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาอาการแก้ไม่ตกอีกด้วย…

http://www.benzunity.com/forum/index.php?PHPSESSID=3ed988e8df451cfef77782a14b17a6e3&topic=6134.msg31289#msg31289






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pnu จาก pnu 118.172.253.207 อาทิตย์, 6/9/2552 เวลา : 22:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 438042

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,27 เมษายน 2567 (Online 6444 คน)