WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เทคนิค : การใช้เกียร์ออโต้ เพื่อยืดอายุการใช้งาน ควรปฏิบัติดังนี้
mop
จาก mop
58.8.154.138
พุธที่ , 9/9/2552
เวลา : 19:49

อ่านแล้ว = 10672 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       1. หากจอดติดไฟแดงไม่เกิน 3 นาที ไม่ต้องเลื่อนลงตำแหน่ง N แต่ให้เหยียบเบรคไว้ที่ตำแหน่ง D วิธีนี้จะช่วยยืดอายุชุดเฟืองขับในเกียร์ แม้น้ำมันเกียร์จะร้อนขึ้นแต่น้ำมันเกียร์ถูกพัฒนาให้ทนความร้อนสูงได้ดีจึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด

2. หากจอดรถติดไฟแดงเกิน 3 นาที ให้เข้า N และดึงเบรคมือ ไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรคค้างไว้ เพื่อไม่ให้น้ำมันเบรคร้อนโดยไม่จำเป็น

3. ทันทีที่เข้าเกียร์ D ไม่ควรเหยียบคันเร่งรถออกรถในทันที รอสัก 1-2 วินาทีเพื่อให้เฟืองขับจับกับชุดคลัชต์ก่อน การออกตัวทันที่ขณะที่เฟืองไม่จับตัวกันอาจเกิดการเสียดสีกันอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเกียร์อัตโนมัติได้

4. หมั่นตรวจสีน้ำมันเกียร์โดยติดเครื่องยนต์จนอุ่น 3-5 นาที และดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์หากน้ำมันเกียร์เป็นสีทับทิมใสแสดงว่ายังใช้งานได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลข้น หรือมีกลิ่นไหม้ ได้เวลาถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่แล้วครับ

เครดิต ...volvomania.com....ขอบคุณ มา ณ. ที่นี้ด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      
เยี่ยมมากครับ....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เดชระกานอกเดชระกานอก จาก เดชระกานอก 115.67.211.48 พุธ, 9/9/2552 เวลา : 19:59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 438930

คำตอบที่ 2
       ได้เทคนิคใหม่ๆ อีกแล้ว ขอบคุณครับ แต่ถ้าได้อาชีวะด้วยน่าจะเหมาะนะ ล้อเล่ง สุดยอดครับพี่ม๊อบ ชื่อนี้ตำรวจกลัวมากเลยนะพี่ ผบ.ตร.ยังโดนเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จ่ายา จาก จ่ายักษ์ 117.47.120.31 พุธ, 9/9/2552 เวลา : 21:42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 438969

คำตอบที่ 3
       สุดยอด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกแม่ปิงลูกแม่ปิง จาก ลูกแม่ปิง 116.58.231.242 พุธ, 9/9/2552 เวลา : 21:55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 438975

คำตอบที่ 4
       การ จอดรถในทางลาดชัน ควรดึงเบรคมือก่อนใส่เกียร์ p แล้วตอนใช้รถอีกครั้งควรใส่เกียร์ n ก่อนดึงเบรคมือ ออก เพราะจะมีผลกับเกียร์ ลองทดลองดู ครับ จอดทางลาดชันแบบไม่ตอ้งใส่เบรคมือ เมื่อจะถอยออก เลื่อนเกียร์ จะเหมือนมีอะไร ขัดกับเฟื่อยงเกียร์อยู่ ดังจนน่ากลัว ลองดูครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pnu จาก pnu 118.172.241.57 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 00:49   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 438999

คำตอบที่ 5
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pat1389 จาก pat1389 112.142.60.229 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 07:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439009

คำตอบที่ 6
       ได้ความรู้แต่เช้าเรยยย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

AKE8411 จาก AKE8411 203.146.125.236 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 08:18   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439020

คำตอบที่ 7
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nat_chan จาก JeepZaa 58.10.170.192 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 08:36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439027

คำตอบที่ 8
       ขอบคุณมากๆ ครับ ทั้งสองท่าน
โดยเฉพาะการจอดรถในที่ลาดชันของ คุณ pnu



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แมวไทยแมวไทย จาก แมว 118.172.209.56 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 10:12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439048

คำตอบที่ 9
       ขอบคุณมากครับ... พี่ป้อม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

PAE JUC 1514 จาก Donald Duck 202.57.132.197 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 11:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439052

คำตอบที่ 10
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

wpinyawat จาก นายเขียวหวาน 110.164.15.67 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 12:22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439071

คำตอบที่ 11
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

phayain จาก พงศ์สวัสดิ์ juc 1948 118.172.149.120 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 13:39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439088

คำตอบที่ 12
       มีโอกาสขอปรึกษาส่วนตัวครับพี่ป้อม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เต่าดิน จาก เต่าดิน 124.122.143.15 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 20:00   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439180

คำตอบที่ 13
       ปรึกษาส่วนตัวถ้าเรื่องต้องการใช้เงินนี่ถนัดนักแลครับคุณเต่าดิน.......แต่ถ้าเรื่องทำมาหากินนี่ไม่ค่อยถนัด

เพื่อนสมาชิกตะบันหมากออฟโรด เค้ายกให้เป็น ผอ.ฝ่ายส่งเสริมการใช้เงิน แล้วครับ

ส่วนเรื่องรถนี่ก็รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แบบงู ๆ ปลา ๆ .....อะไรไม่รู้ก็ถามช่างเค้าให้ แล้วช่วยเข้ามาตอบให้เพื่อนสมาชิกครับ....ขนาดซ่อมรถเองยังไม่เคยเลยครับ แบบว่าแนว "ชี้นิ้วสั่ง" อย่างเดียว ช่างห้ามมั่วเพราะ "ตรูรู้น๊ะเฟ้ย" แต่ขี้เกียจอ่ะ....มือใหญ่ แถมหลังไม่ดีอีกต่างหาก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.8.235.117 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 20:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439184

คำตอบที่ 14
       อิอิอิ...ซ่อมไม่เป็นเหมือนกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pnu จาก pnu 118.172.249.44 พฤหัสบดี, 10/9/2552 เวลา : 21:11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439200

คำตอบที่ 15
       การดูแลรักษาเกียร์ออโต้
COPY มาจาก http://www.geocities.com/sportcompactcars/Thaia2.html


รถเก๋งนั่งในรุ่นใหม่ๆ (ไม่เกินกว่าสิบปีมานี้) ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหน้าหรือขับเคลื่อนล้อหลัง ระบบส่ง กำลัง ก็จะเป็นระบบเกียร์ออโตเมติกไปเสียเป็นส่วนมากแล้ว แต่ระบบเกียร์ธรรมดาก็ยังมีใช้อยู่กันมากมายเช่นกัน
นิยามของเกียร์ที่เรียกกันว่าอัตโนมัติทุกวันนี้ ควรที่จะถูกกำหนดเป็น "เกียร์กึ่งอัตโนมัติ" เสียมากกว่า เพราะผู้ขับขี่ยังต้อง โยกคันเกียร์ไปมาอยู่ ซึ่งหากเป็นเกียร์อัตโนมัติจริงๆ ก็ควรที่จะไม่ต้องมีคันเกียร์มาให้เกะกะยุ่งยากเลย มีแค่ผลักให้เดินหน้า หรือ ถอยหลังแบบรถที่ใช้ในสนามกอล์ฟ นั่นล่ะพอแล้ว




ถ้าจะพูดกันว่า ใน ห้องเกียร์ นั้นมีอะไรกันบ้างที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ ก็คงเป็นเรื่องที่จะเป็นวิชาการกันมากเกินไป แต่ถ้าจะ อธิบาย กันพอเข้าใจได้ง่ายๆ ก็จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ได้สัก 3-4 ชุด คือ

ชุดที่เป็น เพลา จะมีหน้าที่รับกำลัง และส่งกำลังชุดเฟืองเกียร์ ซึ่งจะถูกจัดให้อยู่เป็นคู่ๆ คือ คู่ใครคู่มัน เช่น ชุดเฟืองเกียร์หนึ่ง ชุดเฟืองเกียร์ 2-3-4-5 และชุดเฟืองเกียร์ถอยหลัง จากนั้นก็จะเป็นชุดเข้าเกียร์ ก็จะมีเฟืองเลื่อนเกียร์ ชุดหน่วงความเร็วของเฟืองเกียร์ หรือที่เราได้ยินได้ฟังกันว่า Synchromech ส่วนอื่นๆ ก็มี ท่อหายใจ (Breather) ซึ่งจะช่วยระบายความร้อนในห้องเกียร์ ซีลกันน้ำมัน และแน่นอน คือ น้ำมันเกียร์ที่ช่วยในการหล่อลื่น




ในระบบของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ คลัตช์ หรือส่วนประกอบของชุดคลัตช์ ไม่มีอะไรที่แตกต่างกับรถขับเคลื่อนสองล้อ ไม่ว่าจะเป็น ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือล้อหลัง ทั้งชิ้นส่วนของส่วนประกอบในระบบ หรือขั้นตอนการทำงานก็ตาม ส่วนในห้องเกียร์ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ถ้าเป็นห้องเกียร์หลักก็จะเหมือนๆ กับรถขับเคลื่อน 2 ล้อ ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อทำให้รถคันนั้นกลายเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็คือ ห้องเกียร์เสริม ที่ช่างจะเรียกกันว่า ชุดทรานเฟอร์ (Transfer Case)

ซึ่งในชุดเกียร์เสริมนี้ จะถูกกำหนดให้มีอัตราทดที่แตกต่างออกไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น ขับเคลื่อนเฉพาะ 2 ล้อ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา (Full time 4 wheels drive) หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ เมื่อต้องการ (Part time 4 wheels drive) และรวมถึงเกียร์ เพื่อการฉุดลาก (4 wheels drive low range) หรือที่นักขับรถประเภทนี้พูดกันว่า เกียร์สโลว์ ในรถประเภทนี้ การดูแลบำรุงรักษา ก็ดูแลกันตามปกติเช่นเดียวกับรถขับเคลื่อนสองล้อที่ใช้คลัตช์ และเกียร์


เกียร์ออโตเมติก อันที่จริงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อนมากมาย ถ้าย้อน หลังกลับไปกว่า 50 ปี จะพบว่าเกียร์ออโตเมติกรุ่นแรกๆ ของรถแต่ละยี่ห้อ มีเกียร์ อยู่ 2 ถึง 3 เกียร์เท่านั้น ยังไม่มีระบบ Torque Converter ที่มี กลีบเทอร์ไบน์ซับซ้อนหมุนขับน้ำมันไฮดรอลิค เหมือนในปัจจุบันมีเพียง Fluid Coupling และใบพัดห่างๆ หมุนขับน้ำมันเท่านั้น แผ่นคลัทช์ (Friction Plate) คอยรองรับแรงบิดมหาศาลในยุคนั้นหนามาก ช่องทาง เดินน้ำมันห่าง กรองน้ำมันก็ไม่มี
การใช้เกียร์ออโตเมติกแบบเก่า เพียงแค่เร่งให้แรงขึ้นแล้วถอนคันเร่ง เกียร์เปี่ยนไปในเกียร์ที่สูงขึ้น แถมบางรุ่นใช้การกดปุ่มที่วาง เรียงเป็นแถว เรียกกันว่าเกียร์ไฟฟ้า อย่างรุ่นไพโอเนียร์ในสมัยนั้น



ถ้าในปัจจุบันนี้ บริษัทผลิตรถยนต์ยังใช้เกียร์ออโตเมติกแบบเดิม การล้างเกียร์ออโตเมติกเห็นจะไม่จำเป็น เพราะเป็นชิ้นส่วน ขนาดใหญ่ ไม่ละเอียดเหมือนเกียร์ออโตเมติกในปัจจุบัน ที่แผ่นความฝืดมีตั้งแต่ 10 กว่าแผ่นขึ้นไปจนถึงกว่า 30 แผ่นก็มี Valve Body หรือสมองกล ที่สั่งการเปลี่ยนเกียร์ละเอียดถี่ยิบ กรองน้ำมันเกียร์ ชนิดกรองกันเป็นไมครอน แถมก้นแคร้งค์ยังต้องมีแม่เหล็ก ไว้จับเศษโลหะอย่างน้อย 2 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสร้างปัญหากับเกียร์
ในเรื่องของเกียร์ออโตเมติกไม่มีสิ่งแปลกปลอมจะมีก็แต่สิ่งสกปรก ที่หลุดออกมาจากแผ่นความฝืด แผ่นเหล็กสปริง (Modul Plate) ซึ่งว่า กันว่าเกียร์ออโตเมติกลูกที่มีชิ้นส่วนน้อยที่สุด ก็มีชิ้นส่วนเกือบ 300 ชิ้น เศษ โลหะจากชิ้นส่วนจะหมุนวนอยู่ในจุดต่างๆ รวมทั้งทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อันจะเป็นผลให้การทำงานของเกียร์ผิดปกติ กระชากสะดุด
การขับรถยนต์อย่างผิดวิธีหรือน้ำมันเกียร์ไหม้หลังจากการโอเวอร์ฮีทของเครื่องยนต์ ทำให้ทั้งแผ่นความฝืดและ Band Brake ไหม้ หลุดล่อน เศษโลหะวนเข้าไปในระบบเกียร์

การล้างเกียร์ออโตเมติก (Flush & Filled Auto Trans) ไม่ใช่วิธีแก้หรือ ยาขนานเอก ที่จะทำให้แผ่นคลัทช์ที่ไหม้ไปแล้ว (บางส่วน) หรือชิ้นส่วนที่สึกหรอกลับฟื้นคืนสภาพขึ้นมาใหม่ได้ หากแต่ว่าการล้างเกียร์ออโตเมติก หรือที่เราเรียกย่อๆ ว่า F&F สามารถหยุดความเสียหายไว้ ณ จุดนั้นๆ ยกตัวอย่างเกียร์ที่เกิดความเสียหายหรือสึกหรอไป 25% ทำ F&F แล้วจะหยุดความเสียหาย ไว้ 25% เท่าเดิม (หากเกียร์มีชิ้นส่วนเสียหายเกิน 50% เกียร์ลูกนั้นถือว่าหมดสภาพการใช้งาน)


เพื่อป้องกันและขจัดสิ่งสกปรกออกมาภายในเกียร์ ซึ่งจะเป็นการถนอม และช่วยให้เกียร์ออโตเมติกทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรล้างเกียร์ ออโตเมติก ทุกๆ 30,000 กม. สำหรับสภาพการใช้งานปกติ ซึ่งหลังจาก ล้างเกียร์ออโตเมติกแล้ว จะพบว่าในการขับขี่อัตราการถ่ายกำลัง จะตอบสนอง ได้เร็ว เนื่องจากการจับตัวของแผ่นความฝืด และสัมผัสได้เต็มหน้า เช่นเดียว กับรถใหม่ๆ





ปัจจุบันความเชื่อที่ว่า รถที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ธรรมดานั้น ดูแลบำรุงรักษาง่าย ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า และประการสำคัญ คือ ขับได้สนุกกว่า อาจจะเป็นอดีตไปแล้ว ทั้งนี้ เพราะว่าเกียร์ธรรมดานั้น การดูแลบำรุงรักษาจะต้องเริ่มกันตั้งแต่น้ำมันคลัตช์ แม่ปั๊มคลัตช์ ปั๊มคลัตช์ ชุดผ้าคลัตช์ หวีคลัตช์ เรื่อยไปจนถึงน้ำมันเกียร์ เฟืองเกียร์ต่างๆ โดยรวมๆ แล้วการซ่อมการบำรุงรักษารถเกียร์ธรรมดา น่าจะมีภาระมากกว่าเกียร์ออโต้ด้วยซ้ำไป
ส่วนการซ่อมก็ถือว่าหนักไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เอาแค่ชุดคลัตช์ก็ไม่ใช่เรื่องเบาๆ กระเป๋าแล้ว (ถ้าเป็นของแท้) และถ้าเป็นปัญหา ที่เกิดในห้องเกียร์จนถึงขั้นเกียร์ไหม้ เฟืองแตก เฟืองบิ่นด้วยแล้วหน้ามืดเอาง่ายๆ ทีเดียว ส่วนที่ว่า เกียร์ธรรมดา ขับสนุกกว่า เกียร์ อัตโนมัติก็เริ่มเปลี่ยนไป เพราะเกียร์อัตโนมัติในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก ทั้งความทนทาน ความสะดวกสบาย และพละกำลัง

ในเกียร์ธรรมดา ถ้าต้องการเปลี่ยนเกียร์ต้องเริ่มที่ผ่อนคันเร่ง เหยียบคลัตช์ ผลักคันเกียร์ ปล่อยคลัตช์ กดคันเร่ง แต่ในเกียร์ อัตโนมัติเหยียบแค่เร่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียกันทั้งนั้น แต่ที่สำคัญก็คือ เมื่อใช้งาน แล้ว ต้องดูแลบำรุงรักษาให้ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

การดูแลบำรุงรักษาก็ไม่มีอะไรมากมายนัก และไม่ต้องถึงกับต้อง ใช้ผู้เชี่ยวชาญชำนาญพิเศษ เริ่มกันที่การหมั่นตรวจตราดูระดับน้ำมัน ในห้องเกียร์ สำหรับรถในปัจจุบันที่เป็นรถเกียร์ธรรมดานั้น จะต้องรู้ ให้ได้ว่า น้ำมันเกียร์ที่ใช้ประจำห้องเกียร์นั้นเป็นน้ำมันเกรดใด เช่น บางรุ่นบางยี่ห้ออาจจะใช้น้ำมันเบอร์ 90 (SAE 90 W) และบางรุ่น บางยี่ห้ออาจจะถูกกำหนดให้ใช้เกรดเดียวกับน้ำมัน เครื่องยนต์ของรุ่น นั้นๆ
บางรุ่นบางยี่ห้ออาจจะถูกกำหนดให้ใช้น้ำมันเกรดเดียวกับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ต้องระวังให้ดี และจำให้แม่นๆ ถ้าไม่แน่ใจ ก็ควร จะติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ฝ่ายเทคนิคของรถยี่ห้อนั้นๆ โดยเฉพาะรถขับเคลื่อน 4 ล้อ อยากจะพูดว่า เติมน้ำมันผิดเกรดไม่ได้เลยครับ


รถเกียร์ธรรมดา ในการตรวจเช็คนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากพอสมควร โดยเฉพาะกับสุภาพสตรี เพราะจะต้องมุดเข้าไปตรวจดูใต้ท้องรถ ดังนั้น หากจะให้ง่ายก็ขอให้ขับรถเข้าปั๊มน้ำมัน ไปที่แผนกเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน เขาจะมี หลุม หรือมีลิฟต์ยกรถให้ช่างประจำที่นั้นตรวจเช็คให้ไม่เสียเวลาอะไร มากมาย
และเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วในขณะที่ตรวจเช็คระดับน้ำมันในห้องเกียร์ (ถ้าเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ต้องกำชับให้ตรวจเช็คในห้องเกียร์ เสริมด้วย) ก็น่าที่จะตรวจเช็คหาจุดรั่วซึมซึ่งก็มีไม่กี่จุด เช่น การรั่วซึมที่หน้าเกียร์ ถ้ามีการรั่วซึมจากจุดนี้ต้องพิจารณาให้ดีว่า เป็นน้ำมัน อะไร เพราะน้ำมันที่รั่วออกมาจากจุดนี้เป็นไปได้ 2 ชนิดด้วยกัน คือ น้ำมันเครื่องซึ่งจะรั่วออกมาจากทางซีลท้ายเครื่อง หรือ ที่ช่างเรียกกันว่า ซีลข้อเหวี่ยงหลังแต่ถ้าเป็นน้ำมันเกียร์จะรั่วออกมาจากจุดที่ช่างเรียกกันว่า ซีลหน้าเกียร์ การที่จะแยกแยะว่าเป็นน้ำมัน อะไรก็ต้องใช้ความเคยชิน เพราะน้ำมันทั้งสองชนิดนี้ทั้งสี และกลิ่นจะไม่เหมือนกัน


ถ้ามีการรั่วซึมจากจุดนี้ และต้องการเปลี่ยนซีล เช่น ซีลท้ายเครื่องรั่วก็ควรจะเปลี่ยนซีลหน้าเกียร์ ด้วย แม้ว่าจะยังไม่รั่วก็ตาม เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเล็กน้อยดีกว่า มาเปลี่ยนทีหลัง ซึ่งจะต้องเริ่มนับหนึ่ง กันใหม่
จากนั้นก็ตรวจดูการรั่วซึมของชุดปั๊มคลัตช์ตัวล่าง โดยรูดเอายางกันฝุ่นออก ก็จะเห็นร่องรอย ของการรั่วซึม เมื่อตรวจตราทุกอย่างจากใต้ท้องรถ อาจจะมีซีลตัวเล็กๆ รอบๆ ห้องเกียร์อีก 2-3 ตัว ก็ตรวจหาพร้อมกันไปเลย และต้องไม่ลืมดูท่อหายใจ ตรวจหาสภาพการอุดตันด้วย

นอกนั้นก็เป็นเรื่องของการตรวจตราดูภายในห้องเครื่อง ที่แม่ปั๊มคลัตช์ตัวบน ตรวจหาร่องรอยของการรั่วซึมของน้ำมันและตรวจ ดูระดับน้ำมันในกระป๋อง รวมทั้งคุณภาพของน้ำมันจากกลิ่นและสี
อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่ไม่มีการรั่วซึมแต่อย่างใด จำไว้ว่า ควรจะเปลี่ยนน้ำมันคลัตช์และน้ำมันเบรกปีละ 1 ครั้ง และควรจะ เปลี่ยนพร้อมๆ กันไป



อีกครั้งกับเทคนิคการขับรถยนต์ โดยใช้เกียร์ Auto ครับ เริ่มต้นที่การสตาร์ทเครื่องยนต์ ต้องผลักคันเกียร์ไปอยู่ที่ตำแหน่ง P ทุกครั้ง และควรเหยียบแป้นเบรกเอาไว้ด้วย เป็นการเสริมความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง และเมื่อเครื่องยนต์ติดขึ้นมา ปล่อยให้เครื่องยนต์ เดินเบาสักหนึ่งนาที จากนั้นก็เหยียบเบรกเอาไว้ให้แน่น แล้วโยกคันเกียร์ไปที่ D เพื่อให้รถเคลื่อนเดินหน้า
จำเอาไว้ง่ายๆ ว่า หากต้องการเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่รถจอดนิ่งอยู่ ควรเหยียบเบรกทุกครั้ง เมื่อโยก คันเกียร์ เพื่อความปลอดภัย และเป็นการป้องกันการผิดพลาด ยกเว้นแต่ในคนขับรถ ที่คิดว่าตนเอง มีความ ชำนาญกับเกียร์อัตโนมัติเพียงพอ จนถึงขนาดเปลี่ยนจังหวะ อัตราทดเกียร์ด้วยการโยกคันเกียร์เอง ตาม ความพอใจขณะรถวิ่งอยู่
การขับรถเกียร์อัตโนมัติสำหรับมือใหม่หรือมือเก่าที่ขี้เกียจมากๆ อย่างผม หรือจะเรียกให้ถูกว่า ผู้ที่ต้องการใช้งาน ให้คุ้มค่า กับการจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อซื้อความสบาย ผมแนะนำว่าเมื่อขับเคลื่อนรถไปข้างหน้า ให้ใช้ที่ตำแหน่งเกียร์ D เพียงตำแหน่งเดียว ไม่ว่าจะ เป็นการเร่งแซงหรือไม่ก็ตาม ให้อยู่ในตำแหน่ง D แล้วฝึกหัดการใช้คันเร่งเป็นตัวช่วยลดอัตราทดของเกียร์ แบบที่เขาเรียกกันว่า "คิกดาวน์" แทนการโยกเกียร์
กล่าวคือ เมื่อจะเร่งแซง ก็ให้ถอนน้ำหนักการกดของเท้าที่เป็นคันเร่งออกมานิดหนึ่ง แล้วกดซ้ำลงไปอย่างรวดเร็ว รถจะมีอาการ คล้ายๆ กับเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ให้ต่ำลงมา ที่นักขับรุ่นเก่าแต่ไม่ยอมแก่อย่างผมเรียกว่า "เชนจ์เกียร์" แต่ในรถยนต์บางยี่ห้อ ก็ใช้ วิธีกดแป้นคันเร่งลงไปเร็วๆ ให้จม ไม่ต้องถอนน้ำหนักเท้าออกมาก่อนก็มี ต้องศึกษาจากคู่มือดูครับ หรือจะลองด้วยตนเองก็ได้ ไม่เสีย หายแต่อย่างใดทั้งสิ้น แล้วฝึกให้ชิน



ส่วนในกรณีที่มีข้อถกเถียงกันจนโลกแตก ราวกับถามว่ายาบ้าระบาดนั้น เกิดจากผู้เสพของเมืองไทยมากขึ้น หรือเกิดจากผู้ผลิตในต่างแดนผลิตมากขึ้น นั่นคือคำถามที่ถามกันนักหนาว่า "ติดไฟแดงจะให้เปลี่ยนมาที่ N หรืออยู่ที่ D แล้วเหยียบเบรกดีครับ (คะ)"
ขอตอบเป็น 2 กรณีว่า 1. หากติดไฟแดงหรือจอดรถไม่นานนัก และประกอบกับปรับตั้ง รอบเดินเบา ของเครื่องยนต์ได้นิ่งดี ก็เหยียบเบรกแล้วปล่อยให้เกียร์อยู่ที่ D เถิดครับ เอาให้เหยียบเบรกแน่นๆ เท่านั้น ส่วนใครที่กลัวว่าจะเผลอเรอ ปล่อยให้รถไหล ไปชน คันหน้า ให้ดึงเบรกมือขึ้นมาช่วยอีกก็ได้
แต่หากจอดนานกว่านั้นค่อยโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง N แล้วเหยียบเบรกหรือดึงเบรกมือเอาไว้ด้วย ไม่ต้องโยกไปจนถึงตำแหน่ง ของ P นะครับ ซื้อเกียร์อัตโนมัติมาทั้งที จะไปโยกไปโยกมาให้เมื่อยตุ้มทำไมก็ไม่รู้


--------------------จบข้อความCOPY
ผิดถูกอย่างไรชี้แนะด้วยครับ ...







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pnu จาก pnu 118.172.250.213 อาทิตย์, 13/9/2552 เวลา : 21:47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439782

คำตอบที่ 16
      

ถูกทั้งหมดครับคุณ PNU

ZJ/ZG WJ อย่าลืมใช้น้ำมันเกียร์ออโต้ ATF+4 ละกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.8.154.114 จันทร์, 14/9/2552 เวลา : 06:01   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439831

คำตอบที่ 17
       ครับพี่SUPERMOP



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

PNU จาก pnu 125.27.67.20 จันทร์, 14/9/2552 เวลา : 06:50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 439838

คำตอบที่ 18
       พี่ๆ ครับแล้ว ตกลงล้างเกียร์นี้มันครวจะล้างหรือไม่ล้างดีอะครับ บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าไม่ดี กลัว เกียร์จะกลับบ้านเกานะครับ ตอนนี้ก้อ 270,000 กม.แล้วครับ เปลียนน้ำมันเกียร์ทุก 20000 หรือ 30000โล เปลี่ยน กรองเกียร์ ราว ประมาณ 40000 กว่าโลนะครับ ให้ Xj 98 น้ำมน Valloline DEXRon III นะครับ เปลี่ยนพร้อมกันเลย ทั้ง AUto และ 4X4 ตอนนี้เช็คตามที่พี่แนะนำมา ตอนเครื่องร้อนมันเกินมาประมาณ 1 ซม.นะครับ น้ำมันเครื่องก็เกิน ประมาณเดียวกันเพราะปกติจะเติม 5.7ลิตร วันนั้นช่างใส่หมดขวดที่สองเลยครับ กลายเป็น 6ลิตรเต็ม แต่เปลี่ยนกรองเครื่องด้วยนะครับ แก้ไขยังไงดีอะครับ เอาไปให้ช่างดูเขาบอกว่านิดหน่อยไม่เป็นไร เบื่อจริงเจอช่างแบบนี หรือว่ามันไม่เป็นไรจริงครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nhum-xj จาก jeep-cr 112.142.232.217 จันทร์, 14/9/2552 เวลา : 18:10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440131

คำตอบที่ 19
       รถ ตจว. จะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ทุก 20000 ก.ม. สบาย ๆ ครับ........ส่วนรถใน กทม. ส่วนตัวผมคิดว่าเปลี่ยนทุก 10000 ก.ม. ดีกว่า เพราะว่าเกียร์ทำงานหนัก รถติดมาก อากาศร้อน ทำให้น้ำมันเสื่อมเร็วกว่า ชาว ตจว.ที่ขับรถแบบลมโชยเป็นส่วนใหญ่ครับ

ยิ่ง XJ เปลี่ยนแต่น้ำมันเกียร์ออโต้อย่างเดียว ใช้ไม่กี่ลิตร แถมราคา น้ำมันเกียร์ Dexron III ราคาไม่แพงอีกต่างหาก......เปลี่ยนบ่อย ๆ ....อย่าออกรถพรวดพราดแรง ๆ เหมือนวัยรุ่น....ไม่จำเป็น ไม่ต้อง Kick Down ....แค่นี้ก็ช่วยยืดอายุเกียร์ได้มากแล้วครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 61.90.32.132 จันทร์, 14/9/2552 เวลา : 20:13   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440158

คำตอบที่ 20
       ขอบคุณสำหรับคำตอบครับพี่ SUPERMOP ไว้มาเชียงรายจะต้อนรับเป็นอย่างเต็มที่เลยครับ เมื่อวานเพิ่งไปดอยช้างแล้วก็เลยต่อเข้าไป ดอยฟ้าห่มนอนหนึ่งคืน เช้าลุยไปต่อจนถึงผ้าห่มปกต่อ ถ้าพี่สนใจเราไปพร้อมกับพี่ม้าแกลบและชาวเชียงรายเลยนะครับพี่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nhum-xj จาก jeep-cr 112.142.232.217 จันทร์, 14/9/2552 เวลา : 21:03   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440177

คำตอบที่ 21
       ดอยฟ้าหม่น หรือดอยผาหม่น ครับคุณ jeep-cr

http://www.thailandoffroad.com/jeep/board/Question.asp?ID=J24405

ปลายปีนี้มีโอกาสคงได้เสวนา หน้าเต็นท์กันบ้างครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.8.154.16 อังคาร, 15/9/2552 เวลา : 07:21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440312

คำตอบที่ 22
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

sararat จาก ดร.โด่ง 61.90.249.221 อังคาร, 15/9/2552 เวลา : 09:41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440360

คำตอบที่ 23
       มันมี 2 ดอยอะครับพี่ ฟ้าห่มปก กับ ดอยผ้าห่มปก นะครับ เป็นดอยที่มีความสูงหลดหลั่นกันไปนะครับ ผ้าห่มปกจะสูงที่สุดแล้วครับ ขับต่อกันขั้นไปได้เลย แต่เป็นทางออฟโรดอย่างดี โหด มันส์ ฮ่า ติดตามชอบทริปในเวปพี่ม้าแกลบ005 ได้เลยนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nhum-xj จาก jeep-cr 112.142.234.121 อังคาร, 15/9/2552 เวลา : 12:51   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440478

คำตอบที่ 24
       ฟ้าห่มปก กับ ดอยผ้าห่มปก เคยไปมาหมดแล้วครับ

ผมหมายความว่า ดอยฟ้าหม่น หรือดอยผาหม่น นี่สงสัยพิมพ์ผิดรึเปล่าครับคุณ jeep-cr



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mop จาก SUPERMOP 58.11.97.207 อังคาร, 15/9/2552 เวลา : 20:35   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440704

คำตอบที่ 25
       ขอบคุณครับ.





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nin1844 จาก น้านินท์.....มาเเว้วววว 115.87.18.90 อังคาร, 15/9/2552 เวลา : 21:08   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440723

คำตอบที่ 26
       ดอยผาหม่นตามที่พี่ว่านะครับๆๆๆ แต่ผมไปไม่ทันได้ดูดอกทิวลิปออกเยอะเหมือนที่พี่ถ่ายรูปมาให้ดูสักทีเลย ยังไงปีนี้ต้องไปให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้เลย พี่มาเมื่อไรแจ้งด้วยนะครับ เพื่อจะได้ชวนชาว JUC อุตรดิตถ์ขึ้นมาด้วยครับ เห็นว่า 23ตค.นี้จะมาพะเยา ที่ภูลังกากันนะครับ ผมจะได้ไปส่งข่าวไว้ให้ด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nhum-xj จาก jeep-cr 112.142.232.32 พุธ, 16/9/2552 เวลา : 09:32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 440942

คำตอบที่ 27
       กระทูดีๆ นำมามอบให้ครับ เพราะช่วงนี้จะเข้าหน้าฝนแล้วเผื่อรถไปลุยน้ำหรือช่วยรักษาตังค์ในกระเป๋าเราไง อิอิอิอิ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tu_tai_kosum@hotmail.com จาก หนึ่ง....ห้าวแป็ก!!!!!!! 183.89.193.52 พฤหัสบดี, 17/6/2553 เวลา : 10:54   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 507733

คำตอบที่ 28
       กะทู้ดีมีประโยชน์ ทำตามแล้วประหยัดเกียร์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ต้นJUC3123 จาก ต้นJUC3123 110.164.248.42 ศุกร์, 18/6/2553 เวลา : 08:38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 508047

คำตอบที่ 29
       ผมมีคำถามสำหรับกรองเกียร์ครับ อด่านในคู่มือไม่เห็นมีว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไร หรือว่าผมอ่านไม่ละเอียดครับ เห็นบางคนบอกให้เปลี่ยนทุก4หมื่นหรือทุกสองครั้งที่เปลี่ยนน้ำมัน ยังไงขอคำแนะนำด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Toiyip จาก Toiyip 183.89.231.248 ศุกร์, 18/6/2553 เวลา : 20:34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 508244

คำตอบที่ 30
       เห็นไหมหล่ะ! JUC เราก็มีกระทู้ที่มีความรู้มาเติมเรื่อยๆ ขอบคุณพี่ป้อมกะพี่PNU ผมขอCOPY ฝากเพื่อนที่บริษัทละกันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

หมูป่า1522 จาก หมูป่า1522 203.155.164.147 เสาร์, 19/6/2553 เวลา : 22:56   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 508476

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,26 เมษายน 2567 (Online 6654 คน)