คำตอบที่ 1
       นั้นดิครับ อยากรู้เหมือนกันของผม ปี98 ก็เป็นเหมือนกัน แต่ เปลี่ยนไปตอน 260000 ครับ ตอนนี้ 270000 กว่าๆแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เพราะว่าน้ำหนักที่เพลาข้างมันกดไปที่ลูกปืนล้อน่ะครับ ยิ่งยางใหญ่มาก ๆ นี่ยิ่งสึกเร็ว

ส่วนรถกระบะไม่เคยรื้อมาดูครับ คาดว่าเกี่ยวกับเรื่องการออกแบบครับ อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้....รอเพื่อน ๆ มาตอบครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       อันนี้แนวความคิดผมเอง ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       อยากจะร่วมสนุก ... อิ อิ แต่นึกสภาพไม่ออก ว่าสึก ตรงใหน อย่างไร .... อย่างที่ พี่ Ecu_Original_Jeep... เขียนมา พอจะเดาว่าสึกตรง บ่าลูกปืน หรือที่สวมลูกปืน (ไม่ทราบว่า ลูกปืนมีแหวนใน หรือปล่าว).....จากในรูป น่าจะไม่มี แหวนใน คือเม็ดลูกปืน บดบนเพลาโดยตรง ถ้าเป็นแบบนี้ สภาพผิวเพลาที่ทำหน้าที่เป็นแหวนในลูกปืน จะต้องมีผิวที่ สมบูรณ์มากทั้งความแข็ง และความเรียบ และที่สำคัญที่สุด สารหล่อลื่น จะต้องสะอาดที่สุด ซึ่งถ้า อย่างใดอย่างหนึ่งบกพร่อง จนเริ่มมีจุดเสียหาย...ก็จะเป็นการเร่งให้มีการเสียหายอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นงานซ่อมในจุดนี้ สิ่งสำคัญ น่าจะเป็นความ สะอาด ที่ต้องคำนึงมากๆ เห็นบางร้าน เคยเจอ ถอดเพลาออกมา ก็วางบนพื้น โดยไม่มีอะไรมารอง ... พอจะสวมก็จับสวมเลย .... มาบ่นอีกตามเคย ..ตรู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมเคยชักเพลาหลังคันกระบะ Big M ออกมา ทั้งที่ลยวิ่งมาตั้งเกือบสองแสนกม. แล้ว และก็บรรทุกหนักเป็นตันบ่อย แต่เพลายังเอี่ยมอยู่เลยครับ ที่ตัวเสื้อเพลาก็มีลู กปืนเหมือน xj เลยครับ หรือเป็นที่การออกแบบวัสดุ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       เพลาjeepเม็ดลูกปืนล้อจะวิ่งบนเพลาโดยตรง
เพลารถกะบะลูกปืนจะหมุนอยู่ในตับลูกปีนของมันเองแล้วตับลูกปืนก็อัดอยู่ในเพลาอีกที พอลูกปืนแตกก็เปลืยนเฉพาะตัวมันเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย