คำตอบที่ 841
       กวางตุ้ง = pak choi ไม่มีชื่ออังกฤษ อิอิ เป็นชื่อทับศัพท์ จีนอ่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 842
       เอามาฝาก วิธีทำทาน

http://vegbox-recipes.co.uk/ingredients/pak-choi.php



Pak Choi (also known as bok choi or Peking cabbage) is a Chinese cabbage.

It's commonly used in stir fry and spring rolls.

Being in season from October to March makes it a common autumn and winter veg box ingredient.

Go straight to pak choi recipes.




About Pak Choi (Bok Choi)
Pak choi originally comes from China, but has become popular in European food, particularly in the UK, with the increase in popularity of Chinese cooking.

It's relatively easy to grow and is high in vitamin C, beta carotene, folic acid and calcium, as well as many essential minerals.



Did you know...?
1 cup of cooked pak choi contains 15% of your recommended daily allowance of calcium - the equivalent of 1/4 pint of full fat milk.



How To Choose
Choose bok choi that has firm stalks and fresh-looking leaves. As they deteriorate, the stalks go slimy and the leaves go limp, so watch out for these signs.



How To Store
Keep in the fridge for up to a week - less if possible. Don't wash before storing or it will go slimy.



How To Use
Separate the leaves and wash well.

The green leaf is often cooked separately to the much thicker, paler stalk.

In a stir fry, cut off the stalks and slice. Cook for a couple of minutes before adding the leaves for 2 minutes.

Use it in stir fries, chopped in salads or add to a soup for the last few minutes of cooking.

For a quick recipe, chop it and steam for 3-4 minutes. Serve with soy sauce.





Suggested Recipes

Ginger And Garlic Pak Choi Pak choi goes really well with ginger and garlic – which are both so-called “superfoods” and immune system boosters. So this recipe is not only tasty, but good for you. Whatever next?!?


Winter Stir Fry Stir fries are a real fast food, yet they’re healthy. The trick is to prepare all the ingredients before you start cooking. The sauce with this stir fry is delicious, but feel free to miss out the egg if it doesn’t suit your diet.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 843
       เริ่ม งง แล้ว

ชื่อไทยเรียก กวางตุ้ง ที่มีดอกสีเหลืองเป็นต้นๆๆ

และเรียกผ้กกาดฮ่องเต้ กับ คต 842


ทั้งคู่ คือ pak choi (คต 842 = green pak choi) อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 844
       กระหล่ำปลี = Cabbage

สลัดแก้ว หรือ ผักกาดแก้ว = Iceburg lettuce

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 845
       ดูห้อง Sanamloung_fanclub ดิพี่ Loft60-84

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 846
       http://sangdad.com/html/1.php?id=61&idback=


สลัด...จากเลตเติซถึงร็อกเกต



สลัด...จากเลตเติซถึงร็อกเกต

สำหรับชาวโรมันผู้ได้ชื่อว่าเป็นชาติแรกที่รู้จักกินสลัด เมื่อราว 2,000 ปีที่แล้ว สลัดคือผักใบเขียวและสมุนไพรสดที่จิ้มกินหรือราดคลุกเคล้ากับน้ำมันกับเกลือ โดยอาจมีน้ำส้มสายชูเพิ่มเติมเข้ามาด้วย พูดง่ายๆว่าเป็นสลัดผัก หรือ green salads เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ สลัดมีความหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านเครื่องประกอบสลัด (ingredients) ซอสหรือเดรซซิ่งที่ใช้ปรุงรส (ไม่จำเป็นต้องเป็นเกลือ หรือ sal ซึ่งเป็นเหตุอันเป็นที่มาของชื่อเรียกอาหารจานนี้ว่า salad) และวัฒนธรรมการเสิร์ฟ

สัจธรรมประจำตัวของสลัด คือ การเปลี่ยนแปลง!

แต่ไหนแต่ไรมา ผักที่ใช้ในสลัด คือ เลตเติซ (lettuce) จนคนทั่วไปเรียกขานกันเป็น “ผักสลัด” แม้ว่าเลตเติซจะมีมากมายหลายพันธุ์ที่ใช้ทำสลัดได้ แต่คนทั่วโลกส่วนใหญ่กลับคุ้นเคยเฉพาะกับ ผักกาดแก้ว (iceberg) สาเหตุสำคัญเป็นเพราะในสหรัฐอเมริกา มีการพัฒนาการเพาะปลูกและขนส่งผักกาดแก้ว โดยใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยอย่างมาก ทำให้มีผักกาดแก้ววางจำหน่ายในราคาถูกทั่วประเทศ และส่งผ่านวัฒนธรรมการกินผักกาดแก้วไปทั่วโลก

เลตเติซมีหลากหลายพันธุ์มาก โดยอาจจำแนกเป็น 4 กลุ่มใหญ่คือ หนึ่ง ไอซ์เบิร์ก หรือผักกาดแก้ว ใบห่อซ้อนกันแน่นเป็นหัว ใบกรอบเพราะมีน้ำมาก รสจืด เป็นเลตเติซที่แข็งแรง เก็บรักษาได้ง่ายและอายุนาน สอง คอส (cos) หรือ โรเมง (romaine) ใบยาวแยกกัน ใบด้านในกรอบอร่อยกว่าใบด้านนอก ใบแข็งแรงเก็บรักษาง่ายรองจากผักกาดแก้ว เป็นผักเอกลักษณ์ของสลัดซีซ่าร์ สาม บัตเตอร์เฮด (butterhead) ใบหุ้มซ้อนกันเป็นดอกไม้แรกแย้มดอกใหญ่ แต่บอบบางและช้ำง่าย รสอ่อน เหมาะกับน้ำสลัดที่รสไม่เปรี้ยวจัดนัก บอสตันเป็นผักกาดบัตเตอร์เฮดที่แพร่หลายมากที่สุด สี่ ผักกาดใบ (loose-leaf lettuce) กลุ่มนี้มีหลายพันธุ์ แต่ลักษณะเหมือนกันที่ต้นเป็นใบแยกๆกัน บอบบางช้ำง่าย อาทิ ออร์กแดง ออร์กเขียว เวลเว็ทแดง ฯลฯ

เลตเติซ 2 ชนิดหลัง คือ บัตเตอร์เฮด และลูสลีฟเลตเติซ บอบช้ำง่ายและขนส่งยาก จึงไม่เป็นที่นิยม ยกเว้นในยุโรปและเขตเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกโดยตรง ต่อมาเทคโนโลยีไฮโดรโพนิกซ์ ทำให้สามารถผลิตเลตเติซเหล่านี้ในทุกมุมโลก รวมทั้งประเทศไทย (ดูครัวฉบับที่ 67) อย่างไรก็ตาม มีข้อวิจารณ์ว่าเนื่องจากมิได้ปลูกในดิน ผัดสลัดเหล่านี้จึงไม่ค่อยมีรสชาตินัก

ในแวดวงผักสลัดปัจจุบัน ผักร็อกเกต (rocket) หรืออารูกาลา (arugula) ในภาษาอิตาเลียน ดูเหมือนจะมาแรงที่สุด ผักใบเขียวรสปร่าเล็กน้อยชนิดนี้ มีรูปใบคล้ายผีเสื้อ อันเป็นเหตุให้ได้ชื่อในภาษาละตินว่า eruca (ผีเสื้อ) ในภาษาฝรั่งเศส roquette และ rocket ในภาษาอังกฤษ ร็อกเกตเป็นผักโบราณมาก ผู้คนในตะวันออกกลางเป็นพวกแรกที่รู้จักเพาะปลูกผักชนิดนี้มาช้านาน ประมาณ 7,000 – 9,000 ปีก่อนคริสตกาล สมัยกรีกและโรมัน ร็อกเกตมีชื่อเสียงเป็นผักกระตุ้นกำหนัด จากแหล่งดั้งเดิมในตะวันออกกลาง ร็อกเกตแพร่หลายไปทางเขตเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะในอิตาลี ทำให้คนเข้าใจผิดว่าร็อกเกตเป็นผักดั้งเดิมของที่นี่

ถึงวันนี้ สลัดได้เดินทางมายาวไกล เปลี่ยนแปลงมามาก และยังเปลี่ยนแปลงต่อไป ตราบเท่าที่สังคมยังไม่หยุดสร้างสรรค์ปากะศิลป์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 847
       ทานสลัดผักมากๆนะครับ เพื่อสุขภาพกับเพื่อนๆ juc ที่สูงอายุ อิอิ


คิดไม่ออกว่าทำอย่างไร นี่เลยครับ


http://lifestyle.kingsolder.com/food/food.asp?id=140&no=2&start=140

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 848
       ใช่เลย ครับ ท่าน ณุ วันนี้ตั้งใจไปร่วมงานเพื่อเป็น พลเมืองไทยที่รัก ประชาธิไตย เหมือน พฤษภา ครั้งก่อน แต่ ต้องรอกล่อง ECU จาก เพื่อนๆ ที่เดือดร้อนจากภาคเหนือ เลย พลาด อดเลยไม่ได้ไปร่วม

เพื่อนๆ ที่มีอุดมการณ์ เพื่อประชาธิไตย .............คงเต็มสนามหลวง คืนนี้ .....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 849
       ตอนสามทุ่มท่านทักษิณพูดสดๆครับ พี่ Loft60-84

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 850
       ดูแล้วครับ Sanamloung_fanclub เยี่ยมมาก ขอบคุณท่าน ณุครับ

ไม่ขอนำมาpost ตรงๆ นะ จะได้ไม่โดน band อิอิ ใช้ google และ link เข้าไปเองนะ สำหรับ ท่านที่รัก สถาบัน และ ประชาธิปไตย ตาม อุดมการณ์ พันธ์แท้ ...... เคยรอด M16 มาได้ ครั้งก่อน อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 851
       mop ก็ เลิกไปแล้ว เรา มาดูสุขภาพ กันดีกว่า อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 852
       แตงกวา= cucumber นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 853
       แตงกวา
ประโยชน์ :
ความชุ่มเย็นอุดมด้วยน้ำของแตงกวาช่วยขับปัสสาวะ ลดพิษไข้แก้ร้อนใน และเป็นยาระบายอ่อน ๆ รับวิตามินจากแตงกวาได้เมื่ออร่อยควบคุณกับข้าวผัดทอดมันและปอเปี๊ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 854
       การเตรียมแปลง

ไถดิน 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้ผาน 3 แล้วตากดินไว้ 7-10 วัน ครั้งที่ 2 ใช้ผาน 7 ใส่ปุ๋ยคอก 1-2 ตันต่อไร่ กับปุ๋ยสูตร 15-15-15
อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่เป็นปุ๋ยรองพื้น

การเตรียมต้นกล้า

ในกรณีที่เมล็ดมีราคาแพง ควรจัดเตรียมต้นกล้าโดยเพาะในถาดหลุมหรือในถุง แล้วย้ายลงปลูกในแปลง เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 2 สัปดาห์
หรือหากเมล็ดมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สามารถหยอดเมล็ดลงในหลุมปลูกได้เลย วิธีนี้ควรจัดทำหลุมกว้าง 20-25 เซนติเมตร ลึก 15-20 เซนติเมตร
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยสูตร 151-15-15 อัตราส่วน 2 : 1 คลุกเคล้าให้เข้ากัน กลบด้วยดินก่อนแล้วหยอดเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อหลุม
กลบด้วยดินหนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร

วิธีปลูก แบ่งเป็น 2 แบบคือ

1. ปลูกแบบเลื้อยดิน ยกแปลงขนาดกว้าง 3-4 เมตร ให้มีร่องน้ำกว้าง 50 เซนติเมตร ส่วนความยาวแปลงขึ้นอยู่กับพื้นที่ จุดทำหลุมปลูกขนาด
15-20 เซนติเมตร ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น x แถว ประมาณ 50x 100 เซนติเมตร
2. ปลูกแบบใช้ค้าง ใช้ระยะปลูก 50 x 70 เซนติเมตร ขุดหลุมลึก 15-20 เซนติเมตร หยอดเมล็ด 2 เมล็ดต่อหลุม หลังงอกได้ 15 วัน
ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 1 ต้น ปักไม้ค้างเป็นรูปกระโจมสูงประมาณ 1.5 เมตร ใช้เชือกฟางผูกต้นกับไม้ค้างระยะห่างทุกๆ 3 ข้อ
นอกจากนี้อาจปลูกในกระถางขนาด 12 นิ้ว โดยปลูกเพียง 1 ต้น

การให้ปุ๋ย
ในการปลูกแบบเลื้อยดิน หลังหยอดเมล็ดประมาณ 3 สัปดาห์ ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือสูตร 13-13-21 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่
โรยปุ๋ยรอบหลุมปลูกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อต้น ครั้งที่ 2 และ 3 ที่อายุประมาณ 30 วัน และ 40 วัน หลังหยอดเมล็ด ให้ปุ๋ยสูตรและอัตราเดียวกันนี้
กรณีที่ปลูกโดยการย้ายต้นกล้า ควรให้ปุ๋ยหลังย้ายปลูกได้ 5-7 วัน แล้วให้ปุ๋ยโดยให้มีระยะเวลาเช่นเดียวกับการปลูกแบบเลื้อยดิน
ควรให้น้ำทุกวัน ในระยะสร้างผล หากขาดน้ำผลจะไม่สมบูรณ์และมีรสขม


การป้องกันกำจัดโรคและแมลง
ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีพิษตกค้างนาน ดังนั้น จึงควรใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นและควรใช้สารที่สกัดจากพืช
โรคที่พบส่วนใหญ่จะเป็นโรคทางใบ เช่น โรคราน้ำค้าง อาจใช้สารแมนโคเซ็บผสมกับเมทาแลคซิลฉีดพ่น สำหรับแมลงควรใช้กับดักกาวเหลือง
ซึ่งจะช่วยดักจับตัวแก่ของเพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ ฉีดน้ำฝนเป็นฝอยจะช่วยลดจำนวนแมลงลงได้ นอกจากนี้ อาจใช้น้ำมันปิโตรเลียม น้ำสบู่เจือจาง กำมะถันผง ส่วนสารเคมีอื่น เช่น อิมิดาคลอปิด ฟิโปรนิล อาจนำมาใช้ได้ หากพบว่า มีปริมาณแมลงปากดูดเข้ามาทำลายสูง

การเก็บเกี่ยว
หลังการย้ายปลูก 30-40 วัน เลือกเก็บผลอ่อนหลังดอกบานได้ 5-6 วัน ระยะนี้เนื้อผลจะแน่น กรอบ ไส้ไม่กลวง เมล็ดลีบ และมีความหอมสูงกว่า
จึงเป็นระยะที่ควรเก็บมาใช้ประโยชน์ แตงกวาจะทยอยให้ผล สามารถเก็บได้วันเว้นวัน และมีอายุเก็บเกี่ยวผลนานประมาณ 1 เดือน
แตงกวาที่มีหนามผลที่เป็นสีดำ จะมีอายุการเก็บรักษาสั้นกว่าพันธุ์หนามสีขาว แต่พันธุ์ที่มีหนามดำนั้น จะให้ผลผลิตต่อต้นสูงกว่า
http://www.mju.ac.th/research-mju/TK.htm

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 855
       คต. 845, 848, 849,850 คุยเรื่องไรกัน
ถึงว่า ทำไมหมู่นี้เห็นรถ GMC ผ่านไปทางบางบัวทองบ่อยๆๆ.......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 856
       วันนี้ ก็ มี พันเอก มาเยี่ยม ที่อช อ่ะ ครับ ไม่ต้องห่วง ครับ สมานฉันท์ สุดๆๆๆๆๆๆ

อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 857
       บรรยากาศ หน้า อช ช่วง บ่าย อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 858
       เค้า ทำ อารายกัน หน้า อช อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 859
       ท่าน ANO อีกแล้วครับ ...................นับถือน้ำใจ JUC เต็มร้อย ของ ท่าน ANO ครับ ...........


หลังจาก ทำ PM กล่อง ให้กับ ท่าน พันเอก สุรศักดิ์ แล้ว ยัง มาช่วย ท่าน อ ต้อม อีกครับ แม้ว่า จะเหนื่อยเท่าไร กับ เพื่อ JUC ยินดี เต็ม ร้อย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 860
       live from อช บางบัวทอง ครับ .................กำลังทำ PM party อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 861
       ท่าน เส ....สนใจเป็นพิเศษ อิอิ ........คงติดใจการทำ PM ด้วย ตนเอง ครับ ....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 862
       ตั้งใจ ทำ PM JEEP เต็มร้อย ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 863
       ดูจากรูป แล้ว มีความสุขกะการซ่อมรถ จริงๆ

55555555555555555555555555

กว่าจะจบวันนี้ ตั้งสี่ทุ่มกว่า แน่ะ กับหม้อน้ำ

ขอขอบคุณ
พี่loft60 สำหรับคำปรึกษา ตั้งแต่ต้นจนจบ และ เอื้อเฟื้อ สถานที่กว้างๆ สำหรับซ่อมรถ และแง่คิดต่างๆ ตลอดมา
พี่ ANO ที่มาช่วยถอดหม้อน้ำ อย่างเต็มใจ ที่สุด
พี่ แดงขอนลอย (ที่มาช่วยใส่หม้อน้ำ) อิอิ



รอบหน้า เจอกัน คงได้ จับปลานิล กันนะครับ ป่านนั้น มันคงจะโต แย้ววววววววว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 864
       นั่นซิ ปลานิลเป็นกับแกล้มได้อิอิ ถ้ากล้าทานก็เชิญนะครับ แต่สมาชิกที่อช บางบัวทองให้อาหารเลี้ยงมันมาไม่กล้าทานอ่ะ ครับ


แต่ไปซื้อที่ตลาด OK ทานได้



ภาพนี้ครับ เสียเวลามากสุด...................เพราะน็อตตัวผู้(Bolt) มันคลายและตามตลอด ..... แต่ไม่พ้นมือทำ PM JEEP ของ ท่าน ANO ที่ ใช้กลยุทธ์ ถอดออกได้ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 865
       ถ้าไม่ออก ต้องเจอ หัวหมู อูดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจียรออก ตัดหัวอ่ะ อิอิ ..........................

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 866
       ได้มาแล้วครับ Mopar อ่ะครับ 300 บาท .....ราคาขึ้นมาแล้วครับ stock ที่ อช เพิ่ง หมดครับ เลยต้อง เข้าเมืองไป shop vbvb ...................เดิมได้มา 290 บาทครับ เมื่อปีก่อน........................

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 867
       นี่ครับ เทคนิค ของวิศวกรอาวุโส ที่ อุทิศของ JUC ที่ทำ PM Jeep ให้ เพื่อนๆๆ JUC แบบ Hand on ...............สังเกตุ มือดำ ปี๋ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 868
       ท่าน เส ..... สุรศักดิ์ ที่ใช้ JEEP พันธุ์ แท้ มาสิบกว่าปี..... ขอให้ท่านได้ พลตรี เร็วๆ นี้ นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 869
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 870
       เอ้า JUC ช่วยกันเต็มที่ .......................................เต็มร้อย นะขอบอก,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
pic is more than 1000 words

แสดงความคิดเห็นย่อย