WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ลอกเขามา

จาก แว่นน้ำ
IP:118.172.238.230

จันทร์ที่ , 28/3/2554
เวลา : 22:50

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       TOYOTA Land Cruiser 80
รถในตระกูล “Land Cruiser” ของค่ายโตโยต้านั้นมีหลากหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นเล็กๆอย่าง Land Cruiser “40” ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับรถจี๊ปที่เราคุ้นตากันดี ขยับขึ้นมาอีกหน่อยก็จะเป็นรุ่น “70” รุ่นนี้จะเน้นเรื่องลุยเป็นสาระสำคัญที่คนไทยรู้จักกันดี ใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเป็นรุ่น “80” ซึ่งเพิ่งจะหมดไปจากสายพานการผลิตเมื่อไม่นานมานี้เอง (จะเป็นรุ่นที่เรายกขึ้นมาแนะนำในครั้งนี้) และที่พัฒนามาจากรุ่น 70 คือ รุ่น “90” หรือ Prado ที่คนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว และสุดท้ายที่ออกมาเพื่อออกทดแทนรุ่น “80” คือ รุ่น “100” ที่ในเมืองไทยขายดีเหมือนให้เปล่า
ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะให้ Land Cruiser 80 เป็นรถที่เพียบพร้อมไปด้วยความหรูหรา สะดวกสบายเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบขับเคลื่อนและกันสะเทือนต้องเยี่ยม ดังนั้น ตั้งแต่วันแรกที่ 80 เปิดตัวอย่างเป็นทางการมันจึงสามารถทำยอดขายได้สูงถึงกว่า 600 คันภายในเดือนเดียวเท่านั้น และตลอดอายุตั้งแต่ปี 1989 จนถึง 1997 หรือ 9 ปี Land Cruiser 80 ทำยอดขายได้มากกว่า 2,500 คันต่อเดือน เมื่อปี 1995 ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือรถที่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรานั่นเอง
และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่คิดว่าจะจับรถมือสองหรือเป็นเจ้าของเดิมอยากจะทราบว่าจริงๆแล้วรถที่ตัวเองขับอยู่นี้ เป็นรถปีไหนรุ่นอะไรกันแน่ คราวนี้จะได้ทราบความจริงกันเสียที
รุ่นแรก ปลายปี 1989 จนถึงต้นปี 1992
Land Cruiser 80 เปิดตัวมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เดือนตุลาคม 1989 ซึ่งก็พอจะเทียบได้กับว่าเปิดตัวในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์นั่นเอง โดยในรุ่นแรกนี้จะยังใช้โลโก้คำว่า “TOYOTA” ติดที่กระจังหน้าพร้อมกับมีสีให้เลือกทั้งสิ้น 5 สี ซึ่งจะเป็นแบบ “ทูโทน” ไปเสียหนึ่ง แน่นอนว่ายังคงเป็นสีพื้นๆ อย่างสีขาว แดง น้ำเงิน
ตอนที่เปิดตัวได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ แบบแวก้อนและแบบแวน ซึ่งจะมีจุดแบ่งระหว่างทั้งสองรุ่นอยู่ที่ขุมพลังประจำรถ โดยให้รุ่นแวก้อนใช้เครื่องยนต์เบ็นซิน ส่วนรุ่นแวนจะใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก ทว่าทั้งสองรุ่นนี้ต่างก็จะมีตัวท๊อปของตัวเองเช่นเดียวกัน

เครื่องยนต์ที่นำมาใช้กับ Land Cruiser 80 ปีนี้จะมีทั้งสิ้น 3 รุ่นคือ 1 HD-T เป็นเครื่องยนต?ดีเซลเทอรโบ 6 สูบแถวเรียง OHC ความจุกระบอกสูบ 4,163 ซีซี. เครื่องที่สองคือ 1 HZ เป็นเครื่องดีเซล 6 สูบแถวเรียง OHC ไม่มีเทอร์โบ ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 4,163 ซีซี. และสุดท้ายจะเป็นเครื่องยนต์รุ่น 3 F-E เป็นเครื่องยนต์เบ็นซิน 6 สูบแถวเรียง OHC ความจุกระบอกสูบ 3,995 ซีซี.

การแบ่งรุ่นของ Land Cruiser 80 นี้จะแบ่งย่อยลงไปได้อีกเป็น 9 รุ่น โดยแบ่งเป็นแวก้อน 2 รุ่น และแวนอีก 7 รุ่น สำหรับในรุ่นแวก้อนจะใช้เครื่องยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งเป็นตัวกำหนด ถ้าเรียกเป็นชื่อรุ่นก็จะได้ออกมาเป็น VX Limited ใช้เครื่องยนต์ 3 F-E เป็นเครื่องเบ็นซิน 6 สูบOHC ความจุ 3,995 ซีซี. เกียร์ออโตเมติค 4 สปีด ระบบขับเคลื่อนแบบ Full Time 3 WD และที่ออกมาคู่กันจะเป็นรุ่น VX ธรรมดา ใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน ระบบส่งกำลังเหมือนกัน ความแตกต่างจะมาอยู่ที่อุปกรณ์ตกแต่งภายในห้องโดยสารเท่านั้น
ในรุ่นแวก้อน ไล้ตั้งแต่ตัวหรูสุดจะเป็นรุ่น VX Limited ว่างเครื่องยนต์ดีเซล 1 HD-T เกียร์ออโตเมติค 4 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบ ขับ 4 Full Time รุ่นต่อมาจะเป็น VX ธรรมดา โดยในรุ่นนี้จะมีเกียร์ให้เลือกใช้ทั้งแบบเกียร์ออโตเมติค 4 สปีคกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ใช้เครื่องยนต์ 1HD-T เช่นกัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time และ Part Time ตามลำดับ
ลดระดับลงมาอีกหนึ่งรุ่นจะเป็น GX ซึ่งใช้ขุมพลังดีเซล 1 HZ 6 สูบ แถวเรียงเช่นเดียวกัน รุ่น GX นี้ จะมีให้เลือกทั้งเกียร์ออโตเมติคและเกียร์ธรรมดา แต่ระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบ 4 Full Time เหมือนกันทั้ง 2 คัน สุดท้ายจะเป็นรุ่น STD วางเครื่องยนต์ 1 HZ ดีเซล 6 สูบ เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบขับ 4 Part Time อย่างเดียวเท่านั้น ในระหว่างนี้ก็ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมอุปกรณ์อีกเล็กน้อย เช่น เพิ่มแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบออโตเมติค เบาะนั่งด้านหลังติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ ELR ยึด 3 จุด รวมทั้งเบาะจุสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเข้าไปอีกหลายอย่าง
รุ่นที่สอง กลางปี 1992 ถึงต้นปี 1995
หลังจากเปิดตัวมาได้ 2 ปีเศษๆ Land Cruiser 80 ทำไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกโดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 18 เดือนสิงหาคมปี 1992 การปรับปรุงในครั้งนี้มีจุดใหญ่ๆที่สังเกตได้อย่างชัดเจนคือ ตัวรถถูกลดความสูงลงมาถึง 40 มม.พร้อมๆกับการเปิดตัวเครื่องยนต์เบ็นซินรุ่นใหม่ 1 FZ-FE ที่เข้ามาแทนเครื่องตัวเก่า 3 F-E นอกจากนี้ยังได้เพิ่มกระจกมองมุมมาให้ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการติดตั้งกระจกมองมุมให้กับรถขับเคลื่อน 4 ล้อนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ในเรื่องของความปลอดภัย Land Cruiser 80 ไมเนอร์เชนจ์นี้ยังได้ทำการเปลี่ยนดิสค์เบรกหน้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม 286 มม. เป็น 311 มม. ส่วนด้านหลังก็ขนายตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน คือ จากเดิม 312 มม. ขยายใหม่เป็น 335 มม. พร้อมเพิ่มระบบป้องกันล้อล็อค ABS มาให้เป็นอ๊อฟชั่นในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time เพิ่มความปลอดัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยคานเหล็กนิรภัยในประตูทุกบาน ล้อแม็กจากเดิมที่ใช้ขอบ 15 ก็เปลี่ยนมาเป็น 16 นิ้ว โป่งล้อเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นอีก 15 มม. เหล็กกันโคล่งเปลี่ยนจากเดิมที่มีใช้อยู่ 2 ขนาด คือ ด้านหน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 24/26 มม. เปลี่ยนเป็น 29 มม. และด้านหลังจากเดิม 23/25 มม.ก็เปลี่ยนมาใช้ ขนาดเดียวคือ 25 มม.
สำหรับระบบส่งกำลังเกียร์ออโตเมติค ได้เพิ่มระบบควมคุมการทำงานเปลี่ยนเกียร์ด้วยอิเล็คทรอนิคส์ ECT พร้อมกับเปลี่ยนแผงคอนโซลเกียร์ สำหรับรุ่นที่ออกมาจำหน่ายนี้ได้เปลี่ยนโทนสีใหม่พร้อมกับเพิ่มตัวเลือกให้มากขึ้น คือ จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 5 สี รวมทั้งแบบทูโทนมาให้อีก 1 เช่นเดิม ไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ Land Cruiser ยังคงชื่อรุ่นต่างๆ เอาไว้เช่นเดิม เปลี่ยนเฉพาะตัวเครื่องยนต์จาก 3 F-E มาเป็น 1 FZ-FE เท่านั้นเอง
รุ่นที่สาม ปี 1993 ถึงปี 1995
ในการไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สาม การเปลี่ยนแปลงหลักๆในช่วงนี้คือ การเพิ่มรุ่น VX Limited เข้าไปในกลุ่มของเครื่องยนต์ดีเซลตัว 1 HZ ซึ่งเท่ากับว่ามีรุ่นหรูอย่าง VX Limited ครบทุกเครื่องยนต์แล้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังได้ปรับเปลี่ยนสีใหม่ให้แปลกตายิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงสีให้เลือกอยู่เพียงแค่ 6 สี (รวมรุ่นทูโทนด้วยแล้ว) โดยจะมีสีหลักๆ ที่มีมาโดยตลอดคือ สีขาว สีน้ำเงิน และสีแดง ที่เหลืออีก 3 สีก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไป
ในส่วนของเครื่องยนต์ ตั้งแต่เดือน ธันวาคม ปี 1993 เป็นต้นมา มาตรการลดมลพิษได้ถูกนำมาใช้กับเครื่องยนต์ รุ่น 1 HD-T เพื่อควบคุมแก็สไนตรัสอ๊อกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากเครื่องยนต์พร้อมกับการจัดรุ่นจัดลำดับกันนิดหน่อย โดยสามารถเทียบได้ตามตารางต่อไปนี้

เครื่องยนต์ เกียร์ ระบบขับเคลื่อน
รุ่นแวก้อน
VX Limited 1 FZ-FE 4 A/T Full Time

VX 1 FZ-FE 4 A/T Full Time

รุ่นแวน
VX Limited 1 HD-T 4 A/T Full Time

VX 1 HD-T 5 M/T Full Time

VX 1 HD-T 5 M/T Part Time

VX Limited 1 HZ 4 A/T Full Time

VX 1 HZ 4 A/T Full Time

GX 1 HZ 4 A/T Full Time

GX 1 HZ 5 M/T Part Time


ขึ้นปี 1995 ได้ไม่นานไมเนอร์เชนจ์อีก
แล้วก็ถึงวันที่ Land Cruiser มียอดขายพุ่งขึ้นไปเกิน 2,500 คัน หลังจากที่ได้เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ดังนี้ ครั้งนี้เปลี่ยนโลโก้จากที่เคยเขียนเป็นตัวเต็มว่า “TOYOTA” มาใช้เป็นแบบที่บ้านเราเรียกว่า “สามห่วง” หรือภาษาทางการของโตโยต้าเรียกว่า “โตโยต้า มาร์ค” แล้วยังได้เพิ่มถุงลมนิรภัยเข้าไปเป็นอ๊อฟชั่นให้เลือกเสียเงินอีกด้วย
ในส่วนของการเปลี่ยนแปลงทางด้านเครื่องยนต์ ก็ได้ติดตั้งระบบ EGR เพื่อช่วยในเรื่องของการหมุนเวียนเอาไอเสียกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงเทอร์โบใหม่ให้กับเครื่องรุ่นเดียวกันนี้อีกด้วย พร้อมกับเปลี่ยนฝาสูบให้กับเครื่องยนต์ รุ่น 1 HD-T ใหม่ เป็นแบบ 4 วาล์วต่อสูบ และเปลี่ยนชื่อรหัสเครื่องยนต์ใหม่เป็น 1 HD-FT
สำหรับสีตัวรถ ปี’95 นี้มีสีมาให้เลือกใช้อีก 2 รวมเป็น 8 โดยยังมีสีหลักๆ เป็นขาว แดง น้ำเงิน และทูโทน
วาระสุดท้ายของ 80 ปี 1998
ปี สุดท้ายของ Land Cruiser 80 มาถึงในระหว่างปี 1998 หลังจากที่ทำไมเนอร์เชนจ์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 8 สิงหาคม 1998 โดยมีการเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปอีกหลายรายการ เช่น ได้ติดตั้งระบบเบรค ABS ป้องกันล้อล็อคเข้าไปในรุ่นที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (Full Time) และถุงลมนิรภัย SRS Air Bag มาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน
รุ่นต่างๆที่สิ้นสุดในปีนี้ จะประกอบด้วย

เครื่องยนต์ เกียร์ ระบบขับเคลื่อน
รุ่นแวก้อน
VX Limited 1 FZ-FE 4 A/T Full Time
VX 1 FZ-FE 5 M/T Full Time
GX 1 FZ-FE 5 M/T Full Time

รุ่นแวน
VX Limited 1 HD-FT 5 M/T Full Time
VX 1 HD-FT 4 A/T Full Time
GX 1 HD-FT 4 A/T Full Time
GX 1 HD-FT 5 M/T Full Time
GX 1 HZ 4 A/T Full Time
GX 1 HZ 5 M/T Full Time
GX 1 HZ 5 M/T Part Time

สำหรับสีภายนอกก็ยังคงมีให้เลือกมากมายถึง 9 สีด้วยกันโดยจะแบ่งออกมาเป็นทูโทนซะ 2 สี ที่เหลือจะเป็นสี่ประเภท ขาว แดง น้ำเงิน เขียว เทา หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นรถรุ่นใหม่ที่เรารู้จักกันในนาม Land Cruiser VX 100 นั่นเองครับ

สำรวจเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ที่ใช้อยู่ใน Land Cruiser 80 นั้นจะเน้นที่ความจุต้องสูงเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องเบ็นซินหรือดีเซลเพื่อให้การใช้งานได้อย่างคล่องตัวที่สุด และที่สำคัญ เกือบจะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือไมเนอร์เชนจ์ ก็จะต้องมีเรื่องของเครื่องยนต์เข้ามาเอี่ยวด้วยทุกทีไป ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดการสับสนว่าเครื่องรุ่นไหน หน้าตาเป็นเช่นไรก็จะขอแนะนำเครื่องยนต์ที่มีใช้งานอยู่ใน Land Cruiser 80 ตั้งแต่รุ่นแรกมาเลย

3 F-E เครื่องยนต์เบ็นซินในตระกูล “F” ที่นำมาใช้นี้ เป็นแบบ 6 สูบแถวเรียง OHV มีความจุกระบอกสูบเท่ากับ 3,955 ซีซี. ขนาดกระบอกสูบxระยะชักเท่ากับ 94.0 มม.x95.0 มม. ให้กำลังได้สูงสุด 155 ps ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 29.5 กก.-ม. ที่ 2,600 รอบต่อนาที อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 9.8 กก./ลิตร เป็นเครื่องติดรถ Land Cruiser รุ่นแรกตั้งแต่ปี’89-’92 โดยเครื่องยนต์ในตระกูล “F” นี้มีกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1955 เริ่มมาตั้งแต่รุ่น 2 F แล้วก็เป็น 3 F ในเวลาต่อมา ซึ่งในยุคแรกนั้นแน่นอนว่าระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นแบบคาร์บูเรเตอร์ที่ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนเมื่อโตโยต้าออก Land Cruiser บอดี้ 60 จึงได้เปลี่ยนระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงกับฝาสูบใหม่ให้กับเครื่อง 3 F มาเป็นแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์พร้อมกับเพิ่มรหัสต่อท้ายใหม่เป็น 3 F-E ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
1 HZ เครื่องยนต์ดีเซลยุคแรกที่นำมาใช้นี้มีประจำการอยู่ใน Land Cruiser ตั้งแต่รุ่นแรกที่ออกมาจนถึงต้นปี 1998 เรียกว่ามาพร้อมกันแล้วก็ไปพร้อมกันเลยทีเดียว เครื่อง 1 HZ นี้ถูกบีบให้อยู่ในรุ่นแวน GX กับรุ่น Stan dard ตลอดมาโดยอาจจะเป็นเพราะเป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังต่ำที่สุดในกลุ่มก็ว่าได้ รายละเอียดคือ เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง OHC ขนาดความจุ 4,163 ซีซี. ขนาดกระบอกสูบxระยะชักเท่ากับ 94.0 มม.x100.0 มม. ให้กำลังได้สูงสุด 135 ps ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม.ที่ 2,200 รอบต่อนาที มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 14.5 กม.ฝลิตร เท่านั้น
1 HD-T เครื่องรุ่นนี้มีมาตั้งแต่แรกคลอด จนกระทั่งต้นปี 1995 ถึงได้ถูกปรับปรุงใหม่ ซึ่งความจริงแล้ว 1 HD-T นี้ก็คือ เครื่องบล็อกเดียวกับ 1 HZ นั่นเอง เพียงแต่มีการปรับเพิ่มพลังด้วยการติดตั้งเทอร์โบเข้าไปก็จะได้แรงม้าออกมาเป็น 165 ps ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 37.2 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที และอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมีนเชื้อเพลิงที่ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม. เท่ากับ 15.2 กม./ลิตร
1 FZ-FE เป็นเครื่องเบ็นซินในตระกูล “F” ที่มีการพัฒนามาจาก 3 F-E โดยได้ทำการขยายความจุเพิ่มขึ้น รวมทั้งการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้ได้กำลังสูงสุดโดยเจ้าเครื่อง 1 FZ-FE นี้ เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 1992 เป็นต้นมาจนถึงสิ้นสุด Land Cruiser 80 เลยทีเดียว
เครื่องรุ่นนี้จะเป็นแบบเบ็นซิน 6 สูบแถวเรียง DOHC 24 วาล์ว ความจุกระบอกสูบเท่ากับ 4,476 ซีซี. ขนาดกระบอกสูบxระยะชักเท่ากับ 100.0 มม.x 95.0 มม. ให้กำลังออกมาสูงถึง 215 ps ที่ 4,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 38.0 กก.-ม. ที่ 3,200 รอบต่อนาที มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ความเร็วคงที่ 60 กม./มม. เท่ากับ 10.8 กม./ลิตร
1 HD-FT เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงครั้งล่าสุด จากรุ่น 1 HD-T มาทำการเพิ่มระบบขจัดไอเสีย EGR ปรับระบบวาล์วโดยเพิ่มวาล์วมาเป็น 24 ตัว หรือ 4 วาล์วต่อสูบ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง OHC 24 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 4,163 ซีซี. ขนาดกระบอกสูบxระยะชักเท่ากับ 94.0 มม.x100.0 มม. ให้กำลังสูงสุด 170 ps ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม.ที่ 2,500 รอบต่อนาที พร้อมกับอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 14.8 กม./ลิตร
ปิดตำนานสุดยอดรถหรูในยุค ’90 ของ Land Cruiser 80 จากค่ายโตโยต้า แต่ไม่ได้หมายความว่ารถรุ่นนี้จะหมดความนิยมตามลงไปด้วยเสียเมื่อไร เพราะปัจจุบันนี้ Land Cruiser 80 ก็ยังเป็นที่ต้องการของนักนิยมรถอ๊อฟโร้ดระดับหรูหราอยู่อีกมาก

















 แก้ไขเมื่อ : 28/3/2554 22:51:25



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ยิ่งถ้ามีคู่มือ VX 80 ( ฉบับภาษาไทย ) ลงด้วยแล้ว จะขอบคุณมากๆเลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกโหนด จาก ลูกโหนด 115.87.107.47 อังคาร, 29/3/2554 เวลา : 11:23  IP : 115.87.107.47   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 3960

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ



พี่หลวงโหนด ผมมีแต่คู่มือภาษาญี่ปุ่น เห็นชอบดูมิยาบิ น่าจะอ่านออกน่ะพี่หลวง



ตอนนี้ดูไม่ได้แล้วครับเสี่ย อาร์ต อยากดูคู่มือ 80 ภาษาไทยมากกว่า
จาก : ลูกโหนด(ลูกโหนด) 30/3/2554 15:28:26 [115.87.87.1]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

อาร์ท ZJ จาก อาร์ท ZJ 1.47.144.152 อังคาร, 29/3/2554 เวลา : 22:25  IP : 1.47.144.152   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 3973

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,19 มีนาคม 2567 (Online 2115 คน)