คำตอบที่ 133
เคยโพสใว้ กระทู้ที่แล้ว
ความในใจ
ตัดสินใจ ทำเกือบทั้งหมด เท่าที่ทำใด้ จะได้ไม่คาใจ ไม่กังวลใจ
ไหนๆ อยากลองเล่นรถใหญ่ เก่าๆ แก่ๆ แถมโดนใครต่อใคร เตือนว่าอย่างนั้น
เตือนว่าอย่างนี้ หาว่าบ้า หาเรื่องเสียเงิน จะขับหรือจะซ่อม หรือจะขับ 3 วัน ซ่อม 3 อาทิตย์
ที่หนักสุด คือผบ.ที่บ้าน ด่า แถมบอกว่าภายใน 5 ปี ห้ามร้องขอซื้อรถอีก โดนไฟท์บังคับว่า
ห้ามซื้อรถใหม่อีกภายใน 5 ปี ให้ใช้แค่ Fortuner TRD และ VX80 ปี 97 คันนี้ ก็ต้องกัดฟัน สู้
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เพื่อนๆ พี่ๆ ให้กำลังใจผมด้วยครับ งานนี้มีงบซ่อมพร้อมยางใหม่ ขนาด 285 จำนวน 4 เส้น ประมาณ 200,000 บาท ถ้างบเหลืออาจจะจัดล้อแม็กสวยๆ เท่ห์ๆใส่ซักชุด
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
ขอขอบคุณ ท่านที่ใด้ช่วยให้คำแนะนำ
ชี้แนะแนวทาง (ยุ) ให้ตัดสินใจลุยต่อ แทนที่จะเลือกขาย
โดยยังไม่ใด้ลองสัมผัสความสะใจ มนต์เสน่ห์แห่ง
แลนครุยเซอร์ VX80 ปี 97 ที่ตั้งชื่อให้ว่า "พี่แจ่ม"
มาวันนี้ อยากจะเล่า ความรู้สึกให้เพื่อนๆ สมาชิกใด้ฟัง
วันที่จะใด้รถมาแบบไม่นึกไม่ฝัน กับการที่เจ้าของเดิม มีความรู้สึกว่า
เจ้า 80 คันนี้เป็นส่วนเกินของบ้าน ไม่มีที่ให้จอด ต้องออกไปจอดนอกบ้าน
ผมเข้าไปเยี่ยม ตามประสาคนรู้จักคุ้นเคย ก็เลยลองถามเล่นๆ ว่าเบื่อจะขายหรือเปล่า
เจ้าของเลยบอกว่าเอาไปลองขับดูสิ ชอบมั้ย ถ้าชอบค่อยมาคุยกัน ผมเลยเอามาลองขับ
หลังจากลองขับแล้ว ก็นึกในใจว่า รถบ้าอะไร ใหญ่ก็ใหญ่ ขับแล้วโคลงเคลงเหมือนเรือ
อัตราเร่งก็งั้นๆ แต่มีดีที่ รู้สึกว่า ช่วงล่าง หนึบแน่นๆ ไม่วูบวาบ วิ่งไปไหนมาไหน มีแต่คนมอง
ไปร้านอาหาร ก็ดูดี ผ่านฉลามบกข้างทางก็โบกผ่าน (สาวๆก็แอบมองด้วย) อืม รถคันนี้มีดีกว่าที่คิด
ลองแล้วกลับมาขับ TRD อ้าวไหง เบาโหวงเหวง เจอสิบล้อสวนก็วูบวาบ แต่ที่ต่างคือ เครื่องรถใหม่กว่า
ข้างในหอม ออกตัวปรู๊ดปร้าด แต่ไปทางไหนก็มีเต็มไปหมด อืม ถ้าเทียบกับ 80 โคราชมีไม่น่าเกิน 5 คัน
ตัดสินใจบอกเจ้าของรถ ขอแล้วกัน จะขายเท่าไหร่ เจ้าของบอกห้าแสน เอาไปเลย ทะเบียน 3456
ซื้อมาสามหมื่นยกให้ แถมเช็คสภาพ จูนแก๊ส เปลี่ยนของเหลวให้ชุดใหญ่ ราวๆ 6-7,000 บาท
พร้อมปั้มเพาเวอร์ของแท้สั่งจากนอกราคาหมื่นเจ็ด ให้เอาใว้สำรองอีก 1 อัน เรื่องเงินค่อยคุยทีหลังก็ได้
เอาไปเลย พร้อมเซ็นต์เอกสารการโอนให้เรียบร้อย ผมก็บอกว่า แพง สี่แสนก็พอ เจ้าของบอกว่า
งั้น เอาไปดูเล่นดีกว่าไม่รู้จะเอาเงินสี่แสนไปทำอะไร ผมเลยบอกว่างั้นเอาก็เอา (ในใจนึก ต่อก็ไม่ได้)
รับรถมา ลองวิ่งใช้งานทุกวัน วิ่งไปราวๆ 2,000 กม. ไม่งอแง ไม่รวน ไม่เกเรเลย วิ่งไปไหนดูเท่ห์สุดๆ
ปรึกษาหลายๆท่าน อ่านเวบทุกวัน ทั้ง TLC และวีคเอ็น ที่คุยเยอะสุดน่าจะเป็นคุณช้าง คุณป๋อง คุณเอก พี่อำนาจ คุณอาร์ท
หลายๆท่านรวมทั้งคุณอาร์ทแนะนำให้ทำชุดน้ำก่อน ช่วงล่างก็ค่อยๆทำ อย่างอื่น ใช้ไปเช็คอาการแล้วค่อยตัดสินใจซ่อม
ถ้าจะซ่อม ก็มีให้เลือก ว่าสั่งอะไหล่จากที่ไหนใด้บ้าง บู้ท โช๊ค สปริง มียี่ห้ออะไร ซ่อมแบบเดิมๆ หรือเท่ห์ๆ ก็ยกสองนิ้ว
ช่วงล่างแนะนำท่าพระ ยกสูงแนะนำพี่โจ้ซิมบ้า ช่างล่อน ประมาณนี้
ผมบอกว่าอยากได้แบบที่เดียวจบ เพราะผมไม่มีเวลามาวุ่นวาย และจะให้คุณอาร์ทช่วยดูแลเรื่องอะไหล่
และการซ่อม ให้ออกมาสมบูรณ์มากที่สุด เท่าที่จะทำใด้ ผมคิดว่าชีวิตและความปลอดภัยของผม ตีราคาเป็นเงิน
มากกว่าค่าตัวและค่าซ่อม หลายสิบเท่่า หลายร้อยเท่า ดังนั้น ทำยังไงก็ได้ให้สมบูรณ์ที่สุด แบบรถ 80
จะให้ใด้แอบหล่อนิดๆ ด้วยการยกสองนิ้ว คุณอาร์ทบอกว่ามีช่างกบ ชลบุรี ฝีมือใช้ใด้ ถึงจะไม่เก่งเฉพาะทาง
เท่าท่านที่เอ่ยนามมาช่วงแรก แต่รถผมก็น่าจะจบใด้แบบที่ต้องการ
ผมเลยตัดสินใจ ให้คุณอาร์ทจัดอะไหล่หลักให้ เช่นหม้อน้ำ โช๊ค สปริง กันเซ กันสบัด แตร ส่วนอะไหล่อย่างอื่นก็เป็นช่างกบ
ดำเนินการ โดยเน้นว่าต้องการอะไหล่ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ไม่เอาของโนเนมหรือของไม่มีคุณภาพ เนื่องจากผมไม่ได้เป็นช่าง
และต้องใช้รถอยู่ที่โคราช คงไม่สะดวกวิ่งมาหาช่างบ่อยๆ ทำใด้แค่เปลี่ยนของเหลว เช็ค จูนแก๊ส รอทุก 50,000-60,000 กม.
ค่อยมาเช็คใหญ่อีกรอบ
หลังจากดำเนินการโอนเปลี่ยนชื่อ หมดไปเกือบ สี่พันบาท ค่าซ่อมทำสีป้ายทะเบียนอีก 600 บาท ซื้อยางใหม่ BF ALL 285 อีก 4 เส้น 35,600 บาท ส่งไปไห้ช่างกบจัดเต็ม อย่างที่เห็น
กระทู้ผม อยากให้เป็นแนวทางสำหรับสมาชิกที่สนใจจะมาลองเล่นรถเก่าอย่างแลนครุยเซอร์ ใว้เป็นแนวทาง การตัดสินใจ ที่จะซ่อม จะทำ หรือจะเสียเงินอะไร ใด้มีข้อเปรียบเทียบ จะใด้ตัดสินใจใด้ง่ายขึ้น หลังจากการซ่อมเสร็จสมบูรณ์ ผมจะทำรายการซ่อม และรายการอะไหล่ที่เปลี่ยน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด มาให้เพื่อสมาชิกดูเป็นแนวทางต่อไปในอนาคต ครับ
ปล. ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ กับค่ายางใหม่ งานนี้ต้องมีสามแสนบวกลบ ครับ