คำตอบที่ 1
       ฟังดูแล้วน่าจะเป็นที่ตัว TC ( Temperature control ) ทำการตัดต่อไม่ปกติครับ ให้ช่างแอร์ถอดดู และให้ดูสาย comp. ด้วยอาจจะมีการหลวมก็ได้ครับ

คำตอบที่ 2
       เมื่อตอนเที่ยงๆลองไปร้านแอร์มา.... ช่างลองเอาด้ามไขควงเคาะหน้าคอม 1 ทีตอนแอร์มันน็อกครับ หน้าคอมจับดังแต๊กแล้วก้ทำงานเย็นเลยครับ แล้วเอามิเตอร์เช็คเช็คไฟแบตมา 12 โวลท์ แต่เช็คไฟไปเลี้ยงหน้าคอมมา 11 - 11.5 แต่ไม่ถึง 12 โวลท์ จะเกี่ยวกันไหมครับ ช่างแนะว่าลองเปลี่ยนรีเลย์คอมแอร์ดู ผมลองเปลี่ยนแล้วก็ไม่หายครับยังน็อกอยู่ หรือว่าหน้าคอมจะลาโลกแล้ว

คำตอบที่ 3
       รองต่อไฟตรงจาก Batt ไปที่คอมฯ ดูก่อนก็ได้ครับ ว่าทุกครั้งที่จั๊มไฟหน้าครัซจับ และปล่อยปกติหรือเปล่า ถ้าต่อตรงแล้วก็หน้าจะไม่เกียวกันครับ หน้าจะเป็นที่ระอื่น รองแก้จากง่ายไปหายากดูครับ เพื่อตัดปัญหาไปทีละอย่าง

คำตอบที่ 4
       ถ้าเปิดน้ำยาไว้แค่นี้ ขับไปเหอะจนเข้าบ้านไม่มีน๊อก แต่ถ้าเร่งน้ำยามากกว่านี้ละก็ ไม่เกิน5-7 นาทีน๊อกเลยครับ มันจะเกี่ยวกับเจ้าเทอร์โมสตัสๆอะไรนั่นหรือป่าวครับ แล้วเจ้าตัวที่ว่านั่นมันอยู่ตรงไหนครับ // รบกวนด้วยนะครับ

-- ส่วนการจั๊มไฟตรงนั้นผมลองเทสแล้ว ดังต๊อกแต๊ก จับแล้วจาก ปกติดิครับ

คำตอบที่ 5
       ผมว่านำยาแอร์มันน้อยเกินไป ซึ่งจะมี Pressure switch อยู่ที่ท่อแอร์จำไม่ได้ว่าด้านแรงสูงหรือต่ำ
ถ้าแรงดันไม่ถึงจะตัดการทำงานที่หน้าคอมเพื่อป้องกันในกรณีระบบรั่ว แล้วสารหล่อลื่นรั่วออกจากระบบ
พร้อมกับน้ำยา ป้องกันการสึกหรอของ Compressor สังเกตุได้ง่ายครับว่า ถ้ากรณีตัดแล้ว ไฟเขียวก็จะไม่ติด
หน้าคอมไม่หมุน เพราะไม่มีไฟไปเลี้ยงหน้าคอม แต่ถ้าต่อไฟตรงๆจากแบตจะหมุนครับ
ข้อสังเกตุว่าน้ำยาพร่องไปในระบบหรือเปล่า เอาแบบลูกทุ่งนะครับ ดูที่ช่องใสๆที่อยู่บนหัว Dryer ที่เป็นกระปุกกลมๆ
อยู่ข้างแผงคอยล์ร้อนด้านหน้ารถ โดยถ้าระบบไม่พร่อง น้ำยาจะวิ่งแบบใสๆ ไม่มีฟองอากาศหรือมีน้อยมากๆ
ถ้าระบบพร่องลงไป จะมีฟองอากาศเล็กวิ่งปนกับน้ำยา
การแก้ไขในกรณีที่พร่องก็เติมน้ำยาเพิ่ม แต่ต้องเติมให้พอดี และพิจารณาในการเติมน้ำมัน Compressor
ด้วยถ้าเติมน้ำยาไปหลายๆครั้งแล้ว เพราะว่าน้ำมันหล่อลื่นมันจะออไปพร้อมกับน้ำยาทำความเย็น
ส่วนระยะยาวคงต้องหาจุดรั่วให้ได้ เพื่อป้องกันน้ำยาหายและลดโลกร้อนครับ (น้ำยาทำความเย็นส่งผลต่อโอโชนครับ) ลองดูนะครับ ถ้าตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่าอาการตรงตามที่ผมบอก ก็วิ่งเข้าร้านแอร์แถวบ้านเพื่อเติมน้ำยาทำความเย็นเพิ่ม (น้ำยา R134A ซื้อปลีก กก.ละ 290 บาท อย่าให้ร้านแอร์มันฟันจนหัวแบะนะครับ)

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณท่าน มหา กับ freewind มากครับ จะลองไล่เช็คจุดรั่วดู

คำตอบที่ 7
       รถใช้นานหรือยัง หน้า คลัทแอร์จะห่าง ต้องเอาแหวนรองออก 1ตัว หรีอมู่เล่เครื่องหลุดครับ ลองดูครับ

คำตอบที่ 8
       เจ้าบิ๊กของผมใช้มาเข้าปีที่ห้าแล้วครับ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องระบบแอร์เลย เติมน้ำยาแอร์แค่ครั้งแรกครั้งเดียว เย็นสบายตลอดเวลาจะเข้าห้ปีแล้ว ผมไปได้เคล็ดลับจากช่างแอร์มาว่า ตลอดการใช้งานแอร์ไม่ควรบิดอุณหภูมิบ่อยๆ หรือไม่จำเป็นไม่ต้องแตะเลยยิ่งดี ให้ใช้พัดลมผ่อนหรือเร่งอย่างเดียว หากจะบิดอุณหภูมิให้บิดอย่างเบามือหมุนช้าๆ ทีละไม่มาก หลีกเลี่ยงการบิดแบบกระชากทันที ผมก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด เลยสบายจนทุกวันนี้ ตัวอุณหภูมิผมตั้งไว้ที่ 11 - 13 นาฬิกาเป็นอย่างมาก และไม่จำเป็นไม่แตะจริงๆ ลองดูนะครับ

คำตอบที่ 9
       -- กลับมาอับเดทครับ อาการข้างต้นที่ถามมาแก้หายแล้วครับ ด้วยการล้างแผงหน้าด้วยน้ำยาครับ น้ำยามันจะกัดคราบฝุ่นไหลออกมาเป็นฟองฟอดๆเหมือนคนน้ำลายฟูมปากอ่ะครับ แล้วก็เพิ่มพัดลมหน้าไป1 ตัวโดยพ่วงรีเลยกับคอมแอร์ ให้มันหมุนเองตอนที่คอมทำงาน หลังจากแก้หายแล้ว ก็ขับได้ดีอยู่ 3 เดือนกว่าๆสังเกตุว่ามันอับๆลมอู้ๆ ได้แอบส่องๆดูว่ามีคราบเหนอะๆเยอะไปหมด

เมื่อวานนี้ก้เลยได้ฤกษ์เอารถไปล้างตู้แอร์(คอยล์เย็น) ที่ร้านแอร์

ร้านก้ดีครับล้างให้ใหม่เอี่ยม แวคน้ำยาให้เย็นฉ่ำ เสร็จตอน 4 โมงเย็น แล้วขับไปรับลูกรับเมีย ขับไปคุยไปว่าไปล้างแอร์มาเย็นดีไหมอย่างนู้นอย่างนี้

พอกลับบ้านอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็สต้าทรถจะไปธุระอีกรอบ พอเปิดแอร์มีเสียงน้ำยาแอร์วิ่งซี้ดๆๆๆ ปกติมันจะดังอยู่แป้บแล้วเงียบ แต่คราวนี้ดังนานเป็น 5นาทีเลยครับ แล้วก้เงียบหายไปพร้อมกับความเย็นฉ่ำของรถเหลือแรงลมร้อนๆพัดปะทะในหน้า แฟนก้ถามว่าไหนล้างแอร์แล้วร้อนอย่างงี้อ่ะ???

วันนี้เลยไปร้านอีกรอบนึง รื้อมาดูปรากกว่า ตู้แอร์แอร์ลาโลกไปแล้วครับ รั่ว !!! ลองอุดท่อน้ำยา แล้วอัดลมเข้าไปอีกท่อนึง แล้วเอาไปจุ่มน้ำ ฟองฟอดเหมือนรถยางรั่วเลยครับ เสียตังอีกแล้ว

สรุปค่าเสียหาย วันแรกล้างแอร์ หมดไป 900

วันนี้ เปลี่ยนตู้ 1850 ตู้เทียมครับ

น้ำยา+ค่าน้ำมันคอม+ฯลฯ 500

สรุป 2 วัน เสียตังเสียเวลาอีกด้วย



แล้วเหตุการณ์ล้างแล้วรั่วนี่เกิดขึ้นกับรถผมนี่ ครั้งที่ 3 แล้วครับ (รถตัวเอง 2 ครั้ง ระยะเวลาห่างกัน ในช่วง 3 ปี รถแม่ 1 ครั้ง ในช่วง 2 ปี)




ที่เล่ามานี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แค่อยากจะฝากบอกพี่ๆเพื่อนๆว่าใครรื้อตู้แอร์ออกมาล้าง ดูสภาพแล้วไม่น่าจะรุ่งหรือไม่ก็ตู้เก่าใช้มานานหลายปีดีดักก็พิจารณาตัดใจเปลี่ยนตู้ใหม่ไปเหอะครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเทียวไปเทียวมา เสียอารมอย่างนี้ครับ

คำตอบที่ 10
       นี่แหละครับตัวทำให้เสียเวลารื้อถึงสองรอบ มันรั่วข้างในครับ

คำตอบที่ 11
       ก็เปลี่ยนไปไม่นานนี้เหมือนกัน คอยล์เย็นเทียม เป็นของโรงงานเดียวกับเดนโซ่ ช่างว่ามันใช้ร่วมกับ นิสสัน บิ๊กเอ็มได้อีกตาหาก ราคา2800บาท ส่วนอย่างอื่นไม่ได้เปลี่ยน ค่าแรง+น้ำยา +น้ำมันคอม 1200 รวม 4000บาท

คำตอบที่ 12
      

คำตอบที่ 13
       ล้างคอยล์ร้อน หน้ารถ

คำตอบที่ 14
       ฟองฟอดอารมณ์นี้เลยครับ +555

คำตอบที่ 15
       ปกติเวลาล้างคอล์ยเย็นร้านจะต้องเช็ครั่วอยู่แ้ล้ว หรือรั่วจะมีคาบน้ำมัน ทางช่างไม่เช็คหรือครับ
แล้วทำใหม่ตอ้งเสียค่าแรง ค่าน้ำยาอีก ลูกค้าอ่วม ร้านรวย
ต่อไปเป็นผมก็ถอย