WeekendHobby.com


ใครเคยมีปัญหาความร้อนขึ้นขณะอัดขึ้นเนินชันยาวบ้างครับ
rin
จาก Rin-IZU153
อาทิตย์ที่ , 15/5/2548
เวลา : 20:27

อ่าน = 1497
203.144.177.13
       มีปัญหามาถามเพื่อนๆ ครับ Rodeo 97 มีปัญหาความร้อนขึ้นขณะไต่เนินชันยาว ๆ 100-200 เมตรได้ ความร้อนเกินครึ่งมา 3/4 ของเกจน์ ต้องจอดเปิดกระโปรง สักพักจึงไปต่อไป ไม่ทราบว่ามีปัญหาจากส่วนใดบ้าง ขอบคุณครับ
- เครื่องยนต์ 2800T ปกติทุกอย่าง เดิม ๆ ดูภายนอกไม่มีอะไรผิดปกติครับ
- ยาง 31" ยกสูง 5"

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ผมว่าครั้งต่อไปคุณ Rin - IZU 153 ลองใช้ความเร็วรอบ ( แต่ละเกียร์ ) ประมาณไม่เกิน 2,500 - 2,800 รอบดูนะครับ น่าจะดีขึ้น เพราะถ้าใช้รอบสูงๆ แล้วลากเกียร์ยาว ก็มีผลทำให้เครื่องร้อนได้ เพราะว่าเครื่อง izusu มีความจุน้ำมันเครื่องประมาณ 5 ลิตรซึ่งน้อยกว่าชาวบ้านเค้า ยิ่งเวลาไต่ขึ้นเนินสูงหรือเนินชันที่มีระยะทางยาวด้วยแล้ว บางส่วนภายในห้องเครื่อง น้ำมันไปหล่อเลี้ยงไม่ถึง ไม่สามารถหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆได้ ทำให้เกิดความร้อนสะสมมาก และยังทำให้เครื่องยนต์สึกหลอด้วยครับ อันนี้ถูกผิดอย่างไรขอให้ท่านผู้รู้ช่วยตอบเพิ่มเติมด้วยครับ



จาก ติงแนว IZU 336  61.90.69.188  อาทิตย์, 15/5/2548 เวลา : 22:20   


คำตอบที่ 2
       ลองเช็คข้อต่อออ่นด้านในล่าง เช็คดูก่อนปกติเปล่า
ความร้อนมาจากไหน.....คิด......



91009100 จาก V9100IZU349 / กันดารV9  58.8.247.158  จันทร์, 16/5/2548 เวลา : 00:11   


คำตอบที่ 3
       อาจเป็นที่อายุงานของน้ำมันเครื่องก็ได้น่ะครับ



eakraj จาก IZU178  61.90.138.28  จันทร์, 16/5/2548 เวลา : 07:26   


คำตอบที่ 4
       ตอนขึ้น ดอยอินทนนท์ ความร้อนเครื่อง ผมไม่ขึ้น อยู่ที่ประมาณ 88 องศา แต่ น้ำมันเกียร์ออโตร้อน ต้องหยุดพักครับ



เวก้า ดำ จาก Oody  61.90.43.98  จันทร์, 16/5/2548 เวลา : 20:05   


คำตอบที่ 5
       ขึ้นเนินชันยาว ๆ รถดีเซลมักเจอแบบนี้ ความเร็วต่ำแต่รอบเครื่องสูงมาก ใช้เกียร์ 4 low ช่วยสิครับ ลดรอบเครื่องลงได้เยอะเลย รับรองเครื่องไม่ร้อนครับ



จาก นุกูล  221.128.120.142  จันทร์, 16/5/2548 เวลา : 20:37   


คำตอบที่ 6
       ขอบคุณทุกท่านมากครับ

ผมใช้ 4L-2 ความเร็วรอบอยู่ที่ 2,500-3,000 รอบ
น้ำมันเครื่อง Mobil 1 เปลี่ยนถ่ายที่ 15,000 กม. พร้อมกรองโซล่า-กรองดีเซล
ระบบหล่อเย็นปกติทุกอย่างครับ

แต่ก่อนไม่ค่อยเป็น มีอยู่ครั้งที่เข้าค้อ ขึ้นจากหล่มเก่า อาการเดียวกัน ต้องจอดพักเป็นระยะ ๆ ครับ
และมาช่วงหลังมีอาการบ่อย ขึ้นมากครับ




rin จาก Rin  203.144.177.31  อังคาร, 17/5/2548 เวลา : 21:49   


คำตอบที่ 7
      
1.ตรวจวัดระดับ นมค.ดูรึยังครับ ขีดมันอยู่ระดับปกติมั้ย
2.ท่านใช้ 4L-2 รอบเครื่อง 2,500 - 3,000 นั้น ถ้ามีเวลาและโอกาสได้ไปที่เดิมหรือที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศใกล้เคียงกัน ลองใช้ 4L-2 แล้วเลี้ยงรอบเครื่องอย่างให้เกิน 2,500 รอบ/นาที แล้วดูว่าความร้อนขึ้นอีกหรือไม่
3.ถ้าความร้อนยังขึ้นสูงเหมือนอาการตามครั้งแรก ลองตรวจสอบ " วาล์วน้ำ " ว่าเปิด - ปิด ปกติดีหรือเปล่า ไม่ทราบว่ารถมีอายุการใช้งานว่ามากน้อยเพียงใด
4.สังเกตุตอนใช้รถในกทม.ช่วงรถติดดูว่า ความร้อนขึ้นเกินกว่าปกติหรือไม่ ถ้ายังมีอาการเดิม ผมคิดว่าต้องตรวจเช็ค วาล์วน้ำ/หม้อน้ำ/ปั๊มน้ำ แล้วละครับ



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.129.183  อังคาร, 17/5/2548 เวลา : 23:57   


คำตอบที่ 8
       ใช่เลยพี่ติงแนว



จาก ตึ๋ง IZU 335  203.155.40.132  พุธ, 18/5/2548 เวลา : 07:33   


คำตอบที่ 9
       ฟรีปั๊มพัดลม เช็คด้วยครับ ซิลีโคน อาจเสื่อมแล้ว



จาก ranger  203.151.140.117  พุธ, 18/5/2548 เวลา : 11:52   


คำตอบที่ 10
       เพิ่มเติมจากคต.7 ฝาปิดหม้อน้ำด้วยนะครับ ลืมจนได้ซิผม



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.129.123  พุธ, 18/5/2548 เวลา : 20:14   


คำตอบที่ 11
       izusu มีความจุน้ำมันเครื่องประมาณ 5 ลิตรซึ่งน้อยกว่าชาวบ้านเค้า ...แก้ไขได้ไหมครับขอความรู้หน่อย....ครับ



91009100 จาก V9100IZU349 / กันดารV9  58.8.246.79  พุธ, 18/5/2548 เวลา : 20:22   


คำตอบที่ 12
       ขอบคุณ คุณติงแนวIZU336 และทุกท่านมาก ๆ ครับ
รถใช้งาน 280,000 กม.แล้ว ตามสภาพปกติวิ่งหรือเดินทางเรียบ จอดติดไฟแดง หรืออัด ไม่มีความร้อนขึ้น เกจ์อยู่เกือบกลางปกติครับ จะเป็นก็ตอนขึ้นเขานี่แหล่ะครับ ที่ความเร็วต่ำ รอบเครื่องประมาณเกือบ 3,000 รอบ เจอปัญหาตลอด สรุปผมจะตรวจเช็ค 2 ข้อนี้ก่อน
1. ฟรีปั๊ม
2. ฝาหม้อน้ำ วาล์วน้ำ
ถ้าไม่หาย คงจะต้องเช็คระบบหล่อเย็นทั้งระบบ แล้วล่ะครับ

ผลเป็นประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไปนะครับ ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ครับ





rin จาก Rin  202.12.118.36  พฤหัสบดี, 19/5/2548 เวลา : 09:05   


คำตอบที่ 13
       ถ้ายังไม่เคยถอดหม้อน้ำล้าง
ก็ลองไปล้างดูครับ
หรือถ้ามีทุนก็เปลี่ยนได้เลย
เอาแบบ 3 ช่อง
รับรองกี่ดอยๆก็ขึ้นสบาย
รถผมก็เอาไปล้างมา
(เอาประหยัดไว้ก่อน)
ขนาดรถผมปี 95 นั่งเต็มคัน 5 คน
ยังขึ้นสบายๆเลย ไม่ต้องจอดพัก
ดอยอิน ดอยอ่างขาง ดอยสุเทพ ไม่มีปัญหาครับ



จาก izu28  221.128.96.91  พฤหัสบดี, 19/5/2548 เวลา : 10:38   


คำตอบที่ 14
       ตอบคุณ V 9100 IZU 349 กันดาร V9 ปริมาตรความจุน้ำมันเครื่องในห้องเครื่องแก้ไขไม่ได้ครับ ถ้าคิดจะดัดแปลงไม่แนะนำครับ ใช้งานปกติบนทางราบทั่วไปไม่มีปัญหาไม่ต้องกังวลครับ แม้แต่ใช้ในทางขึ้นเนินขึ้นเขา ไม่พังหรอกครับ เพียงแต่น้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนภายในบางชิ้นได้ไม่เต็มที่เวลาขึ้นทางสูงชันเท่านั้นเอง มันก็ต้องมีการสึกหรอกว่าการใช้งานปกติบ้างนิดหน่อยไม่มากมายอะไรนัก ถ้านานๆครั้งก็แทบไม่มีผลเสีย เพราะเส้นทางมันก็มีขึ้นมีลง ยังไงๆก็ไม่พังครับ ขอให้ดูแลรักษารถตามระยะที่ทางบริษัทฯผู้ผลิตเค้ากำหนดไว้ก็เพียงพอแล้ว อะไรที่มันขาดมันเกิน มันเสีย มันเสื่อมสภาพ ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย เท่านี้ก็ใช้ได้เป็นสิบๆปีละครับ ท่านใดต้องการอธิบายเพิ่มเติม ช่วยด้วยครับ มันต้องมีตกหล่นแน่ ผมก็ไม่ช่างซะด้วย ตอบตามที่ช่างเค้าชี้แจงมาให้ฟังอีกทีละครับ



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.129.84  พฤหัสบดี, 19/5/2548 เวลา : 17:27   


คำตอบที่ 15
       ยังไงก็ขอให้พบปัญหาที่เกิดขึ้นและแก้ไขได้โดยเร็วนะครับ



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.129.84  พฤหัสบดี, 19/5/2548 เวลา : 17:31   


คำตอบที่ 16
       เรื่องความจุน้ำมันเครื่องมากหรือน้อย มันไม่เกี่ยวหรอกครับ
เพราะน้ำมันเครื่องที่ไปหล่อลื่นไม่ได้ขังอยู่ในอ่างเฉยๆนะครับ มุมเอียงของรถไม่มีผลต่อการส่งน้ำมัน เพราะน้ำมันเครื่องก็มีปั๊มที่จะปั๊มน้ำมันเครื่องให้ไปสู่ท่อส่งน้ำมันเครื่อง
ไม่เชื่อลองดูเวลาเร่งเครื่องแล้วเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องจะสูงขึ้นด้วย
นั่นแสดงว่ามีน้ำมันเครื่องอยู่ในระบบตามปกติครับ

ที่บอกว่าน้ำมันเครื่องจุน้อย จะทำให้ความร้อนขึ้นเป็นความเชื่อของช่างรุ่นเก่า
ที่เคยชินกับเครื่องยนต์ดีเซลยุคที่ยังไม่มีปั๊มน้ำมันเครื่องหรือเปล่า...



จาก 183  202.129.14.234  พฤหัสบดี, 19/5/2548 เวลา : 23:58   


คำตอบที่ 17
       น้ำมันเครื่องจุน้อย กว่า ร้อนได้เร็วมากกว่า ด้วยหรือเปล่า(ไม่น่ามีผลมากนะ...)(ขอดูรูปรถหน่อย...ประกอบ)



91009100 จาก V9100IZU349 / กันดารV9   ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 00:36   


คำตอบที่ 18
       ขอบคุณมากครับท่าน 183 ที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ถ้าไม่ได้ท่านช่วยแนะนำ ผมคงทำให้คุณ V 9100 IZU 349 กันดาร V9 เข้าใจผิดในสาระสำคัญแน่ๆ สรุปคือข้อมูลที่ถูกต้องก็ตาม คต.16 ของท่าน 183 นะครับ ต้องขอโทษคุณ V 9100 IZU 349 กันดาร V9 มา ณ ที่นี้ด้วยครับ



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.143.244  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 00:36   


คำตอบที่ 19
       ไม่เป็นไรครับ(ไม่ต้องขอโทษก็ได้)

(((((แลกกันคิดช่วยกันแก้ไขเติมเต็มครับ)))))))))
ก็สนใจเรื่องนี้อยู่เหตุใดทำอ่างเล็กเพราะอะไร
มีบางช่างแจ้งควรเปลี่ยน..............แล้วจะดีขึ้น
เกี่ยวกับทางเดินน้ำมัน อะไรประมาณนี้ ในอ่าง ลองดูเพือมีใครทราบพอจะเข้าใจตอบให้ผม อ๋อหน่อย.....



91009100 จาก V9100IZU349 / กันดารV9  58.8.246.189  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 00:50   


คำตอบที่ 20
       เห็นด้วยครับ...ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ...แชร์กัน
ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าควรจะทำอย่างไร...
แต่เท่าที่ผมใช้izuมา 2 คัน ผมพบว่าการใช้ นมค น้อยๆกลับมีผลดีคือ
1.ค่าเปลี่ยน นมค ถูกกว่ายี่ห้ออื่น เพราะแกลลอนเดียวอยู่
2.หรือแม้แต่เวลาเปลี่ยนกรอง อย่างมากก็ซื้อเพิ่มอีก 1 ลิตร ก็พอ ไม่จำเป็นต้องซื้อ 2 แกลลอน แบบรถยี่ห้ออื่น

สมมติคุณอยากใช้แบบสังเคราะห์ 100% ถ้าเป็นรถยี่ห้ออื่น คุณต้องซื้อ 2 แกลลอนๆละพันกว่าเชียวนะ...แต่ถ้า izu ซื้อแค่ 1 ก็พอ

และผมไม่เคยกังวลเลย เพราะมีเกจ์วัดแรงดันมาให้ น้ำมันในอ่างอยู่ยังไงไม่สน ขอแค่น้ำมันในระบบยังเดิน ทุกอย่างก็ OK
แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่า izu คงต้องการความประหยัด และเครื่องยนต์ก็เป็นแบบแรงอัดในกระบอกสูบต่ำ ไม่มี turbo ที่มีก็เป็น light turbo ไม่ใช่ turbo charger จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องมากมายเพื่อระบายความร้อน

ยังไงผมก็คิดว่า...ความร้อนที่พุ่งสูง...ประเด็นหลักน่าจะมาจากระบบน้ำหล่อเย็นมากกว่า
ต้องลองไล่เช็คระบบหล่อเย็นทั้งหมดละครับ



จาก 183  202.129.14.196  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 13:27   


คำตอบที่ 21
       เห็นพูดกันถึงเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง

ใครพอหาหรือรู้สเปคบ้างครับว่า สภาพปกติ แรงดันเป็นกี่ PSI ครับ

สังเกตุด็ เข็มไม่ค่อยขยับ มาตั้งแต่ป้ายแดง จน ป้ายบุบ ครับผม



จาก IZU  58.9.132.57  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 17:11   


คำตอบที่ 22
       ตอบอีกครั้ง..ของ #21
โดยปกติ...ถ้าหากเราเติมน้ำมันเครื่องในระดับปกติ เข็มกระดิกมาค้างอยู่
ประมาณกลางๆเกจ์อ่ะครับ
ถามว่า ทำไม เข็มไม่กระดิก ก็เพราะเรามีน้ำมันเครื่องในปริมาณพอดีไงครับ
ไม่ว่าจะเร่งเครื่องแรงหรือเดินเบา...แรงดันก็คงที่

แต่หากมีปริมาณน้อยกว่าที่ควรมี...เข็มก็จะตก บอกให้เจ้าของรถทราบ
ถึงความผิดปกติว่า...มีบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว...ต้องเช็คน้ำมันเครื่องด่วน

ในขณะเดียวกัน ถ้าเข็มขึ้นไปสูง..โดยเฉพาะเวลาเร่งเครื่อง เข็มจะพุ่ง
สูงขึ้นไปมาก...บอกให้รู้ว่า เราเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไปแล้ว
เวลาเร่งเครื่อง ปั๊มจะส่งน้ำมันเครื่องจำนวนมากกว่าปกติเข้าไปในระบบ
ที่มีพื้นที่เท่าเดิม แรงดันจึงเพิ่มขึ้นมาก...
และจะส่งผลให้บรรดาประเก็นต่างๆ เสื่อมเร็วอันเนื่องมาจากการรับ
แรงดันมากกว่าที่มันควรจะรับ...
ส่วนตัวเลขเท่าไหร่...ไม่ทราบจริงๆครับ แต่ถึงทราบ
ก็ยากจะเฝ้าดูจากเกจ์ เพราะมันไม่ได้แสดงผลแบบดิจิตอลนี่ครับ

เอาเป็นว่า...ให้มันอยู่กลางๆไว้...อย่าสวิงขึ้นๆลงๆตามจังหวะการเร่ง
ก็ OK แล้วละครับ



จาก 183  202.129.14.196  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 18:15   


คำตอบที่ 23
       เห็นภาพเลย.......ชอบ ชอบ



91009100 จาก V9100IZU349 / กันดารV9  58.8.247.129  ศุกร์, 20/5/2548 เวลา : 18:34   


คำตอบที่ 24
      



จาก ติงแนว IZU 336  61.7.130.121  เสาร์, 21/5/2548 เวลา : 00:38   


คำตอบที่ 25
       ขอบคุณทุกท่านมากเลยนะครับ



rin จาก Rin-IZU153  202.12.118.36  เสาร์, 21/5/2548 เวลา : 09:39   


คำตอบที่ 26
       ของผมสงสัยมันจะไปแล้วมั้ง3.0 DI.....ใช้รอบ2800 ถึง 3200 บางครั้งกดแช่ตั้ง3600แช่ตั้งนานความร้อนไม่ขึ้น พอจอดพักติดเครื่องไว้ความร้อนกลับฟุ่งขึ้นใกล้ตัวHพอขับไปนิดนึงความร้อนกลับลดลงต่ำกว่าตรงกลางอีก อะไรมันเสียครับ



fair จาก IZU 382   เสาร์, 21/5/2548 เวลา : 12:05   


คำตอบที่ 27
       ตอบคุณ #26
กรณีของคุณแก้ไม่ยากครับ
เมื่อคุณใช้รอบสูง...พัดลมหน้าหม้อก็หมุนเร็วดูดลมผ่านได้มาก...น้ำหล่อเย็นก็ผ่านเร็วตามรอบเครื่อง
เครื่องก็จะไม่ร้อน
พอจอดปั๊บ...เดินเบา...พัดลมหมุนช้าลง...น้ำหล่อเย็นก็ผ่านช้า
ขณะที่ความร้อนสะสมมีมาก...ความร้อนก็เลยพุ่งปรี๊ด...
พอขับออกไป...น้ำผ่านเร็วขึ้น...พัดลมหมุนเร็วขึ้นประกอบกับลมปะทะ..ความร้อนก็ลด

ปัญหา
-น้ำหล่อเย็นอาจจะเก่าหรือปั๊มน้ำอาจทำงานได้ไม่ดี
-รอบเดินเบาน่าจะต่ำเกินไป...ทำให้น้ำหล่อเย็นไหลเวียนช้า และพัดลมดูดอากาศได้น้อย...

แก้
1.เช็คปั๊มน้ำหล่อเย็น..ว่ายังทำงานได้ปกติหรือไม่...
2.เปลี่ยนน้ำหล่อเย็นใหม่...พร้อมน้ำยา coolant กันน้ำเดือด
3.ปรับตั้งรอบเดินเบาใหม่ ให้สูงขึ้น
4.ถ้าไม่ทำข้อ 3 ก็ติดตั้งพัดลมไฟฟ้าหน้าหม้อน้ำ

อาจทำทั้งหมดทุกข้อ..หรือเลือกทำทีละข้อ..ข้อไหนใช้งบไม่มาก็ลองทำก่อน
ถ้ายังไม่หายก็ทำเพิ่มทีละข้อ.....



จาก 183  202.129.14.196  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 11:39   


คำตอบที่ 28
       เยี่ยมยอด ขอบคุณมากครับ คุณ183....



dduang จาก ด.ด้วง  203.113.71.106  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 11:59   


คำตอบที่ 29
       ถ้าถอดวาลน้ำออกจะช่วยได้ไหม? ดี ไม่ดีอย่างไร?วานผู้รู้ตอบด้วยครับ



จาก blue cameo  203.151.140.118  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 12:10   


คำตอบที่ 30
       พอดีว่าผมจะเข้ามาช่วยตอบปัญหาในเรื่องของเครื่องยนต์ร้อนในประเด็นแรก พอดีอ่านมาเรื่อยๆชักมีหลายประเด็นก็จะขอตอบรวมให้เลยแล้วกัน เนื่องจากผมจบช่างยนต์มาก็พอจะมีความรู้ทางด้านนี้บ้าง ถ้าใครเห็นว่ามันผิดก็ช่วยแย้งมาด้วยนะครับผมจะได้แก้ไขในความจำที่ผิดๆของผมด้วยและอีกอย่างผมก็จบมาหลายปีแล้วอาจจะมีหลงลืมบ้าง
ก็ขอตอบจากคำถามแรกเลยแล้วกัน
1. เรื่องความร้อนขึ้นเวลาขับขึ้นเขา
จากข้อนี้ผมมีประสบการณ์ตรงนี้พอดีแต่ไม่ทราบเหมือนกันว่ารถดีเซลกับรถเบนซินจะเหมือนกันหรือเปล่า คือที่ผมเจอะมาเป็นรถเก๋งเครื่องเบนซิน คือผมขับรถเก๋ง 1500 cc ขึ้นดอยอ่างขางก็ขึ้นไปได้ประมาณ200เมตร เกจน์ความร้อนได้ขึ้นมาประมาณครึ่งหนึ่ง ผมจึงต้องจอดรถซักพักแล้วจึงไปต่อ เท่าที่ผมคิดดูแล้วสาเหตุน่าเกิดจาก ผมไม่ได้ปิดแอร์ในขณะที่ขับขึ้นเขา อันนี้จะเป็นสาเหตุให้เครื่องร้อนเนื่องจากในขณะที่ผมขับขึ้นเขาผมได้เร่งรอบเครื่องสูงขึ้นมาตลอดและในรถมีคนนั่งเต็มรถและยังเปิดแอร์อีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้เครื่องจะต้องทำงานหนักมากจึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นแต่เมื่อจอดให้เครื่องเย็นสักพักก็ไปต่อได้ และตอนหลังผมได้ปิดแอร์และขับขึ้นเหมือนเดิมปรากฏว่าไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน ดังนั้นผมคิดว่าน่าจะมาจากเรื่องการใช้รอบเครื่องสูงเป็นระยะทางไกลและเปิดแอร์จึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นสูงดังนั้นประเด็นของคุณ Rin-IZU153ลองดูแล้วกันว่าจะเป็นไปได้เหมือนผมไหม
2. เรื่องเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องที่อยู่ในเครื่องจะส่งไปตามชิ้นส่วนต่างๆได้โดยใช้ปั้มน้ำมันเครื่องเป็นตัวส่งออกไปตามชิ้นส่วนต่างๆและที่ปั้มนี้เมื่อมีความเร็วรอบต่ำก็จะส่งแรงดันออกไปได้ต่ำเมื่อมีความเร็วรอบสูงก็จะส่งแรงดันออกไปได้สูงเช่นกัน และเนื่องจากเกจน์ที่ใช้วัดน้ำมันเครื่องที่เราใช้กันในรถนั้นเป็นเกจน์ชนิดที่ใช้วัดแรงดันน้ำมัน ดังนั้นมันจึงขยับขึ้นลงตามแรงดันของปั้มน้ำมันเครื่อง ถ้ารอบเครื่องต่ำรอบของปั้มน้ำมันเครื่องก็จะต่ำแรงดันน้ำมันก็จะต่ำเช่นกันแต่ถ้ารอบเครื่องสูง รอบของปั้มน้ำมันเครื่องก็จะสูงทำให้แรงดันน้ำมันเครื่องสูงตามเช่นกันดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเกจน์น้ำมันที่เห็นขยับขึ้นลงได้ก็เนื่องมาจากแรงดันของปั้มน้ำมันเครื่องโดยทำงานสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ซึ่งอันนี้จะไม่เกี่ยวกับการเติมน้ำมันเครื่องน้อยหรือมาก
3. เรื่องวาล์วน้ำ
วาล์วน้ำจะมีหน้าที่กักน้ำในระบบหล่อเย็นเอาไว้ ยังไม่ให้หมุนวนไปที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนจนกว่าความร้อนจะสูงถึงระดับที่วาล์วน้ำเปิด ก็จะทำให้น้ำในระบบหรือน้ำในหม้อน้ำไหลวนผ่านไปตามท่อต่างๆ ในเครื่องยนต์ ดูดซับเอาความร้อนที่อยู่ในเครื่องยนต์ให้ไหลออกมากับน้ำผ่านมาที่รังผึ้งหม้อน้ำให้พัดลมและกระแสลมในขณะรถวิ่งพัดระบายความร้อนออกจากน้ำ ทำให้อุณหภูมิน้ำลดลงแล้วไหลกับเข้าเครื่องยนต์ใหม่ จะทำงานอยู่แบบนี้ตลอดเวลาเพื่อรักษาอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ไว้ (ประมาณ85-95 องศาเซลเซียส)
ถ้าไม่มีวาล์วน้ำเวลารถติดนานๆ ความร้อนจะสูง พอรถวิ่งเร็วๆ ความร้อนจะลดลงแต่ถ้ามีวาล์วน้ำอยู่ไม่ว่าจะวิ่งเร็ววิ่งช้าหรือจอดอยู่ อุณหภูมิจะคงที่อยู่ (คัดลอกจาก http://s-sothorn.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=57016&Ntype=2 )
ทั้งหมดนี้อาจจะยาวสักหน่อยแต่ก็พยายามให้กระชับที่สุดแล้ว ยังไงถ้าผิดพลาดก็ช่วยแนะนำด้วย



จาก 369  61.19.47.117  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 14:38   


คำตอบที่ 31
       พอดีว่าผมจะเข้ามาช่วยตอบปัญหาในเรื่องของเครื่องยนต์ร้อนในประเด็นแรก พอดีอ่านมาเรื่อยๆชักมีหลายประเด็นก็จะขอตอบรวมให้เลยแล้วกัน เนื่องจากผมจบช่างยนต์มาก็พอจะมีความรู้ทางด้านนี้บ้าง ถ้าใครเห็นว่ามันผิดก็ช่วยแย้งมาด้วยนะครับผมจะได้แก้ไขในความจำที่ผิดๆของผมด้วยและอีกอย่างผมก็จบมาหลายปีแล้วอาจจะมีหลงลืมบ้าง
ก็ขอตอบจากคำถามแรกเลยแล้วกัน
1. เรื่องความร้อนขึ้นเวลาขับขึ้นเขา
จากข้อนี้ผมมีประสบการณ์ตรงนี้พอดีแต่ไม่ทราบเหมือนกันว่ารถดีเซลกับรถเบนซินจะเหมือนกันหรือเปล่า คือที่ผมเจอะมาเป็นรถเก๋งเครื่องเบนซิน คือผมขับรถเก๋ง 1500 cc ขึ้นดอยอ่างขางก็ขึ้นไปได้ประมาณ200เมตร เกจน์ความร้อนได้ขึ้นมาประมาณครึ่งหนึ่ง ผมจึงต้องจอดรถซักพักแล้วจึงไปต่อ เท่าที่ผมคิดดูแล้วสาเหตุน่าเกิดจาก ผมไม่ได้ปิดแอร์ในขณะที่ขับขึ้นเขา อันนี้จะเป็นสาเหตุให้เครื่องร้อนเนื่องจากในขณะที่ผมขับขึ้นเขาผมได้เร่งรอบเครื่องสูงขึ้นมาตลอดและในรถมีคนนั่งเต็มรถและยังเปิดแอร์อีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้เครื่องจะต้องทำงานหนักมากจึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นแต่เมื่อจอดให้เครื่องเย็นสักพักก็ไปต่อได้ และตอนหลังผมได้ปิดแอร์และขับขึ้นเหมือนเดิมปรากฏว่าไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน ดังนั้นผมคิดว่าน่าจะมาจากเรื่องการใช้รอบเครื่องสูงเป็นระยะทางไกลและเปิดแอร์จึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นสูงดังนั้นประเด็นของคุณ Rin-IZU153ลองดูแล้วกันว่าจะเป็นไปได้เหมือนผมไหม
2. เรื่องเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องที่อยู่ในเครื่องจะส่งไปตามชิ้นส่วนต่างๆได้โดยใช้ปั้มน้ำมันเครื่องเป็นตัวส่งออกไปตามชิ้นส่วนต่างๆและที่ปั้มนี้เมื่อมีความเร็วรอบต่ำก็จะส่งแรงดันออกไปได้ต่ำเมื่อมีความเร็วรอบสูงก็จะส่งแรงดันออกไปได้สูงเช่นกัน และเนื่องจากเกจน์ที่ใช้วัดน้ำมันเครื่องที่เราใช้กันในรถนั้นเป็นเกจน์ชนิดที่ใช้วัดแรงดันน้ำมัน ดังนั้นมันจึงขยับขึ้นลงตามแรงดันของปั้มน้ำมันเครื่อง ถ้ารอบเครื่องต่ำรอบของปั้มน้ำมันเครื่องก็จะต่ำแรงดันน้ำมันก็จะต่ำเช่นกันแต่ถ้ารอบเครื่องสูง รอบของปั้มน้ำมันเครื่องก็จะสูงทำให้แรงดันน้ำมันเครื่องสูงตามเช่นกันดังนั้นจึงสรุปได้ว่าเกจน์น้ำมันที่เห็นขยับขึ้นลงได้ก็เนื่องมาจากแรงดันของปั้มน้ำมันเครื่องโดยทำงานสัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ซึ่งอันนี้จะไม่เกี่ยวกับการเติมน้ำมันเครื่องน้อยหรือมาก
3. เรื่องวาล์วน้ำ
วาล์วน้ำจะมีหน้าที่กักน้ำในระบบหล่อเย็นเอาไว้ ยังไม่ให้หมุนวนไปที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนจนกว่าความร้อนจะสูงถึงระดับที่วาล์วน้ำเปิด ก็จะทำให้น้ำในระบบหรือน้ำในหม้อน้ำไหลวนผ่านไปตามท่อต่างๆ ในเครื่องยนต์ ดูดซับเอาความร้อนที่อยู่ในเครื่องยนต์ให้ไหลออกมากับน้ำผ่านมาที่รังผึ้งหม้อน้ำให้พัดลมและกระแสลมในขณะรถวิ่งพัดระบายความร้อนออกจากน้ำ ทำให้อุณหภูมิน้ำลดลงแล้วไหลกับเข้าเครื่องยนต์ใหม่ จะทำงานอยู่แบบนี้ตลอดเวลาเพื่อรักษาอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ไว้ (ประมาณ85-95 องศาเซลเซียส)
ถ้าไม่มีวาล์วน้ำเวลารถติดนานๆ ความร้อนจะสูง พอรถวิ่งเร็วๆ ความร้อนจะลดลงแต่ถ้ามีวาล์วน้ำอยู่ไม่ว่าจะวิ่งเร็ววิ่งช้าหรือจอดอยู่ อุณหภูมิจะคงที่อยู่ (คัดลอกจาก http://s-sothorn.com/mcontents/marticle.php?headtitle=mcontents&id=57016&Ntype=2 )
ทั้งหมดนี้อาจจะยาวสักหน่อยแต่ก็พยายามให้กระชับที่สุดแล้ว ยังไงถ้าผิดพลาดก็ช่วยแนะนำด้วย



จาก 369  61.19.47.117  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 14:51   


คำตอบที่ 32
       ผมขอเพิ่มเติมจาก #30 ในข้อ 2
คือที่ผมบอกไปว่า...เกจ์น้ำมันเครื่องมันจะอยู่กลางๆ...ผมก็หมายถึงว่า
มันจะขยับขึ้นลงเล็กน้อย ตามจังหวะการเร่งและผ่อนครับ..เข้าใจตรงกัน

แต่ในกรณีที่มันสวิงมากๆ..เช่น
รอบเดินเบาลงฮวบ...เร่งเครื่องก็ขึ้นพรวดพราดกลับมาที่ตรงกลาง
หรือรอบเดินเบาก็ปกติ..แต่พอเร่งขึ้นปรี๊ด...ไปสูง
อาการแบบนี้หละครับ...ไม่ปกติ

ให้ลองนึกถึงเอาน้ำใส่ถังแล้วต่อท่อออกมา
ถ้าใส่น้ำไปเพียงเล็กน้อย...น้ำก็จะไหลออกมาเบา
ถ้าใส่ไปมาก...น้ำก็จะไหลแรง
ทั้งๆที่ขนาดท่อเท่าเดิม...แรงกดอากาศบนผิวน้ำ(ซึ่งในรถก็คือปั๊ม)เท่าเดิม
ดังนั้น...เร่งเครื่องที่รอบเท่ากัน ซึ่งปั๊มจะทำงานเท่ากัน...แต่ใส่น้ำมันเครื่องระดับต่างกัน...
ค่าที่ได้จะต่างกันแน่นอนครับ...


รถผมเคยเจอมาเอง
ตอนแรกผมเข้าใจว่า...
เติมมากไว้ก่อนดีกว่าขาด..ใส่ซะเต็มที่เลยครับ
ตอนเดินเบามันก็ไม่มีไรอ่ะ
พอเร่ง...โอ้โห...เข็มขึ้นไปซะเกือบสุด...
ทีแรกยังไม่คิดว่าเป็นเพราะเติมมาก
จนเข้าศูนย์ทางศูนย์ต้องถ่ายออก
และอธิบายแถมทดสอบให้ดูด้วย
ว่าเติมมากเติมน้อย เข็มจะขยับยังไงบ้าง
เป็นประสบการณ์ตรงครับ



จาก 183  202.129.14.196  พุธ, 25/5/2548 เวลา : 15:52   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 6:17:02

Error processing SSI file