คำตอบที่ 1
       ต้องแจ้งก่อนว่าที่ซื้อรุ่นนี้ (คันทางขวา) เพราะตอนนั้นมันเป็นรุ่นท๊อปที่สุดของ ISUZU 2800 TURBO ออกรถปี 2000 ผมว่าไม่ว่ารถรุ่นไหนก็มีปัญหากันทั้งนั้นละครับ มันอยู่ที่การบำรุงรักษาครับ ถ้าใช้งานหนักแต่ท่านบำรุงรักษาอย่างดี มันก็ทนครับ ถ้าเป็นประเภทใช้อย่างเดียวก็อยู่ไม่นานครับ อย่างคันนี้ (คันทางซ้าย)เกือบ 20 ปีเครื่องไม่เคยเปลี่ยนแค่ทำสีอย่างเดียว วิ่งมากว่า 800,000 ก.ม. และตอนนี้น้าผมก็ใช้อยู่ มันก็บอกได้ถึงการดูแลครับ รถถ้าทนจริงมันต้องไม่เสียไม่เปลี่ยนอะไรเลยครับผมว่า (แล้วมันมีหรือป่าวเนี้ย)

คำตอบที่ 2
       เหงด้วยกะน้าตึ๋งฮะ

คำตอบที่ 3
       จริง ๆ อย่างที่น้าติ๋งแสดงคร้าบ ผมยังเสียดายคันเก่าอยู่จนบัดนี้ไม่น่าขาบเร๊ยยยยย.....

คำตอบที่ 4
       ใช่รุ่นนี้อยู่เหมือนกัน 2.8t ก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก ผมมองว่าเป็นรถที่ระบบยังเป็นรุ่นเก่าอยู่นะครับ แต่ในส่วนที่เป็นรุ่นเก่านั้น เห็นเพื่อนหลายๆคนที่ใช้รุ่นที่ใหม่กว่า หันมาเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่างกลับมาใช้ของรุ่นนี้ เช่นพวกกล่อง พวกไฟหน้า..

สุดท้ายรุ่นใหนก็ได้ครับตามกำลังของกระเป๋าเราเอง..

คำตอบที่ 5
       3000 กล่องพังเห็นออกบ่อยๆ 2800 ไม่เห็นมีอะไรพัง ยอมรับเถอะว่า 3000 ห่วยกว่าและ แดรกน้ำมันกว่าครับ

คำตอบที่ 6
       3000 แดรก น้อยกว่า2800 นะโว้ย รู้ไว้ด้วย
ทางไกล 120-130 ยังได้10โลลิตร บนตัวถัง 1.8 ตัน ออโต้ 2800 ได้หรือ ว่าเราได้ไงว่าแดรก
2800 มีดีตรงไม่มีไฟฟ้าควบคุม ซ่อมง่าย ซ่อมถูก กินน้ำมันมากกว่า3000 แต่งแรงง่ายสำหรับ(ช่างโบราณหน่อย)
3000 มีกล่องควบคุมเครื่องยนต์ กินน้ำมันน้อยกว่า2800ซ่อมยากกว่า ค่าอะไหล่แพงกว่า แต่งแรงง่ายกว่า(ช่างดิจิตอล)พ่วงกล่องโม1ใบใส่ชั่วโมงหนึ่งเสร็จ จูนตามใจคนขับ แรงแบบ2800 ทำ3วันกว่าจะได้

คำตอบที่ 7
       ใช้เครื่อง 3000 อยู่ 5 ปีแล้วยังเนียบอยู่เลย(ยกสูงด้วย + ยาง33 อนาคต จะเปลี่ยนเป็น ยาง 285 ขอบ16)
เรียนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ประหยัดน้ำมันทั้งนั้น มาก-น้อย อยู่ที่การขับขี่ กะคนขับ

คำตอบที่ 8
       2800 ปี98 ซื้อมือสองมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ยังไม่พบว่ามีจุดอ่อนตรงไหนเลย เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและอะไหล่ตามอายุการใช้งาน อัตราการบริโภคไม่ถึงกับกินมาก ตอนนี้ใส่ยาง 31 วิ่ง 90-110 ประมาณ 10-11 โล/ลิตร ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ถ้าจะมาเทียบกับรถรุ่นใหม่ๆ นั้น มีจุดอ่อนแน่นอน และมากด้วย ใจรักเจ้าคันนี้แล้วไม่คิดจะเปลี่ยนใหม่ (เสียกับการเสริมหล่อไว้ค่อนข้างเยอะ...555)

คำตอบที่ 9
       อย่าบอกว่าแดกสิครับไม่สุภาพ ต้องใช้คำว่ายัดห่าสิครับ

คำตอบที่ 10
       2.8 ใช้ดี ไม่มีปัญหา รับประทานน้ำมันพอรับได้ครับ

คำตอบที่ 11
       ดุกันชิบหาย เก่งกันจัง ชิบหาย ฟังเค้ามาแล้วมาคุย ใครมี 2 คัน ทั้ง 2800 แล้ะ 3000 ค่อยมาตัดสิน มีคันเดียวอย่าเห่อดีกว่า ชิบหาย

คำตอบที่ 12
       เรียนคุณ วว กรุณาใช้คำที่สุภาพด้วยน่ะครับ ส่วนใหญ่คนที่ตอบกระทู้ จะเป็นคนที่มีการศึกษามีมารยาทให้เกียรติซึ่งกันและกันน่ะครับ

คำตอบที่ 13
       ผมเคยเจอหางปลาหม้อน้ำหักความร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว(ฮีทเลยล่ะแต่กว่าจะรู้) แต่โชคดีที่กล่องตัดการจ่ายน้ำมันทำให้เครื่องไม่พังและไม่มีปัญหาอะไรเลย (ประมาณ 30 นาทีที่ไม่มีน้ำในหม้อน้ำเลย)เหตุเกิดที่ พะเนินทุ่งถ้าใครพอจะจำกันได้เพราะตอนนั้นมีคนช่วยผมเยอะมาก ต้องขอบคุณครับ ลืมบอก เครื่อง 3000 ครับ

คำตอบที่ 14
       รถคันไหน ๆ ก็กินน้ำมันทั้งนั้น ไม่เห้นคันไหนกินน้ำเปล่าซักคัน ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

คำตอบที่ 15
       คุณ วว.
ผมใช้ส่วนตัว เวก้า 3000 ออโต้ 1คัน
ดูแลรถบริษัท อีก3 คัน
2800 ปี98 1 คัน เป็นแคป ขับ2ล้อ
2500 ปี99 1 คัน เป็นแคป ขับ2ล้อ
2500 ปี2000 1 คัน ไม่มัแคป ขับ2ล้อ
ทั้ง4คันเป็นโฉมดราก้อนอาย ไล่ตั้งแต่2500 4JA1-T 2800 4JB1-T 3000 4JH1-T ครบฯ
การเบิกค่าน้ำมันต้องผ่านมาที่ผม ตรวจทั้งระยะทางและจำนวนน้ำมัน ค่าน้ำมัน แม้ผมไม่มีรถพร้อมกัน2คัน แต่ก็พอรู้ว่ามันกินมากน้อยแค่ไหน

คำตอบที่ 16
       ซะมั่ง .... เหอ ๆ ๆ
คนเก่งเค้าไม่อวดหรอกครับ
คนอวดน่ะท่าจะเก่งแต่พูด

เจอ สอนมวย มั้ยล่ะ นาย วว
อิอิ

คำตอบที่ 17
       ตัวหน้าย้อย ปี 96 14-15 ก.ม/ลิตรความเร็วสูงสุด160 ก.ม/ชม 2800 เทอร์โบ 8-9 กม/ลิตรความเร็วสูงสุด 160 ก.ม/ชม 3000เทอร์โบ(โฟรวิล)ตัวเดิม
9 ก.ม/ ลิตรคาวมเร็วสูงสุด 160 ก.ม/ชม ไฮเลนเดอร์ 3000 ddi ตัวล่าสุด4ประตู 11.8
ก.ม/ลิตร รถผมเอง ขับนิ่มๆทางยาว 104-105 แต่ตัวล่าสุด
ผมทำได้ 200 ก.ม/ช.ม

คำตอบที่ 18
       2500 หน้าย้อย 14-16 กม/ล 2800 9 กม/ล 3000โฟวิล 4 ประตู 8-9 กม/ล 3000 ddi.ไฮเลนเดอร์4ประตู 11.8 กม/ล (ตัวนี้สูงสุด 200 กม/ชม)

คำตอบที่ 19
       ถึงคุณ ปลิว จากคำตอบที่ 6 ครับ

กล่องพ่วง ECU ที่มีขายกันอยู่มันเป็นเพียงแค่ตัวปรับน้ำมันเพิ่มขึ้นเท่านั้นครับ
ถ้านำมาเทียบกับเครื่อง 2800 ก็คือ การขั้นตูดปั๊มเพื่อปรับคานหลัก ให้น้ำมันเพื่อขึ้นทั้งตอนที่ บูทส์มา และบูทส์ไม่มา หรือไม่ก็หมุนปรับเกลัยวที่อยู่ด้านใต้แผ่น ไดอะเฟรมรับแรงกดอากาศ เพื่อให้จ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นตอนที่บูทมาครับ

ผมขอจำแนกค่าใช้จ่ายเปรียบเทียบกันให้นะครับ

เครื่อง 3000 ใช่กล่องพ่วง เสียเงิน 2x,xxx ใช้เวลา
เครื่อง 2800 ใช้ไขควงแฉก คีมบีบ ประแจเบอร์ 13 ซึ่งเป็นของที่มีอยู่ในกระเป๋าเครื่องมือติดรถทั้งหมด

เครื่อง 3000 จะให้แรงต้องไปที่ร้าน กว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว เดินทางไปที่ร้าน นั่งรอคิว ช่างใช้เวลาติดตั้ง จ่ายเงิน รอเงินทอน ส่งมอบรถ ใช้เวลาหลายชั่วโมง
เครื่อง 2800 เปิดเบาะเอาเครื่องมือออกมา ขั้นก้นปั๊ม หมุนเฟืองเกลียว ไม่ถึง 10 นาทีเสร็จ

ผมเป็นคนจังหวัดอุตรดิตถ์ครับ ตอนนี้โดนน้ำท่วม ผมไปรับJOBเล่นๆ จากอู่ซ่อม ถอดล้างกล่อง ECU ของพวกรถเก๋ง ล้างเซนเซอร์สูญกาศ ปรับแต่งผสมน้ำมันและอากาศ ได้ค่าแรงมาเครื่องล่ะ 1,000 บาท (งานที่ผมทำอยู่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์และอิเล็กทรอนิกส์)
ช่างโบราณจริงอย่างที่คุณว่านั้นล่ะครับ ไม่ค่อยรู้ อิเล็กทรอนิกส์

บางคนที่รถโดนน้ำท่วมแล้วไม่มีประกัน เอาไปเข้าศูยน์ โดนช่างที่ศูนย์หลอกว่ากล่อง ECU เสียต้องเปลี่ยนใหม่เลย ค่ากล่อง 45,000 บาท ทั้งๆที่มันไม่ได้เสียอะไรเลย
ผมเพียงแค่มีไขควงหัวชนิดพิเศษ ซื้อมาตัวล่ะ 240 บาท 2ตัว ทินเนอร์ แปรงปัด หัวแล้ง ตะกั่ว ฟลัค์ น้ำยาเคลือบแผ่นปริ๊น แค่นี้กล่อง ECU ที่จมน้ำก็นำกลับขึ้นมาใช้ได้แล้วครับ

ครั้งหนึ่งมีนักศึกษาต่างประเทศ 3 คน เป็นคนญี่ปุ่น , ไต้หวัน , ไทย เข้าไปเรียนรู้เทคโนโลยีของพวกยุโรบ นักศึกษาแต่ล่ะชาติพูดว่า

นักศึกษาญี่ปุ่น ผมต้องการเรียนรู้พื้นฐานของเทคโนโลยีนี้
นักศึกษาไต้หวัน ผมต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรมของเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยมนี้
นักศึกษไทย ผมต้องการเรียนรู้วิธีการใช้งานเทคโนโลยีอันล้ำเลิศสุดยอดนี้

หลังจากนั้นอีก 10 ปีต่อมา
- ผู้ที่ขอเรื่องรู้พื้นฐานเทคโนโลยี ตอนนี้เขานำพื้นฐานนั้นไปพัฒนาเสียจนผู้ที่คิดค้นนั้นตามแทบจะไม่ทันแล้ว
- ผู้ที่ขอเรียนรู้การทำอุตสาหกรรมตอนนี้ ทำโรงงานอุสาหกรรมยักษ์ใหญ่ส่งออกไปยังนานาประเทศ
- ผู้ที่ขอเรียนรู้วิธีการใช้ ตอนนี้ไปเป็นลูกจ้างประกอบชิ้นส่วนหรือซ่อมบำรุงอยู่ในโรงงานของต่างประเทศที่มาตั้งฐานการผลิตในประเทศ

คุณ ปลิว ว่ารถต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมถึงจะดีกว่า เท่กว่า หรู กว่า
คุณ ปลิว ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องมีไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ อย่างนั้นอย่างนี้ ชอบใช้ของแบบที่มีระบบไฟฟ้ามายุ่งด้วย ต้องศึกษาการทำงานพื้นฐานครับ ถึงชอบของที่มีไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ กล่องEUC อินพุท อินเตอร์เฟส ประมวลผล ต้องศึกษามาบ้าง ว่ามันอยู่ส่วนไหนของเครื่อง และมีหน้าที่อย่างไร ไม่จำเป็นต้องไปเจาะลึกถึงหลักการทำงานของแต่ละอุปกรณ์โดยละเอียดก็ได้ครับ

ปล. ถึงท่านทั้งหลายที่ชอบเทคโนโลยี ก่อนที่จะครอบครองเทคโนโลยีที่มีราคาสูง ผมคิดว่าควรที่จะศึกษาการทำงานของเทคโนโลยีนั้นๆก่อน จะได้รู้เท่าทันมัน ไม่ต้องเสียค่าโง่ให้กับช่างที่ไม่มี จรรยาบรรณ

ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 20
       คุณ DragonHero
เครื่อง3000 ที่พ่วงกล่อง2หมื่นบาทกว่านั้น แรงม้าแรงบิดที่ได้มา มากกว่าการแค่ไขตูดปั๊มเครื่อง2800 แน่นนอน โดยเทียบกันจากแรงม้าแรงบิดที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ควันดำจะไม่มี ถ้าไม่กดคันเร่งสุด
เทียบกันแฟร์ฯ2800จะแต่งให้อัตราเร่ง0-100 เร็วขึ้น5วินาที ควันไม่ดำด้วย ลำพังเครื่องมือที่ติดรถมาทำได้หรือ ใช้เวลา10นาทีทำได้หรือ
ผมไม่ได้บอกว่าเทโนโลยีจะเท่กว่า หรูกว่า แต่บอกข้อเท็จจริงให้ทราบว่ามันเป็นอย่างไร
3000 ใช้เวลา 1ชั่วโมง ได้แรงขนาดนั้น จ่ายเงิน2หมื่นกว่า
2800 ใช้เวลา เท่าไร ได้แรงเพิ่มขึ้นขนาดนั้น แต่อาจจ่ายน้อยกว่า 2หมื่นต้องเจอช่างที่มีจรรยาบรรณนะครับ
3000 ใช้ในเมือง เหนือกว่า2800 อัตราเร่ง ความประหยัด
3000 ใช้ในป่า แย่กว่า2800 การซ่อมบำบุง อาจกินข้าวลิง
มันอยู่ที่ว่าจะนำเทคโนโลยี่ไปใช้ที่ไหน เหมาะสมใหม
ถ้าจะวัดปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมา แค่ใช้กระบอกไม้ไผ่ตัดได้ตามขนาด ให้เอาไปตั้งรับน้ำฝน เต็มภายในกี่นาที ต้องแจ้งชาวบ้านหนีน้ำป่า วิธีที่โบราณแบบนี้ ก็ต้องมาจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่คำนวนมาว่า ภายในกี่นาที รับน้ำฝนได้กี่มิลกรัม จะเกิดน้ำป่าไหลหลากลงมา ถ้าเอาวิชาการให้ชาวบ้านใช้ มักไม่ได้ผล แต่นำวิชาการนั้นมาตกผลึกแล้วแปลงให้เข้าใจง่าย ชาวบ้านย่อมใช้เป็น
5ปีภายใต้การบริหารของ นายกฯคนภาคเหนือ เปลี่ยน รมต.ศึกาไปแล้วกี่คน สอนให้นักเรียนไปทำงานตอนปิดเทอม มุ่งแต่เงิน ไม่เห็นสอนให้ไปค้นคว้าว่ามีพันธ์พืชไหนเอามาทำเป็นเชื้อเพลงบ้าง สร้างเทคโนโลยี่มาแปลงขยะของเหลือใช้เป็นของมี่ประโยชน์บ้าง
คนไทยส่วนใหยญ่เป็นอย่างที่คุณว่านั้นแหละ ชอบใช้เทคโนโลยี่ใช้ มากว่าสร้างเทคโนโลยี่มาใช้
และคนไทยยังไม่เชื่อคนไทยด้วยกันเอง (อะไรประเภทของนอกดีกว่า ของนำเข้าดีกว่า)
ยินดีที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะ ความคิดเห็นที่แตกต่าง สร้างปัญญาให้มวลชน

คำตอบที่ 21
       เป็นดิสคัสที่มีประโยชน์ทั้งสิ้นนะครับ ผมเองตั้งกระทู้ไม่ได้ตั้งใจจะล่อเป้าอย่างที่เขาว่า เพียงแต่ต้องการความคิดเห็นจากประสบการณ์ของแต่ละท่าน ซึ่งก็สมประโยชน์ ความรู้ความคิดเห็นที่แตกต่างบนพื้นฐานแห่งความจริงเดียวกัน ประโยชน์เกิดแก่มวลชนทั้งสิ้น ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 22
       จากคำตอบที่ 19

คุณ ปลิว ว่ารถต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์มาควบคุมถึงจะดีกว่า เท่กว่า หรู กว่า
คุณ ปลิว ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องมีไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์ อย่างนั้นอย่างนี้ ชอบใช้ของแบบที่มีระบบไฟฟ้ามายุ่งด้วย ต้องศึกษาการทำงานพื้นฐานครับ ถึงชอบของที่มีไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ กล่องEUC อินพุท อินเตอร์เฟส ประมวลผล ต้องศึกษามาบ้าง ว่ามันอยู่ส่วนไหนของเครื่อง และมีหน้าที่อย่างไร ไม่จำเป็นต้องไปเจาะลึกถึงหลักการทำงานของแต่ละอุปกรณ์โดยละเอียดก็ได้ครับ


ต้องขออภัยคุณ ปลิว ครับ
ที่ผมพิมพ์ข้อความนี้ โดยตัดสินตัวคุณปลิวไปเองครับ

คำตอบที่ 23
       ของทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ล้วนมีทั้งดี และไม่ดีในของชนิดเดียวกัน สุดแล้วแต่ว่าเราจะมองด้านไหนของมัน เฉกเช่น...มีด อาวุธ โบราณชนิดหนึ่ง ถ้าเทียบกับปืน อาวุธ สมัยใหม่ชนิดหนึ่ง หากมองว่า มีดอาวุธโบราณ กว่าจะนำไปประหัดประหารชีวิตมนุษย์ หรือ สัตว์ต่างสายพันธ์ กับมนุษย์ มันช่างลำบากและยุ่งยากเหลือเกิน สู้ปืนไม่ได้ หากต้องการใช้ เพียงเหนี่ยวไก ก็สามารถปลิดชีวิต ฝ่ายตรงข้ามได้ทันที .....แต่หาก ต้องการเพียงตัดไม้ต้นใหญ่ๆเพียงสัก 2-3 ต้น การมีมีด โบราณเพียงเล่มเดียว อาจทำงานนี้สำเร็จได้ภายในเวลาอันควร แต่หากในงานเดียวกันเราไร้ซึ่งมีดอาวุธโบราณ มีเพียงปืนพกสั้นชนิดออโตเมติกอาวุธทันสมัยอยู่ในมือ พร้อมเครื่องกระสุนเต็มพิกัด อาจไม่สามารถ ทำงานนี้สำเร็จลงได้
ดังนั้น อยากบอกว่า ทุกสิ่งในโลกนั้นมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี เสมอ จงเลือกเอาด้านดีไปใช้ ในส่วนด้านร้าย มองเพื่อรับรู้เป็นประสบการณ์กับตัวเอง เพื่อที่จะเลือกด้านดีให้ถูกต้อง
รถยนต์ที่เราซื้อหามาแล้วก็มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีเช่นกัน จงมองสมบัติที่มีอยู่ของเราในด้านดีบ้าง อย่าไปคิดรังเกียจเดียจฉันท์ มันเลยรู้จักใช้ประโยชน์และภาคภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่ครับ ไม่มีสิ่งใดในโลกใบนี้ที่มีดีเพียงด้านเดียวครับ

คำตอบที่ 24
       คุณ DragonHero
ผมชื่นชอบมากที่เอานิทานของนักศึกษามาเล่าสู่การฟัง เตือนใจดีมาก ยิ่งถ้าได้ถ่ายทดสู่คนรุ่นใหม่ยิ่งมีประโยชน์
การศึกาของไทยเรามีหลายอย่างไม่เป็นประโยชน์เลย ขอยกตัวอย่าง ศัพท์ช่างหรือศัพท์เทคนิคทั้งหลาย ไม่รู้ว่าไม่แปลให้เป็นไทยหรือแปลแล้วไม่ยอมสอนไม่เอามาใช้ ทำให้คนไทยทั่วไปด้อยความรู้ไปด้วย เช่นECUแปลไทยเป็นกล่องสมองกลควมคุมเครื่องยนต์ กล่องไฟฟ้าควบคุมเครื่อง เซ็นเซอร์ แปลเป็น ประสาทรับรู้ โช๊คอัพ เป็น เครื่องซับสั่น ท่อชั่นบาร์เป็นสปริงแท่ง ถ้ามีการใช้ศัพท์ภาษาไทยตรงไปตรงมา ชาวบ้านย่อมเข้าใจง่ายขึ้น

คำตอบที่ 25
       ยัง ยัง ยังมันไม่ยอมรับ มันคิดว่ามันนี่แน่สุดแล้วมั้ง เค้าอธิบายมาจนขนาดนี้แล้วยังไม่สำเนียก 2800 ไม่ได้เลิศหรูอะไรหรอก แต่อยากให้อ่านแล้วคิดตาม เค้าเขียนได้ดีขนาดนี้ คุณยังไม่เข้าใจเหรอ นี่เค้าสอนไปถึงวิธีซ่อมกล่องแล้วนะ

ใครเนี้ย?

คำตอบที่ 26
       มาหาสาระความรู้ ไม่เอาชนะสะใจ

คำตอบที่ 27
       ผมซ่อมรถเองครับ เน้นซ่อมไว้ก่อน

คำตอบที่ 28
       คุณ DragonHero

ผมก็เป็นคนอุตรดิตถ์ครับ พอดีรถเพื่อนผม isuzu truper v6 เบนซิน กล่องพังครับจมน้ำ 3 วัน ยังหาซื้อกล่องมือ2ไม่ได้เลย อยากขอความอนุเคราะห์ คุณ DragonHero ช่วยซ่อมกล่องให้หน่อยครับ หรือใครมีกล่องรุ่นนี้อยู่ต้องการจะขาย เสนอราคามาครับ 01-6887820

คำตอบที่ 29
       คุณ DragonHero

ผมก็เป็นคนอุตรดิตถ์ครับ พอดีรถเพื่อนผม isuzu truper v6 เบนซิน กล่องพังครับจมน้ำ 3 วัน ยังหาซื้อกล่องมือ2ไม่ได้เลย อยากขอความอนุเคราะห์ คุณ DragonHero ช่วยซ่อมกล่องให้หน่อยครับ หรือใครมีกล่องรุ่นนี้อยู่ต้องการจะขาย เสนอราคามาครับ 01-6887820

คำตอบที่ 30
       โม้เหลือเกินที่บ้านก็มี ซึมเม่งทั้งคอหน้า- หลัง ยกครัชก็แพง ท้องอ่างก็ซึม โฆษณาเหลือเชื่อ

คำตอบที่ 31
       ไอ้ โคย