คำตอบที่ 1
       อธิบายไม่เก่งเสียด้วยสิ ตอบเป็นข้อๆก่อนแล้วกันแล้วรอท่านอื่นมาชี้แนะต่อนะครับ

อันดับแรกก็ต้องรู้จักเกียร์ก่อน ทั้วไปที่เราใช้ไอ้เจ้าเกียร์ตัวเล็กที่อยู่ขวามือมันจะต้องเข้าอยู่ตำแหน่ง 2 H (คือตำแหน่งขับ 2 ทั่วไป)เมื่อเวลาจะใช้ขับ 4 ก็ต้องโยกเจ้าเกียร์ตัวนี้มาที่ 4H เมื่อต้องการขับ 4 ที่ความเร็วสูงและไม่ต้องการแรงบิดฉุดลากมากนัก แต่ถ้าต้องการแรงฉุดลากสูงให้เข้าเกียร์ที่ 4 L ส่วนเกียร์ด้านซ้ายนั้นหลังจากเข้าเกียร์ 4H หรือ 4 L ก็ใช้ปกติ 1 - 5 เหมือนเดิมครับ

การใช้งานรถรุ่นนี้มี Shif on fly แล้วจึงไม่ต้องหยุดรถเวลาเข้าเกียร์ 4WD แต่ควรใช้ความเร็วต่ำไม่น่าจะเกิน 50Km/h
เมื่อโยกคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง 4 H ขณะขับแล้วให้ดูที่หน้าปัดรถจะมีสัญญลักษณ์สีเขียวเป็นรูปรถโชว์ขึ้นมาอ่ะครับ
แสดงว่าท่านได้เข้าสู่ระบบขับ 4 แว้ว ต่อจากนี้ก็ลองไปตะกายคันนาข้างทางดู จนพอใจแล้วเวลาจะเปลี่ยนเกียร์กลับเป็นขับ 2 H ก็โยกเกียร์จาก 4 H มาที่ 2 Hได้เลย(แต่ส่วนตัวผมว่าควรหยุดรถก่อนอ่ะครับ เพื่อความปลอดภัย หลังจากนั้นสังเกตุไฟรูปรถที่หน้าปัดสีเขียวจะต้องดับไป
ส่วนเทคนิคต่างๆรอท่านอื่นมาชี้แนะต่อนะครับ
เท่านี้เองครับ

คำตอบที่ 2
       ขอเสริมทั่นไอดินประสาคนมีความรู้บ้างแค่หางอึ่งเผื้อเป็นประโยชน์นะครับ
1.ก่อนจะสับ 4H 4L ต้องแน่ใจทุกครั้งว่าล้อหน้าอยู่ในแนวตรงโดยสังเกตุจากพวงมาลัยว่าไม่ได้หักไปซ้ายหรือขวา
2.รุ่นหลังปี2000 แน่ใจได้เลยว่าเป็นรุ่นกระโดดข้ามหัวแมงวันแล้ว(shift on the fly น่ะครับ) 4H สามารถสับเข้าได้เลยในขณะรถวิ่งไม่เกิน 80 และอยู่ในเงื่อนไขของข้อ 1 ส่วน 4L นั้นแนะนำให้จอดก่อนไม่ต้องสนิทก็ได้เพราะจะเข้าได้ยากกว่า 4H และจะได้พลังการปีนป่ายมากกว่า 4H เยอะมากจนสังเกตุได้เลย
3.4H เมื่อเข้าแล้วสามารถวิ่งได้ปกติแต่ไม่ควรเกิน 80 เช่นฝนตกทางลื่น ส่วน 4L นั้นใช้ในกรณีที่ต้องการพลังจริงๆ เช่น ติดหล่ม ลุยทราย ลากจูง
4.พึงระลึกว่ารุ่นปีไม่เกินนี้(ประมาณ 2000) ระบบส่งกำลังของเพลาขับคู่หน้า ยังไม่เป็นแบบ Diff Lock (หมายความว่าการส่งกำลังของล้อหน้ายังคงเป็นอิสระต่อกันเหมือนรถทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยสังเกตุเปรียบเทียบง่ายๆ ที่ล้อหลัง หากยกลอยขึ้นแล้วจับหมุนล้อข้างใดข้างหนึ่งจะเห็นว่าอีกข้างจะหมุนไปในทางตรงกันข้าม นั่นคือไม่ดิฟล็อก) ดังนั้นหากเราเข้าเกียร์ระบบขับ 4 แล้ว ถ้าล้อใดล้อหนึ่งลอยจากพื้นหรือสัมผัสไม่เต็มหน้า หรือล้อข้างหนึ่งอยู่บนพื้นอ่อนนุ่มอีกข้างอยู่บนพื้นแข็ง การส่งกำลังจะถูกถ่ายไปสู่อีกล้อหนึ่งทันที นี่คือข้อด้อยของระบบเก่าและรุ่นปีประมาณนี้ก็ยังคงเป็นอย่างที่กล่าว
5.เมื่อเข้าเกียร์โฟร์ไม่ควรเร่งเครื่องแบบกระชากโดยไม่จำเป็นเพราะระบบเครื่องยนต์จะเพิ่มรอบสูงขึ้นให้อยู่แล้วโดยอัติโนมัติ
6.หากเข้าเกียร์โฟร์แล้ววงเลี้ยวจะกว้างขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด เช่น พื้นที่แค่นี้เราสามารถกลับรถได้สบายมาก โยกแค่ 2 ทีก็พ้นแล้วแต่คุณต้องโยกมากกว่านั้นหลายเท่านัก และการเลี้ยวรถขณะเข้าเกียร์โฟร์จะทำได้ยากกว่าปกติเพราะรถจะมีอาการดึงเยอะขึ้นซึ่งเป็นปกติ หากล้อเข้าสู่แนวตรงอาการดังกล่าวก็จะหายไป
7.หากมีเสียงขณะเข้าเกียร์โฟร์ทั้งตอนสับเกียร์ดังกึ๊กกั๊ก หรือตอนเลี้ยวมีเสียงดังครืดๆก็ปกติเช่นเดียวกันแต่ต้องไม่ดังเหมือนอะไรแตกและหากเข้าเกียร์โฟร์ในทางดำหรือพื้นเรียบแข็งจะสังเกตุได้เลยว่ารถจะไม่วิ่งและดึงอย่างแรง นั่นเพราะระบบขับ 4 ออกแบบมาเพื่อพื้นผิวที่ยืดหยุ่นสูง เช่นทางลูกรัง ดิน โคลน ทรายเท่านั้นครับ
8.ควรหมั่นเช็คยางหุ้มเพลาขับหน้าอย่างสม่ำเสมอว่ามีรอยขาดรอยแตกหรือไม่ หากมีให้เปลี่ยนทันทีที่พบเพราะยางเพลาขับจะช่วยกันไม่ให้ฝุ่นหรือเศษสิ่งต่างๆเข้าไปทำความเสียหายให้เพลาขับ (ยางเพลาขับหน้าจะมีข้างละ 2 ตัวคือตัวนอกกับตัวในก้มลงมองดูเพลาขับหน้าจะเห็นชัดเจน) ขาดตัวไหนก็เปลี่ยนแค่ตัวนั้น ราคาทั่วไปก็ประมาณตัวละ4-5 ร้อยบาทหรือมากกว่าแล้วแต่เกรด
9.เมื่อจะถอนเกียร์โฟร์ต้องแน่ใจว่ารถอยู่ในตำแหน่งข้อ 1 และ ข้อ 2 นะครับ
10.หากสุดวิสัยผิดพลาดไปจากที่กล่าวมาจนเกิดความเสียหายจะทำให้เฟืองขับหน้ารูดหรือดุมขับแตก รถก็ยังสามารถวิ่งได้เหมือนปกติเช่นเดิมโดยชุดขับหลังปกติเหมือนรถขับ 2 ทั่วไปครับ

ก็พอที่จำเป็นประมาณนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์จากคนรู้เท่านั้นอย่างผม ขอให้สนุกครับ

คำตอบที่ 3
       ขอเสริมทั่นไอดินประสาคนมีความรู้บ้างแค่หางอึ่งเผื้อเป็นประโยชน์นะครับ
1.ก่อนจะสับ 4H 4L ต้องแน่ใจทุกครั้งว่าล้อหน้าอยู่ในแนวตรงโดยสังเกตุจากพวงมาลัยว่าไม่ได้หักไปซ้ายหรือขวา
2.รุ่นหลังปี2000 แน่ใจได้เลยว่าเป็นรุ่นกระโดดข้ามหัวแมงวันแล้ว(shift on the fly น่ะครับ) 4H สามารถสับเข้าได้เลยในขณะรถวิ่งไม่เกิน 80 และอยู่ในเงื่อนไขของข้อ 1 ส่วน 4L นั้นแนะนำให้จอดก่อนไม่ต้องสนิทก็ได้เพราะจะเข้าได้ยากกว่า 4H และจะได้พลังการปีนป่ายมากกว่า 4H เยอะมากจนสังเกตุได้เลย
3.4H เมื่อเข้าแล้วสามารถวิ่งได้ปกติแต่ไม่ควรเกิน 80 เช่นฝนตกทางลื่น ส่วน 4L นั้นใช้ในกรณีที่ต้องการพลังจริงๆ เช่น ติดหล่ม ลุยทราย ลากจูง
4.พึงระลึกว่ารุ่นปีไม่เกินนี้(ประมาณ 2000) ระบบส่งกำลังของเพลาขับคู่หน้า ยังไม่เป็นแบบ Diff Lock (หมายความว่าการส่งกำลังของล้อหน้ายังคงเป็นอิสระต่อกันเหมือนรถทุกรุ่นที่ผ่านมา โดยสังเกตุเปรียบเทียบง่ายๆ ที่ล้อหลัง หากยกลอยขึ้นแล้วจับหมุนล้อข้างใดข้างหนึ่งจะเห็นว่าอีกข้างจะหมุนไปในทางตรงกันข้าม นั่นคือไม่ดิฟล็อก) ดังนั้นหากเราเข้าเกียร์ระบบขับ 4 แล้ว ถ้าล้อใดล้อหนึ่งลอยจากพื้นหรือสัมผัสไม่เต็มหน้า หรือล้อข้างหนึ่งอยู่บนพื้นอ่อนนุ่มอีกข้างอยู่บนพื้นแข็ง การส่งกำลังจะถูกถ่ายไปสู่อีกล้อหนึ่งทันที นี่คือข้อด้อยของระบบเก่าและรุ่นปีประมาณนี้ก็ยังคงเป็นอย่างที่กล่าว
5.เมื่อเข้าเกียร์โฟร์ไม่ควรเร่งเครื่องแบบกระชากโดยไม่จำเป็นเพราะระบบเครื่องยนต์จะเพิ่มรอบสูงขึ้นให้อยู่แล้วโดยอัติโนมัติ
6.หากเข้าเกียร์โฟร์แล้ววงเลี้ยวจะกว้างขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด เช่น พื้นที่แค่นี้เราสามารถกลับรถได้สบายมาก โยกแค่ 2 ทีก็พ้นแล้วแต่คุณต้องโยกมากกว่านั้นหลายเท่านัก และการเลี้ยวรถขณะเข้าเกียร์โฟร์จะทำได้ยากกว่าปกติเพราะรถจะมีอาการดึงเยอะขึ้นซึ่งเป็นปกติ หากล้อเข้าสู่แนวตรงอาการดังกล่าวก็จะหายไป
7.หากมีเสียงขณะเข้าเกียร์โฟร์ทั้งตอนสับเกียร์ดังกึ๊กกั๊ก หรือตอนเลี้ยวมีเสียงดังครืดๆก็ปกติเช่นเดียวกันแต่ต้องไม่ดังเหมือนอะไรแตกและหากเข้าเกียร์โฟร์ในทางดำหรือพื้นเรียบแข็งจะสังเกตุได้เลยว่ารถจะไม่วิ่งและดึงอย่างแรง นั่นเพราะระบบขับ 4 ออกแบบมาเพื่อพื้นผิวที่ยืดหยุ่นสูง เช่นทางลูกรัง ดิน โคลน ทรายเท่านั้นครับ
8.ควรหมั่นเช็คยางหุ้มเพลาขับหน้าอย่างสม่ำเสมอว่ามีรอยขาดรอยแตกหรือไม่ หากมีให้เปลี่ยนทันทีที่พบเพราะยางเพลาขับจะช่วยกันไม่ให้ฝุ่นหรือเศษสิ่งต่างๆเข้าไปทำความเสียหายให้เพลาขับ (ยางเพลาขับหน้าจะมีข้างละ 2 ตัวคือตัวนอกกับตัวในก้มลงมองดูเพลาขับหน้าจะเห็นชัดเจน) ขาดตัวไหนก็เปลี่ยนแค่ตัวนั้น ราคาทั่วไปก็ประมาณตัวละ4-5 ร้อยบาทหรือมากกว่าแล้วแต่เกรด
9.เมื่อจะถอนเกียร์โฟร์ต้องแน่ใจว่ารถอยู่ในตำแหน่งข้อ 1 และ ข้อ 2 นะครับ
10.เมื่อถอนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟที่หน้าปัดจะไม่หายไปในทันทีต้องรอสักพักครับ จะให้ดีรุ่นเก่ากว่านี้ต้องถอยรถเพื่อถอนขับ 4 ครับ แต่รุ่นนี้ไม่ต้อง
11.หากสุดวิสัยผิดพลาดไปจากที่กล่าวมาจนเกิดความเสียหายจะทำให้เฟืองขับหน้ารูดหรือดุมขับแตก รถก็ยังสามารถวิ่งได้เหมือนปกติเช่นเดิมโดยชุดขับหลังปกติเหมือนรถขับ 2 ทั่วไปครับ

ก็พอที่จำเป็นประมาณนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์จากคนรู้เท่านั้นอย่างผม ขอให้สนุกครับ

คำตอบที่ 4
       อู๊ยมาสองเลย กลัวไม่ชัวร์ อะอะ

คำตอบที่ 5
       ใช้ไปไหนบ้างอ่ะ จะได้บอกถูก อิ อิ ใช้ไปซื้อส้มตำหลังเขาก็ได้นะ ล้อเล่น ขำ ขำ น่ะ

คำตอบที่ 6
       ขอบพระคุณน้าน้ามากคับ น้าTak IZU 034อยู่ไหนคับ...ป๋มก้ออยู่bantak

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณมากๆๆ ครับ