จาก แม่เขียว
จันทร์ที่ , 12/5/2551
เวลา : 21:07
อ่าน = 476
124.120.52.13
|
1.
ทุกคนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย
เซลล์จำพวกนี้จะไม่สามารถตรวจหาพบโดยเครื่อง
มืออทางการแพทย์
จนกว่าจะมีปริมาณเซลล์เป็น 2-3
ร้อยล้านเซลล์
หากไปพบหมอ
แล้วหมอบอกว่าคุณไม่มีเซลล์มะเร็งในร่างกายหลังจากการตรวจ
นั่นแค่หมายความว่า
เครื่องมือทางการพทย์ไม่สามารถตรวจพบเซลล์มะเร็งได้
เนื่องจากขนาดของเซลล์มะเร็งยังไม่มากพอ
หรือขาดยังไม่ใหญ่พอให้เครื่องมือตรวจเจอ
2. เซลล์มะเร็ง เกิดขึ้นมาก
ถึง 6 -10 ครั้ง ใน 1
ช่วงชิวิตของมนุษย์
3.
เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง
เซลล์มะเร็งก็จะถูกทำลาย
เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็ง
ขยายตัว
และสร้างก้อนเนื้อร้าย
4. เมื่อคนไข้
ถูกบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง
แสดงให้เห็นว่ามีการขาดสารอาหารบางชนิด
หรือ โภชนาการไม่ดี
ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์
สิ่งแวดล้อม อาหาร
หรือปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต
5. การเอาชนะเซลล์มะเร็ง
สามาถทำได้โดยการสร้างความแข็งแกร่งให้เซลล์เม็ดเลือดขาว
หรือ
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
6. การให้คีโม
หรือสารเคมีบางชนิด
เป็นทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะเดียวกัน
ก็ทำลายเซลล์ที่ดีของร่างกายไปด้วยอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นอาจทำลายระบบของอวัยวะสำคัญไปด้วย
เช่น
ตับ ไต หัวใจ หรือปอด
7. การฉายรังสี
ก็จะทำลายเซลล์มะเร็ง
และทำให้เนื่อบางส่วนไหม้ เป็นแผลเป็น
และทำลายเซลล์
เนื่อเยื่อที่ดีไปด้วยเช่นกัน
8. โดยทั่วไปแล้ว
การให้คีโม หรือการฉายรังสี
อาจจะทำให้ขนาดของก้อนเซลล์มะเร็งลดลง
แต่อย่าง
ไรก็ตามก็ไม่ได้มีผลทำลายก้อนเนื้อไปมากกว่านั้น
9.
เมื่อร่างกายต้องรับสารพิษจำนวนมาก
จากการให้คีโมหรือการฉายแสง
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็
จะถูกทำลายไปด้วย
ดังนั้นร่างกายก็ง่ายต่อการติดเชื้อ
หรือพ่ายแพ้เซลล์มะเร็ง
10. การให้คีโม
หรือการฉายแสง
อาจเป็สาเหตุให้เซลล์มะเร็ง มีการกลายพันธุ์
หรือดื้อยา ทำให้ยาก
แก่การทำลาย การผ่าตัด
ก็อาจสามารถทำให้
เซลล์มะเร็งกระจายไปยังส่วนอื่น
11.
วิธีที่มีประสิทธิภาพที่จะต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
คือ
หยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการหยุด
ให้อาหารที่เซลล์มะเร็งจำเป็นต้องนำไปใช้
สารอาหารที่เซลล์มะเร็งต้องการ
1. น้ำตาล เช่น
น้ำตาลทรายขาว equal
โดยใช้น้ำตาลจากธรรมชาติแทน เช่น น้ำผึ้ง
แต่ต้องใช้ใน
ปริมาณที่น้อยมากมาก
เกลือ
มีสารจำเป็นที่เซลล์มะเร็งนำไปใช้ ควรงด
หรือในปริมาณน้อย
2. นม ควรดื่ม
นำนมถั่วเหลืองทดแทน
3. เซลล์มะเร็ง
เจริญเติบโตในสภาพที่เป็นกรด
การบริโภคเนื้อสัตว์ทำให้เกิดสภาพเป็นกรด
ควรรับ
ประทานอาหารประเภทปลา
ดีกว่าหมู เนื้อ
และเนื้อสัตว์ มีแบคทีเรีย
ใช้โฮโมนในการเจริญเติบโตปน
เปื้อน
ที่เป็นอันตรายต่อคนไข้ที่เป็นมะเร็ง
4. 80 % ของผักและนำผลไม้สด
ถั่งเมล็ดแห้ง ธัญญาพืช
จะช่วยให้ร่างกายมีสภาพเป็นด่าง
20% จาก
อาหารที่ปรุงแล้ว
น้ำผักและนำผลไม้สด
จะให้เอนไซม์ที่
ง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไปเสริม
สร้างความแข็งแรงให้เซลล์ที่ดี
ดังนั้นควรดื่มน้ำผักสด
และกินผักดิบ 2 -3 ครั้งต่อวัน
เพราะเอนไซม์จะ
ถูกทำลายที่ 40 c
5. หลีกเลี่ยงชา กาแฟ
ช็อกโกแลต ที่มีคาเฟอีนที่สูง
เป็นดื่มชาเขียวที่มี
สารต้านมะเร็ง
ดื่มน้ำสะอาด
หรือน้ำกรองดีที่สุด
หลีกเลี่ยงน้ำประปา
และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีสภาพเป็นกรด
6. เนื้อสัตว์ ย่อยยาก
และต้องการเอนไซม์ในการย่อยเป็นจำนวนมาก
และเนื้อที่ย่อยไม่หมด
จะคงตก
ค้างอยู่ในลำไส้
อันนำไปสู่สารพิษตกค้าง
7. เซลล์มะเร็ง
มีโปรตีนที่ยากแก่การทำลายเป็นเกราะป้องกัน
การบริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงจะทำให้
ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปทำลายเซลล์มะเร็งได้ง่ายขึ้น
8.
อาหารเสริมบางอย่างช่วยเสริมสร้งความแข็งแกร่งให้กับระบบภูมิคุ้มกัน
เพื่อไปทำลายเซลล์มะเร็ง
เช่น วิตามินอี วิตามินซี
9. เซลล์มะเร็ง
เป็นเชื้อโรคของจิตใจ ร่างกาย
และจิตวิญญาน การควบคุมอารมณ์
และมองโลกในแง่
ดีจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
อารมณ์โกรธ ขมขื่น
หรือความเครียดจะสร้างสภาพความเป็นกรดให้ร่าง
กาย ควรเรียนรู้ที่จะรัก
และให้อภัย
พักผ่อนและสนุกกับการใช้ชีวิต
10.
เซลล์มะเร็งไม่สามารถเจิญเติบโตในที่มีออกซิเจนได้
การออกกำลังกายทุกวัน
และหายใจเข้าลึก
ลึก จะช่วยเพิ่มระดับ
ออกซิเจนในเซลล์
การบำบัดด้วยออกซิเจนก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำลายเซลล์
มะเร็ง
|