WeekendHobby.com


Isuzu 2500 ฝาทอง ลงโบแล้ว ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์อะไรครับ
gg60
จาก gg60
อาทิตย์ที่ , 22/11/2552
เวลา : 11:18

อ่าน = 1493
124.121.185.246
       ลงโบมา เกือบปี รู้สึกว่ากินน้ำมันเครื่องมาก
ยิ่งวิ่ง120-140 ยาววววว มันออกมาที่ถังดักไอเยอะมาก เป็นเพราะว่าเครื่องหลวม หรือว่าต้องเลือกใช้ นมค เบอร์ที่สูงขึ้นครับ หรือว่าเป็นเรื่องปรกติของโบอัด และดูดไอ นมค ออกมา อยู่แล้ว ตอนนี้วิ่งอยู่ที่ 90-100 ก็มไม่ค่อย กิน นมค เท่าไร แต่ถ้ากด 120up เป็นเรื่องตามที่บอก
ขอความรู้จาก กูรู หน่อยครับ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ขยับเบอร์ไปอีก 1เบอร์
หรือไม่ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่เลยพี่พร




wut.048 จาก wut  58.136.6.128  จันทร์, 23/11/2552 เวลา : 09:05   


คำตอบที่ 2
       ฝาทองของผมติดเทอร์โบตั้งแต่ 20,000 โล. ตอนนี้ 530,000 แล้ว ยังใช้ 15W40 อยู่ครับ แต่พยามจะเลือกใช้ API ใหม่ๆตามปีที่ประกาศใช้เลยครับ ปรกติตอนนี้ใช้ CH-4(กึงสังเคราะห์) อยู่ครับแต่ตอนนี้ API ของดีเชลสูงสุดอยู่ที่ CI-4 แล้วครับ แต่ส่วนมากยังเป็น 10W30 ของ COMMONRAIL อยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกว่า ปตท จะทำ API CI-4. 15W40(กึ่งสังเคราะห์)ออกมาแล้วครับ ปรกติผมจะเปลี่ยนที่ 4000-5000 กิโล.และช่วงหลังๆ น้ำมันเครื่องจะหายไปประมาณ 1/2 ลิตร โดยสังเกตุได้ที่รอบเดินเบาจะมีควันขาวให้เห็นบ้างแล้ว
การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง
1. หน้าที่ ประเภทและชนิดของน้ำมันเครื่อง

หน้าที่ของน้ำมันเครื่อง

หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่เพื่อลดการสึกหรอ โดยจะเคลือบชิ้นส่วนต่างๆ เป็นฟิลม์บางๆ เพื่อลดความฝืด
ระบายความร้อนจากเครื่องยนต์
ป้องกันความดันในกระบอกสูบไม่ให้รั่วไหลระหว่างแหวนลูกกับผนังกระบอกสูบ
ทำความสะอาดชิ้นส่วนของเครื่องยนต์
ชนิดของน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องธรรมชาติ (Mineral Oil) เป็นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Petroleum Oil or Mineral Oil) ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ผสมกับ น้ำมันสังเคราะห์ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Synthetic Oil) เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ แต่สังเคราะห์ขึ้นด้วยวิธีการทางเคมี

2. มาตรฐานน้ำมันเครื่อง
เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง จึงต้องมีการทดสอบคุณสมบัติด้านต่างๆ เช่น ความสามารถในการหล่อลื่น การระบายความร้อน การป้องกันสนิม และการชะล้างทำความสะอาด ฯลฯ จึงมีสถาบันต่างๆ ทั่วโลกได้ทดสอบ และตั้งมาตรฐาน หรือ เกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องขึ้นมา เช่น

API (AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE)
SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS)
US MILITARY CLASSIFICATION (สถาบันทางทหารของสหรัฐอเมริกา)
ASTM (AMERICAN SOCIETY FOR TESTING AND MATERIALS)
CCMC (COMITTEE OF COMMON MARKET CONSTRUCTION)
ACEA
Japanese CD ฯลฯ

มาตรฐานการวัดน้ำมันเครื่องของสถาบัน API (AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE) และ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยมาตรฐานนี้จะถูกระบุไว้ในฉลากของกระป๋องน้ำมันเครื่องทุกยี่ห้อ โดย มาตรฐาน API จะบ่งบอกถึง เกรดของน้ำมันเครื่อง และ มาตรฐาน SAE จะบ่งบอกถึง ความหนืดของน้ำมันเครื่อง
2.1 มาตรฐาน API โดยจำแหนกน้ำมันเครื่องออกเป็นสองประเภท คือ น้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน (ใช้ตัวอักษร S นำหน้า) และน้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล (ใช้ตัวอักษร C นำหน้า) ตัวอย่างเช่น

กลุ่มน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
API SA เป็นน้ำมันเครื่องยุคแรกๆ เกรดต่ำมาก ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API SB ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API SC ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API SD ยังมีจำหน่ายอยู่ กระป๋องละร้อยกว่าบาทต่อห้าลิตร
API SE
API SF
API SG
API SH
API SJ มีจำหน่ายมากที่สุด
API SL ปัจจุบันมีจำหน่ายแล้วเป็นบางยี่ห้อ
และมาตรฐานที่สูงขึ้นไปอีกในอนาคต โดย API SA จะมีคุณภาพต่ำที่สุด API SL จะมีคุณภาพสูงที่สุด เรียงตาม ลำดับ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นน้ำมันเครื่องประเภทไหนด้วย ตามข้อหนึ่ง โดยข้อแตกต่างของคุณภาพน้ำมันเครื่องแต่ละเกรดนั้น เกิดจากสารเพิ่มคุณภาพ (Additive) ที่ เพิ่มเข้าไปในน้ำมันเครื่อง เช่น สารที่ป้องกันการทำปฎิกิริยากับออกซิเจน, สารป้องกันการเกิดตะกอน โคลนตม ยางเหนียว, สารลดมลพิษ, สารลดการสึกหรอ ปริมาณของสารฟอสฟอรัส, ฯลฯ เป็นต้น

กลุ่มน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
API CA เป็นน้ำมันเครื่องยุคแรกๆ เกรดต่ำมาก ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API CB ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API CC ไม่มีจำหน่ายแล้ว
API CD ยังมีจำหน่ายอยู่ กระป๋องละร้อยกว่าบาทต่อห้าลิตร
API CE
API CF-4 มีจำหน่ายมากที่สุด
API CG-4
API CH-4
และมาตรฐานที่สูงขึ้นไปอีกในอนาคต โดย API CA จะมีคุณภาพต่ำที่สุด API CH4 จะมีคุณภาพสูงที่สุด เรียงตาม ลำดับ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นน้ำมันเครื่องประเภทไหนด้วย ตามข้อหนึ่ง โดยข้อแตกต่างของคุณภาพน้ำมันเครื่องแต่ละเกรดนั้น เหมือนกับของเครื่องยนต์เบนซิน คือ เกิดจากสารเพิ่มคุณภาพ (Additive) ที่เพิ่มเข้าไปในน้ำมันเครื่อง เช่น สารที่ป้องกันการทำปฎิกิริยากับออกซิเจน, สารป้องกันการเกิดตะกอน โคลนตม ยางเหนียว, สารลดมลพิษ, สารลดการสึกหรอ, ปริมาณของสารฟอสฟอรัส, ฯลฯ เป็นต้น

ทางผู้ผลิตมักจะพิมพ์เกรดของน้ำมันเครื่องตามมาตรฐาน API ไว้ตามฉลากที่ติดอยู่ตามกระป๋องของน้ำมันเครื่อง ตัวอย่างเช่น
API CF-4/SG หมายถึงถ้าใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลจะอยู่ที่เกรด CF-4 ถ้าใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน จะอยู่ที่เกรด SG โดยนำเอาอักษร API ตัวแรกเป็นตัวบ่งบอกว่าใช้กับน้ำมันเครื่องเบ็นซินหรือดีเซล ในกรณีนี้คือ ใช้กับเครื่องยนต์ ดีเซล (แต่เครื่องยนต์เบนซินก็ใช้ได้เช่นกัน)

API SJ/CF หมายถึง ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน (เครื่องยนต์ดีเซลก็สามารถใช้ได้เช่นกัน)

2.2 มาตรฐาน SAE โดยแบ่งตามความหนืด และแยกเป็นสองกลุ่มคือ น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว และน้ำมันเครื่องเกรดรวม

น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว (single- grade) เช่น SAE40, SAE50 เป็นต้น โดยความหนืดของน้ำมัน เครื่องจะมีค่าเดียว ปัจจุบันมีแต่น้ำมันเครื่อง API ระดับต่ำๆ เท่านั้นที่มี SAE เป็นเกรดเดี่ยว

น้ำมันเครื่องเกรดรวม (multi-grade) เช่น SAE 15W50 หรือ SAE 15W-50 โดยการทดสอบที่ อุณหภูมิต่ำ(-18 องศาเซลเซียส หรือ 0 องศาฟาเรนไฮต์) และอุณหภูมิสูง (100 องศาเซลเซียส หรือ 210 องศาฟาเรนไฮต์) โดยมี W (winter หรือ อากาศเย็น) เป็นตัวคั่นกลางและอาจจะมี เครื่องหมาย - ตามหลัง W ในที่นี้คือ ที่อุณหภูมิต่ำ น้ำมันเครื่องมีความหนืดที่ 15 และที่อุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องมีความหนืดที่ 50

สาเหตุที่น้ำมันเครื่องเกรดรวม ดีกว่าเกรดเดี่ยวเพราะว่า ความหนืดสามารถเปลี่ยนค่าได้ตามอุณหภูมิ หมายความว่า ที่อุณหภูมิต่ำ (เมืองไทยไม่ค่อยมีผลเพราะอากาศร้อน) ความหนืดน้ำมันเครื่องจะต่ำ นั่นคือน้ำมันเครื่องจะใส ทำให้น้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยวเครื่องยนต์ได้รวดเร็ว เมื่อเริ่มสตาร์ท เครื่องใหม่ เกิดการสึกหรอของเครื่องยนต์น้อย แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นความหนืดจะเพิ่มขึ้น

3. การเลือกใช้น้ำมันเครื่อง และอายุการใช้งาน
3.1 เลือกตามประเภทของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบ็นซิน มาตรฐาน API จะขึ้นต้นด้วยอักษร S เช่น SJ/CF โดยมากแล้วน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบ็นซิน จะบรรจุกระป๋องละ 4 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล มาตรฐาน API จะขึ้นต้นด้วยอักษร C เช่น CF-4/SG โดยมากแล้วน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องดีเซลจะบรรจุกระป๋องละ 5 ลิตร

3.2 เลือกตามระยะทางการใช้งาน, เกรดของน้ำมันเครื่อง และความหนืด ตามความเหมาะสม
น้ำมันเครื่องธรรมชาติ เกรดต่ำ เช่น SAE 40, API CC/SD (ระยะทางใช้งาน ประมาณ 3,000 กิโลเมตร)
น้ำมันเครื่องธรรมชาติ เกรดสูง เช่น SAE 20W-50, API CF-4/SG (ระยะทางใช้งาน ประมาณ 5,000 กิโลเมตร)
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ เช่น SAE 15W50, API SJ/CF (ระยะทางใช้งาน ประมาณ 5,000-8,000 กิโลเมตร)
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (ระยะทางใช้งาน ประมาณ 10,000 กิโลเมตร)

3.3 เลือกตามปริมาณที่ต้องการใช้
รถเก๋ง โดยทั่วไปใช้น้ำมันเครื่อง ประมาณ 4 ลิตร (รถยุโรป ใช้ประมาณ 6 ลิตร)
รถกะบะ โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ ใช้น้ำมันเครื่อง ประมาณ 6 ลิตร
รถกะบะ อีซูซุ, มาสด้า, ฟอร์ด ใช้น้ำมันเครื่อง ประมาณ 5 ลิตร

4. น้ำมันเครื่องกับไส้กรองน้ำมันเครื่อง
การเปลี่ยนกรองเครื่อง
ถ้าคุณคิดจะซื้อกรองเครื่องเอง ก็ต้องตรวจสอบรหัสกรองเครื่องจากตัวกรองเครื่อง จำขนาดของกรองเครื่องให้แม่น ถ้าไม่ทราบ ก็ควรตรวจสอบ ยี่ห้อรถ รุ่นรถ รุ่นของเครื่องยนต์ อาจตรวจสอบจากหนังสือทะเบียนรถ หรือจากแผ่นเพลทที่ห้องเครื่องด้านใน วัสดุที่ใช้ทำไส้กรองน้ำมันเครื่องที่ได้รับความนิยมคือ กระดาษใยสังเคราะห์ นำมาพับซิกแซก เพราะมีประสิทธิภาพในการกรองสูง และราคาไม่แพง ไส้กรองน้ำมันเครื่องโดยทั่วไปจะมีอยู่สองแบบคือ

แบบเปลี่ยนเฉพาะไส้กระดาษ (สามารถถอดฝาออกมาเปลี่ยนเฉพาะไส้กระดาษได้)
แบบเปลี่ยนทั้งลูก เป็นเหล็ก (เป็นที่นิยมมากที่สุด)
ไส้กรองน้ำมันเครื่องโดยทั่วไปแล้ว่จะมีวาล์วเปิดให้น้ำมันไหลผ่านไปได้เมื่อเกิดการอุดตันของไส้กรอง เพื่อให้น้ำมันเครื่องสามารถไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างได้ เพื่อให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด และควรจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ทุกครั้งที่ถ่ายน้ำมันเครื่องจะเป็นการดีที่สุด หรืออาจจะเปลี่ยนครั้งเว้นครั้งก็ได้ถ้าต้องการประหยัด
(ขออนุญาตเจ้าของบทความเรี่องน้ำมันเครีองที่ALTIS CLUBด้วยครับ)







น้าแตง จาก น้าแตง  124.122.214.216  จันทร์, 23/11/2552 เวลา : 13:17   


คำตอบที่ 3
       น้า wut
ตอนนี้ผมใช้ เบอร์ 50 อยู่ น้องที่ผูกโบแนะนำมาครับ แล้วน้า wut ผูกโบเสร็จหรือยังรอชมอยู่นะ



gg60 จาก gg60  115.87.28.231  จันทร์, 23/11/2552 เวลา : 21:00   


คำตอบที่ 4
       ใกล้แล้วครับ ผูกวัว เอ๊ยผูกโบ เดี๋ยวรอดูภาพรวมที่บอร์ดคาเมโอนะครับ

ใส่เบอร์ 50 ยังเอาไม่อยู่ ลองตั้งวาล์ว เช็ควาล์วหรือยังครับ แค่เบาะๆอาจจะยางตีนวาล์วเสื่อม



wut.048 จาก wut  58.136.6.128  อังคาร, 24/11/2552 เวลา : 12:27   


คำตอบที่ 5
       P'Wut
ก็คงประมาณนั้นแหละครับ ลองคุยกับช่างบ้างแล้ว แต่ต้องหาเวลาหยุดหน่อย



gg60 จาก gg60  124.122.226.252  พุธ, 25/11/2552 เวลา : 20:36   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 6:28:33

Error processing SSI file