WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


นับถอยหลัง..ถ้ำผานกนางแอ่น

จาก กระรอกดำ
IP:203.148.176.195

พฤหัสบดีที่ , 6/9/2544
เวลา : 16:31

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เอามาให้อ่านก่อนออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ
ตอนหนึ่งจากเรื่องเล่า (ที่คุณไพลินหาข้อมูลมา)
ถ้ำเถื่อนที่ลำคลองงู จากนายหมู

ที่มาคณะของนายหมูได้เดินทางมาเที่ยวอุทยานลำคลองงูโดยรถตู้และค้างที่อุทยานลำคลองงูหนึ่งคืน เช้าวันต่อมาได้เดินทางเข้าถ้ำผานกนางแอ่น โดยใช้เส้นทางเดียวกับที่เราเข้าไป เค้าใช้รถ 2 คัน มี 4WD ของอุทยานกับรถตู้ที่นำมาอีกหนึ่งคัน จากนี้ไปคือเรื่องเล่าที่คัดลอกมา
“ไพลิน”

ผ่านป้ายทางเข้าทุ่งใหญ่นเรศวรอีกครั้ง บอกระยะทางว่าไปอีก 60 กม. ก็เลี้ยวขวา แล่นกันมาได้พักใหญ่ก็เข้าเขตหมู่บ้านเขาพระอินทร์ เห็นป้ายทางเข้าหน่วยย่อยอุทยานซ้ายมือ จอดปรึกษากันก่อนว่ารถตู้เข้าได้ไหม ลุงอนันต์คนขับใจถึง บอก"ต้องลองดู"เลยไม่ต้องขยับขยายที่นั่งใด ๆ บน 4WD ตะลุยกันได้เลย และทางก็ไม่โหดอย่างที่คาด มาจอดกันตรงจุดหนึ่ง จริงแล้ว 4WD ยังไปต่อได้ แต่ด้วยความไม่ประมาทของพี่ๆ เจ้าหน้าที่ จึงลงไปสำรวจทางกันดูก่อน แล้วก็เจอไม้ล้มขวางทางอยู่"เดินกันไหวไหมครับ ที่จริงแล้วถึงใช้ 4WD ก็ไปได้ไม่ไกลครับ สักกิโลเองมั้ง"

พี่หนุ่มแห่งลำคลองงูถามความเห็นสมาชิกทุกคนไม่มีใครปฏิเสธ ทั้งหมดจึงคว้าชูชีพกันคนละตัวก่อนเดินลงเนินตามพี่หนุ่มไปเป็นครั้งแรก (และอาจเป็นครั้งเดียว รวมถึงครั้งสุดท้ายไหมหนอ) ที่ "ต้อง" ใช้ชูชีพในการเดินทางเข้าถ้ำเพราะถ้ำที่นี่มีธารน้ำไหลผ่าน และระดับน้ำก็ลึกเกินกว่าเท้าหยั่งถึงลงไปได้พักเดียว พี่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ตาไว คว้าปูสีสดใสมาเข้ากล้องได้อีกพี่เขาบอกว่า ปูตัวดำระยางส้มสดพันธุ์นี้อาจเป็นพันธุ์ใหม่ของโลกก็ได้ (แต่ความเห็นผม คล้ายปูน้ำตกจัง)กำลังให้นักวิจัยไปค้นคว้าอยู่เป็นปูทูลกระหม่อมThaipolamon Chulabhorn Naiyanetr เดินชม (เสียง) นกชมไม้กันพอเริ่มเหงื่อซึม ก็มาถึงสุดทางรถที่ 4WD มาถึงได้ (หากจะลุย !!!) มีส่วนหลงเหลือของที่ทำการหน่วยย่อยเก่าให้เห็น ทั้งหมดก็นั่งพักเหนื่อยกัน

ตรงนี้คือบริเวณ karst window หนึ่งของถ้ำนกนางแอ่นครับ" พี่หนุ่มบอกให้ทุกคนทราบ

karst window เป็นลักษณะทางภูมิศาสตร์อย่างหนึ่ง อธิบายง่ายๆ ว่า เป็นเพดานถ้ำที่ถล่มลงมา โดยต้องมีธารน้ำไหลผ่านพื้นถ้ำบริเวณนั้นด้วย ถ้ำนกนางแอ่นมีลักษณะของ karst window ถึง 6 แห่ง และหนึ่งในนั้น (จำไม่ได้ว่าอันไหน) อาจเป็น karst window ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย (ขณะนี้ karst window ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ที่อเมริกาใต้ แต่ที่นี่อาจใหญ่กว่า กำลังรอการยืนยันจากนักวิชาการ)

แต่จุดนี้มองไม่เห็นตัวลำน้ำลำคลองงูเพราะป่าค่อนข้างทึบ และความใหญ่ของ karst window พี่หนุ่มบอกว่าเดินไปสักพักก็คงเห็นตัวลำน้ำเอง จากนี้แหละ ถึงเป็นจุดที่ "ต้อง" เดินกันอย่างจริงจัง เรียงเดี่ยวตามกันไปทีเดียว เพราะเดินเลาะไปตามขอบเขา ทั้งปีนป่าย กลั้นหายใจ (เพราะบางตอนทางแคบขนาดต้องเบี่ยงตัวถึงไปได้) ขวามือคือภูเขา ซ้ายมือคือทางลาดลง บางตอนก็ต้องลอดหินธรรมชาติที่ขวางอยู่ เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน

นานทีเดียวกว่าจะมาถึงบริเวณภาพเขียนโบราณที่เมื่อวานเห็นจากสไลด์ ภาพไม่ใหญ่เลย สักราวๆ หนึ่งตารางฟุตได้ มีหลายภาพในบริเวณใกล้ ๆ กัน และบางภาพเส้นที่เขียนก็จางจนต้องเพ่งมองถึงจะสังเกตได้พอครบคนก็เดินกันต่อ คราวนี้มาถึงช่วงสุดท้ายก่อนถึงปากถ้ำตอนหนึ่งของถ้ำนกนางแอ่น มีทางเลือกให้สองทาง ทางหนึ่งมุดโพรงเข้าไป ส่วนอีกทางเดินเลาะหินลงไปข้างล่าง ผมเลือกทางแรกกับพี่อีกสองสามคนก็งัดไฟฉายที่พกมาลองความสว่างกำลังไฟ แม้จะไม่มืดนัก แต่ถ้ามองไม่ชัดก็อาจเอาร่างกายไปปะทะกับหินไม่ยาก ไม่เกินห้านาที เราก็พบปากถ้ำอยู่ต่อหน้ากับสองตาของเราปากถ้ำใหญ่มากจริงๆ คะเนด้วยสายตาน่าจะสูงกว่า 50 เมตร กว้างไม่ต่ำกว่า 20 เมตรได้กลิ่นมูลนกนางแอ่นโชยมาจางๆ สมกับได้ชื่อนี้ และมีนกนางแอ่นบินเข้าออกเกือบตลอดเวลายืนชมความยิ่งใหญ่ของถ้ำจนพี่ ๆ อีกกลุ่มที่เดินลงไปเรียก ก็เลยค่อย ๆ ปีน+ตะกายกันลงมาทีละคน
ทางไปแต่ละคนไม่มีซ้ำ เพราะชำนาญทางไหน หรือเห็นทางไหนดีก็เดินเลาะหินกันไป ลำบากดี และอันตรายพอควร

ธารน้ำซึ่งไหลผ่านทางซ้ายมือของผม ดูเย็นน่าเล่นดีเหมือนกันแต่กล้องในกระเป๋าที่สะพายอยู่คงไม่ชอบแน่เลย เย็นไว้ก่อนโยมรวมทีมกันริมฝั่งลำธารลำคลองงู เที่ยงพอดี กินข้าว ๆ หิวแล้วกินกันไป คุยกันไป ดูเหมือนฟ้าอยากจะคุยด้วยมั้ง เมฆดำก่อตัวขึ้นก้อนไม่เล็ก แต่ก็ยังดีที่พวกเราคุยกันดังกว่า เม็ดฝนเลยยังไม่หยดมาเป็นเพื่อน

อิ่มกันแล้วก็ได้เวลาลอยคอเข้าถ้ำกัน ผมจัดการเอาลูกใส่ถุงพลาสติกใส ก่อนใส่ในกระเป๋าใบเก่ง (มีใบเดียวแหละ) แล้วมัดตราสังด้วยถุงพลาสติกอีกสองชั้น ลองดู มันจะไหวมั้ยกับสถานการณ์วันนี้ คราวนี้มันก็สะพายไม่ได้แล้ว ก็อุ้มไปสิครับ เทินหัวบ้างตามอารมณ์ พอมองชาวบ้านที่ไม่มีกล้องแล้ว ก็ชักอยากเดินสบาย ๆ ตัวกับเขาเหมือนกัน

"เอาละ ถึงเวลาต้องลงน้ำแล้ว pack ของให้ดีนะครับ น้ำบางช่วงลึกจนหยั่งไม่ถึงนะครับ ระวังด้วย" พี่หนุ่มและพี่ต้นย้ำก่อนเจอสถานการณ์จริง
เย็นจังเลย เป็นความรู้สึกเมื่อทั้งตัวลงไปในน้ำ มือหนึ่งประคองตัว อีกมือประคองถุง (ไม่ใช่กระเป๋าแล้ว) กล้อง ยังดีที่ได้หมุกมาช่วยเอาขาตั้งกล้องไปช่วยถือ ทำให้ไม่ทุลักทุเลมากเท่าไหร่การลอยคอช่วงนี้ระยะทางไม่ยาวนัก ไม่ถึงสิบนาที ผมก็พาตัวผ่านปากถ้ำเข้าไปยืนยังตลิ่งหินได้ "เจอแล้ว นี่ไงมอสเรืองแสง" ใครคนหนึ่งร้องบอกขึ้นมา

จากข้อมูลที่ทราบ มอสเรืองแสงเป็นพืชประหลาดที่จะสะท้อนแสงจนเป็นสีเขียวสดสว่างได้ แต่ก็เพียงมุมเดียวเท่านั้น หากมองไม่ตรงกับมุมนี้ จะมองเห็นเป็นสีเขียวธรรมดา ไม่สดสว่างสวยงามเลยอยากถ่ายรูปใจจะขาด รีบแกะอาวุธออกจากหีบห่อ แต่ขาตั้งจ๋า ยังอยู่กับนายหมุกอยู่เลย แง แงเลยต้องถ่ายมุมที่พอมีแสงรอขาตั้งไปก่อน เล็งไปยังมุมเบื้องหน้าที่จะมุ่งไป ถ้ำช่วงนี้มีระยะแค่ไม่เกินร้อยเมตรเท่านั้น ช่วงกลาง ๆ ของถ้ำแสงจะต่ำ แต่ปากถ้ำทั้งสองด้านสูงมาก ทำให้แสงเข้ามาจนมองเห็นทางโดยไม่ต้องพึ่งไฟฉาย

ขาตั้งมาแล้ว แต่กว่าจะปรับถ่ายได้ เขาก็จะไปกันต่อแล้ว เลยได้มาแค่สามรูปสำหรับช่วงถ้ำนี้ปีนกันอีกรอบ การมีกล้องนี่มีภาระจริงนะ (นึกในใจ ไม่กล้าบ่นออกไปจริง กลัวโดนตอกกลับว่าแล้วเอามาทำไม) ทางก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร ก็ตะกายกันไป
ผ่านน้ำอีกหน คราวนี้พอพ้น ขาตั้งไม่ห่างเจ้าของเลยได้ชักภาพอย่างทันใจ เป็นส่วนของ dropery (หวังว่าคงเขียนไม่ผิดนะ) ขนาดยักษ์ เห็นในรูปนะ ใครจะรู้ว่าทั้งแผ่นผนังถ้ำเลยนะ ใหญ่ขนาดสามสิบคูณยี่สิบเมตรได้มั้ง เบ้อเริ่มเลยหละเดินไต่เขามาจนเริ่มเหนื่อยอีกหนก็มาถึงช่วงสุดท้ายก่อนพ้นอาณาเขตถ้ำนกนางแอ่น มองทะลุจากช่องโพรงถ้ำสวยทีเดียว ได้รูปเพิ่มมาอีกหลาย

ลงน้ำอีกแล้ว ที่จริงช่วงสุดท้ายนี้ไม่ต้องลงน้ำก็ผ่านไปได้ แต่ควรมีสัญชาติญาณเลียงผามากๆ หน่อยเพราะทางเดินสูงจากพื้นน้ำที่ผมลอยคอไปน่าดู แถมทางเดินก็แคบๆ เล็กๆ อีก พี่เจ้าหน้าที่หลายคนก็ไปทางบก แต่ทุกคนที่มาใหม่ สมัครใจลงน้ำเรียบวุธทุกคน (สบายกว่ากันเยอะเลย)ระยะประมาณร้อยเมตรสุดท้ายนี้ ผมนอนลอยตัวปล่อยไหลไปตามน้ำ ชมหินงอก (stalacmite), หินย้อย(stalactite), หินไหล (flowstone) ที่วิจิตรพิสดารที่สรรค์สร้างมาโดยธรรมชาติอย่างสบายใจทีเดียว
พอขึ้นจากน้ำครั้งนี้แล้วก็เป็นอันจบวิบากกรรมการเปียกแต่เพียงเท่านี้ เพราะจากนี้ไปเราจะเลาะปีนเขา เพื่อมุ่งสู่ถ้ำใหญ่ ถ้ำอีกแห่งที่น่าสนใจในอุทยานแห่งนี้สรุปว่าถ้ำนกนางแอ่นนี้มีถึง 6 karst window คณะเราผ่านไปแค่เพียง 3 เท่านั้น แต่ก็พบสิ่งสวยงามใหญ่โตไปโข หากใครจะเก็บให้ครบต้องทำใจ และกายให้พร้อมกว่านี้ เพราะบางตอนอาจต้องล่องน้ำในถ้ำเป็นระยะทางกว่าสามกิโลเมตร คิดแล้วเอื๊อกครับผมแต่ละ karst window คั่นด้วยถ้ำที่มีธารน้ำไหลผ่านทั้งหมด ระยะของถ้ำสั้นยาวแล้วแต่ช่วง ส่วนที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวคือช่วงที่ผมผ่านเท่านั้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ไป เพราะโอกาสเกิดอันตราย
จากการไปมีสูง น้ำในถ้ำลึกตื้นไม่เท่ากัน ส่วนมากไม่ลึกนัก คนพอหยั่งถึง แต่ควรสวมชูชีพเสมอเมื่อลงน้ำ เพราะน้ำเย็นมาก และควรสวมหุ้มส้น เพราะใต้น้ำคือส่วนมากเป็นหิน แต่เป็นเลนก็มีนะไฟฉายไม่จำเป็นนัก เพราะทุกช่วงที่ผ่านแสงส่องถึงเกือบหมด เห็นทางเดินตลอด....

ผมเดินบนหินสลับดินขึ้นเขา โดยเลาะป่าและลำคลองงูไปเรื่อยๆ จนมาพบโพรงสุดท้ายที่ลำคลองงูมุดหายไป อันถือเป็นจุดสิ้นสุดเขตของถ้ำนกนางแอ่นพี่เจ้าหน้าที่นั่งรออยู่ เพราะต่างคนต่างเดิน ทำให้ทิ้งระยะกันพอสมควร ขึ้นเขาเลยครับท่าน เดินไปพักเหนื่อยไปเลยผมจนมารวมตัวกันอีกครั้งก่อนเข้าถ้ำใหญ่ พี่ต้นบอกว่าให้วางของไว้ตรงนี้ได้เลย เพราะลงไป แล้วเดี๋ยวก็ขึ้นมา
ที่นี่ก่อนกลับไปที่รถแต่ถ้าวางกล้อง ก็ไม่รู้เอามาทำไมนี่พี่ ผมนึกในใจก่อนไม่วางอะไรสักอย่างเดินตามพี่เขาไปปากถ้ำคงกว้างไม่ต่ำกว่าร้อยเมตรได้ (ใหญ่สมชื่อ) ส่วนความสูงกะได้ยากเพราะดินตั้งแต่ปากถ้ำจะเป็นslope ชันลงเข้าสู่ตัวถ้ำ ทำนองทางลงรถไฟใต้ดิน แต่คะเนก็ไม่น่าต่ำกว่ายี่สิบเมตร ส่วนจุดลึกสุดของส่วนที่ลาดลงถึงเพดาน คงไม่ต่ำกว่าห้าสิบเมตรเห็นจะได้

"ข้างในถ้ำ หลังเหลี่ยมมุมข้างหน้า จะเป็นสันทรายที่สูงมาก และตรงนั้นจะเป็นห้องโถงที่ใหญ่กว่าปากถ้ำนี่อีก เขาว่ากันว่าใครเข้าไปยืนตรงยอดสันทรายแล้วมองไปข้างหน้า จะรู้สึกเวิ้งว้างดุจอยู่ในอวกาศเพราะความใหญ่โตของโถงแห่งนี้เลยทีเดียว" พี่ต้นบรรยาย แต่ไม่มีใครจะขยับตัว ก็เหนื่อยได้ที่แล้ว กระดิกไม่ค่อยออก(หายซ่าส์) เลยได้แต่จินตนาการถึงความมโหฬารผ่านทางความคิดเท่านั้น
นอกจากนี้พี่หนุ่มยังบอกด้วยว่า ถ้ำนี้เป็นที่รู้จักของชาวบ้านแถบนี้เป็นอย่างดี และมีคนเดินทางผ่านถ้ำนี้บ่อยกว่าถ้ำนกนางแอ่น (ตอนหลังจึงถึงบางอ้อ เพราะเดินอีกไม่นานก็มาถึงทางคนเดินได้ ทางไม่ลำบากนี่เอง)เรียกได้ว่าถ้ำนี้เป็นจุดแวะเที่ยวอีกแห่งของแถบนี้ก็ว่าได้ที่นี่ก็มีพืชเรียงแสงเหมือนกัน หมอหนิงหนึ่งในทีมบอกว่า ไม่น่าใช่มอสเพราะไม่ใช่พืชใบเลี้ยงเดี่ยว ผมก็ได้แต่ฟังเพราะข้าน้อยด้อยวิชาในเรื่องนี้

ยืมชมความยิ่งใหญ่ทางธรรมชาติแห่งสุดท้ายของวันจนพอมีแรงกลับคืน ก็ชักชวนกันเดินกลับรถลากสังขารอันอ่อนเปลี้ย ขึ้นจากถ้ำใหญ่ ไปเรื่อยๆ ก็มาหยุดรอพลพรรคตรงจุดแรกที่เคยเป็นหน่วยเก่า

"รู้รึเปล่า? ว่าจุดนี้นะเป็นหลังคาของถ้ำใหญ่นะ" พี่ต้นเอ่ยขึ้นมาเหมือนจะเป็นคำถาม
"เขารู้ได้ยังไงน่ะพี่ สงสัยจัง" ผมถามบ้าง
"คณะที่เคยมาสำรวจใช้ระบบ GPS ตรวจสอบน่ะ" เป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว

หลังจากนับคนกัน ปรากฏว่าหมอหนิงหายไปหนึ่งคน ทำให้ต้องไล่เลียงกันยกใหญ่ว่าคลาดสายตากันไปตอนไหน ผมไม่ได้เป็นคนเห็นคนสุดท้าย แต่รู้ว่าพี่เขาเดินตามหลังผมมา ก็ช่วยกันคิดว่าน่าจะอยู่ที่ไหน แต่พี่หนุ่มสิตกใจจนต้องรีบลงไปหาอีกรอบทันที

ไม่นานนักก็ทราบว่าหมอหนิงเดินตามพี่เจ้าหน้าที่อีกคนขึ้นมาตรงจุดนี้นานแล้ว โดยไม่ได้แวะไปที่ถ้ำใหญ่ทำเอาทุกคนหายใจได้คล่องปอดเหมือนเดิมอีกครั้ง โดยเฉพาะกับพี่หนุ่มเดินกลับย้อนทางเดิมที่มาเมื่อเช้า พอเริ่มหมดแรง (รอบที่เท่าไรก็ไม่รู้) ก็ถึงรถพอดี ได้เสบียงจากพี่ๆ ที่เตรียมมาหน้าก็ใสขึ้นมาได้บ้างนอกจากคนจะกินขนมและน้ำแล้ว ก็มียุงกับผึ้งมาผสมโรงด้วย ทำให้ต้องรีบออกรถกลับที่ทำการกันโดยเร็วแต่ดูเหมือนเรื่องลำบากในวันนี้ ยังไม่หมดง่ายๆ ยางหลังเส้นหนึ่งของรถ 4WD เกิดอ่อนกว่าที่ควรขึ้นมาอีกพี่หนุ่มเลยบอกว่าให้ย้ายบางส่วนไปอัดกันในรถตู้ก่อน ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยมาถึงที่ทำการก็เกือบมืดแล้ว สุขใจแต่เหนื่อยกาย ก็กลับมานั่งคุยกับตามเคยก่อนหม่ำมื้อเย็นร้อนๆที่แสนอร่อย




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กระรอกดำ 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 6/9/2544 เวลา : 16:35  IP : 203.148.176.195   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 840

คำตอบที่ 2
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กระรอกดำ 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 6/9/2544 เวลา : 16:35  IP : 203.148.176.195   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 841

คำตอบที่ 3
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กระรอกดำ 203.148.176.195 พฤหัสบดี, 6/9/2544 เวลา : 16:36  IP : 203.148.176.195   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 842

คำตอบที่ 4
       เราคือคนต่อไปที่จะเขียนถึงถ้ำผานกนางแอ่น Version ,CAMEL THOPLY, ADVENTURE 4X4,PHA NANGNGEN CAVE TRIP



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ไพลินไพลิน จาก Forest Kangaroo ไพลิน 203.151.139.74 พฤหัสบดี, 6/9/2544 เวลา : 17:27  IP : 203.151.139.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 843

คำตอบที่ 5
       ... เราเป็นอีกคนหนึ่งที่จะมาถ่าย ทอด (หมู) เรื่องราว
โหด..มัน..ฮา...และ เศร้า ๆ ของชาวบูรพา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก นาย บี 203.146.173.146 พฤหัสบดี, 6/9/2544 เวลา : 21:05  IP : 203.146.173.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 846

คำตอบที่ 6
       เจอผมวันเสาร์ที่ข้่าวแกงร้อยหม้อ 8:00 น ถ้าเลยเวลาเดินทางก่อนได้เลยนะครับ เสือดำตามไปแน่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เสือดำ 203.148.176.195 ศุกร์, 7/9/2544 เวลา : 13:26  IP : 203.148.176.195   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 848

คำตอบที่ 7
       คนที่จะเป็นคนมาถ่ายทอดบอกเล่าต่อนะ เชิญทางนี้หน่อยครับ ชาวบูรพา&นายบี(เพิ่งChat กันเมื่อคืน)...
http://www.weekendhobby.com/offroad/trip/Question.asp?ID=147



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

WARWAR จาก WAR 203.170.225.32 พฤหัสบดี, 21/2/2545 เวลา : 13:44  IP : 203.170.225.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1871

คำตอบที่ 8
       อยากจะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆจังงงงง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ไตรภพ 203.147.4.22 พฤหัสบดี, 21/2/2545 เวลา : 16:13  IP : 203.147.4.22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1873

คำตอบที่ 9
       I will take full set of my camera to record the beautiful place on the film and brig back to present.
We should back to there after this Songkran ,the water level should be OK.



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

adventure999adventure999 จาก pon 203.150.14.100 พฤหัสบดี, 21/2/2545 เวลา : 16:38  IP : 203.150.14.100   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 1874

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,18 เมษายน 2567 (Online 4303 คน)