WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


แหล่งท่องเที่ยวทั่วไทย
champ067
จาก KidCowboy067
IP:58.9.171.239

จันทร์ที่ , 6/9/2553
เวลา : 09:39

อ่านแล้ว = 2480 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      

fiogf49gjkf0d
จัดไปพี่คิด ไปเมื่อไรบอกด้วยเด้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ012 จาก น้าหมู(Modern9) 202.142.200.250 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 11:18  IP : 202.142.200.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90036

คำตอบที่ 2
      

fiogf49gjkf0d
ต้องให้ 098 เป็นแม่งานถิ่นเค้า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.239 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 12:38  IP : 58.9.171.239   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90037

คำตอบที่ 3
      

fiogf49gjkf0d
1) ฝากมาให้ดูก่อนนะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran 115.87.20.137 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 18:06  IP : 115.87.20.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90039

คำตอบที่ 4
      

fiogf49gjkf0d
2)





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran 115.87.20.137 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 18:07  IP : 115.87.20.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90040

คำตอบที่ 5
      

fiogf49gjkf0d
3)





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran 115.87.20.137 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 18:07  IP : 115.87.20.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90041

คำตอบที่ 6
      

fiogf49gjkf0d
4) พอก่อนเน๊าะ!!





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kran Champ130 จาก Kran 115.87.20.137 จันทร์, 6/9/2553 เวลา : 18:08  IP : 115.87.20.137   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90042

คำตอบที่ 7
      

fiogf49gjkf0d
ฮั้นแน่หนีไปเที่ยวกันมาอีกแหล่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.146 อังคาร, 7/9/2553 เวลา : 10:20  IP : 58.9.171.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90045

คำตอบที่ 8
      

fiogf49gjkf0d
ระยอง ผลไม้รสล้ำ อุตสาหกรรมก้าวหน้า น้ำปลารสเด็ด เกาะเสม็ดสวยหรู สุนทรภู่กวีเอก


ระยองได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองแห่งกวีเอกของกรุงรัตนโกสินทร์ “สุนทรภู่” เนื่องจากฉากในนิทานเรื่องเอกของท่าน คือเรื่องพระอภัยมณีนั้น คือหมู่เกาะน้อยใหญ่ และท้องทะเลที่สวยงามของจังหวัดระยอง

นอกจากธรรมชาติอันงดงามที่ทำให้ระยองกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของภูมิภาคและของประเทศแล้ว ระยองยังเป็นแหล่งประมงและผลิตอาหารทะเลแปรรูปที่สำคัญ และเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีคุณภาพ ทั้งยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมและเป็นที่ตั้งของโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่สำคัญของประเทศอีกด้วย

และด้วยทำเลที่ตั้งที่ดี อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการคมนาคมสะดวก จังหวัดระยองในวันนี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นที่นิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายพร้อมสรรพ แต่ยังคงได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์และบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน

จังหวัดระยองมีเนื้อที่ประมาณ 3,552 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,220,000 ไร่ เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 45 ของประเทศ ลักษณะพื้นที่ประกอบด้วยชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 100 กิโลเมตร ที่ราบชายฝั่งทะเลและที่ลาดสลับเนินเขาและภูเขา รวมกับพื้นที่ทิวเขาชะเมาทางทิศตะวันออก และทิวเขาที่อยู่กึ่งกลางของตัวจังหวัดเป็นแนวยาวจากอำเภอเมืองฯ ขึ้นไปทางเหนือจนสุดเขตจังหวัด

ในเขตอำเภอเมืองฯ มีแม่น้ำสำคัญ 2 สาย คือ แม่น้ำระยอง ยาวประมาณ 50 กิโลเมตร ไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง และแม่น้ำประแสร์ ยาวประมาณ 25 กิโลเมตร ไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง

เมืองระยองเป็นเมืองเก่าแก่แห่งหนึ่ง สันนิษฐานว่าก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 1500 ในยุคที่ขอมมีอำนาจแถบดินแดนสุวรรณภูมิ ดังปรากฏจากหลักฐานซากศิลาแลง คูค่ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตอำเภอบ้านค่าย อันเป็นศิลปะการก่อสร้างแบบขอม

ราวปี พ.ศ. 2309 ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา ระหว่างที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะเสียกรุงแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 พระยาวชิรปราการ หรือพระยาตาก พร้อมไพร่พลประมาณ 500 คน ได้ตีฝ่าวงล้อมทัพพม่าออกมา และหยุดพักที่เมืองระยองก่อนเดินทัพต่อไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อยึดเป็นแหล่งรวบรวมกำลังพลเพื่อกลับไปกอบกู้อิสรภาพคืนจากพม่าในปี พ.ศ. 2311 โดยระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่ในระยองก็ได้ทรงจัดตั้งกองทัพเรือขึ้นด้วย

ปัจจุบันนี้ชาวเมืองระยองยังคงเคารพนับถือพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นอย่างมาก โดยเห็นได้จากการที่มีผู้คนมาสักการะอนุสาวรีย์ของพระองค์ ณ วัดลุ่มมหาชัยชุมพล ในตัวเมืองระยองเป็นจำนวนมาก และเทศบาลเมืองยังตั้งชื่อถนนสายสำคัญในตัวเมืองระยองว่า "ถนนตากสินมหาราช"

ชาวระยองส่วนใหญ่เป็นชาวชองที่สืบเชื้อสายจากเขมรผสมกับจีน ที่เหลือเป็นชาวจีนและชาวระยองเดิม การพูดของชาวชองจะมีหางเสียงว่า “ฮิ” ซึ่งหมายถึง “ค่ะ” หรือ “ครับ” เป็นเอกลักษณ์ของคนระยอง ที่คนทั่วประเทศรู้จักกันดีในปัจจุบัน

ส่วนชื่อเมือง “ระยอง” นั้น เพี้ยนมาจากคำว่า “ราย็อง” ซึ่งเป็นภาษาชอง อาจมีความหมายสองอย่าง คือ เขตแดน หรือไม้ประดู่

ในอดีตระยองแบ่งการปกครองเป็น 3 อำเภอ คือ ท่าประดู่ บ้านค่าย และแกลง ต่อมาอำเภอท่าประดู่มีประชากรจำนวนน้อย เลยถูกยุบเป็นตำบลท่าประดู่ ขึ้นกับเมืองระยอง ส่วนอำเภอแกลงนั้นเคยเป็นจังหวัดมาก่อน แต่ก็มีประชากรน้อยมาก ต่อมาจึงถูกลดฐานะลงเป็นอำเภอขึ้นกับจังหวัดระยอง

ปัจจุบันจังหวัดระยองแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง อำเภอแกลง อำเภอบ้านค่าย อำเภอบ้านฉาง อำเภอปลวกแดง อำเภอวังจันทร์ อำเภอเขาชะเมา และอำเภอนิคมพัฒนา



บ้านเพ

อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 19 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 231 ไปประมาณ 5 กิโลเมตร หรือแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 238 ประมาณ 3 กิโลเมตร



แหลมแม่พิมพ์

อยู่ห่างจากตัวเมืองระยอง 48 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิทมีทางแยกขวาไปแหลมแม่พิมพ์ถึง 3 แห่งด้วยกัน คือ กิโลเมตรที่ 259.5 กิโลเมตรที่ 263


อนุสาวรีย์สุนทรภู่

อยู่เลยแหลมแม่พิมพ์ทางไปอำเภอแกลงประมาณ 5 กิโลเมตร บนเส้นทางแกลง-แหลมแม่พิมพ์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงสุนทรภู่ กวีเอกในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น อนุสาวรีย์นี้เปิดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2513 บริเวณอนุสาวรีย์มีรูปปั้นของตัวละครเอกในเรื่องพระอภัยมณีจัดแสดงไว้ด้วย


พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดบ้านดอน

ตั้งอยู่ที่วัดบ้านดอน เป็นที่เก็บรักษาตัวหนังใหญ่ จำนวน 100 ตัว มีอายุมากกว่า 200 ปี ที่นำมาจากจังหวัดพัทลุง เมื่อ ปี พ.ศ. 2431


วัดโขดทิมธาราม

ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าประดู่ สร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2007 ผู้สร้างชื่อทิม เป็นเจ้าเมืองระยองในสมัยนั้น สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในอุโบสถมีภาพจิตกรรมฝาผนัง และหลวงพ่อขาวที่เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวระยอง และมีการจัดงานบูชานมัสการประจำปี ในวันที่ 13-14 เมษายนของทุกปี


วัดป่าประดู่

ชาวเมืองนิยมเรียกว่า เกาะกลาง ตั้งอยู่กลางเมืองด้านหลังศาลากลางจังหวัด เนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ เคยเป็นแดนสำหรับประหารนักโทษ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะ และสวนสุขภาพสำหรับประชาชน ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของหอพระพุทธอังคีรสซึ่งเป็นอาคารทรงไทย หลังคาจตุรมุข อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธอังคีรส ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของระยอง


•จังหวัดระยองมีฤดูการท่องเที่ยวคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม หากไปนอกฤดูท่องเที่ยวอาจเจอพายุฝนรุนแรงจนไม่สามารถเดินทางข้ามไปเกาะเสม็ดและเกาะต่างๆ ได้ นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศให้ดีก่อนเดินทาง










fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 7/9/2553 12:06:49



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.146 อังคาร, 7/9/2553 เวลา : 12:05  IP : 58.9.171.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90046

คำตอบที่ 9
      

fiogf49gjkf0d
เขื่อนหนองปลาไหล จังหวัดระยอง

สถานที่ตั้ง : ตำบลละหาร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ลักษณะเขื่อน เขื่อนดิน สูง ๒๔ เมตร มีความยาวตาม สันเขื่อน ๔,๐๖๐ เมตร สันเขื่อนกว้าง ๘ เมตร ฐานกว้าง ๑๓๒.๘๐ เมตร ความจุของอ่างเก็บน้ำสูงสุด ๒๐๕.๘๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ความจุดกักเก็บปกติ ๑๖๔ ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ ๑๒๗ ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนหนองปลาไหล เป็นเขื่อนเพื่อการชลประทานในโครงการชลประทานระยอง แต่เดิมจังหวัดระยองมีแหล่งน้ำหลักๆ คืออ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กไม่สามารถกักเก็บน้ำได้เพียงพอจึงต้องสร้างอ่างเก็บน้ำซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอยู่ห่างจากอ่างเก็บน้ำเดิมไป ๕ กิโลเมตรมีชื่อว่าอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ โดยสร้างกั้นลำห้วยคลองใหญ่หนึ่งในลำห้วยสาขาทางตอนเหนือของแม่น้ำระยอง ตัวอ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ ๒๒.๘๙ ตารางกิโลเมตร มีพื้นที่รับน้ำฝน ๔๐๘ ตารางกิโลเมตร น้ำทั้งหมดที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำคือน้ำฝนในพื้นที่รับน้ำ เหนืออ่างเก็บน้ำเป็นพื้นที่ราบไม่มีภูเขาไม่มีป่าไม้ ดั้งนั้นปริมาณน้ำในอ่างจึงฝากความหวังไว้กับปริมาณน้ำฝนเพียงอย่างเดียว น้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนหนองปลาไหลถูกปล่อยลงสู่คลองชลประทานซึ่งไหลผ่านอำเภอบ้านค่ายผ่านพื้นที่ทำการเกษตรในเขตจังหวัดระยอง ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตชลประทานจำนวน ๓๐,๐๐๐ ไร่ นอกจากนี้น้ำอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลยังใช้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของคนระยอง น้ำส่วนหนึ่งยังใช้เป็นแหล่งน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาในจังหวัดระยอง โดยการประปาระยอง การประปาบ้านฉาง และยังใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อการประปาของเมืองพัทยาอีกด้วย


นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศนโยบายแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ ๕ ระยองได้กลายเป็นเมืองอุตสหากรรมหนัก มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นมากมายทั้งนิคมอุตสาหกรรมของภาครัฐและเอกชน แต่นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีแหล่งน้ำเพื่อการอุตสหากรรมซึ่งจะต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตเป็นจำนวนมาก ดั้งนั้นจึงเกิดการแย่งน้ำระหว่างภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชนที่ต้องใช้แหล่งน้ำแห่งนี้ผลิตเป็นน้ำประปาหล่อเลี้ยงคนในจังหวัดระยอง ตามลำพังน้ำใช้ในภาคการเกษตรและภาคประชาชนก็ไม่ค่อยจะเพียงพออยู่แล้ว โดยทุกปีในช่วงฤดูแล้งจะเกิดปัญหาน้ำหมดอ่าง ประชาชนในเขตระยองจำนวนมากต้องสั่งซื้อน้ำจากรถน้ำเพื่อใช้สอย และเพื่อใช้รดน้ำในสวนทุเรียนซึ่งเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดปัญหาการแย่งน้ำจากภาคอุตสาหกรรมจึงทำให้ยิ่งเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำยิ่งรุนแรงขึ้น ภาคการเกษตรถึงแม้จะไม่สร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับประเทศแต่ก็เป็นอาชีพของคนท้องถิ่นซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่และเป็นเจ้าของพื้นที่ พื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำจำนวนพื้นที่มหาศาลถูกเวนคืนมาจากประชาชนเจ้าของพื้นที่เพื่อสร้างแหล่งน้ำเพื่อการชลประทาน แต่วันนี้ ( ๒๐ ส.ค. ๒๕๔๘ กลางฤดูฝน ) ประชาชนในพื้นที่ชลประทานที่มีคลองชลประทานผ่านกลับไม่มีน้ำเพราะต้องกันน้ำไว้เพื่อส่งเข้าโรงงานอุตสาหกรรม แหล่งน้ำเพื่อการเกษตรถูกใช้เป็นแหล่งน้ำดิบราคาถูกป้อนให้กับผู้ผลิตน้ำเพื่อป้อนให้กลับโรงงานอุตสาหกรรมสร้างผลกำไรจำนวนมหาศาล จึงถึงวันนี้ ๒๐ ส.ค. ๒๕๔๘ น้ำหมดอ่าง ปริมาณกักเก็บต่ำสุด ๑๓.๑๖ ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งจะต้องกันไว้เพื่อหล่อเลี้ยงอ่างเก็บน้าเพื่อไม่ให้อ่างแตกกลับถูกบริษัทผู้ผลิตน้ำดูดขึ้นมาใช้จนเหลือเพียง ๙.๘๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ถ้าหากยังไม่มีฝนตกเพิ่มจะทำให้เหลือน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาได้เพียง ๒๐ วันเท่านั้น นี่ขนาดว่าอยู่ในช่วงกลางฤดูฝนยังมีปัญหาถึงเพียงนี้ หากพ้นฤดูฝนต้องผ่านฤดูแล้งยิ่งจะทำให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสาหัสยิ่งนักยากที่จะแก้ไข
ด้านการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนในท้องถิ่น มีหลายกิจกรรมที่ทำได้คือการไปตั้งแค้มป์พักแรมบริเวณหาดทรายริมอ่าง กิจกรรมตกปลาซึ่งเป็นที่นิยมมาก



การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด หรือสายมอเตอร์เวย์มุ่งสู่ระยอง บนเส้นทางหลวงสาย 36 ก่อนจะถึงตัวเมืองระยอง บริเวณสี่แยกมาบข่าให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปจนถึงสี่แยกพัฒนานิคมให้ขับผ่านสี่แยกตรงไป ไปจนสุดเส้นทางคืออ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล เพียงรถขึ้นเนินก่อนจะสุดเส้นทางก็เห็นอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่อยู่เบื้องหน้า หากไปเที่ยวระยองแล้วมีเวลาก็ลองแวะไปเที่ยวชมกัน







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.146 อังคาร, 7/9/2553 เวลา : 12:30  IP : 58.9.171.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90047

คำตอบที่ 10
      

fiogf49gjkf0d
งานอ็อฟโร้ด 18-19 กันยายน 2553 เผื่อพวกเราอยากจะไป





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.146 อังคาร, 7/9/2553 เวลา : 12:44  IP : 58.9.171.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90048

คำตอบที่ 11
      

fiogf49gjkf0d
ไม่รู้อยากตกปลาหรือช่วยน้องเค้าจับชะโด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.171.146 อังคาร, 7/9/2553 เวลา : 12:45  IP : 58.9.171.146   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90049

คำตอบที่ 12
      

fiogf49gjkf0d
คอลัมน์: ไลฟ์สไตล์: ดูปู เที่ยวพุ ถ่อแพ ที่ห้วยเขย่ง กาญจนบุรี
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- เสาร์ที่ 18 กันยายน 2553 00:00:59 น.
คอลัมน์ "ไลฟ์สไตล์" ในสัปดาห์นี้ขอพาไปท่องเที่ยวหลายสไตล์ในโครงการ "เทศกาลดูปู เที่ยวพุ ถ่อแพ ที่ห้วยเขย่ง" ที่ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ตำบลห้วยเขย่ง ประวัติความเป็นมาที่เรียกว่าห้วยเขย่ง เนื่องจากสมัยก่อนชาวบ้านได้เลี้ยงช้างเพื่อชักลอกไม้ท่อน และมีคนเลี้ยงช้างชื่อ "พระเขย่ง" มีอยู่วันหนึ่งช้างได้เกิดตกมันและได้เหยียบพระเขย่งตายบริเวณลำห้วย จนชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า ห้วยพระเขย่ง ต่อมาคำว่า พระ ได้หายไป และพูดสั้นขึ้นว่า ห้วยเขย่ง มาจนถึงปัจจุบัน

กิจกรรมไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับการมาที่ห้วยเขย่งแห่งนี้ คือไปดู "ปูราชินี" ที่พุปูราชินี ในบรรดาปูน้ำจืดทุกชนิด "ปูราชินี" จัดว่าเป็นปูน้ำจืดประเภทปูป่าที่มีสีสันสวยงามที่สุด โดยจะมีสีสันมากถึง 3 สี คือ ขาเป็นสีแดง ตรงโคนขา ก้ามหนีบ และบริเวณขอบกระดองเป็นสีขาว ตรงกลางกระดองเป็นสีน้ำเงิน ชาวบ้านจึงมักจะเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "ปูสามสี"

จากนั้นเดินต่อไปยัง พุหนองปลิง เป็นป่าพุที่มีพันธุ์ไม้ต่างๆ มีระยะเส้นทางกว่า 500 เมตร โดยเดินบนสะพานศึกษาธรรมชาติ จะมีป้ายจุดการเรียนรู้ที่จะชี้ชวนให้ได้สังเกต รวมถึงศึกษาพรรณไม้ และความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับระบบนิเวศ และยังได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้ทั้งความรู้และพักผ่อนไปพร้อมๆ กัน

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยแบบมันส์ๆ ที่ภูไอยรา รีสอร์ท มีกิจกรรมมากมายต้อนรับนักผจญภัยทั้งหลาย เริ่มจาก ขับรถเอทีวี ชมเส้นทางธรรมชาติ ที่รายล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี สลับกันวิวทิวทัศน์ต้นยางต้นสูงสีน้ำตาลที่เรียงรายดูสบายตา ผสมลุยโคลนเป็นระยะๆ ต่อจากนั้นไปท้าทายความเสียวกันต่อในกิจกรรมไอยราฟลายอิ้ง ซึ่งมีหลายด่านให้มันส์สุดๆ อาทิ โรยตัวห้อยโหนแบบเส้นสลิง ไต่สะพานสะลิง ปีนฐานกิจกรรมบนต้นไม้

ตบท้ายด้วยกิจกกรมผ่อนคลาย ถ่อแพไม้ไผ่ บนสายน้ำของธรรมชาติ 2 ข้าง สูดอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์พร้อมชื่นชมบรรยากาศเขียวขจี ฟังเสียงน้ำไหลตลอดเส้นทาง ชวนให้ผ่อนคลายได้ไม่น้อย และได้ตื่นเต้นกับความแรงของน้ำในบางจุดที่ทำให้ผู้ร่วมทริปในการถ่อแพไม้ไผ่

โครงการ "เทศกาลดูปู เที่ยวพุ ถ่อแพ ที่ห้วยเขย่ง" ที่ ททท.จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของ ต.ห้วยเขย่งให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และยังเป็นการกระตุ้นให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในสุดสัปดาห์นี้หากผู้อ่านกำลังมองหาที่เที่ยวเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ ลองหาโอกาสมาเยือนทองผาภูมิโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันเขียวขจีแล้ว ยังมีโอกาสได้เห็น "ปูราชินี" ที่สวยและหายากชนิดหนึ่งของเมืองไทย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.172.78 เสาร์, 18/9/2553 เวลา : 13:39  IP : 58.9.172.78   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90238

คำตอบที่ 13
      

fiogf49gjkf0d
คอลัมน์: NATIONAL GEOGRAPHIC: ปลาไหล...นักเดินทางไร้ร่องรอย
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 18 กันยายน 2553 00:00:57 น.
พวกมันอาศัยอยู่ตามแม่น้ำและทะเลสาบหลายสิบปีก่อนจะว่ายข้ามมหาสมุทรไปวางไข่อย่างลึกลับ

ปลาไหลน้ำจืดสกุลAnguilla เป็นปลาโบราณที่วิวัฒน์ขึ้นบนโลกมานานกว่า 50 ล้านปีแล้ว โดยแตกสาแหรกออกเป็น 16 ชนิดพันธุ์ และ 3 ชนิดย่อย ปลาอพยพส่วนใหญ่ เช่น แซลมอนและแชด เป็นปลาสองน้ำที่วางไข่ในแหล่งน้ำจืด (anadromous fish) และใช้ชีวิตช่วงโตเต็มวัยในน้ำเค็ม แต่ปลาไหลน้ำจืดเป็นหนึ่งในปลาอพยพเพียงไม่กี่ชนิดที่ทำตรงกันข้าม พวกมันเป็นปลาสองน้ำที่วางไข่ในน้ำเค็ม (catadromous fish) แต่ไปใช้ชีวิตช่วงโตเต็มวัยในทะเลสาบ แม่น้ำ หรือบริเวณปากแม่น้ำที่ติดต่อกับทะเล โดยทั่วไปแล้วเรามักพบปลาไหลเพศเมียบริเวณต้นแม่น้ำ ขณะที่เพศผู้อาศัยอยู่ตามปากแม่น้ำ ปลาไหลอาจใช้ชีวิตอยู่ในแม่น้ำหลายสิบปีก่อนจะว่ายกลับไปวางไข่ในมหาสมุทร แล้วก็ตาย ที่ผ่านมายังไม่มีใครเคยเห็นการวางไข่ของปลาไหลน้ำจืดเหล่านี้เลย ด้วยเหตุนี้ การแพร่พันธุ์ของพวกมันจึงเป็นความลี้ลับที่นักชีววิทยาผู้ศึกษาปลาไหลกระหายจะได้ทราบเป็นอย่างยิ่ง

ในห้องเรียนวิชาชีววิทยา เราเรียนรู้ว่าปลาไหลที่จับได้ตามลำธารและหนองบึงนั้นถือกำเนิดจากไข่ที่ล่องลอยอยู่ในมหาสมุทร เรารู้ว่าปลาไหลน้ำจืดวางไข่ในมหาสมุทร เพราะมีผู้พบเห็นตัวอ่อนลอยอยู่ใกล้ผิวน้ำห่างจากชายฝั่งหลายพันกิโลเมตร แต่เดิมเราเข้าใจว่าตัวอ่อนปลาไหลที่มีหัวขนาดเล็กจ้อย ตัวผอมบาง ใสและเรียวยาวเหมือนใบต้นหลิว ปากมีฟันแหลมยื่นออกมาเป็นปลาอีกชนิดพันธุ์หนึ่ง จนกระทั่งปี 1896 เมื่อนักชีววิทยาชาวอิตาลีสองคนได้เห็นตัวอ่อนตัวหนึ่งในถังเลี้ยงเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นปลาไหล ความคิดนี้จึงเปลี่ยนไป

ปลาไหลมีความสามารถในการย้ายถิ่นอย่างน่าอัศจรรย์ เราพบพวกมันในทะเลสาบ ห้วยหนอง และแม้แต่หลุมที่ขุดไว้สำหรับปักเสา แหล่งน้ำเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับทะเลแต่อย่างใด เคยมีผู้พบเห็นปลาไหลนับพันตัวอพยพจากบึงแห่งหนึ่งไปยังแม่น้ำในคืนวันฝนตก โดยต่างใช้ร่างชื้นๆ ของกันและกันเป็นสะพาน

นอกจากความสามารถในการปรับตัวได้เป็นเลิศแล้ว การอพยพย้ายถิ่นของปลาไหลตัวเต็มวัยนับล้านตัวจากแม่น้ำไปสู่มหาสมุทร ต้องติดทำเนียบมหากาพย์การเดินทางอันยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์โลกทั้งมวล และยังไม่เคยมีใครพบเห็นอีกด้วย พวกมันเดินทางเป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร เผชิญกับภยันตรายสารพัดตลอดเส้นทาง ทั้งเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ การเปลี่ยนเส้นทางของแม่น้ำ มลพิษ โรคภัยไข้เจ็บ และสัตว์นักล่าต่างๆ รวมทั้งการล่าจากมนุษย์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน และการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำมหาสมุทรที่เกิดจากภาวะโลกร้อนอาจทำให้พวกมันหลงทิศทางขณะอพยพได้

กำเนิดของปลาไหลเป็นเรื่องที่นักธรรมชาติวิทยาเสนอทฤษฎีกันไปต่างๆ นานา ตั้งแต่อาริสโตเติล ไปจนถึงคาร์ล ลินเนียส เป็นต้นว่าตัวอ่อน ของปลาไหลเกิดจากโคลนบ้าง ปลาไหลออกลูกออกหลานจากการถูตัวกับหินบ้าง หรือไม่ก็ออกลูกเป็นตัวบ้าง ปัญหาข้อหนึ่งก็คือ ไม่มีใครบอกได้ว่าสเปิร์มและไข่ของปลาไหลหน้าตาเป็นอย่างไร แม้แต่เรื่องที่ว่าปลาไหลมีเพศหรือไม่ก็ยังไม่มีใครบอกได้ เพราะไม่มีใครทราบว่าอวัยวะสืบพันธุ์ของมันมีลักษณะอย่างไร (ปรากฏว่าอวัยวะสืบพันธุ์ของปลาไหลจะเจริญขึ้นพร้อมไข่และสเปิร์ม เมื่อพวกมันว่ายออกจากปากแม่น้ำเพื่อไปยังแหล่งวางไข่ในมหาสมุทรแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่มีใครพบเห็นพวกมันอีก)

ล่วงถึงปลายศตวรรษที่สิบเก้า ในเมืองตรี เอสเต ประเทศอิตาลี นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งชื่อซิกมุนด์ ฟรอยด์ ได้รับมอบหมายให้ศึกษาอัณฑะของปลาไหลเพศผู้ ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นห่วงสีขาวๆ อยู่ในช่องลำตัวของปลา (บทความเรื่องปลาไหลนี้เป็นผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ชิ้นแรกของฟรอยด์) ต่อมาในปี 1897 เรื่องนี้ได้รับการยืนยันเมื่อมีผู้จับปลาไหลเพศผู้วัยเจริญพันธุ์ได้ที่ช่องแคบเมสซีนา

ในปี 1904 โยฮันเนส ชมิดท์ นักสมุทรศาสตร์และนักชีววิทยาหนุ่มชาวเดนมาร์ก ได้รับว่าจ้างให้ร่วมเดินทางไปกับเรือ ธอร์ ซึ่งเป็นเรือสำรวจทางวิทยาศาสตร์สัญชาติเดนมาร์ก วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิปีนั้น ขณะลอยลำอยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะแฟโร ตัวอ่อนของปลาไหลพันธุ์ยุโรป (Anguilla anguilla) ตัวหนึ่งติดมากับอวนลากของเรือ เป็นไปได้หรือไม่ว่าปลาไหลที่อาศัยอยู่ตามลำธารในเดนมาร์กจะว่ายออกไปวางไข่ไกลถึงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก

ชมิดท์รวบรวมข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า ยิ่งไกลจากชายฝั่งทวีปยุโรปออกไปเท่าไร ปลาไหลยิ่งมีขนาดเล็กลง เขายังเชื่อว่าปลาไหลต้องวางไข่ในทะเลซาร์แกสโซ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ชมิดท์บันทึกไว้ในปี 1923 ว่า "ยังไม่เคยพบหลักฐานว่ามีปลาชนิดไหนต้องเดินทางถึงหนึ่งในสี่ของเส้นรอบวงโลกเพื่อให้ครบวงจรชีวิตของมัน" หลังจากชมิดท์เสียชีวิตในปี 1933 นักวิทยาศาสตร์บางคนตั้งข้อสงสัยในสมมุติฐานเรื่องทะเลซาร์แกสโซของเขา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าชมิดท์ปกปิดข้อมูลบางอย่าง มิหนำซ้ำพวกเขายังตั้งคำถามว่าชมิดท์แน่ใจได้อย่างไรว่า ทะเลซาร์แกสโซเป็นแหล่งวางไข่ของปลาไหลเพียงแห่งเดียว ในเมื่อเขายังไม่เคยเห็นลูกปลาไหลฟักออกจากไข่ และแทบไม่ได้มองหาปลาไหลจากแหล่งอื่นๆ เลย ทว่าคำอธิบายเรื่องปลาไหลของชมิดท์ดูจะยังคงเป็นความจริงจนถึงทุกวันนี้

ต่อมาในปี 1991 มีการเดินทางสำรวจที่เป็นการค้นพบใหม่อีกครั้งหนึ่ง การสำรวจในครั้งนั้นนำโดยคัทสึมิ สึกะโมะโตะ จากสถาบันวิจัยบรรยากาศและมหาสมุทร มหาวิทยาลัยโตเกียว และมีไมเคิล มิลเลอร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นนักศึกษาบัณฑิตวิทยาลัยจากมหาวิทยาลัยเมน ร่วมอยู่ในทีมด้วย ในคืนเดือนมืดคืนหนึ่ง ทางทิศตะวันตกของเกาะกวมกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ทีมสำรวจได้พบตัวอ่อนของปลาไหลพันธุ์ญี่ปุ่น (Anguilla japonica) อายุไม่กี่วันหลายร้อยตัว การค้นพบดังกล่าวทำให้เราทราบแหล่งวางไข่ของปลาไหลชนิดนี้เป็นครั้งแรก อีก 19 ปีต่อมา สึกะโมะโตะและมิลเลอร์ก็ยังคงออกท่องมหาสมุทรเพื่อค้นหาปลาไหลที่กำลังวางไข่ ประชากรปลาไหลทั้งพันธุ์อเมริกัน ยุโรป และญี่ปุ่น ต่างลดจำนวนลง บางชนิดลดลงอย่างน่าใจหาย เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 สองพี่น้อง ได้แก่ ดั๊ก วัตส์ นักหนังสือพิมพ์อิสระ กับทิม วัตส์ นักการภารโรงในรัฐแมสซาชู เซตส์ เข้ายื่นหนังสือขอให้กรมประมงและสัตว์ป่าของสหรัฐฯ ขึ้นทะเบียนปลาไหลพันธุ์อเมริกัน (Anguilla rostrata) เป็นชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามหรือถึงขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทั้งคู่ได้แรงจูงใจจากเอกสารของจอห์น แคสเซิลแมน นักชีววิทยา ที่รายงานว่า จำนวนประชากรปลาไหลในแถบต้นแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ลดลงอย่างฮวบฮาบ ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 จนถึงกลางทศวรรษ 2000 จำนวนปลาไหลวัยเยาว์ที่นั่นลดลงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ภูมิภาคแถบนี้ซึ่งประกอบด้วยต้นแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์และทะเลสาบออนแทรีโอ ตลอดจนลำน้ำสาขาต่างๆ ถือเป็นแหล่งอนุบาลปลาไหลที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ

อุปสรรคประการหนึ่งสำหรับประชากรปลาไหลในแถบนี้ คือการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งขวางเส้นทางอพยพของปลาไหล แม้ปลาไหลวัยเยาว์อาจว่ายทวนน้ำขึ้นไปทางต้นน้ำได้โดยอาศัยบันไดปลาโจน แต่เมื่อมันกลับลงมาในสภาพตัวเต็มวัย (เพศเมีย) มันก็อาจถูกกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดูดเข้าไป "บางตัวออกมาในสภาพโดนถลกหนังทั้งตัวเลยครับ" ดั๊ก วัตส์ บอกผม ยิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งอันตราย อย่างปลาไหลครีบยาวในนิวซีแลนด์ที่ตัวยาวได้ถึงสองเมตรหรือกว่านั้น กังหันหมายถึงความตายสถานเดียว

ปลาไหลที่เอาตัวรอดมาจากเขื่อนได้ก็อาจไม่พ้นเงื้อมมือนักล่าชั้นยอดของโลก (เป็นใครไปไม่ได้นอกจากมนุษย์) การค้าปลาไหลระหว่างประเทศมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแรงผลักดันสำคัญจากความนิยมรับประทานปลาไหลย่างหรือ คะบะยะกิ ของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อกันว่าปลาไหลมีสรรพคุณช่วยเสริมพลังให้ร่างกายทนต่ออากาศร้อนได้ดี และวัน โดะโยะอุชิโนะฮิ หรือวันปลาไหล ก็มักตรงกับช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่ตลาดอาหารทะเลสึกิจิอันโด่งดังในกรุงโตเกียว มีการขายปลาไหลสดๆ ในช่วงเดือนนี้เมื่อปีที่แล้วมากกว่า 50,000 กิโลกรัมทีเดียว

ปลาไหลที่เสิร์ฟตามภัตตาคารในแมนแฮตตันอาจฟักออกจากไข่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ไปติดอวนที่ปากแม่น้ำในแคว้นบาสก์ของฝรั่งเศส ถูกส่งต่อไปยังฮ่องกงโดยทางเครื่องบิน ได้รับการเพาะเลี้ยงในฟาร์มที่มณฑลฝูเจี้ยนหรือกวางตุ้งบนจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วส่งเข้าโรงงานใกล้ๆ ฟาร์มเพื่อล้างทำความสะอาด ปรุงสุก และบรรจุหีบห่อ ก่อนจะส่งขึ้นเครื่องบินไปยังนครนิวยอร์ก กระบวนการเตรียมปลาไหลเพื่อจำหน่ายนั้นมักเริ่มจากการจับลูกปลาซึ่งเป็นตัวใสๆ (เป็นที่มาของชื่อ "ปลาไหลแก้ว") หลังจากที่พวกมันว่ายจากมหาสมุทรไปถึงแหล่งน้ำจืดแล้ว ลูกปลาเหล่านี้จะถูกส่งไปขุนให้อ้วนที่ฟาร์มซึ่งมีลักษณะคล้ายโกดังในจีน ปัจจุบันการค้าปลาไหลยังต้องพึ่งการจับลูกปลาจากแหล่งธรรมชาติ เพราะยังไม่มีใครทราบวิธีผสมพันธุ์ปลาไหลในสถานเพาะเลี้ยงเพื่อการค้าเลย

เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในการผสมเทียมปลาไหลในห้องปฏิบัติการ แม้ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก แต่การเพาะขยายพันธุ์ปลาไหลในสถานเพาะเลี้ยงเช่นนี้ อาจช่วยแบ่งเบาความกดดันที่มีต่อประชากรปลาไหลในธรรมชาติได้ในอนาคต.

บรรยายใต้ภาพ
ลูกปลาไหลอายุหนึ่งปีชูคอสลอนขึ้นมาจากโพรงใต้แม่น้ำเพมาควิดในรัฐเมน
ลูกปลาไหลที่มีตาสีดำและหัวใจสีแดงก่ำจากแม่น้ำดามาริสคอตตาในรัฐเมนเหล่านี้อาจมีสนนราคาถึง 900 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมเมื่อส่งไปขายยังเมืองจีน สหรัฐฯ เข้มงวดกับการจับปลาไหลมาก รัฐเมนเป็นหนึ่งในไม่กี่รัฐที่อนุญาตให้มีการส่งออกลูกปลาไหล

ในช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ อีวอนน์ แครีย์ (ซ้ายสุด) กับเจนนา ลูกสาว ส่องไฟฉายขณะจับปลาไหลจากแม่น้ำอีสต์ในรัฐโนวาสโกเชียของแคนาดา ก่อนนำไปกลับอนุบาลต่อที่บ้านเพื่อเตรียมส่งไปยังเอเชียขณะที่ยังเป็นๆ

ปลาไหลย่างบนถ่านไม้บีชและไม้โอ๊กที่ร้านรมควันของอเล็กซ์ เคลเลวิน ชาวดัตช์ ละลายในปากราวกับช็อกโกแลตชั้นดี เคลเลวินบอกว่า "ความมันกับกลิ่นหอมจากการรมควันทำให้มันอร่อยที่สุดเลยครับ"



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

champ067 จาก KidCowboy067 58.9.172.78 เสาร์, 18/9/2553 เวลา : 13:42  IP : 58.9.172.78   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 90239

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,29 มีนาคม 2567 (Online 4259 คน)