WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


สาระน่ารู้ เพื่อสุขภาพ

จาก kran Champ 130
IP:210.246.64.42

จันทร์ที่ , 22/1/2550
เวลา : 10:11

อ่านแล้ว = 2109 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      

fiogf49gjkf0d
การโภชนาการและการพักผ่อนที่ดี

ด้วยมีสมาชิกชมรมฯ ได้ไปฟังการบรรยายพิเศษของ คุณหมอพันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ เห็นว่าดีมีประโยชน์ จึงสรุปส่งเนื้อหามาให้ผู้เขียนอ่าน ผู้เขียนเห็นว่า น่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย ผู้เขียนจึงเรียบเรียงเนื้อหาให้กระชับชัดเจนมากขึ้น ขอเชิญท่านหาความรู้จากบทความเรื่องนี้ได้ครับ
1. ดุลยภาพแห่งชีวิต คือ ความสมดุลของชีวิต ย่อมมีทั้งชีวิตการงาน ชีวิตส่วนตัว ชีวิตในสังคม ชีวิตครอบครัว และสุขภาพ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ สุขภาพ ถ้าสุขภาพเสียทุกสิ่งก็สูญสลาย
2. การแพทย์วิถีธรรมชาติ อาจารย์หมอพันธ์ศักดิ์ฯ ในอดีตต้องทำงานหนักทั้งงานราชการ คลีนิค และครอบครัว ต้องตื่นตีห้าและเข้านอนห้าทุ่มล่วงเลยไปแล้ว ส่งผลให้เกิดโรคเครียด โรคกระเพาะอาหาร โรคภูมิแพ้ และความจำไม่ดี พออายุ 40 ปี จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ แล้วไปเรียนการแพทย์วิถีธรรมชาติจากออสเตรเลีย นับจากนั้นมา อาจารย์หมอพันธ์ศักดิ์ฯ ไม่เคยเจ็บป่วยอีกเลย ปัจจุบันอาจารย์มีความสุขมาก ๆ และหน้าตาดูดีกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาก
3.ทำอย่างไรให้สุขภาพดีไม่เจ็บป่วย
3.1 สุขภาพ คือภาพแห่งความสุข ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใสเบิกบาน อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3.2 อาหาร คือแหล่งพลังงานของชีวิต การรับประทานอาหารที่ทำให้สุขภาพดี ไม่เจ็บป่วยและอายุยืน จะต้อง กินอาหารเช้าอย่างราชา อาหารกลางวันอย่างคนธรรมดาและอาหารเย็นอย่างยาจก ดังนั้น อาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:19  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9603

คำตอบที่ 2
      

fiogf49gjkf0d
3.3 อนุมูลอิสระ (Free radical) การรับประทานอาหารจะเกิดของเสียที่เรียกว่า อนุมูลอิสระหรือเรียกว่าประจุวิ่งหารัก หรือประจุขาดรัก วิ่งไปทั่วร่างกาย อวัยวะที่เล็กที่สุดในร่างกาย คือ เซล
เซลประกอบด้วย ผนังห้อง และแกนกลางเรียกว่า นิวเคลียส หรือ DNA นิวเคลียสเป็นพิมพ์เขียวที่ทำหน้าที่สร้างเซลใหม่ ส่วนอนุมูลอิสระจะเป็นตัวทำลายผนังห้องและนิวเคลียส ทำให้เซลเนื้อเยื่อเปลี่ยนแปลงไป แต่ร่างกายเราจะมีระบบภูมิคุ้มกัน ถ้าไม่ดูแลสุขภาพให้ดีภูมิคุ้มกันจะถูกทำลาย ทำให้เกิดมะเร็งและโรคต่างๆ เกิดขึ้นได้โดยง่าย

3.4 อาหารเช้า ควรรับประทาน คาร์โบไฮเดรท วิตามินบี และซี ถ้าไม่กินมื้อเช้าชีวิตจะเริ่มต้นด้วยความเป็นกรด (แลคติกแอซิค) ยกเว้นเรามียาวิเศษคือ การหัวเราะ เพราะขณะหัวเราะร่างกายจะเปลี่ยนเป็นด่าง หัวเราะ 1 ครั้ง อายุยืน 5 นาที อาหารเช้าที่ต่อต้านความเครียดในการทำงานได้แก่ วิตามินบี และซี ซึ่งไม่มีการเก็บสะสม เพราะละลายในน้ำได้หมด มื้อเช้าที่เร็วและง่าย คือ กล้วยหอม 1 ลูก+ส้ม 1 ลูก + นม 1 กล่อง (หรือ HOT CHOCOLATE) ในกล้วยหอมมีแมกนีเซียม และโปตัสเซียม ในส้มมีวิตามินซี โดยเฉพาะกากส้มขาว ๆ มีเส้นใยไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายในน้ำ ที่สามารถช่วยดูดซึมพิษในร่างกายและขับออกไป กากส้มมีวิตามินซีมากกว่าน้ำส้ม ในนมมีสารทริบโตเฟน ทำให้กระปรี้กระเปร่า และ อารมณ์ดี

3.5 อาหารกลางวัน กินอะไรก็ได้ที่ชอบ เช่น แกงเขียวหวาน ขาหมู ก๋วยเตี๋ยว แต่ที่ เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ คือ น้ำตาล และน้ำมัน ที่จะต้องพยายามหลีกเลี่ยง

3.6 อาหารเย็น ต้องกินพืชผักและผลไม้ เพื่อให้ได้ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความแก่ มื้อเย็นง่าย ๆ เช่น ผัดผัก 1 จาน + ส้มตำ 1 จาน + น้ำผลไม้ 1 แก้ว กินผักผลไม้วันละ ½ กก. จะทำให้แก่ช้า หรือดื่มน้ำผลไม้สดวันละ 3 แก้ว 3 สี แก้วละสี หรือผสมกันก็ได้ สุขภาพจะดีขึ้นมาก

คาร์โบไฮเดรท ทำหน้าที่ให้พลังงาน มีมากในแป้ง ข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว วิธีกินคาร์โบไฮเดรทไม่ให้อ้วน คือกินช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด กินพออิ่ม ที่เหลือเก็บไว้กินในมื้อต่อไป หรือ พยายามกินเพียง 3 ใน 4 ส่วน ที่อยู่ในจาน แล้วหยุดกิน

วิตามินบี มีมากในธัญญพืช ลูกเดือย ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง ถั่วแดง เต้าหู้

โปรตีน มีมากในเนื้อสัตว์ อายุเกิน 35 รับประทานโปรตีนพอประมาณ ถ้ามากจะทำให้ดูดซึมแคลเซียมไม่ดี เกิดโรคกระดูกผุ สัตว์ใหญ่ก่อนตายจะหลั่งสารแอดรีนาลิน (สารทุกข์) ผสมเข้าไปในกระแสเลือด จึงไม่ควรกินเลือดสัตว์อย่างยิ่ง อันตรายยิ่งนัก ให้เปลี่ยนไปกินปลาแทน เพราะย่อยง่ายและมีไขมันชั้นดี ทำให้การไหลเวียนของเลือดดี ป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือด แก้มปลามีแคลเซียมมากกว่าส่วนอื่น ควรกินปลาสัปดาห์ละ 3 มื้อ ก็เพียงพอแล้วอย่ากินทุกมื้อ เพราะจะทำให้เลือดออกไม่หยุด ชาวเอสกิโมโดนมีดบาดเลือดจะออกไม่หยุดเพราะกินปลาทุกมื้อ หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรกิน Fish oil เพราะอาจทำให้ตกเลือด

แคลเซียม ในวัยทองต้องการแคลเซียมวันละ 1200-1500 มก. และควรกินปลาเล็กปลาน้อยเพื่อให้ได้แคลเซียมเพียงพอ

ผักขมฝรั่ง (spinach) มีธาตุสังกะสี เหล็ก และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้นไม้ที่มีเปลือกจะมีสารต่อต้านสิ่งแวดล้อมภายนอก เพราะต้นไม้อยู่กับที่ วิ่งหนีมลพิษไม่ได้ จึงมีเปลือกเพื่อป้องกันมลพิษ

น้ำตาล ต้องไม่ขัดสี เช่นน้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลกรวด น้ำตาลทรายขาวมีสารขัดขาวซึ่งเป็นสารเร่งความเครียด ทำให้เครียดง่าย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ น้ำตาลเทียมดีกว่าน้ำตาลขัดสี แต่รสชาดไม่ดีเท่านั้น
ความจำเป็นในการกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ
ถ้าวัยหนุ่มสาว ควรกินให้ครบ 3 มื้อ แต่ถ้าวัย 35 ขึ้นไป และวัยทอง ควรมีอาหารว่าง (snack) ที่ให้พลังงานไม่มากเป็นมื้อที่ 4 กินหลายมื้อได้ แต่ครั้งละ
น้อย ๆ และเลือกอาหารที่ย่อยง่าย ข้อควรคำนึงคือ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:24  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9604

คำตอบที่ 3
      

fiogf49gjkf0d
กินอย่างอารมณ์ดี เช่นกินกับคนที่เรารัก กินช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียดนึกถึงแต่ความสุข ถ้ากินมื้อละ15 นาที 3 มื้อ ก็เท่ากับเรามีความสุข 45 นาทีแล้ว และกินอย่างมีน้ำใจ นึกถึงชาวนาอย่ากินทิ้งกินขว้าง กินพอประมาณ อิ่มแล้วเลิก หรือจวนอิ่มแล้วหยุด

วิธีดื่มกาแฟ
- ต้องไม่ใช้ครีมเทียม เพราะครีมเทียมคือน้ำมันมะพร้าว ทำให้มันจุกอกตาย กาแฟ 3 อิน 1 ไม่ดี เพราะผสมครีมเทียม กาแฟดำมีอะโลม่า ดื่มแล้วอารมณ์ดี การไหลเวียนของเลือดดี
วิธีชงกาแฟ ใส่กาแฟ 1 ช้อนชา เติมนมอุ่น (Low fat) ½ แก้ว และน้ำตาล
วิธีดื่มกาแฟที่ดีที่สุด ต้องไม่ใส่อะไรเลย กาแฟเอสเปรสโซ่ดื่มรวดเดียวหมดจะหวานกว่าจิบทีละนิด ดื่มกาแฟวันละไม่เกิน 3 แก้ว ถ้าเกินจะดึงแคลเซียมจากไต มีอันตรายต่อสุขภาพ

การพักผ่อน หลักการพักผ่อนที่ดี มีหลายแบบ อาทิ
1. หนีความจำเจซ้ำซาก เช่นเที่ยวทุก 1 เดือน หรือเปลี่ยนทรงผมใหม่ มีคำกล่าวว่า เปลี่ยนที่(สถานที่) ได้ห้า เปลี่ยนหน้า (ใบหน้า ,ทรงผม) ได้สิบ อาจทำให้สบายใจมากขึ้น
2. มองโลกในแง่ดี เช่น มีน้ำ ½ แก้ว ต้องมองว่ายังเหลือน้ำอีกตั้ง ½ แก้ว ไม่ใช่น้ำหมดไปแล้วตั้ง ½ แก้ว อีกกรณีคือภรรยาของอาจารย์จะไม่ให้ความสำคัญที่จะต้องทราบว่าในแต่ละวันอาจารย์จะอยู่ที่ไหน ขณะเดียวกันอาจารย์เป็นฝ่ายต้องทราบว่าภรรยาอยู่ที่ไหนเพื่อกลับมาทำหน้าที่เทคแคร์ภรรยา ให้ทัน กรณีนี้ภรรยาจะไม่เกิดความทุกข์กังวลในการสอดส่องสามี ว่า ไปทำอะไรลับหลังภรรยา
3. Second job นอกจากงานหลักเพื่อเลี้ยงชีวิตและครอบครัวแล้ว ควรมีงานรองอย่างที่ 2 ที่เราชอบ ที่เราไม่คิดว่าเป็นงาน แต่ทำแล้วมีความสุข เช่น เขียนหนังสือ สอนหนังสือ หรือบรรยาย

การนอนหลับสนิท จะทำให้เกิดสารเมลาโทนินซึ่งเป็นสาร antioxidant ทำหน้าที่กำจัดของเสียที่เกิดขึ้นในตอนกลางวัน ปัจจุบันเมลาโทนินที่มีขายอยู่จะออกฤทธิ์เพียง 6 นาทีเท่านั้น แต่ร่างกายเราต้องการ 6 ชม. การนอนหลับสนิทได้คุณประโยชน์มากกว่า
การพักผ่อนที่ดีที่สุด บางครั้ง ได้แก่ การอยู่เฉย ๆ อยู่กับตัวเอง อย่าให้งานและสังคมมายุ่งเกี่ยว ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง จิบชา ล่องเรือ ฟิตเนส หรือสปา การออกกำลังกายที่รักที่ชอบ ก็เป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง
สรุปคำถามคำตอบ
1. นมกับน้ำเต้าหู้อะไรดีกว่ากัน
คนไทยประมาณ 1/3 หรือ 30% ไม่มีสารย่อยสลายนม ถ้าดื่มนมไม่ได้ให้กินโยเกิร์ตแทนเพราะมีประโยชน์โดยเฉพาะผู้หญิง ใช้ทาหน้าทำให้หน้าตึง และมีแลคโตไบซิไลท์ เข้าไปอยู่ในทางเดินอาหารและช่องคลอด ช่วยย่อยและไม่ติดเชื้อราที่ช่องคลอด น้ำเต้าหู้สกัดจากถั่วเหลือง มีฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจน ยับยั้งการเกิดมะเร็งเต้านมและมดลูก แต่น้ำเต้าหู้ไม่มีแคลเซียม ต้องกินเต้าหู้แข็งจึงได้แคลเซียม เต้าหู้ยิ่งแข็งยิ่งมีแคลเซียมสูง
2. แก้วมังกรทำให้เป็นมะเร็งหรือไม่
ไม่น่าจะใช่ ยังไม่เคยอ่านเจอ แก้วมังกรมาจากเวียดนาม มีไฟเบอร์สูง แคลอรี่ต่ำ ควรฟังหูไว้หู อย่าตระหนกเกินกว่าเหตุ วิธีแก้กินแก้วมังกรน้อยลง เพิ่มฝรั่งและแอปเปิ้ลแทน
3. ฮอร์โมนเพศหญิงในวัยทองทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่
เป็นเพียงผลงานวิจัยของอเมริกาเท่านั้น โดยทำการทดลองกับกลุ่มหญิงที่เป็นโรคหัวใจ อ้วน และหน้าอกโต ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งอยู่แล้ว โดยการให้ฮอร์โมนอยู่ชนิดเดียว ขนาดเดียว เกิน 5 ปี พบว่าปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น 0.25%




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:27  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9605

คำตอบที่ 4
      

fiogf49gjkf0d
4. โยเกิร์ตและสมูทตี้ หลักการของสมูทตี้ คือต้องการไฟเบอร์ไปช่วยดูดพิษ แต่โยเกิร์ตมีแลคโตไบซิไลท์อย่างเดียว ไม่มีไฟเบอร์ วิธีทำง่าย ๆ คือ โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง + กล้วยหอม
5. การนอนให้ได้ประโยชน์ ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม ในห้องที่ตกแต่งเหมือนโรงแรม mมีม่านติด 2 ชั้น เพื่อป้องกันแสง ควรตื่นเมื่อถึงเวลาตื่นมา ไม่ใช่ตื่นเพราะแสงแดดแยงตา ควรนอนในห้องที่มีความมืด ระบบฮอร์โมนจะทำงานปกติ การนอนในห้องที่มีแสงไฟไม่ดี เพราะฮอร์โมนจะสร้างในความมืดในขณะที่เรานอนหลับสนิท การงีบในตอนบ่ายดีในแง่ จะทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
6. ออกกำลังกายตอนไหนดี เวลาไหนก็ได้ที่เหมาะสมกับเราที่สุด อย่ายึดมั่นถือมั่นแล้วเราจะมีความสุข
ตัวเราเองรู้เองออกกำลังกายตอนไหนก็ได้
ออกกำลังกายตอนเช้า ได้แสงแดดตอนเช้า ได้วิตามินดี กระดูกหนาขึ้น อาหารเช้าจะต้านสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการออกกำลังกายได้ พอหายเหนื่อยให้อาบน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็น จะทำให้กล้ามเนื้อกระฉับกระเฉง ทำงานได้ดี
ออกกำลังกายตอนเย็น โดยมีอุปกรณ์ เช่น ใช้ไม้พลองประกอบ ทำให้กระดูกแขนไม่บาง ไม่โดนแสงแดด แต่การออกกำลังกายทำให้เกิดอนุมูลอิสระ วิธีแก้คือดื่มน้ำผลไม้สด 1 แก้ว ก่อนและหลังออกกำลังกาย จะต้านอนุมูลอิสระได้ การออกกำลังกายทำให้ร่างกายตื่นตัว จึงควรอาบน้ำเย็นก่อนแล้วตามด้วยน้ำอุ่น จะทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และจะทำให้นอนหลับสบาย
7. น้ำมันประกอบอาหารชนิดไหนดี
น้ำมันมี 2 ชนิด คือชนิดกรดไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันหมู วัว ไม่ควรกินเพราะไขมันจะไปอุดตามเส้นเลือด และชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก (ทนความร้อนได้ดีที่สุด) ทานตะวัน ข้าวโพด ฟักทอง ถั่วเหลือง ถ้าอยากให้หอมเมื่อปรุงอาหารเสร็จปิดไฟ แล้วค่อยใสน้ำมันงา เพราะเป็นน้ำมันที่ไหม้ง่าย จะทำให้อาหารมีความหอมมากขึ้น
8. พืชกับนมจากสัตว์อย่างไหนมีธาตุเหล็กมากกว่า นมจากสัตว์มีธาตุเหล็กมากกว่า นมแพะ นมจามรีดีกว่านมวัวเพราะไขมันน้อยแต่ไม่ค่อยอร่อย นมวัวอร่อยแต่มีไขมันมากที่สุด วิธีแก้ดื่มนมวัวแบบพร่องมันเนยแทน
9. การทำดีท็อกซ์ หลักการคือนำกากอาหารใส่ในลำไส้ เช่น กาแฟ เพื่อทำให้สารพิษออกมา เสียเงินและทรมาน ควรทำดีท็อกซ์แบบชาวบ้านคือ กินมังสวิรัติสัปดาห์ละ 1 วัน อาจารย์จะดีท็อกซ์ทุกวันเสาร์โดยไม่กินเนื้อสัตว์ แต่จะต้มจับฉ่ายใส่เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ และเห็ดหลาย ๆ ชนิด ใส่ผักขม คะน้า ไชเท้า กวางตุ้ง ใส่น้ำมันงา และพริกไทยดำ โดยกินให้หมดภายใน 1 วัน
10. กินกาแฟแล้วนอนไม่หลับ วิธีแก้ คือ กินกาแฟ และนมอุ่น ๆ หรือกินกาแฟ + กล้วยหอม + เนยมาการีน หรือกินกาแฟดีคาเฟอีน(กาแฟที่มีแต่กลิ่นไม่มีสารคาเฟอีน) เพราะเราติดที่กลิ่น
11. นมเย็นกับนมอุ่นอย่างไหนดีกว่ากัน สารอาหารเท่ากัน แต่นมอุ่นดีกว่า (55 องศา C) เพราะแตกตัวได้ทริบโตเฟน ทำให้อารมณ์ดี นมเย็นจะไม่แตกตัว วิธีอุ่นนม ให้เอาน้ำใส่แก้ว แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟจนร้อนแล้วค่อยเอานมใส่
12. ผักผลไม้สดกับน้ำผักผลไม้คั้น ดีทั้ง 2 อย่าง แต่ถ้าผักผลไม้สดต้องกินเป็นจำนวนมากเป็น กก. ถึงจะได้สารอาหารเพียงพอ แต่ถ้าคั้นเป็นน้ำ ดื่มเป็นแก้วพอไหว
13. อาหารรักษาโรคข้อ ใช้ เซลารี่ 4 ก้านใหญ่ + แอปเปิ้ลหรือฝรั่ง + แครอท นำมาแยกกากดื่มวันละ
1 แก้ว ทุกวัน จะแก้โรคข้อ เข่าจะไม่เจ็บไม่ปวด หรือนำเซลารี่ไปผัดกับกุ้ง แต่ต้องกินให้ได้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:29  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9606

คำตอบที่ 5
      

fiogf49gjkf0d
4 ก้านใหญ่ จึงจะเพียงพอ ดังนั้นนำไปแยกกากดีกว่า เซลารี่จะมีสรรพคุณแก้ปวดบวม แอปเปิ้ลหรือฝรั่งมีวิตามีซีช่วยเรื่องน้ำในข้อ ส่วนแครอทช่วยในเรื่องเยื่อเมือก
14. น้ำผลไม้แบบกล่อง แทบจะไม่ได้สารอาหาร นอกจากกลูโคส ควรคั้น (แยกกาก) เองสด ๆ ดีที่สุด แล้วดื่มทันทีจะได้คุณค่ามาก หากต้องการดื่มแบบเย็น ให้นำน้ำแข็งใส่กาละมัง ใส่น้ำ แล้วนำผลไม้ลงไปล้างแล้วค่อยมาคั้น หรือนำแก้วเปล่าและผลไม้ไปแช่เย็นก่อนนำมาคั้นก็ได้
15. วิธีทานกล้วยหอมไม่ให้ลมขึ้น ให้กินกล้วยห่าม ๆ จะไม่หวานและได้คาร์โบไฮเดรท ถ้าดิบหรือสุกเกินไปจะได้แต่น้ำตาล
16. การปั่นกับการแยกกาก (คั้น) การปั่น เป็นการตีให้แตก จะทำให้สารอนุมูลอิสระออกมา ไม่ดี แต่การแยกกาก เป็นการแยกน้ำและแยกกากออกจากัน ได้คุณค่ามากกว่า แต่การแยกกากจะไม่ได้ไฟเบอร์ ถ้าต้องการไฟเบอร์ให้ตักกากมากินก็ได้ หรือ เอากากมาปั้นเป็นก้อนกินชดเชยได้
17. น้ำโซดาล้างท้องได้หรือไม่ โซดาเป็นน้ำด่าง มีข้อดีคือ ถ้าในท้องมีกรดมาก โซดาจะทำให้เกิดความสมดุลและสบายท้อง แต่ถ้าท้องมีแก๊ส โซดาจะทำให้ท้องอืด ถ้ากินแล้วสบายดีก็กินต่อไปได้
18. อาหารที่กินแล้วผมไม่หงอก ไม่มี ถ้าอยากหายต้องใส่วิก ผมหงอกเกิดจากกรรมพันธุ์ และความเครียด อาหารและแร่ธาตุที่ช่วยให้ผมหงอกช้า ได้แก่ วิตามินบี และซี สังกะสี (zinc) แต่ควรกิน zinc อะมิโน ครีเรท อย่ากินzinc ซัลเฟรด เพราะกัดกระเพาะ หรือกินอาหารเสริม เช่น เซ็นทรัม แบลคมอร์ จะช่วยให้เส้นผมดำขึ้น
19. การย้อมผมกับมะเร็ง
การย้อมผมทำให้บุคลิกดีขึ้นมีความสุข เลือกใช้ยาย้อมผมที่ไม่มีสารโลหะหนักผสม เช่น ตะกั่ว ถ้าไม่มีสารตะกั่วก็ไม่เป็นไร เวลาย้อมให้ปิดตาและจมูกให้ดี อาจใช้แบบสเปรย์ก็ได้
20. ประโยชน์ของน้ำสมุนไพร (HERB)
คือ พืชผักผลไม้ จึงมีคุณค่าทางยาแล้วแต่ชนิด เช่น เครนเบอรี่ หรือ กระเจี๊ยบ จะมีสรรพคุณทางยาช่วยเรื่องการอักเสบในกระเพาะปัสสาวะ หรือนิ่วในไต เป็นต้น
21. ตำราอาหารสำหรับผู้ชาย
กินกล้วย + น้ำผึ้ง + พริกไทยดำ จะทำให้หลับสบาย ถ่ายสะดวก วิธีทำ ใช้กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยหักมุกผึ่งแดดเดียวแล้วโรยน้ำผึ้งและพริกไทยดำ รับประทานบ่อยๆ สุขภาพจะดี


(ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงนะครับ "เจอกันเมื่อชาติต้องการ")






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:33  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9608

คำตอบที่ 6
      

fiogf49gjkf0d
ทราบว่าท่าน130ไม่ค่อยซาบายขอให้หายไวๆนะครับชาติกำลังต้องการ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก คนทุ่มเท 124.121.136.82 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:42  IP : 124.121.136.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9609

คำตอบที่ 7
      

fiogf49gjkf0d
ขอบคุณครับที่เป็นห่วงเป็นใยในสุขภาพ ตอนนี้ก็กินยาอยู่ครับยังไม่ค่อยจะดีขึ้นสงสัยจะแพ้อากาศซับคำเม็ก นะครับท่านพี่ ไว้หายดีแล้วเจอกันแน่นอนครับท่านพี่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.42 จันทร์, 22/1/2550 เวลา : 10:47  IP : 210.246.64.42   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9610

คำตอบที่ 8
      

fiogf49gjkf0d
เอาสาสาระดีๆมาให้เพื่อนๆอ่านก็ทำตามบ้างนะ ซักข้อ สองข้อก็ยังดี ชีวีจะได้ยืดยาว........หายไวๆจะได้ไปกันต่อ ..5...5...5



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jack champ 100 จาก jack champ 100 203.152.2.11 อังคาร, 23/1/2550 เวลา : 12:17  IP : 203.152.2.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9732

คำตอบที่ 9
      

fiogf49gjkf0d
วันนี้ได้เจอท่าน 130 ที่ร้านช่างดำ อาการท่านคงใกล้แล้วล่ะ.......ใกล้หายป่วยนะ
เห็นบอก อยากไปลองยางที่ สนามชัยเขต



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Bie [ Champ :: 118 ] จาก Anan :: Champ 118 124.120.64.87 อังคาร, 23/1/2550 เวลา : 20:12  IP : 124.120.64.87   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9840

คำตอบที่ 10
      

fiogf49gjkf0d
ไปเมื่อไร บอกด้วยนะครับ ตอนนี้เปลื่ยนแปลงไปมากแล้วครับขอบอกๆๆๆ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก คนทุ่มเท 124.121.137.231 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 08:30  IP : 124.121.137.231   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9844

คำตอบที่ 11
      

fiogf49gjkf0d
เป็นไงบ้างครับ..หายยัง..เป็นหว่งไม่เจอกันนาน 13 บอกข่าวกันบ้างนะจ๊ะ 130



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก champ 106 203.113.0.194 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 13:02  IP : 203.113.0.194   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9859

คำตอบที่ 12
      

fiogf49gjkf0d
ข้อมูลดีจัง!! ครับ..แต่ขอเสริมเรื่องเครื่องดื่ม..นิดๆ ประเภทน้ำควรดื่มทุกครั้งหลังทานข้วา(เดี๋ยวข้าวจะติดคอ...ตาย) ประเภทกาแฟ ควรจะเป็น"เฮือนกาแฟ"ได้รสชาติดีมีคุณภาพ คนชงก็น่ารักงานการกุศลที่ใหนก็ไม่เคยพลาด ส่วนนมหรือครีมใส่มากหน่อยจะดี และสุดท้ายประเภทแอลกอฮอร์(เหล้าเบียร์)ดื่มได้ตลอดเวลาถ้าคิดว่าดื่มแล้ว"มีความสุข" ดื่มพันจอก..ก็..บ่..เมา..เด้อ..สิบอกให่..ถ้าเจอเพื่อนดื่มที่ถูกใจ บ่มีตำรามาบอกสังเกตุเอา..อย่าโกรธกันเด้อ..C-130



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Bj045 124.121.192.226 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 14:55  IP : 124.121.192.226  แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9860

คำตอบที่ 13
      

fiogf49gjkf0d
มิบังอาจ....มิบังอาจ.....ท่านพี่BJ045 ขอแค่ท่านพี่มาติชมกระทู้ผม ก็ชื่นใจแล้วถือว่าผู้ใหญ่ติชม ว่าแต่ท่านพี่ออกงานช่วยเหลือสังคมเยอะๆก็ดูแลรักษาสุขภาพบ้างนะครับท่านพี่

ท่าน106 ไว้ผมหายดีแล้วจะชวนไปออกกำลังเกียร์ที่ไหนก็บอกมาได้เลยนะครับ

ท่าน118 เห็นความเปลี่ยนแปลงของสนามชัยเขตที่ทางท่านพี่คนทุ่มเท ลงรูปมาให้ดูไม่รู้ SIMAX Aคู่ 34x11.5x15 กลัวจะเปื้อนหรือเปล่าหน๊อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.26 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 15:19  IP : 210.246.64.26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9861

คำตอบที่ 14
      

fiogf49gjkf0d
แก้ไขคำผิดในคำตอบ13 "SIMEX JUNGLE 2 "



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.26 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 15:24  IP : 210.246.64.26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9862

คำตอบที่ 15
      

fiogf49gjkf0d
มีคันดินแห้งๆบ้างแล้ว ใจชื้นขึ้นหน่อย ไม่อย่างนั้น ( ...ติด..ทู๊ก..ที ....) 5 5 5



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

jack champ 100 จาก jack champ 100 203.152.2.58 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 17:35  IP : 203.152.2.58   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9864

คำตอบที่ 16
      

fiogf49gjkf0d
ไปไร่เฮียย้ง เมื่อไหร่บอก อยากลุยด้วย เอาแบบเด็กๆ สำหรับคนอายุ( )น้อย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก สุรินทร์034 124.120.64.88 พุธ, 24/1/2550 เวลา : 18:07  IP : 124.120.64.88   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9865

คำตอบที่ 17
      

fiogf49gjkf0d
ขอขอบคุณ 130 มาก ที่นำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อสุขภาพร่างกาย มาเสนอแนะให้เพื่อน ๆสมาชิก ได้รับทราบกันอย่างครบถ้วนขบวนท่า...... เออ ! สงสัย การแนะนำข้อ 1 ว่าให้เปลี่ยนสถานที่หรือ
เปลี่ยนใบหน้าหรือทรงผม ถามว่า...ถ้าเปลี่ยนภรรยาจะดีกว่าไหม !
ตอบแทน ได้ถ้าไม่กลัวหัวกระบานแยก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก AOD 081 124.121.123.37 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 11:01  IP : 124.121.123.37   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9890

คำตอบที่ 18
      

fiogf49gjkf0d
เพื่อนแชมป์สู้ๆ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Champ 079 203.113.0.194 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 13:08  IP : 203.113.0.194   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9894

คำตอบที่ 19
      

fiogf49gjkf0d
Champ130 ขอจัดสาระเพิ่มนะครับ

กินยาก่อน-หลังอาหารนั้นสำคัญไฉน

การที่จะทราบว่าการกินยาก่อนอาหาร หรือหลังอาหารสำคัญอย่างไรนั้นเราต้องทราบก่อนว่าขั้นตอนที่ยาจะไปออกฤทธิ์นั้นเป็นอย่างไร เวลาเรากินยาเข้าไป ถ้าเป็นยาเม็ดหรือแคปซูล ยานั้นจะแตกออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ก่อน แล้วละลายในน้ำ ซึ่งอยู่ในกระเพาะและทางเดินอาหาร หลังจากนั้นก็จะถูกดูดซึมเข้าผนังทางเดินอาหาร เข้าสู่กระแสเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายต่อไป แต่ถ้าเป็นยาน้ำขบวนการนี้ก็จะเร็วขึ้น
ยาจะออกฤทธิ์เมื่อได้เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดแล้ว และต้องมีปริมาณสูงพอด้วย อาหารบางอย่างมีผลต่อการดูดซึมของยา ยาบางตัวก็มีผลต่อกระเพาะอาหาร เช่น ทำให้เกิดการระคายเคือง ดังนั้น การกินยาก่อนหรือหลังอาหาร จึงมีความสำคัญขึ้นกับว่าต้องการผลการของยาในแง่ใด ปกติเมื่อกระเพาะมีอาหารอยู่เต็ม ยาจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อยกว่า และใช้เวลามากกว่าเมื่อกระเพาะว่าง
จากที่กล่าวมาแล้ว ถ้าเรากินยาก่อนอาหารทันที, หลังอาหารทันที หรือกินยาพร้อมอาหาร จะมีความหมายแทบจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งถือว่ากินยาในห้วงเวลาที่กระเพาะอาหารไม่ว่างเหมือนกัน ดังนั้นเราจะกำหนดเวลาไปด้วยว่ากินก่อนอาหารหรือหลังอาหารนานเท่าใด จึงจะได้ผลตามที่ต้องการ
จะขอแบ่งวิธีการกินยา ประกอบเหตุผล พอเป็นสังเขปดังนี้

กินก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
เพราะเราต้องการให้ได้รับยาขณะที่ท้องว่าง เพื่อให้ยาดูดซึมได้ดีที่สุด ยาพวกที่ต้องกินแบบนี้ได้แก่ เพนนิซิลลิน, แอมพิซิลิน, ไรแฟมพิซิล เป็นต้น บางทีเราก็ต้องการให้ยาออกฤทธิ์ก่อนอาหารตกถึงกระเพาะ (จะกินก่อนอาหารนานเท่าใดขึ้นกับเวลาตั้งแต่เริ่มกินจนถึงเวลาที่ยาออกฤทธิ์ ซึ่งยาแต่ละตัวจะแตกต่างกันบ้าง) เช่น ยาที่ลดการเกร็ง หรือบีบตัวของกระเพาะและทางเดินอาหารคนที่เป็นโรคกระเพาะนั้นมักจะปวดท้อง เมื่ออาหารตกไปถึงกระเพาะ เพราะอาหารเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะลำไส้บีบตัวมากขึ้น จึงต้องให้ยาออกฤทธิ์ ลดการบีบตัวของกระเพาะลำไส้ โดยกินยาก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์พอดีเวลาอาหาร ซึ่งจะบรรเทาอาการปวดท้องได้ ยังมียาที่กระตุ้นให้เกิดการอยากอาหาร ก็ต้องกินก่อนอาหารประมาณ 1/2 ชั่วโมง พอยาออกฤทธิ์ จะกินอาหารได้มากขึ้น

กินหลังอาหารทันที = กินก่อนอาหารทันที = กินพร้อมอาหาร
ยาบางตัวหากกินตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารมาก ทำให้คลื่นไส้อาเจียน แต่ถ้ากินพร้อมอาหารจะช่วยลดการระคายเคืองได้ ยาพวกนี้ได้แก่ ยาแก้ปวดชนิดต่าง ๆ เช่น แอสไพริน, ยาแก้ปวดข้อ เช่น เพนนิลบิวทาโซน, ไอบูโปรเฟน, อินโดเมดทาซิน เป็นต้น นอกจากกินพร้อมอาหารแล้วยาที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น แอสไพริน การกินน้ำตามมาก ๆ เพื่อไปเจือจาง หรือลดความเป็นกรดให้น้อยลง ก็ช่วยลดการระคายเคืองได้

กินยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
ยาบางชนิดจะออกฤทธิ์นาน เมื่อกินหลังอาหาร เช่น ยาลดกรดซึ่งมีผู้ทดลองได้ผลว่า ถ้าให้ยาในขณะที่ท้องว่าง ยาจะออกฤทธิ์นานประมาณ 30 นาที แต่ถ้าให้ยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง ดังนั้นจึงกำหนดให้กินหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
ไหน ๆ ก็พูดถึงยาก่อนอาหาร, หลังอาหาร, พร้อมอาหารมาแล้ว ขอพูดถึงยากินก่อนนอนสักเล็กน้อย ยาบางชนิดกินแล้วทำให้ง่วงมึนงง เช่น ยาคลายกังวล, ยาแก้แพ้ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาแก้หวัด ลดน้ำมูก จึงควรกินก่อนนอน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ปลอดภัยในขณะทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือขับรถในเวลากลางวันแล้ว ยังทำให้หลับได้อย่างสบายในเวลากลางคืนอีกด้วย
จึงขอสรุปได้ว่า จะกินยาก่อนอาหาร หรือหลังอาหารขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการให้ยานั้น ๆ ออกฤทธิ์ให้ได้ผลมากที่สุด มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ส่วนจะก่อน - หลังนานเท่าใดนั้น ขึ้นกับเวลาตั้งแต่เริ่มกินยาจนถึงเวลาที่ยาถูกดูดซึมเข้าผนังทางเดินอาหารหมด หรืออาจเลยไปถึงเวลาที่ยาออกฤทธิ์แล้วแต่ว่าเราต้องการผลอันไหน
คงจะเห็นแล้วว่า เวลากินยาก่อนหรือหลังอาหารมีความสำคัญเพียงใด ดังนั้นเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรกินยาตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ผลดีก็จะตกอยู่กับตัวของผู้ป่วยเอง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.59 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 13:30  IP : 210.246.64.59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9895

คำตอบที่ 20
      

fiogf49gjkf0d
คิดไม่ออกว่ามื้อนี้จะกินอาหารอะไรดี เพื่อสุขภาพที่ดี ขอเชิญได้ที่นี้ครับ

www.skr.ac.th/Work_M5/food_health/ - 7k -



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.59 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 13:38  IP : 210.246.64.59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9896

คำตอบที่ 21
      

fiogf49gjkf0d
จัดให้ใหม่นะครับ.....เชิญ....

http://www.skr.ac.th/Work_M5/food_health/



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.59 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 13:40  IP : 210.246.64.59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9897

คำตอบที่ 22
      

fiogf49gjkf0d
ใครเปิดไม่ได้เป็นอันว่าเมนูอาหารเพื่อสุขภาพมื้อนี้ของคุณ...อด.....กิน...5555555555



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.64.59 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 13:46  IP : 210.246.64.59   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9898

คำตอบที่ 23
      

fiogf49gjkf0d
ยอดเยี่ยมมากเลยครับคุณหมอกราน ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆเเละมีประโยชน์ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ใจ059 124.120.81.124 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 18:53  IP : 124.120.81.124   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9900

คำตอบที่ 24
      

fiogf49gjkf0d
ขออนุญาตอวดเพื่อนหน่อยเพราะ"ไม่ต้องเสียผี"





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Bj045 124.121.186.87 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 20:43  IP : 124.121.186.87  แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9903

คำตอบที่ 25
      

fiogf49gjkf0d
ฝากให้ท่านพี่BJ045ครับผม

ยิ้ม...ยิ้ม....ยิ้ม...

ยิ้มเป็นภาษาสากลที่ให้ความหมายเหมือนกันทุกชาติ ทุกภาษา คนทั่วโลกยิ้มเมื่อมีความสุข ดังนั้นการยิ้มจึงถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของความสุข
คนที่มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เป็นนิจ แสดงว่าเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี สนุกสนานร่าเริง มั่นใจในตัวเอง มีวุฒิภาวะ กล้าแสดงออก เปิดเผย ไม่มีลับลมคมใน มีเสน่ห์ เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย น่ารัก อบอุ่น เอื้อเฟื้อ
ในเมื่อยิ้มแล้วเรามีแต่ได้ ได้ทั้งผลดีต่อสุขภาพ ได้มิตรภาพ ได้ภาพลักษณ์ที่ประทับใจผู้อื่น ฯลฯ แล้วเราจะรีรออยู่ทำไม รีบยิ้มกันตั้งแต่เดี๋ยวนี้ดีกว่า แล้วจะพบว่าความสุขใจนั้น อยู่ไม่ไกลเกิดเอื้อมเลยจริงๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.72.199 ศุกร์, 26/1/2550 เวลา : 23:01  IP : 210.246.72.199   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9925

คำตอบที่ 26
      

fiogf49gjkf0d
ฝากไว้สำหรับคอกาแฟทุกท่านครับ จากใจ130

กาแฟลดเสี่ยงเบาหวานและหัวใจ

ดูเหมือนว่ากาแฟจะมีประโยชน์มากกว่าการช่วยกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยลดอาการหงุดหงิดและความเครียด หากดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม เพราะคาเฟอีนจะไม่มีการสะสมหรือตกค้างในร่างกาย เนื่องจากตับจะทำหน้าที่กำจัดออกไป

รศ.ดร.ชัยชาญ แสงดี หัวหน้าภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า นอกจากกาแฟจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย และทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว การดื่มกาแฟ ยังช่วยลดการเกิด oxidative stress, ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย และยังช่วยเพิ่มการทำงานเอนไซม์ในการกำจัดสารที่เป็นอันตรายด้วย

ปกติร่างกายจะมีสำรองหรือสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารที่เป็นส่วนเกินจะถูกกำจัดโดยตับ และขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะ แต่ในบางภาวะการสำรองสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายจะลดลง หรือที่เรียกว่าภาวะ oxidative stress ทำให้มนุษย์จะต้องแสวงหาสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสะสมในร่างกายและพร้อมใช้เมื่อถึงคราวจำเป็น

สารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยลดการเกิดเซลล์มะเร็งและลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคพาร์คินสัน โรคอัลไซเมอร์ โรคข้ออักเสบ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคตับอักเสบอีกด้วย ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยเรื่องนี้จากต่างประเทศรองรับมากมาย

ศูนย์วิจัยเนสท์เล่ สวิตเซอร์แลนด์ แสดงรายงานหนึ่งตัวอย่างของผลการศึกษาวิจัยถึงประโยชน์ของการบริโภคกาแฟ ซึ่งงานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารโภชนศาสตร์คลินิกของอเมริกา โดย ดร.เดวิด อาร์. จาคอบ จูเนียร์ และคณะจากมหาวิทยาลัยมินเนโซต้า เมืองมินเนอาโพลิส ได้ศึกษาความสัมพันธ์ของการดื่มกาแฟกับการเสียชีวิตทุกประเภท และการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคมะเร็งและโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบภายใต้โครงการศึกษาสุขภาพของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองไอโอวา ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิง จำนวน 27,321 คน อายุระหว่าง 55-69 ปี ซึ่งใช้เวลาเริ่มต้นศึกษาและติดตามผลเป็นเวลา 15 ปีต่อมา โดยระหว่างการศึกษามีผู้เสียชีวิตรวม 4,265 คน

ดร.จาคอบได้นำเสนอผลการศึกษาที่พบว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มหญิงที่ดื่มกาแฟจำนวน 1-3 ถ้วยต่อวันกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟเลย กลุ่มหญิงที่ดื่มกาแฟมีความเสี่ยงจากการตายจากการอักเสบลดลงถึง 24% และแม้ว่าจะดื่มกาแฟมากขึ้น แต่ความเสี่ยงจากการตายก็จะไม่ลดลงอีก อย่างไรก็ตาม การลดความเสี่ยงจากการตายลงเนื่องจากโรคหลอดเลือดหัวใจนั้น มีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับการดื่มกาแฟในปริมาณมากขึ้น ส่วนโรคมะเร็งนั้นการดื่มกาแฟจะไม่ส่งผลต่อการเกิดโรคมากขึ้น

ดร.จาคอบกล่าวว่า การที่พบว่ากาแฟให้ผลป้องกันการอักเสบ และอาจป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคที่เกิดจากการอักเสบอื่นๆ นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ เพราะการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่ากาแฟเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในอาหารของชาวนอร์วิเจียน และหญิงวัยกลางคนของเมืองไอโอวา การเกิด Oxidative stress หรือปฏิกิริยาการทำลายเซลล์ เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะ โดยอนุมูลอิสระนั้นมีความสัมพันธ์กับการอักเสบ ซึ่งนั่นทำให้เราคาดหวังจะเห็นผลความเสี่ยงที่ลดลงเมื่อดื่มกาแฟ

แต่ทั้งนี้ต้องดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Kran Champ 130 210.246.74.65 จันทร์, 29/1/2550 เวลา : 14:50  IP : 210.246.74.65   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 9944

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,19 เมษายน 2567 (Online 4551 คน)