WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


Valentine
RedMachine067
จาก Red Machine 067
IP:125.24.154.234

อังคารที่ , 10/2/2552
เวลา : 09:26

อ่านแล้ว = 1119 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
      

fiogf49gjkf0d
ประวัติ
วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย

และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศีรษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์


[แก้] นักบุญวาเลนไทน์

นักบุญวาเลนไทน์นักบุญวาเลนไทน์ ทำให้จักรพรรดิที่โรมเกิดความสำนึก และผู้พิพากษาได้กลับใจมาเป็นคาทอลิกเพราะท่านนักบุญทำให้บุตรสาวของเขาหาย จากตาบอด

วา เลนไทน์ บวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรมและได้เป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของจักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นในทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการขั้นแรกจักรพรรดิ ทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความมักรู้มักเห็น แต่ต่อมาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง ที่สุดพระองค์ตรัสว่า : “คำสอนของบุรุษผู้นี้ฟังแล้วจับใจจริง ๆ “ แต่ในขณะที่พระองค์ทรงเริ่มมีความเชื่อ ท่านผู้ว่าราชการกรุงโรมก็จัดให้ผู้พิพากษานายหนึ่งเข้ามาซักถามท่านวาเลน ไทน์ ผู้พิพากษาคนนี้เยาะเย้ยท่านในเรื่องที่คริสตังชอบกล่าวว่า “พระคริสต์ทรงเป็นองค์ความสว่างของโลก”

ลูกสาวของผู้ พิพากษาคนนี้ตาบอด วาเลนไทน์ได้ทำอัศจรรย์ให้หาย อัสเตริอุส ผู้พิพากษาจึงกลับใจเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเห็นดังนั้น ท่านผู้ว่าราชการเกิดความอิจฉา และต้องการกำจัดท่านวาเลนไทน์ จึงจับท่านวาเลนไทน์ไปขังไว้ในคุกมืด แล้วใช้ไม้เป็นปุ่มเป็นตาเฆี่ยนท่านอย่างสาหัส ที่สุดนำท่านไปตัดศีรษะ นักบุญวาเลนไทน์ เป็นองค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองตารัสก็อง (ภาคใต้ของฝรั่งเศส)


[แก้] การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์
มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"
กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.154.234 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:30  IP : 125.24.154.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76186

คำตอบที่ 2
      

fiogf49gjkf0d


ที่มา : www.mthai.com






วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด



ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลาย ครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญวาเลนไทน์ ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์และนักบุญมาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็ก ๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับ ๆ ด้วย

และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้นักบุญวาเลนไทน์ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์

ประวัติเซนต์วาเลนไทน์หรือนักบุญวาเลนไทน์

เป็นพระที่อยู่ในกรุงโรมระหว่างศตวรรษที่ 3 ในเวลานั้นกรุงโรมถูกปกครองโดยจักรพรรดิที่ชื่อว่า "คลอดิอุส" ซึ่งมีนิสัยชอบข่มเหงผู้อื่น ทำให้ไม่เป็นที่รักของประชาชนเท่าใดนัก จักรพรรดิคลอดิอุสต้องการสร้างกองทัพอันยิ่งใหญ่และหวังให้ชายชาวโรมันทั้งหลายอาสาสมัครเข้ามาเป็นทหารในการสงคราม แต่ก็ไม่มีชายคนใดจะกระทำตามนั้น จักรพรรดิคลอดิอุสจึงออกกฏหมายห้า มให้มีการแต่งงานหรืองานหมั้นใด ๆ เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนไม่พอใจรวมทั้งนักบุญวาเลนไทน์เองด้วย

ในเวลาต่อมานักบุญวาเลนไทน์ได้จัดการแต่งงานให้กับคู่หญิงสาวหลายคู่ขึ้นอย่างลับ ๆ ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศการใช้กฏหมายห้ามแต่งงานแล้วก็ตาม นักบุญวาเลนไทน์ยังคงรักที่จะทำพิธีเหล่านี้ โดยภายในงานนั้นจะมีเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว และท่านนัก บุญเท่านั้น พวกเขาจะกระซิบคำสาบานและคำอธิษฐานต่อกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยเงี่ยหูฟังเสียงการเดินตรวจตราของเหล่าทหารด้วย แต่แล้วคืนหนึ่ง ในขณะที่กำลังทำพิธีแต่งงานอย่างลับ ๆ อยู่นั้นเอง ท่านนักบุญวาเลนไทน์เกิดได้ยิ นเสียงผีเท้าของทหาร แต่โชคดีที่คู่บ่าวสาวนั้นหนีออกไปจากโบสถ์ได้ทัน

ในที่สุดนักบุญวาเลนไทน์จึงถูกจับขังคุกและถูกทรมานอย่างแสนสาหัส ท่านพยายามให้กำลังใจตัวเองทุก ๆ วัน และแล้ว วันหนึ่งสิ่งวิเศษก็เกิดขึ้น เด็กหนุ่มสาวหลายคนมาที่คุกเพื่อจะมาเยี่ยมท่านนักบุญ พวกเขาโยนดอกไม้และกระดาษซึ่งเขียนข้อความต่าง ๆ เข้าไปทางช่องหน้าต่างของคุก พวกเขาต้องการให้นักบุญวาเลนไ ทน์รู้ว่า พวกเขาเองก็มีความเชื่อและศรัทธาในความรักด้วยเช่นกัน หนึ่งในเด็กสาวเหล่านั้น เป็นลูกสาวของผู้คุม ซึ่งพ่อของเธอได้อนุญาติให้เธอเข้าไปเยี่ยมนักบุญ วาเลนไทน์ได้ในคุก บางครั้งพวกเขาจะนั่งคุยกันนานนับชั่วโมง หล่อนช่วยให้กำลังใจท่านนักบุญ และเห็นด้วยกับการที่ท่านปฏิเสธกฏหมายห้ามการแต่งงานนั้น อีกทั้งยั งสนับสนุนการแต่งงานอย่างลับ ๆ ของท่านนักบุญอีกด้วย

ผู้คุมมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้าง ระหว่างที่นักบุญวาเลนไทน์ติดคุกอยู่นั้น ลูกสาวผู้คุมก็นำอาหารให้และช่วยติดต่อกับคนนอกคุก ที่นับถือศาสนาศริสต์ให้แก่นักบุญวาเลนไทน์ ขณะที่อยู่ในคุก ช่วงอาทิตย์สุดท้ายในชีวิตของเขานั้น ได้มีสิ่งแปลกป ระหลาดเกิดขึ้น ขณะที่เขาถูกคุมขัง อยู่นั้น ผู้คุมขังได้ขอให้วาเลนตินุส สอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอดด้วย จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดาย ที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนตินุสได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้า ให้เธอ ฟัง จูเลียสามารถรับรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของวาเลนตินุส เธอเชื่อใจเขา และเธอมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา

วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า "ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหม"

เขาตอบ "พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเรา ทุกคน"

จูเลียกล่าว "ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไร ทุกๆเช้า ทุกๆเย็น….ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็น โลก เห็นทุกๆอย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟัง"

วาเลนตินุสจึงบอก"พระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุด ให้แก่เราทุกคน เพียงแค่ เรามีความเชื่อมั่น ในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง"

จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า จึงได้คุกเข่า กุมมือ อธิษฐานพร้อมกับ วาเลนตินุส และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นจูเลียค่อยๆลืมตา พระเจ้า……เธอมองเห็นแล้ว!!!!! เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร

ในคืนก่อนที่วาเลนตินุส จะสิ้นชีวิต โดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้าย ถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine" เขาสิ้นชีพในวัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจาก นั้น ศพของเขาได้ถูกเก็บ ไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูก ต้นอามันต์ หรือ อัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินุส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สี ชมพู ได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพ อันสวยงาม

นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ในปี 296 A.D. ในคุกแห่งนั้นเอง ก่อนตายท่านได้ฝากโน๊ต สั้น ๆ ถึงเพื่อนของท่านและลงท้ายว่า "Love from your Valentine"...ในปี 496 A.D. โป๊ป Gelasius ได้ยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญวาเลนไทน์...เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งขนม (โดยเฉพาะช็อคโกแลต) ดอกไม้ (ส่วนใหญ่จะดอกกุหลาบ) ให้กับคนที่รัก

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงมีประเพณีการแลกเปลี่ยนจดหมายรักซึ่งกันและกันในวันวาเลนไทน์ โดยจะเขียนขึ้นในวันที่นักบุญ วาเลนไทน์เสียชีวิต คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปีคริสตศักราช 270 และปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงท่านนักบุญวาเลนไทน์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของวันนี้คือ การมอบความรักและมิตรภาพให้แก่กันและกัน และทุก ๆ ครั้งที่ผู้คนต่างนึกถึงจักรพรรดิคลอดิอุส เขาก็จะจำได้ถึงวิธีการที่คลอดิอุสพยายามจะมาแทนที่หนทางของความรัก แล้วก็จะพากันหัวเร าะ เพราะว่าพวกเขาต่างรู้ดีว่าความรักนั้นไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนหรือแทนที่ได้เลย

วันวาเลนไทน์ เมื่อถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกๆ ปี จะมีหนุ่มสาวหรือคนบางกลุ่มนิยมส่งดอกกุหลาบสีแดง หรือบัตรรูปหัวใจให้แก่กันและกันซึ่งเป็นเครื่องหมายแสดงเจตนารมณ์ของความรักความเข้าใจต่อกัน วันวาเลนไทน์ ธรรมเนียมฝรั่งเขาส่งบัตรหรือของขวัญเล็กๆน้อยๆ ไปให้แก่คนที่เขารั กโดยไม่บอกชื่อผู้ส่ง ซึ่งจะมาจากใครก็ได้




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.154.234 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:36  IP : 125.24.154.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76187

คำตอบที่ 3
      

fiogf49gjkf0d




บทความโดย : คุณพ่อ มีเกตุ กาไรซาบาล,เอส.เจ.
บ้านเซเวียร์ กุมภาพันธ์




วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์ ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกันส่งใจถึงกัน นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี เป็นประเพณีที่หนุ่มสาวนิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศอังกฤษ



ทำไมจึงมีชื่อว่า “วันวาเลนไทน์” และความหมายที่แท้จริงของวันนี้คืออะไร? และมาจากไหน?

นักบุญ วาเลนไทน์ (Valentine) เป็นสงฆ์คาทอลิกองค์หนึ่งที่ได้ถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คริสตศักราช 270 ในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิโรมัน เกลาดิอุส ที่ 2 ( Clanoius) โดยแท้จริงแล้วท่านนักบุญไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีการเลือกคู่ หรือหาคู่ หรือหาแฟน หรือความรัก ความสนใจระหว่างหนุ่มสาว ท่านก็ไม่ ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมจึงเลือกนักบุญองค์นี้มาเป็นองค์อุปถัมภ์สำหรับผู้ที่กำลังหาคู่ เลือกคู่หรือเลือกแฟนกันได้เล่า ? เหตุผลที่ค้นพบได้ก็คือ ที่มาของวันวาเลนไทน์ ไม่ขึ้นอยู่กับคนผู้นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ประเพณีเลือกคู่ หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุกชาติ ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของมนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณีวาเลนไทน์นี้ก็มีต้นเหตุหรือ ที่มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส (Lupercus) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และถือว่าเป็นการฉลองใหญ่ ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะเป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันฉลอง ใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรักกันชั่วระยะเวลา 1 ปี ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลองมิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่ ชาวโรมันเป็นคนศรั ทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วงระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน 1 ปี นั้น เทพเจ้าองค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata ซึ่งตาม เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์มหาเทพเจ้าทั้งหลาย

ครั้นต่อมา เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือศาสนาคริสต์ (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 ) ประเพณีของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกันเพื่อจะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม ฉะนั้นเขาก็ยังรักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นอยู่ตลอดมา เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาวคริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่ เพราะคริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี นักบุญวาเลนไทน์องค์นี้เอง จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน เรื่องราวความเป็นมามีดังนี้ ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือกตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์ โดยที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อย

ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับอันตรายบางอย่าง และอาจจะเป็นโอกาสให้พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้ นเอง ความหมายของการมีวันวาเลนไทน์นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาวหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วยใจบริสุทธิ์

ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า “You are my Valentine” ที่มักจะเขียนลงในบัตรส่งใจถึงกันและกัน ประ โยคตามความหมายเดิม หมายถึงว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอตัวเป็นเพื่อนสนิทของท่านในช่วงเวลา 1 ปี และข้าพเจ้าพร้อมที่จะตกลงแต่งงานกับท่าน ถ้ามิตรภาพของเรานี้เป็นสิ่งที่ยืนยง”

ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในความรักที่แท้จริงนั้น ก็ควรจะประกอบด้วย 3 ข้อด้วยกัน ดังนี

ให้รู้จักกันทั้งในด้านดี ในด้านเสีย และข้อผิดพลาดซึ่งต่างก็มีอยู่ และยอมรับซึ่งกันและกันในข้อเหล่านั้น

ให้เคารพและเห็นใจกัน โดยเสียสละต่อกันเพื่อให้คนรักของตนได้รับความดี และความสุขใจในทางที่บริสุทธิ์งดงาม

ให้มีการปรับปรุง และเปลี่ยนนิสัยของตนในส่วนที่บกพร่อง เพื่อจะอยู่กันด้วยความสุขในอนาคต

ลักษณะทั้งสามดังกล่าวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาวไทยไม่เฉพาะในวันวาเลนไทน์หรือสำหรับกลุ่มที่นิยมประเพณีต่างประเทศเท่านั้น แต่สำหรับทุกคู่ที่แสวงหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอันจะนำไปสู่ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนชั่วชีวิต




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.154.234 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:38  IP : 125.24.154.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76188

คำตอบที่ 4
      

fiogf49gjkf0d

ของขวัญยอดฮิต
ที่มา : www.kapook.com




วาเลนไทน์นี้คุณๆทั้งหลายที่ไม่รู้ว่าจะให้อะไรกับคนที่คุณรักดี มาลองแวะมาดูทางนี้สิคะ เพราะทางเราได้รวบรวมของขวัญยอดฮิตประจำเทศกาล และสินค้าแปลกๆ ไอเดียเก๋ๆมาแนะนำให้คุณได้ซื้อหาไปฝากคนรักของคุณได้อย่างถูกอกถูกใจกันแน่นอนคะ นอกจากนี้เรายังมีคำแนะนำการเลือกสินค้า ที่เหมาะสมกับคนให้และผู้รับ รวมไปถึงสถานที่จะหาซื้อสินค้าต่างๆเหล่านี้กันอีกด้วยคะ



ดอกไม้

เป็นของยอดฮิตที่สุด ในวันวาเลนไทน์ เพราะความหมาย ก็คือแทนคำว่ารัก ได้ดีที่สุด ดอกไม้ที่ขายดีที่สุดอันดับแรกคือ กุหลาบแดง ซึ่งหมายถึง การบอกว่าฉันรักเธอ ซึ่งหนุ่ มสาวมักจะให้กัน กุหลาบขาว หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์งดงาม ส่วนคนที่ให้ กุหลาบสีเหลือ ง คือการแทนความห่วงใยให้กัน และแทนมิตรภาพระหว่างเพื่อน ส่วนคนที่ให้กุหลาบขาว นันหมายถึงความอันบริสุทธิ์ แนบแน่น สำหรับดอกอื่นๆ เช่น ลิลลี่สีขาว ก็เป็นที่นิยมให้กัน หมายถึงคุณเป็นคนที่โรแมนติค อ่อนหวาน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรักอย่างสุดซึ้ง ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ดอกคาเนชั่นสีขาว เมืองฝรั่งเขาถือว่าเป็นดอกไม้งานศพนะจ๊ะ

แทนความรักอันยืนยง ดอกมัมสีแดง แทน คำว่ารักอันสดใส หนุ่มสาวมักให้กัน ดอกมัมสีเหลือง แทนความรักแรกแย้ม หรือ ดอกทิวลิปสีแดง ที่แทนความหมายที่ ความรักที่พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆอีกมากมาย ที่ให้ได้แต่คงเน้นที่ความหมายและวัยของคนที่รับเป็นหลัก

คำแนะนำ ดอกไม้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย คงเน้นว่าคนที่คุณให้เขาชอบดอกไม้อะไรเป็นหลัก นอกจากนั้นก็ดูที่เพศหรือวัยให้เหมาะสม บางทีก็ไม่จำเป็นต้ องเว่อจนเกินไปหรอก ส่วนสถานที่ซื้อก็เลือกหาตามร้านดอกไม้ทั่วๆไป




ช็อกโกแลต แทนความรัก ถือเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 2 ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็แพร่หลายมาจากต่างประเทศ วัยรุ่นไทยก็มาเลียนแบบเหมือนเดิม จนเป็นที่นิยมอย่างมากมาย ปัจจุบันก็มีร้านที่รับทำช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทรงหัวใจนี้ขายดีมากๆ และราคาก็สูงเป็นพิเศษด้วย

คำแนะนำ ช็อกโกแลต คงจะเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ส่วนคนทำงานทั่วไปก็ให้ได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้สูงอายุไม่แนะนำ เพราะอาจทำให้ฟันผุ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาได้หลายที่ ถ้าทั่วๆไปก็ซื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป แต่หากจะเป็น ช็อกโกแลตดีๆหรือประเภทสั่งทำ ก็มีตามร้านขายหรือตามร้านซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรมทั่วไป




การ์ด

แทนความห่วงใยและรัก เป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 3 ที่นิยมให้กันในวันนี้ ส่วนใหญ่การ์ดให้ได้ในทุกๆงาน และก็มักให้คู่กับของ ขวัญอื่นๆเช่น ดอกไม้ หรือ ช็อกโกแลต ข้อดีของมันก็คือราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย ทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถบอกความในใจได้ด้วยคำบรรยาย

คำแนะนำ เป็นสินค้าที่ให้กันได้ทุกเพศวัย แต่ควรเลือกการ์ดที่เหมาะกับวัยของคนที่ให้ และถ้ารู้ว่าขอชอบรูปแบบไหน หรืออะไรได้ยิ่งดี และหากจะให้ประทับใจหน่อยสำหรับคนรัก หรือวัยรุ่นก็น่าจะมีเสียงเพลงเสียหน่อย จะดีมาก ส่วนสถานที่ซื้อการ์ด ห้างสรรพสินค้าที่ไหนก็มีจ้า




ตุ๊กตา

แทนคำว่ารักและชอบ สินค้ายอดนิยมอันดับ 4 ที่นิยมให้กันมาก ตุ๊กตานี้เป็นสินค้าที่ให้กันได้ตลอดที่เทศกาลแห่งความสุขจริงๆ ส่วนใหญ่ตุ๊กตาที่ให้กันในเทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะเป็นประเภทน่ารักๆ ไม่ได้เน้นความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็คงจะดูสถานะภาพกระเป๋าตัวเองเป็นหลัก

คำแนะนำ เหมาะสำหรับให้กับวัยรุ่น ฝ่ายหญิงมากกว่า เสียมากกว่า ควรเลือกตุ๊กตาที่คนที่รับชอบ หรือถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ให้ตุ๊กตาห มี หรืออะไรก็ได้ที่น่ารักๆ แต่อย่าสื่อไปในทางที่เลวร้าย เช่น ตุ๊กตาควาย เพราะอาจจะโดนตบได้ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาซื้อได้ทั่วไป ตามห้างสรรพสินค้า หรือย่านขายของต่างๆ




กรอบรูป

แทนความคิดถึงและผูกพัน อันนี้ก็ให้กันก็ให้กันมาก เพราะเป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่ผูกพันทางใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นนี่ให้กันมาก ราคา 50 บาทก็หาซื้อกันได้แล้ว ซึ่งบางทีให้เก๋ก็ใส่รูปคนให้ไปด้วย เอาไว้ดูต่างหน้าแก้คิดถึง

คำแนะนำ ของขวัญชิ้นนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่น เขาจะนิยมให้กัน แต่ถ้าคนวัยทำงาน หรือคนทั่วๆไปก็ไม่แปลกอะไร อีกข้อหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่คนให้คนรับ ควรจะเป็นคนโสด หรือว่ารักกันหวานแหวว แต่เพื่อนให้เพื่อนคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ส่วนสถานที่ซื้อสินค้าก็หาเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป




น้ำหอม

น่าจะแทนความห่วงใยและใกล้ชิดได้เป็นอย่างดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ฝ่ายชายส่วนใหญ่ก็จะเลือกกลิ่นน่ารักๆ หอมสบาย ให้ค นรัก ส่วนสาวๆ ก็ไม่แพ้กัน นิยมซื้อน้ำหอมให้หนุ่มๆเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะ แมนๆ

คำแนะนำ น้ำหอมน่าจะเหมาะกับคนที่รู้ใจกัน หรือคบหากันมาพอสมควร เพราะต้องเป็นคนที่รู้ใจกันจริงๆ จึงจะเลือกให้กันถูก เพราะหากเลือกกลิ่นไม่ถูกใจ อาจมีปัญหาได้ ส่วนใหญ่น้ำหอมเหล่านี้คุณๆก็หาซื้อกันได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆไป




เทียนหอม

เป็นของขวัญมาแรง ของวัยรุ่น เพราะราคาไม่แพง สวย ดูแล้วน่ารักดี ปัจจุบันมีการทำเทียนหอม ในรูปแบบต่างๆมากมาย โดยเฉพาะรูปหัวใจ เทศกาลนี้ขายดีมาก และที่ว่าใหม่นั้นคือเทียนหอม ที่จุดแล้วมีเสียงเพลง ซึ่งก็ดูแล้วเก๋ไปอีกแบบ

คำแนะนำ เทียนหอม สามารถให้ได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ก็ต้องดูลวดลายหรือแบบว่าน่าจะเหมาะกับคนที่คุณจะให้หรือเปล่า เทียน หอม เป็นของที่ น่ารัก สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ราคาก็แตกต่างกันออกไป ถือเป็นของขวัญใหม่ ที่นิยมให้กันทุกเทศกาล เพราะเทียนหอมสามารถทำในรูปแบบต่างๆได้ ส่วนท่านที่หาซื้อ ก็มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง และตามร้านของขวัญทั่วไป




แหวน

ของขวัญแทนใจ ที่ส่วนใหญ่ชายมักมอบให้หญิง คบกันและและรู้จักกันมาก จนมั่นใจว่า เธอคนนั่นรักตอบ เพราะแหวนเป็นเสมือนสิ่งแทนใจ และจับจองหัวใจไว้ ซึ่งก็นั่นหมายถึงคู่รักที่ให้แก่กัน



คำแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักให้กัน ฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิง และคงต้องเลือกให้ถูกใจผู้รับเป็นพิเศษ ถ้าพาไปเลือกด้วยเลยก็จะดี แหวนส่วนใหญ่แหวนที่ให้กันจะเป็นแหวนรูปหัวใจ หรือชื่อย่อ แต่การที่มีคนให้แหวน นั้นหมายถึงเขาจับจองตีตราคุณแล้วนะ




หมอน ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนและผ้านวม

สำหรับไอเดียที่สกรีนรูปหน้าของเราหรือเราทั้งคู่ลงในอุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ ก็เป็นความคิดที่โรแมนติคที่ดีเลยทีเดียวนะคะ เ ปรียบเสมือนคนรักจะได้เห็นหน้าเราก่อนนอนทุกคืนเลยไงคะ หรือสำหรับสาวๆที่มีฝีมือ หรือมีความอดทนขึ้นมาหน่อย อาจจะลงทุนเย็บหรือปักเป็นชื่อให้กับคนรักเลยก็ได้ รับรองคนรับต้องปลื้มจนยิ้มไม่หุบเลย คนให้ก็คงภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียวหละคะ

คำแนะนำ หากทำด้วยมือก็จะประทับใจคนที่รับเป็นพิเศษ และหากรู้ใจคนที่ให้ว่าเขาชอบอะไร ถ้าทำลวดลายนั้นเขาก็ยิ่งประทับใจไปอีก







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.154.234 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:41  IP : 125.24.154.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76189

คำตอบที่ 5
      

fiogf49gjkf0d

วาเลนไทน์สมัยก่อน





วาเลนไทน์เดย์ยุคก่อน (ขำขันไม่เบา) ถ้าพูดถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ทุกคนคงจะนึกถึงใครสักคน ที่เป็นคนพิเศษในใจคุณ มีการส่งดอก กุหลาบ บัตรอวยพร ช็อกโกแลต สัญลักษณ์แห่งความหอมหวาน ไปให้คนที่ตนรัก แต่ถ้าย้อนยุคไป สมัยก่อน ชาวโรมันโบราณ ฉลองวันวาเลนไทน์ มานานหลายพันปี ด้วยการจัดงานควบคู่ไปกับงาน ฉลองเก็บเกี่ยวพืช โดยให้หญิงส าวสวมหน้ากาก รูปหมาป่า คอยเวลา ถูกกลุ่มชายหนุ่มรูปหล่อ นุ่งผ้าเตี่ยว เอาแส้โบย ชาวโรมันจัดงานรื่นเริงเช่นนี้ทุกเดือน ก.พ.ของทุกปี จนกระทั่งถึง ค.ศ.45 พระสันตะปาปาพระองค์หนึ่ง มีบัญชาให้เลิก แต่ทุกวันนี้ ประเพณีเฉลิมฉลองเทศกาล วาเลนไทน์ ของชาวมะกะโรนีแล ะกรีซยังมีอยู่ ชายหนุ่มยังเฆี่ยนตีหญิงสาวอยู่ แต่ใช้แส้พลาสติกแทน ซึ่งสร้าง ความสนุกสนาน ร่าเริงมากกว่า

อย่างไรก็ตาม คนโรมันโบราณ ในวันแห่งความรัก ถ้าจะให้คู่รักมีอารมณ์โรแมนติก จะต้องเปิบนอ ฮิบโปโปเตมัส และดวงตาตัวไฮอีน่า ไม่ได้อธิบายคุณสมบัติ ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเผยว่า "ผลส้ม" เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ ชาวยุโรปรุ่นก่อนเล่าว่า ส้มเป็นผลไม้ บำรุงสมรรถนะทางเพศ สร้างอารมณ์โรแมนติก และความพึงพอใจทางเพศ หากใครต้องการให้ คู่รักหลงใหล ต้องใช้เข็มแทงผลส้ม แล้วนำไปใส่ใต้รักแร้ นอนหลับหนึ่งคืนรุ่งเช้า ใครกินผลส้ม เข้าไป จะตก หลุมรักเจ้าของในทันที (ใครกล้ากินจริง ก็คงเรียกว่าหลงรัก หน้ามืดตามัวเลยนะเนี่ย) อย่างไรก็ตามเรื่องส้มนี้ จีนโบราณถือเป็นยากระตุ้นเซ็กซ์ จักรพรรดิจีน ชวนนางสนมเอกช่วยกัน หั่นส้มชิ้นบางๆ พร้อมกับโปรยดอกส้ม ทั่วเตียงบรรทม สำหรับผลไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ วันวาเลนไทน์ อื่นๆ ก็มีผลอาร์ทิโชคมีใบเป็นหนาม กล้วย และพืชจำพวกไทรมีผลคล้ายแพร์ ซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุง สมรรถภาพทางเพศ สมัยก่อนมีข้อห้าม การใช้ช็อกโกแลต ฉลองวันวาเลนไทน์ เพราะมันกระตุ้นต่อม น้ำลายมากเกินไป อย่างไรก็ตา ม ต่อมาได้มีการพัฒนา นำดอกกุหลาบ และช็อกโกแลตมาใช้ฉลอง จนถึงปัจจุบัน เหล่านี้คือแง่มุมหนึ่งของวันวาเลนไทน์ในอดีต

Love หรือ รัก คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แทบจะมากที่สุดเลย ก็ว่าได้ ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ย นไปแค่ไหน แม้ว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไปก็ตาม แต่เจ้าความรักนี่ ดูเหมือนจะ ไม่รู้จักคำว่าล้าสมัย เอาซะเลย ความรักทำให้คนเรา เป็นคนมากขึ้น มีอารมณ์ มีความรู้สึก มีความ คิด และอะไรต่างๆอีกมากม าย ที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความรัก แต่ถ้าคนเรา ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เมื่ออยู่ในความรัก อาจจะเกิดผลเสีย มากกว่าผลดีก็ได้ เพราะฉะนั้น "จงรักให้เป็น" อย่าให้ความรักมีอำนาจเหนือตัวเรา

เช็กสเปียร์เคยกล่าวไว้ว่า "The course of true love never ran smooth. But if you can hold to the course, you can surmount the obstacles that life puts in theway" "ความรักย่อมมีอุปสรรค แต่อุปสรรคจะทำให้รักเรา มีความหมายมากขึ้น" อย่าท้อแท้กับความรักนะครับ......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.154.234 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:43  IP : 125.24.154.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76191

คำตอบที่ 6
      

fiogf49gjkf0d
คนทั่วไปรู้จักคิวปิดในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร ศร รักของคิวปิดหมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิดจะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกัน

คิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก ในกรีกโบราณ คิวปิดเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าเอโรสลูกชายแอฟโรไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงาม แต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือคิวปิดและแม่ของเขาคือวีนัส

มีเรื่องน่าสนใจพอสมควรเกี่ยวกับคิวปิดและไซคีเจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน ผมขอแนะนำผู้อ่านให้รู้จักคู่รักของคิวปิดสักนิดนะครับว่าเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ และเพราะความ งามนี้เองที่ทำให้วีนัสอิจฉา นางจึงได้สั่งคิวปิดให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่คิวปิดตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้น แทนที่จะลงโทษเธอ คิวปิดกลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจากไซคีมิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา (ตรงนี้ผมไม่ทร าบเหมือนกันนะครับว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ได้เธอเป็นภรรยาแล้วภรรยามองไม่ได้ แต่อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะเทพนิยายฝรั่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากละครน้ำเน่าบ้านเรา)

หลังจากตกเป็นภรรยาของคิวปิดแล้ว ไซคีก็มีความสุขเรื่อยมา (ก็แหงละ) จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมองคิวปิด ทันทีที่เธอมองคิวปิด คิวปิดก็ลงโ ทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคีก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆหรือคิวปิดปรากฏให้เห็นเลย

ในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของวีนัสโดยบังเอิญ เมื่อวีนัสเทพธิดาแห่งความรักพบว่าไซคียังมีชีวิตอยู่ เธอก็ปราถนาที่จะ ทำลายไซคีด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานสุดท้ายที่ไซคีได้รับมิใช่งานขับเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดครับ หากแต่เธอได้รับกล่องใบหนึ่งมาและได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอา ความงามของโพรเซอร์พีนภรรยาของพลูโตใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย นอกจากนั้นแล้ว เธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ไม่ทรา บ เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย

ต่อมา คิวปิดได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง หลังจากนั้นคิวปิดก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับวีนัส เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อคิวปิด จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่ง

ที่มา www.khonmuslim.com

ปัจจุบันนี้ รูปคิวปิดแผลงศรเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน และเมื่อศ รรักของคิวปิดพุ่งโดนหัวใจหนุ่มสาวคนใดในวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวคนนั้นก็จะออกอาการ "สติวปิ้ด"จากศรรักของคิวปิดขึ้นมาทันที อาการนี้จะเห็นได้จากการส่งดอกกุหลาบสีแดง ส่งช็อคโกแล็ต การส่งบัตรอวยพรและอื่นๆอีกครับ

หมายเหตุท้ายบท : "สติวปิ้ด" เป็นภาษาอังกฤษแปลว่า "โง่" ครับ เหมือนคำบางคำที่เราอาจเคยได้ยินว่า “ความรักบางครั้งก็ทำให้คนตาบอด และ มองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนที่เรารัก “




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.114.39 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 09:58  IP : 125.24.114.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76192

คำตอบที่ 7
      

fiogf49gjkf0d

รักคืออดทนและเข้าใจ


ความสนิทสัมพันธ์นำคนรักเข้าไปลึกถึงวิญญาณ ของกันและกันจึงล่อแหลมต่อการติฉินนินทา อับอานขายหน้า และคำพูดหักหาญน้ำใจกัน ความเมตตาคือความดีอย่างเดียวที่แข็งพอจะปกป้องความเครียด ความผิดหวัง น้อยเนื้อต่ำใจ และความไม่เข้าใจกัน ขัดกัน นำมาซึ่งความแตกร้าว ทำลายคุณค่าความรู้สึกดี ๆ ต่าง ๆ ในตัวคนที่เรารักจนหมดสิ้น

จงฟังอย่างไหวทัน

ความสนิทสัมพันธ์เปิดโอกาสให้เราได้พูดอย่างเปิดเผยตามความรู้สึกที่แท้จริงเพียงเพื่อทั้งคู่ได้ทราบข้อเท็จจริง คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น การรอคอยให้เวลาเข้าใจจะเป็นตัวค้ำประกันว่า เราบอกอะไรเขา เขาก็ได้ยินอย่างที่บอก ไม่ใช่พูดคนละเรื่อง

วิธีการง่าย ๆ ได้แก่ เริ่มทักทายกันด้วยการเรียกชื่อต้น นั่งลงคุยกัน มองตากันเพื่อจะไม่เกิดความเบื่อหน่าย การตัดสินใจใ นเรื่องสำคัญ ๆ เรามักทำกันอย่างลวก ๆ การสบประมาทเป็นเหตุให้เกิดความไม่สมดุลและไม่อยากพยายามเข้าใจ ฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป

ความสนิทสัมพันธ์ทำให้เราตั้งใจฟังจนเรื่องจบด้วยความอดทนและมองในแง่มุมที่เหมาะสม ( แง่มุมของเราอาจผิดก็ได้ และแง่มุมของเขาอาจถูกก็ได้ ) ดังนั้ นจึงไม่ควรรีบเสนอแนะและพยายามอธิบายให้ทราบเสียก่อนว่า คนรักของเราต้องการให้เรารู้เรื่อง อะไร เขา / เธอ กำลังปวดร้าว เรื่องแค้นใจเก่า ๆ ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแฟนเก่า ) หรือไม่ก็อ่อนแอ ช่วยตัวเองไม่ได้ เช่น ติดเหล้า หลงผู้หญิง กินมากเกิน เป็นต้น การรับฟังอย่างไหวทันจะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกลึก ๆ อยู่ภายใ นใจคนรักว่าต้องการบอกอะไรเขา แต่ไม่กล้าบอกตรง ๆ อาจเพราะเป็นเรื่องน่าอับอายจึงหยั่งเชิงดูก่อนหรือทดสอบความรู้สึกนึกคิดของเราเป็นต้น

รู้กาลเทศะ

ความสนิทสัมพันธ์จะช่วยให้รู้กาละเทศะ อะไรควร ไม่ควร จงพูดให้ถูกเวลาและสถานที่ การรอจังหวะเวลาอันควรคือมารยาทอันงดงามและรู้จักเกรงอกเกรงใจ คนเรารักกันคำพูดไม่สำคัญเท่าน้ำเสียง การพูดให้ถูกเวล่ำเวลารู้ว่าที่ไหนควรพูด ไม่ควรพูด ต่างหากที่คนรักของเราอยากให้เราทำได้เช่น ไม่ฉีกหน้ากันต่อหน้าคนอื่น ไม่เล่าเรื่องบนเตียงในที่ประชุมกลุ่มแม่บ้าน

เวลาอยู่กันตามลำพัง จึงเป็นเวลาเหมาะแก่การออกความคิดเห็น สามารถวิจารณ์กันอย่างสร้างสรรค์หรือแสดงอารมณ์ออกมา คนรักที่ดีจะรอโอกาสอันควรที่ จะแสดงออกมาหลังจากได้เตรียมคำพูดที่เหมาะสมและแน่ใจว่าคนรักของเขา / เธอ จะเข้าใจเพราะมีกาละเทศะ จึงไม่เสี่ยงแสดงอารมณ์รุนแรงต่อคนรักในที่สาธารณะ

มีกาลเทศะ

แปลว่าไม่สร้างปัญหาก่อนออกงานสังคม หรือเวลาแขกมาบ้าน ไม่ทำลายบรรยากาศของวันพิเศษหรือทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วกลับแย่หนักลงไปอีก มีเวลาและโอกาสอื่นที่เราจะได้แสดงความคิดเห็น ความสนิทสัมพันธ์กันมาก ๆ ก็จะรู้เองว่าเมื่อไร ยามเขามีอารมณ์อย่างไรจึงจะบอกได้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นปัญหาก็แก้ของมันไปเองแล้ว หรือไม่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป

นักแก้ปัญหา

ความสนิทสัมพันธ์สอนให้เรารู้ว่า ปัญหาที่เคยแก้ไขสำเร็จมาแล้วในอดีต อาจกลับกลายมาเป็นปัญหาในปัจจุบันได้อีก ถ้าคน รักเกิดไปสะกิดความทรงจำที่น่าอาย ซึ่งเรื่องที่หัวเราะไม่ออกให้อีกฝ่ายฟังอยู่บ่อย ๆ การตอกย้ำทุกครั้งที่พบปัญหาเดิมหรือปัญหาใหม่ เช่นนี้จะทำให้ความโกรธแค้นฝังรากลึกลงไป พฤติกรมของคน รักยิ่งวันก็ยิ่งเก็บตัว จำไว้ว่าแม้แต่ฆาตกรก็ยังไม่ยอมขึ้นศาล ในความผิดซ้ำสอง

หนทาง 4 อย่างที่ช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นคือ

ถ้าเราให้อภัยได้ เวลาจะช่วยให้เราลืมได้ ถ้าเราเป็นผู้เริ่มต้นใหม่ ความรักจะผลักดันให้เราสานต่อ

เข้าข้างคนที่เรารัก กลมเกลียว สมานฉันท์กัน เก็บข้อแตกต่างของกันและกันไว้เป็นอดีต จำไว้ว่า คนที่ขุดค้นอดีตเพื่อฝังข้อขัดแย้งในปัจจุบัน มักจะเป็นผู้แพ

ความผันแปรของชีวิต

ความสนิทสัมพันธ์ ช่วยให้เราอดทนต่อความผันแปรของชีวิตที่ต้องเกิดขึ้นได้ อาศัยความรัก ความทะนุถนอมน้ำใจกัน รู้ใจเขาใจเรา ผ่อนสั้นผ่อนยาว จะช่วยบรรเทาอารมณ์ความเจ็บปวดรุนแรง ความเหงา ความว้าเหว่ เพราะความผันแปรของชีวิตลงไปได้

ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง การให้ความสำคัญและเวลา การเอาใจใส่ต่อคนรักก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย

ความสนิทสัมพันธ์ช่วยให้ความรักยังคงอยู่ในความพอดีได้ ก็ต่อเมื่อเรายอมทิ้งสิ่งเก่า ๆ และปรับตัวให้เข้กับสิ่งใหม่ สิ่งเก่า ๆ ย่อมขึ้นสนิม เป็นธรมดาก่อนตั ดสินใจอะไรก็ให้นึกถึงผลเสียที่จะตามมาเสียก่อน ถ้าเป็นงานใหม่ที่ต้องทิ้งภรรยา / สามี ให้อยู่บ้านตามลำพัง ความห่างเหินย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การปล่อยให้ความสนิทสัมพันธ์ถึงจุดวิกฤตนั้นมันคุ้มกันไหม ?

เงียบเสียก็หมดเรื่อง

ความสนิทสัมพันธ์สอนให้รู้ว่า การไม่ได้โต้ตอบบางครั้งก็ช่วยให้ครอบครัวมีสันติสุข การใช้คำพูดที่ทำให้เขา / เธอ ไม่รู้สึ กว่าตัวเองบกพร่องหรือทำผิด จะช่วยไม่ให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงหรือ " ระเบิดอารมณ์ " ใส่กัน

ยามใดที่ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงก็เงียบเสีย กล้ำกลืนลดทิฐิลงบ้าง ให้เวลาคนรักได้สงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยพูดค่อยจากัน ฝ่ายหนึ่งเงียบเสียก็หมดเรื่อง เพราะการตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง

เจ็บใจสักนิดดีกว่าแตกร้าวจนปวดใจไปตลอดชีวิต ถามตัวเองว่า

" การไม่โต้ตอบเขา / เธอ คุ้มไหม ? "

" การชนะเขา / เธอ ก็จริง

แต่มันคุ้มกับความปวดร้าวระบมของจิตใจไหม ? "

จริงอยู่บางครั้งเรต้องแสดงความคิเห็นออกมาและทุกข์ทรมานเพระความเห็นไม่ตรงกันบ้าง นี่เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่และจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีหลายครั้งทีเราต้องกล้าที่จะเงียบฟังกันและกันบ้าง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.114.39 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 10:05  IP : 125.24.114.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76193

คำตอบที่ 8
      

fiogf49gjkf0d



จงรักกันและกันดังที่เรารักท่านพระเยซูเจ้ารักเรา จึงทรงมอบพระองค์เพื่อเรา การมอบชีวิตของคุณแก่คนที่คุณรัก อาจเทียบไม่ได้กับการเสียสละอันยิ่งใหญ่ดังเช่นนักบุญหรือบรรดามรณสักขี แต่นั่นคือชีวิตของคุณที่มอบให้แก่ผู้เป็นที่รัก การยอมมอบชีวิตในที่นี้หมายถึงการให้เวลา ความสนใจ และอุทิศตัวคุณทั้งสิ้น จะไม่มีคำว่า

" ไม่ว่าง " หรือ " กวนใจจริง ๆ "ในเวลาคนที่คุณรักต้องการคุณ




ความอาทร

ความผูกพันใกล้ชิด คือการดูแลใส่ใจซึ่งกันและกัน สำหรับทุกวันนี้คำว่า "อาทร "ดูดีกว่า " รัก "เสียอีก เพระว่าคำว่ารักทุกวันนี้ดูจะเป็นการค้าคล้าย ๆ กับโฆ ษณาที่ว่า " คู่รัก คู่รส " หรือ " วันนี้รักเธอที่สุด " ปล่อยให้บรรดานักประพันธ์ทั้งหลายเขียนพร่ำพรรณาถึงความรักให้คีตกวี แต่งเพลงสรรเสริญ บูชามันไปเถอะ แต่ขอให้คุณจำไว้ให้ดีว่า ความผูกพันที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ความเพียรทน ความสุขุมและยอมลำบากในการให้ความใส่ใจกัน

สิ่งจำเป็นในการให้ความอาทรแก่กันคือ การอุทิศตัวเองทั้งสิ้น มีคำพูดธรรมดา ๆที่แสนไพเราะเกี่ยวกับความผูกพันซึ่งกันและกันที่เรามักจะได้ยินก็คือ

" เขาเอาใจใส่กันดีจังเลยนะ "

นี่แหละคุณค่าที่สูงส่งสำหรับความสำคัญที่เราพึงให้แก่กันคือ จะไม่มีใครหรือสิ่งใดมีค่าเท่ากับผู้ที่เรายอมอุทิศตนให้อีกแล้ว

คำว่า " อุทิศตน " ( Devotion ) มาจากคำภาษาลาตินว่า Devotion ซึ่งหมายความว่า " การถวายความศักดิ์สิทธิ์ " ( Consecration ) นั่นคือเมื่ออาทรต่อผู้ใด คุณย่อมต้องการที่จะให้เขาผู้นั้นเป็นบุคคลพิเศษสำหรับคุณนั่นเอง

การให้เวลา

ความผูกพันกันอาจนำมาซึ่งของกำนัลที่มีค่าต่าง ๆ แต่บางสิ่งที่สำคัญและมีค่ามากที่สุดคือการให้เวลากัน ให้เวลาที่จะพูดคุ ยและรับฟังกัน ความใส่ใจและการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เวลาแม้เพียงครู่หนึ่งที่ได้พูดคุยกัน แม้จะเป็นเรื่องไร้สาระย่อมมีคุณค่ามากกว่าใช้เวลานับชั่วโมงนั่งเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ ซึ่งต่างฝ่ายเกือบจะถูกลืมกันไป

เบนจามิน แฟรงกิน เรียกเวลาว่า " ผู้เติมชีวิตให้เต็ม "

เมื่อคนรักกันวางเดิมพันชีวิตของเขาแก่กันและ จนกว่าชีวิตจะหาไม่นั้น เขาย่อมต้องคิดว่านั่นคือการจบสิ้นเวลาสำหรับกันและกันด้วย คุณควรจัดหาเวลาที่แน่นอน และถือเสมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันที่มีค่ายิ่งเพื่อใช้ร่วมกัน มันอาจจะเป็นแค่การเดินเล่นหลังอาหารค่ำในวันที่อากาศสดชื่นแจ่มใส หรือการนั่งคุย และรับฟังเรื่องสัพเพเหระของกันและกัน

นอกจากนี้ เวลายังแสดงถึงการใช้พลังงานที่เหมาะสมด้วย ถ้าคุณให้เวลาแก่กันแล้ว แต่ยังคงรู้สึกถึงความเปล่าประโยชน์อยู่ คุณควรใช้เวลาเหล่านั้นศึกษาถึงปัญหาของกันและกันให้ถ่องแท้ พยายามจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ชัดเจนเพื่อคุณจะได้ไม่มัวหลงอยู่แต่ในกิจการที่ล้วนแต่จะแยกชีวิตของคุณออกจากกัน

วันว่าง

ในความใกล้ชิดนั้น จะมีความสุขกับยามว่าง ยามใดที่คุณสามารถขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางช่วงเวลาว่างที่มีต่อกันและกันได้ และควรปล่อยให้ธรรมชาติเข้ามาชี้นำความสุขของคุณบ้าง คุณจะแปลกใจทีเดียวว่า เมื่อคุณได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างธรรมดาสามัญนั้น สามารถช่วยคลายความเครียดหรือความกดดันต่าง ๆ ในใจได้อย่างคาดไม่ถึง การปล่อยตัวให้ว่างจากภารกิจต่าง ๆ บ้างจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขใจอย่างไม่น่าเชื่อได้เลย

คุณอาจตรวจดูช่วงเวลาพักผ่อนจากฤดูกาลต่าง ๆ ที่เหมาะสมก็ได้เช่น ไปปิกนิคชายทะเลที่ในฤดูร้อน การไปเที่ยวภูเขาในฤดูหนาว หรือการเดินเตร็ดเตร่ในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน จงจำไว้ว่าไม่ว่าจะเป็นที่ใดหรือเมื่อใดก็ตาม ให้คุณแน่ใจว่านั่นคือช่วงเวลาพิเศษที่คุณมีให้แก่กันอย่างมีความสุขใน " วันว่าง " ของคุณ

การอยู่ด้วยกันและการรู้จักกันสำคัญพอ ๆกับการกระทำและการเป็นเจ้าของ ถึงกระนั้นคนที่มีความรักก็อาจจะรู้สึกอึดอัดหรือเบื่อหน่ายได้ พวกเขาควรจะต้องมีความร่วมมือกันกระทำบางสิ่งบางอย่างด้วยแต่อย่าใช้เวลากับสิ่งต่าง ๆ มากเกินไปจนอาจจะกีดขวางโอกาสที่จะได้รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง

การเพิ่มพูนประสบการณ์

ในความใกล้ชิดไม่สามารถทำให้เราพ้นจากเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆได้ คนรักที่มักคิดแต่เรื่องใบเสร็จของค่าใช้จ่ายเป็นบุคคลที่น่าเบื่อ โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องการนั่งมองตัวเลขที่เพิ่มพูนในบัญชีเงินฝากเท่านั้น จริงอยู่ที่ความรอบคอบและรับผิดชอบจะช่วยให้เขาจ่ายเงินได้อย่างสมควร แต่ก็อาจจะพลาดโอกาสดี ๆไป เพราะความขี้เหนียวอย่างโง่ ๆ เช่นกัน

เคล็ดลับในการใช้จ่ายเงินก็คือความสนุกแบบจ่ายน้อยอร่อยมาก หรือเมื่อได้ของดีราคาถูก ฉะนั้นคุณจึงควรพยายามหาโอกาสเช่นนี้บ้าง ความมั่นคงในการใช้ชีวิตเป็นเรื่องดีแต่มันก็สุดแสนน่าเบื่อด้วย ลองหาโอกาสให้เงินได้นำความเพลิดเพลินแก่คุณในยามว่างหรือวันหยุดพักผ่อนของคุณบ้าง เพราะช่วงเวลาที่สนุกสนานจะนำความใกล้ชิดมาให้ได้อย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว

เงินทองทรัพย์สินก็คล้ายปุ๋ย ถ้าเราเก็บมันไว้เฉย ๆ ก็จะไม่เกิดประโยชน์อันใด แต่ถ้าเราใส่มันให้ตันไม้บ้าง มันจะให้ชีวิต ให้ความ งอกงาม และทำให้ไม้ดอ กไม้ผลต่าง ๆ ดำรงความคงทนแข็งแรง เงินก็เช่นกัน มันสามารถนำเสนอ ความเพลิเพลินและประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นน่าสนใจทำให้สัมพันธภาพของคุณงอกงามขึ้นอย่างมั่นคง

ลำดับความสำคัญ

คนรักย่อมพยายามหาโอกาสจะได้ใกล้ชิดกันเสมอ เพราะเมื่อคุณรักใครคุณคงไม่คอยจนทำงานเสร็จเสียก่อน แล้วจึงหาเวลาพบปะคนรักของคุณเป็นแน่ คู่รักมักหาเวลาโทรศัพท์หากันเพียงแค่จะบอกว่า

" ผม / ฉัน คิดถึงคุณจังเลย "

คุณอาจจะส่งดอกไม้ การ์ดอวยพรให้เขาหรือเธอทั้งที่ไม่มีโอกาสพิเศษอะไร แต่เพื่อจะบอกว่า คุณคิดถึง คุณเอาใจใส่

ความใกล้ชิดจะซื่อสัตย์ต่อลำดับความสำคัญก่อนหลังมาก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อาจจะต้องใช้เวลาและความสนใจอย่างยิ่งยวด แต่ถ้าคนรักของคุณไม่ร่วมมือด้วย คุณก็ควรพยายามรักษาสัดส่วนที่พอเหมาะสม เพื่อจะไม่ทำความกระทบกระเทือนสัมพันธภาพรักของคุณเอง

ความรักหนทางพิเศษสุด

ความสัมพันธภาพใกล้ชิดไม่ใช่ " เกมส์วิบาก "ที่คาดหวังให้คนรักต้องคอยตามใจหรือคอยหึงหวงอย่างไร้เหตุผล ถ้าเราไปหลอกล่อให้เขาหัวปั่นและคอยดูด้วยความขบขัน อันตรายร้ายแรงย่อมเกิดขึ้นแน่นอน นั่นคือความสัมพันธ์ของคุณอาจจะขาดสะบั้นลง

ถ้าคุณห่วงใยกันอย่างแท้จริง จงเลิกนึกถึงแต่ตัวเองแบบนี้เสีย ลองให้คนรักของคุณได้มีโอกาสเข้ามาใกล้ชิด ถนอมความรัก ของคุณด้วยการใช้เวลาร่วมกันดีก ว่า เพราะการกระทำที่ไร้เหตุผลนั้น มีแต่จะทำให้คุณเหนื่อยล้า และกดดันในจิตใจ หนทางแห่งความรักจะเป็นสิ่งที่แสนวิเศษ เมื่อคนสองคนจูงมือกันเดินไปในทิศทางและจังหวะเดียวกัน ชีวิตของคุณจะมีโลกทัศน์ที่น่ารื่นรมย์ ณ จุดหมายที่ทั้งสองต่างจะมีความสุขในการได้ใช้ชีวิตร่วมกัน

เคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกัน

ในความใกล้ชิด แม้คู่รักจะต้องการอยู่ด้วยกันสองต่อสอง ก็เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสองจะใช้ชีวิตร่วมกันในทุกอย่างและทุกเรื่อง เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์ ทุกคนย่อมจะมีมุมหนึ่ง ที่ซึ่งไม่ต้องการให้คนอื่นล่วงล้ำเข้าไป และเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะอธิบายได้

มิได้หมายความว่าความโดเดี่ยวลำพังเช่นนี้จะทำให้คุณหลบหนีจากคนรัก แต่มันเป็นชีวิตที่ลึกซึ้งไปกว่าเดิม ซึ่งคุณเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจากจุดนี้ คุณจะได้พบจุดยืนในความเป็นตัวของตัวเอง อันจะทำให้คุณสามารถอุทิศตัวเพื่อสัมพันธภาพความรักได้

ในการแบ่งปันความคิดกับคู่รักของคุณ ดูเหมือนจะทำให้คุณได้สัมผัสจิตวิญญาณของตนเอง แต่แท้จริงแล้วความพึงพอใจเช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้ เมื่อคุณได้นั่งพินิจพิเคราะห์ตามลำพังเท่านั้น เพราะในความเป็นส่วนตัวจะช่วยให้คุณมีเวลาค้นหาความรู้สึกแท้จริงที่หยั่งลึกในหัวใจของคุณ เพราะหากปราศจากชีวิตส่วนตัวแล้ว คนเราจะอยู่ร่วมกันแต่เพียงผิวเผินและขาดความจริงใจต่อกัน

ความสำคัญของการอยู่ตามลำพัง

การมีใจให้กันนั้นเริ่มจากความรู้สึกมั่นใจต่อกันและกัน ถ้าในหัวใจของคุณยังรู้สึกว่ามีม่านบาง ๆ ขวางกั้นอยู่ คุณย่อมรู้สึกสับสนและแน่นอนว่าคุณจะหยุดตัวเองมิให้เพิ่มพูนความใกล้ชิดและความผูกพันที่มี ยิ่งคุณมั่นใจซึ่งกันและกันมากเท่าใด คุณจะยิ่งรู้สึกได้ถึงความลึกซึ้งในความสัมพันธ์ของคุณ เพราะคุณจะเปิดใจของคุณแทนการมองเข้าไปจากภายนอกเท่านั้น

" การรับรู้ร่วมกัน " หมายความเช่นเดียวกับความกลมเกลียวกันทางความคิดและรู้จักอดทนซึ่งกันและกัน ถ้าความคิดของคุณสับสนวุ่นวาย และอารมณ์ไม่ มั่นคงย่อมจะเกิดปัญหาต่อมิตรภาพของคุณ

สำนวน " น้ำนิ่งไหลลึก " เปรียบเทียบการมีชีวิตตามลำพังร่วมกันว่า คือโอกาสที่คุณจะได้ศึกษาถึงแก่นแท้แห่งวิญาณร่วมกัน คุณจะใช้ความสงัดเงียบซึมซับกันและกันให้ถ่องแท้ และรวมกันเข้าเป็นชีวิตเดียวกันหากคุณเป็นผู้มีความสงบในจิตใจและมั่นใจใ นอันที่จะรัก คุณย่อมเต็มใจที่จะศึกษากันและกันตามลำพังบ้าง แล้วคุณจะได้หมดสิ้นข้อกังขาในใจที่อาจมีต่อกัน

การปรุงแต่งจิตใจ

การทำจิตใจให้งดงามจะช่วยเพิ่มคุณค่าของความรัก และความสนิทชิดชอบระหว่างคนทั้งสอง ถ้าคุณร่ำรวยความคิด มีไหวพริบปฏิภาณ การนทนาพูดคุย ของคุณย่อมก่อให้เกิดความสนุกเพลิดเพลิน เป็นเรื่องดีที่จะได้พูดคุยได้ศึกษา ได้หัวเราะ ได้รัก และได้อยู่ร่วมกับคนฉลาด

ตกแต่งจิตใจของคุณด้วยการอ่าน และอุทิศเวลากับการศึกษาด้วยตนเอง กระตุ้นเตือนตนเองให้ซื่อสัตย์และจริงใจ จะพูดคำว่า " ฉันไม่รู้ "

เมื่อฉันไม่รู้จริง ๆอย่าพลาดโอกาสที่จะได้ไขว่คว้าหาความรู้ใหม่ ๆเสมอแล้วคุณจะไม่รู้สึกสงสารตัวเองว่าเป็นเต่าล้านปี เป็นคนที่น่าเบื่อ ต้องนั่งเป็นคนเบื้อใบ้ไม่รู้อะไรเลย สิ่งนี้มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักหลายต่อหลายคู่มาแล้ว

การพูดคุยที่สนุกสนานและน่าสนใจนั้นมาจากความคิด และมันสมองดังนั้นถ้าคุณเป็นพวกปัญญาทึบ คุณย่อมจะสื่อสารกับคนรักของคุณอย่างดีไม่ได้เป็นแน่ จง รีบแก้ไขข้อที่บกพร่องนี้เสีย ความรอบรู้ไม่ได้ทำให้คุณเป็นบุคคลน่าสนใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลับสติปัญญาให้เฉียบคม ช่วยให้คุณมีโลกทัศน์กว้างไกล คุณจะเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจผู้อื่น มีบุคลิกที่อบอุ่น นาเชื่อถือ เพราะคุณจะเหมือนธนาคารความรู้ซึ่งเก็บออมเรื่องน่าสนใจและสาระต่าง ๆไว้ในสมองได้มากมาย

วันครบรอบโอกาสสำคัญ

ความผูกพันใกล้ชิดกัน ทำให้เรามักจดจำวันสำคัญต่าง ๆ ได้ เช่นวันเกิด วันพบกันครั้งแรก วันครบรอบแต่งงาน วันเหล่านี้จะย่างกรายเข้ามาให้คุณได้ระลึกถึงเพื่อช่วยให้ชีวิตของคุณมีความหมายและน่าภิรมย์ ทำให้คุณย้อนระลึกถึงวันเก่า ๆ ที่เคยให้แก่ กัน เพื่ออภัยในความผิดบกพร่อง เพื่อที่จะลืมความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน เพื่อเริ่มต้นความสดชื่นและเริ่มชีวิตใหม่ร่วมกัน

โอกาสครบรอบวันสำคัญนี้ยังเป็นวันทำบัญชีของคุณด้วย ของขวัญตั้งตระหง่าน คำอวยพรต่าง ๆ ที่มีค่าสำหรับคุณ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้คุณหลงลืมและเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองมากเกินไป ดังนั้นจงลดความหยิ่งทะนงและความเห็นแก่ตั วเองลงบ้าง เพราะมันมีแต่จะขัดขวางความรักที่มีค่าของคุณ จงหาโอกาสใช้ชีวิตที่ธรรมดาสามัญ อย่าใช้แบบแผนการณ์ดำรงชีวิตที่เข้มงวดจนเกินไป

หากมีวันที่คุณคิดจะรับประทานอาหารใต้แสงเทียน ไปเต้นรำอย่างโรแมนติคร่วมกัน ขอให้เป็นไปในโอกาสครบรอบวันสำคัญวันใดวันหนึ่ง เพื่อคุณจะได้คิดถึ งและจดจำ และรอคอยวันพิเศษนั้นหวนกลับมาถึงอีกครั้งซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการรื้อฟื้นคำมั่นสัญญาที่จะทำให้คุณมีความสุขร่วมกันเสมอไป






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.114.39 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 10:08  IP : 125.24.114.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76195

คำตอบที่ 9
      

fiogf49gjkf0d

คาถารักสําหรับเพื่อนๆๆทุกท่าน

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงอยากจะขอเสนอ " ๔ อ. คาถารักษา รัก ให้ยั่งยืน"ซึ่งคาถา ในที่นี้ มิใช่มนต์ที่จะเสกเป่าให้คนมารัก มาชอบ แต่เป็นเหมือนแนวทางให้คู่รัก หรือแม้แต่คู่สามีภริยาได้นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อความสุข ความสดชื่นในชีวิตคู่ต่อไป

อ.แรก คือ เอาใจใส่ ธรรมชาติของคนเราไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนพอใจให้มีคนมาเอาใจใส่ต่อตัวเราทั้งสิ้น ยิ่งเป็นแฟนหรือคนใกล้ชิดทำให้ก็ยิ่งทวีความสุขใจ การเอาใจใส่ในที่นี้ นับตั้งแต่การให้ความสนใจไต่ถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ให้ความห่วงหาอาทรอย่างสม่ำเสมอ เอาใจเขามาใส่ใจเรา คอยเอาใจ ช่วยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่เอาแต่ใจตัวหรือเอาแต่ได้ ที่สำคัญคือ ไม่เอาใจออกห่างจนเกิดปัญหาตามมา

อ.ที่สอง คือเอื้อนเอ่ยวาจาดี โดยปกติ คนเรามักจะพูดจากับผู้ที่เราไม่รู้จักด้วยถ้อยคำที่ไพเราะสุภาพ แต่เมื่อสนิทชิดเชื้อกันแล้ว ปรากฏว่าหลายค นมักจะขาดความเกรงใจต่อกัน และบ่อยครั้งก็พูดจากันด้วยคำไม่เหมาะสม ก้าวร้าว ซึ่งจริงๆแล้วไม่ว่าจะสนิทกันเพียงไหน ถ้อยคำที่ไพเราะ อ่อนหวาน สุภาพก็ยังเป็นสิ่งฟังแล้วรื่นหู ให้ความสบายใจ ยิ่งเป็นคำชื่นชมด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือคู่ครอง ย่อมฟังแล้วเกิดความชื่นใจ มีกำลังใจเพิ่มขึ้น ดังนั้น เราจึงควรพูดดีต่อกัน แม้แต่การตำหนิก็ไม่ควรใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือดุด่าให้คนฟังเสียน้ำใจ

อ.ที่สาม คือ อดทน การที่คนสองคนจะมาเป็นแฟนหรือกลายมาเป็นสามีภริยากันในอนาคตได้นั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ความอดทนซึ่งกันและกัน เพราะการที่มาจากคนละครอบครัวอันมีความต่างกันไม่มากก็น้อย ย่อมต้องใช้เวลาศึกษาและปรับตัวเข้าหากัน หากไม่มีความอดทนเพียงพอ ก็อาจจะต้องเลิกรากันไปก่อน ที่จะรู้จักกันดีเสียอีก และเมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ก็ยิ่งต้องมีความอดทนมากขึ้น เพราะการดำรงชีวิตคู่ยังต้องช่วยกันทำมาหากิน และช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคข้างหน้าอีกมากมาย

อ.ที่สี่ คือ อภัยแก่กันและกัน ในชีวิตของคนเรานั้น ย่อมมีผิดพลาดกันเป็นธรรมดา ดังนั้น การรู้จักให้อภัยทั้งแก่ตัวเอง และคนที่เรารักจึงเป็นสิ่งจ ำเป็น มิฉะนั้นแล้ว เราจะอยู่กันด้วยความกินแหนงแคลงใจต่อกัน หรือโกรธกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีความสุขทั้งคู่ เพราะจิตใจเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ไม่สบายใจ เจ็บใจไม่หาย หรือบางคนก็หาทางแก้แค้น กลายเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันไม่รู้จบสิ้น การให้อภัยจึงเป็นการสร้างความสงบสุข ร่มเย็นให้แก่จิตใจและชีวิตคู่ของเรา

ทั้ง ๔ อ. นี้ เป็นเพียงแนวทางกว้างๆ ที่เชื่อว่าใครปฏิบัติแล้วจะช่วยให้ชีวิตคู่รัก และคู่ครองมีความมั่นคง ยืนยาวยิ่งขึ้น และนอกเหนือไปจาก ๔ อ.ข้างต้นแล้ว สำหรับวัยรุ่น หรือเด็กๆที่ยังอยู่ในวัยเรียน ควรเพิ่ม อ.อดใจ เข้าไปด้วย คือจะรักจะชอบใคร ก็ควรยับยั้งชั่งใจให้ดี เพราะวัยนี้ก็ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ค่อยได้ อย่าไปมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เพราะนอกจากจะสร้างปัญหาให้ตัวเอง และครอบครัวแล้ว ยังจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมอย่างที่เราเห็นๆกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคงไม่มีใครปรารถนาให้เป็นเช่นนั้น แน่นอน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.114.39 อังคาร, 10/2/2552 เวลา : 10:10  IP : 125.24.114.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76196

คำตอบที่ 10
      

fiogf49gjkf0d
อ่านคาถา ๔ อ.แล้วนึกถึงตัวเอง

อ.๑... เอาใจใส่...............ส่วนใหญ่จะเอาใจใส่ตัวเองซะมากกว่า.....ต้องปรุงแต่งใหม่
อ.๒...เอื้อนเอ่ยวาจาดี.......น้อยมากสําหรับแม่บ้าน และหลายๆๆครั้งกับเพื่อนฝูง....ต้องแก้ไข
อ.๓...อดทน...................5555 ส่วนใหญ่จะทนอดซะมากกว่า 55555555
อ.๔...อภัยแก่กันและกัน...อนุโมทนาสาธุ ขอพระอภัยมณีเพื่อนๆๆที่ทําให้งุดหงิดน่ะขอรับพี่น้อง.....๙๙๙๙



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

RedMachine067 จาก Red Machine 067 125.24.167.140 พฤหัสบดี, 12/2/2552 เวลา : 10:07  IP : 125.24.167.140   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76599

คำตอบที่ 11
      

fiogf49gjkf0d
วันไหน เดือนไหน ประเพณีของใคร ชาติไหน
พี่ไทยก็เมาได้ทุกงาน เจิบๆ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ผู้เฒ่าเหลาตอก Champ064 203.146.136.94 พฤหัสบดี, 12/2/2552 เวลา : 13:04  IP : 203.146.136.94   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 76633

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,30 เมษายน 2567 (Online 3256 คน)