คำตอบที่ 1
       ไหนๆก็เปลี่ยนวาวล์น้ำมาแล้ว ก็เอารถไปใช้ตามปกติได้เลยครับ เรื่องฮีตนี่รถ Ford ของเราได้รับการยอมรับในเรื่องนี้อยู่แล้วครับ ยิ่งถ้าเป็นรถที่ผลิตก่อนปี 2003 มักมีปัญหาเหล่านี้อยู่เสมอ ตอนนี้ก็ทำใจให้สบายๆอย่าไปวิตกกังวลกับมันนักเพราะระบบหล่อเย็นทั้งระบบ มันต้องไล่เช็คกันหลายอย่างครับ
หม้อน้ำ ปั้มน้ำ วาวล์น้ำ ท่อยางบน-ล่าง ท่อยางน้ำเลี้ยงเทอร์โบ ยางตาน้ำ ถ้าต้องการให้จบจริงก็ต้องอย่างว่ามาทั้งหมดครับ รวมของใหม่ทุกอย่างไม่เกิน 1 หมื่นบาทครับ
รอท่านอื่นมาเสริมครับ

ที่ผมกลัวก็คือเวลาเดินทางไกลมันจะทำพิษเอา ที่ผมกังวลก็คือปะเก็นฝาสูบผมไปบ้านหรือยังจะรู้ได้ยังงัยนะ จาก : ranger273(ranger273) 11/5/2555 21:07:16 [171.98.164.99]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ท่อล่างจะแค่อุ่นๆครับ
เมื่อเครื่องร้อนถึงอุณหภูมิทำงานเต็มที่ น้ำในหม้อพักจะสูงขึ้นราวๆ1นิ้ว
และจะดูดกลับไปเท่าเดิมเมื่อเครื่องเย็น

เครื่องฟอร์ดต้องการน้ำที่ผสมน้ำยาหล่อเย็นด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       หากรถ start อยู่กับที่ไม่ได้วิ่ง ไม่เร่งเครื่องเอง เครื่องจะอยู่สภาวะเดินเบาครับ ท่อน้ำด้านล่างก็จะเย็นแบบนั้นละครับ (จะร้อนกว่าสภาพอากาศ) น้ำในหม้อพักก็จะยังไม่เพิ่มระดับ พอเราวิ่งรถออกไปเครื่องถูกเร่งน้ำในระบบก็จะไหลวนแรงขึ้น ขับไปสักพักใหญ่หากวาล์วน้ำดีก็จะปิดและเปิดที่อุณหภูมิประมาณ 83 องศา ทีนี้หากได้จอดรถลองไปจับท่อล่างใหม่ จะร้อนขึ้นมากกว่าเดิม หากขับไกลเป็น 100 KM ความร้อนภายในที่เกิดขึ้นจะสร้างแรงดันอากาศทำให้ดันฝาหม้อน้ำเปิดนิดหนึงเพื่อระบายแรงดัน ก็จะมีน้ำออกมาด้วย พอแรงดันลดสปริงก็จะดันกลับ เข็มความร้อนที่หน้าปัดควรจะอยู่ไม่เกินครึ่งครับ
เมื่อถึงจุดหมายหรือจอดจนเครื่องเย็นน้ำในหม้อพักที่ออกไปตอนร้อนก็จะถูกดูดกลับเข้าที่เดิม หากไม่ดูดแสดงว่าฝาปิดหม้อน้ำมีปัญหาครับต้องเปลี่ยน ไม่งั้นเครื่อง Heat แน่นอน....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ขอบคุณน้าๆมากครับ ผมลองสังเกตดูเป็นอย่างที่ว่าจริงๆครับ ตอนนี้มีความมั่นใจขึ้นแล้วครับว่ารถผมปะเกนฝาสูบคงไม่รั่วและฝาสูบไม่น่าจะโก่ง แต่ผมก็ยังไม่เคยวิ่งทางไกลเกิน40ก.ม.นะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย