คำตอบที่ 59
fiogf49gjkf0d
เรียน ผู้มีอุปการคุณทุกท่านครับ ต้องขออนุญาตเข้าเว็ปด้วยความเคารพนะครับ
โรงเรียนบ้านแม่พร้าว ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการศึกษาตามรายละเอียดท้ายนี้ครับ
โรงเรียนบ้านแม่พร้าว
1. ข้อมูลทั่วไป
1.1 โรงเรียนบ้านแม่พร้าว ตั้งอยู่หมู่ 9 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
รหัสไปรษณีย์ 54120 โทรศัพท์ - 054-550030
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแพร่ เขต 1
1.2 เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 1 ถึงระดับประถมศึกษาปีทื่ 6
1.3 มีเขตพื้นที่บริการ 1 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแม่พร้าว (หมู่บ้านชนชาวเขาเผ่าอาข่า)
1.4 ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
1.5 ระยะทางจากอำเภอสองแบ่งตามลักษณะเส้นทางเป็น 2 ระยะคือ
ทางลาดยางจากอำเภอสอง 39 กิโลเมตร
ทางลำลองดินผสมลูกรัง 13 กิโลเมตร
รวมระยะทางจากที่ว่าการอำเภอสองถึงโรงเรียนบ้านแม่พร้าว 52 กิโลเมตร
( ทางลำลองดินผสมลูกรัง เส้นทางต้องผ่านแม่น้ำยม ไม่มีสะพานข้าม ฤดูฝน พฤษภาคม-พฤศจิกายน พาหนะจักรยานยนต์ หรือเดินเท้าระยะทาง 13 กิโลเมตร )
2. ข้อมูลด้านการบริหาร
2.1 ชื่อ สกุล ผู้บริหาร นายวิจิตร์ ก้อนมณี
ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการที่โรงเรียนนี้ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2550
2.2 ครูสายผู้สอน 3 คน (ที่โรงเรียนไม่มีสัญาณ)
1. นายธวัชชัย จักรผัน เบอร์โทร 089-9540115
2. นางสาวอารีรัตน์ หงส์สามสิบเจ็ด เบอร์โทร 086-1873618
3. นางสาวประภาพร มะละสาร เบอร์โทร 081-5957704
3. ข้อมูลนักเรียน
ปัจจุบันโรงเรียนมีข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนนักเรียน ( ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2551 ) ดังนี้
3.1 จำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการทั้งหมด 41 คน
3.2 จำนวนนักเรียนจำแนกตามระดับชั้นที่เปิดสอน
อนุบาล ชาย 3 หญิง 3 รวม 6
ประถมศึกษาปีที่ 2 ชาย 4 หญิง 3 รวม 7
ประถมศึกษาปีที่ 4 ชาย 4 หญิง 12 รวม 16
ประถมศึกษาปีที่ 6 ชาย 8 หญิง 4 รวม 12
รวมจำนวนนักเรียนทั้งหมด 41 คน
4. ประวัติโดยย่อ
โรงเรียนบ้านแม่พร้าว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแพร่ เขต 1 ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม หมู่ที่ 9 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2529 สถานที่เรียนครั้งแรก อาศัยอาคารเรียนของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเป็นการชั่วคราว โดยมีนายสุริยัน ขันแก้ว เป็นผู้บริหารคนแรก มีนักเรียนทั้งสิ้น 40 คน มีเขตบริการ 1 หมู่บ้านคือบ้านแม่พร้าว
1 ธันวาคม 2530 นายชุม สะเอียบคง กำนันตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้ซื้อที่ดินจำนวน 7 ไร่ บริจาคให้โรงเรียนและมอบให้เป็นพื้นที่ของโรงเรียนทั้งหมด
6 ธันวาคม 2530 คณะครูภายในกลุ่มโรงเรียนมิตรอุดร และนักการภารโรง สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอสอง ได้ร่วมกันสร้างอาคารเรียนชั่วคราว จำนวน 1 หลัง 3 ห้องเรียนโดยได้รับการสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ จากบริษัทชาติไพบูลย์จำกัด
5 มกราคม 2532 ได้รับงบประมาณจากทางราชการให้ก่อสร้างส้วม 2 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง
19 กุมภาพันธ์ 2539 นายธีระวิทย์ ภิญโญ ได้นำคณะครู ผู้ปกครองนักเรียน สร้างโรงอาหารขึ้น 1 หลัง ขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร
24 พฤษภาคม 2539 คณะครู ผู้ปกครองนักเรียน และนักการภารโรงกลุ่มโรงเรียนพนาวิทย์ ได้สร้างอาคารเรียนขึ้นอีก 1 หลัง ขนาดความกว้าง 6 เมตร ยาว 12 เมตร จำนวน 2 ห้องเรียน
11 มีนาคม - 2 เมษายน 2541 ชมรมค่ายอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สร้างอาคารเรียนคล้ายแบบ สปช. 102 ขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 36 เมตร จำนวน 1 หลัง 4 ห้องเรียน
16 30 พฤศจิกายน 2544 กลุ่มค่ายอาสาพัฒนาแกนพลังสมาพันธ์นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้สร้างศูนย์การเรียนชาวไทยภูเขา ขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 16 เมตร จำนวน 1 หลัง
22 กรกฎาคม 2548 คณะ PProad.com บริจาคเงิน เครื่องปั่นไฟ แบตเตอรี่ อุปกรณ์การเรียนและวัสดุการศึกษาอื่นๆ
5 ธันวาคม 2548 ชมรมสวัสดี นำโดยนายแพทย์วันชัย ธัญญศิริ สร้างอาคารธัญศิริ ขนาดความกว้าง 6 เมตร ความยาว 16 เมตร จำนวน 1 หลัง เป็นอาคารเรียนชั้นอนุบาล โดยใช้งบประมาณ 120,000 บาท และมีนายมานพ ดีมี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแพร่ เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิดป้าย และรับมอบอาคารอนุบาลธัญญศิริ โดยมีกำนันตำบลสะเอียบ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ หัวหน้าสถานีอนามัย ตำบลสะเอียบ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ยม ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่เครือข่ายยมเหนือ คณะครูและผู้มีเกียรติจำนวนมากให้เกียรติมาร่วมในพิธีเปิดป้ายและรับมอบอาคาร
นอกจากนี้ ทางชมรมสวัสดี ยังได้มอบอุปกรณ์การเรียน เครื่องปั่นไฟฟ้าขนาด 3 KVA เป็นเครื่องยนต์เบนซิน และผ้าห่มให้กับทางโรงเรียนและชาวบ้านอาข่า ตลอดจนเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียน
16 18 มกราคม 2550 องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ได้อนุเคราะห์เครื่องจักรกลปรับสนามโรงเรียน
28 กรกฎาคม 2550 คณะแรลลีฟรีสไตล์ออฟโรด ได้นำของใช้ต่างๆ และไดนาโม มามอบให้โรงเรียนกับชุมชนในเขตบริการมูลค่าประมาณ 80,000 บาท
ปัจจุบันโรงเรียนบ้านแม่พร้าว เปิดทำการสอน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเปิดทำการสอนนักเรียน 2 กลุ่มอายุ มีข้าราชการครูปฏิบัติงาน 4 คน พนักงานราชการตำแหน่งครู 1 คน และครูจ้างสอน 1 คน มีนักเรียนทั้งหมด 41 คน
คำขวัญโรงเรียน
พูดไทยชัด ขจัดความสกปรก ยกคุณภาพชีวิต
วัตถุประสงค์เฉพาะของสถานศึกษา
นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะภาษาไทย ด้านการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และการคิดแก้ปัญหา มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ มีความรู้ความสามารถ มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี มีความสำนึกในความเป็นคนไทยสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
4. สภาพชุมชนโดยรวม
สภาพชุมชนในเขตบริการของโรงเรียนมีลักษณะ เป็นชุมชนชาวเขาเผ่าอาข่า(อีก้อ) หมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่ยม (หน่วยอนุรักษ์ป่าไม้ที่ 13) มีประชากรประมาณ 270 คน อาชีพหลักของชุมชนคือ
ทำไร่ หาของป่า ล่าสัตว์ เนื่องจากชุมชนอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและประชากรมีฐานะยากจน นับถือศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ ประเพณี/ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปคือ ประเพณีปีใหม่อาข่า ประเพณีโล้ชิงช้า ประเพณีแดหาแย หรือแปลเป็นไทยก็คือลงลานสาวกอดจะเล่นกันเฉพาะในช่วงค่ำ (เป็นการเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาว ที่ต้องการหาคู่) สำหรับอาข่าที่บ้านแม่พร้าวแห่งนี้ ยังคงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเอาไว้อย่างครบถ้วน ใครอยากไปเที่ยวและต้องการเห็นวิถีชีวิตที่แท้จริงของอาข่าก็ต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะสม
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของป่านี้ คือ ไม้สักที่ยังหลงเหลืออยู่มาก สมัยที่บริษัท ชาติไพบูลย์ จำกัด ยังทำ สัมปทานไม้กันอยู่นั้น ไม้สักของที่นี่ถือว่าเป็นไม้เศรษฐกิจชั้นดีที่นำรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาล เมื่อปิดป่า และประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติแม่ยม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ก็ใช้เป็นทางตรวจป่าและทางสัญจร ของชาวบ้าน ผลที่ตามมาของการสัมปทานป่าดังกล่าว ก็คือ เส้นทางลากไม้ ที่เชื่อมต่อไป ยังบริเวณต่างๆ รวม ทั้งหมู่บ้านหลายแห่งที่ตั้งอยู่ด้านใน ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านเก่าที่ตั้งรกรากกันมาตั้งแต่อดีต แต่สิ่งที่เป็น ปัญหาในปัจจุบัน หนีไม่พ้นการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ยืดเยื้อมานาน ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์ที่ ไม่เห็นด้วย กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและประชาชนในพื้นที่ราบ ฝ่ายหนึ่งต่อต้านและรักษาผลประโยชน์และทรัพยากรป่าไม้ที่มีค่าเอาไว้ อีกฝ่ายต้องการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้ใช้สอยในช่วงฤดูแล้ง และป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ตอนล่างของแก่งเสือเต้น
อ่าข่า
อ่าข่าเป็นชนกลุ่มๆ หนึ่ง ที่ใช้ชื่อเรียกชนกลุ่มตนเองว่าอ่าข่า ในประเทศจีนเรียกว่าฮานีหรือโวน อ่าข่าสามารถแยกศัพท์ได้ดังนี้ อ่า แปลว่าชื้น ข่า แปลว่าไกล ความหมายของคำว่าอ่าข่าคือ ห่างไกลความชื้น อ่าข่าชื่อนี้มาจากความเชื่อที่ว่า ถ้าอยู่ใกล้แม่น้ำมีโรคภัยไข้เจ็บมาก และจากตำนานของอ่าข่าที่เล่าสู่รุ่นหลังมา กล่าวว่า กาลครั้งหนึ่งอ่าข่าได้เสียชีวิตไปมาก เนื่องจากอยู่ใกล้แม่น้ำ ซึ่งอ่าข่าเรียกโรคนี้ว่า มี้หิ โรคนี้อาจตรงกับโรคอหิวาตกโรค หรือไข้มาลาเลียอย่างใดอย่างหนึ่ง จากตำนานและแนวความเชื่อมีผลต่อที่อยู่อาศัย อ่าข่าจึงมักอยู่ดอยสูงๆ อาศัยอยู่เฉพาะในทวีปเอเชีย ประกอบด้วยประเทศต่างๆ ดังนี้ ประเทศไทย พม่า ลาว เวียดนาม และประเทศจีน ตามตำนานเล่าขานกันมาเดิมอ่าข่าอาศัยอยู่จีนเป็นแผ่นดินใหญ่ หรือที่อ่าข่าเรียกว่าดินแดน จ่าแตหมี่ฉ่า จากคำบอกเล่าพบว่าชนเผ่าอ่าข่าได้อพยพสู่ดินแดนต่างๆ เพราะปัญหาการเมืองในประเทศจีน สำหรับการเข้ามาสู่ประเทศไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ . ศ .2435 โดยมีเส้นทาง 2 สาย คือ สายแรกอพยพจากประเทศพม่าสู่ประเทศไทย เข้ามาครั้งแรกในเขตอำเภอแม่จัน หมู่บ้านพญาไพร
( ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง ) โดยการนำของ หู่ลอง จูเปาะ และหู่ซ้อง จูเปาะ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ได้เข้าในเขตดอยตุง เส้นทางที่สอง ได้อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ โดยผ่านรอยตะเข็บของประเทศพม่าและลาว เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ปัจจุบันอ่าข่าได้กระจ่ายอยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือ 5 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ตาก แพร่ และคาดได้มีอ่าข่าบางส่วนได้อพยพไปอยู่จังหวัดน่าน พิษณุโลก และหลายจังหวัดของประเทศไทย เพราะไปใช้แรงงานในจังหวัดดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าอ่าข่าให้ความกระจ่างว่าอ่าข่าประเทศไทยส่วนมากอพยพมาจากเชียงตุงของพม่า เข้ามาและปักหลักแหล่งครั้งแรกที่บ้านดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผู้นำรุ่นแรกที่เข้ามาในประเทศไทยคือนายแสน อุ่นเรือน ส่วนญาติพี่น้องได้ย้ายไปอยู่หมู่บ้านต่างๆ เช่นบ้านแสนใจพัฒนา ผาหมี และแสนเจริญเก่า
5. สิ่งที่โรงเรียนต้องการความช่วยเหลือ
โรงเรียนมีความสัมพันธ์อันดีระหว่าง บ้าน โบสถ์ และโรงเรียน มีการประสานร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยดีเสมอ สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเป็นชนบทที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเขาได้เป็นอย่างดี ไม่มีปัญหาในเรื่อง ยาเสพติด อบายมุขต่าง ๆ เพราะอยู่ห่างไกลจากชุมชนเมือง นักเรียนได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว และชุมชน เป็นอย่างดี
โรงเรียนได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกน้อยเพราะอยู่ห่างไกล และตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ประชาชนมีฐานะยากจน การขยายเขตของการไฟฟ้า และการสร้างถนนมีขั้นตอนยุ่งยาก ปัจจุบันไม่มีไฟฟ้าใช้ (มีการใช้แผงโซล่าเซลล์ช่วยให้แสงสว่างเวลากลางคืนได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า) ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ด้านสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ การคมนาคมไม่สะดวก
การเดินทาง ต้องเดินทางไปอำเภอสอง จังหวัดแพร่ ตามถนนลาดยางสาย 1154 แล้วเลี้ยวขวาไป อ.เชียงม่วน จ. พะเยา ไปตามทางสาย 1120 ทางลาดยาง ถึงตำบลสะเอียบ(เขตที่จะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น) ไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 39 แล้วเลี้ยวแยกไปทางซ้ายเข้าถนนลำลองดินผสมลูกรัง ต้องข้ามแม่น้ำยม ไม่มีสะพานข้าม ฤดูฝนตั้งแต่เดือน พฤษภาคม-พฤศจิกายน ต้องข้ามแม่น้ำยม โดยเรือรับจ้าง (เส้นทางช่วงนี้ลำบากมาก) ต้องอาศัยพาหนะรถจักรยานยนต์ ถ้าฝนตกความลื่นในการเดินทางเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก ต้องเดินเท้าไปอีก 13 กิโลเมตร ฤดูแล้งชาวบ้านช่วยกันสร้างสะพานไม้ชั่วคราวข้ามแม่น้ำยม รวมระยะทางจากที่ว่าการอำเภอสองถึงโรงเรียนบ้านแม่พร้าว 52 กิโลเมตร
โรงเรียนไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้การพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน พัฒนาไปค่อนข้างช้า และยังขาดงบประมาณสนับสนุนอีกเป็นจำนวนมากสิ่งที่โรงเรียนต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือ
1. เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) พร้อมอุปกรณ์
2. วัสดุการก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น ปูนซิเมนต์ ทราย กระเบื้องมุงหลังคา (เพื่อเทพื้นขัดมันอาคารเรียน และซ่อม
หลังคา)
3. อุปกรณ์การกีฬา
4. เครื่องกันหนาว
5. แบบเรียน (เปิดภาคเรียนแล้วแต่ยังขาดอีกมาก) ทุกวิชาใช้ของกระทรวงศึกษาธิการ
6. เวชภัณฑ์
7. รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบ เสื้อกันฝนสำหรับนักเรียน
8. วัสดุการศึกษาอื่นๆ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) พร้อมอุปกรณ์ ที่โรงเรียนได้รับจากทางชมรมสวัสดีนั้น ที่ผ่านมาได้ใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด แต่ขณะนี้เริ่มชำรุดแล้ว และกระแสไฟฟ้าใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ครั้งละเพียงเครื่องเดียว ทางโรงเรียนอยากขอความอนุเคราะห์ช่วยจัดหาเครื่องดีเซลที่มีแรงม้าประมาณ 9 แรงม้าขึ้นไป จะเป็นของเก่าก็ได้ เพื่อใช้ปั่นไดนาโมที่มีอยู่แล้ว
โทรศัพท์ที่ติดต่อผ่านได้ 081-9987771 (ของ ผอ. ถ้าอยู่ที่โรงเรียนไม่มีสัญญาณ) , 086-1923927 (ภรรยาของผอ.)
สำหรับเบอร์ของโรงเรียน 054-550030 จะใช้ติดต่อได้เฉพาะเวลาที่ปั่นไฟใช้เท่านั้น
รายละเอียดอื่น ทางโรงเรียนจะประสานมาอีกครับ
ขอบคุณครับ