ได้รถปี 2000 มาจากอุบล ตอนนี้นอนรอเครื่องอยู่ที่อู่ รอลงเครื่อง 4g63t ของ mitsubishi airtrek ครับ

คำตอบที่ 35
นี่คือหน้าตาห้องเครื่องที่มีหัวใจใหม่เข้าไปประจำการแล้วครับ ตอนแรกคิดว่าห้องเครื่องน่าจะหลวมๆ แต่ที่ไหนได้ เครื่องแถวเรียง 4 สูบ 2000 ซีซี ตัวนี้ใหญ่กว่าที่คิด ลงไปในห้องเครื่องได้พอดีๆ ไม่แน่นไม่หลวม ตอนนี้ต้องตัดสินใจเรื่องอินเตอร์คูลเลอร์ว่าจะเอาไว้ด้านบนหรือไว้ด้านหน้าดี เพราะจากโครงสร้างรถเดิมแทบหาที่ให้ท่ออินเตอร์ฯ เดินมาหาตัวอินเตอร์ฯ ที่ด้านหน้าไม่ได้ ถ้าจะไว้หน้าจริงก็ต้องเปลี่ยนหม้อน้ำโดยเอาหม้อน้ำของมิตซูสำหรับเครื่อง 4g63t ลงแทนซึ่งมีขนาดสั้นกว่าของเดิมติดรถ ก็จะเหลือที่ด้านซ้ายและขวาให้ท่ออินเตอร์ฯ ผ่านไปได้ โดยต้องสร้างจุดยึดหม้อน้ำใหม่ หรือหากเอาอินเตอร์ฯ ไว้ด้านบน ก็ต้องหาฝากระโปรงที่มีสคู๊ป (ของตัวดีเซล) มาใส่ หรือหากหาไม่ได้ก็ต้องเอากระโปรงเดิมไปเจาะสคู๊ปเอา

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi พุธ, 25/11/2558 เวลา : 09:14 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53505

คำตอบที่ 38
นี่ครับสำหรับหน้าตาเจ้าเครื่องดีเซลคอมมอนเรลจากเกาหลี เห็นพี่เขาว่ากินน้ำมัน 10-11 โล ลิตรนะครับ ประหยัดทีเดียว เลยถามพี่เขาว่าถ้ามีคนสนใจทำแบบนี้บ้างมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พี่เขาว่าค่าเครื่อง ค่าฝากระโปรงที่มีสคูป ค่าแรงลงเครื่อง ค่าจิปาถะ สรุปว่าทำเสร็จพร้อมขับกลับบ้าน ให้กำเงินมา 125,000 บาท ลองคำนวณดูเองแล้วกันครับว่าถ้าลงเครื่อง mz ที่เราคุ้นเคยบวกค่าติดตั้งแก๊ส แล้วถูกหรือแพงกว่าอย่างไรครับ

แก้ไขเมื่อ : 11/12/2558 2:40:16

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 11/12/2558 เวลา : 02:33 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53569

คำตอบที่ 39
นี่ครับเพลทบ่งบอกว่าเป็นเครื่องดีเซลคอมมอนเรล 145 แรงม้า ซึ่งแรงม้าที่ได้ก็พอๆกับเครื่องเบนซิลเรา แต่แรงบิดที่ได้นั้นมีถึง 324 นิวตันเมตร มากกว่าเครื่องเบนซินอยู่เป็นร้อยเลยครับ ผลที่ได้คือมันสามารถลากน้ำหนักเจ้าอ้วน 1800 กิโลวิ่งได้ 0-100 ใน 14.4 วินาที ซึ่งพอๆ กันกับเครื่องเบนซิล แต่ท๊อปสปีดที่ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจะน้อยกว่าตัวเบนซิลหน่อย แต่อัตราสิ้นเปลืองที่ว่า 11-12 โลลิตรดีเซล นี่ดูสวยงามกว่า 6-7 โลลิตรเบนซิลมากทีเดียวเชียว คิดเป็นต้นทุนบาทต่อกิโลเมตรแล้วเผลอ พอๆ กับรถเบนซิลแต่วิ่งด้วยแก๊สเลยนะครับ

แก้ไขเมื่อ : 11/12/2558 2:39:28

แก้ไขเมื่อ : 11/12/2558 3:18:45

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 11/12/2558 เวลา : 02:35 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53570

คำตอบที่ 40
สำหรับฝากระโปรงนั้น พี่เขาคิดค่าเสียหายมา 10,000 บาทถ้วน ผมเลยเปลี่ยนโปรเจกต์ไปเอาฝากระโปรงเก่ามาเจาะแล้วใส่สคูปแทน เลยวิ่งไปศูนย์โตต้าแถวบ้านเบิกสคูปวีโก้แชมป์มา 2000 กว่าบาทกับยางที่ประกบกับอินเตอร์เพื่อบังคับอากาศและน้ำไม่ให้ซุกซนไปทั่วอีก 800 กว่าบาท รวมเบ็ดเสร็จจ่ายไป 3098 บาท แต่เอามาวัดกับขนาดอินเตอร์แล้วอินเตอร์ผมเล็กกว่ายางประกบมาก ช่างเลยบอกว่าคงไม่ได้ใช้ยางตัวนี้ แต่เดี๋ยวจะทำถาดรองน้ำขึ้นมารองไม่ให้น้องน้ำไปวิ่งเล่นบนฝาครอบวาวล์แทน ถ้าท่านใดสนใจยางตัวนี้ผมขายต่อเอาทุนคืน 700 ถ้วนนะครับ ถูกกว่าเบิกศูนย์แน่นอน โทร.มาได้ที่ 0867787050

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 11/12/2558 เวลา : 02:52 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53571

คำตอบที่ 41
ตอนนี้งานในห้องเครื่องสำเร็จไปแล้วกว่า 90% ที่เหลือคือวางแบตเตอรี่ ซึ่งต้องย้ายจากตำแหน่งเดิมของเกียคาร์นิวัลไปไว้ในตำแหน่งใหม่ของมิตซูบิชิแอร์เทคได้อย่างพอดิบพอดี (ตำแหน่งใหม่จะอยู่ที่ทางด้านซ้ายของเครื่อง) สำหรับกรองอากาศต้องดัดแปลงเล็กน้อย โดยต้องใช้กรองเปลือยหัวเห็ด แล้วกั้นทำห้องให้แทนโดยตำแหน่งจะอยู่หลังไฟหน้าด้านซ้าย ซึ่งตรงตำแหน่งนั้นตัวรถเดิมมีช่องระบายอากาศเข้ามาพอดีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว จึงสอบถามช่างว่าจากที่งานได้คืบหน้ามาขนาดนี้สรุปได้ว่าเราเลือกเครื่องตัวนี้มาลงนั้นถือว่าเป็นเครื่องที่เหมาะสมกับรถหรือไม่ ช่างสรุปว่าถือว่าเครื่องตัวนี้กับห้องเครื่องของเกียร์คาร์นิวัลนั้นเหมือนเกิดมาเพื่อสำหรับเครื่องตัวนี้เลยทีเดียว เพราะไม่ต้องทำลายตัวรถโดยการตัดเฉือนอะไรทิ้งเลย (มีเฉือนนิดหนึ่งตรงตำแหน่งคอมฯแอร์คิดเป็น 3-5% ของห้องเครื่อง)ทำขายึดยางแทนเครื่องใหม่สองจุดก็จบนอกนั้นความเข้ากันได้ ไม่ว่าตำแหน่งของท่อทางน้ำยาต่างๆ ก็ลงตัวเหมาะเจาะ ของเดิมอยู่ในตำแหน่งที่ต่อเข้ากับเครื่องใหม่ได้พอดีไปหมด อาจเป็นเพราะฮุนไดเกียนั้นในช่วงยุคแรกเคยหยิบยืมเทคโนโลยีและศึกษาต่อยอดมาจากมิตซูบิชิ ทำให้เครื่องยนต์กลไก มีรูปร่างหน้าตาและเทคโนโลยีกระเดียดไปทางมิตซูบิชิซึ่งเป็นเหมือนครู หรือพี่เลี้ยง ช่างบอกว่ายิ่งดูเครื่องตัวนี้ในบอดีเกียคาร์นิวัล เขายิ่งรู้สึกรักและชอบ เพราะพอลงไปแล้วดูเหมือนมันเป็นเครื่องเดิมของรถรุ่นนี้ ดูลงตัวเหมือนไม่เป็นการแปลงเครื่องเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi อาทิตย์, 13/12/2558 เวลา : 11:48 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53575

คำตอบที่ 42
หลังจากจัดการเรื่องเครื่องแล้วก็มาภายในที่เกี่ยวข้องกันบ้าง ตอนนี้ก็ต้องรื้อคอนโซลเกียร์ออกมาเพื่อจะเอาด้ามเกียร์ใหม่ใส่เข้าไป มีโจทย์ว่าจะเอาด้ามเกียร์ใหม่ซึ่งสามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงแบบแมนนวลได้ใส่ลงไป หรือจะเอาด้ามเกียร์เดิมของคาร์นิวับไว้ แล้วไปเอาพวงมาลัยของมิตซูบิชิแอร์เทคซึ่งมีปุ่มบวกลบมาแล้วเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแทนที่ด้ามเกียร์ดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi อาทิตย์, 13/12/2558 เวลา : 11:54 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53576

คำตอบที่ 43
หลังจากนั่งประชุมกัน แล้วเอาแผนผังระบบไฟและเซนเซอร์ต่างๆ มากางดูกันก็ได้ข้อสรุปกันตอน 5 ทุ่มว่า เอาหัวเกียร์ใหม่ใส่ไปดีกว่าเอาพวงมาลัยใหม่ใส่ไป เพราะพวกมาลัยจะมีระบบไฟฟ้าเกี่ยวข้องเยอะกว่าทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียง ถุงลมนิรภัยซึ่งดูแล้วเข้ากับกับคอพวงมาลัยเดิมไม่ได้ แถมต้องมีการตัดแปลงและหาตำแหน่งให้กล่องควบคุมเกียร์ซึ่งต้องรับสัญญาณจากปุ่มบนพวงมาลัยมาอีก ซึ่งหลังจากลงเสร็จแน่นอนต้องมีช่องว่างที่เกิดจากรูปร่างของคันเกียร์ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งต้องพึ่งร้านเครื่องเสียงหล่อเรซินทำเฮ้าส์ซิ่งให้คันเกียร์ใหม่ให้ดูดีงดงามไม่เห็นช่องโหว่แบบตอนนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi อาทิตย์, 13/12/2558 เวลา : 12:06 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53577

คำตอบที่ 46
เรื่องการเชื่อมต่อเพลาขับนั้นเป็นการเชื่อมเอาหัวซึ่งต้องเป็นของมิตซูบิชิแอร์เทคกับหัวนอกซึ่งต้องเป็นของเกียคาร์นิวัลเข้าด้วยกัน ที่นี่จะใช้วิธีการตัดต่อแบบที่ 1 โดยเวลาต่อเพลานั้นจะทำการกลึงปลายเพลาที่จะต่อเข้าด้วยกันเป็นหัวแหลมเหมือนดินสอ จากนั้นนำมาเชื่อมติดกันและใช้วิธีเชื่อมเหล็กพอกเข้าไปเรื่อยๆ จนเนื้อเหล็กเต็มกลายเป็นทราบกระบอกแล้วกลึงให้เรียบ ที่นี่จะไม่ใช้วิธีตัดตรงแล้วนำมาชนกันจากนั้นเชื่อม เพราะการเชื่อมแบบที่ 2 นี้ จะเชื่อมได้เพียงผิวนอกของเพลาทำให้มีความแข็งแรงน้อยกว่าแบบที่ 1

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi พุธ, 16/12/2558 เวลา : 09:28 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53589

คำตอบที่ 47
วันนี้ไปหาซื้อกล่องไฟ led ตัวเลขเพื่อนำมาทำไฟบอกตำแหน่งเกียร์ เพราะเกียร์แอร์เทรคนี้เป็นแบบ 5 สปีด แบบกึ่งแมนนวล คือมีคันโยกบวกลบเกียร์เองได้ ช่างแนะนำให้ไปจ้างช่างอีเลคโทรนิคส์ที่บ้านหม้อต่อวงจรดูไม่น่าจะแพง เพราะหากไปซื้อของ gear position monitor ของ pivot อย่างถูกที่เจอก็มี 2500 บาทแล้ว ปรากฏว่าแต่ละร้านที่บ้านหม้อคิดราคามาผมแทบเป็นลม ที่ถูกสุดเจอเขาเรียกราคามา 2500 บาท เขาให้เหตุผลว่าเพราะเป็นงานต้นแบบ เขาต้องคิดค้นวงจรขึ้นมาใหม่ คือวงจรที่ผมต้องการแค่ต่อกล่องไฟให้โชว์เลข 1 2 3 4 5 ได้เท่านั้นเอง เพราะสัญญาณเกียร์นั้นตัวกล่องฯ(คอมพิวเตอร์)เกียร์ นั้นมันมีสายไฟ 5 เส้นส่งสัญญาณออกมาอยู่แล้วเพราะเป็นเกียร์แบบบวกลบ ไม่ใช่เกียร์ออโต้แบบธรรมดาไม่มีบวกลบ ถ้าเป็นอย่างนั้นคิดแพงก็พอเข้าใจเพราะต้องทำตัวจับสัญญาณแล้วแปลงสัญญาณเกียร์ออกมาเป็นสัญญาณไฟอีกที แต่อันนี้เบสิกมากๆ (แต่ผมทำเองไม่เป็น) สุดท้ายกลับบ้านมือเปล่า แต่จำได้ว่าในเวปช้อปปิ้งออนไลน์จีนมีขายอยู่ 2-3 ร้อยบาทเอง ก็เลยเสริชหาดู จัดการสั่งซื้อมา 2 อัน แล้วให้เพื่อนที่จีนส่งไปรษณีย์มาให้ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าวงจรไฟฟ้าแบบนี้หากไม่มีความรู้ทำเอง คิดจะจ้างเขาทำให้คิดให้ดี ไม่มีราคาสมเหตุสมผลแน่นอน (ราคาของที่เอามาทำวงจรที่ผมต้องการลงทุนไม่ถึง 100 บาท)

อู่ที่ทำอยู่แถวไหนครับ อยากต่อตัวบอกตำแหน่งเกียร์
จาก : phornphob(phornphob) 31/8/2560 15:17:06 [171.6.95.173]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi พุธ, 16/12/2558 เวลา : 09:38 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53590

คำตอบที่ 50
คราวนี้ถึงงานช่างไฟแล้วครับ กาง wiring diagram ของรถ 2 รุ่น นำมารวมร่างให้กลายเป็นร่างเดียวครับ คนไม่มีความรู้อย่างผมเห็นสายไฟที่แกะออกมาก็ตาลายแล้วครับ ต้องยอมรับว่าช่างเขาเก่งจริงๆ ช่างบอกตอนนี้ติดเครื่องได้แล้ว สำหรับ workshop manual ของเกียคาร์นิวัลนั้นได้มาฟรีเป็นภาษาเยอรมัน ส่วนของมิตซูแอร์เทรคนั้นโหลดมา 400 บาท แต่ดันได้มาเป็นรุ่นใหม่กว่าที่เป็นคันเร่งไฟฟ้า ระบบแอร์ต่างกันเลยต้องหาใหม่ ปัญหาคือไม่มี preview ให้ดูสักหน่อยก่อนด้วยว่า ตรงรุ่นที่เราต้องการไหม เพราะในรถแต่ละรุ่นนั้นมีรุ่นย่อยหลายรุ่นเหลือเกิน ปวดตับเลยคราวนี้
วันนี้แจ้งช่างว่าจะหายไปเที่ยวคริสมาสที่สังขระบุรีสัก 4 วัน กลับมาวันที่ 30 จะมาเยี่ยมใหม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 25/12/2558 เวลา : 23:22 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53609

คำตอบที่ 51
ได้ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ 7 segment มาเรียบร้อยแล้วจากประเทศจีนในราคาแค่ 300 บาท (ไม้ต้องง้อช่างไทย คิดแพงเกินไป) ได้มาช่างก็เอามาลองไฟติดทุกตำแหน่ง N R 1 2 3 4 5 สั่งซื้อมาให้ช่างเอาไปติดรถที่ลงเครื่องเจด้วยอีกอันนึงครับ แต่ต้องมีการดัดแปลง ทำรีเลย์เพิ่มนิดหน่อยเพราะที่จีน ไฟบอกตำแหน่งมาเป็นไฟกราวน์(ไฟลบ) แต่ไฟที่สมองเกียร์ส่งมา 5 เส้นเป็น ไฟบวก ช่างบอกไม่มีปัญหาอันนี้จัดการได้ไม่ยาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 8/1/2559 เวลา : 08:22 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53637

คำตอบที่ 52
หลังจากหยุดปีใหม่ปี สองสัปดาห์ กลับมาก็มีความคืบหน้าไปพอสมควร ตอนนี้ในห้องเครื่องจะสังเกตุเห็นว่าไม่มีสายไฟถูกแกะออกมาเยอะแยะวุ่นวายหลากสีสันกันแล้ว สายไฟของมิตซูบิชิกับเกียได้ถูกรวมร่างเข้าเป็นหนึ่งเดียวเรียบร้อย ตอนนี้รถสามารถสตาร์ทติดได้ เข็มความเร็ว ความร้อน ฯลฯ ขึ้นปกติดี ยกเว้นวัดรอบที่ยังต่อไม่เสร็จ พัดลมหม้อน้ำหมุนแล้วที่สปีดไฮ เหลือสปีดโลว์ยังต้องต่อสัญญาณไฟเข้าไป กับระบบแอร์ที่ยังไล่กันอยู่ น้ำยาแอร์เติมแล้ว แต่สัญญาณไฟยังไม่สั่งแอร์ทำงาน ต้องไล่สายกันอีกรอบ (จากปัญหาก่อนหน้านี้ที่หา wiring diagram ของระบบแอร์ ไม่ได้ ไฟล์ที่ซื้อมาเป็นมิตซูฯแอร์เทคคนละรุ่นกับเครื่องที่ได้มา diagram ของระบบแอร์กับเกียร์ต่างกัน) ตอนนี้เกียร์เข้าได้ทุกเกียร์แล้ว แต่ทำรถเสร็จเมื่อไหร่ต้องไปร้านท่อไอเสียติดตั้งข้ออ่อน เพราะตอนนี้เวลาใส่เกียร์ถอย ตัวเครื่องมีการโยกตัวแต่เพราะท่อไอเสียไม่มีข้ออ่อน ท่อไอเสียเลยให้ตัวไม่ได้ รถจึงสั่น แต่เกียร์เดินหน้านิ่งสนิทดี ถ้าไล่สายไฟเรื่องแอร์เสร็จก็เอาออกไปวิ่งได้แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi ศุกร์, 8/1/2559 เวลา : 08:33 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53638

คำตอบที่ 54
ติดตั้งระบบเติมน้ำมัน e85 เรียบร้อยแล้ว งานในห้องเครื่องที่เหลือคือ ทำกล่องสำหรับกรองอากาศ เจาะฝากระโปรงใส่สคูปดักลมมาเป่าอินเตอร์คูลเลอร์ และเก็บสายไฟสำหรับไฮสปีดพัดลมเครื่องครับ ตอนนี้พบปัญหาใหม่คือแร็คพวงมาลัยมีน้ำมันเยิ้มออกมา คงรั่ว ต้องหาอะไหล่มาเปลี่ยนโทรถามอู่ช่างยุทธแจ้งว่าแร็คใหม่ราคม 37500 เป็นลมแป๊ป เลยลองหาวิธีหาอะไหล่ถูกกว่านี้ เลยอีเมล์ไปถามที่มาเลเซียของ naza ria ที่โน่นโดนไป 4750 RM (ตอนนี้ก็คูณ 9 บาทเข้าไป) เป็นลมรอบสอง เลยไปลองหาที่จีนดู (ตอนแรกไม่ดูจากจีนทีแรกเพราะเมืองจีนรถเป็นพวงมาลัยซ้าย) ขนาดอะไหล่สั่งนำเข้าจากเกาหลีของเกียแท้ราคาแค่ 1850 หยวน ก็ประมาณ 11000 บาทเอง ถ้าเป็นของเทียบ ราคามีตั้งแต่ 600-1200 หยวน แต่มีแต่พวงมาลัยซ้าย เศร้าแป๊ป แต่ยังไม่ท้อถอย เลยวีแชทคุยกับร้านอะไหล่หลายๆ ร้านให้เช็คหน่อยว่า โรงงานมีผลิตสำหรับรถพวงมาลัยขวาบ้างไหม ตอนนี้มี 2 เจ้าตอบมาว่ามีของพวงมาลัยขวา เลิฟเลย เดี๋ยวเดือนหน้าไปจีนจะไปหิ้วกลับมาใส่ราคาแค่ 800 หยวน (4500 บาท) เอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi จันทร์, 15/2/2559 เวลา : 23:22 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53724

คำตอบที่ 55
รายงานผลหลังจากตรุษจีนช่างได้นำรถไปทดลองวิ่งทางไกลให้เพื่อความชัวร์ ไปสุพรรณบุรี กับอยุธยา เติมน้ำมันให้ช่างไป 1200 บาท เป็น อี85 นั่งกันผู้ใหญ่ 6 คน ช่างว่ามีวิ่งอัดบ้างแก้ง่วง 100-140 กับระยะทาง 422 กิโล น้ำมันจากเต็มถังยังมีเหลือ ขีดนิดๆ คาดว่าน่าจะวิ่งได้สัก 600 กิโลเมตร สำหรับถังนี้ เทียบกับตอนเอารถมาที่เครื่องมีปัญหาความร้อน ตอนนี้วิ่งทีแทบเป็นลม 4-5 กิโลลิตร สำหรับเครื่องแอร์เทคนี้ได้ตัวเลขคร่าวๆ มา 9 กิโลลิตรสำหรับ e85 ถือว่าประหยัดทีเดียวเชียวกับการแบกคน 6 คนวิ่งต่างจังหวัด จึงคิดว่าหลักการที่คิดไว้ไม่น่าพลาดที่เลือกเครื่องนี้เพราะได้แรงม้ากับแรงบิดมาลากน้ำหนักตัว (อัตราเร่งดีเหมือนรถเก๋ง ไม่อืดเร่งแซงได้ขาดไม่ต้องลุ้น) และประหยัดน้ำมัน (9 โลลิตรน้ำมัน e85) ด้วยเกียร์ 5 สปีด

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi จันทร์, 15/2/2559 เวลา : 23:31 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53725

คำตอบที่ 56
สำหรับภายในก็เหลือติดไฟบอกตำแหน่งเกียร์ กับทำหนังหุ้มก้านเกียร์ (แอบหลอกว่าเป็นเกียร์ธรรมดา...อิอิ) และติดตั้งโต๊ะพับที่ไปสอยมาจากจีน เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว เรือนไมล์ใช้ของเดิมติดรถมา ต่อสัญญาณจากกล่องเครื่องมิตซู (มิตซูแอร์เทครุ่นนี้กล่องเครื่องและกล่องเกียร์ถูกรวมเข้าเป็นกล่องเดียวกัน ไม่ได้แยกเหมือนรถรุ่นอื่น) เข้ากับระบบไปของรถเกียคาร์นิวัล ไมล์เพี้ยนไป 10% คือวิ่งไป 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนหน้าปัด ที่ GPS บอกว่าความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะรอให้ยางชุดที่ติดมาพร้อมล้อแม็กชุดนี้ดอกหมดเสียก่อนค่อยเปลี่ยนยางที่แก้มสูงกว่านี้ เพราะตอนนี้ยางเป็น 215 / 45 r17 เส้นรอบวงล้อเล็กว่าล้อเดิมโรงงาน 2.6% คาดว่าเปลี่ยนยางใหม่เป็นสัก 225/55 r17 ก็จะใหญ่กว่าล้อโรงงานนิดหน่อย บวกกับชดเชยที่ขนาดเฟืองท้ายของเกียลูกนี้ที่ต่างจากเกียเดิมของรถไม่มาก ไมล์ก็น่าจะกลับมาได้ค่าใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi จันทร์, 15/2/2559 เวลา : 23:40 IP :

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53726

คำตอบที่ 58
อัพเดทอัตราสิ้นเปลืองนิดหน่อยครับ อาทิตย์-จันทร์ (มาฆะบูชา) ได้โอกาสเลยไปเอารถจากอู่มาใส่ข้ออ่อนท่อไอเสีย และลองขับไปเที่ยวระยองสักหน่อย (รถยังไม่เสร็จดี ขาดติดไฟบอกตำแหน่งเกียร์ เจาะฝาสคูป ติดตั้งโต๊ะพับ) น้ำมันอี85 ถังเก่าเกจ์น้ำมันเพื้ยนนิดหน่อยทำให้ประมาณอัตราสิ้นเปลืองผิดไป ถังที่แล้ววิ่งได้ 460 โล กับน้ำมัน 70 ลิตร ก็ได้ 6.2 โล/ลิตร มาถังใหม่วิ่งในเมืองไปครึ่งถัง วิ่งไประยอง ไปหมดที่ระยอง กับระยะทาง 500 โล ได้อัตราสิ้นเปลืองมา 7 โล/ลิตร ขากลับเติม e20 เพราะที่ระยองไม่มี e85 ขาย (ได้ทดลองความแตกต่างด้วย) พบว่าอัตราเร่งดีกว่า e85 โบไม่บูทบ่อยเหมือนตอนวิ่งด้วย e85 จับอัตราสิ้นเปลืองได้มา 10.2 โล/ลิตรครับ กลับมาส่งรถเข้าอู่อีกรอบเพื่อเก็บงานที่เหลือทั้งหมด ส่วนตัวคิดว่า รถที่หนักเกือบ 2 ตัน กับอัตราสิ้นเปลืองเท่านี้ถือว่าประหยัดมากครับ ไว้มีโอกาสจะลองน้ำมัน โซฮอล 95(e10) กับ เบนซิล95 ดูว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเท่าไหร่

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi 124.120.82.235 อังคาร, 23/2/2559 เวลา : 23:28 IP : 124.120.82.235

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53748

คำตอบที่ 59
สำหรับการขับขี่ วิ่ง 100-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ออกตัวแบบเรื่อยๆนิ่มๆ ตามสไตล์รถmpv ไม่ได้จับอัตรา 0-100 กับ 80-120 ใดๆ เพราะมีลูก ภรรยา และพ่อไปด้วยครับ ขับแบบสุภาพๆครับ วิ่งที่ความเร็ว 100 ตาม gps (ประมาณ 110 บนไมล์) ใช้รอบ 2000 รอบ บุคลิกคือต้นถ้าไม่เหยียบแรงๆ ให้โบทำงาน ก็ขึ้นแบบนิ่มๆเรื่อยๆ แต่พอความเร็วเริ่มเกิน 100 สังเกตุเห็นได้ชัดเจนว่ามีอาการปลายไหล คือความเร็วไหลไปเรื่อยๆ จนต้องถอนคันเร่งเพื่อเลี้ยงให้อยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ความเร็วระดับ 120 รอบเครื่องประมาณ 2200-2300 รอบ เติมคันเร่งนิดหน่อยรอบเครื่องกวาดไปที่ 2500 รอบแล้ว เทอร์โบจะเริ่มติดบูสท์ความเร็วก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ใช้เวลาไม่นานก็ไปแตะระดับ 140-150 ได้สบายๆ จนผมต้องถอนคันเร่งเพราะกลัวภรรยาจะตกใจ และยังไม่มั่นใจเพราะยังไม่คุ้นชินกับรถ ทั้งช่วงล่างและระยะเบรค จึงยังไม่กล้าซิ่ง (ไม่เคยขับรถสูงๆ ใหญ่ๆ อย่างนี้มาก่อน เคยขับแต่รถเก๋ง) ไว้คุ้นและรู้ใจรถแล้วจะลองความเร็วสูงสุดพร้อมจับอัตราเร่งมาให้ครับ แต่ตอนที่ถอนคันเร่งนั้นรถยังมีบูสท์ยังมีแรงและความเร็วยังขึ้นต่อไปได้เรื่อยๆ นะครับ การวิ่งในเมือง คล่องแคล่วดี รถเล็กๆ อย่าหวังว่าจะมาแทรกหรือตัดหน้าเมื่อรถติดและต้องออกตัวได้ง่ายๆ เพราะออกตัวดีเหมือนรถเก๋งคันเล็กๆ (ไม่ปรู๊ดปราดเหมือนคันนิวแลนเซอร์ เครื่อง 1800 gdi turbo ของผม แต่ก็ปรู๊ดปราดได้ไวพอๆ กับฮอนด้าซิตี้ 2015) ปัญหาที่พบคือกระจกมองข้างมีจุดบอดเยอะมาก ถ้ามีรถอยู่บริเวณประตูไสลด์จะมองไม่เห็นเลย เกือบเบียดรถข้างๆ หลายครั้งแล้ว คงต้องหากระจกโค้งมาติดเพื่อใช้เช็คว่ามีรถอยู่ข้างๆ ไหม เบาะนั่งเป็นอะไรที่ยังสรุปไม่ได้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะผมเกิดปัญหาปวดหลังจากการนั่งเบาะตัวนี้ ซึ่งอาจจะเกิดจากการปรับเบาะไม่เหมาะสม คิดว่าจะลองปรับเบาะหลายๆ แบบ เพื่อดูว่าจะมีตำแหน่งไหนไหมที่ไม่ทำให้ผมปวดหลัง (ปกติรถที่ผมขับคันอื่นเป็นเบาะ recaro หมด ไม่ค่อยคุ้นกับเบาะนิ่มๆเด้งๆแบบนี้ ชินกับเบาะแน่นๆ เฟิร์มๆ) อีกปัญหาใหญ่คือแอร์เย็นมากๆ คือเปิดแค่แอร์ตอนหน้า แต่หนาวไปถึงเบาะแถวสาม ลูกนอนหนาวขนตั้งเลยครับ แม้จะปรับอุณหภูมิไปที่สีแดงแล้ว ทำเอาผมงง เพราะหากเป็นคันฮอนด้าฟรีด ต้องปรับพัดลมแรงสุดถึงจะเย็นไปถึงเบาะแถวสามทั้งที่รถสั้นกว่าและห้องโดยสารเล็กกว่า ผมไม่เคยเจอรถที่แอร์เย็นได้ขนาดนี้มาก่อนทำเอาภรรยาบ่นเลย เห็นคุยกับลูกว่าวันหลังถ้านั่งรถคันนี้อย่าลืมเอาผ้าห่มติดมาด้วย หลอนจริงๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kenlaoshi 124.120.82.235 อังคาร, 23/2/2559 เวลา : 23:50 IP : 124.120.82.235

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 53749

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1 2 3