คำตอบที่ 1
       : คำประกาศจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ต่อการสูญเสียเขาพระวิหาร ปี พ.ศ.2505





คำต่อคำ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ที่ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้

“พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น

รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา

เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว

ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป

สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม

เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร

พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ

ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง

เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า

พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย

การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย

ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา

ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป

พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี”



พี่น้องชาวไทยทั้งหลายที่ได้อ่านถ้อยคำของจอมพลสฤษดิ์ข้างต้นแล้ว ท่านก็พอจะได้ทราบว่าในอดีตเราได้เคยเสียเขาพระวิหารให้แก่เขมร โดยความไม่เต็มใจ และคัดค้านมาโดยตลอด และวันนี้เรากำลังจะสูญเสียดินแดนที่อยู่โดยรอบเขาพระวิหารทั้งหมดเพิ่มขึ้นไปอีก พี่น้องร่วมชาติทั้งหลาย ด้วยเลือดเนื้อแห่งความเป็นคนไทยของเรา

พวกเรามิเคยใคร่อยากได้ในแผ่นดินของผู้อื่น ดั่งคำปฏิญาณที่พวกเราชาวไทยได้เอ่ยทุกวันเช้าค่ำว่า “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่” ดังนั้นเราจะมิยอมให้ผู้ใดก็ตามมาช่วงชิงพื้นที่ที่บรรพบุรุษของเราได้รักษามาด้วยเลือด และชีวิต แม้จักเป็นพื้นที่แม้พียงสักตารางนิ้วเดียวก็ตาม เพราะพื้นที่เหล่านั้น คือ เลือดเนื้อ และวิญญาณ แห่งบรรพบุรุษไทย ที่จักยกให้ใครไปมิได้ เรามิได้อยากได้ใคร่ดีในพื้นที่ที่จะเป็นมรดกโลก เราเพียงต้องการรักษาเลือด และวิญญาณของบรรพบุรุษของเราเท่านั้น

คำตอบที่ 2
      

คำตอบที่ 3
       เสียดายจัง

คำตอบที่ 4
      

คำตอบที่ 5
       คุณคิดว่า นักการเมือง ประเทศไทยควร มีใบ กว หรือไม่

คำตอบที่ 6
       เรามิได้อยากได้ใคร่ดีในพื้นที่ที่จะเป็นมรดกโลก เราเพียงต้องการรักษาเลือด และวิญญาณของบรรพบุรุษของเราเท่านั้น ใช่เลยครับมันสุดยอดมาก

คำตอบที่ 7
      

คำตอบที่ 8
       ก็ทะเลาะกันเข้าไป ประเทศอ่อนแอ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กองทัพ ประชาชนเห็นแก่ตัวไม่มีระเบียบ (แค่ชิงไฟแดงกับเบียดคอสะพานแค่นี้ก็พอมองออกแล้ว) ใครจะเกรงใจอีกหน่อยลูกหลานก็ไม่เหลือที่ยืน ลองคิดดูถ้าเราเป็นจีน เป็นอเมริกาตอนนี้ ขอพื้นที่ที่เสียไปคืนดูซิใครจะไม่ให้?

คำตอบที่ 9
       มีแนวโน้มจะเสียไปอีกเรื่อยๆ

หากมองแค่ปัญหาและความสะดวกสบายส่วนตัว

และคงจะเป็นอย่างนี้ต่อไป จนกว่าภัยจะมาถึงตัว

ถึงตอนนั้นแล้ว่จะไปทำอะไรได้ .......... จะโทษอะไร โทษใครอีก..........

คำตอบที่ 10
       สงสารวิญญานปู่ ย่า ตา ยาย ที่ร่วมรบ เพื่อรักษาประเทศให้พวกเราได้เกิด ได้อาศัย แล้วดู ดู๋ ดูมันทำสิ ลงนามไปทำไม ไม่เห็นมีประโยชน์ ประเทศเราได้อะไร

สุดๆ แล้วพี่น้องเอยยยยย

คำตอบที่ 11
       เรามาช่วยกันรักษาประเทศของเรา รักษาสมบัติของชาติที่เหลืออยู่ก่อนลูกหลานจะกล่าวโทษคนรุ่นเราไม่รักษา

คำตอบที่ 12
      

คำตอบที่ 13
      

คำตอบที่ 14
      

คำตอบที่ 15
      

คำตอบที่ 16
      

คำตอบที่ 17
      

คำตอบที่ 18
      

คำตอบที่ 19
      

คำตอบที่ 20
      

คำตอบที่ 21
      

คำตอบที่ 22
      

คำตอบที่ 23
      

คำตอบที่ 24
      

คำตอบที่ 25
      

คำตอบที่ 26
      

คำตอบที่ 27
      

คำตอบที่ 28
      

คำตอบที่ 29
      

คำตอบที่ 30
      

คำตอบที่ 31
      

คำตอบที่ 32
      

คำตอบที่ 33
      

คำตอบที่ 34
      

คำตอบที่ 35
      

คำตอบที่ 36
      

คำตอบที่ 37
      

คำตอบที่ 38
      

คำตอบที่ 39
      

คำตอบที่ 40
      

คำตอบที่ 41
       ไม่รู้หรือว่าเราดินแดนไปเพราะอะไร
ตลอดมาเราเสียดินแดนส่วนน้อย เพราะเรารักษาดินแดนส่วนใหญ่เอาไว้ครับ ในยุคล่าอาณานิคม

ในอดีตเรายิ่งใหญ่ก็จริง แต่ก็แค่ในภูมิภาค
แต่พอเจอประเทศตะวันตกเราก็ต้อง ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตครับ

คำตอบที่ 42
       เห็นด้วยกับ คตท.41ครับเป็นพระปรีชาของบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ขออนุญาตแนะนำหนังสือ"ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ด นี(Bury my heart at wounded knee)"หนังสือเกี่ยวกับการสูญเสียดินแดนหรือจะเรียกว่าสูญสิ้นเผ่าพันธ์ของชนเผ่าอินเดียนแดง อ่านแล้วรันทดใจครับโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นอุธาหรณ์

คำตอบที่ 43
      

คำตอบที่ 44