คำตอบที่ 1
       เติมเต็มถังแล้วรีเซทไมล์ไว้ที่ศูนย์ ขับใช้งานตามปกติระยะทางได้ซัก 300-400 กม.แล้วก็เติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้งเช๊คดูว่าว่าได้กี่ลิตร แล้วเอาจำนวนระยะทางที่วิ่งได้ ตั้ง หารด้วย จำนวนลิตรที่เติมใหม่ จะได้ค่าเฉลี่ย กม./ลิตร รถผม 4D56 โบ TD04Hl เรียงเกียร์ ขับแบบเนียนๆ เปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 1700 ขับเรื่อยๆ 70-80 กม. ใช้รอบไม่เกิน 1800 ได้อยู่ 18 ปลายๆ (ใช้รถวันละ 100 กม.)

โอะโห 18 โลลิตร มากกว่าเราสองเท่าเลย จาก : hi-tech(hi-tech) 15/3/2554 19:01:49 [223.207.89.245] ขับแบบไม่ให้บูชเทอร์โบขึ้นครับพี่ ค่อยๆไต่ระดับความเร็วขึ้นไป จาก : หนุ่ย ชม.(หนุ่ย ชม.) 16/3/2554 15:30:30 [110.164.249.76]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       -ผมใช้วิธีนี้ครับ ใช้รถจนน้ำมันเกือบหมดถังเกจวัดน้ำมันลงต่ำสุด เติมน้ำมันให้เต็มถังจดบันทึก จำนวนลิตรจากหัวจ่ายไว้ กดรีเซ็ต เรือนไมล์เป็น 0 ใช้งานรถตามปกติจนน้ำมันเกือบหมดถังเกจวัดน้ำมันถึงจุดเดิมต่ำสุด อัตราสิ้นเปลือง = Kmที่วิ่งได้/จำนวนน้ำมันเป็นลิตร
รถผม strada 2500 4d56 ธรรมดา ปี96 ไมล์ปัจจุบัน 130000 Km ปกติวิ่ง 80-90 Km/hr บรรทุกน้ำหนักจุกจิกประมาณ 60 Kg ตลอด อัตราสิ้นเปลือง 13.9 Km/l ครับ
ปล. ผมมีถังน้ำมันสำรอง 20 ลิตรติดรถด้วยน่ะครับ หมดกลางทางยังไงก็ไปถึงปัมหน้าแน่นอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ง่ายที่สุดและปลอดภัยด้วยคือ เติมเต็มถังแล้วรีเซทไมล์ไว้ที่ศูนย์ ขับใช้งานตามปกติซักระยะอาจ200-300 กม. หรือแล้วแต่สดวกที่จะเติมน้ำมันอีกครั้ง โดยเติมเต็มถังเหมือนเดิมครั้งดูตัวเลขจำนวนลิตรที่เติมเข้าไปจดไว้หรือขอบิลปั๊มไว้ก็ได้ง่ายดี เอาตัวเลขจำนวนกิโลที่ได้จากตั้งไมล์ไว้ตั้งหารจำนวนลิตรที่เติม จะได้ค่าเฉลี่ยจำนวนกิน กม./ลิตร ลองเก็บข้อมูลซัก4-5 ครั้งแล้วหาค่าเฉลี่ยจะได้ที่ใกล้เคียงที่สุดครับ จะไม่เสี่ยงเหมือนวิธีเติมเมื่อน้ำมันใกล้หมด.......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       แบบที่ 1 อย่างง่าย
ค่าที่ได้จากหน้าปัดนี้ จะเริ่มคำนวณตั้งแต่ ที่เคยกดปุ่ม Reset จนกระทั่งปัจจุบัน
ดังนั้น ค่าที่เห็น หมายถึง การขับขี่ทั้งความเร็วต่ำ ความเร็วสูง ถอยรถ จอดติดไฟแดง ฯลฯ รวมๆ กัน ซึ่งค่าที่ได้จะเป็นค่าโดยเฉลี่ย
ซึ่งหากว่า
1) ในช่วงนั้น ขับๆ จอดๆ บ่อย ตัวแปล เวลา และระยะทาง ... ระยะทาง/เวลาที่ใช้ จึงได้ค่า อัตราประหยัดน้ำมันค่อนข้างต่ำ
2) แต่ ถ้าขับทางๆ ยาวๆ และก่อนจะขับ กด Reset
ระยะทาง/เวลาที่ใช้ จึงได้ค่า อัตราประหยัดน้ำมันค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ไม่แน่นอน...
แต่ดีสำหรับผู้ที่อยากรู้ว่า ประหยัดน้ำมันสูงสุดเป็นเท่าใดในเวลาหนึ่งๆ หรือกินน้ำมันสูงสุดเท่าใดในเวลาหนึ่งๆ

แบบที่ 2 มาตรฐาน
1) ให้เติมน้ำมันให้เต็มถัง (เต็มถึงหมายถึง สัญญาณ หัวจ่ายดัง กิ๊ก)
2) Reset รายการบันทึกระยะทาง (ตรงหน้า กิโลเมตรที่ใช้ไป) ให้เป็นศูนย์ หรือ จะบันทึกกิโลเมตรล่าสุดที่ใช้ไปก็ได้ เช่น รถคันนี้ใช้ไปแล้ว 15000 กม. เป็นต้น
3) ขับรถตามปกติ เร็ว ช้า แล้วแต่ความชอบ
4) เติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้ง และดูที่ หัวจ่าย ว่า เติมเข้าไปทั้งหมด กี่ลิตร? <-- A
5) ดูรายการระยะทางที่ใช้ไป หรือ จำนวนกิโลเมตรทั้งหมดที่ใช้ไป ว่าเป็นเท่าใด? <-- B

นำมาเข้าสูตร ดังนี้
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (V) = ระยะทางที่ใช้ไป (B) / น้ำมันที่ใช้ หน่วย ลิตร (A)
ก็จะได้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน (Average Fuel)
ลองนำไปใช้ดูนะครับ
******************************
เป็นเพียงการคิดแบบง่ายๆ แต่การคำนวนมันมีตัวแปรหลายตัวเช่นเวลาการเติมน้ำมัน/ยี้ห้อน้ำมัน/รายละเอียดตัวรถ/สภาพการใช้งาน/ลักษณะการขับขณะทดสอบ เชื่อได้ว่าการreset หน้าปัดไม่ใช้การหาค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมต้องคำนวนตัวแปรด้วยครัยเช่น
ถ้าเราไปเปลี่ยนล้อหรือยางที่มีขนาดเส้นรอบวงต่างไปจากเดิม
แล้วอยากใช้วิธีคำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยอาศัยระยะทางจากมาตรวัดเดิมจะต้องทำอย่างไร

อย่างที่ได้พูดไว้ในข้างต้นว่า ขนาดเส้นรอบวงที่เพี้ยนไปจากของโรงงาน จะทำให้มาตรวัดแสดงระยะทางที่วิ่งได้คลาดเคลื่อนไป วิธีที่จะคำนวณอัตราสิ้นเปลืองของเราถูกต้องก็คือ ต้องปรับแก้ตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้จากหน้าปัดรถที่เพี้ยนอยู่ให้ถูกต้องเสียก่อนดังนี้

ระยะทางที่วิ่งได้จริง = ระยะทางที่วิ่งได้จากหน้าปัดรถ x [เส้นรอบวงในปัจจุบัน / เส้นรอบวงมาตรฐานจากโรงงาน]

นำระยะทางที่ปรับแก้แล้ว ไปแทนในสูตรคำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย

Km/L = [ระยะทางที่วิ่งได้จากหน้าปัดรถ / ปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้] x [เส้นรอบวงในปัจจุบัน / เส้นรอบวงมาตรฐานจากโรงงาน]

เป็นเพียงตัวอย่าง

 แก้ไขเมื่อ : 21/3/2554 5:10:43

Cool! จาก : 01(ongart) 21/3/2554 8:31:30 [180.183.189.201]   แสดงความคิดเห็นย่อย