WeekendHobby.com


ถึงพี่มนุษย์กบครับบบบ

จาก ฅนกันเอง
เสาร์ที่ , 1/11/2551
เวลา : 12:39

อ่าน = 1130
203.156.171.253
       ขอปรึกษาหน่อย ครับ เดือนหน้า ผมจะซื้อ กล้อง Nikon D80 (เก็บ สตางค์มาน๊านนาน)
และก็ ไม่เคยเล่นกล่องแบบ นี้เลย ใช้แต่กล้อง ธรรมดา ครับ เห็นพี่ถ่ายรูสวยมากๆ (ขอชื่นชมเป็นพิเศษ)
ถ้า ผมจะเล่น รุ่น D80 จะค้มมั๊ยครับ หรือว่า มันแพงเกินไป เพราะไม่ใช่มืออาชีพด้วยสิ หรือมี กล้อง ยี้ห้ออื่นๆ ที่พอน่าเล่น และราคา ไม่เกินเจ้า D80 เพื่อเป็นความรู้ ในการตัดสินใจครับ ผมโพสรูปที่ผมถ่ายมาให้ ติด้วยครบ




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       v-v





จาก ฅนกันเอง  203.156.171.253  เสาร์, 1/11/2551 เวลา : 12:46   


คำตอบที่ 2
       OiiiiiiiO





จาก ฅนกันเอง  203.156.171.253  เสาร์, 1/11/2551 เวลา : 12:47   


คำตอบที่ 3
       ถามถูกคนแล้วครับ....
รูปที่ Post มุมกล้องใช้ได้เลยนะครับ



Myte จาก Myte  61.47.4.27  เสาร์, 1/11/2551 เวลา : 21:57   


คำตอบที่ 4
       ตอบผิดคน

แนะนำเป็นตระกูล Cannon น่าจะหาเลนซ์ ง่ายกว่า

400D
500D
40D



ongart จาก 01  124.120.62.164  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 06:36   


คำตอบที่ 5
       ในรูปน่าจะเป็นพระอุปตุต ใช่ไหมครับ



somsaks จาก หนุ่มกระโทก  115.67.251.153  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 08:44   


คำตอบที่ 6
       อภัย พิมพ์ผิด



อุปคุต ครับ



somsaks จาก หนุ่มกระโทก  115.67.251.153  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 08:45   


คำตอบที่ 7
       500 D ....ตัวนี้เหรอ






blue_sushi จาก βlue$ushi™  117.47.23.45  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 10:34   


คำตอบที่ 8
       ขออภัย เกินไป 50
450D ครับ


Canon EOS 400D
Canon EOS 1000D
Canon EOS 450D
Canon EOS 40D
Canon EOS 5D (Body)
Canon EOS 50D
Canon EOS 1D Mark III
Canon EOS 1Ds mark III



ongart จาก 01  124.120.64.156  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 11:33   


คำตอบที่ 9
       มาเล่น Fuji..กลับผมไหมครับพี่ของผม Finefix 6500fd.แต่กำลังจะเปลี่ยนไปเล่น Canon

เห็นด้วยกับพี่ 01 ครับ ของ Canon ผมก็จะเปลี่ยนไปเล่น Canon เหมือนกันกำลังเจรจา ขอซื้อต่อ 30D ของน้าสาวอยู่ครับชอบ....เห็นภาพพี่มนุษย์กบแล้วชอบทุกรูปเลย



เด็กดอย49เด็กดอย49 จาก เด็กดอย  64.254.116.14  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 16:50   


คำตอบที่ 10
       กำลังจะถอย 1000 D

ไปดูอาทิตย์ที่แล้ว 22,900
ตอนนี้ลงมาเหลือ 19,900 แล้ว (บางที่บอก 18,900 ใครมีถูกกว่านี้มั้ยครับ)

กริบอีก สามพันกว่า...แฟลชอีก???เฮ้อๆๆๆ



blue_sushi จาก βlue$ushi™  117.47.23.45  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 17:32   


คำตอบที่ 11
       ใช้ Fuji S100FS ครับพี่βlue$ushi....

เลนส์ตายตัวครับ ขนาด 28-400mm...ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นละออง ปรับฟังชั่นการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เมื่อ เม.ย.ผ่านมาเอาออกมาที่ 24,000. แถมขาตั้ง+กระเป๋า+ฟิลเตอร์กันเลนส์+ชุดอุปกณ์ทำความสะอาด+ เมมโมรี 2GB ของ SANDISC....



จาก เจ้าบลู 589  125.25.152.120  จันทร์, 3/11/2551 เวลา : 18:49   


คำตอบที่ 12
      
ตอบช้าไปนิดนึงนะครับคุณ ฅนกันเอง
......ที่ผมตัดสินใจเลือกซื้อCanon400Dเพราะช่วงนั้นศึกษาและดูข้อมูลเปรียบเทียบกับNikonD80 เหมือนกันนะครับ แต่ราคาแพงจังเลยก็เลยเลือกซื้อCanon400Dและพอได้มาครอบครองก็เริ่มถ่ายภาพวันไหนว่างไม่ได้ต้องออกไปหาสถานที่ถ่ายภาพ(ดีนะครับที่คนข้างๆเค้าก็เห็นชอบด้วยเลยไปกับเราทุกที่)....หลังจากนั้นก็ดูเรื่องเลนส์ขนาดและยี่ห้อต่างๆเราก็สามารถเลือกซื้อได้หลายยี่ห้อหาไม่ยากนักโดยหลักๆแล้วก็จะดูของมือ2ตามบอรด์ต่างๆเช่นhttp://www.thaidphoto.com/forums/index.php(ห้องซื้อขาย)หรือที่เว็บพันทิบฯเป็นต้น....
......หลังจากนั้นก็ศึกษาและหาข้อมูลรวมทั้งเทคนิดการถ่ายภาพต่างๆจากเว็บถ่ายภาพและเริ่มที่จะเข้าสู่สังคมของการถ่ายภาพกับเพื่อนๆห้องหนอน(ห้องกล้องพันทิบ)ออกทริบถ่ายภาพบ้างบางครั้งที่เรามีโอกาศ(เพื่อเพิ่มความรู้และเทคนิดการถ่ายภาพต่างๆจากเพื่อนๆ...ซึ่งในหนังสือไม่มีสอน)
......นี่ก็คือข้อมูลคร่าวๆที่ผมเลือกซื้อCanon400D.....
......ที่นี้ก็อยู่ที่คุณ ฅนกันเองแล้วล่ะครับว่าจะตัดสินใจเลือกใช้กล้องยี่ห้ออะไร
......ท้ายนี้ก็ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพนะครับ
http://manudkob.multiply.com/






kob2516 จาก ม นุ ษ ย์ ก บ  202.149.25.225  อังคาร, 4/11/2551 เวลา : 06:18   


คำตอบที่ 13
      



จาก กอล์ฟ  203.113.0.206  อังคาร, 4/11/2551 เวลา : 07:39   


คำตอบที่ 14
       Blusushi

ตอนนี้ 400D 18500 เอง

http://www.thaisecondhand.com/_board/cm/data/CM6993213.html



ongart จาก 01  202.183.229.100  อังคาร, 4/11/2551 เวลา : 16:52   


คำตอบที่ 15
       อันนี้ 450D 21900 ครบ 100% ใหม่

http://www.thaisecondhand.com/_board/cm/data/CM6448191.html



ongart จาก 01  202.183.229.100  อังคาร, 4/11/2551 เวลา : 17:06   


คำตอบที่ 16
       คุณเจ้าบลู 589 ครับ...รบกวนสอบถามหน่อยนะครับ...พอดีผมก็สนใจ Fuji S100fs อยู่เหมือนกัน....เพราะอาจจะต้องใช้งานในไซส์ก่อสร้างเลยอยากได้แบบที่ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่น....แต่ราคา Fuji S100fs ก็ถือว่าไปถอย Canon 1000D ได้เลย....ที่นี้ติดอยู่คำถามเดียวอ่ะครับ..ช่วงเลนซูมกว้างขนาดนี้..มีปัญหาเรื่องความบิดเบี้ยวของภาพมากไหมอ่ะครับ....หรืออยากรบกวนคุณเจ้าบลู 589 ช่วยลงรูปตัวอย่างจาก Fuji S100fs ให้ดูจะได้ไหมครับ....ขอบคุณครับ



chanasunti จาก พ่อน้องกฤตและน้องปลากริม  125.27.88.133  พุธ, 5/11/2551 เวลา : 08:57   


คำตอบที่ 17
       คุณพ่อน้องกฤตและน้องปลากริม

Fujifilm FinePix S100fs

11 million pixel Super CCD HR VIII
Real Photo Technology
14.3x Fujinon manual zoom lens
Face Detection 2.0
Full movie mode with zoom
Multi-bracketing functions
2.5" tilting LCD monitor


Specification :
http://www.thecameracity.com/product-913.html

ทดลองการใช้งาน
http://www.kunimith.com/index.php?option=com_mamboboard&Itemid=39&func=view&catid=2&id=20#20



เด็กดอย49เด็กดอย49 จาก เด็กดอย  64.254.116.14  พุธ, 5/11/2551 เวลา : 10:34   


คำตอบที่ 18
       yahoo



จาก yahoo  58.8.128.200  พุธ, 5/11/2551 เวลา : 19:25   


คำตอบที่ 19
       เจ้า S100FS เท่าที่ใช้มาผมชอบมากๆ มากกว่า D80 ครับ ความละเอียดรวมทั้งความชัดลึกดีมากเลย ปรับคอนทราสได้ละเอียด.......เรื่องการใช้ช่วงซูมที่สูงภาพไม่เบี้ยวครับ แต่บางครั้งจะมีพร่ามัวนิ๊ดเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับการถือว่าจะทำได้นิ่งขนาดไหน ผมเองบางครั้งก็มีสั่นไหวบ้าง(ท้องหิว) ก็เลยแก้โดยใช้ขาตั้งกรณีใช้ซูมมากๆครับ
คุณภาพที่ได้ สีจะเป็นธรรมชาติมากครับ....ลองดูก่อนน่ะครับ..........





จาก เจ้าบลู 589  125.25.129.7  พฤหัสบดี, 6/11/2551 เวลา : 15:33   


คำตอบที่ 20
       ไม่ทราบว่าเดือน ธันวาจะมีงานขายกล้องที่ไหน ใครรู้บ้าง ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลครับ



จาก ฅนกันเอง  203.170.228.168  พฤหัสบดี, 6/11/2551 เวลา : 18:30   


คำตอบที่ 21
       ขอย้อนกลับไปรูปแรก หน่อยครับ ไม่ทราบ พระพุทธรูปที่ถ่ายมาใช่ พระอุปคุต หรือเปล่าคับ......



จาก อัศวิน..นักรบขี่ม้าชื่อเทวดา  203.155.100.132  ศุกร์, 7/11/2551 เวลา : 07:43   


คำตอบที่ 22
       เท่าที่ดู น่าจะใช่ครับ



ongart จาก 01  124.120.66.198  ศุกร์, 7/11/2551 เวลา : 10:40   


คำตอบที่ 23
       ตำนาน พระอุปคุต



จากการค้นหาข้อมูลของพระอุปคุตนั้น เราทราบเพียงว่า ท่านเกิดหลัง พระพุทธเจ้า เสด็จปรินิพพานแล้ว ประมาณ พ.ศ. 218 ปี แต่ไม่ทราบ ภูมิเดิมของท่านละเอียด ว่าเป็นบุตรของใคร เกิดในวรรณะอะไร และที่ไหน



จากการสันนิษฐานตามตำนาน พระเถระอุปคุต น่าจะเป็นชาวเมืองปาตลีบุตร เมื่อบวชแล้วบำเพ็ญเพียร จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่าท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำ ที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ

สรุปรวมความได้ว่า ท่านเป็นพระเถระสำคัญองค์หนึ่ง ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ผู้นำกองทัพธรรมแผ่กระจายไปทั่วโลก) เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ และฤทธิ์เดชเกรียงไกร สามารถปราบพญามารและกำจัดสิ่งชั่วร้าย ที่จะมาทำลายพิธีกรรมใหญ่ ๆ มาแต่ครั้งโบราณ

เรื่องราวก็มีอยู่ว่า เมื่อประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้อินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ตามตำนานกล่าวว่า ได้ทรงสร้างพระวิหารและพระสถูป มากมายทั่วทั้งชมพูทวีป (เค้าว่ามากถึงแปดหมื่นสี่พันองค์) เป็นผู้รวบรวมและขุดค้นพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อจะนำไปบรรจุในสถูปที่พระองค์ทรงสร้างไว้ทุกแห่ง

เมื่อการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงปรารภ ที่จะจัดให้มีการฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมดนั้น เป็นการมโหฬารยิ่ง ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน และเพื่อให้การฉลองสมโภช เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปราศจากอุปสรรค จึงใคร่จะอาราธนาพระสงฆ์ขีณาสพ ที่ทรงอิทธิฤทธิ์ มาเป็นผู้คุ้มครองงาน ให้ปราศจากการรบกวนจากมารร้ายต่าง ๆ

แต่พระสงฆ์ในนครปาตลีบุตร ไม่มีรูปใดที่จะสามารถ เป็นผู้คุ้มครองงานมหกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ ให้พ้นจากภัยทั้งหลายทั้งปวงได้ (โดยเฉพาะภัยจากพญาวัสสวดีมาร ผู้มีฤทธิ์ยิ่งกว่าภูตผีปีศาจทั้งหลาย) นอกเสียจากพระอุปคุตเถระผู้เดียวเท่านั้น พระสงฆ์ทั้งปวงจึงตั้งตัวแทน ๒ รูป ลงไปอาราธนาพระอุปคุตเถระผู้เรืองฤทธิ์ มาช่วยรักษาความปลอดภัย ในงานสมโภชครั้งนี้ ซึ่งกล่าวกันว่า พระอุปคุตเถระองค์นี้ มีปกติสันโดษอยู่องค์เดียว เข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุตติสุข อยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ภายในปราสาทแก้วที่เนรมิตขึ้น เหนือรัตนะบัลลังก์ จะออกจากสมาบัติ เหาะขึ้นมาบิณฑบาต ในโลกมนุษย์ ในวันพุธเพ็ญกลางเดือนเท่านั้น


และในครั้งนี้เอง พระอุปคุตเถระ ถูกพระภิกษุสองรูป ผู้ได้อภิญญาสมาบัติ ชำแรกมหาสมุทร ลงมาถึงตัวท่านแจ้งว่า ให้ท่านจงเป็นธุระ ป้องกันพญามารอย่าให้รบกวนงานฉลองพระสถูปเจดีย์ ของพระเจ้าอโศกมหาราชได้

เมื่อพระอุปคุตเถระได้รับนิมนต์ ก็เดินทางมานมัสการ และรายงานตัวต่อคณะสงฆ์ในวันรุ่งขึ้น พระเจ้าอโศกมหาราช จึงได้เสด็จเข้ามานมัสการคณะสงฆ์ เพื่อขอทราบเรื่อง ผู้จะที่จะมาทำหน้าที่รักษาการ งานฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ เมื่อพระองค์ทรงทราบ ว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ คือพระอุปคุตเถระ ก็ทรงนึกแคลงพระทัย เนื่องจากพระอุปคุตเถระนั้น มีร่างกายผ่ายผอมดูอ่อนแอ ก็ทรงไม่แน่ใจ เกรงจะทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ทรงตรัสว่ากระไร

ครั้นรุ่งเช้าวันใหม่ ขณะที่พระอุปคุตหาเถระ ออกบิณฑบาตในนครปาตลีบุตรนั้น พระเจ้าอโศกมหาราช ใคร่จะทดสอบฤทธิ์พระเถระ จึงทรงปล่อยช้างซับมัน (ช้างตกมัน) ให้เข้าทำร้ายพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระเห็นดังนั้น จึงสะกดช้าง ที่กำลังวิ่งเข้ามา ให้หยุดอยู่กับที่ ไม่ไหวติงประดุจช้างที่สลักด้วยศิลา พระเจ้าอโศกมหาราช ทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ทรงเลื่อมใส จึงเสด็จไปขอขมาพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระ ก็ให้อภัยทั้งแก่พระเจ้าอโศกมหาราช และพญาคชสาร

เมื่อเห็นว่าพระอุปคุตเถระ มีฤทธิ์เดชมาก พระเจ้าอโศกมหาราช ก็ทรงวางพระทัย ตรัสสั่งให้เตรียมฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมด ด้วยการปลูกปะรำร้านโรง ประดับธงทิว และประทีปโคมไฟ ตลอดระยะทางกึ่งโยชน์ ทำให้ตามแนวฝั่งแม่น้ำคงคา สว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ

บรรลุฤกษ์งามยามดีตามที่กำหนดไว้ บรรดาพระสงฆ์ขีณาสพ และพระสงฆ์ปุถุชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งในนครปาตลีบุตร และต่างแดนจากจตุรทิศ ก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณงาน พร้อมเครื่องสักการบูชา เพื่อร่วมพิธีฉลองสมโภช พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในมหาเจดีย์ และเจดีย์ ทั้งแปดหมื่นสี่พันองค์ ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

และในเวลานี้เอง พญามาร (พญาวัสสวดีเทพบุตรมาร) ก็มุ่งหน้าเข้ามาในงานกับเค้าเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะก่อความวุ่นวาย ต่างๆ นานา ทั้งบันดาลให้เกิดลมพายุ ทั้งแปลงร่างเป็นสัตว์ป่า และสัตว์หิมพานต์ แต่ทุกครั้งก็โดนพระอุปคุตเถระ กำราบได้หมด และสุดท้าย เพื่อให้พญามาร ออกไปจากบริเวณพิธี พระอุปคุตเถระ จึงเนรมิตร่างหมาเน่าขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วดึงประคตจากเอวของท่าน ออกมาผูกร่างหมาเน่านั้น คล้องคอพญามารไว้ แล้วสำทับว่าไม่ว่าใครก็ตาม (นอกจากท่านเอง) จะเอาหมาเน่านี้ออก จากคอพญามารไม่ได้ แล้วขับพญามารออกไป จากบริเวณงานทันที

ด้วยความอับอาย พญามารก็ออกมาจากบริเวณงาน และพยายามแก้ร่างสุนัขเน่า ออกด้วยฤทธานุภาพ แต่ทำอย่างไร ก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะเมื่อเอามือทั้งสอง ต้องสายประคตที่คล้องคอทีไร ต้องมีไฟลุกขึ้นไหม้คอ และมือทันที สุดจะแก้ไขด้วยตนเองได้ ก็ไปหาที่พึ่งอื่น (ที่คิดว่าน่าจะช่วยได้)

แต่ถึงแม้จะไปหาท้าวมหาราชทั้งสี่ พระอินทร์ ท้าวยามา ท้าวสันดุสิต ท้าวนิมิตเทวราช ตลอดจนท้าวสหัสบดีพรม ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ ต่างได้แต่แนะนำว่า ให้พญามารไปขอขมา และขอความเมตตา จากพระเถระผู้นั้นเสียดีกว่า

พญามารเห็นดังนั้น จึงจำใจต้องกลับไปหาพระเถระ อ้อนวอน ให้ช่วยเอาซากหมาเน่าออกจากคอให้ แล้วจะไม่มารบกวน การจัดงานอีก พระอุปคุตเถระก็อนุโลมตาม แต่ยังไม่ไว้ใจพญามารนัก เกรงพญามาร จะกลับมาทำลายพิธีในภายหลัง จึงเดินนำพญามาร ไปยังเขาใหญ่ลูกหนึ่ง แล้วเอาร่างหมาเน่าทิ้งลงเหว และเนรมิตให้สายประคตยาวขึ้น แล้วพันคอพญามาร ไว้กับเขาลูกนั้น พร้อมทั้งแจ้งว่า เมื่อเสร็จพิธีฉลองสมโภช พระมหาเจดีย์สิ้นสุดลงแล้ว จึงจะแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ (7 ปี 7 เดือน 7 วัน)

เวลาผ่านไปตามที่ตกลงกัน การจัดงานสมโภชน์ ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พระอุปคุตเถระ จึงกลับมาหาพญามาร โดยแอบอยู่ห่างๆ เพื่อฟังเสียงพญามารว่า ละพยศร้ายหรือยัง

พญามารเอง เมื่อจากทิพยวิมานอันบรมสุข มารับทุกขเวทนาเช่นนี้ ก็ละพยศร้ายในสันดาน หวนนึกถึงพระพุทธโคดม จึงกล่าวสดุดี ในความเมตตากรุณา ของพระพุทธเจ้า ในเรื่องที่ทรงมีมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ว่า “ทรงบำเพ็ญสิ่งอันเป็นที่สุดหามิได้ เป็นที่พึ่งพำนักแก่สัตว์โลกทั้งมวล ในกาลทุกเมื่อ พระองค์นั้น เป็นผู้ประเสริฐหาผู้เสมอเหมือนมิได้ อนึ่ง ในกาลก่อน ข้าพเจ้าได้ทำร้ายพระองค์ โดยประการต่างๆ แต่พระองค์ ก็ยังทรงมหากรุณาธิคุณ มิได้กระทำการโต้ตอบ แก่ข้าพเจ้าเลย มาบัดนี้ สาวกของพระองค์นามว่าอุปคุต ไม่มีเมตตาแก่ข้าพเจ้าเลย กระทำกับข้าพเจ้า ให้ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส และได้รับความอับอาย เป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าข้ายังมีบุญกุศล ที่ได้สั่งสมไว้แต่กาลก่อน ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน ปรารถนาเป็นพระสัพพัญญูในอนาคต ดังเช่นพระองค์ต่อไป”



กล่าวได้ว่า การตกระกำลำบากในครั้งนี้ ทำให้พญามาร ซึ่งความจริงแล้ว ในอดีตชาติ (ในยุคของพระกัสสปพุทธเจ้า) เคยมีจิตตั้งมั่น ที่จะบำเพ็ญเพียร ให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นกัน แต่ที่ได้กระทำการขัดขวาง พุทธศาสดาของพระพุทธโคดม ก็ด้วยความริษยา พระพุทธโคดม (มีมิจฉาทิฐิ) เนื่องด้วยพระองค์ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนตน ทั้งๆ ที่ตนบำเพ็ญบารมี มามากพอสมควรเหมือนกัน แต่การกระทำในแต่ละครั้ง ก็มิได้ล่วงเกิน ทำบาปหนักแต่ประการใด

เมื่อพระอุปคุตเถระ ได้ยินคำปรารภดังนั้น ก็เห็นว่าพญามารสิ้นพยศแล้ว จึงแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ พร้อมทั้งขอขมาพญามาร และบอกว่า การกระทำครั้งนี้ ก็เพื่อให้พญามาร ระลึกได้ถึงพุทธภูมิ ที่ท่านเคยปรารถนาไว้เท่านั้นเอง มิได้มีเจตนา ที่จะล่วงเกินประการใด ซึ่งพญามารก็เข้าใจด้วยดี

พระอุปคุต เขมร

ต่อจากนั้นพระเถระ ก็ได้ขอให้พญามาร เนรมิตกาย เป็นพระพุทธองค์ เพื่อจะได้เห็น เป็นพุทธานุสติบ้าง ซึ่งพญามารก็รับคำ แต่ขอร้องว่า เมื่อเห็นเขาเนรมิตกาย เป็นพระพุทธองค์แล้ว อย่าหลงกราบไหว้เป็นอันขาด เพราะจะให้เขาบาปหนัก

ครั้นเมื่อพญามารเนรมิตกาย เป็นพระพุทธเจ้า ประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ และฉัพพรรณรังสี อันวิจิตร มีพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เบื้องขวา แวดล้อมด้วย มหาสาวกทั้งหลายเป็นบริวาร เสด็จเยื้องย่าง ด้วยพุทธลีลาอันงดงามยิ่ง พระเถระ และบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เห็นเช่นนั้น ก็ลืมตัวพากันถวายนมัสการ ทำเอาพญามารตกใจ รีบคืนร่างเดิม และท้วงติงว่า ทำให้ตนมีบาปหนัก แต่พระเถระ ก็กล่าวให้พญามารสบายใจว่า ทุกคนกราบไหว้พระพุทธเจ้า และพญามารก็ไม่บาปหรอก จะได้กุศลมากกว่า

พระอุปคุต ลงรักปิดทองเก่า


จากนั้นพญามาร ก็กลับคืนสู่สวรรค์ ชั้นที่ 6 วิมานของตน และนับแต่นั้นมา พญามารได้มีจิตอ่อนน้อมเลื่อมใส ในพระพุทธศาสนา หมดสิ้นน้ำใจริษยา และบำเพ็ญบารมี เพื่อพุทธภูมิต่อไป

หมายเหตุ
เนื้อเรื่องได้กล่าวถึง พระพระกัสสปพุทธเจ้า ดังนั้นเพื่อความเข้าใจ ในการอ่าน ขอเสริมว่าตามตำนาน โลกเรานั้น แบ่งช่วงเวลาเป็นกัลป์ ซึ่งแต่ละช่วง ในแต่ละกัลป์ ก็จะมีพระพุทธเจ้า ที่มาตรัสรู้ โปรดบรรดาสัตว์โลก เป็นคราวไป ดังนั้นพระพุทธเจ้า จึงมีหลายพระองค์ ซึ่งเวลาหนึ่งกัลป์นั้นนานนัก (กัลป์ที่เราอยู่นี้ มีพระพุทธเจ้า มาตรัสรู้แค่ 5 พระองค์ และมีหลายๆ ช่วงในแต่ละกัลป์ ที่ปราศจากพระพุทธศาสนา โดยสิ้นเชิง ดังนั้นถือว่าเราโชคดีมาก ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนาในชาตินี้

ประวัติเพิ่มเติมตามตำนาน พระอุปคุต คัมภีร์อโศกอวทาน

ประวัติเพิ่มเติมตามตำนาน พระอุปคุต คัมภีร์ปฐมสมโพธิ์





ongart จาก 01  124.120.66.198  ศุกร์, 7/11/2551 เวลา : 10:40   


คำตอบที่ 24
       ตอบ ค.ห.21 ถ่ายที่วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี จ.แพร่ ครับ
วัดนี้ ลงในหนังสือ unseen thailand พวกฝรั่งรู้จักกันดีครับเพราะไปมามีแต่ ทัวร์ฝรั่ง และเป็นวัดสมัยใหม่ที่สวยที่สุดในภาคเหนือ



จาก ฅนกันเอง  202.149.24.129  เสาร์, 8/11/2551 เวลา : 19:31   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 25/8/2554 6:33:06

Error processing SSI file