คำตอบที่ 1
       พวกกลัวโลกแตกมาอีกแล้ว

Planet X (Nibiru) เรื่องนี้มันอยู่ใน X-file หรือเรื่องลึกลับทั้งหลายมันมีมานานแล้วและบังเอิญโยงเรื่องกันไปโยงกันมาจนจนกลายเป็นเรื่องมันจะทำให้โลกวิบัติในปี 2012 ใช่ว่ามันไม่เคยมาเยือน มันเคยมาแล้วเมื่อ 3600ปีก่อน เพราะมีในบันทึกของสุเมเรียนถึงดาวดวงนี้สมัยที่มันมาให้เห็น

จะเอาแบบนิยายหรือจะเอาแบบที่มันเป็นศาสตร์ล่ะ ผมเดาว่าถามผมก็คงจะต้องการคำตอบบแบบมีหลักการใช่ไหมครับ


หนังสือดาราศาสตร์จากเมือนอกพวกนี้ผมซื้อแต่ไม่ได้อ่านกะว่าซื้อไว้เตรียมอ่านตอนแก่ตอนที่ไม่ได้ทำงานแล้ว เพราะช่วงหลังผมไม่ค่อยจะได้อ่านพวกดาราศาสตร์มากนักไม่เหมือนสมัยก่อนที่จำได้แม้ค่าความสว่างของดาวต่างๆ

ขอเวลาขุดคลังหนังสืออ่านก่อนนอนคืนหนึ่งก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ต่อจากอนุภาคเล็กๆ ก็มาดวงดาวเลย ตื่นเต้นๆๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ธรรมชาติเบี่ยงเบนชะตามนุษย์ แต่มนุษย์เป็นตัวกำหนดชะตากรรมของตัวเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       จะมีโอกาสเช่นนั้นจริงๆน่ะเหรอ.....งานนนี้นั่งรอชมล่ะครับ...โลกจะรอดพ้นปี 2012 หรือจะถูก หลุมดำที่พวกฝรั่งเศสกะลังทดลองจำลองการกำเนิดจักรวาล เล่นซะก่อน....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       Planet X หรือ Nibiru มันเป็นเรื่องจริงกึ่งนิยายหลอกเด็กกับพวกชอบอ่านเรื่อง X file พวกที่เชื่อว่ามียานต่างดาวตกที่ Area51 อะไรทำนองนั้น เอาเป็นว่าผมจะเล่าให้ฟังทั้งสองเรื่องเลยดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       เอาเรื่องจริงก่อน คือว่ามีนักดาราศาสตร์สมัยก่อนเมื่อร้อยกว่าปี่ก่อนได้สังเกตว่าการโคจรของดาวยูเรนัสมันมีการรบกวนอยู่คือวงโครจรไม่ได้ราบเรียบมีช้ามีเร็วสงสัยว่าจะมีดาวดวงอื่นส่งผลแรงดึงดูดรบกวนวงโคจรอยู่จึงได้นำไปสู่การค้นพบดาวเนปจูนที่ในระยะ 30AU ในปี 1843

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       แต่มันยังไม่จบเท่านี้เนปจูนก็ดันมีผลเหมือนยูเรนัสเข้าไปอีกคือโคจรไม่ตรงตามคำนวน มันช้าบ้างเร็วบ้างมันน่าจะมีดาวอะไรอีกดวงที่มีผลต่อการโคจรของเนปจูนด้วยแต่ด้วยเท็กโนโลยีสมัยเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมันยังหาดาวดวงนี้นี้ไม่ได้

จนต่อมาเมื่อปี 1930 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองเพียงสิบปีนี้เองที่ได้พบดาวที่ส่งผลต่อวงโคจรของเนปจูนนั่นคือดาวพูลโต

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       แต่พอเราศึกษาพลูโตมากขึ้นเรื่อยๆก็พบว่าลำพังมวลของดาวพูลโตและดวงจันทร์ชารอนมันมีมากไม่พอและไกลเกินไปที่จะส่งผลต่อเนปจูนดังนั้นจึงน่าจะมีดาวอีกดวงที่ไม่ใช่เพูลโต

ดังนั้นจึงมีการค้นหาดาวดวงที่ว่านี้ต่อไปและตั้งชื่อว่า Planet X

จนกระทั่งปี 1983นี้เองที่ทางนาซ่าได้พบวัตถุชิ้นหนึ่งจากภาพอินฟาเรดของดาวเทียม IRAS ดวงหนึ่งที่ออกไปถึงขอบนอกของระบบสุริยะมันเป็นภาพลางๆของมวลวัตถุใหญ่มากชิ้นหนึ่งซึ่งสอดคลองกับ Planet X ที่กำลังค้นหาอยู่ มันอยู่ที่ระยะทางประมาณ 540AU

มันคืออะไรหว่า มันเป็นดาวเคราะห์บริวารอีกดวงของดวงอาทิตย์หรือเปล่า หรือเป็นดาวหางขนาดยักษ์ หรือจะให้สยองขัวญกว่านั้นมันอาจจะเป็นดาวแคระน้ำตาลที่ดันวิ่งหลงเข้ามาในระบบสุริยะ

นี่คือรูปที่ถ่ายจริงที่ได้จากดาวเทียมที่ว่าไว้ว่ามันใหญ่ขนาดไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมขยายความนิดหนึ่งว่าดาวเคระน้ำตาลคือดาวที่มีมวลน้อยเกินกว่าจะเป็นดาวฤกษ์ดังนั้นมันจึงไม่เกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์เหมือนดวงอาทิตย์ แต่ขนาดมันก็ไม่ใช่เล็กๆเพราะมันเป็นดาวที่กำลังจะฟอร์มตัวเป็นดาวฤกษ์แต่ขนาดไม่ใหญ่พอที่จะส่องสว่างเท่านั้น แต่ถ้ามันหลุดเข้ามาในระบสุริยะเมื่อไรคือความวิบัติของระบบสุริยะเมื่อนั้น


ลองคิดดูว่าวัตถุที่อยู่ห่างออกไป 540AU แต่มันส่งแรงดึงดูดมารบกวนเนปจูนที่ 30AU ได้ขนาดของมันต้องไม่เล็กแน่นอน ตอนที่เจอมันอยู่ห่างไปถึง 50พันล้านไมล์ แต่พออีกแปดปีต่อมาในปี 1992 มันดันวิ่งมาอยู่ที่ 7พันล้านไมล์

นี่คือรูปที่ถ่ายได้ในปี 2002

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       โห... อะไรกันมหาวินาศขนาดนี้ แปดปีวิ่งได้ 43 พันล้านไมล์ ถ้าคิดตามนีแล้วมันน่าจะมาถึงประมาณปี 2003 แล้วนี่ แต่ทำไมไม่ถึงแล้วล่ะ มีการคำนวนใหม่อีกครั้งในแนวพาราโบล่าของวงโคจรมันจะมาถึงในปี 2012


ตอนแรกทางนาซ่าคิดว่ามันน่าจะมีขนาด 4 ถึง 8 เท่าของขนาดโลก แต่พอมีการพิจรณาใหม่อีกครั้งถ้ามันเป็นดาวแคระน้ำตาลมันควารจะมีขนาด 15 ถึง 80 เท่าของดาวพฤหัส ซึ่งหมายความว่ามันต้องมีขนาด 4700 ถึง 25000 เท่าของขนาดโลก!!!!!!


อิบอ๋ายแล้วซิ....ระบสุริยะถึงจุดจบแน่ถ้ามันหลุดเข้ามาได้ มันไปถึงไหนพังบรรลัยที่นั่นเพราะแรงดึงดูดมหาศาลของมัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ตื่นเต้นอีกแล้วเรื่องนี้

ขนาดของจริงๆยังตื่นเต้นขนาดนี้แล้วภาคเรื่องโม้ตีไข่ใส่สีในหนังสือเรื่องลึกลับแท็บล็อยด์ฝรั่งที่ผมจะเอามาเล่าให้ฟังว่ามันโม้สะบัดช่อขนาดไหนมัน

วันนี้ดึกแล้ว... อ้อเกือบเช้าแล้วนี่นา เอาเป็นว่าผมนอนก่อนดีกว่า แล้วจะมาต่ออีกครั้งตอนที่ว่างพอครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       รอตอนต่อไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       แบบนี้น่าสนุกหน่อย ว่าแต่ GeoGraphics ไม่เอามาทำสารคดีบ้างเหรอครับ จะได้หามาดู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
      

ขอเเนะนำให้หาภาพยนตร์ " ARMAGEDDON เเละ Deep Impact " มาชมประกอบการบรรยายของอาจารย์ von Richthofen ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ไปอ่านที่นี้มา http://scratchpad.wikia.com/wiki/ดาวเคราะห์ดวงที่_12_(Planet_X)

รู้สึกสนุกกับการค้นหาสิ่งที่ไม่มีตัวตน เป็นสิ่งเหลือเชื่อของมนุษย์ในปัจจุบัน แต่เป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่หกพันปีก่อน น่าติดตาม.........รออยู่ครับ อ. วอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       อันนี้ไม่รู้เกี่ยวกันหรือป่าว เดี๋ยวจะลองไปโหลดบิทมาดู

สารคดี Miracle Planet เปิดบันทึกโลกมหัศจรรย์
ตอนที่ 1 : ดวงดาวแห่งการทำลายล้าง
ตอนที่ 2 : ปริศนาการกำเนิดชีวิต
ตอนที่ 3 : วิกฤตยุคโลกก้อนหิมะ
ตอนที่ 4 : มิติซับซ้อนของต้นกำเนิดมนุษย์
ตอนที่ 5 : จากมหาสมุทร…สู่แม่น้ำแห่งชีวิต
ตอนที่ 6 : วิวัฒน์เพื่อการอยู่รอด
ตอนที่ 7 : สู่อาณาจักรใหม่บนพื้นพิภพ
ตอนที่ 8 : จูราสสิค…ยุคไดโนเสาร์ครองโลก
ตอนที่ 9 : ความลับจากดวงตา
ตอนที่ 10 : ดวงตาแห่งสันติ
ตอนที่ 11 : ย่างก้าวสู่ความเป็นมนุษย์
ตอนที่ 12 : โลกของมนุษย์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
      
สารคดีของ National Geographic ชุด "มนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลกในอดีต" (ภาคต้น) - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       สนุก น่าติดตามอีกแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ถ้ามีขนาด 4700 ถึง 25000 เท่าของขนาดโลก ต้องปรับ คต.14 นิดหนึ่งครับ ไม่ต้องหนีแว้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       มันส์ ระคนปน เสียว ครับ อ.วอน

รออ่านต่อ ถ้าเป็นจริงก็ไม่ต้องลุ้นแล้วครับ ขนาดใหญ่โตมโหราฬอย่างนั้น.........เดี๋ยวผมจะอาสาไปยิงระเบิดนิวเคลียร์พร้อมกันซัก 100 ลูก เอาให้ละเอียดเลยครับ....ฝากเอา Prado คันใหม่ผมไปอุปการะด้วยละกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       คราวนี้มาเรื่องทฤษฎีกันบ้าง เรารู้กันว่าดาวฤกษ์ที่ใกล้โลกที่สุดคือ alpha centauri มันอยู่ใกล้กับระบบสุริยะเพียง 1.7 Parsec หรือ 4 ปีแสงเท่านั้น ระบบทั้งสองจึงเหมือนกับนักสเก็ตน้ำแข็งที่เอามือจับกันแล้วหมุนรอบกันและกัน แต่ระยะเวลาของการหมุนรอบกันมันนานมากแต่ก็มีผลต่อการเคลื่อนตัวของดาวทั้งสองอยู่ตั้งแต่กำเนิดของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก

คราวนี้มันมีผลตามต่อมาคือมีดาวเคราะห์บางดวงที่อยู่ในวิถีวงโคจรภายนอกของอัลฟาเซ็นเทารี่อาจจะโดนแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ให้วิ่งเข้ามาในระบบสุริยะ และดาวเคราะห์บางดวงของระบบสุริยะที่อยู่นอกกลุ่มเมฆอ็อทขอบนอกของระบบสุริยะโดนแรงดึงดูดไปยังอัลฟาเซ็นเทารี่ตังแต่สมัยหลายล้านปีก่อนหรืออาจจะตั้งแต่สร้างระบบสุริยะก็อาจจะเป็นได้ คราวนี้สิ่งที่ออกมาจากระบบของอัลฟาเซ็นเทารี่มันอาจจะเป็นเจ้า Planet X ดวงนี้ก็ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       คราวนี้มาดูวงโคจรของเจ้า Planet X กันบ้าง

วงโคจรของมันไม่เหมือนกับดาวเคราะห์ที่เกิดพร้อมกับการสร้างระบบสุริยะที่โคจรในแนวระนาบเดียวกันและโคจรในทางเดียวกัน เหตุที่ต้องโคจรแบบนี้เพราะว่ามวลสารที่สร้างระบบสุริยะมันหมุนเป็นก้นหอยมวลที่อยู่กลางจะก่อตัวเป็นดวงอาทิตย์และที่อยู่รอบนอกออกไปจะกลายเป็นดาวเคราะห์ดังนั้นระบบการหมุนจึงสอดคล้องกันทั้งหมด


แต่ดาวหางไม่อยู่ในข่ายนี้เพราะเป็นวัตถุจรที่หลุดเข้ามาในระบบสุริยะจึงมีทางวิ่งค่อนข้างอิสระ มันจะใช้วงโคจรแบบพาราโบล่าและทำมุมเท่าไรก็ได้ตามวิถีเดิมของมันที่วิ่งเข้ามาในระบบสุริยะจะวิ่งสวนทางก็ได้เพราะมันเป็นวัตถุอิสระไม่ได้อยู่ในระบบสุริยะแต่ดั้งเดิม


นี่คือวงโคจรที่คำนวนแล้วของเจ้า planet X ดวงนี้ตามรูปข้างล่าง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เจ้า Planet X ก็ใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับดาวหางคือมันโดนดึงเข้ามาในระบบสุริยะเหมือนดาวหางนั่นเอง การที่มันหาตัวยากและเพิ่งโผล่มาให้เห็นเพราะว่าการโคจรรอบหนึ่งต้องใช้เวลาถึง 3600ปีเลยทีเดียวและไม่ใช่วงกลมเหมือนดาวดวงอื่นๆแต่มันโคจรเป็นวงรีพาราโบล่าในแนวมุมที่ไม่ใช่แนวระนาบเดียวกับดวงอื่นๆ



ในบันทึกของชาวเมโสโปเตเมียและคัมภีร์พันธสัญญาเก่าก็มีระบุไว้ถึงดาวเคราะห์ดวงนี้เรียกว่า Nibiruชาวสุเมเรียนเรียกมันว่า Shar


มีการบันทึกถึงการปรากฎตัวของมันที่อยู่ในช่วงของน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่และทุกภิกภัยในโลกนี้และอาจจะรวมถึงการล่มสลายของทวีปแอดแลนติสด้วย จากเวลาการปรากฎตัวของดาวที่อยู่ในการบันทึกของคนโบราณกับขนาดของมันทำให้แน่ใจได้ว่าอาจจะเป็นเจ้า Planet X ดวงนี้ก็ได้

ดังนั้นอาจจะพูดได้ว่า Planet X คือ Nibiru

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ภาพนี้ได้มาจากพิพิธภัณฑ์ British Museum ในอังกฤษ เป็นส่วนหนึ่งของจารึกที่เกี่ยวกับ Anunnaki ที่แสดงให้เห็นการปรากฎตัวของ Nibiru


ชาวสุเมเรี่ยนได้บันทึกมันเอาไว้ในแผ่นจารึกดินเหนียวเมื่อกว่าสามพันปีกว่าโน้นว่า ดาวเคราะห์ดวงนั้นพวกเขาเรียกมันว่า Nibiru เป็นที่ๆพระเจ้าของชาวสุเมเรียนเคยอาศัยอยู่มาก่อน

ตามจารึกของชาวสุเมเรียนบอกไว้ว่าสรวงสวรรค์ของพระเจ้าหรือ Nibiru นั้นโดนมังกรยักษ์ที่ชื่อ Tiamat รุกราน ตำนานนี้วิเคราะห์มันอย่างละเอียดแล้วต่างก็พากันหนาวๆไปตามๆกัน เพราะมันใช่ตำนานที่ไหนกันล่ะครับ มันเป็นบันทึกปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ว่าด้วยการชนกันของดาวเคราะห์ต่างหาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       จารึกนี้กล่าวถึงดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ที่ชื่อ Nibiru ถูกพุ่งชนด้วยดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่ง

ผลที่เกิดขึ้นคงรุนแรงมากจนทำให้ดาวเคราะห์อีกดวงนั้นป่นเป็นเศษเล็กเศษน้อย บางส่วนได้เข้ามาในวิถีแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และกลายเป็นดาวเคราะห์น้อยโคจรรอบระบบสุริยะ ซึ่งก็ตรงกับข้อเท็จจริงทางดาราศาสตร์ปัจจุบันกลุ่มของดาวเคราะห์น้อยที่อยู่หลังดาวพลูโตออกไปและเป็นเมฆอ็อต


ชาวสุเมเรียนได้บันทึกการการชนกันของดวงดาวดวงนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อสามพันหกร้อยปีก่อนหรือเมื่อมันเข้ามาครั้งที่แล้ว

ตำแหน่งของชิ้นส่วนของการชนกลายเป็นวงแหวนแอสเตอร์รอยที่คาดกันว่าเป็นการชนระหว่าดวงจันทร์ของ Nibiru กับดาวที่เคราะห์ร้ายดวงนั้นที่อยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัส

ขนาดแค่ชนกับดวงจันทร์ของ Nibiru เองยังบรรลัยไปทั้งดวง ถ้าเจอกับมันเต็มๆคงกระจายไปทั้งระบบสุริยะแน่ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       แล้วเมื่อครั้งก่อนมันมาแล้วโลกไม่แตกสักหน่อยแล้วจะกลัวมันทำไม

ก็ที่มันไม่แตกเพราะว่าตำแหน่งของดาวต่างๆในระบบสุริยะมันอยู่อีดด้านหนึ่งนะซิ มันเลยส่งผลน้อยลง แต่ครั้งนี้มันเข้ามที่ตำแหน่งดาวต่างๆมันอยู่ในด้านที่มันเข้ามาพอดี

เหมือนมันเล่นรัสเซี่ยนรูเล็ต มันซวยก็โดนจังหวะพอดีที่ตำแหน่งโคจรดันตรงกับที่มันจะวิ่งเข้ามา

นี่คือปรากฎการณ์ที่สอดคล้องกับการกลับมาแต่ละครั้งของมัน ทุกครั้งที่มันมามันจะสร้างปรากฎการณ์ฉิบหายมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ว่าโลกจะโคจรอยู่ห่างมันมากน้อยแค่ไหน ถ้าโลกไปอยู่อีกด้านของดวงอาทิตย์ก็โดนน้อย ถ้าอยู่ใกล้หน่อยก็โดนมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       สมมุติว่าเกิดซวยสุดขีดคือตำแหน่งของโลกดันมาอยู่ใกล้กับที่มันผ่านเข้ามาจะเกิดอะไรขึ้นโลก

ความซวยจะบังเกิดด้วยด้วยแรงดึงดูดมหาศาลของมันแม้ว่ามันจะอยู่ระหว่างเส้นทางโคจรของดาวอังคารและพฤหัส แต่มันจะส่งแรงดึงดูดมหาศาลของมันทำให้แกนโลกเอียงเพิ่มได้เลย

แต่จะเท่าไรขึ้นอยู่กับว่ามันจะใกล้แค่ไหน ด้วยความเร็วของมันและความใหญ่มหาศาลมันทำให้โลกทั้งใบเอียงได้โดยไม่ยาก

ดูรูปประกอบได้ตามอัธยาศัยว่ามันจะเอียงได้โดยแรงดึงดูดอย่างไร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
      


จะเช้าอีกแล้ว วันนี้พอเท่านี้ครับ เอาไว้ผมมาเล่าให้ฟังใหม่


ใครมีเงินเก็บมากก็หารีบความสุขเสียโดยด่วน มีแรงก็รีบเบิ้ลวันละสามเวลา มีเงินรีบเที่ยว ที่ไหนชอบก็ไปบ่อยๆ ถ้ามันมาจริงๆตามที่คำนวนไว้แล้วจะหนาว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       งั้นก็ทำระยะทางให้มากที่สุด นะขอรับ คุณ MOP

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       มีต่ออีกไหมครับอาจารย์...สนุกดี

แสดงความคิดเห็นย่อย