คำตอบที่ 1
       แสงสีเหลืองนำแสงได้ดีในที่มืดครับ สีหลอดไฟที่ติดมากับรถจะเป็นสีเหลืองอำพัน มันไม่ออกขาว ข้ออื่นรอพี่เขาเข้ามาตอบแล้วกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       สายตาคนไวต่อแสงสีเหลืองครับ อีกประการหนึ่งการหักเหหรือ
การฟุ้งกระจายของแสงก็จะต่ำกว่าแสงสีอื่น

กำลังไฟกับความสว่างนั้นไม่เกี่ยวข้องกันครับ ดังนั้นหลอดที่วัตต์เท่ากัน
อาจจสว่างไม่เท่ากันก็เป็นไปได้ ยิ่งเป็นสีคนละสีด้วย บางคนอาจจะเถียงว่า
วัตต์สูง ย่อมสว่างกว่าวัตต์ต่ำ อันนั้นถูกสำหรับหลอดที่สีเดียวกัน และเป็นหลอด
ประเภทเดียวกัน ทั้งแกสที่อยู่ภายในและวัสดุที่นำมาทำไส้หลอด

มักซ์ คาร์ล แอร์นสต์ ลุดวิก พลังค์ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้สร้างสมการอันเลื่องลือคือ

E (พลังงาน) = h (ค่าคงตัวของพลังค์) × ν (ความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า)

จากผลงานนี้ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบิลสาขาฟิสิกส์

จากสมการเห็นได้ว่าพลังงานนั้นขึ้นกับความถี่

ม่วง แสงสีน้ำเงิน สีขาว ย่อมมีพลังงานมากกว่าสีเหลือง ถ้าสว่างเท่ากันจะต้องใส่พลังงานเข้าไปมากกว่า
และสายตาคนนั้นไวต่อแสงสีเหลือง ลองสังเกตุป้ายโฆษณาก็ได้ครับ ใช้สีเหลืองยืนพื้นทั้งนั้น

ดังนั้นถ้าเป็นหลอดที่เป็นประเภทเดียวกัน กินกำลังไฟฟ้าเท่ากัน แสงสีเหลืองดีว่าครับ
ดูโคมไฟบนทางหลวงเป็นตัวอย่าง

ข้างบนคงตอบปัญหาข้อ 1 ได้

ข้อ 2 คงยังตอบไม่ได้ครับ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับลักษณะของลอนบนกระจกที่หน้าสปอตไลท์ด้วยครับ
ไม่ทราบว่ามีใครเคยสังเกตุโคมไฟหน้ารถปาเจโรของ อ.von รึเปล่าว่าติดตั้งไม่เหมือนชาวบ้านยังไง
ผมว่ามีคันเดียวในประเทศไทยนะ อาศัยหลักจาก การบังคับการสาดแสงของเจ้าลอนบนกระจกที่แหละ

ข้อ 3 ที่ว่าสว่างมากกว่าหรือน้อยกว่านี่ดูหรือเปรียบเทียบยังไงครับ
ต้องบอกว่าต่อพื้นที่ หรือ จำนวนทั้งหมด ยกตัวอย่างง่าย ๆ มีผักบัวรดน้ำอันนึงขนาด 100 ตรซม
อีกอัน 200 ตรซม ใส่น้ำให้เท่ากันคือ 1 ลิตร แน่นอนว่าอันที่ ถ้าใช้ อันที่ พท. มากกว่าดินจะชุมน้ำน้อยกว่า
อันที่ พื้นที่น้อยกว่า แต่ถ้าคิดปริมาณน้ำทั้งหมดก็เท่ากัน

อีกประการหนึ่งคือ โคมไฟโดยทั่วไปนั้น จุดที่กำเนิดแสงต้องอยู่ที่ระยะโฟกัสของโคม แสงจึงจะพุ่งไปได้ตรงระยะไกล ๆ
ถ้าจุดกำเนิดแสงไม่ได้อยู่ที่จุดโฟกัส แสงจะกระจาย ดังนั้นตำแหน่งไส้หลอดไฟสูง จึงมักอยู่ที่จุดโฟกัส
ดังนั้นลองวัดดูก่อนนะครับว่าตำแหน่งไส้หลอดน่ะ มันอยู่สูงเท่ากันหรือเปล่า

ข้อ 4 ผมคาดว่าอายุหลอดคงลดลงครับ แต่จะมีนัยยะสำคัญหรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ที่แน่ ๆ คือ ถ้าโคมไฟคุณเป็นแบบพลาสติค ขั้วของโคมจะดำ และกรอบเนื่องจากความร้อน
ที่สูงกว่าเดิมถึงสองเท่า ที่รู้สึกว่าสว่างมากเพราะว่าคุณจะได้แสงที่พุ่งไปไกลจากไฟสูงเพราะตำแหน่งมันอยู่ที่จุดโฟกัส
และบริเวณใกล้ ๆ เนื่องจากแสงกระจายจากหลอดไฟต่ำ

ข้อ 5 ไม่มีข้อมูลครับ ตอบไม่ได้


อย่าเอาวัตต์เป็นเกณฑ์ในการตัดสินเรื่องความสว่างอย่างเดียวครับ อย่างหลอดซีนอนกินไฟแค่ 35W เท่านั้น
ผมเองก็ใช้หลอดที่กินไฟ 55 W แต่สว่างกว่าหลอด 55W ที่ขายทั่วไปในท้องตลาดประมาณ 30%

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ที่หนุ่มตอบมาตรงใจผมหมด

โคมไฟมันไม่ใช่แค่วัตต์ของหลอดอย่างเดียวรู้สึกว่าผมจะเคยเขียนไปแล้วที่บ้านหลังเก่า

เรื่องโคมไฟและการใช้งานนี่วิศวกรไฟฟ้าเรียนกันเทอมหนึ่งเต็มๆเลยนะครับ

ต้องว่ากันที่อุณหภูมิสีของหลอด แบบของแผ่นสะท้อนหลังหลอด รูปทรงของแผ่นและลักษณะของเลนส์กระจายและ

โคมไฟหน้ารถมันมีสองอย่างคือ spot light และ flush light แบบแรกจะให้แสงพุ่งตรงยาว แบบที่สองจะให้แสงกระจายมุมกว้าง

รถของผมเลือกแบบที่สองเพราะผมชอบมองอะไรในป่าเป็นมุมกว้างแม้ว่ามันจะไปได้สักสองสามร้อยเมตรผมก็พอใจแล้ว

ถ้าอยากให้ไปไกลๆกับโคมมุมกว้างก็ต้องมาเพิ่มกันที่ watt ของหลอดแล้ว ผมใช้ H3 100w ของเยอรมันไปปล้นมาจากโต๊ะเพื่อนใส่แล้วเหมือนระเบิดตกกลางป่าเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยให้ความรู้ครับ

โดยเฉพาะคุณหนุ่มกระโทก ช่วยให้ความรู้ไขคำตอบของผมให้เข้าใจครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขออนุญาติถามต่อครับ

spot light และ flush light เราจะรู้ได้อย่างไรว่านไหนเป็นอันไหนครับ เพราะพวก spot light แบบราคาถูกของ จีน ไต้หวัน เขาไม่บอกข้อมูลให้เลยครับ องศาแสงพุ้ง หรือลักษณะรูปร่างแสง (ผมอยากได้แบบมีแต่แสงพุ้งองศาน้อยๆ จะได้มองเห็นบนถนนระยะไกลครับ)

ดูด้วยการดูที่ reflection ปิดหลอดไฟทางด้านหน้าว่า อันไหนมี reflection ปิดหัวหลอดไฟ แปลว่าเป็น spot light ได้ไหมครับ

ดังรูปตัวอย่างแบบนี้มี reflection ปิดหัวหลอด เป็น spot light หรือไม่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       แบบนี้ ไม่มี reflection ปิดหัวหลอด เป็น flush light หรือไม่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ปลั๊กหัวหลอด ใส่เพื่อป้องกันแสงตรงจากหลอดแยงตาชาวบ้าน ต้องการแค่แสงสะท้อนจากจานฉายเพื่อสามารถควบคุมทิศทางแสงได้ หลอดทั่วไปนิยมทำหัวหลอดทึบดำก็ไม่ต้องมีปลั๊กครอบ

สายตาของเราจะไวแสงสีเหลืองมากสังเกตเวลาวิ่งผ่านทางที่มีไฟโซเดียมเหลืองจะมองเห็นสิ่งเคลื่อนไหวชัดเจน(ช่วยเพิ่มคอนทราสของสายตา) และแสงสีเหลืองมีความยาวลื่นมากจะไม่เกิดการกระเจิงเมื่อส่องผ่านผุ่นละอองน้ำในอากาศซึ่งแสงที่กระเจิงจะส่องแยงตาผู้ขับขี่ได้ ตรงข้ามแสงเหลืองไม่กระเจิงคือทะลุผ่านไปส่องพื้นข้างหน้าได้มากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       สปอตท์ไลท์ชื่อมันก็บอกแล้วว่าแสงมันวิ่งเป็นลำไปส่องจุดใดจุดหนึ่ง สังเกตุได้ว่าโคมมันจะมีความลึกเพื่อรวมแสงหรือไม่ก็ใส่เลนส์หน้าเพื่อบีบแสงให้เป็นลำ

ฟลัสซ์ไลท์ชื่อมันก็บอกอีกเหมือนกันว่ามันจะกระจายแสงไปทั่วไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่ง


รถแข่งแรลลี่จะใช้สปอตท์ไลท์เพราะสนใจแค่ทางข้างหน้าไม่ใช่สภาพแวดล้อมรอบตัว
รถเข้าป่าจะใช้ฟลัสซ์ไลท์เพราะต้องดูซ้ายขวาไปทั่วและลำแสงต้องกว้างเพื่อเห็นทางเลือกที่สองสามในการวางไลนด์วิ่ง

โคมไฟรถต้องการกระจายแสงในมุมทางราบไม่ใช่ทางแนวดิ่งที่ไม่มีประโยชน์เพราะเราไม่ได้ใช้ส่องนกหรือไส้เดือน จะใช้เส้นกระจายแสงที่เรียกว่า Diffuser ที่เห็นเห็นลายบนกระจกหน้าโคมไฟ อย่างรถบ้านเราขับชิดซ้ายก็จะมีเส้นด้านซ้ายมากๆเพื่อให้แสงมันออกซ้ายไปจับขอบทาง


ถ้าชอบดูละคอนเวที ฟลัสซ์แค่ดวงเดียวจะสว่างทั้งเวทีแต่ถ้าเป็นสปอตท์จะสว่างแค่ตัวบุคคล

จะแยกว่าโคมอะไรเป็นแบบไหนให้ดูมุมกระจายแสงข้างกล่องว่ากี่องศาต้องการให้มันกระจายมากๆก็ใช้มุมมากๆหรือสังเกตุได้ว่าโคมมันจะแบนกว่าเพื่อให้มันกระจายกว้างๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       โคมหน้ารถของผมแบนเหมือนขนมเข่งลึกแค่ความสูงของหลอดเอง หัวหลอดแทบจะชนเลนส์หน้าเพราะต้องการกระจายแสงให้ออกไปทั่วๆมุมการกระจายแสงร้อยกว่าองศา

ผมใส่หลอด H3 ขนาด 100w ได้เพราะเป็นแก้วและโลหะหมดตัว ถ้าเป็นพลาสติกห้ามเล่นหลอดขนาดนี้เพราะมันปิ้งปลาหมึกหน้ารถได้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย