WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เครื่องยนต์สันดาบภายในแบบใช้ไฮโดรเยนเป็นเชื้อเพลิงในโลกของความเป็นจริง
baron
จาก von Richthofen
IP:125.24.13.2

อังคารที่ , 24/3/2552
เวลา : 18:49

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      
เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น.... ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา


ผมบอกกับตัวเองว่าผมจะเขียนเรื่องเครื่องยนต์พลังไฮโดรเยนมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่ได้เริ่มสักทีเพราะกิจกรรมในชีวิตมันไม่อำนวยเสียเลย วันนี้ผมต้องหักดิบเอาตัวมาเขียนให้ได้สักสองสามวันจบก็ยังดี เนื้อหาที่ผมจะเขียนจะประกอบด้วยภาคทฤษฎี ภาคการคำนวน และภาควิศวกรรม ตามที่ผมเคยเขียนให้อ่านมาหลายๆเรื่อง

เหมือนกับหลายๆเรื่องที่ผมเขียน ผมจะย่อยให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่ายๆ อะไรจริง อะไรเท็จ อะไรเป็นเรื่องหลอกลวงทางการค้า

ที่ผมต้องตัดสินใจเขียนเพราะว่าตอนนี้เริ่มมีพวกทำเครื่องผลิตแกสไฮโดรเยนบุกเข้ามาเว็บเราแล้ว แทนที่จะมาคุยกันดีๆก็เข้ามาเกรียนกัน คุยดีๆยังไม่มีปัญญาจะคุยเลยแล้วอยากได้เงินขายของแต่บอกไม่ได้ว่าเครื่องที่ตัวเองขายทำงานอย่างไร จนถึงขนาดคุณหนุ่มกระโทกและคุณกรูปรีขอซื้อในราคาห้าแสนบาทบาทถ้าใส่เครื่องทดสอบแล้วมันประหยัดจริงๆ ก็ไม่เห็นจะเอามาขายสักที ได้แต่ปลอมชื่อเข้ามาด่ากราดไปทั่ว ชื่อที่เข้ามายังปลอมไม่ซ้ำกันสักครั้งทั้งที่เป็นคนเดียวกันแล้วจะหาความจริงใจต่อลูกค้าได้อย่างไร

ข้อมูลที่ผมจะนำมาเขียนผมได้มาจากหนังสือด้านทฤษฎีพลังงานและตามเว็บไซด์พลังงานต่างๆที่เล่นเรื่องนี้แบบในแนววิชาการ ส่วนเว็บขายของหลอกลวงหรือเว็บพวกเกรียนเม็พเหมือนขายยาตามงานวัดไร้หลักการผมก็แค่อ่านเฉยๆให้รู้ว่าตลาดตอนนี้มันมียาผีบอกอะไรขายบ้าง ไม่ใช่แต่คนไทยหรอกครับที่มีเว็บขายของพวกนี้ ฝรั่งเองก็ยังมีกันเกลื่อน บางโฆษณาขายอุปกรณ์ผลิตไฮโดรเยนในรถมีมาเป็นสิบปีแล้วก็ยังไม่รวยสักที ทั้งที่ถ้ามันประหยัดได้ตามที่โฆษณาเอาไว้คงเป็นมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืนไปแล้ว

เอาเข้าเรื่องดีกว่าครับว่าเชื้อเพลิงพลังไฮโดรเยนที่จริงแล้วมันคืออะไร ใครทำวิจัยกันบ้าง ผลการวิจัยคืออะไร








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  

คำตอบที่ 1
       จำที่หนุ่มกระโทกเคยบอกได้ไหมว่าแกสไฮโดรเยนมันระเบิดแบบยุบตัวไม่ใช่ระเบิดแล้วบานออกมาข้างนอกแบบน้ำมันเชื้อเพลิงหรือดินระเบิด

ถ้านึกภาพไม่ออกลองนึกภาพหนังสงครามที่เอาระเบิดน้ำลึกไล่ถล่มเรื่อดำน้ำมันจะระเบิดตูมออกมาบานแล้วหุบเข้าเพราะแรงดันน้ำไง

ผมคิดว่าทุกคนคงเคยผ่านตาตอนกระสวยอวกาศชาเล็นเจอร์ระเบิดกลางอากาศ เปลวระเบิดมันบานออกแล้วหุบเข้า การเผาไหม้ของไฮโดรเยนเนื่องจากพอมันกลั่นตัวเป็นน้ำแล้วมันลดปริมาตรเป็นพันเท่ามันเป็นแบบนั้นและคนรู้กันมาเป็นหลายร้อยปีแล้วว่าระเบิดของแกสไฮโดรเยนมันเป็นแบบนั้น


ดังนั้นเครื่องยนต์เครื่องแรกที่ใช้พลังงานการเผาไหม้ของไฮโดรเยนมันจึงเป็นการใช้สูญญากาศที่เกิดจากการยุบตัวของแกสที่กลายเป็นน้ำหลังการกลั่นตัว นั่นคือเครื่องยนต์เครื่องแรกที่คิดขึ้นมาเมื่อเกือบสองร้อยปีก่อน เวลาตอนนั้นที่บ้านเราสุนทรภู่กำลังเขียนพระอภัยมณีอยู่เลยมั้ง งานวิจัยชิ้นนี้ยังเก็บไว้ในมหาวิทยาลัยแคมบริจที่ลอนดอน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 18:59  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40042

คำตอบที่ 2
       และแล้วอีกหกสิบปีต่อมานายอ็อตโตก็สร้างเครื่องยนต์สันดาบภายในเครื่องแรกขึ้นมา

ครั้งแรกนายอ็อตโต้คิดว่าจะใช้เครื่องยนต์ที่เผาด้วยไฮโดรเยน แต่หลังจากทดลองแล้วก็ต้องขนหัวลุกเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังรนหาที่ตายเพราะมันอันตรายสุดๆ สมัยนั้นระบบของเครื่องยนต์มันยังลองผิดลองถูกและเชื้อเพลิงที่มีความเร็วของการลุกไหม้สูงแบบไฮโดรเยนมันระเบิดปึงปังตลอดจนนายอ็อตโตถอดใจแล้วหันมาใช่น้ำมันแกสโซลีนแทนจึงประสพความสำเร็จในการสร้างเครื่องยนต์เครื่องแรกได้สำเร็จ

ตอนนั้นไฮโดรเยนมีความเร็วลุกไหม้สูงที่สุดในบรรดาเชื้อเพลิงแล้วมั้ง เพราะตอนนั้นดินระเบิดก็มีแต่ดินปืน ไนโตรกลีเซอรีนก็ยังไม่ได้คิดค้น ดังนั้นนายอ็อตโตกำลังเล่นกับอะไรที่ลุกไหม้เร็วที่สุดในโลกอยู่ มันไม่ระเบิดใส่หน้าตายคาเครื่องยนต์ตัวทดลองก็บุญแล้วเพราะอีตาอ็อตโตเล่นผสมไฮโดรเยนเข้าไประดับ 50% ของปริมาตรห้องเผาไหม้เลยทีเดียว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 19:02  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40043

คำตอบที่ 3
       หลังจากนั้นอีกหลายสิบปีที่คนลืมไฮโดรเยนไปเพราะน้ำมันกลายเป็นสินค้าราคาถูกจากการที่ประเทศมหาอำนาจล่าเมืองขึ้นที่ผลิตน้ำมันได้ น้ำมันราคาถูกมากๆจนไม่มีใครคิดเรื่องพลังานเสริมอย่างอื่น

จนกระทั่งบริษัทเด็มเลอร์เบนซ์ได้มีราบงานอีกตัวที่น่าสนใจคือเครื่องยนต์ของเรือเหาะฮินเดนเบอร์ถ้าเอาก๊าซไฮโดรเยนที่ปล่อยทิ้งไปจากเรือเหาะมาเวียนเข้าท่อไอดีจะทำให้เครื่องยนต์ประหยัดพลังงานขึ้นไปอีกมาก แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะครับว่ามันจะใช้กับรถยนต์ได้เหมือนเรื่อเหาะ เพราะว่าปริมาณของแกสมันมหาศาลผิดกัน ปริมาณเท่าไรคงต้องแบกเรือเหาะสักลำขึ้นหลังคารถไปด้วยถึงจะประหยัดอย่างที่เด็มเลอร์เบ็นซ์ทำวิจัยเอาไว้


ข้อดีของการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเยนมีมากมายจนบริษัท BMW ทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่องมาหลายสิบปี ทุ่มเงินไปหลายร้อยล้านมาร์ค สมัยนี้เยอรมันใช้ยูโรแล้วซินะ BMW ก็ยังทุ่มเงินอยู่แต่ก็ยังไม่มีรถไฮโดรเยนออกสู่ตลาดสักทีทั้งที่มีต้นแบบเพียบไปหมด ข้อนี้

ผมสรุปข้อดีข้อเสียให้ฟังก็แล้วกันว่าเชื้อเพลิงไฮโดรเยนมันดีอย่างไร






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 19:09  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40044

คำตอบที่ 4
       ข้อดีข้อแรกคือมันมีค่า Air-Fuel Ratio กว้างมาก จะผสมมากหรือน้อยมันติดไฟหมด คือมันจะเริ่มติดไฟที่ผสมกับอากาศ 4%จนถึง75% นอกจากมันจางน้อยกว่านี้หรือหนามากๆมันถึงจะไม่ติดไฟ

แต่ข้อเสียคือถ้ามันติดไฟได้ในย่านของการผสมกว้างมากๆมันจะติดไปได้โดยไม่ตั้งใจให้ติดได้ง่ายๆถ้าเกิดการรั่วออกไป ผมยกตัวอย่างนะครับ ถ้าแกสในครัวมันรั่วแบบได้กลิ่นก็ยังไม่ถึงขนาดสูบบุหรี่เดินเข้าไปแล้วมันระเบิดตูมหน้าแหก แต่ถ้าเป็นไฮโดรเยนมันพร้อมจะลุกพรึบเผาครัวได้เพราะมันจางมากๆก็ยังติดไฟได้

อีกตัวอย่างคือถ้าแกสรั่วมันรั่วมากๆจนแกสมันเต็มครัวมันก็ไม่ติดไฟพรึบเหมือนกัน เพราะว่ามันหนาเกินไปจนไม่ติดไฟ

คนที่ติดแกสรถยนต์จะรู้ดีว่าแกสออกมาหนาก็ติดเครื่องไม่ได้ บางเกินไปก็ติดเครื่องไม่ได้ ใช้หัวเทียนเบอร์เย็นเกินไปก็ติดเครื่องลำบาก เครื่องร้อนแล้วก็ยังเดินสั่น เวลาเครื่องเย็นไม่มีน้ำร้อนมาต้มแกสก็แกสบางเกินไป คนติดระบบแกสถึงได้ต้องติดเครื่องด้วยน้ำมันไงล่ะ เพราะใช้น้ำมันติดเครื่องง่ายกว่าใช้แกสติดเครื่องตอนเครื่องเย็น






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 19:16  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40045

คำตอบที่ 5
       ข้อดีข้อที่สองคือมันใช้พลังงานทำให้มันติดไฟต่ำมาก คืออะไรไปสะกิดมันนิดเดียวมันติดไฟได้ทันที ดังนั้นหัวเทียนห่วยแตกแค่ไหนมันก็ใช้ได้ คอล์ยแรงสูงห่วยๆขนาดรถแท็กซี่ยังโยนทิ้งมันก็ใช้กับไฮโดรเยนได้ เพราะมันใช้พลังงานต่ำ

แต่ข้อเสียคือมันอันตรายสุดๆตรงที่พลังงานนิดเดียวมันก็ติดไฟแล้ว อย่าฮินเดนเบอร์กที่ไฟลุกท่วมทั้งลำเพราะไฟฟ้าสถิตแค่คนสะดุ้งก็ทำให้แกสไฮโดรเยนติดไฟได้อย่างสบายๆ

ดังนั้นแค่ละอองเขม่าที่เกาะหัวสูบเกิดยังไม่ดับดีก็ทำให้ไฮโดรเยนติดไฟได้ หรือไอเสียร้อนๆที่ค้างท่อไอเสียในช่วง over lap ของวาวล์ก็ทำให้ไฮโดรเยนในไอดีติดไฟได้ ถ้าใช้หัวเทียนเบอร์ร้อนไปความร้อนสะสมที่เขี้ยวหัวเทียนก็ทำให้แกสไฮโดรเยนมันติดไฟได้โดยไม่ต้องมีไฟไปจุดระเบิดเลยเสียด้วยซ้ำ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 19:21  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40047

คำตอบที่ 6
       ข้อดีข้อที่สามคือไฮโดรเยนมันสามารถลุกไหม้ได้ทั่วแม้แต่ซอกเล็กซอกน้อยของห้องเผาไหม้อย่างที่น้ำมันทำไม่ได้ ข้อด้อยของน้ำมันนี้วิศวกรรู้กันนานแล้วว่าใกล้ผนังห้องเผาไหม้น้ำมันจะไม่ติดไฟเพราะเสื้อสูบมันดึงความร้อนไปหมดจนไอน้ำมันไม่ติดไฟ ดังนั้นเครื่องยนต์ของฮอนด้าบางรุ่นที่มีคำว่า LEV ตามท้ายมันจะประหยัดเชื้อเพลิงโดยผสมน้ำมันกับอากาศเข้ากลางห้องเผาไหม้เท่านั้นตรงข้างๆห้องน้ำมันจะบางมากเพราะมันผสมหนาก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อกำลังเครื่องยนต์สิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์ แกสไฮโดรเยนสามารถลุกไหม้ผ่านช่องว่างขนาดกว้าง 0.6mm ได้แบบที่ไอน้ำมันเบ็นซินยังทำไม่ได้



ข้อเสียคือถ้าเปลวไฟมันลุกไหม้ได้แม้แต่ซอกเล็กซอกน้อยมันก็ลามไปได้ทุกที่แม้แต่แกสที่รั่วไปสะสมในห้องแคล้งใต้ลูกสูบ การที่เกิดการเผาไหม้ในห้องแคล้งมันทำให้เครื่องยนต์ระเบิดเป็นชิ้นได้อย่างง่ายๆ หรือแม้แต่วาวล์ไอดีรั่วเล็กน้อยมันยังไประเบิดในท่อไอดีได้อย่างง่ายๆดังนั้นการเกิด Back fire ในท่อไอดีจนลิ้นพังหรือ Air flow กระจุยกระจายมันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถ้ามเกิดการรั่วแม้แต่เล็กน้อยของวาวล์ไอดี






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 19:59  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40048

คำตอบที่ 7
       ข้อดีข้อที่สี่คือมันทนแรงอัดได้สูงโดยไม่จุดระเบิดเองจากอุณหภูมิแรงอัดดังนั้นมันจึงสามารถใช้กับเครื่องยนต์ที่มี compression Ratio สูงๆได้ทำให้มันไม่ชิงจุดระเบิดก่อนที่ลูกสูบจะวิ่งขึ้นสูงสุด หรือจะพูดได้ว่ามันทำตัวเหมือนน้ำมันที่มีอ็อกเทนสูง ถ้าจะเทียบกันแล้วมันทำตัวเหมือนมีอ็อกเทนมากกว่าน้ำมัน130เสียอีก


ข้อเสียคือมันไม่จุดตัวเองแม้จะมีแรงอัดสูงได้เองแล้วเครื่องยนต์ดีเซลมันใส่ไฮโดรเยนเข้าก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะใช้มันเป็นเชื้อเพลิง

ถึงแม้บอกว่าเอามันเข้าไปช่วยเผาน้ำมันมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร มันไม่มีทางไปช่วยจุดน้ำมันล่วงหน้าเพราะมันไม่เผาไหม้จนกว่าน้ำมันดีเซลจะจุดตัวเองเสียก่อนมันถึงจะลุกไหม้ตามมาแถมมันยังไปแย่งอากาศของน้ำมันดีเซลเสียอีกเพราะมันกินพื้นที่กว่าเชื้อเพลิงหลักเป็นร้อยๆเท่าในจำนวนพลังงานที่เท่ากัน

อุณหภูมิที่มันจะจุดตัวเองได้คือ 570 C ขณะที่น้ำมันดีเซลมันลุกไหม้ที่ 210 C มันสูงกว่าตั้งสองเท่า






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:05  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40049

คำตอบที่ 8
       ข้อดีข้อที่ห้าคือไฮโดรเยนมันเบา เวลารั่วมันจะลอบขึ้นข้างบนไม่ใช่กองกับพื้นเหมือนแกส LPG หรือน้ำมันรั่ว ดังนั้นถ้ามันรั่วในที่โล่งมันจะอันตรายน้อยกว่าน้ำมัน

ข้อสียคือถ้ามันเบาแสดงว่ามันมีความหนาแน่นต่ำดังนั้นมันเปลือพื้นที่เก็บ ถังขนาดปกติของ NGV มันวิ่งได้นิดเดียวเอง ตัวอย่างเช่น NGV ถังหนึ่งมันวิ่งได้สักร้อยกว่ากิโลเมตรแต่ถ้าใส่ไฮโดรเยนแทนมันจะวิ่งได้ระดับไม่กี่สิบกิโลเมตรเพราะมันมีความหนาแน่นต่ำแถมยังกินเชื้อเพลิงมากกว่าเสียอีกเพราะมันมีพลังงานต่ำกว่า NGV

การจะเที่ยบระดับพลังงานกับอะไรก็แล้วแต่เราต้องเที่ยบที่ Air-Fuel Ratio เพราะมันต้องชกกันที่รุ่นเดียวกันน้ำหนักเดียวกัน การที่จะมั่วเอาอีกหน่วยหนึ่งมาชนกับอีกหน่วยหนึ่งแล้วโมเมว่ามันดีอย่างโน้นดีอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:19  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40050

คำตอบที่ 9
       เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณหนุ่มกระโทกได้คำนวน Air-Fuel Ratio ให้ดูไว้แล้ว ผมก็สบายๆเอาของหนุ่มกระโทกมาให้ดูอีกทีดีกว่า




The theoretical or stoichiometric combustion of hydrogen and oxygen is given as:

2H2 + O2 = 2H2O
Moles of H2 for complete combustion = 2 moles
Moles of O2 for complete combustion = 1 mole
Because air is used as the oxidizer instead oxygen, the nitro-gen in the air needs to be included in the calculation:

Moles of N2 in air = Moles of O2 x (79% N2 in air / 21% O2 in air)
= 1 mole of O2 x (79% N2 in air / 21% O2 in air)
= 3.762 moles N2
Number of moles of air = Moles of O2 + moles of N2
= 1 + 3.762
= 4.762 moles of air
Weight of O2 = 1 mole of O2 x 32 g/mole
= 32 g
Weight of N2 = 3.762 moles of N2 x 28 g/mole
= 105.33 g
Weight of air = weight of O2 + weight of N
= 32g + 105.33 g
= 137.33 g
Weight of H2 = 2 moles of H2 x 2 g/mole
= 4 g
Stoichiometric air/fuel (A/F) ratio for hydrogen and air is:
A/F based on mass: = mass of air/mass of fuel
= 137.33 g / 4 g
= 34.33:1
A/F based on volume: = volume (moles) of air/volume (moles) of fuel
= 4.762 / 2
= 2.4:1

The percent of the combustion chamber occupied by hydrogen for a stoichiometric mixture:

% H2 = volume (moles) of H2/total volume
= volume H2/(volume air + volume of H2)
= 2 / (4.762 + 2)

= 29.6%




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:25  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40051

คำตอบที่ 10
       หนุ่มกระโทกคำนวนให้ดูแล้วผมก็เอามาลงซ้ำอีกที แต่เป็นภาคอังกฤษเพราะผมไม่ถนัดภาษาไทยแทรกในสมการคำนวนเท่าไร มันดุหัวมังกุฎท้ายมังกรอย่าไงก็ไม่รู้ พิมพ์ไม่ลื่นมือเพราะผมใช้โน๊ตบุ๊คมันไม่มีแคร่นัมเมอริคเหมือนเครื่องเด็คท็อป

คราวนี้เรารู้กันแล้วนะครับว่าจะเอาไฮโดรเยนเข้าไปเผาในห้องเผาไหม้มันกินพื้นที่ถึงหนึ่งในสามของห้องเผาไหม้ขณะที่ใช้น้ำมันไอระเหยของน้ำมันนิดเดียวเองแทบไม่ต้องคิดถึงปริมาณเพราะน้ำหนักของไฮโดรเยนมันเทียบกับน้ำหนักของน้ำมันเบ็นซินแล้วแล้วแปลงกลับเป็นปริมาณมันต่างกันแบบฟ้ากับเหวเลยครับ


ผมสมมุติตัวเลขให้ดูแบบเห็นภาพเลยนะครับ สมมุติว่าเครื่องยนต์ขนาด 1600cc ใช้ไฮโดรเยนมันจะโดนไฮโดรเยนแย่งพื้นที่ห้องเผาไหม้ไปประมาณ 1/3 ดังนั้นมันก็ประมาณโดนลดขนาดเครื่องไปเที่ยบกับเครื่องยนต์ประมาณ 1100cc เท่านั้น แถมพลังงานของไฮโดเยนมันยังน้อยกว่าน้ำมันเสียอีกทำให้ถ้าเอารถขนาด 1100cc ใช้น้ำมันปกติมาเทียบกับเครื่อง 1600ccใช้ไฮโดรเยนมันยังชนะเสียอีกด้วย







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:41  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40052

คำตอบที่ 11
       แล้วพลังงานมันต่างกันเท่าไรล่ะเรามาดูกัน

เราต้องใช้งานแกสที่จะเข้าเครื่องยนต์ที่หนึ่งบรรยากาศ จะเห็นว่าแกสไฮโดรเยนที่แรงดันหนึ่บรรยากาศพลังงานมันต่ำมาก






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:45  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40053

คำตอบที่ 12
       คราวนี้เห็นภาพฟ้ากับเหวที่ผมบอกไว้หรือยัง แถมมันยังกินที่อีกต่างหาก มันกินที่อย่าไรมาลองดูกัน

สมมุติให้ถังน้ำมันในรถ SUV แบบปาเจโรมันร้อยลิตร ขับย่องๆกินสิบกิโลเมตรต่อลิตรวิ่งได้ไม่ต่ำกว่าพันกิโล

แต่ถังไฮโดรเยนอัดแรงดันเท่า NGV คือ 3600psi ถ้าจะให้พลังงานเท่ากันมันคือ 1600 ลิตร ใหญ่กว่าถังน้ำสำรองที่ตั้งอยู่ตามหน้าบ้านจัดสรรอีกตั้งครึ่ง แบบนี้คงต้องเป็นรถพ่วงขนาดใหญ่กว่ารถปิคอัพคันหนึ่งเสียอีก

น้ำหนักของถังขนาดนี้มันหนักร่วมตันได้ล่ะมั้งเพราะถังมันหนากว่าถังแกสในครัวหลายเท่า ถังแกสในครัวมันแค่ 140psi เอง แต่นี่เราคุยกันที่ 3600psi มันมากกว่า 25 เท่าลองคิดดูว่าถังมันจะต้องหนาแค่ไหน

ถ้าคิดตามอัตราส่วนถ้าเอาไฮโดรเยนใส่ถัง NGV ของแท็กซี่มันก็วิ่งได้สักหกสิบกิโลเอง ขับไปทำงานยังกลับไม่ถึงบ้านเลย นี่คือจุดอ่อนอีกจุดว่าทำไมรถใช้ไฮโดรเยนมันไม่รุ่ง

จะให้วิ่งได้พอๆกับแท็กซี่ NGV ต้องรื้อเบาะหลังทิ้งทั้งหมดแบกถังไฮโดรเยนขนาดรถแท็กซี่สักสามถังน้ำหนักถังรวมแล้วหลายร้อยกิโล ตูดรถเตี้ยห้อยเหมือนเป็ดถึงจะวิ่งได้ระยะทางเท่าแท็กซี่ NGV






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:48  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40054

คำตอบที่ 13
       วันนี้ผมเอาเท่านี้ก่อนครับ เอาไว้พรุ่งนี้ผมมาเขียนต่อ

ยังมีข้อมูลศึกษาของยุโรปและบริษัท BMW และ Honda ให้ผมอ่านอีกเพียบ ทั้งสองที่หมดเงินวิจัยไปเป็นพันล้านบาทแล้วมั้งยังสร้างรถมาขายไม่ได้เลย

น่าอิจฉาคนแถวอีสานบางคนสร้างระบบไฮโดรเยนใส่รถจ่ายกับข้าวธรรมดาวิ่งได้ แถมกินน้ำมันพอๆกับผมจุดไฟแช็กซิพโป้แล้วขับรถเสียอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.13.2 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 20:54  IP : 125.24.13.2   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40055

คำตอบที่ 14
      


ขอบพระคุณมากครับที่มาให้ความรู้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree 125.26.72.82 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 21:25  IP : 125.26.72.82   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40057

คำตอบที่ 15
       น้ำธรรมดา 1 ลิตรได้แก๊สเอามาเป่าลูกโป่งได้เล็กกว่าลูกวอลเล่บอลมากๆ การจุดวาบไวเร็วมาก ตอนแยกใช้เวลา 10 นาทีแล้วก็ไม่มีแก๊สออกมาแล้ว แต่จุดไฟแค่กระพริบตาก็หายไปหมดเลย

ลองดูกันก็ได้ครับไม่ต้องรอกระป๋องวิเศษหรอก ใช้โซดาไฟ + อะลูมิเนียม + น้ำ ถ้าอยากได้แก๊สเร็วๆ ก็ผสมโซดาไฟเข้มๆ หน่อย แต่ระวังหน้าแหกตอนจุดไฟนะครับเสียงมันดังสนั่นดี



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

degsure จาก Degsure 125.27.90.60 อังคาร, 24/3/2552 เวลา : 22:52  IP : 125.27.90.60   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40059

คำตอบที่ 16
       น้ำธรรมดา 1 ลิตร แยกเป็นแกสได้ 1866 ลิตรครับ
ได้ไฮโดรเจน 1244 ลิตร ออกซิเจน 622 ลิตร
แต่ใช้พลังงานในการแยกมหาศาล

บางคนทำโชว์เพราะต้องการขอ "งบ" ก็เท่านั้นเอง

-------------------------- อย่า ! -----------------------------------------

อย่าให้ความโลภบังตา จนทำให้เรามองอะไรเพียงแค่ด้านเดียว มิเช่นนั้นแล้วเราจะกลายเป็นเหยื่อ
ตัวอย่างง่าย ๆ ก็หน้าประกาศซื้อขายไงตั้งราคาถูก ๆ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนต้มจนเปื่อยก็สายไปเสียแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนเสมอ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ๆ

อย่าคิดว่าของที่โพสต์ในเว็บจะเป็นจริงทั้งหมด มันไม่ต่างจากนิยาย ผรั่งเองมันก็หลอกขายของ,ขายหนังสือ
ทุกวันนี้ผมเองก็ได้เมล์ขายของ ,ขายหนังสือ จากเว็บ ต่างประเทศบ่อย ๆ มากว่าสามปีแล้ว

อย่าคิดว่าของที่จดสิทธิบัตรจะใช้ได้ผล


อย่าลืม The Law of Conservation of Energy หรือ กฏการคงที่ของพลังงาน
พลังงานไม่มีการสูญหายแต่แต่เปลี่ยนรูป

อย่าคิดว่าเรื่องพลังงานเป็นการแทงหวย แทงน้อยแต่จ่ายมาก

อย่าเชื่อผลการทดลองที่ใช้ความรู้สึก ไม่ใช้เครื่องมือวัด
ลองปรับแอร์ขึ้นมาซักสององศาซิ แต่ทำให้ตัวเลขมันแสดง 24 องศา
คุณจะประหยัดไฟอีกเยอะ รร. หลายแห่งก็ใช้วิธีนี้

อย่าเชื่อว่าใช้ไม่ได้ผลแล้วจะคืนเงิน เตะหมูเข้าปากหมาแล้ว หมาก็กลืนลงท้อง
ให้ห้าแสนไม่ขายจะขายแค่หลักหมื่น คนอะไรจะแสนดีมักน้อยปานนั้น


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 115.67.155.206 พุธ, 25/3/2552 เวลา : 00:32  IP : 115.67.155.206   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40061

คำตอบที่ 17
      
เบาๆกันหน่อยเดี๋ยวจะกลายเป็นเว็บพันทิปหรือเว็บเสรีไทยไปแล้ว

เขาแสดงตัวตนออกมาแล้วก็ดีแล้วล่ะ อย่างน้อยคนอีกหลายพันคนที่เข้ามาอ่านที่ วีคเอ็นฮอบบี้ ทุกวันเขาจะได้อ่านและรู้ว่าใคร ที่นี่เป็นเว็บผุ้ใช้รถทุกประเภทมารวมตัวกันมากที่สุด มาเลือกเกรียนเว็บนี้คิดผิดแท้ๆตัดอนาคตตัวเอง

อายุก็ไม่น้อยแล้วทำไมมาฆ่าตัวตายที่นี่ก็ไม่รู้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 01:34  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40110

คำตอบที่ 18
       วันนี้ผมขอต่อด้วยเรื่องคุณสมบัติของไฮโดรเยนทางกายภาพ ผมจะไม่เอามาพูดแบบหน้าชั้นเรียนเคมีเพราะคงไม่มีใครอยากอ่าน ผมจะเอามาเล่าแบบให้เห็นภาพแบบชาวบ้านก้รู้เรื่องว่ามันคืออะไร

ไฮโดรเยนไม่ใช่ของหายากอะไรหรอกครับมันเป็นสารเริ่มต้นของจักรวาลเลยก็ว่าได้เพราะมันมีอะตอมขั้นพื้นฐานที่สุดแล้ว มันเบามากเพราะมีแต่หนึ่งนิวเครียสกับหนึ่งอีเล็คตรอนเป็นสสารอันดับแรกของตรางธาตุเลย ถ้าเอามันมาใส่ถังน้ำขนาดพันลิตรแบบที่ตั้งหน้าบ้านมันหนักแค่ 83.76กรัมเอง แต่ถ้าเอามันมาอัดจนเหลวมันหนักแค่ 78.8 กิโลกรัมทั้งที่ถ้าใส่น้ำมันหนักตันหนึ่งหรือหนึ่งพันกิโลกรัม

การขยายตัวของมันจากของเหลวเป็นแกสที่หนึ่งบรรยากาศคือ 848 เท่า แต่ในการใช้งานปกติจะอัดใส่ถังที่แรงดัน 3600psi ดังนั้นมันจะขยายตัวได้ในความดันปกติที่ 240 เท่า เนื่องจากแกสไฮโดรเยนมันมีความหนาแน่นต่ำมากน้ำหนึ่งลิตรจะมีไฮโดรเยนแค่ 111กรัม นั่นคือข้อด้อยของรถพลังไฮโดรเยนอย่างที่ผมบอกไว้นั่นแหละว่ามันกินพื้นที่มหาศาล






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 01:43  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40111

คำตอบที่ 19
       คราวนี้เรามาดูกันว่าจะสร้างแกสตัวนี้ได้อย่างไรบ้าง

เอาแบบง่ายๆเลยก็แบบลูกโป่งขายงานวัดคือเอาเศษกระป๋องอาลูมิเนียมมาใส่ในกรดวัลฟูริกแบบที่เติมแบตเตอรี่นั่นแหละ เดี่ยวเดียวก็ได้แกสไปอัดลูกโป่งขาย กรดสักขวดหนึ่งกระป๋องเบียร์ช้างสักถุงใหญ่ๆก็ได้แกสพออัดลูกโป่งขายได้คืนหนึ่งแล้ว

นั่นแบบชาวบ้านทำ แต่ถ้าเป็นแบบอุตสาหกรรมเขาทำกันอย่าไร สิ่งที่ให้แกสไฮโดรเยนในราคาถูกคือการแยกออกด้วยไฟฟ้า สิ่งนี้ได้ทำกันมาเป็นร้อยปีแล้วไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่หรือต้องใช้เท็กโนโลยีอะไรที่มากเรื่อง สมการของการแยกน้ำด้วยไฟฟ้ามันเบสิกที่เด็กหัวเกรียนสายวิทย์ก็รู้เรื่อง เพราะถ้าไม่รู้เรื่องก็อย่าสอบเอ็นทรานเลยดีกว่า

Cathode (reduction): 2H+(aq) + 2e- = H2(g)
Anode (oxidation): 2H2O(l) = O2(g) + 4H+(aq) + 4e-






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 01:47  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40113

คำตอบที่ 20
       นี่คือสมการเด็กก่อนสอบเอ็นทราน แต่ถ้าดันโชคดีสอบเข้าไปเรียนได้คณะดีๆสายวิทย์หรือวิศวะเขาจะสอนอีกไปอย่างที่ลึกกว่า เพราะว่ามันเป็นสมการครึ่งเดียวถ้าเรียนสูงมาอีกนิดระดับมหาวิทยาลัยจะรู้ว่าพลังงานของระดับอะตอมมันจะถีบตัวเองกลัยเป็นโมเลกุลอีกรอบแต่แทนที่มันจะจับเป็น H2 หรือ O2 มันดันเด้งไปเป็น H2O เสียอีกดังนั้นระดับมหาวิทยาลัยจะสอนกันแบบนี้

Cathode (reduction): 2H2O(l) + 2e- = H2(g) + 2OH-(aq)
Anode (oxidation): 4OH- (aq) = O2(g) + 2H2O(l) + 4e-

นั่นคือสิ่งที่บอกว่าพลังงานที่แยกแกสออกมามันจะเด้งกลับไปน้ำเหมือนเดิมส่วนหนึ่งและดันคายออกมาเป็นความร้อนเสียด้วยไม่ได้คายออกเป็นไฟฟ้ากลับคืน นั่นคือสิ่งที่ต้องเสียไปแบบจำยอมไม่มีเทวดาคนไหนเอาส่วนนี้กลับคืนมาได้ แต่อย่างไรก้ตามผลที่ได้มันก้กลับมาสู่สามัญดังสมการต่อไปนี้

Overall reaction: 2H2O(l) = 2H2(g) + O2(g)

โมเลกุลของไฮโดรเยนเป็นจำนวนสองเท่าของอ็อกซิเยนเสมอนั่นคือกฎธรรมชาติ ใครโม้ได้ต่างกว่านี้คงต้องพิจารณาอีกที่ว่าตัวเองเป็น เทวดา หรือ คนบ้าโม้อะไรที่ผิดหลักฟิสิกส์ธรรมชาติแบบไม่รู้ตัว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 01:51  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40114

คำตอบที่ 21
       ผมจะข้ามทฤษฎี Nernst equation ที่เขียนใน electrochemistry และ Faraday constant, the number of coulombs per mole of electrons: F = 9.648 533 99(24)×10power4 Cmol power-1 ไปเสียเพราะผมเขียนแล้วคงมีคนอ่านรู้เรื่องเพราะเรียนมาไม่กี่คนเพราะมันต้องอ้างไปถึง Boltzmann factors และ entropy and Gibbs free energy อีกรอบ เพราะว่าสมัยที่ผมอ่านมันครั้งแรกตอนเรียนหนังสือผมยังท้อใจเลย เพราะจะให้ผมอธิบายแค่ส่วนสั้นๆของสมการที่ใช้ universal gas constant: R = 8.314 472(15) JK power-1 mol power-1 ก็เสียเวลาไปอีกวันหนึ่งแล้วว่ามันมาอย่างไร

เพราะว่ามันเป็นตัวบอกถึงประสิทธิภาพของระบบการแยกแกสด้วยว่ามันต้องใช้พลังงานอะไรบ้างในระดับโมเลกุล เอาแบบโจ๊กเหลวๆตามที่ผมชอบป้อนให้กินดีกว่านะครับ นี่คือสมการโจ๊กเหลวๆที่ผมใส่เครื่องปั่นให้แล้ว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 02:06  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40116

คำตอบที่ 22
       การทำงานในสมการเทอร์โมไดนามิกส์ของการแยกน้ำมันจะมีสองส่วนคือ E(cell)=E(Oxidation) + E(Reduction) ดังสมการดังต่อไปนี้

Anode (Oxidation) : 2(H2O) = O2(g) + 4H+(aq) + 4e-
Eox = -1.23V
Cathord (Reduction) : 2H+(aq) +2e- =H2(g)
Ered = 0.00V

นี่คือคำตอบว่า standard potential of the water electrolysis cell is -1.23 V at 25 °C ที่ได้จาก Nernst Equation

หนุ่มกระโทกชอบบอกอย่างภูมิใจว่าสามารถทำรีแอ็กเตอร์ได้ปริมาณแกสสูงสุดแล้วเท่าที่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ใช่เทวดาจะทำได้เพราะว่าเครื่องของหนุ่มกระโทกมีจำนวนเซลที่ใช้แรงดันตามสมการของอีตาเนิรสนี่แหละ

ให้แรงดันเซลมากไปมันก็ร้อนเผาน้ำไปเปล่าๆไร้ประโยชน์ได้ค่ากำไรอุณหภูมิก็ไม่คุ้มเสียพลังงาน ดังนั้นสิ่งที่ครูบาอาจารย์บอกว่าความรู้คือแสงสว่างไล่ความมืดของอวิชาให้สิ้นไปไม่ใช่สิ่งที่เกินจริงเลย







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 02:15  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40117

คำตอบที่ 23
       คราวนี้ผมจะเล่าอะไรให้ฟังสนุกๆแก้ปวดหัวที่ผมเล่นแต่สมการเคมีและฟิสิกสืไปเสียหลายหน้า

สมัยก่อนนี้ตอนที่มนุษย์รู้จักไฟฟ้าใหม่ๆเราไม่มีมิเตอร์วัดแรงดันวัดกระแสไฟฟ้าเหมือนสมัยนี้หรอก ทุกอย่างต้องคำนวนเองทั้งหมดเครื่องคิดเลขก็ไม่มี ดังนั้นการวัดค่าแรงดันไฟฟ้าเขาจึงใช้การแยกน้ำนี่แหละเป็นตัววัดแรงดันไฟฟ้า

คนสร้างโวล์มิเตอร์แบบแยกน้ำคนแรกคืออีตา Hofmann แกเอาลวดพลาตินั่มมาจุ่มในหลอดทดลองแล้วเอาไปต่อเข้ากับวงจรไฟฟ้าแล้วดูปริมาณแกสที่เกิดขึ้นเพื่อบอกถึงแรงดันไฟฟ้า ดังนั้นสิ่งนี้เลยโดนเรียกว่า Hofmann voltameter

ในทุกวันนี้การแยกแกสที่ใช้ในห้องทดลองเล็กๆน้อยๆก็ใช้ Hofmann voltameter เป็นตัวแยกแกสไว้ใช้งาน แม้แต่โรงงานอุตสาหกรรมแยกแกสที่ทันสมัยในปัจจุบันนี้ก็ใช้รูปแบบของ Hofmann voltameter นี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาเป็นหลายร้อยปีแล้วเพียงแต่ความซับซ้อนของระบบเซลมันไม่เหมือนเดิมเท่านั้น

และสิ่งใหม่ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นก็คือมีการนำเอา High pressure electrolysis และ High-temperature electrolysis มาช่วยลดพลังงานในการผลิตเท่านั้นเอง นอกนั้นมันก็เหมือนเดิมหลักการเดิมมาเป็นร้อยปีแล้วเท่านั้นแหละ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 02:23  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40118

คำตอบที่ 24
       คืนนี้ผมเอาสั้นๆเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาต่ออีกครั้งหนึ่ง ภาคทฤษฎีน่าจะจบแล้ว นี่คือสาเหตุว่าทำไมผมเอาทฤษฎีแค่สั้นๆ

เพราะถ้าผมยังสนุกกับการเล่าเรื่องสมการต่างๆไม่จบพรุ่งนี้คงไม่มีคนอ่านแน่ๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.49.223 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 02:25  IP : 125.24.49.223   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40119

คำตอบที่ 25
       อ.วอนครับผมขอถามนอกเรื่องสักนิดครับไม่ทราบว่าอ.วอนเคยใช้ไนโตรมีเทนผสมในน้ำมันรึเปล่าครับมันทำให้เครื่องแรงขึ้นจริงไหมต้องใช้อัตราส่วนผสมเท่าไร

ตอบ

ผมใช้ไนโตรมีเทน กับเอทานอลครับ มันละลายกันดีเข้ากันเหมือผีกับโลง ใช้กับน้ำมันไม่รุ่งหรอกครับ พวกรถแดรกก็ใช้สูตรนี้ อัตตราผสมแล้วแต่กระเป๋าเงิน ผสมได้ถึง 90%เพราะมันให้พลังงานสูงกว่าน้ำมันเบ็นซินถึง 2.3เท่า และมันผสมหนาได้เนื่องจากมันเผาตัวเองแล้วยังให้อ็อกซิเยนออกมาส่วนหนึ่งด้วย

ตามปกติเล่นกันแค่ 30% ก็ชุ่มฉ่าหัวใจแล้วครับ

von Richthofen



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก 00 118.174.50.113 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 02:47  IP : 118.174.50.113   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40120

คำตอบที่ 26
       ต้องขอโทษคนดีทุกท่านด้วยครับ เเต่เหลือทนจริงๆ ผมเป็นข้าราชการตำเเหน่งเล็กๆอาศัยความรู้จากที่นี่ประจำ เเต่พอเห็นพวกหลอกลวงมาป่วนก็เลยโกรธว่า ทำไมคนไทยด้วยกันยังหลอกกันได้ ครั้นจะลงเล่นงานทางกฎหมายเองก็ไม่สะดวก เลยวานน้องทนายที่เก่งคดีอาญาที่เคยสู้กันในศาลมารับงานเชือดพวกเลวๆนี้เเทน โดยผมจะคอยดูสำนวนเอง ใครอยากกินข้าวคุกฟรีเรียนเชิญครับ จะมีสำนวนเพิ่มอีกสำนวนคงไม่ทำให้งานผมยุ่งกว่านี้เท่าไหร่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ตามล่าไอ้หน้าโกง 124.121.173.252 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 08:02  IP : 124.121.173.252   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40121

คำตอบที่ 27
       ผมขอเอาบทความของหนุ่มกระโทกมาลงให้อ่านกันอีกรอบครับ

เป็นบทความที่ดีไม่มียาผีบอกเจือปนเลยแม้แต่น้อย ถ้าจะบอกว่าดีต้องมีหลักฐานว่าดีอย่าไร ถ้าไม่ดีก็ต้องมีหลักฐานเช่นกัน

ผมเคยบอกไว้ว่าทุกสิ่งในโลกนี้สามารถอธิบายได้จากสองอย่างคือ หลักการฟิสิกส์ และ แก่นของศาสนา ถ้าสิ่งใดอธิบายไม่ได้จากสิ่งใดสิ่งหนึ่งในสองสิ่งนี้ สิ่งนั้นไม่มีในโลกและหลอกลวง

อ่านข้อเขียนดีๆของหนุ่มกระโทกได้เลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 118.173.90.117 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 15:15  IP : 118.173.90.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40140

คำตอบที่ 28
       อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันก็เช่นกันย่อมอยู่ในหลักพื้นฐานวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์หรือใช้เหตุผล
ที่สามารถอธิบายได้อย่างไม่มีข้อสงสัย ไม่ใช้ความรู้สึกว่าได้ผล ทุกอย่างต้องเป็นตัวเลขที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
โดยปราศจากข้อสงสัย การทดสอบประหยัดน้ำมันที่ทดสอบกันนั้นอยู่บนตัวแปรหลายตัว เช่นอากาศ ลมยาง
อุณหภูมิ สภาพการจราจร ตลอดจนวิธีการขับรถ

อุปกรณ์ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ใช้กับรถยนต์สามารถขายได้ราคาดี แถมถ้าได้อ้าง
ว่านาซารับรอง หรือได้ออกรายการทีวีก็จะยิ่งสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าได้ดียิ่งขึ้น
ไมว่าจะเป็นลมยางไนโตรเจน สารหล่อลื่น และในปัจจุบันที่เป็นที่กล่าวถึงเป็นอย่างมากคือ "รถพลังน้ำ"

เรื่องการแยกน้ำออกมาเป็นแกสไฮโดรเจนและออกซิเจนเอามาทำเป็นเชื้อเพลิงใช้ในรถ
มีการทดลองทำมานานหลายสิบปีแล้ว จดสิทธิบัตรกันก็มากมายเป็นร้อย ๆ แบบ

ในเว็บของต่างประเทศมีประกาศขายอุปกรณ์ ขายหนังสือวิธีการทำเชื้อเพลิงจากน้ำมากมาย
ผมเองก็เคยมีความสนใจมากในเรื่องพวกนี้และแปลกใจว่าทำไม่มันถึงไม่แพร่หลายใช้งานได้จริง ๆจัง ๆเสียที
เหตุใดจึงอยู่ในวงการแคบ ๆ เท่านั้น



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก หนุ่มกระโทก 118.173.90.117 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 15:16  IP : 118.173.90.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40141

คำตอบที่ 29
       หลาย ๆ เว็บไซท์ ต่างก็อ้างถึงการทดลองของรถบั๊กกี้ของ stan meyer อีกทั้งมีภาพวิดีโอประกอบด้วย
มีข่าวลืออีกด้วยว่านาย stan โดนเก็บเพราะเทคโนโลยีนี้ทำให้หลายบริษัทเสียประโยชน์
ยิ่งทำให้ผมปักใจเชื่อมากขึ้นว่ามีโอกาสเป็นไปได้ จึงได้เริ่มอ่านสิทธิบัตรต่าง ๆ และดูตัวอย่างที่มีคนทำมาแล้วหลาย ๆแบบ

ผมเคยลงทุนสั่งซื้อชุดที่ประกาศขายในเน็ตจากอเมริกา เพื่อเอามาดูว่าสิ่งที่ผมคิดไว้กับที่เขาขาย มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง
เพราะว่าที่เว็บนี้มีข้อมูลกล่าวอ้างถึงผลการทดสอบต่าง ๆ มากมายหลายกรณีรวมถึงวิดีโอสัมภาษณ์ผู้ใช้งานจริง ทำให้ดูน่าเชื่อถือมาก

เพื่อที่จะได้เอาต่อยอดทางความคิดพัฒนาให้มันดีและถูกต่อไป
แถมยังมีบริษัท British Autogas ของอาบังลงโฆษณาในเว็บขายเครื่องอิเลคโตรไลเซอร์แยกน้ำเป็นแกส
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในรถอีก ยิ่งทำให้ผมมีความมั่นใจยิ่งขึ้นว่า งานนี้ต้องสำเร็จ

เมื่อซื้อมาแล้วก็ได้เริ่มทดลองการทำ หลาย ๆ แบบ โดยที่การทดลองของผมนั้นไม่ค่อยจะเหมือนกับชาวบ้านเขา

ผมที่ผมใช้ทุกคันตั้งแต่คันแรกในชีวิต ผมจะจดระยะทาง,จำนวนน้ำมันที่ใช้,ราคาน้ำมัน อย่างสม่ำเสมอและตอนเติม
ก็จะเติมให้เต็มถังตลอดทุกครั้ง จึงเป็นการง่ายที่จะนำข้อมูลก่อนใช้และหลังใช้มาเปรียบเทียบกัน

การเปรียบเทียบผมไม่ได้ใช้ครั้งต่อครั้ง แต่นำมาทำเป็นกราฟเส้นสองเส้นในช่วงเวลาที่ไม่ต่ำกว่าสามเดือน
โดยที่นิสัยการขับรถของผมยังไม่เปลี่ยนแปลง

บางคนคิดว่าวิธีการนำข้อมูลมาเปรียนเทียบของผมนั้นใช้ไม่ได้ก็ได้ แต่ผมกลับคิดว่าถ้ามันใช้งานได้จริง
กราฟที่วาดได้จะต้องเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ระหว่างนี้ก็ได้โทรศัพท์คุยกับ อ.von และได้รับคำแนะนำว่า "อย่าทำ"

ผลปรากฏว่าไม่เห็นความแตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญครับ
เวลาที่ทดสอบอาจจะน้อยเกินไป ผมจึงทดลองต่อไปเรื่อย ๆ อีกหลายเดือน ผลที่ได้เหมือนเดิม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก หนุ่มกระโทก 118.173.90.117 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 15:17  IP : 118.173.90.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40142

คำตอบที่ 30
       เครื่องต้นแบบผมตัวแรกผลิตแกสได้ประมาณ 1 ลิตร ต่อนาที โดยไม่ต้องมีระบบระบายความร้อนแบบที่ทำขาย ๆกัน

ผมทดลองทั้งแบบที่ใช้ Pulse Width Modulation ที่ความถึ่และ Duty Cycle ต่าง ๆ กัน
โดยใช้ Micro Controller ควบคุม การปรับค่าต่าง ๆ ง่ายมาก มี VR สองตัว ตัวแรกปรับความถึ่ ตัวสองปรับ Duty cycle
เอามา ไดรว์ MOSFET ที่จ่ายไฟให้แก่อิเลคโตรไลเซอร์ วัดว่าทำอย่าไงจึงจะได้แกสมากที่สุด
ทดสองผสมสารละลายที่ความเข้มข้นต่าง ๆ น้ำทีใช้ผมก็น้ำจากเครื่องกลั่นในห้องปฏิบัตการ
ของโรงงานอาหารทะเล

ตอนหลังนี้ผมก็ได้โทรศัพท์ ปรึกษากับอาจารย์อีกเช่นเดิม เป็นระยะ ๆ ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิม
คือสรุปได้ว่าขาดทุนตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว


ทำให้ผมเริ่มฉุกคิดว่า เราทำผิดตรงไหน เหตุใดจึงไม่ได้ผล จึงทำให้ผมเริ่มศึกษาแบบใช้เหตุและใช้ผล





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก หนุ่มกระโทก 118.173.90.117 พฤหัสบดี, 26/3/2552 เวลา : 15:18  IP : 118.173.90.117   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 40143

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,19 เมษายน 2567 (Online 4427 คน)