คำตอบที่ 1
       ถอดไดมาดูครับ ถ้าแกนค้างหล่อลื่นแกนใหม่ก็หาย

แต่ถ้าเฟืองโดนกัดจนเสียมาเอาที่ผม ผมมีเฟืองใหม่ๆสำหรับไดคอยาวเสื้อเหล็กตุนไว้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบพระคุณครับ อ.วอน โพสท์ปุ๊บ ตอบปั๊บ เป็นที่เฟืองไดสตาร์ทอย่างที่ผมสงสัยสินะครับ ไงผมจะถอดมาดูก่อน ถ้าเฟืองเสียหายก็คงต้องรบกวน อ.วอนอีกแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       มันมี ตัวออโต้สตาร์ท (ไม่แน่ใจว่าผมเรียกถุกหรือเปล่า) อยู่อีกตัว อยู่ติดกันไดสตาร์ทละครับ ผมเคยถอดเอามา ทำตวามสะอาดแล้วเอาจาระบีลูบไปเล็กน้อย (ก่อนหน้านี้ สตาร์ทแล้วเงียบ รีเลย์ดัง ป็อก-แป็ก) ใช้งานได้สัก 3-4 เดือน ก็เป็นอีก ตอนไป กทม. เลยไปซื้อมาเปลี่ยนใหม่ 800 บาท ใช้มาได้สัก 2 ปีแล้ว ตอนนี้เริ่มมีอาการเดิมอีกแล้ว เพื่อนที่ร้านไดฯ บอกว่า ให้ลองแกะเอารีเลย์สตาร์ท มาดูหน้าสัมผัสซิ (อยู่ใต้คอนโซล ด้านคนนั่ง) ตัวที่ดัง ป็อก-แป็กๆ เวลาสตาร์ท... ถ้าหน้าสัมผัสไม่ดีก็เปลี่ยนซะ .....ยังไม่ได้รื้อเลยครับ....บิด ไป บิด มา 2-3 ที ก็ สตาร์ทได้ครับ ....มันไม่ได้เป็นทุกครั้ง นับๆดูแล้ว 2-3 อาทิตย์เป็นครั้ง กะจังหวะดูไม่แน่ - ไม่นอนเลยครับ...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เมื่อวานเอารถไปซ่อมให้ช่างไดถอดและตรวจดูอาการ ช่างบอกว่าตัวออโต้สตาร์ททำงานไม่ปรกติ (ตัวที่เวลาบิดกุญแจสตาร์ทแล้วมันจะดูดและดึงเอาเฟืองสตาร์ทไปหมุนเฟืองท้ายเครื่อง)เลยจัดการเปลี่ยนให้ ช่างทำเสร็จก็อากาปรกติดี มาถึงบ้านดับเครื่องแล้วตอนเช้ามาสตาร์ทเครื่องก็ติดดี ขับรถไปสะพานเหล็กจอดรถที่สามยอด ขากลับจากเดินซื้อเกมส์กับลูกชายมาสตาร์ทรถอีกที เงียบ และก็เงียบ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรจากไดสตาร์ทเลย เอาละสิ ทำไงล่ะ ก็เลยเอาเหล็กไปกระทุ่งตัวออโต้สตาร์ทที่ช่างไดเปลี่ยนให้ ปรากฏว่าแท่งเหล็กที่ผมไปกระทุ้งดันไปโดนขั้วสายไป และปลายอีกข้าหนึ่งไปโดนกับขั้วแบตที่เป็นขั้วบวกพอดี ปรากฏว่าไดสตาร์ททำงาน และถ้าดับเครื่องก็ต้องทำวิธีนี้เพื่อสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง ไม่ทราบว่าเป็สาเหตุจากอะไรครับ ดีเลย์ไม่ทำงาน หรือว่าออโต้สตาร์ทไม่ทำงาน หรือเป็นวิธีกันขโมยอีกวิธีหนึ่ง(อันนี้ ขำ ๆ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      

กลับไปหาช่างคนเดิมเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ไปหาช่างมาแล้วครับ แต่ใครเคยเจอปัญหาแบบผมบ้างครับ ก่อนออกจากบ้านก็สตาร์ทไม่ติด อาการเหมือนเดิม กะว่าจะให้ช่างดูให้ แต่ปรากฏว่าเครื่องเป็นปรกติดีทุกอย่าง ช่างก็มองหน้าผมและบอกว่าก็ไม่รู้จะเช็คให้อย่างไง เพราะมันก็ปรกติดีนี่ ผมเลยขับรถกลับไปที่ทำงานจากห้วยขวางไปรัชโยธิน ถึงที่ทำงานจอดรถเข้าที่ดับเครื่องยนต์แล้วนึกเอะใจว่าทำไมมันไม่เป็นอะไรเวลาไปถึงช่าง เลยลองสตาร์ทรถดูใหม่ ปรากฎว่าเงียบ บิดกุญแจใหม่ก็เงียบไม่มีเสียงไดหมุนเลยสักรอบ ก็เลยใช้วิธีสตาร์ตรงแล้วขับกลับไปหาช่างอีกรอบนึง คราวนี้ถึงมือช่างก็เงียบเหมือนเดิม ช่างก็เอามิเตอร์มาวัดกระแสไฟเวลาสตาร์ทเครื่องปรากฏว่ากระแสไฟที่มาจากการบิดกุญแจต่ำมาก ช่างบอกว่าขั้วที่กุญแจคงสึกหรือสกปรกทำให้กระแสไฟฟ้ามาไม่เต็มที่ เลยจัดการต่อ Delay ให้ชุดหนึ่งเพื่อเพิ่มกระแสไฟ ปรากฏว่าคราวนี้อาการที่ว่าใว้หายเป็นปรกติดีทุกอย่างแล้ว สรุปก็คงเป็นที่กระแสไฟมาที่แมคเนติกไม่เต็มที่ เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่มาเล่าให้สมาชิกได้รับทราบ เผื่อว่าจะเจอปัญหาแบบนี้จะได้แก้ไขได้ตรงจุด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       คุณ paman1 เจอเหมือนผมเลย แต่ผมได้ใส่รีเลย์ช่วยสตาร์ทมาก่อน สุดท้ายหลังจากที่เอาตัว ออโต ออกมาเช็ดๆถูๆ จนเลขขึ้นแล้วมันก็ยังดี เสียๆ ทนใช้ไปก่อน พอเข้าไป กทม. ก็จัดการเปลี่ยนไป....2 ปีผ่านไป เจออาการ แบบคำตอบที่ 3 อีก แต่...นานๆครั้ง แม่บ้านผมเค้ารู้เทคนิคแล้ว เลยใช้ไปเรื่อยๆครับ เร้า อารมณ์ดีครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ไม่ลองถอดหน้าคอนแท็กตูดสวิทซ์กุญแจมาขัดปุ่มสุดท้ายดูล่ะครับ บางครั้งมันมารวนที่ตัวนี้ไม่ส่งไฟไปออโต้แล้วไปโทษว่าออโต้เสียเหมือนที่คุณปาแมนเล่าไว้ ถ้าไม่ดีก็ซื้อตัวใหม่เฉพาะสวิทซ์ตูดกุญแจมาใส่กับเรือนกุญแจตัวเดิม

ราคาไม่แพงหรอกครับ ไม่กี่ร้อยผมเปลี่ยนของโตโยต้ามาหลายคันแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ขอบคุณ ครับ อาจารย์วอน จุดนี้ผมคิดไม่ถึงครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
      

แสดงความคิดเห็นย่อย