WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ล้างคาร์บูเรเตอร์ งานที่ไม่มีช่างรับทำครับ

จาก ton_ln80
IP:119.160.212.50

จันทร์ที่ , 14/1/2556
เวลา : 09:11

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เนื่องจากช่วงนี้ ผมต้องเตรียมรถทั้งหมดของบ้านที่ใช้อยู่ให้รองรับการใช้งานในระดับที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับกรอง เท่านั้นในระยะเวลาอีก 2 ปีข้างหน้านี้ครับ

เจ้าคันนี้ก็มีอาการตอนเช้ารอบต่ำจนเดินเบาไม่ได้ เวลาร้อนก็รอบสูงจนต้องลงมาปรับตัวตั้งรอบ เป็นเช่นนี้แทบตลอด แสดงว่ามันต้องมีประเด็นครับ

พอดีไปที่อู่แถวบ้านก็ไม่มีใครรับล้างให้ มันก็คงเป็นภาระของเค้าถ้าหาอะไหล่ไม่ได้หรือเกิดไม่ดีขึ้นจากอาการที่ขับเข้าไป อันนี้ ok ไม่ว่ากันครับ เพราะรถอยู่กับเรามากกว่าอยู่กับช่างครับ งานนี้เป็นการล้างแบบหยาบๆน่ะครับ เพราะต้องแข่งกับเวลาด้วยและอีกอย่างมันมีชิ้นส่วนเล็กๆน้อยๆเยอะมาก พร้อมกระโดดกระเด้งหายได้เสมอครับ

อันนี้ตอนอยู่ในรถครับ พอดีไปทำช่วงล่างที่อู่ป๋าชาติ ตำนานออฟโรด เลยให้แกแนะนำให้ครับ แกก็สอนตามหลัก คุณน่ะทำ ครับ เลยเริ่มถอดกรองอากาศออกไปก่อนครับพร้อมมิคเซอร์แกส






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       หลังจากถอดนอตยึดคาร์บูเรเตอร์ออกจากฐานยึดที่หน้าแปลนไอดีแล้วก็ได้มาแบบนี้ครับ ต่อไปก็ทำการถอดนอตยึดด้านบนออกและสายต่างๆรอบตัวครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ton_ln80ton_ln80 จาก ton_ln80 119.160.212.50 จันทร์, 14/1/2556 เวลา : 09:13  IP : 119.160.212.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55621

คำตอบที่ 2
       พอจับมันแยกส่วนด้านบนซึ่งมีห้องลูกลอย ออกไปเสรจก็ซึ้งเลยครับว่า ทำไมช่างถึงไม่อยากทำ ไอ้เจ้าประเก็นแผ่นนี้แหละครับ เวลาแยกส่วนมันออกก็ต้องเอาใบคัตเตอร์ค่อยๆแซะ เพราะถ้าขาดงานเข้าครับ แล้วก็แยกมันออกมา ในส่วนของนมหนูจะขวางทางเดินของอากาศอยู่แล้วครับ ก็ไขนอตออกมาทั้งสี่ตัวเลย





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ton_ln80ton_ln80 จาก ton_ln80 119.160.212.50 จันทร์, 14/1/2556 เวลา : 09:18  IP : 119.160.212.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55622

คำตอบที่ 3
       ภาพนี้หลังจากเอาประเก็นกับนมหนูออกไปแล้ว ก็มาถึงตัวช่วยครับ ป๋าแกบอกว่าเป็นนมหนูไฟฟ้า ผมเลยเอาตุ้มอลูมิเนียมออกต้องระวังสปริงกับลูกปืนไม่ให้กระเด็นหายไปด้วยครับ แล้วก็หาลวดมาแยงท่อที่เป็นติ่งออกมาครับ ถึงว่าทำไมมันไม่โช๊คให้ นมหนูตันนี้เอง





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ton_ln80ton_ln80 จาก ton_ln80 119.160.212.50 จันทร์, 14/1/2556 เวลา : 09:23  IP : 119.160.212.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55623

คำตอบที่ 4
       อีกตัวที่ทำให้เร่งไม่ขึ้นนมหนูมันตันครับ ยกส่องกับแสงปรากฏว่าแสงไม่รอดผ่านได้ทั้งหมดเลยเอาลมไล่นมหนูให้โล่ง แล้วทำการประกอบกลับครับ หลังจากนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาแล้วครับ เพราะส่วนพวกสปริงจะหายครับ แต่หลังจากประกอบก็พบปัญหาอีกช่างเอานอตยึดคาร์บูเรเตอร์ของใครมาเนี่ยสั้นไป2ตัว อากาศเลยลอดเข้าใต้ฐานคาร์บูอีก เลยเข้าใจเลยว่าตามแก้งานมันรู้สึกยังไงครับ
งานนี้ต้องขอบคุณ ป๋าชาติครับ ผมอ้างถึงเนื่องจากถือว่าแกเป็นครูที่สอนให้ผมรู้น่ะครับ แล้วเดี๋ยวจะต้องไปหาทางแก้ปัญหาต่อแล้วครับ งานนี้หยาบจริงๆไม่ได้ถ่ายทุกขั้นตอนต้องขอโทษด้วยครับ

 แก้ไขเมื่อ : 14/1/2556 10:47:20





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ton_ln80ton_ln80 จาก ton_ln80 115.67.71.171 จันทร์, 14/1/2556 เวลา : 09:38  IP : 115.67.71.171   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55624

คำตอบที่ 5
       ผมเอารถเข้าอู่พอถึงขั้นตอนคาร์บูเรเตอร์ช่างต้องโทรตามให้ผมมาจัดการเองทุกครั้ง
ช่างสมัยนี้ทำคาร์บูเรเตอร์กันไม่เป็นแล้ว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 101.108.70.186 จันทร์, 14/1/2556 เวลา : 15:00  IP : 101.108.70.186   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55626

คำตอบที่ 6
       เป็นคันอื่นในบ้าน ผมก็แค่ล้างมอเตอร์เดินเบาเองครับอ.von ผมว่ารถสมัยใหม่มันดูแลง่ายกว่าระบบคาร์บเยอะเลย เพราะยิ่งช่างถ้าอายุสัก40ลงมา น้อยคนนักที่จะทำเป็นครับ เลยต้องศึกษาเองครับ

แต่ที่ล้างนมหนูและนมหนูไฟฟ้ามามันช่วยให้ดีขึ้นในระบบน้ำมันเท่านั้นครับ แต่ปรกติใช้แกสเป็นหลัก แสดงว่าที่ถอดคาร์บูออกมาล้างนมหนูเป็นการวิเคราะห์ที่ผิดพลาด แต่ก็พบว่าอากาศลอดเข้าใต้ฐานคาร์บู ซึ่งต้องแก้ไขต่อไปครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ton_ln80ton_ln80 จาก ton_ln80 119.160.212.50 อังคาร, 15/1/2556 เวลา : 08:53  IP : 119.160.212.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55628

คำตอบที่ 7
       ผมมีแต่ล้าง คาร์บู Slingshort ของ Suzuki GSXF 400 เอง ....ส่วนรถยนต์มี คาร์บู ไม่มีปัญญาได้ล้าง เพราะ ไม่มีเหลือให้ล้างแล้วครับ

 แก้ไขเมื่อ : 16/1/2556 9:48:25





สงสัยตอนจูนเนี่ยครับ ว่าจูนยังไงให้เท่ากันทุกสูบครับ อันนี้หนักกว่าของรถยนต์อีก
จาก : ton_ln80(ton_ln80) 15/1/2556 16:33:09 [119.160.212.50]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

KZ Wanzer จาก KZ Wanzer 125.27.90.58 อังคาร, 15/1/2556 เวลา : 14:21  IP : 125.27.90.58   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55630

คำตอบที่ 8
       ตอนจูนอันนี้ อยู่ที่ Sense ครับ

...ของผม ฝังเสียง กะ ดมกลิ่นครับ แต่ก่อนต้องรู้ก่อนว่า คาร์บูลูกไหนของสูบไหน? และสูบไหน ขึ้นพร้อมกับสูบไหน? ถึงจะปล้ำถูกครับ ว่า จะจูน 2 สูบ ที่ทำงานพร้อมกัน ให้ออกมาเป็นอย่างไรครับ....

แต่ส่วนตัวผม ผมว่า คาร์บูรถยนต์ จูนยากกว่าครับ...

 แก้ไขเมื่อ : 16/1/2556 9:48:59



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

KZ Wanzer จาก KZ Wanzer 125.27.82.34 พุธ, 16/1/2556 เวลา : 09:48  IP : 125.27.82.34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55633

คำตอบที่ 9
       ผมใช้ฟังเสียงกระทุ้งของสูบ เทียบกับจังหวะลมเข้าแล้วจูนละเอียดทีละสูบ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.21.160 พุธ, 16/1/2556 เวลา : 18:21  IP : 125.24.21.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55636

คำตอบที่ 10
       อาจารย์ครับ ...เสียงลมเข้า คาร์บูเนี่ย ผมฟังออกอยู่นะครับ ...แต่ต้องถอดกรอง แล้วก็จูนเผื่อใส่กรองนิดหน่อย เพราะ ใส่กรองแล้ว เสียงหายใจเข้า มันดังขึ้น แต่กินลมได้น้อยลง....

และที่ฟังอีกอย่าง คือ เสียงรอบเครื่องครับ ....ส่วนกลิ่นไอเสีย ผมเอามาพิจารณา อากาศ-น้ำมันครับ ครับ ว่าแห้งไป (Lean) หรือ ชุ่มไป (Rich) ...แล้วติดเครื่องทิ้งไว้สัก 30 นาที ค่อยแกะเอาหัวเทียนมาดูสี เขี้ยว กับ กระเบื้อง ว่าโอเคไหม???

แต่เสียงกระทุ้งลูกสูบ .....?????
......มันฟังยังไง แยกออกด้วยหูได้ด้วยครับ เดินเบาด้วยเครื่องตัวนี้ ผมก็ล่อเข้าไป 900-1200 รอบ / นาที แถมแย่งกันวิ่ง อีก 4 ลูก แล้วแยกให้ออกว่า ลูกไหน กระทุ้งยังไง แล้ว Fine Tune เนี่ยนะครับ ...สงสัยต้องหาผู้รู้มาสอนให้ฟังซะแหล่วววว....

 แก้ไขเมื่อ : 17/1/2556 9:55:59



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

KZ Wanzer จาก KZ Wanzer 125.27.89.10 พฤหัสบดี, 17/1/2556 เวลา : 09:54  IP : 125.27.89.10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55637

คำตอบที่ 11
       เอาแบบนี้ครับ สมัยก่อนมันยากต้องใช้ความชำนาญเฉพาะตัวแต่สมัยนี้ง่ายแล้ว เจาะรูที่ท่อไอเสียหลังทางออกแต่ละสูบสักสามนิ้วเชื่อนัตตายให้ครบทุกรูแล้วเอา อ็อกซิเยนเซ็นเซอร์มาเสียบแล้วอ่านค่า จูนจนได้ที่แล้วขันสกรูอุดเอาไว้ใช้คราวหน้า

วิธีนี้ไม่เกินสิบนาทีจบทุกสูบ แต่ก่อนจะจูนคาร์บูเรเตอร์ SU สี่ตัวใน cooper เล่นไปสองชั่วโมง จะจูน Weber ใน Abarth เจอไปครึ่งวัน เดี๋ยวนี้วัดค่า O2 ที่เดียวจบ



อาจารย์จูน SU ใน Cooper 2 ชม. ผมจูน SU ใน GSXF 400 CC ล่อทั้งวัน !!
จาก : KZ Wanzer(KZ Wanzer) 17/1/2556 15:09:55 [125.27.89.10]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.67.52 พฤหัสบดี, 17/1/2556 เวลา : 13:58  IP : 125.24.67.52   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55641

คำตอบที่ 12
       เสียงกระทุ้งสูบต้องฟังจนคุ้นถึงจะเข้าใจครับ

คนส่วมมากจะฟังเสียงความถี่สูงของการจุดระเบิด แต่ปริมาณแกสที่ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันจะออกความถี่ต่ำในท่อเฮดเดอร์เหมือนเหยียบกระเดื่องกลองมันต่ำอัดแน่นๆออกชนกับเฮ็ดเดอร์เป็นลูกๆ แคม 210องศาของรถแต่งมันเริ่มเดินเบาที่ 1200 รอบเหมือนกันแต่มันกระแทกเป็นลูกจับได้ หูฟังจังหวะกระทุ้งตาดู strobe light ที่ยิงดูองศามูเล่ย์หน้าก็เดาได้แล้วว่าเสียงแต่ละลูกมันมาจากสูบไหน ยิ่งชักหัวเทียนช่วยยิ่งจับสูบง่ายสำหรับมือใหม่

คาร์บูเรเตอร์ที่จูนดีแล้วมันเดินสองสูบก็พาเครื่องวิ่งได้สบายๆ แม้ว่ามันจะสั่นแต่ต้องไม่ดับและจังหวะสั่นต้องเท่ากัน ตัดไฟตัดน้ำมันจูนทีละสองสูบ จูนสูบ 2-4 แล้วใส่หัวเทียนต่อน้ำมันกลับ ถอดหัวเทียนตัดน้ำมันจูนอีกสองสูบ 1-3 เอาให้จังหวะเท่ากับคู่แรก เท่านี้ก็เสร็จแล้วรอบเดินเบาไปยกให้นิ่มอีกครั้งที่ลิงค์ก้านทั้งสี่สูบพร้อมกัน

แต่ถ้ามือเก๋าเล่นพร้อมกันสี่สูบได้เลยไม่ต้องชักหัวเทียน เพราะหูฟังจังหวะกระทุ้ง ตามององศาตาม strobe ทัน พอมันเท่ากันแล้วค่อยลิงค์ก้านคันเร่งอีกครั้งก็จบ ไม่ต้องยกเดินเบาอีกครั้งแบบจูนครั้งละสองสูบ

ลองนึกภาพรถ F1 ที่เดินเบาในข่าวก็ได้ครับ รอบเดินเบามันไม่น้อยเลย แต่ถ้าไปยืนข้างรถตัวจริงๆจังหวะกระทุ้งมันเหมือนยกกลองทั้งใบไปซอยขาเหยียบกระเดื่องอัดอยู่ในอก



สำหรับ F1 ที่มาโชว์ ด้วย Button ..ผมฝังเสียงเครื่อง เป็นเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าไปแล้วครับ
จาก : KZ Wanzer(KZ Wanzer) 18/1/2556 14:09:26 [125.27.85.16]
..ไม่ยักเป็นเสียงเท้าซอยกระเดื่องกลองเลยสักกะนิด !!
จาก : KZ Wanzer(KZ Wanzer) 18/1/2556 14:10:12 [125.27.85.16]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.41.89 ศุกร์, 18/1/2556 เวลา : 02:36  IP : 125.24.41.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55643

คำตอบที่ 13
       อ่านดูแล้ว ....ดูยากจังครับ อาจารย์... !!

...อย่างนี้ วันหยุดนี้ ต้องหาเรื่อง ลองของ ซะแล้ว ... แต่ Strobe Light กะ O2 Sensor 2 อย่างนี้ ผมคงต้องหาเพิ่ม...




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

KZ Wanzer จาก KZ Wanzer 125.27.85.16 ศุกร์, 18/1/2556 เวลา : 14:24  IP : 125.27.85.16   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 55644

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,18 เมษายน 2567 (Online 3867 คน)