WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ถามเรื่อง ออยล์คูลเลอร์ น้ำมันเกียร์ออโต้ หน่อยครับ

จาก Supermop
IP:58.8.140.141

อาทิตย์ที่ , 30/9/2550
เวลา : 16:16

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ก่อนหน้านี้ ผมเอา Oil Temp วัดความร้อนน้ำมันเกียร์ออโต้ ก่อนที่จะติดตั้งออยล์คูลเลอร์ น้ำมันเกียร์ ปกติความร้อนจะขึ้นไปอยู่ที่ 90c ถ้ารถติด ๆ หรือขับความเร็วสูง ๆ แช่ยาวหน่อย ความร้อนจะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 110c-120c เลยครับ

เลยจัดการใส่ออยล์คูลเลอร์เพิ่มเติม โดยเอาท่อน้ำมันเกียร์ออโต้ที่วิ่งเข้าไปหม้อน้ำออก แล้วเอามาใส่ตัวออยล์ที่ซื้อมือสองจากเชียงกงแทน (ของเดิมก็มีตัวเล็ก ๆ อยู่หน้าหม้อน้ำตัวนึงอยู่แล้ว.....ผลลัพท์ความร้อนไม่สูงจนน่ากลัวครับ หลังจากติดตั้งแล้วปกติความร้อนจะขึ้นไปอยู่ที่ 60-80c ถ้ารถติด ๆ หรือขับความเร็วสูง ๆ แช่ยาวหน่อย ความร้อนจะพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 90c-เท่านั้นครับ

ตานี้ขอถามว่า.....?????

การที่ผมติดตั้งออยล์คูลเลอร์ โดยเหมือนว่าจะกลับหัวอย่างนี้ (รู้เท่าไม่ถึงการณ์) ดูจากตำแหน่งหางปลา หรือทางเข้า-ออก ของน้ำมันเกียร์ออโต้.....ถือว่าผิดลักษณะหรือไม่ ควรจัดการจับมากลับหัวดีรึเปล่าครับ....?????






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ท่าที่พี่mopติด ถูกแล้วครับ ผมก็ติดแบบนี้

ออยตัวนี้เป็นของเครื่องรถตู้เดลิก้า L300 ครับ

ติดตำแหน่งเดียวกันเลย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero 58.64.72.115 อาทิตย์, 30/9/2550 เวลา : 19:44  IP : 58.64.72.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13066

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณครับคุณ Boy_Pajero เป็นของรถตู้ Delica ซื้อเซียงกงมา 500 บาทครับ....แต่คุณBoy_Pajero บอกว่าการติดตั้งถูกค่อยยังชั่วหน่อยครับ......แต่มีคนเค้าทักผมก็เพิ่งมาสังเกตุน่ะครับ ดูมันทะแม่ง ๆ ยังไงไม่รู้ คิดว่าเจ้าท่อน้ำมันเกียร์มันควรอยู่ด้านล่างรึเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.140.141 อาทิตย์, 30/9/2550 เวลา : 20:04  IP : 58.8.140.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13069

คำตอบที่ 3
       ครับพี่ป้อม ตามนั้น ผมเปลี่ยนออยใหญ่กว่าเดิมก็เพราะกระทู้เรื่องออยของพี่ในบอร์ดJUCนั่นแหละครับ อ่านแล้วเห็นว่าดี เลยนำมาดัดแปลงกับปาเจโร่บ้าง เพราะรุ่นนี้ เก่งเรื่องเกียร์ร้อน น้ำมัน แผ่นคลัทซ์ไหม้เก่งมากครับ ตั้งแต่ทำมา ไม่เคยมีปัญหาเลยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero อาทิตย์, 30/9/2550 เวลา : 21:00  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13071

คำตอบที่ 4
       ผมอยากให้ความเห็นเรื่องอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ครับ

ตามปกติการฝังออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำตามที่รู้กันคือมันระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ออกทางน้ำในหม้อน้ำ แต่รู้กันตอนมันร้อนแล้วเท่านั้น แล้วตอนมันไม่ร้อนล่ะ

มันระบายความร้อนออกทางน้ำในหม้อน้ำได้แสดงว่ามันต้องร้อนกว่าน้ำออกจากเครื่องใช่ไหมครับ ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะระบายออกได้อย่างไร แสดงว่ามันต้องร้อนกว่าพัดลมสปีดแรกคือ 110C ถึงจะระบายออกได้ และต้องร้อนกว่านั้นมากเสียด้วยถึงจะระบายออกได้ดีเพราะมันแค่ท่อตัวยูสองคืบใต้หม้อน้ำเอง

แล้วตอนที่เราขับรถข้ามน้ำถ้าเกียร์มันร้อนขนาดนั้นคงจะเห็นไอน้ำพุ่งโขมงใต้รถแล้วเพราะเกียร์ลูกน้องๆกระสอบข้าวสารอุณหภูมิมันสูงกว่าจุดน้ำเดือดไปไกลโขอยู่ มันคงเดือดพล่านไปแล้ว



เป็นไปได้ไหมครับว่าความร้อนสะสมเพียงภายใน ตัวเสื้อเกียร์ไม่ได้ร้อนขนาดทำให้น้ำเดือด
จาก : beta(beta) 30/1/2554 16:54:21 [124.121.237.143]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.62 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 02:24  IP : 125.24.35.62   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13075

คำตอบที่ 5
       แต่ตอนขับข้ามน้ำหรือตอนลุยแอ่งน้ำหลังฝนตกไม่เห็นมันจะมีไอน้ำเลย แสดงว่ามันไม่ร้อนอย่างที่คิด

อย่างนั้นมันคืออะไรการฝังออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำมันต้องมีอะไรมากกว่านั้น

อย่างแรกคือการทำงานของเกียร์ออโต้ต้องอาศัยแรงดันน้ำมันเป็นหลัก เหมือนกับตอนเช้าเครื่องเย็นขับรถออกจากบ้านจะรู้สึกว่าเกียร์มันลื่นๆไปสักพักแล้วจะหายตอนเครื่องเริ่มร้อน เป็นเพราะมันยังเย็นอยู่โลหะยังไม่ขยายตัว ช่องว่างตามแผ่นคลัทและแบรดเบรคยังมากอยู่เพราะมันเย็น แรงดันน้ำมันเลยตกเพราะมันวิ่งรั่วไปได้ตามช่องว่างนี้ เกียร์เลยป้อแป้จังหวะเกียร์ก็ดูเพี้ยนๆไป

การฝังออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำคือการเอาความร้อนจากน้ำร้อนออกจากเครื่องยนต์ไปทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนเร็วขึ้นให้เกียร์ทำงานถูกต้องเร็วๆไม่ต้องวิ่งอืดๆไปอีกเป็นหลายกิโลเมตร



ตรงกันข้ามนะครับ เวลาร้อนจัดโลหะขยายตัวมากเกินค่ามาตรฐาน เกียร์จะลื่นไม่เหมือนตอนเครื่องเย็น
จาก : beta(beta) 30/1/2554 16:55:38 [124.121.237.143]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.39.129 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 02:34  IP : 125.24.39.129   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13076

คำตอบที่ 6
       ตามปกติการประกอบเกียร์ในโรงงานผลิตต้องประกอบในอ่างน้ำมันเกียร์เพื่องให้น้ำมันแทรกเข้าไปในช่องว่างต่างๆเหมือนเป็นฟิลเลอร์เกจรักษาระยะช่องว่างของแผ่นคลัทและตัวเกียร์ให้คงที่ ไม่ใช่นั่งยองๆประกอบแห้งเหมือนตามอู่ที่เห็นทั่วไป

อยู่ที่ประกอบเปียกเหมือนโรงงานผมเห็นอู่ใหญ่ๆไม่เกินห้าอู่ นอกเหนือจากตามศูนย์ใหญ่ๆที่ยังคงรักษามาตราฐานโรงงานอย่างเคร่งครัด นอกนั้นประกอบแห้งหมด นี่คือปัญหาเรื่องคลัทไหม้ซ้ำซากตามมาไม่รู้จบ

บางอู่ซื้อเกียร์มือสองมาแล้วต้องการเอาใจลูกค้าโดยรื้อเกียร์ออกมาเปลี่ยนแผ่นคลัทแล้วใส่กลับโดยบอกว่ามันจะทำให้เกียร์ทนขึ้นไม่ต้องยกลงซ่อมเร็วๆ ผมเห็นไม่ค่อยจะรอดสักราย ไม่นานก็ไหม้กลับเข้าอู่มาให้ซ่อมอีก เนื่องจากนั่งยองๆประกอบแห้งจากความไม่รู้นี่แหละ

หมายความว่าคลัทจะไหม้ย่อมเกิดจากการเสียดสีไม่ใช่จากอุณหภูมิน้ำมัน ความร้อนระดับร้อยกว่าองศาหน่อยๆมันไม่ทำให้คลัทไหม้ไปได้หรอกครับ



ผมเห็นที่ AISIN โยโกฮาม่า ประกอบแห้งโดยใช้โรบอทนะครับ
จาก : beta(beta) 30/1/2554 16:56:27 [124.121.237.143]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 02:47  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13077

คำตอบที่ 7
       การที่เกิดการเสียดสีจนไหม้นั้นเกิดขึ้นจากไม่กี่ประการคือ

น้ำมันน้อยเกินไปจนแรงตกในบางจังหวะที่เปลี่ยนเกียร์ เกิดการเสียดสีของแผ่นคลัทที่จังหวะวูบของเกียร์หรือที่พวกนักขับรถแข่งเรียวกว่าเกียร์ว่าวนั่นแหละครับ

เกียร์ยังไม่ร้อนพอแล้วไปกระทืบคันเร่งจนเป็นนิสัยติดตัวแบบนี้เท่าไรก็พัง เพราะมันยังรักษาแรงดันน้ำมันได้ไม่ดีเท่าตอนมันร้อนมันเลยเสียดสีกันจนมันไหม้ในจังหวะเกียร์ว่าว

ใส่ออยคูลเลอร์เพิ่มลูกใหญ่เกินไปจนอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ตกมากจนอยู่ในสภาวะ "ตอนเช้า" ตลอดการใช้งานทั้งวัน แบบนี้มันจะอายุสั้นไม่รู้ตัว

ไม่เติมน้ำมันเพิ่มอีก ลิตร ครึ่งลิตร เมื่อขึ้นดอย เพราะว่ามันเอียงหน้าขึ้นลง ระดับน้ำมันมันไม่ท่วมชุดราวเกียร์เหมือนตอนทางราบ มันไม่ท่วมนานเสียด้วยไม่ใช่เดี๋ยวเดียวเหมือนตอนขึ้นลงสะพาน อย่างดอยอินทนนท์มันหกสิบกิโลขึ้นหกสิบกิโลลง มันไหม้เอาง่ายๆ

ไม่เหมือนเกียร์รถเก๋งที่ขับหน้ามันแค่เอียงข้างวิ่งไม่ใช่เอียงแนวขนานราวเกียร์เหมือนรถขับหลังมันเลยไม่รู้สึกอะไรตอนขึ้นดอย

เพิ่มขนาดออยคูลเลอร์โตขึ้นแต่ไม่เพิ่มปริมาณน้ำมันเกียร์ ยังคงเติมตามขีดเท่าเดิมอยู่โดยไม่รู้ว่าตอนมันทำงานน้ำมันจะโดนสูบไปค้างที่ออยคูลเลอร์มากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ผลคือน้ำมันในห้องเกียร์มันน้อยจนไหม้



เติมเพิ่มครึ่งลิตรเวลาขึ้นลงเขาในรถขับสี่ล้อเครื่องวางตามยาวเป็นคำแนะนำจากโรงงานประกอบรถยนต์ในบราซิล
จาก : beta(beta) 30/1/2554 16:58:25 [124.121.237.143]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.219 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 03:07  IP : 125.24.35.219   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13078

คำตอบที่ 8
      

สรุปนะครับ



เกียร์ไหม้เกิดจากการเสียดสี ไม่ใช่จากอุณหภูมิน้ำมันที่แตกต่างไม่กี่สิบองศา

อุณหภูมิน้ำมันเย็นเกินไป ขับไม่ดี และเป็นสาเหตุเกียร์ไหม้เอาได้ถ้ามันเย็นจนถึงขนาดแรงดันตกเพราะช่องว่างมากเกินไปและเร่งเครื่องขณะเกียร์ว่าว

สภาวะ "ตอนเช้า" จะนานขึ้นเพราะน้ำร้อนในหม้อน้ำช่วยเพิ่มอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ให้ร้อนเร็วขึ้นแล้วดันถูกออยคูลเลอร์ลูกโตๆเอาความร้อนดีๆไปทิ้งเสียอีก เลยเกียร์วืดๆอืดๆไปหลายกิโลกว่ามันจะร้อนด้วยตัวเองจนพอที่จะทำงานได้ดี

ตอนเย็นการสึกหรอสูงกว่าตอนร้อน ถ้าไม่เข้าใจว่าทำไมมันสึกหรอสูงกว่าก็ต้องย้อนกลับไปอ่านไหม่ตั้งแต่แรกอีกทีครับ

สรุปอีกครั้งครับ

ของจากโรงงานคิดมาดีแล้วว่าแบบนี้ดีแล้วเหมาะแล้ว ถ้าไปเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ มันจะทำความเสียหายแบบผ่อนส่งราคาเกียร์ลูกใหม่โดยเราไม่รู้ตัวได้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.35.54 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 03:19  IP : 125.24.35.54   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13079

คำตอบที่ 9
       ก่อนนอนผมคิดได้อีกประเด็นคือ คงต้องมีคนถามว่าแล้วออยคูลเลอร์ใหญ่ๆของรถตู้ทำมาหาเรื่องอะไรกันถ้ามันร้อนดีกว่าเย็น

เครื่องกับเกียร์รถตู้มันอยู่ในรูใต้ก้นคนขับ มันไม่โดนลมที่ไหลเข้าใต้ท้องรถช่วยระบายความร้อนของน้ำมันออกทางเสื้อเกียร์ดีเหมือนรถเก๋งหรือรถ SUV ท้องสูง เลยต้องมีออยคูลเลอร์ใหญ่ระบายทางอากาศไม่ใช่ระบายทางน้ำหล่อเย็นครับ ลำพังตัวมันเองก็ร้อนเร็วพอแล้วเพราะอยู่ในที่อับอากาศเลยเอาความร้อนออกอย่างเดียวก็พอแล้ว

รถเก๋งบางรุ่นแต่ส่วนน้อยระบายความร้อนด้วยอากาศเพราะมันอับลมจากกันชนไฟเบอร์ใหญ่ๆก็พอมีให้เห็นบางรุ่น

สรุปแล้วรถเก๋งส่วนมากจะฝังออยคูลเลอร์ในหม้อน้ำเกือบทั้งหมด มีน้อยมากที่จะเพิ่มออยเกียร์แบบอากาศครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.42.80 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 03:42  IP : 125.24.42.80   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13080

คำตอบที่ 10
       โอววว...ขอบคุณ อ.วอน สำหรับความรู้เรื่องน้ำมันเกียร์ออโต้ครับ

เจ้า Cherokee นี่เกียร์พังกันง่ายมาก ๆ อย่าคิดว่ารถมะกันมันจะทนมือทนทีนอย่างที่เราฝัน

อ.วอนนี่แจ๋วจริง รู้ด้วยว่า Cherokee มีพัดลม 2 สปีด สปีดที่ 2 จะทำงานตอนประมาณ 105c ...แต่ผมว่ากว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ซะแล้ว ผมเลยทำสวิทช์อัตโนมือสปีด 2 ซะเลย....เอาไว้เปิดรอตอนขึ้นเนินเลยครับ (ปัจจุบันยกเลิกพัดลมสปีด 1 ไปแล้ว จัดการต่อสปีด 2 ให้ทำงานพร้อมคอมแอร์ทำงานเลย 3 ปีแล้วพัดลมยังไม่พัง แบตฯ ก็อายุสั้นเท่านเดิม ปีครึ่ง)

พวกที่เที่ยว ๆ กัน เกียร์พังกันไปแล้วหลายคัน....เข้าใจว่าตามเหตุผลที่ท่าน อ.วอน กล่าวก็คือตอนที่เราขึ้นดอยหรือติดอยู่บนทางชันนาน ๆ ในป่า น้ำมันเกียร์มันไม่ยอมขึ้นไปเลี้ยงได้สะดวก เป็นสาเหตุให้เกียร์กลับบ้านเก่าได้เร็วขึ้น

ส่วนเรื่องที่โรงงาน เอาความร้อนของน้ำไปช่วยอุ่นน้ำมันเกียร์ให้ร้อนเร็ว หรือเอาความร้อนของน้ำมันเกียร์ไปทิ้งที่หม้อน้ำ .....ส่วนตัวผมว่าเหมาะกับรถเมืองหนาวครับ เพราะรถผมติด Oil Temp ครับ สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่นานนัก ความร้อนน้ำมันเกียร์ก็ใช้เวลาไม่นานนัก

หลังการติดตั้งผมเติมน้ำมันเกียร์ออโต้เพิ่มเติมครับ แล้วค่อยวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ตอนติดเครื่องยนต์อีกครั้งนึงครับ


หลังติดตั้งออยล์เกียร์ แล้วขึ้นเขา-ลงเขา ชันอย่างเขาค้อ เห็นเรื่องประโยชนน์ของการใส่และไม่ใส่อย่างชัดเจนเลยครับ

ในทางกลับกันถ้าเรากลัวว่าเกียร์ร้อนช้า เราควรวอร์มเครื่องยนต์สักพัก ดูจนความร้อนน้ำมันเกียร์ขยับก่อน แล้วค่อยขับรถออกไปก็น่าจะโอเคใช่รึเปล่าครับ

อ. วอน ช่วยตอบหน่อยครับ

การที่ผมติดตั้งออยล์คูลเลอร์ โดยเหมือนว่าจะกลับหัวอย่างนี้ (รู้เท่าไม่ถึงการณ์) ดูจากตำแหน่งหางปลา หรือทางเข้า-ออก ของน้ำมันเกียร์ออโต้.....ถือว่าผิดลักษณะหรือไม่ ควรจัดการจับมากลับหัวดีรึเปล่าครับ....?????

พอดีมีน้องเค้าทักผมเพิ่งสังเกตุก็เลย งง ๆ น่ะครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.136.7 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 06:51  IP : 58.8.136.7   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13082

คำตอบที่ 11
       ติดตั้งใช้ได้ครับไม่มีปัญหา อย่างไงก็เติมน้ำมันเพิ่มอีกครึ่งลิตรจากจุดเดิมบนไม้วัดด้วยนะครับเพราะท่อยางและออยคูลเลอร์มันคงจุน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย

เรื่องติดเครื่องให้น้ำมันอุ่นก่อนขับผมว่าไม่จำเป็นครับเพราะขับช่วงแรกตอนความร้อนยังไม่ขึ้นให้เบาๆเท้าไว้ก่อน วิ่งสักกิโลสองกิโลทั้งเครื่องและเกียร์ก็อุ่นพอแล้วครับ

เกียร์ทุกยี่ห้อจะทำงานได้ดีที่อุณหภูมิสูงครับ เกียร์ลูกเก่าของผมใช้ของยี่ห้อ บ็อซวอร์เนอร์ ก็ทำงานคิกดาวน์ได้แม่นก็ตอนร้อนแล้ว พอมันหมดอายุก็เอาเกียร์ลูกใหม่ของอาเซี่ยนลงแทน ก็ทำงานที่ร้อนกว่านั้นอีกจนต้องปรับคิกดาวน์ใหม่และปลดท่อออยคูลเลอร์ออกให้มีแค่ท่อเหล็กวิ่งไปหน้ารถแล้วต่อท่อวนกลับก็พอแล้วให้มันไม่เย็นเกินไป ตอนนี้วิ่งมาหลายหมื่นกิโลแล้วก็ยังดีอยู่ไม่ส่ออาการอะไร


อีกคันเจ้าฮอนด้าของผมวิ่งยังไม่ถึงปากซอยพัดลมไฟฟ้าก็เริ่มทำงานแล้ว อุ่นเร็วจริงๆเพราะมันดูดเอาความร้อนจากหม้อน้ำมาช่วยด้วยอาการเกียร์วืดเพราะเกียร์เย็นเลยเกิดขึ้นไม่นานเกินสามนาทีครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.176.202 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 12:31  IP : 125.24.176.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13085

คำตอบที่ 12
       ความรู้แบบนี้ หาอ่านไม่ได้ที่ไหน นอกจากคำบอกกล่าวของ อ. วอน ครับ เรื่อนี้ทราบมาเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสลองเองซะทีครับ ขอบคุณ อ. มากครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero 203.113.39.12 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 12:53  IP : 203.113.39.12   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13086

คำตอบที่ 13
       "เพิ่มขนาดออยคูลเลอร์โตขึ้นแต่ไม่เพิ่มปริมาณน้ำมันเกียร์ ยังคงเติมตามขีดเท่าเดิมอยู่โดยไม่รู้ว่าตอนมันทำงานน้ำมันจะโดนสูบไปค้างที่ออยคูลเลอร์มากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ผลคือน้ำมันในห้องเกียร์มันน้อยจนไหม้"

อ. วอนช่วยสอนการวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ถูกต้องให้ด้วยครับ ว่าต้องทำอย่างไร

อีกอย่าง ผมลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จากเดิม Dexron 3 มาเป็น Dexron 2 สังเกตุดูว่า เครื่องร้อนกว่าเดิมเล็กน้อยครับ ไม่รู้ว่าเกิดจากน้ำมันเกียร์หรือเปล่าครับ อ.วอน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 13:04  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13087

คำตอบที่ 14
       สำหรับการวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ของ Jeep นั้น เค้าให้วัดตอนติดเครื่องยนต์อยู่ และเกียร์อยู่ในตำแหน่ง N (อย่าลืมดึงเบรกมือขึ้นด้วย) ครับ.....แต่ต้องหมายความว่ารถมีการขับมาแล้วครบทุกเกียร์ พวกช่างใช้วิธีดึงเกียร์ขึ้น ๆ ลง ๆ ไป ๆ มา ๆ ให้ครบแล้ววัด....ส่วนผมใช้วิธีวิ่งไปธุระให้ถึงจุดหมายที่ไม่รีบเร่ง นึกได้ก็เปิดฝากระโปรงวัดดีกว่าครับ

ขอขอบคุณ อ. von Richthofen มากครับ

ผมว่า Dexron 3 มาเป็น Dexron 2 คงเกี่ยวกับมาตราฐานสมรรถนะในการทนความร้อนของน้ำมันเกียร์ออโต้ครับคุณBoy_Pajero



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Supermop 58.8.139.61 จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 17:05  IP : 58.8.139.61   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13098

คำตอบที่ 15
       ครับพี่ป้อม อาจจะต้องลองกลับไปหา Dexron 3 อีกรอบ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Boy_Pajero จาก Boy_Pajero จันทร์, 1/10/2550 เวลา : 20:34  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13101

คำตอบที่ 16
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก สิงห์pajeromans 203.113.35.10 อังคาร, 2/10/2550 เวลา : 12:21  IP : 203.113.35.10   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 13117

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,4 พฤษภาคม 2567 (Online 1661 คน)