คำตอบที่ 1
       2. กินไขมันดี (Enjoy good Omega 3)

คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วนที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
      
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation 12 min a day)

หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
      
4. ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention)

การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิด ขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       รออยู่ครับ........จอมเทคนิคเทคโน....ครับพี่ Kupree

ชอบจริงๆ เลย สวยแต่ไม่ฉลาด......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      

5. หัวเราะและยิ้มบ่อย ๆ (Laugh and Smile)

ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
      
6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday)

สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็น โดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อยๆเมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
      
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress)

ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      
7. ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress)

ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
      
8. เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things inlife every day)

ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
      

9. ฝึกหายใจลึก ๆ (Deep breath)

สมองใช้ออกชิเจน 20 25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยาย ใหญ่ สามารถหายใจเอาออกชิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 %การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม




ขอขอบพระคุณเจ้าของความคิดสร้างสรรค์นี้ " คุณ วนิษา เรซ "

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      

น่าสนใจ มีโอกาสต้องลอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       แบบว่าถ้าคิดตัวเลข ช่วยบริหารสมองได้ป่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       สมองดีแล้วอย่างลืม ต้องดูประสิทธิภาพเชิงปริมาณด้วยนะครับ เราใส่ใจเรื่องสมองดีมากจนเกินไปไม่มีเวลาไปคิดอะไรที่สร้างสรรคและตั้งใจทำให้เป็นจริง ประสิทธิภาพเชิงปริมาณอาจจะต่ำลงก็ได้นะครับ แต่เรื่องนั่งสมาธิ กลัวเป็นแบบวิศวกรที่ตกเป็นข่าว นั่งสมาธิมากเสียจนเห็นภาพหลอน สติเพี้ยนกู่ไม่กลับเลย

คณิตศาสตร์ช่วยได้มากครับ แต่ต้องคิดแบบคำนวนในใจนะครับ ถ้าคิดแบบเอานิ้วมาช่วยนับตัวทด หรือ คิดแบบพ่อค้าแม่ค้า(ทำบ่อยจนจำได้ไม่ต้องคำนวน แบบของราคา 20 บาท ถ้าเขายื่นธนบัตรใบล่ะ 50 บาท ให้ เราจะต้องส่งนธนบัตรใบล่ะ 20 บาท และเหรียญ 10 บาทให้เขา) การคิดแบบนี้จะไม่ค่อยได้ฝึกสมองครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       การเล่นไพ่ จะช่วยได้มากครับ แต่ต้องเล่นแบบเกมส์ยาวๆ จนไผ่หมดกองครับ ถ้าเล่นเกมส์สั้นๆแบบไพ่ป๊อก จะไม่ได้ช่วยอะไรครับ
เพราะการเล่นไพ่นั้นเราจะต้องใช้ความจำและการคำนวนทางคณิตศาสตร์ความน่าจะเป็น เช่นไพ่ที่เสียมี Jack กี่ตัว ถ้ามี 1 ตัว จะต้องอยู่ในกอง หรือในมือคู่ต่อสู้อีก 3 ใบ หรือถ้าเราต้องการทดสอบก็ให้ลองทิ้งไพ่เพื่อจับคู่ในฝ่ายตรงข้าม ถ้าเขาไม่จับคู่แปลว่าเขาไม่มี Jack เพราะงั้น Jackต้องอยู่ในกองไพ่ที่ยังไม่ได้เปิดอีก 3 ใบ

การเล่นไพ่นั้นฝึกสมองมากครับ พวกคนแก่ที่เล่นไพ่นั้น อายุ 75 ปี ยังสามารถคิดคำนวนต่างๆได้ เหมือนคนวัยกลางคน ส่วนพวกคนแก่ที่นั่งอยู่บ้านเฉยๆไม่ทำอะไร พออายุมากๆ ก็จะมีอาการหัวสมองคิดสร้างมโนภาพไม่ได้ ขึ้หลงลืมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ถ้างั้น ต้องเริ่มหัด รำมี่ แล้วบอกคนที่บ้านว่า อย่ายุ่งนะ กำลังฝึกให้สมองไบรท์อยู่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ยอดเลยครับ..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       หัวผมมี ขี้เลื่อย ผสม ขี้เถ้า เป็นส่วนใหญ่

พอจะมีถ่านผสมอยู่บ้าง


ต้องทำยังไงมั่งขอรับ คุณกูปรี ??

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
      
เเนะนำว่าลองหาเเป้งเปียกทาน เผื่อจะไปรวมกับขี้เลื่อย + ถ่าน ให้เเข็งเป็นก้อนขึ้นมาได้บ้างครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ว่าแล้วต้องไปหาก๋วยเตี๋ยวราดหน้า กินแทน ผัดซีอิ๊วซะแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย