คำตอบที่ 1
       วัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่าต้องการหากิจกรรมอันเป็นมงคลเพื่อเฉลิมฉลองวาระมงคลนี้ และต้องการจะสืบทอดศิลปวัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา เพื่อให้ประชาชนได้ดำเนินรอยตามพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนา ที่สำคัญต้องการอนุรักษ์ดนตรีไทยโบราณอันเกิดจากการกลั่นกรองทางจิตใจของบรรพชนที่ดื่มดำกับอรรถรสและเนื้อหาทางพระพุทธศาสนาจนกลั่นกรองเกิดเป็นเสียงดนตรีที่โน้มน้าวไปสู่ความเคารพโดยไม่คิดทำลายภูมิความรู้และภูมิปัญญาให้ตกต่ำลงไป


“ซึ่งการแสดงในครั้งนี้นำมาจัดแสดงในรูปแบของดนตรีไทยพรรณนาโดยจะมีผู้บรรยายเรื่องราวของพระอินทร์ที่ออกมาจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า สลับกับการบรรเลงบทเพลงหน้าพาทย์ ซึ่งผู้ฟังทุกคนจะได้อรรถรสและมีความเข้าใจในดนตรีเพื่อการบูชา และเข้าถึงองค์แห่งการบูชาได้อย่างประณีต ”

ตามรอยบทเพลงบรรเลงชั้นสูงในการบูชา
เพลงที่จะนำมาใช้ในการบรรเลงครั้งนี้คัดเลือกจากเพลงไทยโบราณ ซึ่งส่วนมากเป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อการประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาทั้งสิ้น โดยนิยมใช้บรรเลงกันตามวัดในโอกาสสำคัญทางศาสนาเท่านั้น
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.อภิณัฏฐ์ กิติพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีกรรมและศาสนา เป็นผู้หนึ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเพลงไทยโบราณมาเป็นเวลานาน ดร.อภิณัฏฐ์ กล่าวว่าเพลงไทยโบราณนั้นน่าจะเกิดขึ้นในสมัยพระยาลิไท แห่งกรุงสุโขทัย หรือมีอายุประมาณกว่า 500 ปี


“ เพลงไทยเหล่านี้ถือเป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์ที่จะใช้บรรเลงกันในโบสถ์เท่านั้น ไม่สามารถนำออกมาร้องเล่นข้างนอกได้ หรือแม้กระทั่งฮัมทำนองเพลงก็ยังทำไม่ได้เลย ซึ่งเพลงเหล่านี้เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อยกระดับจิตใจ โดยเอาความเข้าใจในพระสูตรมาแปรรูป ซึ่งแต่ละเพลงล้วนเป็นเพลงประจำเทวดาแต่ละองค์” ดร.อภิณัฏฐ์กล่าว


ปัจจุบันนี้ดร.อภิณัฏฐ์ได้ใช้เวลาหลายปีค้นคว้าหาบทเพลงไทยโบราณได้แล้วประมาณ 84 เพลง แต่สำหรับการแสดงในครั้งนี้จะคัดสรรบทเพลงมาบรรเลงจำนวน 40 เพลง ซึ่งแต่ละเพลงนั้นนับได้ว่าเป็นบทเพลงบรรเลงชั้นสูงที่ทรงคุณค่าและหาฟังได้ยากยิ่งในปัจจุบัน เพราะครูเพลงที่ได้รับการถ่ายทอดไว้เมื่อครั้งในอดีตต่างล้มหายตายจากไปเกือบหมดสิ้น จะเหลือเพียงลูกศิษย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงร่วมสืบทอด บางบทเพลงนั้นมีครูเพลงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถบรรเลงและเล่นได้ อาทิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       “เพลงตระมัฆวาน” ซึ่งเพลงนี้มีครูเพลงเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นในปัจจุบันที่สามารถบรรเลงเพลงนี้ได้ เพราะเป็นบทเพลงบรรเลงประจำองค์พระอินทร์ และเพลงนี้จะใช้เพื่อการประกอบพิธีไหว้ครูดนตรีนาฏศิลป์ อัญเชิญเทพเจ้าเท่านั้น

“เพลงสาธุการชั้นเดียว” ในอดีตเพลงนี้เป็นเพลงที่ใช้ประกอบพิธีหลวงในการคล้องช้างของพระเจ้าแผ่นดิน โดยเป็นพิธีที่ในหลวงจะเสด็จออกไปคล้องช้าง โดยมีพราหมณ์เป็นผู้รับบทบาทนี้โดยสมมติว่าตัวเองเป็นพระนารายณ์เพื่อจับช้าง ในขณะที่พราหมณ์กำลังจับช้างอยู่นั้นต้องมีท่ารำประกอบด้วยซึ่งท่าที่ใช้ในการร่ายรำก็คือ “ท่าพัดชา” ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณบอกว่าไม่ว่าใครก็ตามที่มีโอกาสได้เห็นท่ารำท่านี้แล้วจะทำให้สิ้นซึ่งความอัปมงคลต่างๆ จะไม่เข้ามารังควานแต่อย่างใด

“เพลงสาธุการพระเจ้าเปิดโลก” เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จออกในงานเทโวโฬหนะ ในเทศกาลวันออกพรรษา ซึ่งเป็นการบรรเลงที่สื่อให้เห็นลีลาการเยื้องย่างของพระพุทธเจ้าอย่างสง่างาม เมื่อครั้งที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อมาเปิดโลกให้แก่พุทธศาสนิกชนได้ร่วมใส่บาตร

“เพลงบาทสกุณี” เป็นเพลงที่สื่อให้เห็นถึงกิริยาของพระพรหมที่เสด็จลงจากสวรรค์มาสู่โลกมนุษย์โดยใช้นกเป็นพาหนะประจำองค์

นอกจากนั้นยังมีบทเพลงไพเราะที่หาฟังได้ยากอีกหลายเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลง “ตระตัยตรึง” ซึ่งเป็นเพลงบูชาเทวดาทั้ง 33 องค์ โดยแต่ละองค์ล้วนเป็นคณะของพระอินทร์แทบทั้งสิ้น

“เพลงเสมอข้ามสมุทรสีสันดร” ซึ่งเป็นเพลงที่พระพุทธเจ้าใช้ความเพียรพยายามในการข้ามมหาสมุทรกิเลศอันกว้างใหญ่

เพลงที่ศิลปินเกรงกลัวภัยมากที่สุดจนไม่มีใครที่คิดอยากจะบรรเลงก็คือเพลง “ สยาครวญ สยาลา” ซึ่งเป็นเพลงบรรเลงก่อนถึงวาระสุดท้ายของทศกัณฐ์ โดยตามความเชื่อของคนโบราณบอกว่าทุกครั้งคนที่เล่นเพลงนี้จะต้องถึงกับต้องเสียสติไปเลยทีเดียว

อีกเพลงที่นักดนตรีมักไม่กล้าเล่นมากนักก็คือ “เพลงพิราบรอน” เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะดุดันมาก ต้องเล่นให้ดีและต้องมีเครื่องดนตรีชุดใหญ่ครบชุด รวมถึงผู้เล่นทุกคนจะต้องเล่นด้วยความพร้อมเพรียงกัน เพราะถ้าเมื่อไรก็ตามที่เล่นผิดจังหวะก็จะทำให้ผู้เล่นมีอาการหัวใจวายถึงกับสิ้นชีวิตได้

นี่เป็นความกลัวเภทภัยของแต่ละบทเพลงที่ผู้เล่นในอดีตมักไม่ค่อยกล้าเล่นสักเท่าไรจึงทำให้นานวันเข้าเพลงเหล่านี้เริ่มสูญหายไป
แต่บทเพลงที่เอ่ยเอื้อนมาข้างต้นนี้ผู้ที่เข้าร่วมในพิธีในวันนั้นจะมีโอกาสได้รับฟังบทเพลงเหล่านี้ทุกเพลงอย่างเต็มอิ่ม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รวมพลคนธรรพ์ชั้นครู

ในการแสดง“ดนตรีไทยพรรณนา เพื่อการสังคีตพุทธบูชา หัวข้อ อมรินทรามหาเทวะ แห่งพระพุทธศาสนา” ซึ่งนอกจากจะเลือกสรรดนตรีไทยโบราณชั้นสูงมาประกอบแล้ว ส่วนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือนักดนตรีที่ล้วนแล้วแต่ระดับฝีมือชั้นครูทั้งสิ้น

ผศ.เดชน์ คงอิ่ม อาจารย์ดนตรีไทย ประจำวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการแสดงดนตรีครั้งนี้กล่าวว่า นักดนตรีที่สามารถเล่นบทเพลงไทยชั้นสูงเหล่านี้ได้นั้นมีจำนวนน้อยมาก

“ในอดีตการรับลูกศิษย์จะมีความยุ่งยากมาก เพราะคนโบราณได้บัญญัติไว้ว่าผู้ที่จะมาสืบทอดมาเรียนเพลงบรรเลงเหล่านี้จะต้องผ่านการบวชเรียนมาก่อนเพราะจะได้รู้ดีชั่ว ถ้ายังไม่บวชเรียนจะต้องมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะถือว่าเพลงประเภทนี้เป็นเพลงชั้นสูง เพราะฉะนั้นคนที่เรียนจะต้องเข้าพิธีไหว้ครู ต้องให้ครูผู้ใหญ่จับมือตี เพื่อให้ลูกศิษย์จดจำไว้ในหัว ”

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ปัจจุบันจึงมีน้อยคนนักที่สามารถเล่นเพลงชั้นสูงได้ หนึ่งในจำนวนนี้คือ ครูสุรินทร์ สงค์ทอง นักดนตรีพื้นบ้านอาวุโสที่มีอายุ 70 กว่าปีแล้ว และเป็นหนึ่งในผู้ที่จะมาแสดงลีลาบรรเลงเพลงในครั้งนี้ด้วย

สำหรับนักดนตรีที่จะมาบรรเลงเพลงพรรณนาเพื่อการสังคีตพุทธบูชาครั้งนี้มีจำนวน 50 คนด้วยกัน ส่วนหนึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในดนตรีไทยและฝึกซ้อมจนเชี่ยวชาญผ่านการประกวดคว้าแชมป์ระดับประเทศมาหลายเวที รวมถึงแชมป์จากเวที “คุณพระช่วย” ก็มาร่วมบรรเลงด้วย

สังคีตพุทธบูชาเพื่อมงคลชีวิต

ในการแสดงดนตรีไทยชั้นสูงครั้งนี้จะไม่เหมือนการดูดนตรีไทยทั่ว ๆ ไป เพราะตลอดเวลา 5 ชั่วโมงเต็มของการแสดงนั้นจะมีการบรรยายประกอบ โดย ดร.อภิณัฏฐ์ รับหน้าที่เป็นผู้บรรยายแต่ละตอนสลับกับการบรรเลง เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำกับอรรถรสในบทเพลงที่เกี่ยวโยงไปถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะมีทั้งสิ้น 5 ฉาก ประกอบด้วย 40 กว่าบทเพลงที่ อ.เดชน์เป็นผู้คัดสรรขึ้นจากจินตนาการ ใช้นักดนตรีทั้งสิ้น 50 กว่าคน

และจบท้ายการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุตรงก้านพระศอ ซึ่งเป็นองค์เดียวในโลกมาให้ผู้ฟังได้สักการะ
ใครที่ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการบรรเลงดนตรีพรรณนาเพื่อการสังคีตพุทธบูชาครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการเสริมมงคลให้แก่ชีวิต เพื่อที่จะดำเนินรอยตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแสดง ดนตรีไทยพรรณนา เพื่อการสังคีตพุทธบูชา สามารถไปชมฟรีได้ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2551 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 10 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
      
งานนี้พลาดไม่ได้ พลาดแล้วไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้ฟังอีกหรือเปล่า เพลงทุกเพลงเป็นเพลงชั้นสูงหาฟังไม่ได้อีกแล้ว งานอื่นๆก็ไม่มีใครกล้าเอามาเล่น


ได้ฟังเพลงเหล่านี้โบราญครูบาอาจารย์บอกว่าเป็นมงคลแก้เสนียดจัญไรแก่ชีวิตแล้วครับ



พรุ่งนี้ใครจะไปก็โทรหาผมในงานได้เพราะผมคงจะไปถึงประมาณก่อนเที่ยง



เนื่องจากจะเป็นวาระครบรอบ 100 ปี ของพระราชวังพญาไท อันเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นสถานที่เสด็จแปรพระราชฐาน และพระราชวังแห่งนี้ยังได้ใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 5 ตราบจนเสด็จสวรรคต จนล่วงถึงรัชกาลที่ 6 พะบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงเสด็จฯ มาประทับเป็นครั้งคราว


นอกจากความงดงามอลังการทางด้านสถาปัตยกรรมของพระราชวังพญาไทแล้ว ที่แห่งนี้ยังเคยเป็น “เมืองดุสิตธานี” อันเป็นต้นแบบเมืองจำลองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของเมืองไทยอีกด้วย ความสำคัญของพระราชวังพญาไททางด้านประวัติศาสตร์และศิลปะ ทำให้ผมพลาดที่จะเก็บรูปไม่ได้อีกเช่นกัน

พบกันพรุ่งนี้ครับ ถ้าใครไปเร็วผมจะพาเดินเที่ยวชมพร้อมอธิบายเรื่องสถาปัตย์กรรมของวังพญาไทให้ฟังแถมอีกรายการหนึ่งด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      

แง...แง อดไปง่ะ

อยู่กระบี่ Company Trip

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
      

งานมงคลยิ่งนัก น่าเสียดายหากอยู่ใกล้เเล้วไม่ไปร่วมงาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ใครไป ถ้าเป็นไปได้ กรุณาอัดเสียงมาให้ฟังเป็นบุญหูหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       มาเปิดดูอีกทีก็วันที่ 24 แล้วอะครับ

เสียดายจัง ตอนเด็กๆ ผมก็เคยครอบครูดนตรีไทยครับ ตอนนั้นเล่นซออู้ แต่ถนัดขลุ่ยมากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อยากได้ประวัติ ครูเพลงไทยในอดีต

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      
ฟังเพลงบรรเลงอยู่เป็นประจำครับ
หนึ่งในเพลงบรรเลงก็มีระนาดอยู่ด้วยเสมอครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย