WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


หาแนวร่วม กรณีขึ้นราคา LPG เอาเปรียบประชาชน

จาก Getzila
IP:210.4.133.65

จันทร์ที่ , 16/6/2551
เวลา : 15:00

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       พี่น้องชาว LPG ครับ ผมมีความเห็นว่าพวกเราทั้งหลาย ถึงเวลาต้องเอาจริง เลิกเป็นสิงห์คีย์บอร์ด กระโดดจากหน้าจอคอม สู่โลกแห่งความเป็นจริงของการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม

ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควรจากสินค้าพลังงาน

ยุทธศาสตร์

1.สร้างเครือข่ายแนวร่วมประชาชนผู้เดือดร้อน ผู้ได้รับผลกระทบ โดยอาจรวมตัวกับผู้ชุมนุม/ผู้เดือดร้อนเรื่องอื่นๆ เพื่อสร้างแรงกดดันแก่ฝ่ายการเมืองและฝ่ายบริหาร ชี้ให้เห็นว่าเรามาทวงความยุติธรรมเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ

2.เผยแพร่ข้อมูลโครงสร้างราคา ชี้ให้เห็นถึงจุดที่ไม่เป็นธรรม การค้ากำไรบนความเดือดร้อนของประชาชน ขัดต่อเจตนารมณ์ในการก่อตั้งรัฐวิสาหกิจ

3.ขยายผล ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบวงกว้าง ปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้าจะตายอย่างไร

ยุทธวิธี

1.ระดมคน นำคนกลุ่มที่เดือดร้อนรวมตัวกันให้มากที่สุด กระจายไปทุกส่วน เช่น ประชาชนผู้บริโภคทั่วไป ผู้ใช้ LPG ในรถยนต์ แท็กซี่ ตุ๊กๆ ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องมีแกนกลางจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นตัวประสานการเคลื่อนไหว เช็คยอดจำนวนคนที่แน่นอน

2.ระดมทุน
-ทุนในกระเป๋าตนเอง
-ทุนจากผู้สนับสนุน ( sponsor )
อาจไม่จำเป็นต้องมากมาย แต่ใช้ในเชิงเกี่ยวกับสัญลักษณ์ เช่น ทำป้ายผ้า สติกเกอร์ โปสเตอร์ ทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหวแบบจัดตั้ง(เสบียงกรัง) และค่าฤชาธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยราชการและกระบวนการยุติธรรม (หากต้องมีการฟ้องคดี) ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายแบบมีทิศทาง

3.ระดมสมอง การต่อสู้ที่จะได้รับชัยชนะต้องใช้ปัญญา ในยุคนี้ต้องใช้ข้อมูลข่าวสาร จำเป็นต้องมีผู้รู้/ประสบการณ์ในศาสตร์สาขาต่างๆ เช่น ปิโตรเลียม บัญชี กฎหมาย เข้ามาช่วยกันคิด (เช่นที่ เว็บบอร์ดแห่งนี้ ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง) ช่วยกันจัดทำเอกสาร


D-Day ชุมนุมใหญ่ มีข้อคิดเห็นว่า น่าจะมี Step ดังนี้
1.กลุ่มตัวแทน ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีพลังงาน (พร้อมเอกสารเผยแพร่สื่อมวลชนซึ่งอาจเผยแพร่ออกไปก่อนส่วนหนึ่ง) ขออาสาสมัครตัวแทน 10-20 คน พร้อมเงื่อนไข หากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจภายใน.....
2.สมาชิกนัดชุมนุมใหญ่ สมทบกับกลุ่มอื่นๆ
3.หลังชุมนุมหากผู้มีอำนาจยังดึงดัน คราวนี้ถึงทีต้องฟ้องศาลปกครอง
Timing ที่แน่นอน น่าจะเป็นสัปดาห์หน้านี้ ยื่นหนังสือวันที่ 20 ขอคำตอบภายในวันที่ 25 มิถุนา


ติดตามที่ http://www.gasthai.com/boardgas/html/39896.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       (ร่างหนังสือคัดค้าน ก่อนที่จะฟ้องศาล ...โปรดร่วมด้วยช่วยกันคิด)

เครือข่ายประชาชนผู้บริโภคก๊าซปิโตรเลียมเหลว
มิถุนายน 2551

เรื่อง ขอให้ทบทวนมาตรการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลว (LPG)
เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ตามที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณา แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาก๊าซ LPG และมีมติเห็นชอบการยกเลิกการชดเชยราคาก๊าซ LPG เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2550 ปรับขึ้นราคาขายส่ง โดยให้ยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากการส่งออกก๊าซ LPG และยังคงนโยบายราคาก๊าซ ณ คลังเท่ากันทั่วประเทศ โดยเก็บเงินเข้ากองทุนฯ จากก๊าซ LPG ในระดับที่เพียงพอสำหรับชดเชยค่าขนส่งไปยังคลังก๊าซภูมิภาคและเห็นชอบหลักเกณฑ์การกำหนดราคา ณ โรงกลั่นก๊าซ LPG โดยกำหนดเพดานที่ต้นทุนการผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ร้อยละ 60 บวกราคาส่งออกก๊าซ LPG ร้อยละ 40 โดยให้ทยอยปรับสัดส่วนการผลิตระหว่างโรงแยกก๊าซและโรงกลั่นน้ำมันไปสู่ระดับจริง คือ 60 ต่อ 40 รวมทั้งได้มอบอำนาจให้ประธาน กบง. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบในการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม

และเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 ได้ยกเลิกการชดเชยราคาก๊าซ LPG โดยปรับราคาขายส่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1.20 บาท/กิโลกรัม จากราคา 16.81 บาท เป็น 18.01 บาท/กิโลกรัม วันที่ 4 มกราคม 2551 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธาน กบง. ได้เห็นชอบการปรับสูตรราคา ณ โรงกลั่นก๊าซ LPG เท่ากับ ต้นทุนการผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ร้อยละ 95 บวกราคาส่งออกก๊าซ LPG ร้อยละ 5 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2551 และเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2551 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เห็นชอบราคา ณ โรงกลั่นก๊าซ LPG ของเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ทำให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 20 สตางค์ จากราคา 18.01 เป็น 18.21 บาท/กิโลกรัม

ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม 2551 กบง. ได้เห็นชอบราคา ณ โรงกลั่นก๊าซ LPG ของเดือนมีนาคม 2551 ทำให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ปรับตัวลดลงกิโลกรัมละ 8 สตางค์ จากราคา 18.21 เป็น 18.13 บาท/กิโลกรัม โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551

ซึ่งคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กบช.)ได้มีมติ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2551 เห็นชอบให้ขยายเวลาการดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2550 โดยให้คงราคา ณ โรงกลั่นก๊าซ LPG เท่ากับ ต้นทุนการผลิตจากโรงแยกก๊าซฯ ร้อยละ 95 บวกราคาส่งออกก๊าซ LPG ร้อยละ 5 ของเดือนมีนาคม 2551 ไว้ จนถึงเดือนกรกฎาคม 2551หลังจากนั้น ให้มีการพิจารณาดำเนินการปรับสูตรราคา ณ โรงกลั่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และ ให้รักษาระดับราคาก๊าซ LPG โดยให้คงราคาก๊าชหุงต้มไว้ ณ ระดับราคาตามราคาอิงตลาดโลก แต่สำหรับก๊าช LPG ที่นำไปใช้ในทางอื่นๆ ทั้งหมด ให้ปรับเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ ทั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปชำระหนี้เงินชดเชยการนำเข้าก๊าช LPG จากต่างประเทศ และลดความต้องการใช้ก๊าช LPG โดยให้กรมธุรกิจพลังงานรับไปดำเนินการกำหนดรายละเอียดในหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติต่อไป

และคณะกรรมการนโยบายพลังงาน ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 55 พ.ศ.2551 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 กำหนดราคาขายก๊าซ ณ คลังก๊าซไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม กิโลกรัมละ 13.3663 บาท นั้น



เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบัน สภาวะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในช่วงตกต่ำ ประชาชนต้อง ประสบปัญหาค่าครองชีพสูง รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย หากมีการปรับราคาก๊าซ LPG ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เป็นต้นไป จะทำให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เนื่องจากก๊าซ LPG เป็นพลังงานพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับครัวเรือน และเป็นพลังงานทางเลือกสำหรับภาคอุตสาหกรรมหลักบางประเภท รวมทั้งภาคขนส่งโดยเฉพาะรถยนต์โดยสารแท็กซี่และสามล้อเครื่องจำนวนหลายหมื่นคัน หากมีการขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ LPG ย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทั้งทางตรงและทางอ้อมทำให้ราคาสินค้าและบริการโดยรวมสูงขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่มีรายได้ประจำ และประชาชนที่มีรายได้น้อย เป็นการซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำให้เลวร้ายยิ่งขึ้น ประกอบกับมาตรการใช้พลังงานทดแทนอย่างอื่น เช่น NGV เอธานอล ยังไม่เพียงพอและยังขาดความพร้อมในการนำมาใช้ตามความต้องการที่แท้จริง

เพื่อเป็นการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้บริโภคก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลว อันประกอบด้วย ประชาชนผู้ใช้ก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลวในครัวเรือน ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ใช้ก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลวในรถยนต์ ผู้ประกอบการ/ผู้เช่า รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ ตามรายชื่อที่แนบ จึงมีความเห็นร่วมกันให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาทบทวนแนวทางในการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว และนโยบายที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
1.ให้คงราคาขาย ณ คลังก๊าซ ตามประกาศคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ฉบับที่ 55 พ.ศ.2551 ต่อไป เนื่องจาก LPG ส่วนใหญ่ได้มาจากการขุดเจาะในประเทศและเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันซึ่งกระจายราคาต้นทุนนำเข้าน้ำมันดิบไปกับผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องอ้างอิงราคาตลาดโลก
2.ให้ลดค่าการตลาดของผู้ค้าปลีก โดยใช้อัตรา 2 บาท ต่อกิโลกรัม (ปัจจุบันอยู่ที่ 3.2566 บาท ต่อกิโลกรัม ) ***ยังขาดข้อมูลค่าการตลาดคู่เปรียบเทียบคือ NGV
3.ไม่ควรใช้นโยบายกำหนดราคาที่แตกต่างกัน ระหว่าง ราคาก๊าซบรรจุถังสำหรับใช้ในครัวเรือน และราคาสำหรับเติมในรถยนต์ ซึ่งจะเกิดผลกระทบในด้านความปลอดภัยจากการดัดแปลงอุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับถ่ายเทระหว่างถังสำหรับครัวเรือนกับถังในรถยนต์
4.กำหนดให้ผู้ผลิตก๊าซ LPG ซึ่งเป็นรัฐวิสาหิจผลิตสำหรับใช้ภายในประเทศเท่านั้น เนื่องจากผู้ผลิตอ้างว่าในอนาคตอาจไมเพียงพอสำหรับใช้ภายในประเทศ เพื่อจะได้ไม่ต้องนำเข้าในราคาที่สูงกว่าราคาขายในประเทศ

ทั้งนี้เครือข่ายประชาชนผู้บริโภคก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลวขอทราบคำตอบจากท่าน ภายในวันศุกร์ ที่ 27 มิถุนายน 2551

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณ
เครือข่ายประชาชนผู้บริโภคก๊าซปิโตรเลี่ยมเหลว


( )
ผู้ประสานงาน
โทร.........


รายชื่อสมาชิกเครือข่ายประชาชนผู้บริโภคก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ร่วมลงชื่อในเวลานัดชุมนุมใหญ่ครับพี่น้อง)


อันดับ ชื่อ-สกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ลายมือชื่อ


http://www.gasthai.com/boardgas/html/39840.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก getzila 210.4.133.65 จันทร์, 16/6/2551 เวลา : 15:14  IP : 210.4.133.65   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27878

คำตอบที่ 2
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Rin จาก Rin 202.12.118.61 จันทร์, 16/6/2551 เวลา : 19:42  IP : 202.12.118.61   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27891

คำตอบที่ 3
       น่าสนใจ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

bobphasit จาก bobphasit 125.26.41.112 จันทร์, 16/6/2551 เวลา : 21:10  IP : 125.26.41.112   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27902

คำตอบที่ 4
       LPG ลิตรละ 10.98 บาทเท่ากับ 617 ดอล

ปตท บอกกว่าขายให้คนไทย 320 ดอลต่อตัน
แต่ทำไมเราซื้อในราคา 617 ดอลต่อตันอยู่ล่ะ
ตกลงมันขายคนไทย 320 ดอลต่อตันตรงไหนไม่ทราบ

ผลิตได้ 340,000 ตัน เท่ากับ 340,000,000 กิโลกรัม
ภาคขนส่ง เดือนเมษายนใช้ 55,000,000 กิโลกรัม

แล้วอีก 285,000,000 กิโลกรัม ไปอยู่ที่ไหน ทำไมต้องนำเข้าอีกครับท่าน

ปตท พลังไทย เพื่อใคร




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ลูกอ๊อด 124.120.76.186 พุธ, 18/6/2551 เวลา : 22:12  IP : 124.120.76.186   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27999

คำตอบที่ 5
       เห็นด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เกียหนึ่งบางปะกง 124.157.209.250 พฤหัสบดี, 26/6/2551 เวลา : 09:51  IP : 124.157.209.250   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28431

คำตอบที่ 6
       คัดลอกมาให้อ่าน

เรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทย ไม่ว่าเป็น ดีเซล เบนซิน แก๊สโซฮอล
NGV หรือ LPG ต่างก็ยังไม่ได้ลอยตัวครับ ถ้าให้ลอยตัวเหมือนกันหมดราคาเชื้อเพลิงที่
กล่าวถึงก็คงจะขึ้นราคา แต่คงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตรครับ แต่ที่ ปตท. ซึ่งไม่ใช่หน่วย
งานของรัฐ เป็นบริษัทเอกชน เช่น เอสโซ เชลล์ มาออกข่าวว่าต้องขึ้นราคาแก๊ส LPG
อีก 11 บาทนั้น เขาอ้างอิงจากราคาตลาดโลก แต่ประเทศไทยผลิตได้เองส่วนหนึ่งจาก
แหล่งผลิตในประเทศ และจากการกลั่นน้ำมันดิบ

ประเทศในยุโรป ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย และอีกหลายประเทศ รัฐบาลเขามีนโยบาย
สนันสนุนผู้ใช้แก๊ส ทั้ง NGV และ LPG ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ในครัวเรือน หรือ
ในการขนส่ง ด้วยสาเหตุที่ว่า แก๊ส LPG และ NGV เป็นเชื้อเพลิงสะอาด (clean
fuel) หรือพลังงานสะอาด (clean energy) ลดมลภาวะในอากาศที่เกิดจากการใช้
เชื้อเพลิงประเภทเบนซินหรือดีเซล ประโยชน์ที่ได้รับจากการสนับสนุนตรงนี้คุ้มกว่าผล
เสียที่ก่อให้เกิดทางสังคม เช่นโรคทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ มาก หลายประเทศ
รัฐบาลเขาออกมาประกันราคา NGV และ LPG ว่าจะไม่ขึ้นภายในเวลาหนึ่ง เพื่อส่ง
เสริมให้ประชาชนเขาลงทุนติดตั้งระบบแก๊สในรถยนต์

ในประเทศไทย การใช้แก๊ส LPG ในรถยนต์มีมามากกว่า 20 ปีเท่าทีผมจำความได้
หรือมากกว่านั้น ถ้าจำไม่ผิดรัฐบาลเองในยุคก่อนมีนโยบายส่งเสริมการใช้ LPG เหมือน
กับประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำ

แต่มาในยุค ปตท. แปรสภาพจากรัฐวิสาหกิจที่เป็นสมบัติของคนทั้งประเทศ ไปเป็นบริษัท
เอกชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ (ด้วยการขายหุ้นราคาถูกกว่าราคาจริงเบื้องต้น เปรียบ
เสมือนเอาสมบัติของประเทศมาขายในราคาต่ำกว่าราคาจริง ให้กับพวกพ้องคนรวยไม่กี่
ตระกูล) รัฐบาลกับมีนโยบายสนับสนุนการใช้ NGV ในรถยนต์ โดยให้คำมั่นว่าจะคง
ราคา NGV ไว้ที่ กก. ละ 8.50 บาท ส่วน LPG ที่เคยส่งเสริมนั้นไม่พูดถึง แต่มา
เร็วๆ นี้ ปตท. และ รัฐบาล ออกมาอ้างว่าต้องขึ้นราคา LPG เพราะอุ้มสุดตัว และบีบ
ผ่านทาง ปตท. ไม่ให้เกิดปั้มแก๊ส LPG หรือด้วยวิธีการอื่นๆ และจะขึ้นราคา NGV อีก

... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุน
การใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG มีดังนี้

1. ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจ NGV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย ไม่มีการแข่งขัน
2. ปตท. รับซื้อแก๊สธรรมชาติ (natural gas) จากพม่าผ่านทางท่อส่งมายังราชบุรี
ซึ่งการวางท่อส่งแก๊สนี้ทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นการลงทุน
ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ปตท. ที่เรารู้กันอยู่ ปตท. จำเป็น
ต้องขาย NGV ให้มากที่สุดเพื่อคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายให้พม่าเป็นค่าแก๊ส
3. ปตท. ต้องแสดงผลประกอบการเป็นกำไร เพื่อให้ผู้ถือหุ้น (ใหญ่) พอใจ เพื่อให้ผู้
บริหาร ปตท. ได้อยู่ในตำแหน่ง ได้รับผลประโยชน์เป็นเงินเดือนค่าจ้าง สวัสดิการ ที่
สูงลิ่ว
4. นักการเมืองที่ดูแลกระทรวงพลังงาน เป็นอดีตพนักงานระดับสูงของ ปตท.
5. ปตท. สนับสนุนการใช้ NGV ด้วยการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนราคา
ถังแก๊ส NGV จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ยอมลงทุนสร้างปั้มแก๊ส NGV ให้ทั่วประเทศ และระบบ
ส่งแก๊ส NGV ไม่สามารถหาผู้ร่วมลงทุนจากเอกชนรายอื่นๆ ได้ เพราะเขารู้ว่าไม่คุ้มค่า
ทางเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของ ปตท. เอง (ขอย้ำว่า
ไม่ใช่ผลประโยชน์ต่อสังคม) อีกทั้งข้อจำกัดทางเทคนิค ไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้รถยนต์เท่า
LPG ปตท. จึงต้องหามาตรการอื่นมาบีบ

การที่ ปตท. ทำอย่างนี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจเพราะเป็นบริษัทเอกชน ย่อมหาหนทางใดๆ
ก็ได้เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น (ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ผลประโยชน์
ของสังคม) แต่การที่ภาครัฐผ่านทางกระทรวงพลังงานเลือกปฏิบัติโดยสนับสนุนการใช้
NGV ในรถยนต์สุดตัว โดยไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ เช่น ระบบการส่งแก้ส NGV
ปั้มแก๊ส NGV และบีบการใช้ LPG ในรถยนต์ ถือว่าไม่เหมาะสม รัฐบาลควรให้ข้อมูลกับ
ประชาชนอย่างถูกต้องถึงผลได้ผลเสียต่อสังคมของการใช้พลังงานทางเลือก และควร
กำกับดูแลไม่ให้บริษัทเอกชนบริษัทใดบริษัทหนึ่งเอาเปรียบสังคม

เรื่อง ปตท. บีบไม่ให้ตั้งปั้มแก๊ส LPG เป็นเรื่องจริงครับ เมื่อ 26 ธ.ค. 48 ผมคุยกับ
เจ้าของกิจการโรงบรรจุแก๊สแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เขาบอกว่าค่าการตลาดจากการขาย
แก๊ส LPG สูงคุ้มค่ากับการลงทุนเปิดปั้มแก๊สเติมรถยนต์มากกว่าการเปิดปั้มเบนซิน ดีเซล
แต่ ปตท. บีบไม่ให้ตั้ง มิฉะนั้นจะไม่ส่งแก๊ส LPG ให้ และแก๊สที่มาส่งก็มาจากแหล่งผลิต
ในประเทศที่ลานกระบือนี่เอง ส่วนการตั้งปั้มแก๊ส NGV เขาไม่กล้าลงทุน เพราะแพง
มาก มีรถยนต์ใช้น้อยไม่คุ้ม และมีอุปสรรคเรื่องระบบขนส่งแก๊ส NGV

... ทีนี้มาตอบข้อสงสัยว่าทำไม ปตท. หรือรัฐบาล ผ่านกระทรวงพลังงาน สนับสนุน
การใช้ NGV สุดตัว และพยายามบีบให้เลิกใช้ LPG
LPG สามารถกลั่นจาก น้ำมัน(ซึ่งมีต้นทุนสูงนำเข้า) และก๊าซธรรมชาติ
(ซึ่งมาจากอ่าวไทยของเราเอง)
NGV (ก๊าซมีเทน)ได้จากการแยกก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ประมาณ 66 mol% LPG
(c3+c4) 6 mol% แล้วทำไมจะไม่ควรสนับสนุนการใช้ NGV จะซื้อน้ำมันต่างชาติมาก
ลั่นทำไม

อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานที่เป็นข้อมูลราชการ ที่
http://www.eppo.go.th/info/T25.html

เรานำเข้า natural gas ปี 2005 156,733 bbl/day จากปริมาณการใช้
568,742 bbl/day หรือ 27.55 % ของการใช้ในประเทศไทย ซึ่งก็คือนำเข้าจาก
พม่า เสียเงินตราต่างประเทศให้พม่า

ข้อมูลการส่งออก LPG ครับ จากกระทรวงพลังงาน ตาราง 34 ที่
http://www.eppo.go.th/info/T34.html
ไทยส่งออก LPG ปี 2005 เฉลี่ยเดือนละ 150 ล้านลิตร เป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 8.5 %
จากปี 2004 (นั่นคือส่งออก LPG มากขึ้น) ขณะที่ปริมาณแก้ส LPG ที่ใช้ในรถยนต์ของ
ไทยประมาณปีละ 100 ล้านลิตร หรือแค่ 10% ของแก้ส LPG ที่ส่งออกทั้งปี ยังมีเหลือ
อีกมากสำหรับสนองความต้องการในประเทศซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรม


LPG ได้มาจากสามแหล่งครับ คือ หนึ่ง เป็นผลพลอยได้จากการกลั่นน้ำมันดิบทำเบนซิน
ดีเซล ถ้าไม่ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สอง ปนมากับน้ำมันดิบที่ขุดได้จากบ่อน้ำมันหรือแก้ส ถ้าไม่
ใช้ก็ต้องเผาทิ้ง สาม กลั่นจากแก้สธรรมชาติ (natural gas) ส่วน NGV ได้มาจาก
การกลั่นจากแก้สธรรมชาติ

NGV เหมาะสำหรับรถสาธารณะขนาดใหญ่เนื่องจากอุปกรณ์ยุ่งยากราคาสูงและต้องใช้ถัง
แก้สความดันสูงจำนวนมาก

จากการศึกษารายงานนโยบายการใช้พลังงานของ APEC ที่ไทยเป็นสมาชิกหนึ่งในยี่สิบ
เอ็ดประเทศ ไทยเป็นประเทศเดียวที่จำกัดการใช้ LPG และส่งเสริม NGV ในรถยนต์
ทั้งๆ ที่ผลิต LPG ได้เกินความต้องการต้องส่งออกไปขาย และยังต้องสั่งแก้สธรรมชาติ
จากพม่าเป็นปริมาณประมาณหนึ่งในสี่ของการใช้ในประเทศ

ฮ่องกง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย ต่างส่งเสริมและสนับสนุนการใช้แก้ส
LPG ในรถยนต์ ด้วยมาตรการทางภาษีและสนับสนุนราคา LPG ให้ต่ำกว่าเบนซิน ดีเซล
ประมาณครึ่งหนึ่ง ประเทศที่กล่าวมายกเว้นออสเตรเลียต่างต้องนำเข้า LPG ไม่มีแหล่ง
เองเหมือนประเทศไทย

ฮ่องกงเอง ได้เปลี่ยนให้รถแทกซี 90 เปอร์เซ็นต์มาใช้แก้ส LPG ด้วยการให้เงิน
สนับสนุน และกำลังมีโปรแกรมใหม่ที่จะเปลี่ยนรถบัสเล็ก 5,000 คันมาใช้แก้ส LPG
(ย้ำ LPG) ด้วยเงินสนับสนุนและมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล

เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตร
ส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%)
ใช้กับยานยนต์ (แบบเว่อร์ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร


ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ???

ไปอยู่ภาคครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้าน
อยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน

แล้วไอ้ที่มาโกหกปาวๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แกส ทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะ
รัฐฯ ต้องชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท (มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชด
เชยให้ใครกัน?

ชดเชยให้คนใช้รถ . 200x6 = 1,200 ล้าน
ชดเชยให้คนทำกับข้าวกิน . 1,000x6 = 6,000 ล้าน (สาธุ)
ชดเชยให้พ่อค้านายทุน ผลิตสินค้า = 1,200x6 = 7,200 ล้าน (ก็ .. ยังดี .. ของ
จะได้ไม่แพง)
ชดเชย ((Embedded image moved to file: pic06840.gif)Huh!!!!?? ชด
เชยทำไม) ให้กับการส่งออก 800x6 = 4,800 ล้าน!!!!!

บ.น้ำมัน ไม่รวยพุงปลิ้นวันนี้ ก็ไม่รู้จะพูดงัยแล้ว...

เบนซิน91 หรือเบนซิน95 ต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 100 %
แก๊สโซฮอล นำเข้าเป็นน้ำมันดิบเพื่อกลั่นเป็นเบนซิน 90 % และยังเป็นเอธานอลส่วน
หนึ่งที่เราผลิตไม่พอ ดังนั้นเท่ากับนำเข้ามากกว่า 90 % แต่รัฐบาลโปรโมตสุดลิ่มทิ่ม
กบาล
LPG ไม่ต้องนำเข้าเพิ่มเติม ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบส่วนหนึ่ง กับแยกจากแก๊ส
ธรรมชาติของไทยหรือพม่าอีกส่วนหนึ่ง มีเหลือขายต่างประเทศ
ลองใช้หัวแม่เท้าคิดดูก็แล้วกันครับ
ใช้เบนซิน 100 ล้านลิตร หรือแก๊สโซฮอล 90ล้านลิตร ก็ต้องนำเข้าน้ำมันดิบในจำนวนที่
มากกว่า
ใช้ LPG 100 ล้านลิตร ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเพราะจากกระบวนการกลั่นเหลือ
ใช้จนต้องขายต่างประเทศ
การนำLPG 100 ล้านลิตรมาใช้แทนน้ำมัน เมื่อเทียบกับการใช้เบนซิน 90ล้านลิตร หรือ
เบนซินในแก๊สโซฮอล 80กว่าลิตรแบบไหนจะเสียเงินตราของชาติมากกว่ากัน
(ให้อัตราสิ้นเปลืองLPGมากกว่าประมาณ 10 %)แบบไหนประหยัดเงินตราของชาติ
มากกว่ากัน ต่อให้คิดโดยเสมอภาคนั่นคือหากชดเชยก็ชดเชยเท่ากัน หรือไม่ชดเชยก็ต้อง
ไม่ชดเชยเหมือนกัน ค่าการตลาดต่อลิตรเท่ากัน
***จุดที่จะประหยัดเงินตราต่างประเทศมากที่สุดคือ จุดที่มีจำนวนผู้ใช้ LPG มากขึ้นจน
แทบไม่มีเหลือส่งออก เพราะเราก็ไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบมากกว่าเดิม
หากจำนวนคนที่ใช้ LPG เพิ่มขึ้นจากเดิมจนถึงจุดที่เราแทบไม่เหลือ LPG ส่งออกนอกนั้น
ใช้เบนซินหรือโซล่า หรือแม้แต่แก๊สโซฮอลก็ตาม จะต้องนำเข้าน้ำมันดิบอีกเท่าไหร่

อย่าเพิ่งไปกลัวเลยครับ ผมว่าที่ปตท ออกมาขู่เรื่องราคาแก๊ส lpg ว่าราคาจะลอยตัว
ราคาที่แท้จริงต้องบวกเพิ่มอีก 9บาท ต่อลิตร ตกลิตรละ18บาท สงสัยจะเป็นอุบาย
ของปตท ที่จะทำให้คนที่คิดจะติดlpg ลังเลใจแล้วมาติด ngvแทน เพราะปัจจุบัน ngv
ขายไม่ออก ที่เขาบอกว่าlpg ราคาขึ้นเป็น600ดอลล่า/ตัน ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆ ตันหนึ่งมี
1000 กก 1กกมี1.8ลิตร 1ตันเท่ากับ 1800ลิตร 600ดอลล่าเท่ากับ 24000บาท คิด
แล้วลิตรหนึ่งตก 13บาทกว่าเท่านั้นเอง นี่ยังไม่รวมถึงแหล่งที่มาของราคาที่เขาใช้เป็น
ราคากลางด้วยว่า600ดอลล่า/ตัน มาจากที่ไหน ที่อื่นที่ถูกกว่านี้ก็มี เช่นซื้อมะม่วงแถว
ต่างจังหวัด ราคาย่อมถูกกว่าที่ไปซื้อที่สีลมอยู่ดี อีกอย่างlpg เราก็ผลิตได้เองบางส่วน
จะมาอ้างราคาตลาดโลกได้อย่างไร ทำไมไม่ตั้งราคาขาย มะม่วงทุเรียน และผลผลิต
ทางการเกษต ที่เราผลิตได้ในประเทศ ให้มีราคาสูงเหมือนที่ขายในญี่ปุน ในอเมริกาละ
โดยอ้างราคาตลาดโลกบ้าง ขายทุเรียนลูกละซัก2000บาทไปเลยซิ คิดว่าประชาชนโง่
เหมือนควายเหรอครับ รัฐบาลอย่ามาขูดรีดขูดเนื้อประชาชนเลยครับ


นี้คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมหาทางแก้ไขอีกทั้ง รัฐบาลเราคงหวัง
เพิ่งพาอาศัยไม่ได้แล้ว

**ช่วยอัพกันหน่อยนะครับ เผื่อเพื่อนๆที่ยังไม่ได้อ่าน**



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

luck lumluka จาก Luck Lumluka 124.121.142.22 อาทิตย์, 29/6/2551 เวลา : 09:21  IP : 124.121.142.22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28595

คำตอบที่ 7
       “นายทหาร”สุดกลั้น ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ลากไส้ “รบ.โจร” ขายชาติ แฉแหลกงาบแก๊ส-น้ำมันเป็นขบวนการ ชี้ทำประเทศชาติเสียหายมหาศาลกว่า 3.5 ล้านล้าน ปูดซ้ำลักลอบขน “น้ำมันดิบ” ใส่เรือส่งไป “สิงคโปร์-อเมริกา” โดยหลีกเลี่ยงภาษี ก่อนปลุกสำนึกร่วมทวงคืน “ปิโตเลียม” ให้กลับสู่ประชาชนโดยตรง

วานนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.รัฐเศรษฐ แจ้งจำรัส ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงกรณีที่การปิโตเลียมถูกระบอบทักษิณฉ้อฉล ว่า ทันที่เศรษฐกิจของเราตกต่ำ เราจึงไปตรวจสอบแล้วพบว่า ปัญหาใหญ่เกิดจากการขึ้นราคาน้ำมัน และราคาแก๊สแพงกว่าปกติ รวมทั้งรถเมล์ขึ้นค่าโดยสารก็ขึ้นราคา อีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว

“เดิมทีปั๊มมีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นแห่ง ขณะนี้เจ๊งไปเกือบหมดแล้ว เพราะเดิมทีเขาขายน้ำมัน 7 บาท เขาได้กำไร 2.30 บาท แต่ตอนหลังเข้ายึดครองการตลาด ก็จะเห็นเพียงแต่ปั๊มใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งปั๊มบางจาก ปั๊มเจ็ท และปั๊ม ปตท.เท่านั้น ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ” พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าว

ส่วนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการปล้นน้ำมันของระบอบทักษิณนั้น พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวว่า ได้แก่รถสิบล้อ รถปิ๊กอัพ รวมไปถึงควายเหล็กของชาวบ้าน สำหรับหลักในการคำนวณน้ำมันเชื้อเพลิงที่ระบุเป็นบาเรลนั้น สามารถคำนวณได้ คือ 1 บาเรล เท่ากับ 159 ลิตร โดย 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 33 บาท ซึ่งถ้าคำนวณเป็นเงินแล้ว 1 ลิตร จะเท่ากับ 27.78 บาท แต่วันนี้บ้านเราขายน้ำมันดีเซลลิตรละ 42 บาท ซึ่งถือว่าแพงเกินกว่าปกติ และแพงที่สุดในโลก เพราะคำนวณกลับไปแล้วจะพบว่า ราคำน้ำมันจะเท่ากับราคา 202 ดอลลาร์ต่อบาเรล ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียง 138 ดอลลาร์ต่อบาเรล ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะหายนะมากยิ่งขึ้น ถ้าเราไม่รวมตัวกัน

“ในภูมิภาคของเรา มีทรัพยากรธรรมชาติอยู่มากมายมหาศาล แต่กลับต้องใช้น้ำมันราคาแพงกว่าประเทศสิงคโปร์ และหลังจากการแปรรูป ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีกำลังการผลิตน้ำมันวันละ 100 ล้านลิตร คิดคำนวณเป็นเงินแล้ว ถัวเฉลี่ยตกวันละ 2,500 ล้านบาท นี่คือปิโตเลียมบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งไม่มีใครเคยบอกเรา มีแต่บอกว่านำเข้านำมัน ดังนั้นเราจะต้องกอบกู้เอาพลังงานปิโตเลียม และน้ำมัน กลับมาเป็นของประชาชนโดยตรง ซึ่งไม่ใช่ของระบอบทักษิณ”พ.ต.รัฐเศรษฐ ระบุ

พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ คือ แหล่งน้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติ ที่เขาไม่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริง โดยวันนี้เราผลิตแก๊สธรรมชาติได้วันละ 5,000 ล้านลูกบาตรฟุต ซึ่งคำนวณแล้ว ไทยสามารถผลิตได้เฉลี่ย 138 ล้านลิตรต่อวัน แล้วยังมาอ้างว่าประเทศไทยไม่มีแก๊ส ต้องนำเข้า จนเป็นเงื่อนไขขอขึ้นราคา ขอลอยตัวแก๊ส อย่างนี้ยุติธรรมกับประชาชนหรือไม่ อีกทั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทย และบนบก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,300 แท่น ซึ่งมีทรัพย์สินประมาณ 1 ล้านล้านบาท แต่เมื่อระบอบทักษิณเอาไปแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์ขายเพียง 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งหมดเพียงระยะเวลา 1 นาที กว่าๆเท่านั้น

“ผมแทบน้ำตาไหล เพราะผมทำงานอยู่ที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน เพราะน้ำมันดิบที่ขึ้นมา เขาเอาใส่เรือวิ่งไปทางสิงคโปร์ และออกไปทางจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา ซึ่งไม่เข้าระบบกลไกภาษีของเรา เพราะมีเท่าไหร่เขารับซื้อไม่อั้น ตรงนี้มูลค่าความเสียหายมากมายมหาศาล นอกจากนี้ แม้แต่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เขาก็เอาไปไว้ที่อาคารชินวัตรชั้น 26 ที่สำคัญหลังจากที่แปรรูป ปตท.ไปแล้ว รัฐบาลซึ่งถือหุ้นใหญ่ 52 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับได้เปอร์เซ็นต์น้อยมากเพียง 3 หมื่นล้านบาท และภาษีน้ำมันรวมผลิตภัณฑ์ทุกอย่างได้แค่ 7.7 หมื่นล้านบาทต่อปี ทั้งๆ ที่ ปตท.บอกว่า ภาษีน้ำมันประมาณ 13 บาท ส่งให้หลวงหมด ซึ่ง 1 ปี ตกอยู่ที่ประมาณ 6-7 แสนล้านบาท เงินหายไป 5-6 แสนล้านบาทต่อปี รวมทั้งสิ้นเมื่อ ปตท.แปรรูป เงินหายไป 3.5 ล้านล้านบาท แล้วใครจะรับผิดชอบ”พ.ต.รัฐเศรษฐ ระบุ

พ.ต.รัฐเศรษฐ กล่าวอีกว่า ดังนั้นถ้ามีการยึดทรัพย์ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะจ่ายคืนให้กับเราวันละประมาณ 1,500 ล้านบาท ที่เราถูกโกงไปหรือไม่ ซึ่งเราไม่เคยได้รับรู้รับทราบ เพราะไม่เคยมีใครเปิดเผยข้อมูล ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะรับผิดชอบ เพราะข้อมูลข่าวสารที่ออกมานั้น เป็นของราชการทั้งสิ้น




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nopporngrit จาก Big Tui 119.42.71.192 อาทิตย์, 29/6/2551 เวลา : 11:33  IP : 119.42.71.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28599

คำตอบที่ 8
      

เอาให้หนักเลยครับ ข้อมูลแน่นๆแบบนี้ผมเห็นด้วย


กระทู้นี้ก็เล่นด้วยข้อมูลและเหตุผลให้หนักๆแบบไม่ต้องออมมือผมเห็นด้วยเอาด้วย

แต่อ่านแล้วก็เก็บอารมณ์โกรธ ปตท.ไว้บ้าง พี่น้องเราส่วนหนึ่งใน ปตท. เองก็ไม่ชอบนโยบายบริหารระดับสูงนักหรอก ใจของพี่น้องภายใน ปตท. ส่วนใหญ่ยังอยู่กับประชาชน การด่ากราดอย่างไรก็รักษาใจพี่น้องเราที่ทำงานในนั้นบ้างครับ

และอีกอย่างหนึ่งอย่าให้มีด่าตัวบุคคลหยาบคายแล่บออกมาให้ WM หนักใจเลยนะครับ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.38.22 อาทิตย์, 29/6/2551 เวลา : 14:10  IP : 125.24.38.22   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28600

คำตอบที่ 9
       อย่าเหมาพนักงาน ปตท. ทั้งหมดสิครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก โก้ ตะวันไม่เคยตาม 125.24.30.6 อาทิตย์, 29/6/2551 เวลา : 14:21  IP : 125.24.30.6   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28602

คำตอบที่ 10
       เราต้องช่วยกันผนึกกำลังกันแล้วยื่นหนังสือคัดค้านต่อรัฐสภา โดยอาจมีการชุมนุมของประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้รัฐบาลหันกลับมามองประชาชนบ้างไม่ใช่เห็นแต่ประโยชน์ของพวกพ้องอย่างเดียว แต่ถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังดื้อรั้นไม่ฟังเสียงความเดือดร้อนของประชาชน เราคงต้องชุมนุมใหญ่อาจถึงขั้นปิดถนน เพื่อให้ชาวโลกรับรู้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่สนใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน และฟ้องศาลปกครองเป็นวิธีสุดท้าย และจะชุมนุมเมื่อไรแจ้งด้วยนะครับ
ปล.หากข้อความนี้ไม่สมควรขอให้WMลบทิ้งเลยนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เกียหนึ่งบางปะกง 124.157.208.190 อาทิตย์, 29/6/2551 เวลา : 17:27  IP : 124.157.208.190   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28605

คำตอบที่ 11
      
ทำไมมีแต่ประชาชนที่รู้เรื่องและเข้าใจ

ฉงฉัยมีตังค์เยอะเลยไม่เข้าใจ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

saii จาก นิหน่อย 202.57.168.109 จันทร์, 30/6/2551 เวลา : 15:56  IP : 202.57.168.109   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28632

คำตอบที่ 12
       กองภูเขาเงินบังตาไงฮับ สักวันมันจะหล่นทับ ตาย..!!! ไม่ได้แช่ง แต่.......



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Tommy_Prerunner จาก Tommy_Prerunner 118.173.145.50 จันทร์, 30/6/2551 เวลา : 16:44  IP : 118.173.145.50   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28633

คำตอบที่ 13
       เอาใจช่วย ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก natth 118.172.178.88 จันทร์, 30/6/2551 เวลา : 17:49  IP : 118.172.178.88   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28634

คำตอบที่ 14
       เรื่องอย่างนี้ผู้รับผิดชอบหรือรับประโยชน์ตอบไม่ออกหรอกครับเพราะเงินมันจุกปากจุกอกอยู่ อย่างน้อยพวกเราช่วยกันหาขัอมูลและเผยแพร่ต่อๆกันไปก็คงจะกลายเป็นพลังที่สกัดกั้นความเลวร้ายได้บ้างนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ลุงรถเก่า 58.9.156.107 จันทร์, 30/6/2551 เวลา : 19:10  IP : 58.9.156.107   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28636

คำตอบที่ 15
       ทำมัยฝ่ายค้านไม่นำเรื่องนี้เข้าสู่สภาล่ะครับ ถ้าข้อมูลตามด้านบนเป็นจริงและหนักแน่นพอ
หรือหว้งผลแค่ปลุกระดมเพื่อล้มรัฐบาลนี้ แล้วตั้งอีกขั้วเป็นแทน

แค่สงสัยครับ ไม่มีเจตนาแอยแฝงใดๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก na 202.57.188.3 พุธ, 2/7/2551 เวลา : 00:34  IP : 202.57.188.3   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28707

คำตอบที่ 16
       เอาง่ายๆ น้ำมันดิบ 130 ดอลล่าต่อบาเรล คิดเป็นเงินไทย 35 บาท ก็จะตกอยู่ที่ 28.60 บาท/ลิตร เสียพลังงานจากการกลั่นให้เติมที่ 10% ก็จะตกอยู่ที่ 31.77 บาทต่อลิตร ให้กำไรปั๊ม ลิตรล่ะ 1 บาท 31.77บาท/ลิตร ส่วนต้นทุนโรงงานไม่ต้องมาพูดถึง เพราะ ปตท.ถอนทุนได้ตั้งแต่ก่อน ไอ้เจ๊กตัวนั้นแปรรูปแล้ว ค่าขนส่งคิดไปที่ระยะทางแล้ว ภาษีดีเซลร้อยละ 1 คิดเป็น 32.1บาทต่อลิตร ราคาขายปัจุบันอยู่ที่ 43 บาท

ผมสงสัยว่า ค่าจ้างแรงงาน นี่ต้องคิดกำไรสูงถึง 10.9 บาทต่อลิตร เลยหรือครับ ดูแล้วมันแพงโคตร ค่าแรงคิดเป็น ร้อยละ 33 ของต้นทุน ทั้งๆที่ขบวนการผลิตมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ขนาดโรงงานที่ผลิตสินค้าความซับซ้อนสูงใช้ขบวนการผลิตเยอะ ยังไม่ได้กำไรขนาดนี้เลย

รัฐวิสาหกิจคือองค์กรของรัฐทำเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่หวังผลกำไร แล้วแบบนี้จะควรอยู่หรือไม่ที่จะโฆษณาว่า พลังไทยเพื่อไทย ต้องโฆษณาว่า พลังไทยเพื่อส่วนแบ่งระดับบิ๊กและโบนัสพนักงานมากกว่า ปี 2548 โบนัสพนักงาน 10 เดือน แล้วบวกว่าเป็นรัฐวิสาหกิจได้อย่างไร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เปิด google แล้วมาเห็นพอดี 222.123.234.148 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 16:56  IP : 222.123.234.148   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28836

คำตอบที่ 17
       เพราะฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลครับ ขืนฝ่านค้านเอามาอ้างออกทีวีก็โดนฟ้องหมิ่นประมาท (ท่านนายกคนนี้ยิ่งมีนิสัยแปลกๆ ปลดเสรี พล.ต.อ.พิสุทธิ์ คนที่ประชาชนยอมรับทั้งประเทศออกจากราชการ แล้วเอาตระกูลอยู่บำรุงซึ่งคนเกลียดกันทั้งประเทศกลับเข้ารับราชการทั้งโคตร)

จะพูดโดยไม่มีหลักฐาน และไม่โดนฟ้องหมิ่นประมาทได้ ก็ต่อเมื่อพูดในสภาเท่านั้นครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เปิด google แล้วมาเห็นพอดี 222.123.234.148 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 17:04  IP : 222.123.234.148   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28837

คำตอบที่ 18
       “รมว.พลังงาน เงา” แฉต้นเหตุก๊าซขาดแคลนหนัก “ผู้ค้ารายใหญ่” อินไซเดอร์ข้อมูล แอบกักตุน LPG ล่วงหน้า หวังเรียกเงินชดเชย 323 ล.

วันนี้ (3 ก.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังสับสนในการแก้ปัญหาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ขาดตลาด ซึ่งหลังจากประกาศว่าจะขึ้นราคาส่งผลให้มีการกักตุนแก๊สจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน พร้อมกันนี้ ตนมีข้อมูลที่พบว่าปริมาณก๊าซ LPG ในประเทศไทยไม่ขาดแคลน แต่เป็นเพราะมีการกักตุนสินค้า

กรณีที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงควรเข้าตรวจสอบ ว่า ปตท.หรือผู้ค้าตามมาตรา 7 กักตุนหรือไม่ ทั้งนี้กรณีที่รัฐบาล ระบุว่า แก๊สขาดแคลนนั้นเป็นการอ้างตัวเลขในเดือน เม.ย.ที่มีการนำเข้าแก๊ส LPG 22,000 ตัน แต่เมื่อตรวจสอบในสต๊อกพบว่ามีก๊าเหลือ 110,000 ตัน จึงเชื่อว่าก๊าซไม่ขาดแคลน

นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยให้ ปตท.ถึง 323 ล้านบาท ในการนำเข้า อย่างไรก็ตาม ตนตั้งข้อสังเกตว่าการไม่ปล่อยก๊าซออกขายเป็นกลยุทธ์เพื่อให้ได้เงินชดเชยหรือไม่

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เงา (ครม.เงา) ในวันนี้ ครม.เงา ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยรัฐบาลควรแก้ปัญหาให้ทันสถานการณ์ ซึ่งหากก๊าซในสต๊อกมีมากก็ไม่ควรนำเข้าเพิ่มเติมอีก พร้อมให้ชะลอการขึ้นราคาก๊าซ LPG ในภาคการขนส่งจนกว่าจะบริหารจัดการก๊าซ NGV ให้มีความพร้อม




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.10.39 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 23:11  IP : 125.24.10.39   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28923

คำตอบที่ 19
       ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Nong Meta 203.146.162.37 ศุกร์, 4/7/2551 เวลา : 08:34  IP : 203.146.162.37   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28927

คำตอบที่ 20
       ขอบคุณ คุณ Luck Lumluka คต.ที่ 6 ที่คัดลอกมาให้อ่านเพราะว่าในผู้จัดการออนไลนส์ โดนลบไปแล้วครับ สงสัยกลัวประชาชนจะรู้ความจริงมั้งครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก earthwind 58.137.23.193 ศุกร์, 4/7/2551 เวลา : 14:44  IP : 58.137.23.193   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28945

คำตอบที่ 21
      
ข้อมูล นี้ จริง และยืนยันได้ ไหมครับ หากจริง รายการ ข่าว ต่างๆ ทำ ไม ไม่ช่วย กันลง ว่า สนับสนุน อะไร อย่างเช่น รายการ สรยุทธ์ให้ ต่อสาย ถาม รัฐมนตรี พลังงาน ว่า จริง หรือ หลอก เพราะ ข้อมูลจริง แล้ว ทำกับประชาชน ได้ อย่างไร หนังสืิ พิม รายการ ข่าว ต่าง จะช่วย กัน ส่ง ไป ให้ รับรู้ กัน มากๆ แต่ ต้องของจริง นะครับ ช่วยกัน เพื่อ ประชาชน

เราผลิต LPG ได้ปีละประมาณ 3,200 ล้านลิตร ส่งออกประมาณ 800 ล้าน (25%) ใช้กับยานยนต์ (แบบเว่อร์ ๆ 2 เท่าเลย) 200 ล้านลิตร ที่เหลืออีก 2,200 ล้านลิตร หายไปไหนครับ???

ไปอยู่ภาคครัวเรือน ให้ประชาชนใช้หุงต้ม 1,000 ล้าน

อยู่ภาคอุตสาหกรรม ทำอาหาร ทำแก้ว หลอมโลหะ ฯลฯ อีก 1,200 ล้าน

แล้วไอ้ที่มาโกหกปาว ๆๆๆ ว่า รถยนต์ใช้แก๊ส ทำให้โครงสร้างพลังงานเสียหาย เพราะรัฐฯ ต้องชดเชยถึงกิโลละ 11 บาท .. หรือลิตรละ 6 บาท (มาได้งัยก็ไม่รู้) .. ชดเชยให้ใครกัน?



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก คนช่างสงสัยอยาก ให้ ประเทศ เจริญ 58.8.162.244 จันทร์, 7/7/2551 เวลา : 17:13  IP : 58.8.162.244   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29043

คำตอบที่ 22
       ข้อมูลทุกอย่างที่อยากรู้อยู่ที่

www.lpgthailand.com



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก getzila 210.4.133.65 จันทร์, 7/7/2551 เวลา : 17:43  IP : 210.4.133.65   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29045

คำตอบที่ 23
       คุณ #16 ลืมค่าภาษีและกองทุนนะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก แวะมา 210.246.80.99 พุธ, 9/7/2551 เวลา : 00:15  IP : 210.246.80.99   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 29132

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,20 เมษายน 2567 (Online 6113 คน)