คำตอบที่ 211
      
ระหว่างรออ.von ก็มาเบรคลูกกะตาด้วยสาวเอวอรชรอ้อนแอ้นกันหน่อย...

เหล่านางอัปราที่ปราสาทบายน..

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 212
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 213
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 214
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 215
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 216
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 217
      
เขยิ้บ... เขยิ้บ... เขยิบ.. เข้าไปนี๊ดสสส...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 218
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 219
      
ตานี้มาดูนางรำกับบ้าง..

เอวอ่อน.. เอวคดขนาดไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 220
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 221
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 222
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 223
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 224
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 225
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 226
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 227
      
ดูจนหู..ตาลายหมดแล้ว ไม่รู้ว่าต่างกันมั๊ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 228
       ปี พ.ศ. 1838 หรือเมื่อเจ็ดร้อยปีก่อนเป็นปีที่คณะราชทูตจีน สมัยราชวงศ์หงวน เดินทางไปถึง พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อพระเจ้าศรินทรวรมันโจวต้ากวาน หนึ่งในคณะทูตจีน บันทึกเรื่องราวกว่าหนึ่งปีที่อยู่ในเจินละว่า เคยเห็นขบวนพระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกนอกพระราชวังสี่ห้าครั้ง


ต่อไปนี้ เป็นถ้อยคำสำนวนจีน เขียนโดยโจวต้ากวาน แปลไทยโดยคุณเฉลิม ยงบุญเกิด จากหนังสือชื่อ บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจินละ

มีกองทหารแน่นขนัดนำหน้า ขบวนธงทิวและขบวนดุริยางค์ตามมาข้างหลัง หญิงชาววังตั้งแต่ 300 ถึง 500 คน นุ่งผ้ายกดอก ผมประดับดอกไม้ มือถือเทียนเล่มใหญ่ รวมกันเป็นขบวนหนึ่งโดยเฉพาะแม้จะเป็นเวลากลางวันแสกๆ ก็จะจุดเทียนนั้นยังมีขบวนหญิงจากวังทั้งหมดเชิญเครื่องราชูปโภค ทำด้วยเงินและทองคำ และพระเครื่องที่ตกแต่งมีลักษณะต่างๆ กัน ยังมีชาววังถือหอกกับโล่ เป็นทหารฝ่ายใน เป็นอีกขบวนหนึ่งโดยเฉพาะ มีรถเทียมแพะ รถเทียมม้า ประดับประดาด้วยทองคำทั้งสิ้นพวกขุนนางและเจ้านายขึ้นช้างอยู่เบื้องหน้า เห็นสัปทนสีแดงนับจำนวนไม่ถ้วน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 229
       ต่อมาก็เป็นพระมเหสีและพระสนม บ้างก็นั่งสีวิกา บ้างก็นั่งเกวียน บ้างก็ขึ้นช้าง บ้างก็ขี่ม้า มีกลดประดับทองคำร้อยกว่าคันเบื้องหลังก็คือ พระเจ้าแผ่นดินประทับยืนอยู่บนหลังพระคชาธาร พระหัตถ์ถือพระขรรค์กายสิทธิ์ งาของพระคชาธารสวมปลอกทองคำ มีฉัตรสีขาวประดับทองคำ 20 กว่าคัน ล้วนแต่ด้ามทำด้วยทองคำทั้งสี่ด้านห้อมล้อมด้วยช้างมากมายแน่นขนัด และมีทหารม้าคอยรักษาพระองค์ผู้ที่ยืนชมพระบารมีอยู่เบื้องหน้า จะต้องคุกเข่าลงกับพื้นกระทำเบญจางคประดิษฐ์ มิฉะนั้นจะถูกพนักงานจับกุมตัว"นอกจากเห็นขบวนเสด็จกับตาสี่ห้าครั้ง

โจวต้ากวานยังรู้ด้วยว่า ทุกวันพระเจ้าแผ่นดิน จะเสด็จมาโดยพระราชยานทองคำคันเล็ก ออกว่าราชการวันละสองครั้งพระเจ้าแผ่นดินเขมรพระองค์นี้ ชาวเขมรร่ำลือกันว่า ทรงฝังเหล็กศักดิ์สิทธิ์ ไว้ในพระวรกาย แม้มีดหรือลูกศร หากมาต้องพระวรกาย ก็มิอาจทำอันตรายได้

โจวต้ากวานรู้ลึกไปถึงข่าววงในที่เกิดในอดีตด้วยว่า พระเจ้าแผ่นดินองค์นี้ เป็นทั้งผู้บัญชาการทหาร และเป็นบุตรเขยพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อผลัดแผ่นดิน พระราชธิดาได้ลักพระขรรค์ทองคำ พระขรรค์ชัยศรี สัญลักษณ์แห่งการใช้พระราชอำนาจ มาให้พระสวามีราชสมบัติแทนที่จะตกไปถึงพระราชโอรส ก็ตกกับพระสวามี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 230
       เมื่อราชโอรสรวบรวมคนวางแผนยึดอำนาจ พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ก็จับตัดนิ้วเท้า และขังไว้ในคุกมืด

เรื่องราวพระเจ้าอินทรวรมัน แผ่นดินเขมรองค์นี้ บังเอิญคล้ายประวัติพ่อขุนผาเมือง ในศิลาจารึกหลักที่สองของสุโขทัย ที่จารึกว่า พระองค์ เป็นพระราชบุตรเขยผีฟ้า เจ้าเมืองยโสธรปุระจุดเกินของประวัติศาสตร์เขมร บังเอิญไปเติมส่วนขาดประวัติศาสตร์สุโขทัยตอนที่พ่อขุนผาเมือง ไม่ครองเมืองสุโขทัย ยกให้พ่อขุนบางกลางหาวได้พอดี


อาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม บอกว่า ศาสตราจารย์มาชุมดาร์ นักปราชญ์อินเดีย และหม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี นักปราชญ์ ไทย เสนอความคิดว่า พ่อขุนผาเมือง ไม่รับเมืองสุโขทัย เพราะมีเป้าหมายใหญ่อยู่ที่อาณาจักรยโสธรปุระ ของขอม นี่เอง.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 231
       เป็นอย่าไรบ้างครับเรื่องของพ่อขุนผาเมืองของเราที่เกรียงไกรขนาดพระเจ้าชัยวรมันที่7ยอมส่งลูกสาวและพระขรรค์มาให้เพื่อผูกไมตรีไว้

และลูกเขยพระเจ้าชัยวรมันที่7 คนนี้ได้ครองเมืองนครธมของขอมในเวลาต่อมา ในช่วงเวลานี้เองที่หลายๆอย่างของขอมได้เปลี่ยนไปคือ

พุทธศาสนาได้ลงรากฐานในเมืองนครธมอย่าถาวร และเป็นพุทธแบบหินยานเหมือนสุโขทัยเสียด้วยทำให้ต้องปักใจเชื่อไปอีกว่าท่านมาจากทางเหนือของบ้านเรา

ท่านได้ยกเลิกการสลักจารึกลงหินเหมือนสมัยก่อนแล้วใช้การจารลงใบลานแทน อันนี้ก็ไทยๆไม่ใช่ธรรมเนียมขอมแต่โบราณเลย

เป็นยุคสุดท้ายของการสร้างปราสาทหินหลังจากนี้ก็ไม่มีแล้ว

ในประวัติศาสตร์ไทยช่วงสุโขทัยได้จารึกไว้ว่าสุโขทัยได้คานอำนาจขอมนครธมได้สำเร็จไม่สามารถมีอำนาจเหนือสุโขทัยได้อีก

แต่ในมุมมองอันนี้สุโขทัยไม่ได้คานอำนาจเป็นแต่เพียงว่าคนไทยเข้าไปครองอาณาจักรขอมเสียเลยทำให้ไม่ต้องมารบกันอีกให้เปลืองเลือดเนื้อ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 232
       ผมขอมองต่างมุมกับ อาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ศาสตราจารย์มาชุมดาร์ และหม่อมเจ้าจันทร์จิรายุ รัชนี สักเรื่องครับ

ผมเชื่อว่าพระเจ้าอินทรวรมันที่3 น่าจะเป็นพ่อขุนผาเมืองของพวกเราดอดไปเป็นครองเมืองขอมจริงอย่างที่ประเมินเอาไว้นั่นแหละ แต่ผมสงสัยเรื่องบางเรื่องครับ

เรามามองปีที่พ่อขุนผาเมืองกับพ่อขุนบางกลางหาวตีสุโขทัยคืนจากขอมคือปี พ.ศ.1781 ซึ่งเป็นลูกเขยพระเจ้าชัยวรมันที่7 ไปเรียบร้อยแล้วน่าจะอายุประมาณแถวๆยี่สิบปลายหรือสามสิบ แต่พระองค์ขึ้นครองราชที่นครธมในปีที่พระเจ้าชัยวรมันที่8 สวรรคตคือปี1838 นั่นคือห้าสิบเจ็ดปีหลังพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ครองเมืองสุโขทัย ถ้าเป็นจริงพ่อขุนผาเมืองก็เกือบเก้าสิบแล้ว

เป็นไปไม่ได้ครับยกเว้นแต่ปีของไทยกับปีของจารึกขอมไม่ตรงกัน นักประวัติศาสตร์น่าจะชำระตรงนี้บ้าง

นี่เองทำให้นักประวัติศาสตร์บางท่านยัดให้ท่านเป็นลูกเขยพระเจ้าชัยวรมันที่8เพื่องโยงเรื่องให้ท่านครองเมืองขอมในวัยกลางคน แต่อย่างที่ผมบอกไว้ว่าท่านเป็นลูกเขยพระเจ้าชัยวรมันที่7ถ้านับตามปีที่สถาปนาราชวงค์พระร่วงของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์

เห็นหรือเปล่าว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องสนุกถ้ารู้จักคิดตามไม่ใช่อ่านหรือฟังจากนักวิชาการอย่างเดียว

ผมสนุกกับประวัติศาสตร์ของผมอย่างนี้แหละ เล่นอย่างไรก็ไม่เซ็งเหมือนเรียนแบบท่องตอนเด็กๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 233
       ตอนนี้ผมขอพาเดินชมปราสาทบายอยต่อครับหลังจากฝอยเรื่องสุโขทัยและนครธมเชื่อมต่อประวัติศาสตร์กันได้อย่าไร

ผมอยากให้ดูน้องอัปสรารูปนี้ครับ ดูแล้วเหมือนรูปอื่นๆแต่เหนือน้องขึ้นไปเป็นรูปตัวยึกยืออะไรก็ไม่รู้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 234
       ดูเหมือนตัวอะไรแปดขา อยู่บนพาน

ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะสลักภายหลังจากสลักนางอัปสราแล้วเพราะว่าฝีมือและความละเอียดต่างกันมาก ตัวยึกยือเหมือนเด็กซนๆมาสลักไว้แต่ดูแล้วมันค้านฝีมือกับพานดอกบัวด้านล่างและลายซุ้มเรือนแก้วที่ครอบอยู่

นี่แหละหลักฐานครับ ไม่ใช่ เป็นมนุษย์ต่างดาวมาสร้างนครธมหรอก แต่เป็นการทำลายพระพุทธรูปที่พระเจ้าชัยวรมันที่7 สลักเอาไว้โดยสลักแมลงทับพระพุทธรูปเสียเลย น่าจะเป็นฝีมือสั่งการของพระจ้าชัยวรมันที่8 ที่ยังนับถือฮินดูอยู่

ลองดูรูปสลักที่เสา 220 และ 222 ดูจะเห็นตัวอย่างการทำลายรูปพระพุทธที่ผมว่าไว้อีกสองเสา

นี่แหละที่ผมกับรุจเดินไม่เหมือนชาวบ้านกลุ่มทัวร์ที่ไปเที่ยวนครธมเขาเดินกัน
ผมเดินแบบไม่มีเวลามาบีบหัวให้ต้องไปหลายๆที่เอาจำนวนเข้าว่า และไม่เดินชะโงกทัวร์แบบกลุ่มทัวร์ ผมเดินแบบดูทุกหยาดหยดของปราสาทบายอน เดินแบบนี้สนุกว่าตั้งเยอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 235
       ดูน้องอัปสราคนนี้ยิ้มสิครับ มองอย่างไรก็อารมณ์ดี ให้บูดอย่างไรเห็นน้องเขายิ้มแล้วก็หายบูด

ผมมองแล้วดูดีเลยเลือกรูปมาให้ดูกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 236
       ผมกำลังจะเดินออกจากปราสาทบายอนแล้วครับ ปราสาทเดียวพาเดินไปเกือบสิบวัน แล้วอีกสิบปราสาทที่เหลือจะเดินได้อีกกี่วัน

ผมว่าถ้าตามอ่านตามเดินให้ครบทุกปราสาทเพื่อนๆที่อ่านครบทุกตอนต้องแน่นเรื่องประวัติศาสตร์ขอมแน่ๆ

ยังมีเรื่องสนุกๆเรื่องพระเจ้าชัยวรมันต้องสมสู่กับนางนาคทุกคืนและพิธีทำลายพรรหมจารีของเด็กสาวที่โจวต้ากวนพบเห็นเขียนไว้อีก เดินตามมาเลยครับ ออกจากปราสาทบายอนแล้วเดินเข้าปราสาทบาพวนได้ฟังสองเรื่องนี้แน่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 237
      
หุ.. หุ ปราสาทบายนมี Spider Man ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 238
       ที่เห็นคือห้องสมุดข้างปราสาทบายอนครับ ผมนึกถึงเรื่องฟลิ้นสโตนที่หนังสือพิมพ์ก็ยังเป็นหิน ข้างในต้องเป็นหนังสือหินแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมคิดตลกๆเล่นแก้เซ็งที่เพิ่งทำกล้องตกพื้นพังไปไม่ถึงชั่วโมงก่อนถ่ายรูปนี้

แต่ขอมไม่ใช่แบบที่ผมคิดตลกๆนี้หรอกครับ ขอมจารึกใส่ใบลานหรือผ้าเหมือนบ้านเราใช้นั่นแหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 239
       ผ่านกำแพงระเบียงรายอีกรอบ ได้ดูการศึกของพระเจ้าชัยวรมันที่7 อีกครั้งก่อนออกไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 240
       เต็มอิ่มกับประวัติของพระองค์อีกสี่รูปก่อนออกไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย