คำตอบที่ 532
อยากให้อ่านตรงนี้นินึงนะครับ จาก
http://www.frybrid.com/forum/printthread.php?t=1055
ความคิดเห็นของคุณ craigreece - water separation เขียนเอาไว้เมื่อ 06-15-2005 10:53 AM
"I've only got one experience with this: I had a customer with a '98 Mercedes, and he got offered 80 - 55 gallon drums (!) of new but out of date olive oil for 50 cents a
gallon, and decided to go into the SVO business. He bought the oil, then got a call from the olive oil sellers letting him know that they'd heard from another customer that
there was water in the oil. He asked me what to do, and I told him to get his frickin' money back, that getting rid of the water was more trouble than it was worth, and to
only buy oil from them known to be free of water. He disregarded my advice, filled his tank with about half water and half olive oil (as was determined when the tank was
drained) drove about two blocks, and the car stopped dead. The Vormax prefilter was drained of it's obvious water, the spin-on Racor filter and the stock Mercedes fuel filter
were changed, the tank and fuel lines were drained and flushed and the car was fine. I *assume* that either the stock Mercedes filter and/or the Vormax filter took on so
much water that the filter media swelled to the point that the SVO-water mixture wouldn't pass through. The fact that the car started immediately when the filters were
changed and that there was no water in the engine oil, which was changed just in case any water made it to the IP would seem to indicate that the car didn't stop running
because of hydrolocking.
This is obviously an extreme example but would seem to suggest that given enough water in SVO or diesel, the filter media will swell - or at least that some filter media will."
อ่านเอาสรุปคร่าวๆ ก็คือว่า;
1. Filter แม้จะดีเพียงใดก็จะทำการดักน้ำได้ในกรณีที่มีน้ำผสมไม่ได้มากเท่านั้น เพราะถ้าปริมาณน้ำ-น้ำมันอยู่ที่ 50% - 50% ไส้กรองจะตันเร็วมาก และสุดท้ายเค้าก็จะน๊อคไป
2. ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายแล้ว น้ำและสิ่งปลอมปนก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในห้องเผาไหม้ได้ ถ้าใช้ไส้กรองคุณภาพพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีข้อความนึงที่น่าสนใจ "Because of the inherent nature of the fuel and the refining process, biodiesels can contain a relatively high level of particulate matter
especially in the 10-20um particle size range, which can be the most damaging to the fuel injectors and injection system." (จาก
http://www.engineeringtalk.com/news/pkf/pkf182.html)
หมายความว่า เนื่องจากตัวของ Process ในการผลิตเองนั้นทำให้ Biodiesel (คิดว่าน่าจะรวมไปถึง Vegetable Oil ด้วย) จะมีสิ่งปนเปื้อนขนาด 10-20 micron อยู่ ซึ่งสามารถทำให้เครื่องหลวม,
มีปัญหาในอนาคตได้ ทั้งนี้ผมเข้าใจว่า particle ขนาดนี้ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งต้องใช้เครื่องมือวัดชนิดพิเศษ - เครื่องมือนี้จะให้น้ำมันวิ่งผ่านท่อแล้วจะยิงแสง Laser เข้าไปเหมือน
เป็นการถ่ายภาพของ Particle ซึ่งจะได้เป็นขนาดและจำนวนออกมา
และก็พบว่าที่อเมริกาได้มีการทำธุรกิจในส่วนของ VO (Vegetable Oil) กันอยู่แล้ว ขอย้ำนะครับว่า Vegetable Oil 'ไม่ใช่' Biodiesel (B100) นะครับ ซึ่งขออ้างอิงจาก
http://www.engineeringtalk.com/news/pkf/pkf182.html
"one thing that biodiesel is not is vegetable oil. That is the raw material - commonly rape seed oil in Europe or soya bean oil in the USA - which is then converted by a
chemical process known as transesterification into fatty acid methyl esters (FAME) that can be either be blended with conventional (petroleum) diesel to run in existing
engines, or used neat as 100% biodiesel (known as B100) in specially adapted engines."
ตรงนี้คิดว่าความแตกต่างคือที่เมืองนอกเค้าใช้ rape seed oil กับ soya bean oil เป็นหลัก ซึ่งน่าจะไม่ได้ 'lean' หรือมีประสิทธิภาพที่ทำให้เครื่องสะอาดเหมือนน้ำมันปาล์มที่เราๆท่านๆใช้ๆกันอยู่
สรุป:
1. น้ำ และ สิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำมัน (ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะลดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ (ต้องโอเวอร์ฮอนเร็วขึ้น) และทำให้เปลืองน้ำมันมากขึ้น (เนื่องจากแรง
อัดไม่เท่าเดิม / รั่ว) ตรงนี้ผมพยายามหาข้อมูลว่าจะมีเท่าไหร่ก็ยังไม่เห็นมีใครแจ้งเอาไว้ กรุณาดูรูปประกอบ จะพบว่าไม่ได้แจ้งในส่วนของ Contamination ว่ามีตะกอนขนาดอะไรบ้างอยู่เท่าไหร่
(10 - 20 micron) และในตารางของน้ำก็ไม่มีใครบอกได้ว่าปนเปื้อนอยู่เท่าไหร่
2. Vegetable Oil ในต่างประเทศอาจจะเอามาใช้เลยไม่ได้เพราะเค้าไม่ได้ใช้น้ำมันปาล์มเป็นหลัก โดยจะต้องผ่านขั้นตอน Transesterification กับ FAME (fatty acid methyl esters) ก่อน แล้ว
ค่อยมาใช้ได้ในชื่อ B100
3. ควรระวังพวก Seal ณ จุดต่างๆ เพราะว่า Biodiesel จะกัดกร่อน Seal ต่างๆเร็วกว่าน้ำมันปิโตรเลียม
4. แนะนำให้ใช้ Filter แบบมี Heater ติดตั้งอยู่เลย เพื่อจะได้มั่นใจว่าน้ำมันที่เข้าไปกรองนั้น ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว - น่าจะแก้ปัญหาเครื่องยนต์สตาร์ทติดยากตอนเช้าๆ หรืออากาศเย็นๆ
ที่มา;
Filters boost biodiesel applications - http://www.engineeringtalk.com/news/pkf/pkf182.html
Water separation - http://www.frybrid.com/forum/printthread.php?t=1055
ปล. ชักง่วงนอน เขียนผิดๆ ถูกๆ อย่าว่ากันนะครับ
