WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ไปดูวัดสวยที่วัดกาญจนาภิเศกบางใหญ่
baron
จาก von Richthofen
IP:125.25.79.135

จันทร์ที่ , 14/4/2551
เวลา : 23:51

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       วันสงกรานต์ยุทธการยึดกรุงเทพฯคืนจากกองกำลังต่างจังหวัด ไปไหนก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมงถึง กรุงเทพฯน่าอยู่ขึ้นเยอะ ไปทำบุญไหว้พระในกรุงเทพฯสะดวกสบายเลยไปทำบุญเลี้ยงพระสองวันติดต่อกัน

วันแรกไปทำบุญเลี้ยงเพลพระที่วัดชนะสงครามแล้วหลังอาหารกลางวันที่แม่ชีจัดโต๊ะมาให้จนอิ่มแล้วจุดหมายต่อไปคือวัดกาญจนาภิเศกบางใหญ่ใกล้ๆแค่นี้เอง

วัดสวยสมคำร่ำลือ เป็นวัดจีนมหายานสาขาของวัดเล่งเน่ยี่






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  4  

คำตอบที่ 31
       ขาดไม่ได้คือเสียงหัวเราะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:40  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24135

คำตอบที่ 32
       พุทธเกษตรหมื่นองค์





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:41  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24136

คำตอบที่ 33
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:42  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24137

คำตอบที่ 34
       พระอมิตตาภพระพุทธเจ้า พระอวโรกิเตศวร พระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:42  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24138

คำตอบที่ 35
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:43  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24139

คำตอบที่ 36
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:44  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24140

คำตอบที่ 37
       กลับแล้วครับ เดินลงมาจากวัด





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:45  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24141

คำตอบที่ 38
       ไปซนมากจนโดนเซียนเข็กหัว





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:46  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24142

คำตอบที่ 39
      


จบแล้วครับ ได้ไหว้พระสมใจ ตอนเช้าวัดหินยาน ต่อนบ่ายวัดมหายาน



คนเข้าใจนานาสังวาสชีวิตก็ไม่มีขีดจำกัดแบบนี้แหละ









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.25.79.135 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:49  IP : 125.25.79.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24144

คำตอบที่ 40
      


ภาพงดงามมากครับ




ว่าเเต่เจ้าป้า เเฟชั่นซัมเมอร์กับบูทด๊อกมาร์ติ้นเหรอครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 00:58  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24146

คำตอบที่ 41
       พุทธศาสนามหายาน เป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธที่แพร่หลายใประเทศ จีน ธิเบต เกาหลี ญี่ปุ่น เวียตนามและไทย
พระภิกษุนิกายนี้ นับถือพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวกับนิกายหินยาน หรือที่เรียกกันว่า เถรวาท

หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วประมาณร้อยปี ได้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันขึ้นในหมู่คณะสงฆ์
มีภิกษุคณะหนึ่งเรียกว่า ภิกษุวัชชีบุตร อยู่ที่นครเวศาลีได้ถือเอาถ้อยความอันปรากฏในมหาปรินิพพานสูตรว่า

"ดูก่อน อานนท์ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา ถ้าสงฆ์ต้องการก็จงถอนสิกขาบทเล็กน้อยเสียบ้างก็ได้"
ความว่าถ้าภิกษุท้งปวงเห็นพ้องกันว่า พระวินัยบทใดที่ทรงบัญญัติไว้ ประพฤติ ปฏิบัติไม่สะดวก ให้แก้ไขได้
ภิกษุวัชชีบุตรจงถือโอกาสแก้ไขพระวินัย 10 ข้อ เรียกว่า "วัตถุ 10 ประการ"
ฝ่ายที่เห็นชอบก็มี ไม่เห็นชอบก็มี
การถือพระวินัยจึงมีความเห็นแตกต่างกันสองฝ่าย คือ

ฝ่ายหนึ่งปฏิบัติตามพระธรรมวินัยตามที่พระอริยสาวกได้ทำสังคายนาไว้
ภิกษุสงฆ์คณะนี้จึงได้ชื่อว่าเถรวาท หรือ หินยาน
อีกฝ่ายปฏิบัติตามพระธรรมวินัยตามที่พระอาจารย์ได้แก้ไขในชั้นหลัง
ภิกษุสงฆ์คณะนี้เรียกว่า อาจริยาวาทหรือมหายาน

เถรวาท เจริญแพร่หลายอยู่ทางตอนใต้จึงได้ชื่อว่า ทักษิณนิกาย หรือ นิกายฝ่ายใต้
ส่วนมหายานเจริญแพร่หลายอยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย
จึงได้ชื่อว่า อุตรนิกาย หรือ นิกายฝ่ายเหนือ

(แต่ผมไม่ทราบนะครับว่าเส้าหลินเหนือ กับเส้าหลินใต้ ต่างกันยังไง )



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 12:42  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24149

คำตอบที่ 42
       ประมาณ พศ 1300 กษัตริย์แห่งศรีวิชัยในเกาะสุมาตราเรืองอำนาจแผ่อาณาเขตมาถึงสุราษฏร์ธานี
พระองค์นับถือพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จึงทำให้ศาสนาฝ่ายมหายานแผ่เข้าสู่ภาคใต้ของประเทศไทย
มีเจดีย์แบบมหายานคือพระบรมธาตุไชยา และพระธาตุองค์เดิมที่นครศรีธรรมราช

ปัจจุบันพระสงฆ์ฝ่ายมหายานในประเทศไทยมีสองแบบ คือแบบญวนและแบบจีน ในทางราชการยกย่องให้เป็นคณะสงฆ์ทั้งสองนิกาย
และใช้คำว่า "คณะสงฆ์อื่น" กับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติในลัทธิมหายานแบบญวน หรือ เรียกว่า "อนัมนิกาย"
ฝ่ายปฏิบัติแบบจีนเรียกว่า "คณะสงฆ์จีนนิกาย"

คณะสงฆ์ทั้งสองนิกายนี้ อยู่ภายใต้การปกครองบังคับบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 12:56  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24150

คำตอบที่ 43
       วัตถุ 10 นั้นคือ

1 ภิกษุสั่งสมเกลือในกลัก แล้วนำไปผสมอาหารอื่นฉันได้ ไม่อาบัติ

2 ภิกษุฉันอาหารในเวลาตะวันบ่ายล่วงไปแล้วสององคุลีได้ ไม่เป็นอาบัติ

3 ภิกษุฉันอาหารในวัดแล้วเข้าไปในบ้าน เขาถวายอาหารให้ฉันอีกในวันเดียวกัน
ภิกษุได้ทำวินัยกรรมมาก่อน ก็ฉันได้ ไม่ป็นอาบัติ

4 กำหนดสีมาอันเดียวกัน จะทำอุโบสในที่ต่าง ๆ กัน ถือว่าไม่เป็นอาบัติ

5 ถ้ามีภิกษุที่ควรนำฉันทะมามีอยู่แต่มิได้นำเข้ามา จะทำอุโบสถกรรมเสียก่อนก็ควร

6 ข้อปฏิบัติอันใด ที่เคยประพฤติตามกันมาแต่พระอุปัชฌาย์อาจารย์
แม้จะประพฤติผิด ก็ควรปฏิบัติตามท่านได้

7 ภิกษุฉันอาหารแล้วยังมิได้ทำวินัยกรรมก่อน ฉันนมสดที่ยังมิได้แปรเป็นนมส้มก่อนก็ควร

8 ภิกษุวัชชีบุตรเห็นว่า ภิกษุฉันเหล้าอ่อน ๆ ที่ยังมิได้เป็นสุรา ได้

9 ภิกษุใช้ผ้านิสิทนะ ที่ไม่มีชาย ก็ควร

10 ภิกษุจะรับเงินและทอง ก็ได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 13:09  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24151

คำตอบที่ 44
       พระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ ตามคติมหายาน

มีความเชื่อตามคติมหายานว่าพระพุทธเจ้านั้นมีมากหลายเหลือที่จะคณา คือมีจำนวณเท่ากับเม็ดทรายในมหานที
ทั้งที่มีมานานแล้วในอดีตอันยาวนานจนหาขอบเขตมิได้ พระพุทธเจ้ามีอยู่ทั่วไปในภาคพื้นดิน ในห้วงของบรรยากาศ ในสรวงสวรรค์

ตามคติมหายานจะแบ่งพระพุทธเจ้าออกเป็นสองประเภทคือ

1 พระฌานิพุทธเจ้า

2 พระมานุษิพุทธเจ้า

พระฌานิพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้า ที่สถิตย์อยู่ ณ สรวงสวรรค์ที่แบ่งเป็นแดน ๆ ในแต่ละแดนเรียกว่า "พุทธเกษตร"
หรือแดนแห่งพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง พระฌานิพุทธเจ้าทุกพระองค์จะอุบัติด้วยอำนาจฌานของพระอาทิพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระอาทิพุทธมีภาวะเป็นผู้ที่เกิดขึ้นเอง เหมือนกับพรหมในศาสนาพราหมณ์ ปราศจากเขตต้นและเขตปลาย
กล่าวกันว่าแม้แต่พระ มานุษิพุทธเจ้าก็เกิดขึ้นจากอำนาจฌานของพระอาทิพุทธเช่นกัน

พระฌานิพุทธเจ้า ฃทุกพระองค์เมื่ออุบัติขึ้น จากอำนาจฌานของพระพุทธเจ้าองค์ปฐมแล้วจะตรัสรู้ในสรวงสวรรค์
สรวงสวรรค์คือที่พักเพื่อรอเข้าสู่พระนิพพานจึงมิได้มาตรัสรู้ในโลกมนุษย์

สำหรับพระพุทธเจ้า ณ พุทธเกษตรบนสรวงสวรรค์ที่ฝ่ายมหายานนับถือมาก และปรากฏพระนามในคัมภีร์ต่าง ๆ เสมอมาก็คือ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 13:27  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24152

คำตอบที่ 45
       อ.วอน ไปช่วงไหนของวันครับ ทำไมไม่ค่อยมีคนเลย ผมไปวันอาทิตย์ คนเยอะมากกกกก....ตามไปดูรุปได้ที่ board ภาพถ่ายนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

PCT50 จาก PCT50 124.120.125.97 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 14:02  IP : 124.120.125.97   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24154

คำตอบที่ 46
       1 พระไวโรจนพุทธเจ้า หรือพระเจ้าเปิดโลก
มีพระวรกายสีขาว ประทับเหนือดอกบัวสีน้ำงิน มีสิงห์โตเป็นพาหนะ สถิตอยู่ ณ พุทธเกษตรเบื้องกลาง
พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ชาวญี่ปุ่นนับถือมาก จึงสร้างพระปฏิมาของพระองค์เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ที่เมืองนารา
ซึ่งมักจะมีผู้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพระศรีศากยมุนี เมื่อครั้งที่ชาวอินโดนีเซียนับถือพุทธศาสนาก็นับถือ
พระไวโรจนะพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก

พระไวโรจนพุทธเจ้ามีพระสมันตภัทรเป็นพระโพธิสัติสำหรัช่วยบำบัดทุกข์แก่สัตว์โลก คือ ช่วยโปรดสัตว์นั่นเอง


2 พระอักโษภัยพุทธเจ้า
พระวรกายสีน้ำเงิน มีช้างเป็นพาหนะ สถิตย์อยู่ ณ พุทธเกษตรด้านทิศตะวันออก
มีพระวชิรปราณี เป็นพระโพธิสัตว์คู่บารมีเพื่อช่วยโปรดสัตว์

ในภาษาญวน เรียกพระองค์ว่า "โดงเพืองอาโซเบ่เผิก" คำว่า โดงเพือง แปลว่า ทิศตะวันออก


3 พระอมิตาภะพุทะเจ้า
เป็นพระฌานิพุทธเจ้าพระองค์ที่สาม พระวรกายสีแดง สถิตย์ ณ พุทธเกษตรสุขาวดีด้านทิศตะวันตก
มีพระศรีศากยมุนีเป็นพระมานุษิพุทธเจ้า และอวโลกิเตศวรเป็นพระโพธิสัตว์คู่บารมีเพื่อช่วยโปรดสัตว์

ใครได้ดูเณรน้อยเจ้าปัญญา คงจะได้เคยดูว่า อิ๊กคิวซัง ได้อธิษฐานกล่างพระนามถึงพระองค์อยู่บ่อย ๆ

4 พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า
พระวรกายสีเขียว สถิตย์ ณ พุทธเกษตรด้านเหนือ มีพระศิวะปาณีเป็นพระโพธิสัตว์ช่วยโปรดสัตว์โลก

ในภาษาญวนเรียกพระองค์ว่า "บั๋กเพืองทั่นตู่เผิก" คำว่า บั๋กเพือง แปลว่า ทิศเหนือ

5 พระรัตนสมภพพุทธเจ้า
สถิตย์ ณ พุทธเกษตรด้านทิศใต้ ทรงม้าเป็นพาหนะ มีพระรัตนปาณีเป็นพระโพธิสัตว์คู่บารมีเพื่อช่วยโปรดสัตว์โลก

ในภาษายวนเรียกพระองค์ว่า "นามเพืองบ๋าวซันเพิก" คำว่า นามเพืองแปลว่า ทิศใต้

นอกจากพระฌานิพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าประจำสรวงสวรรค์ทั้ง 5 พระองค์ที่กล่าวมาแล้ว
ยังมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งที่มีความสำคัญมาก คือ "พระไภสัชยาคุรุพุทธเจ้า"
สถิตย์ ณ ทิศตะวันออก ไกลออกจากพุทธเกษตรออกไปอีก มีโลกอีกโลกหนึ่งสะอาดบริสุทธิ์
พระไภสัชนาคุรุ ผู้ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ รอบรู้ในสัจจะ
หยั่งรู้ในโลก ทรงเป็นผู้ชี้ทางให้มวลมนุษย์ ทรงเป็นศาสดาของมนุษ์และเทวดาทั้งหลาย


ถ้าไปวัด มหายาน สามารถสังเกตุจากสีของพระวรกาย หรือ พาหนะ ก็สามารถทราบได้ว่าเป็นพระองค์ไหน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.192 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 14:08  IP : 202.91.18.192   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24155

คำตอบที่ 47
       กว่าจะได้ชมรอซะตั้งหลายวัน เห็นภาพสวยๆอย่างนี้อยากไปอีก อ้อท่านกรูปรีไม่รู้อะไรซะแล้ว เนี้ยอินเทรนสุดๆเลยนะคะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ple&pae จาก จ้าวป้า 125.24.38.189 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 15:25  IP : 125.24.38.189   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24157

คำตอบที่ 48
      
หึ หึ อินเทรนด์ใช่ไหม


" จะรับอีกข้างไหมครับจ้าวป้า "





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kupree จาก kupree อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 17:10  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24160

คำตอบที่ 49
       ท่านกรูปรีเจ้าคะ ข้างเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ หนักจะแย่อยู่แล้ว แถมราคาข้างเดียวก็ซื้อรองเท้ากลอฟได้ตั้ง 1 คู่แล้ว ขื้นร้องเอา 2 ข้างกะเดี๋ยวป่ะป๋าจะค้อนเอา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ple&pae จาก จ้าวป้า 125.24.38.189 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 17:30  IP : 125.24.38.189   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24161

คำตอบที่ 50
       ขอบใจมากหนุ่มที่เอาเรื่องมหายานที่หาอ่านได้ยากในบ้านเรามาลงให้เพื่อนๆได้อ่านเพิ่มความรู้กัน


ในคัมภีร์มหาปรัชญาปารมิตาศาสตร์ คุรุนาคารชุน ปราชญ์ฝ่ายมหายาน ได้อธิบายความหมายของมหายานไว้ว่า


พระพุทธธรรมมีเอกรสเดียว คือ รสแห่งวิมุตติ ความรอดพ้นจากปวงทุกข์ แต่ชนิดของรสมี 2 ชนิด คือ

ชนิดแรกเพื่อตัวเอง ชนิดที่สองเพื่อตัวเองและสรรพสัตว์ด้วย

อันหมายความว่า ฝ่ายสาวกยานมุ่งเพียงความหลุดพ้นเป็นอรหันต์สิ้นกิเลสเฉพาะตน ไม่มีปณิธานในการโปรดสรรพสัตว์ให้ถึงความหลุดพ้นด้วย แต่ฝ่ายมหายานย่อมมีอุคมคติตรงกันข้าม กล่าวคือ ย่อมมุ่งพุทธภูมิมีปณิธานจะตรัสรู้เป็นพระพุทธะเพื่อขนสัตว์ให้พ้นทุกข์จนหมดสิ้น อธิบายว่า พุทธศาสนิกชนฝ่ายสาวกยานโดยทั่วไปมุ่งแต่อรหัตภูมิเป็นสำคัญ ฉะนั้น จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สาวกยาน ส่วนพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายานย่อมมุ่งพุทธภูมิทั้งนั้น จึงมีอีกชื่อว่า โพธิสัตวยาน หรือ พุทธยาน



พูดแบบภาษาชาวบ้านคือไม่ใช่นั่งหลับตาเอาตัวเองให้รอดผู้เดียว แต่ต้องการช่วยทุกสรรพสิ่งเข้าสู่พุทธภูมิด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.155.238 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 18:46  IP : 125.24.155.238   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24163

คำตอบที่ 51
       ผมเคยได้ยินจากครูบาอาจารย์สายหินยานเถรวาทของวัดบ้านเราบางท่านได้เคยบอกไว้ว่า ไปนิพพานไม่ใช่นั่งรถบัสจะได้ไปกันเป็นฝูงได้ ต้องตัวใครตัวมัน

แต่ผมได้ยินจากครูบาอาจารย์บางท่านเหมือนกันแต่เป็นสายมหายานแบบท่าน ติช นัท ฮันห์ ได้เคยปรารภไว้ว่าท่านจะเข้าพุทธภูมิเป็นคนสุดท้ายจนกว่าจะขนสัตว์หมด






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.155.238 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 19:00  IP : 125.24.155.238   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24165

คำตอบที่ 52
       นอกจากทั้งโลกจะรู้จักองค์ดาไลลามะแล้ว ทั้งโลกก็รู้จักท่านติช นัท ฮันห์ ถือว่าเป็นพระเถระที่ทรงคุณธรรมสูงมากในสายวัชรยาน ภูมิธรรมของท่านและความเมตตารู้สึกได้แม้แต่ยืนใกล้ๆ รู้สึกเย็น สงบ และจิตนิ่งทันทีที่เห็นท่าน

ผมรู้สึกอย่างนี้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไม่กี่รูป แต่ท่าน ติช นัช ฮันห์ เป็นอีกรูปที่รู้สึกแบบนั้นแม้ท่านจะไม่ใช้พระเถรวาทแบบของเรา

ในรูปเป็นท่าน ติช นัท ฮันห์ และ ว.วัชชิรเมธี ที่ให้ความเคารพท่านด้วยการคุกเข่าไม่ใช่ยืนถ่ายรูปข้างท่าน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.155.238 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 19:13  IP : 125.24.155.238   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24166

คำตอบที่ 53
       ท่านติช นัท ฮันห์ กล่าวว่า พลังแห่งมีสติในตัวเราจะทำให้รู้ว่าเมื่อใดเกิดความโกรธ หรือความรู้สึกไม่สบายใจต่าง ๆ และถ้าเราใช้สตินั้นในการตัดสินใจ ก็จะทำให้เราตัดสินใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่นำมาซึ่งปัญหาในภายหลัง แต่จะทำให้เรามีความสุขรวมไปถึงครอบครัวและสังคม

ท่านเทศน์ที่สวนลุมในงานวันวิสาขะบูชาปีที่แล้วนี้เอง ของดีๆทั้งนั้น แต่ในเมืองไทยรู้จักกันแต่ชาวพุทธกลุ่มเล็กที่ติดตามคำสอนของท่านในรูปหนังสือธรรมะจากหมู่บ้านพลัม



อย่างที่ผมบอกนั่นแหละเปิดใจรับแนวทาง นานาสังวาส ที่พระพุทธเจ้าทรงเปิดทางไว้ให้ตั้งสองพันกว่าปีแล้วจะรู้ว่าธรรมะของโลกนี้กว้างกว่าเขตวัดที่ตัวเองเข้าไปประจำมากมายนัก









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

baron จาก von Richthofen 125.24.155.238 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 20:00  IP : 125.24.155.238   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24167

คำตอบที่ 54
       พระมานุษิพุทธเจ้า

ตามคติมหายานกล่าวไว้ว่า พระมานุษิพุทธเจ้า ก็คือพระพุทธเจ้า ที่เสด็จมาประสูตร ตรัสรู้ และปรินิพพาน
ในมนุสสภูมิ หรือ ในโลกมนุษย์ นั่นเอง ตัวอย่างเช่นพระพุทธเจ้าในกัปป์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นกัปป์ที่มีพระพุทธเจ้า
ถึง 5 พระองค์ ได้เสด็จลงมาแล้วถึง 4 พระองค์ และจะเสด็จมาตรัสรู้ภายหน้าอีกพระองค์หนึ่ง
(กัปป์ที่มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เรียกว่าภัทรกัปป์)
ดังมีพระนามตามลำดับต่อไปนี้คือ

1 พระกกุสันโธ
2 พระโกนาคม
3 พระกัสสปะ
4 พระโคตมะ (ยุคปัจจุบัน)
5 พระศรีอาริยเมตไตรย์ (ยังไม่เสด็จลงมา)

นอกจากนี้ยังมีพระพุทธเจ้าในกัปป์อื่น ๆ ที่ปรากฏในมนต์พิธี อีกเช่น

-พระทีปังกร
-พระวิปัสสี
-พระสิขี
-พระเวสภู

ถ้าใครอ่านกระทู้ อานุภาพพระปริตต์ คงจะคุ้น ๆ พระนาม บ้าง

การกราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้าองค์ใดก็ตามล้วนแต่เป็นมงคลแก่ชีวิตดังบาลีที่ว่า

"ปูชาจะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง" แปลเป็นไทยว่า "การบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลชีวิตอันสูงสุด"



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.204 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 22:02  IP : 202.91.19.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24178

คำตอบที่ 55
      

พระโพธิสัตว์ตามคติมหายาน

คำว่าโพธิสัตว์ หมายถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับใบโพธิ์ คือผู้รู้แจ้งซึ่งอาจจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภายภาคหน้า
แต่ที่ยังไม่ปรารถนาพุทธภูมิก็เนื่องจากได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะช่วยบำบัดทุกให้แก่สัตว์โลก
ด้วยเหตุนี้จึงต้องยอมละ อรหัตตผลเพื่อดำรงค์อยู่แต่เพียงโพธิสัตว์ภูมิเท่านั้น

พุทธศาสนาฝ่ายมหายานได้แบ่งะรโพธิสัตว์ไว้เป็น 2 ประเภทคือ

1 พระมานุษโพธิสัตว์
คือผู้ที่จะมาปรากฏพระองค์เป็นมนุษย์ในมนุสสภูมิ เสวยพระชาติมาตามลำดับจนกว่าจะบำเพ็ญบารมีจนได้
บรรลุพระโพธิญาณแล้วตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าต่อไปในภายภาคหน้า

2 พระฌานิโพธิสัตว์
เป็นพระโพธิสัตว์ที่อุบัติขึ้นจากอำนาจฌานของพระฌานิพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
ถ้าจะกล่าวว่า ว่าพระฌานิพุทธเจ้าเป็นพระธรรมมิตรของพระฌานิโพธิสัตว์ก็คงไม่ผิดจากความเป็นจริง
(พระฌานิพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้าในพุทธเกษตร ทรงฌาน จะไม่เสด็จมาตรัสรู้ในโลกมนุษย์)
ผู้นับถือศาสนาฝ่ายมหายานจะนับถือพระฌานิโพธิสัตว์มาก พระโพธิสัตว์มีมากนับด้วยจำนวนโกฏิ แต่ที่ปรากฏนาม
อยู่เสมอ ๆ คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์
นอกจากนี้ยังมีอีกมากมาย แต่ไม่ปรากฏเรื่องราวที่โดดเด่นเท่าใดนัก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.19.204 อังคาร, 15/4/2551 เวลา : 22:34  IP : 202.91.19.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24182

คำตอบที่ 56
       ขอเคลิ้มไปกับบรรยากาศด้วยคนครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

blue_sushi จาก BlueSushi 124.121.179.218 พุธ, 16/4/2551 เวลา : 16:42  IP : 124.121.179.218   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24229

คำตอบที่ 57
       ได้รับจาก แม่ชีศันสนีย์ ในการสัมมนาเกี่ยวกับ สันติภาพ กับ การต่อต้านการใช้ความรุนแรง(สิบกว่าปีแล้วมั้ง)

พยายามแจกจ่ายต่อเสมอมา เมื่อโอกาสอำนวย(คาดเอาเองว่าตอนนี้น่าจะอำนวย)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

blue_sushi จาก BlueSushi 124.121.179.218 พุธ, 16/4/2551 เวลา : 16:52  IP : 124.121.179.218   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24230

คำตอบที่ 58
      

ไปไม่ไกลประหยัดดี

ไปไกลก็สนุก แต่ไม่ประหยัด

ไม่ไปก็เหมือนขาดอะไรสักอย่าง

จริงมั๊ยขอรับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Rin จาก Rin 202.12.118.61 พุธ, 16/4/2551 เวลา : 17:23  IP : 202.12.118.61   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24232

คำตอบที่ 59
       วัดนี้นี่เองครับ ที่ญาติผมบอกว่าต้องไปดูให้ได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

yakusa จาก Sak YaKuSa 125.24.243.210 พุธ, 16/4/2551 เวลา : 20:13  IP : 125.24.243.210   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24235

คำตอบที่ 60
       พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ มีพระนามอื่น ๆ อีกเช่น พระบัญชุโฆษ (ผู้มีเสียงไพเราะ),พระมัญชุนาถ (ผู้เบิกบานยินดี),
พระอคีศวร(พระผู้ทรงวาจา) พระองค์เป็นพระผู้กำจัดความโง่เขลา , อวิชชา ด้วยพระขรรค์คือความคมแห่งปัญญา
ตัดความสงสัย ความมืดมิด ให้ความลึกซึ้งแห่งพระธรรมแห่งชาวโลก ทรงความเป็นหนุ่มอยู่ตลอดนิจนิรันดร์กาล
จึงได้รู้จักกับพระพุทธเจ้าที่ตรัสสรู้แล้วทุกพระงค์ ในพระคัมภีร์ สัทธรรมปุณฑริกกล่าวว่าทรงเป็นปฐมโพธิสัตว์
พระหัตถ์ขวาทรงกระบี่ (ของธิเบตจะทรงพระขรรค์) ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งปัญญาคือความคมของปัญญา ที่ตัด
ข้อสงสัยต่าง ๆ พระหัต์ซ้ายทรงพระคัมภีร์ปรัชญาปารมิตา ทรงพระมาลาเป็นรูปใบไม้ 5 ใบ ประทับนั่งเหนือดอกบัว
มีสิงห์โตเป็นพาหนะ


พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ บางท่านก็เรียกพระสมันตภัทรราชาโพธิสัตว์
พระองค์ทรงมีลักษณะคล้ายพระมัญชุศรีโพธิสัว์ พระองค์ทรงกำเนิดจากฌานของพระพุทธเจ้าที่ทรงพระนามว่า
"พระไวโรจนพุทธ" ซึ่งเสวยประทับอยู่ ณ เบื้องกลางของพุทธเกษร พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ มีเรื่องราวกล่าวไว้ใน
นิยายเรื่อง "ไซอิ๋ว" เป็นเรื่องราวทีผสมผสานกันระหว่างลัทธิเต๋ากับมหายาน จึงมีทั้งเทวดา ภูตผีปิศาจ พระพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์ รวมกันไปหมด แม้แต่สิงห์โตที่เป็นพาหนะของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ก็เคยไปก่อเหตุวุ่นวายในเรื่องนี้ด้วย

ในพุทธศาสนานิกายตันตระนับถือว่าพระสมันตภัทรเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในจำนวนพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ของนิกาย
และยังอ้างอีกวาพระสมัตภัทรเป็นผู้ก่อตั้งนิกาย "โยคาจารย์" ตามประวัติศาสต์จีนบันทึกไว้ว่า พระโพธิธรรมเถระ
หรือ ปรมาจารย์ตั๊กม้อนั่นเอง ซึ่งเป็นภิกษุชาวอินเดียได้ไปเผยแพร่นิกายโยคาจารย์ในรัชสมัยของพระเจ้าเหลียงบู๊เต้
กษัตริย์จีนพระองค์นี้ได้รับการยกย่องว่า เปรียบประดุจพระเจ้าอโศกมหาราชของจีน

ในรูปตามงานกงเต็กมักจะเห็นพระองค์ทรงช้างเป็นพาหนะ

บางท่านอาจจะสงสัยว่า เจ้าแม่กวนอิมคือพระโพธิสัตว์พระองค์ใด จริง ๆ แล้ว เจ้าแม่กวนอิมคือ ภาคหนึ่งของ
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรนั่นเอง

นอกจากพระโพธิสัตว์ที่ได้กล่าวพระนามแล้ว ก็ยังมีพระโพธิสัตว์อีกมากมายเหลือคณานับตามความเชื่อของนิกายมหายาน
สามารถค้นหาได้จากบทสวดพระคาถาในพิธี อุปสมบทของพระสงฆ์อนัมนิกาย(ญวน)แห่งประเทศไทย
ส่วนประเทศอื่นกระผมก็มิทราบได้ คงต้องขอทุนสมาชิกไปดูงานต่างประเทศซักรอบ(แค่ดูงานนะครับ มิใช่ฝึกงาน)
เอามาเป็นต้นทุนในการสาธยายในครั้งต่อไปครับ
ต้นทุนครั้งนี้ส่วนหนึ่งได้มาจากการไปงานกงเต๊กของเตี่ย
และของญาติผู้ใหญ่หลายท่าน สำหรับตัวเองคงได้เผาทิ้ง
เพราะบริจาคอวัยวะแล้วเขาไม่จ้างมาเป็นอาจารย์ใหญ่

ขอบพระคุณข้อมูลจากพระอาจารย์ พระคณานัมธรรมวิธานาจารย์(สว่าง ว่างเยียน)
ผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายขวา คณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก หนุ่มกระโทก 202.91.18.204 พุธ, 16/4/2551 เวลา : 20:38  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 24242

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  4  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,10 พฤษภาคม 2567 (Online 3417 คน)