คำตอบที่ 1281
โอ้โห! ท่าน อ.วอน เป็นผู้ริเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ในเวปนี้ ระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ดังทะลุจอไปแล้ว เยี่ยมจริง ๆ ครับ เมื่อเช้านี้ก็ฟังรายการของคุณสรยุทธ ก็พูดถึงครับ แต่ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการรถยนต์ แล้วก็มีเสียงค้านบ้าง สนับสนุนบ้างครับ อยากให้เข้าใจหัวโขนที่แต่ละฝ่ายสวมกันอยู่ซักนิดหนึ่งครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ บริษัทไม่เกี่ยว)
1. สำหรับผู้ผลิตรถยนต์เองคงต้องมองอะไรที่ปลอดภัยที่สุดกับสินค้าตัวเองเพราะหากว่าเกิดปัญหาขึ้นจะกระทบกระเทือนกับภาพลักษณ์ของหน่วยงาน และอาจจะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเคลมรถในช่วงรับประกันด้วย
2. ผู้ผลิตน้ำมันเองก็เช่นกันครับ เพราะมีหลายครั้งที่เกิดข้อร้องเรียนขึ้น เมื่อผู้ใช้รถไม่ได้รับการดูแลจากศูนย์บริการซึ่งมักจะอ้างว่าเป็นปัญหาที่น้ำมันเชื้อเพลิง ก็จะมาไล่เอากับสถานีบริการ
สาเหตุที่นักวิชาการไม่ยอมรับกันเนื่องจากน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ที่ใช้กันอยู่มีค่าความหนืดสูงกว่าข้อกำหนดในมาตรฐานประมาณ 10 เท่า โดยทฤษฎีแล้วน้ำมันที่ฉีดออกมาอาจจะไม่เป็นฝอยละเอียดเท่าที่ควรซึ่งการเผาไหม้อาจจะไม่ดีเท่าน้ำมันดีเซล แต่เครื่อง 4D56T ของปาเจโร่พวกเราเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่มี precombustion หรือ swirl chamber ช่วยเผาไหม้เบื้องต้นก่อนจะไปเผาจริงในห้องเผาไหม้หลัก ซึ่งสามารถลดปัจจัยการเผาไหม้ที่ด้อยกว่าน้ำมันดีเซลจากค่าความหนืดของน้ำมันปาล์มบริสุทธ์ได้ ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลของอีซูซุ กับเครื่องคอมมอนเรลใหม่ ๆ ของทุกค่ายเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในห้องเผาไหม้โดยตรง ซึ่งหากการเป็นฝอยละอองไม่เพียงพออาจจะทำให้การเผาไหม้ไม่ดีนักจึงกังวลกันมาก
โดยส่วนตัวเห็นว่าพี่ ๆ ทั้งหลายที่ทดลองใช้กันอยู่ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์มาก สามารถซ่อมแซม และบำรุงรักษารถยนต์ของตนเองได้ในระดับหนึ่ง ตรงนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับที่ได้ทดลองใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ประเด็นที่ควรพิจารณามีดังนี้ครับ
1. หากเป็นเครื่องยนต์รุ่นเก่า ๆ (แต่ดูแลรักษาดี ๆ ) อย่างพี่ ๆ ทั้งหลาย ค่าบำรุงรักษาไม่แพง ผมว่าคิดไปคิดมาคุ้มค่าครับ สมมติว่าเราวิ่งได้ซัก 50,000 กิโลเมตร ประหยัดค่าน้ำมันไปได้ซัก (กิโลละ 1 บาท) 50,000 บาท เจียดไปใช้เปลี่ยนกรองเชื้อเพลิงลูกละ 100 - 200 บาทซัก 2 ลูก ถอดปั๊มมาบำรุงรักษา รวมล้างหัวฉีด ไม่เกิน 3 - 4 พันบาท คิดยังไงก็คุ้มครับใช้ต่อไปเถิดครับ
2. หากเป็นเครื่องรุ่นใหม่ ค่าซ่อมปั๊มโหด ๆ อาจจะไม่คุ้มกันครับ เช่น พวกคอมมอนเรล โตต้า อีซูซุ ไตตัน เป็นต้น รวมถึงปั๊มนิสสันตระกูล VP44 ในฟรอนเทียร์ กับ เออร์แวนด้วยครับ ผมว่าอย่าเสี่ยงจะดีกว่าครับ ถ้าอยากลองแนะนำให้ไปถอยปาเจโร่มาขับเท่ห์ดีด้วยครับพี่
3. สำหรับคนที่ไม่ได้ดูแลรักษารถยนต์เอง หรือทำไม่เป็นเลยไม่แนะนำให้ทดลองครับ เพราะหากเกิดปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่านจะทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตจะพลอยทำให้ชุมชนส่วนใหญ่เขาเดือดร้อน หากเกิดปัญหาขึ้นจะโทษเวปบอร์ดนี้ไม่ได้นะครับ ไม่ได้มีการชี้ชวนให้ใช้ หากแต่เอาประสบการณ์มาแบ่งปันกันเท่านั้น
4. ท่านที่รถยังอยู่ในช่วงประกันจากศูนย์อย่าเพิ่งลองดูครับเพราะศูนย์จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หากทราบว่าท่านใช้น้ำมันอะไร (ขนาดน้ำมันปกติยังโทษว่ามีน้ำในน้ำมันเลย เจอบ่อยครับผม)
ไม่อยากให้คนที่เพียงแวะเวียนผ่านมาแบบผิวเผินแล้วเลือกอ่านบางข้อความไป พอเห็นว่าใช้ได้ก็เอาไปทดสอบ อยากให้ใช้ดุลยพินิจของตนเองพิจารณาให้ดี อ่านข้อมูลประกอบให้ละเอียดก่อน ไม่อยากเห็นใครเข้ามาโจมตีบอร์ดของพวกเราในภายหลัง
โดยส่วนตัวก็ยังสนับสนุนพี่ๆ ทุกคนอยู่ครับ รถผมเองกำลังรอบูรณะอยู่ครับ ทำเสร็จแล้วว่าจะมาเป็นสมาชิกตูดหอมเหมือนกัน
ปล. ใครเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องหลังจากใช้งานซัก 1 หมื่นกม. สังเกตดูหน่อยครับว่ามีอะไรแปลกปลอมไหม อยากรู้เหมือนกันครับ