WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อีกวันหนึ่งวันในกรุงเทพฯของผม
somsaks
จาก von Richthofen
IP:58.8.111.100

อังคารที่ , 1/7/2551
เวลา : 22:55

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เวลาว่างของชีวิตที่เริ่มจะมากเกินไป และเบื่อที่จะมีสมองว่างๆ ผลักหลังให้ถือกล้องออกไปเดินเล่นดูอะไรที่มองข้ามไปยามชีวิตยังวุ่นวายกับงาน

มุมบางมุมที่เรามองข้ามพอย้อนกลับมามองอีกครั้งมันสวยงามหรือไม่ก็น่าทึ่งว่าเวลาที่ผ่านมาทำไมเรามองไม่เห็น

มาเดินเรื่อยเปื่อยเที่ยวกรุงเทพฯกับผมดีกว่า ถ้าว่างพอที่จะเดินตามก็แพคกระเป๋ากล้องกับรองเท้าเก่าๆคู่โปรดตามหลังมากันเลยครับ










 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

คำตอบที่ 121
       ยังไม่ถึงเจดีย์สักทีเพราะแวะที่ฐานมณทปดูกระเบื้องลายนูนต่ำกันก่อน เป็นกระเบื้องจีนอีกเช่นกัน สวยงามเป็นที่สุด

บนฐานไพที หรือฐานที่ยกสูงที่อยู่ข้างพระอุโบสถกัน บนนั้นมีของที่น่าดูน่าชมเยอะไปหมด

เดิมเมื่อแรกสร้างวัดนั้น บนฐานไพที นี้จะมีเพียงพระมณฑปกับสุวรรณเจดีย์เท่านั้น ซึ่ง พระมณฑป ที่เห็นในรูปนั้นใช้เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎก ซึ่งรัชกาลที่ 1 ได้โปรดฯ ให้มีการชำระขึ้นใหม่ ของเก่าเกือบไม่เหลือให้อ่านกันจากการล่มของกรุงศรีอยุธยานั่นเอง

ฐานไพทีข้างพระอุโบสถนั้นเป็นธรรมเนียมการสร้างที่สืบเนื่องมาตั้งแต่การสร้างวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:05  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28900

คำตอบที่ 122
       ในที่สุดก็เดินมาถึงสุวรรณเจดีย์เพื่อมาดูลิงและยักษ์แบกเจดีย์จนได้

ใครเคยเห็นลิงใส่รองเท้าบ้างครับ ถ้าเห็นก็แปลกแล้ว ใครเคยเห็นยักษ์ถอดรองเท้าบ้าง ถ้าเห็นก็แปลกเช่นกัน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:06  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28901

คำตอบที่ 123
       มองออกไปที่ยอดพระวิหารยอด และเห็นกระเบื้องลานตาอดใจกดภาพมาให้ดูไม่ได้เลย

วันนี้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหายหมด เลี่ยนเป็นปลาดุกอย่างไรก็ไม่รู้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:10  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28902

คำตอบที่ 124
       สุวรรณเจดีย์มองลอดเสาพระมณฑป


วันนี้กร่อยอย่างไนก็ไม่รู้คงต้องพอก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยพาเดินเที่ยวต่อดีกว่า รูปดีๆแต่ไม่มีเกร็ดให้อ่านมันเสียของ









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:11  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28903

คำตอบที่ 125
       วันนี้พอก่อนขอเข้านอนแล้วครับ พยายามจะนึกถึงการสังฆยานาพระไตรปิฎกในสมัยรัชกาลที่1 มี่เรื่องสนุกให้เล่ามากมาย แต่วันนี้มันเฝือๆอย่างไรก็ไม่รู้

เอาเป็นพรุ่งนีดีกว่าครับ


จาก von Richthofen 61.47.112.149 อังคาร, 14/11/2549 เวลา : 01:35



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:12  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28904

คำตอบที่ 126
       ปราสาทพระเทพบิดร


เรื่องก็มีว่าในสมัยรัชกาลที่ 3 นั้นชาวบ้านมักจะเรียกสมัยรัชกาลที่ 1 ว่า "แผ่นดินต้น" และเรียกสมัยรัชกาลที่ 2 ว่า "แผ่นดินกลาง" รัชกาลที่ 3 ทรงเห็นว่าหากให้เรียกแผ่นดินพระองค์ว่า "แผ่นดินปลาย" ก็จะเป็นอัปมงคล ก็เลยโปรดฯ ให้สร้างพระพุทธรูปขึ้น 2 องค์ ถวายพระนามพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ แล้วก็โปรดให้เรียกชื่อรัชกาลที่ 1 และ 2 ตามพระนามพระพุทธรูปนี้ ซึ่งก็คือ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

พระพุทธรูปนี้อยู่ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม


เมื่อเราเริ่มรับธรรมเนียมอย่างฝรั่งเข้ามา ก็เริ่มมีการสร้างพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ในแต่ละรัชกาลขึ้นมา จึงมีการสร้างปราสาทพระเทพบิดรเพื่อประดิษฐานพระบรมรูปขึ้นมา สมัยรัชกาลที่ 4 ยังได้โปรดฯ ให้สร้าง ปราสาทพระเทพบิดร ขึ้นเดิมเรียกว่า พุทธปรางค์ปราสาท สังเกตุว่าส่วนยอดจะเป็นปรางค์

แรกทีเดียวมีพระราชประสงค์จะย้ายพระแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ที่นี่ เนื่องจากทรงเห็นว่าพระมณฑปซึ่งประดิษฐานพระไตรปิฎก หรือถือว่าเป็นพระธรรมนั้นสูงกว่าพระแก้วมรกตที่ถือว่าเป็นพระพุทธที่อยู่ในพระอุโบสถ


จึงโปรดฯ ให้สร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นสูงเท่ากับพระมณฑปคือสูง 1 เส้น แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้วเห็นว่าสถานที่คับแคบไม่เหมาะแก่การพระราชพิธีจึงไม่ได้ย้ายพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่นี่

ต่อมารัชกาลที่ 6 ได้โปรดให้ตั้งพระบรมรูปพระมหากษัตริย์ในรัชกาลก่อน ๆ ไว้ ปัจจุบันประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:15  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28905

คำตอบที่ 127
       หอพระมณเฑียรธรรม สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อแรกสร้างวัดพระแก้ว ด้วยฝีมือช่างวังหน้าซึ่งมาช่วยสร้างวัด ใช้สำหรับเก็บพระคัมภีร์ที่เหลือจากที่จะเก็บไว้ได้ในพระมณฑป

ฝีมือเฉียบขาดตามลักษณะช่างตระกูลวังหน้า แต่จะดูลักษณะศิลป์ให้ดี ศิลปะส่วนของพุทธาวาสทั้งหมดจะเป็นช่างฝีมืออยุธยา ถ้าอยากเห็นว่าอยุธยาสวยเพียงใดให้มาดูวัดพระแก้ว เพราะช่างที่สร้างทุกชิ้นที่นี่คือช่างที่รอดจากสงครามกรุงแตกมาสร้างเมืองใหม่ทั้งนั้น

รัชกาลที่1 พระองค์ทรงพระเจริญวัยรับราชการมาสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้ทรงเห็นกรุงศรีฯสมัยที่ยังเป็นบ้านดีเมืองดี พระองค์ท่านคุมการสร้างเมืองใหม่เองพระองค์ท่านย่อมสร้างได้ไม่ต่างกับเมืองที่ท่านเคยอยู่มาก่อน

ช่างที่สร้างอิฐทุกก้อนก็เป็นของกรุงศรีฯมาก่อนย่อมรับศิลปะและฝีมือของช่างกรุงศรีมาอย่างเต็มตัว









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:16  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28906

คำตอบที่ 128
       วัดพระแก้วนี่แหละกรุงศรีอยุธยาฉบับย่อส่วน ผมฟังธงแบบนี้ แล้วมีเรื่องราวยืดยาวไปอีกหลายเดือนในเวปอื่นเพราะมีผู้ค้านว่าด้านตะวันตกของวัดและรายละเอียดปลีกย่อยมีกลิ่นจีนมากเกินกว่ากรุงศรีฯแท้ๆ

แต่ผมว่ากรุงศรีอาจจะมีกลิ่นจีนมากกว่านี้ก็ได้เพราะเราแต่งสำเภาไปจีนค้าขายมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยแล้ว พระเครื่องในกรุวัดพระศรีมหาธาตุอยุธยายังมีพระสลักหลังเป็นภาษาจีนเลย แล้วเวลาการสร้างกรุงซ่อมกรุงตั้งสี่ร้อยกว่าปีจะไม่มีกลิ่นจีนได้อย่างไร

งานนี้งัดอาวุธลับมาสาดกันในเชิงวิชาการสนุกสนานมาก ตอนจบถึงได้จับมือกันจบกันว่าคนจีนมาอยู่กรุงศรีฯเป็นชุมชนตั้งแต่ก่อนสร้างเจดีย์เจ้าสามพระยาแล้ว


ที่จริงแล้วแกล้งทะเลาะกันให้คนติดตามเสียเวลาอ่านเรื่องเพียงเรื่องเดียวเป็นเดือนๆน่ะครับ








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:18  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28907

คำตอบที่ 129
       ปราสาทพระเทพบิดรมุมต่ำ


ที่จริงแต่ก่อนยังมีของดีอีกอย่างคือ บานประตู ที่หอพระมณเทียรธรรมที่เป็นบานมุกฝีมือเลิศมาก เป็นของเก่าสร้างมาแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศฯ สำหรับไว้ที่วัดบรมพุทธารามที่อยุธยา แต่ปัจจุบันถูกถอดไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแล้ว

พูดถึงธรรมเนียมการแต่งตัวของคนไทยแล้ว สมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์อย่างไรก็ไม่ใส่เสื้อ จะเห็นว่าพระบรมรูปของรัชกาลที่1-2-3 ไม่ทรงเสื้อ จะนุ่งผ้าตาดอย่างเดียว พระบรมรูปที่ทรงเสื้อจะเริ่มมีตั้งแต่รัชกาลที่4

อยากจะเล่าว่าธรมเนียมการใส่เสื้อมีตั้งแต่รัชกาลที่4 จะว่าธรรมเนียมอันนี้น่าจะมีตั้งแต่พระเจ้านโปเลียนที่3 เอมเปอเรอหลงยุคถวายเครื่องราชบรรณาการและกลุ่มเจ้าชายฝรั่งเศสมาเที่ยวเมืองไทยกับกุงศุลใหญ่ แล้วได้เข้าเฝ้ารัชกาลที่4ถึงพระราชวังชั้นใน แล้วปากเสียไปเขียนบันทึกบอกว่าคิงมงกุฎของเราอายุมากแล้วยังมีฮาเร็มนางสาวๆสนมเพียบ

ผมว่าผมหยุดเล่าแค่นี้ดีกว่า เล่าต่อเกรงว่าอาจจะไปกระตุ้นต่อมเครียดผู้อ่านบางท่านได้ เพราะเรื่อง คิงแอนด์ไอ ก็เขียนอะไรไว้เครียดๆไว้เพียบแล้ว ขนาด โจ เหวินฟ่ะ รับบทเป็นคิงมงกุฎยังไม่ได้ฉายหนังเรื่องนี้ในประเทศไทย เท็จครึ่งจริงครึ่ง

พาให้คิดถึงประวัติศาสตร์ยุคนี้ที่เป็นหัวเลี้ยวของสยามใหม่และสยามโบราณ และประวัติของสมบัติทางประวัติศาสตร์บางชิ้นที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ และของเก่าชิ้นนี้อาจจะนั่งฟังแหม่ม แอนนา เลียวโนเวส สอนหนังสือในราชสำนักฝ่ายในมาแล้วได้ เป็นของจริงที่สัมผัสเรื่องจริงในฉากจริงของ คิงแอนด์ไอ แท้ๆเมื่อเกือบร้อยเจ็ดสิบปีก่อน

ปัจจุบันผมให้ของชิ้นนี้อยู่ที่นิ้วนางซ้ายของ รุจ ผู้หญิงเก่ง








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:19  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28908

คำตอบที่ 130
       นกเอี้ยงในเขตกลางกรุง หลงฝูงมาได้อย่างไรกันนี่ สงสัยว่าจะหิวน้ำมากหลังจากบินมาไกล เกาะอ่างบัวแกรนนิตจีนโบราณกินน้ำแบบหิวกระหาย







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:20  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28909

คำตอบที่ 131
       มุมมองผ่านกล้องที่ไม่เหมือนชาวบ้านอีกแล้ว





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:22  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28910

คำตอบที่ 132
       พระวิหารยอด ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระนาก ซึ่งคงจะย้ายมาจากหอพระนากอีกที แต่จะเป็นด้วยเหตุใดก็ไม่มีหลักฐานบอกไว้

ตัวพระวิหารทำด้วยกระเบื้องเคลือบซึ่งเป็นศิลปะที่เป็นพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ถ้าเห็นงานแบบนี้ที่ไหนก็บอกได้เลยว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3

ปัจจุบัน หอพระนาก ใช้เป็นที่เก็บพระอัฐิของพระราชวงศ์ น่าจะเป็นคำตอบว่าทำไมต้องย้ายพระนาคมาวิหารยอด


มีเกร็ดพงศาวดารกระซิบอีกนิดสำหรับพระอัฐิราชวงค์นี้


สมเด็จพระนั่งเกล้าทรงห่วงขณะประชวรหนักว่า ถ้าผลัดแผ่นดินด้วยการฆ่าฟันหรือราชโอรสถูกฆ่าฟันเสียหมด พระอัฐิพระอัยยิกาและพระชนนีจะกีดตาผู้อื่นหรือพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ ให้มอบการดูแลแก่พระเจ้าลูกเธอผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่เนื่องจากพระศรีสุลาไลยนี้ท่านได้ทรงตรัสว่า เท้าหน้าสูงเท้าหลังต่ำไม่เหมาะที่จะรวมอยู่ในที่เก็บพระบรมอัฐิ

คำว่าเท้าหน้าสูงเท้าหลังต่ำหมายถึงว่าก่อนท่านจะมาเป็นเจ้าท่านเป็นสามัญชนมาก่อนไม่ได้เกิดมามีฐานันดรเหมือนเจ้าพระองค์อื่น

สาเหตุที่ทรงห่วงเพราะตระกูลบุญนากยังมี่อิทธิพลในแง่การเมืองสูงมาก เกรงว่าการผลัดแผ่นดินอาจจะไม่ราบรื่นนัก อาจจะเป็นเหมือนการผลัดแผ่นดินในกรุงศรีฯที่ตอนยุคปลาย ทุกครั้งต้องฆ่ากันล้างสายเลือดเพื่อขึ้นครองราชสมบัติ ซึ่งตระกุลบุญนากที่ผูกขาดการเป็นเสนาบดีใหญ่มาแต่ครั้งกรุงศรีฯนั้นอยู่ในเหตุการณ์นองเลือดทุกครั้งในการผลัดแผ่นดินยุคปลายกรุงศรีฯ

พระยาคลังและพระยาศรีพิพัฒน์ ตระกูลบุญนาก ยังคงคุมกำลังใหญ่เอาไว้ นี่คือสิ่งที่พระองค์ทรงห่วงอนาตคอันไม่แน่นอนของการผลัดแผ่นดิน





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:23  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28911

คำตอบที่ 133
       แต่การผลัดแผ่นดินเป็นไปโดยสงบ เพราะก่อนที่ทรงสวรรคตสิบวัน เสนาบดีใหญ่แห่งสกุลบุญนากได้อัญเชิญพระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว

สาเหตุการเชิญพระจอมเกล้ามาเป็นแผ่นดินต่อไปน่าจะเป็นเพราะพระองค์ท่านบวชมาตั้งแต่วัยเยาว์ไม่มีกำลังทางทหารหรือขุนนางที่เป็นพระเนตรพระกรรณให้เลย พระชนม์พรรษาของพระองค์ที่มากแล้วย่อมสุขุมพอที่จะไม่กระทำอะไรที่หักหาญตระกูลบุญนากที่ถือกำลังอยู่ ผิดกับราชสกุลสายตรงหลายพระองค์ที่อาจจะมีปัญหากับสกุลบุญนากได้

มีเกร็ดว่าพระนั่งเกล้าก่อนสวรรคตพระองค์ได้ตรัสกับพระยาศรีสุริยวงค์ว่า กรมขุนเดชท่านพระกรรณเบา กรมขุนพิพิธท่านไม่รู้จักงานปัญญาไม่มี เจ้าฟ้าน้อยก็มีความรู้ด้านการทหารและการช่างแต่ชอบเล่นสนุกไม่ใส่ใจรับราชการ เจ้าฟ้าใหญ่(พระจอมเกล้าในเวลาต่อมา)ก็ถือมอญถ้าขึ้นครองราชจะบังคับพระห่มผ้าแบบมอญเสียหมดทั้งเมือง


แล้วต่อมาอีกไม่กี่ปีหลังผลัดแผ่นดิน พระธรรมยุตินิกายก็ห่มผ้าแบบมอญไปทั้งเมืองจริงๆตามที่พระนั่งเกล้าทรงวิตกเอาไว้

เจ้าฟ้ามงกุฎที่ยังเป็นพระภิกษุอยู่วัดบวรนิเวศเนื่องจากยังไม่ผลัดแผ่นดิน แต่มีพระประสงค์ให้ต่างชาติรู้ข่าวได้เรียก นายยอห์น เทเลอ โยนส์ มิชันนารี่เข้าเฝ้า และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีรายงานข่าวถึงหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ฟรีเปรสถึงการผลัดแผ่นดิน

ไม่ว่ารัชกาลที่3 จะได้ทรงทราบก่อนสวรรคตหรือไม่ก็ตาม หรืออาจจะลงตีพิมพ์ก่อนหลังสวรรคต แต่ความพยายามครั้งสุดท้ายของพระองค์คือเอาประคำทองคำของพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกสวมประทานให้กับพระองค์เจ้าอรรณพ หมายความว่าทรงมอบราชสมบัติให้สบต่อกับพระราชโอรส

แต่ประคำทองหาใช่องค์จริงไม่ เจ้าพนักงานหยิบผิดสาย กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้อธิบายภายหลังว่า ประคำนี้เป็นบุญของผู้มีบุญญาภินิหารเท่านั้น

หยิบผิดสายหรือไม่ผิด ผมว่าคนที่รู้ดีก็กลุ่มท่านผู้ชงเรื่องราชสมบัติ เสนาบดีตระกูลบุญนากรู้ดี แต่ท่านเหล่านั้นตายไปเกือบสองร้อยปีแล้ว คงมาสารภาพหรือยืนยันอะไรไม่ได้ว่าของสูงค่าควรเมืองแบบนี้มีหยิบผิดองค์หรือวางสะเปะสะปะรวมกับสร้อยสังวาลเส้นอื่นให้พนักงานหยิบผิดองค์ด้วยหรือไม่

โดยนัยยะนี้ เมื่อรัชกาลที่4ใกล้สวรรคตได้ประทานประคำทองคำแก่สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ รัชกาลที่5 เหมือนการส่งแผ่นดินต่อให้พระราชบุตรนั่นเอง


ปราสาทพระเทพฯบิดรมองจากวิหารยอด จะเห็นนครวัดจำลองที่สร้างสมัยรัชกาลที่4 ประกาศถึงความเป็นเจ้าของดินแดนเขมรทั้งหมดของสยามประเทศ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:25  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28912

คำตอบที่ 134
       แต่ความกังวลเรื่องอัฐิของพระชนนีและพระอัยยิการเจ้าของพระองค์ได้หมดเรื่องไปเพราะตั้งแต่รัชกาลที่5 เป็นต้นมาพระศรีสุลาไลยพระราชชนนีของพระนั่งเกล้าได้กลายมาเป็น บรรพบุรุษสายสตรีของพระเจ้าแผ่นดินในยุคหลังทุกพระองค์

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าได้ทรงอธิบายภายหลังว่า เมื่อสมเด็จพระจอมเกล้าได้ครองราช พระองค์ได้ทรงเห็นว่าแผ่นดินพระนั่งเกล้ายืนยาวกว่า 27ปี ผู้คนต่างเกิดมาในแผ่นดินนี้มากมาย ข้าราชการก็ยินดีกับพระองค์มากมาย ข้าราชการส่วนมาในวัยหนุ่มก็เกิดในแผ่นดินของพระองค์

คนส่วนมากก็คิดว่าราชตระกูลของพระนั่งเกล้าจะสิ้นลงเนื่องจากผลัดแผ่นดินเป็นพระจอมเกล้าแล้ว ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการปกครองในอนาคตได้


ทรงใช้วิธีขั้นเบสิกที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยราชวงค์พระร่วงกับราชวงค์สุพรรณภูมิใช้กันเมื่อหกร้อยกว่าปีก่อนเพื่อให้บ้านเมืองเกิดสมดุลย์ระหว่างสุโขทัย-อยุธยา

ครั้งแรกได้ทรงรับพระนางเจ้าโสมนัศวัฒนาวดีสายเลือดตรงของพระนั่งเกล้าเป็นพระบรมราชเทวี ต่อมามีราชโอรสสมดังพระประสงค์ แต่ต่อมามิได้ดำรงค์พระชมน์ได้ทั้งสองพระองค์ จึงได้รับพระราชนัดดาของรัชกาลที่3 สมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์เป็นพระบรมราชเทวีต่อมก็มีพระราชโอรสพระราชธิดาสมพระประสงค์










 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:26  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28913

คำตอบที่ 135
      

นอนแล้วครับ เอาแรงไว้รับงานหนัก

ช่วงนี้ตั้งแต่ไปไหว้ขอพร ศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ เทพารักษ์ประจำเมืองทั้งห้ามาแล้ว งานไหลมาเทมาเข้าที่เดียวเป็นชุด

เอาไว้เก็บเงินงวดแรกเข้ากระเป๋าต้องหอบผลไม้กล้วยอ้อยชุดใหญ่ไปถวายท่านเสียแล้ว




จาก von Richthofen 221.128.106.183 พุธ, 15/11/2549 เวลา : 01:57



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:29  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28914

คำตอบที่ 136
       คั่นรายการด้วยรูปจากกล้องตัวเล็ก รูปนี้ไม่ได้ผ่านการปรับแสง-สีใดๆ ท่านยังงามขนาดนี้
เป็นบุญแล้วที่เกิดมาเป็นพุธศาสนิกชน

สิบนิ้วประนมกราบซึ่งองค์พระปฏิมา
เสียงภาษาต่างชาติอุทาน Oh..amazing








จาก Ruj 61.90.217.70 พุธ, 15/11/2549 เวลา : 18:37





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:31  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28915

คำตอบที่ 137
      

จาก Ruj 61.90.217.70 พุธ, 15/11/2549 เวลา : 18:42





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:32  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28916

คำตอบที่ 138
       กว่าจะมาเป็กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ อย่างที่เห็นต้องทนทุกข์และทำงานหนักเป็นอย่างยิ่งนัก

ทุกข์แรกคือพม่ายังเข้ามาตีเราอยู่ กว่าจะเสร็จศึกเด็ดขาดก็ปาลรัชกาลที่3 เนื่องจากอังกฤษรุกคืบจากอินเดียเข้ายึดพม่าจนสิ้น สมัยรัชกาลที่1-2 ยังรบกันอยู่ไม่ได้ขาดช่วง

ทุกข์ที่สองคือเงินคงคลังเราไม่มีเลย เงินที่ได้มาต้องบำรุงกองทัพและจ่ายเงินเบี้ยหวัดต่างๆที่สูงมิใช่น้อย

ทุกข์ที่สามคือต้องสร้างเมืองใหม่ทั้งหมดเนื่องจากเหตุผลบางประการที่อยู่ที่วังเดิมของพระเจ้าตากไม่ได้ เอาไว้ถ้าไม่ลืมผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไมต้องข้ามแม่น้ำมาสร้างเริ่มจากศูนย์กันอีกครั้ง

เรารู้ว่า กรุงเทพ แปลว่า เมืองเทวดา แต่รู้หรือไม่ว่าคนโบราณเขาเรียกชื่อเมืองตามพระ

ใช่แล้วครับเรียกตามพระ เช่นหลวงพระบาง แปลว่านครหลวงที่สถิตรของพระบาง พระสำคัญประจำประเทศลาว

อมรรัตนโกสินทร์ รัตนแปลว่าแก้ว โกสินทร์แปลว่าพระ คือท่านสร้างเมืองให้พระแก้วมรกตนั่นเอง

ท่านได้พระแก้วมาตั้งแต่ศึกลาวก่อนสร้างกรุงเทพฯเสียอีกซึ่งตรงกับปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสิน



ผู้ใดครองพระแก้ว ผู้นั้นครองแผ่นดิน จำโบราณเกือบพันปีที่ผมเคยพูดไว้เมื่อสองวันก่อนได้หรือเปล่า



สมเด็จพระเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ทรงปราบดาภิเศกเป็น พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกหลังกลับจากสงครามศึกเขมรครั้งสุดท้ายนั่นเอง






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:34  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28917

คำตอบที่ 139
       เรื่องเงินขาดคลังนั้นนับเป็นเรื่องใหญ่ในสมัยนั้น รัชกาลสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าถึงกับต้องเอาผ้าลายแจกแทนเบี้ยหวัด เนื่องจากสำเภาที่แต่งไปค้าขายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก

อีกด้านก็มีศึกพม่ามาประชิด อีกด้านก็ต้องสร้างพระนคร อีกด้านก็ต้องทำมาหากิน

พระเจ้าน้องยาเธอกรมพระราชวังบวรสถานมงคล วังหน้าเคยมาขอเงินพันชั่งเพื่อไปจ่ายเบี้ยหวัดข้าราชการแต่รัชกาลที่1ไม่มีให้ถึงกับ ทรงงอนกันไม่มาเข้าเฝ้าไปพักใหญ่ที่เดียว

แต่พระองค์ท่านก็ฝ่าฟันงานหนักหนาอันนั้นมาได้

เข้ารัชกาลที่สองก็ไม่ต่าง แต่มีเจ้าฟ้าเจษฎาบดินทร์ ราชโอรสช่วยแต่สำเภาไปค้าขายแทน ถึงกับโดนเรียกอย่างเอ็นดูในราชวงค์ว่า เจ้าสัว แต่การค้าก็ไม่ใช่ว่าจะกำไรดีทุกครั้ง บางปีได้กึ่งหนึ่งบางปีก็ได้ไม่ครบถ้วน นับว่าเป็นความทุกข์ที่ข้ามมาถึงสองรัชกาล


ความตอนนี้ได้ถูกล่าวถึงโดยรัชกาลที่4 โดยบางปีในสมัยรัชกาลที่4ของพระองค์ ต้องเอา ทองพิศ ทองพัสดึงค์ ออกจ่ายแทนเงินเบี้ยหวัด พระองค์ท่านได้กล่าวถึงความลำบากของรัชกาลที่ 1-2 แต่ก่อนว่าการเงินของประเทศลำบากเพียงใดในยามสงคราม


แต่มีข้าราชการและราชนิกูลปากเสียบางคนได้กล่าวหาพระองค์ท่านว่าอมเงินพระคลังจนไม่เหลือเงินแจกเบี้ยหวัด


เท่านั้นเองก็เป็นเรื่องใหญ่ เพราะการกล่าวหาพระมหากษัตริย์อมเงินพระคลังนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆกันแล้ว






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:35  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28918

คำตอบที่ 140
       เรื่องปากเสียกล่าวหาว่าพระองค์ท่านอมเงินคลังน้น พระองค์ท่านได้ทรงชี้แจงว่า

สภาพการเงินของรัชกาลที่3 ไม่เดือดร้อนเหมือนสองรัชกาลก่อน เนื่องจากการค้าขายได้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ได้เงินจากสำเภาและอากรเต็มเม็ดเต็มหน่วยจนเงินเต็มพระคลัง

ตอนที่ก่อนสวรรคตพระองค์ท่านได้ตรัสกับพระยาศรีสุริยวงค์ว่า

เงินในคลังเหลือสี่หมื่นชั่งผู้ใดเป็นเจ้าแผ่นดินให้ช่วยบอกแก่เขาว่าช่วยแบ่งเงินสักหมื่นชั่งทำนุบำรุงวัดด้วย พระศีรสุริยวงค์ได้ฟังก็ร้องไห้ออกมาจากที่เข้าเฝ้า



เงินสี่หมื่นชั่งหรือสามล้านกว่าบาทนั้นมหาศาลมากในสมัยนั้น ยังไม่รวมทองคำอีกร้อยชั่งตามที่พระนั่งเกล้าทรงแจ้งไว้ก่อนสวรรคตนั้น ความจริงมีมากกว่านั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าได้แจ้งบัญชีไว้ว่ามีถึงสี่หมื่นห้าพันชั่ง และทองก็มากกว่านั้นอีกร้อยกว่าชั่ง เงินที่รัชกาลที่3ทรงขอไว้ทำนุบำรุงวัดนั้นก็ได้บำรุงวัดวัดต่างตามพระประสงค์

ทองที่เหลือก็นำไปแผ่เป็นเบ็ญจาในพิธีพระบรมศพทั้งสองร้อยชั่ง เหลืออยู่หลังจากสูญไปในไฟอีกส่วนได้นำไปแผ่ออกปิดทองตามวัดต่างๆอีกร้อยชั่ง เงินที่เหลืออีกสามหมื่นชั่งยังคงคลังอยู่ไม่นำออกมาใช้

แต่เงินเกินจากนั้นพระองค์ท่านได้นำไปพระราชทานแก่เจ้านายทุกพระองค์ไว้ใช้สอย โดยเหตุผลของรัชกาลที่4ได้แจ้งว่าตอนนี้มีเงินก็อยากจะให้ แต่เมื่อไรที่ขัดสนแล้วไม่มีให้เกรงว่าจะให้ไม่ได้อย่างใจที่จะให้



พระองค์ท่านออกมาชี้แจงว่าเงินในคลังไม่ได้หล่นหายยังอยู่ครบตามบัญชี และไม่ได้นำออกมาใช้เลย เรื่องกล่าวหาว่าพระองค์ท่านอมเงินคลังจึงสงบลง

ซึ่งเงินจำนวนนี้ที่รัชกาลที่4 พระองค์ท่านได้ทรงสงวนไว้ไม่นำออกมาใช้ทั้งที่ทรงขัดสนเงินทองอยู่ ก็นำพาให้ไทยไม่เสียเอกราช ถูกนำมาไถ่บ้านไถ่เมืองจากฝรั่งเศสในรัชการที่5 สมดังที่รัชกาลที่3ได้ทรงออกพระโอษฐเอาไว้








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:36  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28919

คำตอบที่ 141
       วันนี้คงต้องพอเรื่อง พงศาวดารกระซิบ ไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปทำภาระกิจ อยู่เล่ายาวเหมือนทุกวันไม่ได้ครับ

พรุ่งนี้คงได้ดูภาพชุดวัดอรุณและวัดพระเชตุพนจากกล้องของ รุจ


จาก von Richthofen 221.128.109.33 พุธ, 15/11/2549 เวลา : 23:51



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:37  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28920

คำตอบที่ 142
       ใครว่าประชาธิปไตยเพิ่งมีเอาเมื่อ 2475 ในสมัยเมื่อกว่าร้อยหกสิบปีก่อนนี้พระมหากษัตริย์ยังโดนขุนนางซักฟอกได้จนต้องออกพระราชหัถเลขาออกมาแถลงบัญชีเงินคงคลังให้ทุกคนได้รู้ว่าเงินเหลือเท่าไรใช้เท่าไร ใช้อะไรบ้าง

ผิดกับนักการเมืองสมัยนี้ที่โอนทรัพย์สินให้คนขับรถถือแทนแล้วแจ้งกับศาลว่าผิดพลาดโดยสุจริตบ้าง ติ๊กช่องผิดบาง หรือซื้อหุ้นโดยนอมินี


เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าจะสวรรคตนั้น พระองค์ทรงประหยัดให้ประเทศขนาดพระองค์ทรงเลือกที่จะสวรรคตที่ประหยัดที่สุด ทั้งที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่งที่สุดในสยามยุคเก่า พงศาวดารกระซิบ ขอเริ่มดังนี้


สุดท้ายเมื่อทรงทราบว่าพระชนม์คงจะไม่อาจจะยืยยาวไปได้แล้วทรงได้สั่งการโดยในบันทึกของเจ้าพระยาทิพภากรวงค์ได้บันทึกไว้ว่าทรงสั่งให้พระยาศรีพิพัฒน์จัดพระแท่นไว้ที่พระที่นั่งจักรพรรติ์พิมานด้านตะวันตกแล้วกั้นพระวิสูตรใหม่ขึ้นมาด้วยเกรงว่าผู้ใดมาเป็นเจ้าแผ่นดินใหม่จะรังเกียจที่พระองค์ทรงสวรรคตในพระที่นั่งมหามณเทียร

ทรงเกรงว่าพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครจะรังเกียจที่พระองค์สวรรคตในนั้นแล้วต้องเสียเงินสร้างพระมณเทียรใหม่อีกหลังให้เปลืองเงินของชาติไปเสียเปล่าๆ

ทรงเป็นพระมหากษัตริย์โดยแท้แห่งรัตนโกสินทร์ที่ไม่คิดถึงพระองค์เองแม้แต่ตอนจะสวรรคต



ในรูปพระที่นั่งจักรพรรดิ์พิมานปีกด้านเหนือทางเข้าท้องพระโรง ส่วนที่เป็นหัวใจของการปกครองประเทศสมัยโบราณ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 118.173.4.85 พฤหัสบดี, 3/7/2551 เวลา : 22:40  IP : 118.173.4.85   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28921

คำตอบที่ 143
       ไปมาเหมือนกันเลยครับ เสียดายไม่ได้เดินสวนกัน ผมเดินจากวันพระแก้ว ไปธรรมศาสตร์ ผมไป 21/6/2551 ครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tinang จาก TiNang 203.156.171.253 ศุกร์, 4/7/2551 เวลา : 11:59  IP : 203.156.171.253   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28937

คำตอบที่ 144
      

เรื่องเงินของพระนั่งเกล้ามีเรื่องขึ้นมาอีกครั้งหลังจากพระจอมเกล้าได้แจงบัญชีให้ทุกคนได้รู้ว่าพระองค์ท่านไม่ได้ยุ่งกับเงินในพระคลังเลยยกเว้นแต่จะเป็นรับสั่งสุดท้ายของพระนั่งเกล้าเองว่าจะขอแบ่งเงินไปทำนุบำรุงวัดหนึ่งหมื่นชั่ง

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี รศ112 ตอนที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืนบุกมายิงกับเราที่ปากน้ำแล้วทะลุขึ้นมาทอดสมอที่ข้างวังหลวงโดยขู่ว่าจะยิงถล่มวังให้ราบจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่5 ต้องเสด็จออกจากวังหลวงไปประทับที่พระราชวังบางประอินเพื่อบัญชาการรับมือว่าจะเอาอย่างไรกับฝรั่งเศสดี

ฝรั่งเศสคงคิดว่ายึดกรุงเทพฯได้แล้วโดยมีเรือปืนและทหารไม่กี่ร้อยคน ซึ่งขณะนั้นจะว่าไปแล้วเรือปืนและทหารฝรั่งเศสจำนวนหยิบมือที่เข้าจอดเรือข้างวังก็คุมกรุงเทพฯไว้ได้จริงๆ

ป้อมพระจุลฯที่ปากน้ำก็มีปืนใหญ่ทันสมัยก็ยิงเรือฝรั่งเศสไม่ค่อยจะเต็มที่นักเพราะขาดการซ้อม ผู้ที่ยิงได้มีแต่ฝรั่งคนเดียว ทหารไทยที่เข้าฝึกก็ไม่ได้เรื่องได้ราว ตามบันทึกได้กล่าวเอาไว้ว่า ซ้อมยิงห้านัดแตกนัดเดียวผู้บัญชาการก็ยังไม่สั่งการให้ปรับปรุงทหารให้มีความสามารถให้ใช้งานได้สมกับที่ซื้อปืนมาราคาแพง

แต่ก็ยิงโดนบ้างนั่นแหละ นี่เลยเป็นเหตุให้ฝรั่งเศสเรียกเงินค่าไถ่บ้านไถ่เมืองเอาจากสยามเพราะไปยิงเรือของฝรั่งเศสเข้า จนฝรั่งเศสขู่ว่าจะยิงถล่มวังถ้าไม่จ่ายตามที่เรียกร้อง

กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงกล่าวถึงเงินถุงแดงเอาไว้ว่าสมัยก่อนข้างพระแท่นจะมีกำปั่นใหญ่ใส่เงินเอาไว้สำหรับทรงหยิบใช้โดยไม่ต้องบอกให้ใครรับรู้ถือว่าเป็นเงินส่วนพระองค์ แต่พอถึงรัชกาลที่3 ทรงค้าขายสินค้ากำปั่นได้เงินมากมายทรงใส่ถุงแดงเอาไว้ในพระคลัง

ทรงเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อใช้ยามบ้านเมืองเกิดทุกข์เข็ญ


คราวนี้ทุกข์เข็ญกันแล้ว ฝรังเศสจะถล่มเมืองโดยเรียกค่าไถ่ถึงสามล้านฟรังก์หรือหนึ่งล้านหกแสนบาทเศษ สุดท้ายไทยต้องจ่ายเพราะเมื่อเทียบกับยอมให้เรื่องลุกลามเราอาจจะเสียเมืองได้โดยง่าย


เงินที่ว่าคือเงินถุงแดงที่รัชกาลพระนั่งเกล้าทรงเก็บไว้และรัชกาลพระจอมเกล้าไม่นำออกมาใช้โดยยอมให้ขุนนางกล่าวร้ายพระองค์และเมื่อไม่มีเงินเบี้ยหวัดก็เลาะทองเบ็ญจาออกจ่ายแทนเงินสดโดยไม่แตะต้องเงินก้อนนี้ พระคุณและพระเนตรอันกว้างไกลของพระองค์ทั้งสองกู้ชาติได้ในเวลาต่อมา



ในรูปนี้ที่รัชกาลที่3 ได้รับสั่ง ปีกนี้แหละที่ทรงเลือกที่จะสวรรคตตรงนี้





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:40  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30741

คำตอบที่ 145
       หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล พระธิดาของกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้กล่าวไว้ถึงกรณีวิกฤติ รศ112 ไว้ว่า

ฝรังเศสไม่เอาธนบัติ แต่จะเอาเหรียญกริ๊งๆ ที่มีอยู่ คราวนี้ต้องเทถุงกันหมด เงินถุงแดงและเงินของเจ้านายในวังต่างก็เทเงินถวายให้เอามาเทให้ฝรั่งเศส เงินจำนวนนี้ต้องขนจากวังผ่านประตูต้นสนไปท่าราชวรดิษฐทั้งกลางวันกลางคืนจำนวนเป็นน้ำหนักแล้วหนักหลายตันเลยที่เดียว

เงินเหรียญนี้มีทั้งเงินจีน เงินแม็กซิโก เงินเหรียญอเมริกัน เงินสเตอริง ที่พระองค์ได้ทรงเก็บไว้จากการค้าถูกฝรั่งเศสขนลงเรือรบไปทั้งหมด



มันน่าแค้นใจนักที่ฝรังเศสทำกับเรา แต่ก็ได้เงินถุงแดงช่วยเราไว้ไถ่บ้านไถ่เมืองสมกับพระราชเจตนาของรัชกาลที่3



เหมือนกับที่ลาวโกรธไทยที่ไปทำกับเขาคล้ายๆกัน เพียงแต่ฝรังเศสไม่ได้ฆ่า ฝรั่งเศสไม่ได้ปล้นสดมป์ ฝรั่งเศสไม่ได้กวาดต้อนเอาลูกเอาเมียคนไทยไปใช้แรงงานในโคโลนี่ฝรั่งเศส หรือเผาเมืองจนราบเหมือนที่ไทยทำกับลาวตอนที่ไปอัญเชิญพระแก้วลงมาจากเวียงจันทร์


เมื่อครั้งคุณเฒ่าท่าพระจันได้ทักท้วงเรื่องประวัติศาตร์พระแก้วมรกต ผมยังยืนยันอย่างที่ผมบอกไว้เมื่อกระทู้ก่อนว่า ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอถ้าเราลืมมันหรือแกล้งลืมมัน เราอาจจะทำผิดซ้ำสองได้



การให้ความรู้แบบไม่ปิดบังทั้งดี-เลวในอดีตจะสร้างสิ่งถูกต้องให้ลูกหลานในอนาคตครับ ผมเชื่อมั่นในวิถีแบบนี้








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:42  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30742

คำตอบที่ 146
       ครั้งนี้ผมรีบเอากระทู้ลงตอนกลางวันเพื่อจะปิดรูปชุดวัดพระแก้วลงเพื่อให้ รุจ เปิดตัวลงรูปชุด วัดอรุณและวัดพระเชตุพน

ถ้าผมว่างพอจะลงรูปชุดกลางคืนเหมือนเดิมอีกชุดครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:45  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30743

คำตอบที่ 147
       มุมมองสุดท้ายก่อนออกประตูวังหลวง

จบแล้วครับสำหรับภาคพิเศษลงกระทู้ตอนกลางวันในวันนี้







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:47  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30744

คำตอบที่ 148
      
จาก Ruj 61.90.217.70 พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:15






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:52  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30745

คำตอบที่ 149
      

จาก Ruj 61.90.217.70 พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:17





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:53  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30746

คำตอบที่ 150
      

จาก Ruj 61.90.217.70 พฤหัสบดี, 16/11/2549 เวลา : 18:18






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

somsaks จาก von Richthofen 202.91.18.204 พฤหัสบดี, 7/8/2551 เวลา : 15:54  IP : 202.91.18.204   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 30747

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 5 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันจันทร์,29 เมษายน 2567 (Online 6520 คน)