WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เครื่องบินซิน กะเครื่องดีเซล แรงม้ารึแรงโม้

จาก ฟ้าเวิ้ง
IP:58.147.32.97

พฤหัสบดีที่ , 18/8/2548
เวลา : 15:35

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ใครขอผู้รู้-ผู้มีวามเห็นเข้ามา อธิบายหน่อยครับ

ผมสังเกตเห็นว่า เครื่องดีเซลทำcc ออกมา เวอร์มากๆ3000 cc วิ่งได้ได้เต็มกลืน170-180
ทั้งๆที่รถเบนซิน 1500-2000cc 200km สบายๆ มันยังไงกันแน่
ถ้า3000cc เบ็นซิน+หอยพิษ แบบกะบะดีเซล ละก้ ผมว่า 300ม้าสบายๆ ทำไม ดีเซลออกมาแค่ 150-170ม้าเอง แรงมันหายไปตรงไหน เห็นกะบะเมืองนอกพวก gm ม้าต้อง280ตัว.



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       คำถามนี้ถ้าใครจบวิศวะเครื่องกลจะสามารถตอบคำถามนี้ได้อย่างมีหลักการและเหตุผล (สามารถหาทฤษฏีมากล่าวอ้างได้ครับพร้อมกับคำนวนครับ) ผมเรียนนิติศาสตร์เกี่ยวกับกฎหมาย ก็ขอตอบแบบ ไม่ล่ะเอียดมาก นะครับ

ทำความเข้าใจก่อนนะครับ
แรงม้าในรถยนต์ คือ กำลังงานโดยรวมที่ได้ครับโดยเทียบจากแรงบิดและรอบเครื่องครับ
แรงบิด คือ กำลังงานที่ได้จากการหมุนของเครื่องยนต์แต่ล่ะรอบโดยไม่คำนึงถึงความเร็วรอบเครื่อง

เหตุที่เครื่องยนต์เครื่องยนต์ อะแก๊สโซลีน มาสารถรีดแรงม้าออกมาได้มากว่าเครื่องยนต์ดีเซล เพราะ น้ำมันเบนซิลนั้นมีค่า การระเหยเป็นไอ ได้เร็วกว่าดีเซลครับทำให้น้ำมันเบนซิลนั้นสามารถจุดระเบิดประกายไฟจากหัวเทียนได้ครับ เมื่อใช้ประกายไฟในการจุดระเบิดส่งบวกกับความสามารถในการระเหยเป็นไอได้รวดเร็ว ทำให้สามารถเผาเชื้อเพลิงได้อย่างรวดเร็วครับ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะมีความสามารถในการระเหยเป็นไอได้ช้ากว่าดีเซลครับแต่มีพลังงานทางความร้อนสูงกว่าเบนซิล จึงทำให้เครื่องยนต์ดีเซลไม่สามารถจุดระเบิดด้วยหัวเทียนได้ครับ (ลองสร้างจินตภาพตามครับ) ถ้าเอานำมันดีเซลมาจุดระเบิดแบบเบนซิล เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่จะศุนย์ตายบนลงศูนย์ตาบล่างเพื่อดูดอากาศและนำมันที่ผสมกันแล้ว ต่อไปเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่จากศูนย์ตายล่างขึ้นบนเพื่ออัดเชื้อเพลิงให้มีขนาดเล็กลง (ช่วง 2 จังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีเซลจะต้องทำการคลุกเคล้าตัวมันเองกับอากาศ) เมื่อลูกสูบใกล้ถึงมุม BTDC จุระเบิดก่อนถึงศูนย์ตายบนหัวเทียนจะปล่อยประกายไฟออกมาเป็นระยะเวลา ประมาณ 0.002 วินาที ใส่น้ำมันดีเซลที่ผสมกับอากาศ ด้วยความที่ว่าน้ำมันดีเซลสามารถระเหยเป็นได้ช้าเมื่อดีเซลสัมผัสกับประกายไฟ นำมันดีเซลจะเผาไหม้ได้เพียงแค่ส่วนที่โดนประกายไฟและรอบข้างอีกนิดหน่อยในห้องเผาไหม้เท่านั้นครับเพราะเครื่องยนต์ดีเซลเป็นไอระเหยช้ามาก จึงไม่สามารถทำให้ไฟรามไปได้ครับ แต่ ถ้าหากว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งสามารถระเหยเป็นไอได้อย่างรวดเร็ว เมื่อสัมผัสกับประกายไฟจึงสามารถจุดระเบิดลุกไหม้ได้ทั้งห้องเผาไหม้ด้วยเวลารวดเร็วครับ
จากที่ผมพิมพ์ไว้ข้างต้นเครื่องยนต์จึงต้องใช้วิธีการจุดระเบิดโดยการใช้แรงดันฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นฝอยเล็กๆเข้าไนในอากาศที่ถูกอัดจนร้อนจัด เมื่อน้ำมันดีเซลถูกอากาศที่ร้อนจัดจะทำการลุกไหม้ได้ด้วยตัวของมันเองครับ (พูดง่ายๆ ไม่ว่าส่วนไหนของเชื้อเพลิงก็สามารถจุดระเบิดได้ด้วยตัวของมันเองทุกส่วนของน้ำมันที่สัมผัสกับอากาศในห้องเผาไหม้ครับ)

เครื่องยนต์ดีเซลแรงม้าเท่าเบนซินในขณะที่ cc. มากกว่า
ตัวอย่างเช่นเครื่องยนต์เบนซิล 1500cc.Turbo 150แรงม้าที่6400รอบต่อนาที กับ เครื่องดีเซล3000cc. Turbo 150 แรงม้าที่3200รอบต่อนาที การจุดระเบิด 1 ครั้งเครื่องยนต์เบนซิลจะได้กำลังงานน้อยกว่าครับ แต่ที่เครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัวนี้สามารถทำแรงม้าได้เท่ากันเนื่องจากเครื่องยนต์เบนซิลนั้นต้องใช้รอบเครื่องที่สูงกว่าดีเซล 2 เท่าแต่แรงบิดนั้นจะน้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซล 2 เท่าครับ เมื่อเราเอาแรงม้าและแรงบิดมาเทียบกันผมของสมมุติแรงบิดในขณะรอบเครื่องแรงม้าสูงสุงขึ้นมานะครับ

ดีเซล รอบเครื่อง 3200 rp/m มีแรงบิด 24 กก.
เบนซิล รอบเครื่อง 6400 rp/m มีแรงบิด 12 กก.
ถ้าเอาเครื่องยนต์เบนซิลมาใส่เฟืองทด 1 : 2 แล้วนำรอบเครื่องนั้นมาวัดจะทำให้รอบเครื่องถูกหารลงครึ่งหนึ่งเหลือ 3200 rp/m เท่ากับดีเซลครับ ส่วนแรงบิดนั้นก็จะเพื่อขึ้นเป็น 2 เท่า จึงเท่ากับ 24 กก. เท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลครับ

ดีเซล รอบเครื่อง 3200 rp/m มีแรงบิด 24 กก.
เบนซิลใส่เฟืองทด 1: 2 รอบเครื่องเหลือ 3200 rp/m แต่มีแรงบิด 24 กก.

จึงเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัวนั้นจะได้กำลังงานรวมหรือแรงม้าเท่ากันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 203.156.150.115 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 18:05  IP : 203.156.150.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7044

คำตอบที่ 2
       ขอตอบอีกนิดครับ ที่กระบะ GMC ของอเมริกามัน280 แรงม้าน่ะครับ มันเป็นเบนซินนะครับ แถมเครื่องยนตไม่แค่ 3000 cc. ด้วยครับ ของมัน 3800cc. ไม่มี Turbo ครับแถมลูกสูบก็ 6 ลูกขึ้นไปครับ มันจึงทำแรงม้าได้ ถึง 280 แรงม้าครับ

เหตุที่มันไม่ใส่Turbo แต่เรียกแรงม้าขึ้นสูงโดยการใช้ความจุของกระบอกสูบสูงๆ เพราะว่า การทำเครื่องยนต์ ความจุต่ำแค่ใส่ Turbo เรียกแรงม้าให้สูงๆ นั้นจะทำให้ความทนทานโดยรวมของเครื่องยนต์ลดลงไปครับ และอีกอย่างก็คือ GMC เป็นรถกระบะ4WDหรือไม่ก็SUV4WDนะครับ เวลานำไปเข้าป่าทางขุลขละ จำเป็นต้องใช้การตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ครับ เวลาจำต้องเรียกกำลังลังเครื่องยนต์กระทันหันนั้งกำลังของเครื่องยนต์จะต้องมาทันทีครับ ถ้าเป็นเครื่องยนต์ CC น้อยๆแต่ใส่เทอร์โบ มันจำเป็นเป็นที่จะต้องรอบูทเพิ่มสูงขึ้นครับ จะต้องใช้เวลาครับ แต่ถ้าเป็น CC สูงๆ นั้นเมื่อเหยียบคันเร่งกำลังของเครื่องยนต์จะเพื่อขึ้นทันทีไม่ต้องรอบูทจากะพินครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 203.156.150.115 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 18:32  IP : 203.156.150.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7045

คำตอบที่ 3
       คำว่า กะพิน ส่วนท้ายนั้น เป็นคำว่า Turbo นะครับ ผมลืมเปลี่ยนอักษรครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 203.156.150.115 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 18:33  IP : 203.156.150.115   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7046

คำตอบที่ 4
       แจ่มมั้ยน้อง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ... 203.151.140.123 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 20:18  IP : 203.151.140.123   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7050

คำตอบที่ 5
       ขออภัยครับผมลืมอธิบายเปรียบเทียบการนำเอาเบนซินมาใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลครับ



ลองอ่านแล้วก็สร้างจินตภาพตามนะครับ
(ถ้าใครสร้างจินตภาพไม่เป็นผมก็จะอธิบายยกตัวอย่างให้ฟังครับ อย่างเวลาคุณเห็นแฟนคุณน่ะครับแฟนคุณใส่เสื้อผ้ามิดชิด แต่คุณก็ยังสามารถคิดได้ว่า สัดส่วน รูปร่าง ของแฟนคุณ ภายในเสื้อผ้านั้นเป็นอย่างไร ขนาดเท่าไร รูปทรงอย่างไร โดยทีคุณนั้นไม่สามารถเห็นของจริงได้ ถ้ายังไม่เข้าใจหรือใครยังไม่มีแฟน ผมจะยกตัวอย่างให้ อย่างเวลาที่คุณ ชักว่าว ในห้องน้ำน่ะครับสายตาคุณไม่ได้เห็น ของกระตุ้น ภาษาในวิชาการเรียกว่า "สิ่งเร้า" แต่คุณก็ยังสามารถทำได้โดยการนึกภาพ นั้นแหละครับเรียกว่าการสร้าง จินตภาพ )

ถ้าหากว่าเอาน้ำมันเบนซินไปใช้วิธีการจุดระเบิดแบบเดียวดีเซล เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่จาก ศูนย์ตายล่างขึ้นไปศูนย์ตายบนเพื่อทำการอัดอากาศเปล่าๆ ให้มีความร้อนสูงขึ้น เมื่อลูกสูบใกล้ถึงศูนย์ตายบนหัวฉีดจะทำการฉีดน้ำมันเบนซินที่เป็นฝอยละเอียดออกมา เครื่องยนต์จะไม่มีการจุดระเบิด เพราะน้ำมันเบนซินมีสารออกเทนอยู่เป็นสารที่ต่อต้านการจุดระเบิดที่เกิดจากการอัดอากาศจนมีความร้อนสูงครับ น้ำมันเบนซินจึงไม่สามารถจุดระเบิดได้ครับ
ดูง่ายๆจากเครื่องยนต์เบนซิลจะดูดอากาศที่ผสมเข้ากับน้ำมันก่อนเข้ากระบอกสูบ แล้วจึงทำการอัดอากาศที่ผสมกับน้ำมันตามหลักการแล้วการอัดอากาศส่งผลทำให้เกิดความร้อนขึ้นครับ (ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์เบนซินโดยทั่วไปจะมีอัตราส่วนกำลังอัด 1 : 10 ซึ่งน้อยกว่าดีเซลซึ่งมีกำลังอัดประมาณ 1 : 22) แต่ทำไมไม่มีการจุดระเบิดขึ้น ก็เนื่องจากว่าสารออกเทนทำหน้าที่ยับยั้งการจุดระเบิดที่เกิดจากการบีบอัดความร้อนไว้ครับ
ตัวอย่างเช่น (สมัยที่ยังมีเบนซินออกเทน 87 อยู่นะครับ) รถจักรยานยนต์ YAMAHA TZR 150cc. 2 จังหวะ มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 1 : 6.5 ส่วนรถจักรยานยนต์ HONDA CBR 150cc. 4 จังหวะมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 1 : 11 จากรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นนี้ เมื่อเปดคู่มือไปดูชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ จะพบว่า

YAMAHA TZR 150cc. ให้ใช้ เบนซินออกเทน 87 ขึ้นไป
HONDA CBR 150cc ให้ใช้ เบนซินออกเทน 95 ขึ้นไป

เหตุที่ CBR นั้นจะต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มี สารออกเทน ผสมอยู่มากกว่าเพราะมันมีกำลังอัดที่สูงกว่า TZR ครับ เพราะฉะนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นในจังหวะอัดของ CBR จึงมีค่าสูงกว่า TZR ทำให้ต้องใช้สารออกเทนมากกว่าครับ




ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอให้ช่วยชี้แนะด้วยครับ (ไม่ได้เรียนเกี่ยวกับเครื่องยนต์ครับ แต่ก็ชอบศึกษา เลยกลัวศึกษามาผิดครับ)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.44.46 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 22:10  IP : 58.147.44.46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7052

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณครับ ได้ความรู้เพิ่ม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ร ท 203.113.70.11 พฤหัสบดี, 18/8/2548 เวลา : 22:15  IP : 203.113.70.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7053

คำตอบที่ 7
       ที่ว่ารถปิ๊กอัพดีเซลเครื่องยนต์ 3000cc. แรงม้ามากกว่ารถเก๋งเบนซินแต่กลับทำ Top speed ได้น้อยกว่านั้น เราจะต้องมาตอบคำถามตรงนี้ก่อนว่า

รถปิ๊กอัพดีเซล ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานอะไร และ รถเก๋งเบนซิน ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานอะไร

รถปิ๊กอัพดีเซลนั้นถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกของน้ำหนัก 1200 กิโลกรัมครับ ไม่ใช่ใช้เป็นรถนั่งโดยสารครับ เพราะฉะนั้น ตัวเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ และระบบส่งกำลัง นั้นถูกออกแบบมาสำหรับบรรทุกของหนัก 1200 กิโลกรัมครับ ยกตัวอย่างเช่น NISSAN 4WD เครือง ZD30DDT แรงม้าสูงสุดของเครื่องยนต์ 150 แรงม้าที่ 3400 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุด 165 Km/h รอบเครื่องอยู่ที่ 4125 รอบต่อนาที ซึ่งจะเห็นได้ว่ารอบเครื่องยนต์นั้นได้หมุดเร็วเกินกว่าแรงม้าสูงสุดไปแล้วส่งผลทำให้ตัวเครื่องยนต์นั้นไม่สามารถรีดแรงม้าออกมาได้อย่างเต็มที่ครับ (เพราะกำลังงานโดยรวมจะน้อยกว่าที่รอบเครื่อง 3400 รอบต่อนาที หมายถึง รอบเครื่องขึ้นสูงไปไม่มากแต่แรงบิดนั้นกลับตกลงไปเยอะกว่ารอบเครื่องที่ได้มา) แต่ถ้าหากว่าเราเอารถคันนั้นมาบรรทุกของหนัก 1200 กิโลกรัม ลองเหยียบมิดแล้วดูที่รอบเครื่อง รอบเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 3400 รอบต่อนาที หรืออาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นนิดหน่อย แต่ก็ยังมีไอ้พวกงี่เง่า(รวมทั้งตัวผมด้วยเพราะผมใช้ NISSAN TERRANO4WD โดยสารคนเดียวแถมขี่แต่บนถนนดำ)ที่เอารถปิ๊กอัพซึ่งออกแบบมสำหรับการบรรทุกมาขับขี่ตัวรถเปล่าๆ ทำให้ไม่สามารถรีดแรงม้าสูงสุดของรถคันนั้นได้ และยังส่งผลทำให้เผาผลาญเชื้อเพลิงไปกับน้ำหนักตัวถัง และ ระบบส่งกำลังที่ออกแบบสำหรับการบรรทุกเปล่าประโยชน์อีกด้วย

รถเก๋งเบนซิน เป็นรถที่ถูกออกแบบมาสำหรับโดยสารโดยเฉพาะ คือการขับขี่โดยทั่วไปนั่นเอง เช่น รถเก๋ง เครื่องยนต์ 150 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที ทำ Top speed 210 Km/h ถ้าเราลองเหยียบมิดที่ 210 Km/h ดูจะพบว่ารอบเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 6000 รอบต่อนาทีพอดีครับเพราะเครื่องยนต์ตัวรถและระบบส่งกำลัง ถูกออกแบบมาสำหรับโดยสารคนคนเดียวอยู่แล้วครับ ถึงแม้ว่ารถเก๋งนั้นจะเขียนน้ำหนักบรรทุกว่า 800 กิโลกรัมก็เถอะถ้าหากเราบรรทุกหนัก 800 กิโลกรัมแล้วเหยียบมิดความเร็วสูงสุดนั้นจะไม่ถึง 210 Km/h ส่งผลทำให้รอบเครื่องไม่ถึง 6000 รอบต่อนาทีซึ่งเป็นรอบแรงม้าสูงสุดด้วยครับ

สรุปได้ว่าที่รถปิ๊กอัพบอกแรงม้าสูงๆ แต่กลับทำความเร็วได้ไม่เท่ารถเก๋งนั้น แรงม้าที่ระบุไว้เป็นของจริงทั้งหมดครับ แต่ก็จะมีไอ้พวกงี่เง่าใช้รถผิดประเภท ผิดวัตถุประสงค์ที่ผู้ผลิตเขาออกแบบมา รถคันนั้นๆ จึงไม่สามารถรีดแรงม้าได้อย่างเต็มที่ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.44.46 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 00:11  IP : 58.147.44.46   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7054

คำตอบที่ 8
      
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะเลย
สรุปว่า กะบะดีเซลเขาออกแบบ เน้นแรงบิดไว้บันทุก มิได้เน้นแรงม้า เบนซินเน้น แรงม้า+สปีด........เก็ตล่ะ
......แล้วทำไม ทีอีโว เครื่อง 2000cc ทำม้าได้280-300ก่า
แรงบิด ก็ 300 ก่า ได้ล่ะครับ...ดีเซลมีบ้างไหมครับ เครื่อง2000cc ม้า280 แรงบิด 300ก่าเนี้ย.......



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ฟ้าเวิ้ง 58.147.45.30 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 00:57  IP : 58.147.45.30   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7055

คำตอบที่ 9
       รถแข่งEVOLUTIONที่ใช้เครื่องเครื่อง 4G63 ซึ่งมีความจุของกระบอกสูบ 2000cc. นั้นสามารถรีดแรงม้าได้ถึง 280 แรงม้า เป็นเรื่องปกติครับ



ข้อจำกัดของเครื่องยนต์ 2000cc. นั้นก็คือปริมาณอากาศที่ถูกดูดเข้าไปในกระบอกสูบครับ ถ้าเครื่องยนต์สามรถดูดเอาอากาศเข้าไปประจุในห้องเผาไหม้ได้มากขึ้นเท่าไรก็จะสามารถจ่ายน้ำมันได้มากขึ้นเท่านั้น และเมื่อมีอากาศกับน้ำมันมากก็จะส่งผลทำให้แรงม้ามากขึ้นตามเช่นกันครับ เพราะเหตุนี้ รถแข่ง EVOLUTION จึงได้ทำการใส่อุปกรณ์อัดอากาศ Turbo ยัดลงไป 2 ลูก และอุปกรณ์ หล่อเย็นอากาศที่อัดตัวจนเกิดความร้อน Intercooler ขนาดใหญ่ (ถ้าถ้านับเฉพราะIntercoolerจากโรงงานที่ผลิตไม่รวมกับIntercoolerที่ขายเป็นของแต่งรถ ถือว่าใหญ่) และที่ใช้ Turbo ถึง 2 ตัวก็เพื่อเหตุผลที่จะต้องอัดอากาศในปริมาณที่มากๆ รวมทั้งช่วยในการลดความร้อนทำให้Turboอายุการใช้งานสูงขึ้นครับ เข้าเรื่อง เมื่อปริมาณอากาศทางไอดีนั้นถูกเพิ่มความหนาแน่นขึ้น และ ลดปริมาณลงทำให้อากาศที่ถูกดูดเข้าไปในกระบอกสูบขนาด 2000cc. นั้นมีอากาศมากกว่ากระบอกสูบ2000cc.ที่ไม่มี Turbo เกือบเท่าตัวสมมุติว่ามากกว่าสัก 70% เมื่อเทียบกับอากาศภายนอกก็จะเท่ากับ 2000 x 170/100 จะเท่ากับ 3400cc.ครับ
แต่มันยังมีอีกหลายสิ่งที่เครื่องยนต์ในรถแข่ง EVOLUTION รีดแรงม้าได้สูง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การหมุนไอดีระหว่างทางเข้ากระบอกสูบ และการหมุนอากาศภายในห้องเผาไหม้ ซึ่งมีผลทำให้เชื้อเพลิงนั้นได้สัมผัสกับประกายไฟหัวเทียนมากขึ้น ออกแบบแคมชาฟ (ลูกเบี้ยว) ทางไอดีให้เปิดนานขึ้นและกว้างขึ้น การตั้งไฟให้มีมีแรงดันที่สูงขึ้นให้หัวเทียนปล่อยประกายไฟที่รุนแรงขึ้นฺ การปรับมุม BTDC มุมที่หัวเทียนปล่อยประกายไฟก่อนถึงศูนย์ตายบนให้มีองศามากขึ้นเพื่อเวลารอบจัดจะได้สามารถเผาเชื้อเพลิงได้หมด การออกแบบท่อไอเสียให้มาสามารถนำเอาไอเสียออกจากห้องเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็วและดึดไอดีเข้ามาในห้องเผาไหม้ในจังหวะที่วาล์วไอดีเริ่มเปิดและวาล์วไอเสียเริ่มปิด โดยไม่ให้ไอดีทลักออกไปทางไอเสีย (แต่การออกท่อไอเสียนั้นมันต้องใช้ศาสตร์และศิลป์อย่างมากครับผมเองนั้นตอนที่แต่งรถจักรยานยนต์ ผมยังไม่เคยทำการดัดแปลงไอเสียเองครับ ผมไปหาซื้อท่อสูตรมาใส่เลยครับ)

นี่ก็เป็นเหตุผลคร่าวๆ ที่รถแข่ง EVOLUTION มาสารถรีดแรงม้าออกมาได้สูงครับ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.40.176 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 09:28  IP : 58.147.40.176   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7060

คำตอบที่ 10
       เครื่องยนต์ดีเซล 2000cc. นั้นสามารถรีดแรงม้าให้ขึ้นไปได้ถึง 280 แรงม้านั้นสามารถทำได้หรือไม่



ผมอยากจะให้คุณดูจาก หลักการสันดาปภายในของเครื่องยนต์ดีเซล (การสันดาปที่ผมจะอธิบายนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคาบเวลาหรือรอบเครื่องนะครับหรือที่เรียกว่าแรงม้านะครับ แต่จะเป็นกำลังงานที่ได้จากการสันดาป 1 ครั้ง แล้วจากนั้นผมจะเทียบคาปเวลาและรอบเครื่องต่อไปครับ)
การสันดาปแต่ล่ะครั้งให้ได้กำลังงานที่มาก สิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญ ก็คือ ปริมาณอกกาศที่อยู่ในห้องเผ่าไหม้กับปริมาณน้ำมันที่จ่ายให้กับอากาศครับ ไม่ใช้ปริมาณกระบอกสูบครับ ปริมาณกระบอกสูบเป็นแค่ตัวแปรตัวหนึ่งที่ทำให้มีอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ได้มากขึ้นครับ ถ้าอากาศมากก็จะสามารถจ่ายน้ำมันลงได้มากตามครับ ทำให้ได้กำลังงานที่สูงขึ้นตามครับ ผมจะยกตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์ดีเซล 4000cc. มีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 1 : 20 นั้นจะมีความจุของห้องเผาไหม้เท่ากับ 200cc.ครับ ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 2000cc. ที่มีอัตราส่วนกำลังอัด 1 : 20 นั้นจะมีความจุของห้องเผาไหม้ 100cc. ครับ

เครื่องยนต์ 4000cc. ห้องเผาไหม้ 200cc.
เครื่องยนต์ 2000cc. ห้องเผาไหม้ 100cc.

จากเครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัว ถ้าเรานำเครื่องยนต์ 2000cc. มาลดอัตราส่วนกำลังอัดเพื่อเพิ่มขนาดห้องเผาไหม้ให้มีปริมาณที่มากขึ้นคือเท่ากับ 200cc. แต่อัตราส่วนกำลังอัดก็จะต้องถูกลดลงไปเหลือเพียง 1 : 10 ครับ ซึ่งความร้อนของอากาศที่มีกำลังอัดเท่านี้มีความร้อนไม่เพยีงพอในกาจุดระเบิดครับ แต่...ถ้าหากว่าเรานั้นมีวิธีที่จะทำการประจุอากาศลงไปในกระบอกสูบ 2000cc. จนมีมากเท่ากับเครื่อง 4000cc. นั่นก็แปลว่าอัตราส่วนกำลังอัดนั้นก็จะสามารถเท่ากับ 1 : 20 ได้เมื่อเทียบกับอากศภายนอก นั่นก็แปลว่าเครื่องยนต์ 2000cc.ก็สามารถมีกำลังงานเท่ากับเครื่องยนต์ 4000cc. ได้นั่นเองครับ
และสิ่งที่ทำให้มันเป็นไปได้นั้นก็คือ Supercharge หรือCompressorนั่นเองครับ ถ้าเราเอา Supercharge ที่ใช้ใน รถDrag มาขนานกันสัก 4-5 ลูแล้วใช้พลังงานจากภายนอกทำการหมุน Supercharge เหล่านั้นเพื่อทำการอัดไอดีให้มีความหนาแน่นมากๆ ในปริมาณที่เล็ก ก็จะสามารถมีอัตราส่วนกำลังอัดสูงพอที่จะทำให้เกิดความร้อนมากพอในการเผาไหม้เชื้อเพลิงได้ครับ
และการที่เราจะรีดกำลังงานโดยรวมออกมาได้สูงๆนั้นนอกจากกำลังงานในการสันดาปแต่ล่ะครั้งแล้วยังต้องต้องมีรอบเครื่องเข้ามาด้วย (ถ้ารอบเครื่องสูงก็จะได้กำลังงานที่มากตามครับ) สิ่งที่จะทำให้รอบเครื่องสูงขึ้นโดยยังสามารถเผาผลาญเชื้อเพลิงได้อย่างรวดเร็วคือ ความร้อนของอากาศ ปริมาณความหนาแน่นของอากาศ และความละเอียดของน้ำมันเชื้อเพลิงครับ จึงได้มีการระบบจ่ายน้ำมันแบบดีเซล คอมมอลเรล (ถ้าต้องการรู้หลักการทำงานให้เปิดดูในเว็ปไซด์ รถที่มีระบบคอมมอนเรลดูครับ) ระบบคอมมอนเรลสามารถฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงได้มากกว่าปั๊มVE (ปั๊มกลไกและจานจ่ายหมุนวน) ถึง 10 เท่า จึงทำให้น้ำมันนั้นละเอียดมากกว่าหลายเท่าตัวครับ เมื่อเชื้อเพลิงมีขนาดเล็กลงจึงเผาผลาญเชื้อเพลิงได้รวดเร็วขึ้นในเวลาที่สั้นลงครับ เมื่อรอบเครื่องและแรงบิดที่สูงจึงส่งผลทำให้แรงม้าสูงตามครับ

แต่การที่จะทำให้ดีเซล 2000cc. สามารถรีดแรงม้าได้สูงถึง 280 แรงม้าจะต้องทำการออกแบบเครื่องยนต์อีกหลายอย่าง นอกจากที่ผมเอ่ยมาข้างต้นครับ และอีกอย่างการที่เราจะเอา Supercharge บรรทุกไปในรถแล้วหาแหล่งกำเนิดกำลังงานมาหมุนนั้นมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเกินว่าที่จะใช้งานได้จริงครับ แต่ถ้าถามผมว่าเครื่อง 2000cc. นั้นสามารถรีดแรงม้าได้ 280 แรงม้าได้หรือไม่ ผมก็จะเอาหัวเป็นประกันเลยครับว่าทำได้ครับ เพราะการที่เครื่องยนต์จะมีการสันดาปที่รุนแรงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณกระบอกสูบครับมันขึ้นอยู่ที่ปริมาณอากาศและน้ำมันครับ

หากท่านอื่นที่เห็นว่าข้อความในคำตอบนี้ไม่น่าเป็นความจริงก็ช่วยโพสเพื่อชี้แนะด้วยครับ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.40.176 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 10:44  IP : 58.147.40.176   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7062

คำตอบที่ 11
       คุณ ฟ้าเวิ้ง คุณเป็นคนที่ศัทราหนังเรื่อง HERO หรือเปล่าครับ ผมนี่ศัทราหนังเรื่องนี้มาเลยครับ (ซื้อ VDC มาดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูอีกไม่ต่ำ 20 รอบ)
ผมว่า ตัวละครกระบี่หักในเรื่องนี้ มีทัศนะคติของผู้นำที่มีศีลธรรมโดยแท้จริงครับ หน้าที่ของผู้นำคือการนำเอาความสงบสุขมาสู่ประชาราษฎรครับ กระบี่หักไม่ฆ่า ฉินอ๊อง เพราะกระบี่หัก เห็นแล้วว่า ฉินอ๊อง จะต้องสามารถรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งแล้วนำมาความสงบสุขมาสู่ประชาชนได้ ถ้าหากว่ากระบี่หักฆ่าฉินอ๊องได้ จะส่งผลทำให้ ก๊ก ที่เหลือลุกฮือขึ้นแย่งชิงเป็น จักรพรรดิ ผมโครตประทับใจเลย

อยากถามว่าคุณ ฟ้าเวิ้ง ทำงานอะไรอยู่หรือครับ หรือว่าเรียนอยู่ที่ไหนครับ ผมเรียนคณะนิติศาสตร์ รามคำแหง ครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.40.176 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 10:58  IP : 58.147.40.176   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7063

คำตอบที่ 12
       ผมนับถือคุณ DragonHero จริงๆๆครับที่ศึกษาหาความรู้ได้ขนาดนี้นะเยี่ยม
ผมขออนุญาติเสริมบางอย่างเพิ่มเติมนะครับ

1. รถวิ่งเร็ว-ช้าอยู่ที่อัตราการทดเกียครับ กระบะทำเพื่อบรรทุกของครับ เน้นแรงม้ามาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากกว่านำไปทำอย่างอื่นนะครับ

2.รถคุณถ้าต้องการทำให้ได้แรงม้าสูงๆๆทำได้ครับ แต่งประมาณจะสูงตามแรงม้าที่คุณต้องการ ในสเต็ปแรก (200 แรงม้า ก็ราคาไม่ต่ำกว่าแสนบาทครับ)
รายละเอียดเยอะมากครับต้องขอโทษที่ไม่สามารถบอกได้หมดในเวฟฯ นี้นะครับ ลองดูในหนังสือพวกแต่งรถต่างๆนะครับ การทำไม่ค่อยจะต่างกันแต่อุปกรณ์บางอย่างไม่มีขายต้องสั่งทำเฉพาะ

3.Turbo & Supercharges มีหน้าที่เหมือนกันแต่การทำงานต่างกันครับ
- Turbo ทำหน้าที่อัดอากาศเข้าเครื่องยนต์โดยใช้ไอเสียของเครื่องยนต์เป็นแรงดันในการทำงานจะเริ่มทำงานในรอบค่อนข้างสูง
- Supercharges ทำงานโดยการต่อสายพานตรงกับเครื่องยนต์จะอัดอากาศให้กับเครื่องยนต์ตั้งแต่รอบต่ำๆ

4. สำหรับสเปกบางตัวต้องกำหนดหน่วยให้ด้วยครับเพราะดูแล้วเข้าใจยากครับ

5. สำหนังสือทีอย่างแนะนำให้ดุเพิ่มเบื้องต้น
"ตรางงานโลหะ" ของ รศ.บรรเลง กับผศ.ประเสริฐ
"คู่มือวิศวะเครื่องกล" ในนี้จะมีหลักการของวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลทั้งหมด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เฉิ่ม 221.128.74.98 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 19:43  IP : 221.128.74.98   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7074

คำตอบที่ 13
       ขอบคุณ คุณ เฉิ่ม ที่แนะนำหนังสือมาครับ แต่หนังสือที่แนะนำมานั้นผมคงไม่มีโอกาสที่จะได้ไปอ่านครับ เพราะ ไม่รู้แหล่งที่ซื้อครับ และก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างในการอ่านด้วยน่ะครับ แต่ก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าเนื้อหาภายในมันมีอะไรบ้างหรือครับ บอกเป็นหัวข้อคร่าวๆก็ได้ครับ

ข้อความข้างต้นที่ผมโพส บางส่วนอาจทำให้คนอ่านสับสนเนื่องจากผมไม่มีหนังสือและข้อมูลน่ะครับ เลยไม่สามารถบอกหน่วย หรือ คำศัพท์ที่เป็นสากลได้ เรียบเรียงก็ไม่ค่อยดีเท่าไรครับ (ผมลองมาอ่านย้อนแล้วรู้สึกว่ามันคลุมเครือ วกวน ค่อนข้างมากเหมือนกันครับ) ยังไงก็ขออภัยด้วยนะครับ




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.36.207 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 21:11  IP : 58.147.36.207   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7075

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณมากเช่นกันครับ
รายละเอียดในหนังสือมีเยอะครับ ผมจะลองยกตัวอย่างนะครับ

- พื้นฐานการคำนวณต่างๆเบื้องต้น เช่น พื้นที่ สมการที่ใช้คำนวณ กฎเกณฑ์ต่าง การแปลงหน่วยต่างๆ การกล (กลึง กัด เจีย ไส) เฟือง น๊อต การเชื่อม ความแข็งของเหล็ก ท่อ กฎขอคานงัดและโมเมนต์ การทำความเย็น กฎของความร้อนในของแข็ง ของเหลว เคมีเบื้องต้น การเขียนแบบงานกล การออกแบบเครื่องกล สปริงและแหนบ
ระบบไฟฟ้า สัญลักษณ์ต่างทางงานช่าง

และอีกเยอะเลยครับ ผมว่าที่ศูนย์หนังสือรามฯ หน้าจะมีนะครับ หรือร้านหนังสือ ซีเอ็ด ดอกหญ้า ที่ใหญ่ๆๆหน่อยนะครับ

ผมว่าคุณเลือกดูที่ใช้งานจริงๆๆ ก้คุ้มแล้วครับ อย่างน้อยคุณจะได้รู้ที่มานะว่าอุปกรณืต่างที่สำคัญในรถนะมาได้อย่างไร และถ้าคุณมีเวลาอาจจะซื้ออุปกรณืบางอย่างมาหัดทำเองได้ และกล้าที่จะซ่อม/สร้าง อะไรบ้างอย่างได้ เพราะคุณพอที่จะรู้คราวๆว่าทำอย่างไร ทำแล้วจะใช้งานได้ดีหรือเปล่านะครับ เมื่อทำบ่อยๆๆจะทำให้คุณมีฝีมือดีขึ้นเรื่อยๆๆครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เฉิ่ม 221.128.74.98 ศุกร์, 19/8/2548 เวลา : 22:15  IP : 221.128.74.98   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7077

คำตอบที่ 15
       ซ่อม/สร้าง เรื่องการซ่อมนี่ผมทำอยู่บ่อยเหมือนกันครับ เพราะเจ้า TERRANO มันก็เก่าเต็มทีครับ เลยต้องทำการปรับเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ ครับ เช่น ลูกยางในระบบช่วงล่าง ลูกยางในระบบคลั๊ช(เปลี่ยนทั้งบนล่าง) ถอดวิ้นมาอัดจารบี และตรวจซ่อมระบบไฟภายในรถ ผมถนัดเรื่องระบบไฟฟ้ามากกว่าเครื่องกลครับ

แต่พอมาพูดถึงเรื่องงานสร้างแล้วมันทำให้ผมรู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาเลยครับ เพราะผมเกือบที่จะต้องเรียน 4 ปีในชั้น ปวช.3 ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์น่ะครับ เนื่องจากวิชาโครงงานน่ะครับ เหตุที่ผมเกือบต้องเรียน 4 ปีนั้น ไม่ได้เป็นเพราะผมไม่มีความสามารถในการทำโครงงานนะครับ มันเป็นเพราะว่าผมไม่ยอมไปเลียแข้งเลียขาอาจารย์สาวแก่ เลยตกวิชานี้ครับ มันเลยทำให้ผมเบื่อหน่อยการสร้างไปแล้วครับ (เพราะผลสุดท้ายผมต้องเลียขา อาจารย์ผู้นี้และทำโครงการแก้ไขหลายเป็น 10 รอบกว่าจะผ่าน)

ขอเพิ่มในคำตอบที่ 10 นั้น Supercharge ผมบอกให้ใช้พลังงานจากภายนอกมาหมุนแทนเครื่องยนต์ เพื่อที่จะได้รีดแรงม้าออกมามากๆน่ะครับ

ผมมีปัญหาน่ะครับ วินส์ หน้ารถของผม FREE โดนสนิมกินจนมันไม่สามารถเลื่อนได้อีกแล้วน่ะครับ เพราะเอามาจากรถทหารไม่ได้ใช้งานและบำรุงรักษา ตอนแกะมาอัดจารบีนั้น ข้างในจารบีเก่าเหมือนกับก้อนดินแห้งๆเลยครับ ถ้าหากว่าผมต้องการถอดตัวฟรีออกจะต้องไปที่ร้านอะไรทำครับ ที่เขาสามารถดึงเองที่เป็นสนิมติดกับกรอบนอกออกมาได้น่ะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.1.26 เสาร์, 20/8/2548 เวลา : 00:17  IP : 58.147.1.26   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7080

คำตอบที่ 16
       ตอบคุณเด็กรามนะครับ ผมก็ชอบเรื่องนี้ครับ จะทำการใหย่ต้องเสียสละครับ....ผมคนเมืองเหนือครับ อาชีพไม่มีครับ

ผมีไอเดียระห่ำครับ (ไม่รู้มียัง) ถ้าเราทำดีเซล2จังหวะ ผมว่าคงแรงน่าดู รึไม่ก้โรตารี่ดีเซล ความแรงมักสวนทางความประหยัด...........ความฝันสูงสุดของผม อยากให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลีย..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ฟ้าเวิ้ง 203.156.152.34 อาทิตย์, 21/8/2548 เวลา : 02:18  IP : 203.156.152.34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7095

คำตอบที่ 17
       มาตอบครับ

ดีเซล 2 จังหวะมีมานานแล้วครับ (ออกมาพร้อมๆกับดีเซล 4 จังหวะเลยครับ) ดีเซล 2 จังหวะเมื่อก่อนนี้จะใช้ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ และใช้ในเครื่องจักรทางด้านโรงงานอุตสาหกรรมน่ะครับ ปัจจุบันนี้ก็ยังมีใช้อยู่ครับ(แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้จะผมผู้ผลิตออกมาอยู่หรือเปล่า) ดีเซล 2 จังหวะปัจจุบันมันถูกใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ในโรงงารผลิตที่ใช้น้ำมันดีเซลหมุนช้า(ภาษาชาวบ้านผมไม่รู้ว่าชื่อ น้ำมันเตา หรือเปล่า) ปั่น "เจนเนอเรเตอร์" หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ (ไดนาโมผลิตกระแสตรงครับ) แต่ผมไม่แน่ใจว่าเครื่องดีเซล 2 จังหวะเคยถูกนำมาใช้ในรถยนต์หรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก DragonHero NFC157 58.147.33.106 จันทร์, 22/8/2548 เวลา : 22:21  IP : 58.147.33.106   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7111

คำตอบที่ 18
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rider man จาก rider man 58.10.138.29 จันทร์, 22/8/2548 เวลา : 23:45  IP : 58.10.138.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7112

คำตอบที่ 19
       จริงๆ ความเร็วปลายนี่ไม่เกี่ยวข้องกับ ซีซี ซะทีเดียวนะครับ
เกี่ยวตั้งแต่
จุดประสงค์การออกแบบการใช้งานของรถเป็นหลักเลย
อัตราทดเฟืองท้าย
ชนิดเครื่องยนต์
รอบเครื่องยนต์
นำหนักรถ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 15:41  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7182

คำตอบที่ 20
       สำหรับเครื่องยนต์เบนซินนั้น ความเร็วปลายจะได้ดีกว่าเพราะรอบเครื่องยนต์ไปได้สูงกว่า 5000 - 6000 รอบ สบาย
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้น คุณลากรอบได้สุดๆ เท่าไหร่ละ
3000 - 4000 รอบ
ขนาดสิงห์คะนองนาตัวแข่ง เครื่อง RD 28 โบ โมกันสุดๆๆๆ บูสต์ราว 80-100 ปอนด์ รอบเครื่องไปได้แค่
7000 รอบเอง
นี่ก็ส่วนหนึ่ง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 15:46  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7187

คำตอบที่ 21
       นำหนักรถก็มีผลเยอะครับ
รถกระบะหนักอย่างต่ำก็ราว 1200-1400 โลแล้ว
ขณะที่รถเก่งหนักราว 1000 -1200 โล
ขนาดยางด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 15:48  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7189

คำตอบที่ 22
       อัตราทดเกียร์ไม่ต้องกล่าวถึงเพราะเกียร์ 5 ทดไม่ต่างกันนัก
มาดูที่อัตราทดเฟืองท้ายดีกว่า
รถเก่งธรรมดาส่วนใหญ่อัตราทดจะต่ำ 3 - 4 ได้
แต่รถกระบะอตราทด 3.5 - 4.5 ได้
ที่อัตราทดรถกระบะมากเพราะรถมันหนัก
เครื่อง คอมมอนเรวของ วีโก้ความเร็วปลายดีเพราะอัตราทดเพียง 3.53 ได้
ส่วนอัตราเร่งก็ดีเพราะเครื่องมันไฮเทค



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 15:53  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7195

คำตอบที่ 23
       ดังนั้นตัวแปรที่สำคัญคือรอบเครื่องยนต์และแรงม้า
ถ้าเทียบเครื่องยนต์ที่เน้นสมรรถนะนั้น
ดีเซลคอมมอนเรวของเบ้นท์ CDI 2300 ซีซี 200 แรงม้าที่รอบราว 3500-4000 รอบ
ความเร็วปลายได้ราว 200 โลต่อชั่วโมง

มาดูเบนซินบ้าง เอาแค่ 1JZ GTE เดิม 280 แรงที่ 6000 กว่ารอบแล้ว
คุณว่าถ้าขับรถเกียร 5 ที่ความเร็วรอบ 3000 กับ 6000 ( ถ้าเครื่องหมุนไหว ) อย่างไหนจะเร็วกว่ากัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 15:58  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7202

คำตอบที่ 24
       จริงเครื่องดีเซลบ้านเราในตัวแข่งเซอร์กิตก็แรงนะ ( ประมาณนึง )
2500-3000 ซีซี + เทอร์โบ 30 -40 ปอนด์ ที่ 5000 รอบ
เฟืองท้ายเบอร์ 3.73 ( 11/41 ) โดยประมาณ แค่นี้ปลายก็เกิน 200 กว่าสบายๆแล้ว



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 16:03  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7207

คำตอบที่ 25
       แต่พอมาดูรถแข่งบนถนนหลวง
สมมติ 2JZGTE บูสต์ 1.5 บาร์ ราว 22 ปอนด์ แค่นี้ก็ราว 500 แรงม้าแล้ว
หรือพวกเฟอร์ 4500 ซีซี 450 แรงม้า
มันไฮเทคต้างกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 16:07  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7208

คำตอบที่ 26
       ตัวแปรมันคือ อัตราส่วนกำลังอัด
และระบบเชื้อเพลิง
เครื่องดีเซล มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง 17-22 ต่อ 1 ได้
มีข้อดีคือให้พละกำลังในรอบตำ ประหยัดในรอบต่ำ สึกหรอน้อย บรรทุกดี
ข้อเสียคือ
เมื่อเกิดการจุดระเบิดที่กำลังสูง ได้กำลังสูง สั่นสะเทือน เขย่า เสียงดัง
เครื่องยนต์ต้องแข็งแรง ทนทาน จึงมีน้ำหนักมาก
การอัดไอดี ( อากาศที่กำลังอัดสุง 17-22 ต่อ 1 )
ต้องใช้พลังงานในการหมุนมาก กลายเป้นแรงต้าน เป็นเหตุผลสำคัญที่รอบของเครื่องยนต์ไม่สามารถหมุนที่รอบจัดๆ และสูงได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 16:15  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7209

คำตอบที่ 27
       มากันที่ระบบเชื้อเพลิง
เครื่องยนต์เบนซินดูดอากาศที่ผสมกับน้ำมันอย่างดีเข้ากระบอกสูบที่พร้อมสำหรับเผาไหม้ การเผาไหม้จึงเกิดได้เร็ว
เครื่องดีเซลดูดแต่อากาศอย่างเดียวเข้ากระบอกสูบ
แล้วไปฉีดน้ำมันเพื่อระเบิด ถึงฉีดเป็นฝอยจริงๆ แต่มันต้องใช้เวลาให้น้ำมันผสมกับอากาศแล้วจุดระเบิด
การเผาไหม้เกิดช้ากว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 16:19  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7210

คำตอบที่ 28
       แต่มีข้อเสียคือได้พละกำลังตำในรอบต่ำ เทียบกับดีเซลไม่ได้
ในรอบสูงการสึกหรอก็สูงตามไปด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ลูกน้ำ จาก ลูกน้ำ 203.113.80.138 ศุกร์, 26/8/2548 เวลา : 16:21  IP : 203.113.80.138   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7211

คำตอบที่ 29
       เครื่องดีเซล 2 จังหวะมีครับ
แต่อยู่ในรถถัง แดกนำมันเช็ด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก กาย 61.19.148.202 พุธ, 31/8/2548 เวลา : 13:08  IP : 61.19.148.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 7253

คำตอบที่ 30
       อยากทราบว่า
สารออกเทนกับไอโซออกเทนแตกตางกันอย่างไรคะ
อยากรู้มานานแล้วช่วยหน่อยนะคะ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก rin_sium@hotmail.com 203.151.140.118 เสาร์, 1/7/2549 เวลา : 11:52  IP : 203.151.140.118   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 12159

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,24 เมษายน 2567 (Online 3539 คน)