คำตอบที่ 3
พอดีเพิ่งไปเจอข้อมูลจาก www.manager.co.th ครับหรือจะลองเข้าอ่านดูโดยตรงที่นี่เลยก็ได้นะครับ' http://www.manager.co.th/motoring/ViewNews.asp?NewsID=4756265847086&PageNo=1&Keyword= นิสสัน' บุกไทย เปิดตัวโมเดลใหม่!!
จับตา! ผลสะเทือนหลัง นิสสัน มอเตอร์ บุกไทย คอยพบการเปลี่ยนแปลงแบบเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด และตัวสินค้าใหม่ โดยนำร่องในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ประกาศเน้นปิกอัพคอนเซ็ปต์ ด้วยการชูผลิตภัณฑ์ปิกอัพเป็นสินค้านำ หลังผลสำรวจของ J.D. POWER ลูกค้าให้การยอมรับสูงสุดเทียบเท่ากับ อีซูซุ ดีแมคซ์ หวังอาศัยปูทางเพื่อเปิดตัวโมเดลเชนจ์ปิกอัพ "ฟรอนเทียร์" และเอสยูวีใหม่ "พาธไฟเดอร์" ซึ่งใช้แพลทฟอร์มเดียวกันในปีหน้า แต่ก่อนจะถึงคิวปิกอัพใหม่ เตรียมถอยเก๋งหรู "เซฟิโร่" โฉมใหม่ หรือที่รู้จักกันในตลาดญี่ปุ่นว่า "เทียน่า" ได้ทันทีในช่วงไตรมาสสามปีนี้
คู่บุญฟรอนเทียร์ - นิสสัน พาธไฟเดอร์ เอสยูวีใหม่ที่ใช้แพลทฟอร์มเดียวกันกับปิกอัพ "ฟรอนเทียร์" โฉมใหม่ ที่น่าจะขึ้นไลน์ประกอบในไทยปีหน้า ภายหลังจากนิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในไทยแทนกลุ่มสยามกลการ แต่ที่แน่ๆ ประมาณช่วงไตรมาสสามปีนี้ เซฟิโร่ โฉมใหม่ หรือชื่อใหม่ "เทียน่า" มาแน่นอน แม้จะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ในแวดวงยานยนต์ไทยล้วนรับทราบกันดีว่า ไม่เกินกลางปีนี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น น่าจะเข้ามาดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์นิสสันในไทย ทั้งการผลิตและจำหน่ายอย่างเบ็ดเสร็จ แทนกลุ่มสยามกลการของตระกูล "พรประภา" ซึ่ง ณ วันนี้ เริ่มนับถอยหลังปิดฉากตำนานรถยนต์นิสสัน ภายใต้อุ้งมือของกลุ่มสยามกลการที่มีมานานกว่าครึ่งทศวรรษได้แล้ว
โดยการเข้ามาของนิสสัน มอเตอร์ ครั้งนี้ เป็นการเข้ามาถือหุ้นเต็ม 100% ซึ่งจำนวนเงินในการเข้าเทคโอเวอร์ของนิสสัน มอเตอร์ แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่เมื่อรวมกับค่าความนิยม (GOODWILL) ของรถยนต์นิสสันในไทย ที่กลุ่มสยามกลการดำเนินมากว่าครึ่งศตวรรษ เชื่อว่าจะมีมูลค่าหลายพันล้านบาท และหากรวมกับเงินลงทุนใหม่ๆ ที่จะตามเข้ามาอีก รวมแล้วน่าจะทะลุหลักหมื่นล้านบาท
แน่นอนว่าหากนิสสัน มอเตอร์ เข้ามาดำเนินงานในไทย คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกลยุทธ์การตลาด เครือข่ายการจำหน่าย และโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จะมีความหลากหลายและรวดเร็วในการแนะนำสู่ตลาดกว่าที่ผ่านมามาก
ทั้งนี้ทิศทางการตลาดทำตลาดภายหลังจาก นิสสัน มอเตอร์ เข้ามาดูแล จะเน้นที่การทำตลาดปิกอัพมากขึ้น เพราะจากการสำรวจของ J.D.POWER Asia Pacific ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดทำการสำรวจความพึงพอใจสินค้าที่ได้รับความเชื่อถือระดับโลก ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคสำหรับตลาดรถยนต์ในไทย โดยใช้ชื่อว่า Thailand Automotive Performance, Execution and Layout (APEAL) 2003 ซึ่งเป็นการศึกษาความพึงพอใจของผู้บริโภคในด้านของสมรรถนะโดยรวม รูปลักษณ์ ความสวยงาม ทั้งภายนอก-ภายใน และความคุ้มค่าของยานยนต์ในกลุ่มต่างๆ โดยสอบถามจากผู้ซื้อรถตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2546 จากลูกค้ากว่า 2,200 ราย และรถยนต์รวม 11 ยี่ห้อ
ปรากฏว่าผลการสำรวจความพึงพอใจในกลุ่มตลาดรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ปิกอัพ นิสสัน ฟรอนเทียร์ มีคะแนนพึงพอใจสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 842 คะแนน ด้วยจุดเด่นทั้งสมรรถนะ รูปลักษณ์ และความคุ้มค่า สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด คว้ารางวัล "Most Appealing Pickup Truck Thailand Apeal Study 2003" ไปครองคู่กับ อีซูซุ ดีแมคซ์ เจ้าตลาดปิกอัพไทยได้อย่างน่าทึ่ง และคว่ำ โตโยต้า ไทเกอร์ ดีโฟร์ดี ไปอย่างน่าตกใจ
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้นิสสัน มอเตอร์ มั่นใจถึงการยอมรับปิกอัพนิสสันของลูกค้าในไทยมากขึ้น เหตุนี้การเข้ามาทำตลาดของนิสสันเอง ทิศทางการทำตลาดจากนี้ไป จะเน้นที่ตัวปิกอัพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ช่วงนี้ นิสสัน มอเตอร์ จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีการเข้ามาวางกลยุทธ์และกำหนดทิศทางนโยบายแล้ว
ดังนั้นเพื่อตอกย้ำถึงสมรรถนะและเทคโนโลยีของปิกอัพนิสสัน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2004 ที่จะมีขึ้นปลายเดือนมีนาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไบเทค นิสสันจะนำปิกอัพฟรอนเทียร์ เครื่องยนต์ 150 แรงม้า ซึ่งเป็นปิกอัพที่แรงที่สุดในไทย กลับมาเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบความแรง พร้อมกับขึ้นไลน์ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ของนิสสัน สยามนิสสัน ออโตโมบิล ที่ถนนบางนา-ตราดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังจะมีการนำปิกอัพฟรอนเทียร์คอนเซ็ป ที่ใช้แข่งขันในรายการแรลลี่โลกมาร่วมจัดแสดงด้วย