คำตอบที่ 26
fiogf49gjkf0d
รายงานสรุปเหตุการณ์ที่ไปพบเจอมานะครับ
วันอาทิตย์ที่ 23 เดินทางไปถึงพื้นที่เวลา 18.00น
ขณะไปถึงได้รับทราบว่ามีการช่วยเหลือให้ชาวบ้านลงมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 200กว่าราย และยังมีที่เหลืออีกหนึ่งหมู่บ้านที่ยังไม่อยากทิ้งบ้านย้ายลงมา....จากที่เห็นมีคณะที่ให้การช่วยเหลือมีมาจากหลายๆส่วน....ทั้งจากหน่วยงานราชการและจากชุดกู้ภัยกู้ชีพต่างๆรวมถึงเพื่อนๆเรากลุ่มออฟโรดประมาณ 10กว่าคันที่ได้ทักทายกันหลายๆท่านทั้งจาก ตาปีออฟโรด, SRT, ร้อยเกาะคลับ, PART TIME พังงา, เจ้าฟ้าออฟโรด และกลุ่มออฟโรดเจ้าของพื้นที่....ส่วนเราจากตรังไปด้วยกัน 2คัน...และตามไปสมทบอีกหนึ่งคัน.
จากรายงานการสำรวจเบื้องต้นคืนนี้จะจัดทีมเข้าไปทำสะพานเชื่อมต่อทางที่ขาดจากการที่โดนน้ำกัดเซาะและแผ่นดินเคลื่อนตัว แต่ให้รอการประชุมของคณะทำงานอีกครั้งหนึ่ง.....
20.30 น ทางเจ้าของพื้นที่มีความเห็นว่าไม่สมควรเข้าไปทำภารกิจดังกล่าว ในเวลากลางคืนและมีความเห็นว่าอาจเสี่ยงอันตรายเกินไปเพราะพื้นที่ดังกล่าวมีรอยแยกของแผ่นดินหลายจุดและอาจมีฝนตกลงมาอีกเหมือนเช่นคืนที่ผ่านมา....แต่ชุดของกู้ภัยกู้ชีพเกือบ 100 นายมีความประสงค์จะเข้าไปในพื้นที่ให้ได้ โดยต้องการนำสิ่งของและอาหารไปมอบให้กับชาวบ้านที่ยังอยู่ด้านใน....แม้เส้นทางจะมีความเสี่ยงสูงและแม้ไม่อาจนำรถ 4x4 เข้าไปได้ตลอดก็จะเดินเท้าต่อไปเพื่อภารกิจดังกล่าวให้ได้.....
21.15 น คณะออฟโรดส่วนหนึ่งตัดสินใจสนับสนุนภารกิจของชุดกู้ชีพกู้ภัย...เดินทางเข้าไปในพื้นที่ตามเส้นทางที่มืดชันและมีร่องน้ำลึกในบางช่วง....และก่อนเดินทางถึงจุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อไปไกลกันนัก...เราพบชาวบ้านซึ่งเปลี่ยนใจตัดสินใจทิ้งบ้านเดินออกมา...และสามารถนำออกมาได้ 2ชุด 2รอบ รวมกว่า 40คนโดยมีทั้งสตรี,เด็กและคนชรา...นำมาส่งที่ศูนย์ช่วยเหลือฯบ้านท่านหญิง
0.15 น คณะเรา(จากตรัง,พังงาและภูเก็ต) ขอถอนกำลังออกโดยมีเพื่อนๆออฟโรดในพื้นที่และชุดกู้ภัยยังคงปฎิบัติภารกิจต่อ(ทราบภายหลังว่าถึง 05.00 น).....ส่วนเราจากตรังต้องเดินทางกลับอีกกว่า 300 กิโลเมตร.....กลับถึงบ้านรุ่งเพ้งครับพี่น้อง.
