WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


200 เรื่องน่ารู้ สำหรับคนใช้รถ
white-out
จาก white-out
IP:180.183.244.29

อังคารที่ , 7/6/2554
เวลา : 14:25

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       200 เรื่องน่ารู้ สำหรับคนใช้รถ (เครดิต จาก เวป พันทิปด็อทคอม)

1.ยางมะตอยติดล้อรถ หากคุณเผลอไผลหรือหลบเลี่ยงไม่ได้ ต้องขับรถเข้าไปในบริเวณที่มีการซ่อมถนนอยู่และมีการราดยางมะตอยใหม่ ๆ ยางมะตอยหรือน้ำมันดิบที่เปรอะเปื้อนล้อรถและตัวถัง ให้ใช้เบ็คกิ้งโซดา ละลายรอยเปื้อนต่าง ๆ ก็จะออกได้
2.สำรวจกระจกอย่าให้มีรอยร้าว รอยร้าวที่กระจกเพียงเล็กน้อย จะทำให้ขยายวงกว้างไปสู่การแตกใหญ่ได้ต้องหมั่นสำรวจอยู่เสมอ การเปิดแอร์เย็นจัดในขณะอากาศภายนอกร้อนจะทำให้กระจกหดตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุให้เกิดการแตกของกระจกได้
3.ทำยังไงเมื่อกระจกหน้ารถแตกละเอียด อุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้เมื่อรถแล่นด้วยความเร็วสูงต้องควบคุมสติให้ได้ผ่อน คันเร่งหาที่จอดอย่าปลอดภัยหากระดาษหนังสือพิมพ์มาคลุมหน้าปัดรถและกระโปรงรถใกล้กระจกหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เศษกระจกปลิวเข้ามา แล้วจึงหาอะไรมาค่อย ๆทุบกระจกที่แตกค้างออกแล้วขับรถไปหาอู่ซ่อมโดยเร็ว และต้องระวัง ผงเศษกระจกปลิวเข้าตา
4. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระจก แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรคและยังใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นแก้วหรือกระจกได้ กระจกรถของคุณที่มีคราบสกปรก จะถูกขจัดได้อย่างง่ายดายด้วยแอลกอฮอล์
5. กระจกหน้ารถต้องสะอาดอยู่เสมอ กระจกหน้ารถที่สะอาด เมื่อเวลาฝนตกใบปัดน้ำฝนจะทำความสะอาดได้เร็วมากขึ้นมาก ควรลดอัตราเร็วลงหากอุปกรณ์ปัดน้ำฝนทำงานไม่ทันกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก



ยางมะตอยใช้ยาขัดสี ดิงโก้ ก็ขัดออกเหมือนกัน ไม่ควรใช้น้ำมันเบนซิน จะทำให้สีหมอง
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 9:05:04 [180.183.244.29]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       10. อย่าใช้น้ำทำความสะอาดขั้วไฟรถ น้ำจะทำให้เกิดความชื้นและทำให้เกิดสนิม เป็นปัญหาต่อเนื่องให้เกิดไฟช็อต จึงควรใช้เมทิลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดแทน ซึ่งจะขจัดคราบสกปรกและรอยต่าง ๆ ได้ดีกว่าอีกด้วย
11.ดินโคลนเจ้าปัญหา อย่าปล่อยให้ดินโคลนติดอยู่กับรถตลอดเวลา ควรเอาใจใส่ทุก ๆ จุดแม้ใต้ท้องรถที่คิดว่าดินโคลนจะไปจับเกาะติดไว้ ต้องล้างและฉีดด้วยสายยาง ออกให้หมดเพราะดินโคลนจะทำให้รถเป็นสนิมได้
12. เทคนิคล้างรถไม่ต้องเช็ดหลังจากล้างรถแล้ว น้ำสุดท้ายที่จะล้างให้ผสมน้ำยาล้างจานลงในถังด้วย ใช้ฟองน้ำชุบถูให้ทั่วคันรถทิ้งไว้ให้แห้งเองไม่ต้องใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหมือนวิธีเก่า เท่านี้รถก็จะขึ้นเงาเอง
13. ขัดสีรถให้เงางามอยู่เสมอ รถที่ซื้อมาใหม่ ๆ สีเงางามน่าใช้ ขับไประยะเวลาหนึ่งสารเคมีที่ใช้ล้างและแสงแดดจะทำให้สีของรถหมองไปควรนำรถไปขัดสีตามอู่หรือศูนย์อย่างน้อยปีละ 4 ครั้งสี ของรถคุณก็จะเงางามอยู่เสมอ
14.ล้างรถอาทิตย์ละครั้ง ผู้ใช้รถบางคนมีปัญหากับการล้างรถ ไม่มีเวลาบ้างขี้เกียจบ้าง ควรล้างรถอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อขจัดเศษดินและหินที่เกาะติดกับรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้รถอยู่บริเวณที่อยู่ในเขตอุตสากรรมหรือใกล้ชายทะเลควรล้างบ่อยครั้งขึ้น เพราะเกลือและความเค็มจากชายทะเลจะจับผิวของรถทำให้รถเสียหายเร็วขึ้น



12. เทคนิคล้างรถไม่ต้องเช็ดหลังจากล้างรถแล้ว น้ำสุดท้ายที่จะล้างให้ผสมน้ำยาล้างจานลงในถังด้วย ใช้ฟองน้ำชุบถูให้ทั่วคันรถทิ้งไว้ให้แห้งเองไม่ต้องใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหมือนวิธีเก่า
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 9:04:01 [180.183.244.29]
12.ลองทำแล้ว ได้ผลดีกับรถสีอ่อน
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 9:05:46 [180.183.244.29]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:26  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8766

คำตอบที่ 2
       15. ป้องกันสีรถจากโรงรถ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ผู้ขับขี่ที่มีโรงรถแคบ ๆใหญ่กว่ารถไม่เท่าไหร่ให้มีฝีมือยังไงสักวันก็ต้องพลาดเฉี่ยวขูดสีรถถลอกทางที่ดีควรหาโฟมบาง ๆ มาติดกาวข้างกำแพงไว้สองข้าง ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
16. ตรวจสนิมรถด้วยแม่เหล็ก รถปัจจุบันส่วนใหญ่ตัวถังจะฉาบด้วยยากันสนิม ซึ่งเป็นฉนวน บริเวณที่กระเทาะแล้วเกิดสนิมจะทำให้เกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็ก
17 .เรื่องของสีรถ หากสีรถเกิดถลอกและเป็นสนิม หรือมีปัญหาอื่น ๆเกี่ยวกับสีรถไม่ควรลงมือแก้ไขเอง เช่น เช็ด ขูด ควรนำรถเข้า ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี ให้ช่างที่มีความชำนาญดูแล มิฉะนั้นจะทำให้เกิดรอยด่างของสีรถได้
18. หม้อน้ำรั่วกะทันหัน การแก้ไขหม้อน้ำรั่วแบบชั่วคราว โดยการหาอะไรก็ได้มาอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมา โดยใช้คลั่ง ดินน้ำมันหรือหมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้วก็ได้หรืออาจจะใช้สบู่หรือเทียนไขในกรณีที่หาไม่ได้ แล้วรีบนำรถเข้าศูนย์บริการทันที
19. ฝาน้ำมันควรใช้แบบที่ล็อคได้ เป็นการป้องกันการที่ผู้อื่นจะนำรถของคุณ ออกไปใช้การล็อคฝาน้ำมันจะทำให้เติมน้ำมันไม่ได้ เมื่อน้ำมันหมดถัง ขโมยไปก็ไม่มีประโยชน์
20. ท่อไอเสียชำรุด มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่อออกรถไปได้ขณะหนึ่ง แล้วท่อไอเสียขาดครูดไปกับท้องถนนต้องซ่อมเดี๋ยวนั้นโดยผูกมัดด้วยลวดให้ใช้งานได้ชั่วคราวก่อน อย่าใช้เชือกผูก เพราะความร้อนจะทำให้เชือกขาดอีกครั้ง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:27  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8767

คำตอบที่ 3
       15. ป้องกันสีรถจากโรงรถ สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ผู้ขับขี่ที่มีโรงรถแคบ ๆใหญ่กว่ารถไม่เท่าไหร่ให้มีฝีมือยังไงสักวันก็ต้องพลาดเฉี่ยวขูดสีรถถลอกทางที่ดีควรหาโฟมบาง ๆ มาติดกาวข้างกำแพงไว้สองข้าง ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
16. ตรวจสนิมรถด้วยแม่เหล็ก รถปัจจุบันส่วนใหญ่ตัวถังจะฉาบด้วยยากันสนิม ซึ่งเป็นฉนวน บริเวณที่กระเทาะแล้วเกิดสนิมจะทำให้เกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็ก
17 .เรื่องของสีรถ หากสีรถเกิดถลอกและเป็นสนิม หรือมีปัญหาอื่น ๆเกี่ยวกับสีรถไม่ควรลงมือแก้ไขเอง เช่น เช็ด ขูด ควรนำรถเข้า ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี ให้ช่างที่มีความชำนาญดูแล มิฉะนั้นจะทำให้เกิดรอยด่างของสีรถได้
18. หม้อน้ำรั่วกะทันหัน การแก้ไขหม้อน้ำรั่วแบบชั่วคราว โดยการหาอะไรก็ได้มาอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมา โดยใช้คลั่ง ดินน้ำมันหรือหมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้วก็ได้หรืออาจจะใช้สบู่หรือเทียนไขในกรณีที่หาไม่ได้ แล้วรีบนำรถเข้าศูนย์บริการทันที
19. ฝาน้ำมันควรใช้แบบที่ล็อคได้ เป็นการป้องกันการที่ผู้อื่นจะนำรถของคุณ ออกไปใช้การล็อคฝาน้ำมันจะทำให้เติมน้ำมันไม่ได้ เมื่อน้ำมันหมดถัง ขโมยไปก็ไม่มีประโยชน์
20. ท่อไอเสียชำรุด มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่อออกรถไปได้ขณะหนึ่ง แล้วท่อไอเสียขาดครูดไปกับท้องถนนต้องซ่อมเดี๋ยวนั้นโดยผูกมัดด้วยลวดให้ใช้งานได้ชั่วคราวก่อน อย่าใช้เชือกผูก เพราะความร้อนจะทำให้เชือกขาดอีกครั้ง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:27  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8768

คำตอบที่ 4
       36. ความร้อนสูงผิดปกติ สังเกตุได้จาก เข็มชี้ระดับความร้อนที่หน้าปัดขึ้นสูงกว่าธรรมดาอย่าขับรถต่อไป เพราะจะทำให้รถได้รับความเสียหายร้ายแรงได้ ต้องหาที่ร่มจอดรถ เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้ รอจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นลงในระดับปรกติ จึงค่อยเดินทางต่อไป
37. กรณีที่เกิดจากน้ำในหม้อน้ำพร่องไป ต้องรออย่างน้อย 10 นาทีถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเติมน้ำได้
38. เบรกเสียกะทันหัน เบรกที่ถูกใช้มากในบางกรณี อาจทำให้เสียหรือผ้าเบรกสึก มีผลให้รถเบรคไม่ค่อยอยู่ วิธีแก้ไขคือ ให้จอดรถชั่วคราว เพื่อให้เบรกพักการทำงานระยะหนึ่ง
39..รถเสียระวังเสียรถ เมื่อรถคุณเกิดเสียกลางทางแล้วมีอาสาสมัครเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ หากคุณไม่แน่ใจพฤติกรรมอย่าลงจากรถเด็ดขาด ให้ลดกระจกลงเล็กน้อยแล้วพูดผ่านกระจกล็อคประตูไว้ วานให้ช่วยไปโทรศัพท์หาผู้ที่คุณต้องการจะติดต่อด้วยจะดีที่สุด
40.รถติดอย่าหยุดติดรถ ปัญหารถติดบ้านเราเลี่ยงกันไม่พ้นขณะขับรถไปต่อคันที่หยุดข้างหน้าควรเว้นช่วงไว้ให้ห่างพอที่รถจะเคลื่อนตัว ไปซ้ายขวาได้ เป็นการเผื่อเอาไว้หากเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายด้านหน้ารถจะได้ไม่ถูกอัดก๊อปปี้เสียหายทั้งรถและชีวิต



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:28  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8769

คำตอบที่ 5
       41. คลื่นรบกวนวิทยุ เกิดขึ้นหลายกรณี เพราะรถของเราเคลื่อนที่ตลอดเวลา โอกาสที่จะจับให้คลื่นคงที่คงเป็นไปได้ยาก แต่อาจเกิดจากเสาอากาศวิทยุเป็นสนิม คงต้องหมั่นดูแลโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นเช็ดด้วยความระมัดระวังให้ทั่ว วิทยุก็อาจมีคลื่นรบกวนน้อยลง ฟังดูชัดขึ้นก็ได้
42.บำรุงรักษาแอร์รถรถที่จอดไว้เฉย ไม่ติดเครื่องนานหลายสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาที่เครื่องยนต์ แอร์ก็มีปัญหาด้วย ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้บ้างอย่างน้อย 10 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาทำความเย็นไหลแยกออกมาจนต้องเสียค่าใช้จ่ายเติมน้ำยาใหม่
43. ลากเกียร์ทำให้คลัตช์เสียเร็ว การใช้เกียร์ควรทำให้เหมาะสมและถูกจังหวะอย่าลากเกียร์บ่อย จะทำให้ คลัทช์เสียเร็วและยางหมดอายุเร็วขึ้น
44. อย่าขับรถจนน้ำมันหมดถัง การขับรถจนน้ำหมดถัง จะทำให้เครื่องกรองน้ำมันมีโอกาสเสียได้มาก เนื่องจากตะกอนบางอย่างที่สะสมอยู่ในถังจะไปค้างที่เครื่องกรอง
45.อย่าใช้อิฐแทนแม่แรงรถ อิฐสร้างบ้านก้อนที่แข็งที่สุดยังสามารถแตกได้อย่าใช้รองหรือหนุนรถแทนแม่แรงต่างหาก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้



เดี๋ยวมาต่อครับ
จาก : white-out(white-out) 7/6/2554 16:29:13 [180.183.244.29]
45.อย่าใช้อิฐแทนแม่แรงรถ อิฐสร้างบ้านก้อนที่แข็งที่สุดยังสามารถแตกได้อย่าใช้รองหรือหนุนรถแทนแม่แรงต่างหาก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้///ไม่เห็นมีบอกว่า ห้ามใช้ก
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 9:02:03 [180.183.244.29]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:29  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8770

คำตอบที่ 6
       เป็นข้อมูล ที่ดี ครับน้าเล้ง
โคตรเจ๋งเป้ง วิเคราะห์ เจาะลึกหนา
เอ้าพวกเรา ซูซูกิ เร่เข้ามา
ฟังเข้าท่า ทำตาม คำสอนเอย.............น้า...น้า...ขยันหาข้อมูลจังเลยง่ะน้า....งุงิงุงิ







ห�ข้อมูลทำง�นวิจัย อยู่ครับ อ่�นง�นวิจัยม�กไๆก็เวียนหัว เลยเซิจเรื่อยเปื่อยเจออันนี้เลยเอ�ม�บอกกล่�วกันครับ ยังเหลืออีก ร้อยกว่�ข้อ
จ�ก : white-out(white-out) 7/6/2554 16:30:38 [180.183.244.29]
ภ�พนี้คุ้นๆ...น่ะ ...ใช้ตรงบ้�นผีสิงหรือป่�วครับวันนั้น น้�..เล้งไม่เอ�รถเข้�ไปนี่น�ไปถ่�ยตอนไหน
จ�ก : โต้งตะวันน�(rcsai555) 7/6/2554 17:18:32 [49.49.129.47]
ไปคนสุดท้ายไง แล้วแซงคิวน้าหนุ่มไงจำไม่ได้ รึ
จาก : white-out(white-out) 7/6/2554 19:35:52 [180.183.244.29]
ทั้งหมดนี้ไม่เคยทำเลยน้า
จาก : ดอกดิน.(ดอกดิน.) 7/6/2554 20:21:39 [49.48.50.72]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

หนุ่ม สัตห จาก หนุ่ม สัตหีบ 61.19.88.226 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 15:57  IP : 61.19.88.226   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8772

คำตอบที่ 7
       6.เครื่องเป่าผมก็มีประโยชน์รถที่สตาร์ทไม่ติดอันเนื่องมาจากปัญหาความชื้นลองใช้เครื่องเป่าผมเป่าความร้อนบริเวณเครื่องยนต์ที่คิดว่ามีความชื้นจนกว่าจะแห้ง แล้วลองสตาร์ทใหม่ดูอีกครั้ง
7. เด็กเล็กก็ควรคาดเข็มขัดอุบัติเหตุหลายครั้งเด็กเล็กต้องเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนมากในเมืองนอกได้ออกแบบที่นั่งเฉพาะสำหรับเด็กไว้อย่างมาตรฐาน โดยเฉพาะมีเข็มขัดนิรภัยให้เด็กคาดเข็มขัดด้วยสำหรับเมืองไทยที่ยังไม่มีที่นั่งเด็กแพร่หลายก็อาศัยพี่เลี้ยงหรือผู้โดยสารไปด้วยคอยดูแลอย่าปล่อยให้เด็กเป็นอิสระเด็ดขาด
8.อุปกรณ์พยาบาลที่ควรจะมีในรถเพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน คุณควรมีสิ่งเหล่านี้ไว้ในรถ พลาสเตอร์, ผ้าพันแผล ขวดพลาสติกใส่น้ำสะอาดไว้ กรรไกร คีม ผ้าพันแผลแบบยืดหดได้ โคมไฟฟ้า เหรียญ(สำหรับโทรศัพท์)
9. กุญแจสำรอง ไม่มีใครที่ขับรถแล้วไม่เคยลืมกุญแจไว้ในรถ กุญแจสำรองจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งคุณควรนำติดตัวไว้อยู่เสมอ เมื่อเวลาคุณล็อคหรือทำกุญแจหายก็จะไม่เดือดร้อน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:26  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8779

คำตอบที่ 8
       21. ระดับของน้ำมันเครื่องควรเติมให้ต่ำกว่าระดับขีดของด้ามวัดเล็กน้อยหากเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ มิฉะนั้นหา เมื่อคุณติดเครื่อง น้ำมันเครื่องอาจขยายตัวล้นออกมาได้
22. การใช้น้ำมันหล่อลื่น การเติมน้ำมันหล่อลื่นต้องรักษาปริมาณให้ถึงขีดกำหนดของรถเสมอ น้ำมันหล่อลื่น เป็นสารอันตรายต่อผิวหนัง ควรล้างมือทันทีและเก็บภาชนะบรรจุน้ำมันให้ห่างไกลจากมือเด็ก
23.น้ำมันท่วม รถที่จอดนิ่งอยู่สตาร์ทหลายทีก็ไม่ติด แถมยังได้กลิ่นฉุนของน้ำมันแสดงว่าน้ำมันได้ท่วมคาร์บูเรเตอร์ แล้วคอยอย่างน้อยสิบนาทีเพื่อให้น้ำมันระเหยแล้ว เริ่มติดเครื่องใหม่อีกครั้ง
24.. กรวยเติมน้ำมันฉุกเฉิน น้ำมันแห้งสนิทกลางทาง ซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมาแต่ดันลืมติดกรวยมาด้วย ไม่ยากเลย เพียงหาถ้วยใส่น้ำอัดลมพลาสติค ผ่าแล้วม้วนเป็นรูปกรวยมาเป็นที่เติม หรือใช้กระดาษทบกันหลาย ๆ ชั้น มาพับเป็นรูปกรวยก็ได้พอจะแก้ขัดไปครั้งหนึ่ง
25.. ฟิวส์ซองบุหรี่ ระบบไฟฟ้าของรถใช้ฟิวส์เป็นตัวเชื่อมไฟ หากฟิวส์เกิดขาดกะทันหันแก้ปัญหาได้ โดยใช้กระดาษตะกั่วห่อซองบุหรี่หรือกระดาษห่อช็อกโกแลตมาหุ้มฟิวส์นั้นแล้วนำไปใช้ต่อฟิวส์นั้นก็จะทำงานได้ชั่วคราว
26 . ตรวจเบรกก่อนจะไม่ได้เบรก จะรู้ว่าเบรคใช้งานได้หรือไม่ ก็ต้องออกรถเคลื่อนที่ซึ่งอันตรายมากหากรถไปอยู่บนท้องถนนแต่มีวิธีตรวจสอบขณะรถอยู่กับที่ โดยลองเหยียบเบรคประมาณ1 นาที เมื่อเริ่มติดเครื่องยนต์ หากแป้นเหยียบเบรคอยู่ในตำแหน่งใกล้ติดพื้น เบรคของเรามีปัญหาแน่ ๆเข้าอู่แก้ไขก่อนจะดีที่สุด
27. เติมน้ำมันล้นถังไม่เป็นผลดี ในสภาพอากาศร้อนจัดอย่าเติมน้ำมันจนล้นถัง เพราะความร้อนจะทำให้เพิ่มความดัน มีผลทำให้น้ำมันขยายตัวลื่นไหลออกจากถังเกิดอันตราย สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
28..ดอกยางมาตรฐาน ดอกยางที่ดีที่ถือว่าเกาะถนนได้เยี่ยม ต้องมีขนาดอย่างน้อย 3-5มม. หากน้อยกว่านี้ถือว่าใช้ไม่ได้และผิดกฏหมาย เพราะจะจับถนนไม่ได้มีผลให้ตอนเบรก มันไม่สนิทอยู่กับที่
29.. ถนอมยางรถให้ใช้งานได้นาน ล้อรถสามารถสลับตำแหน่งกันได้ ควรเปลี่ยนตำแหน่งของมันจากข้างหน้า มาข้างหลังทุก ๆ 10,000 กม. แต่ไม่ควรสลับจากข้างหนึ่ง ไปยังอีกข้างหนึ่งจะเกิดอันตรายเวลารถเคลื่อนที่เร็ว ๆ ได้
30. หัดเปลี่ยนยางไว้บ้างก็ดี กรณีที่เราขับรถออกทางไกลที่เปลี่ยว ๆ ห่างจากปั๊มน้ำมันข้างทางแล้วเกิดยางรั่วยางแตก การเปลี่ยนยางอะไหล่ต้องใช้ความสามารถของตนเอง การศึกษาวิธีการเปลี่ยนจากคู่มือ และหัดลองเปลี่ยนขณะจอดรถอยู่ให้คล่อง มิฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว มีหวังคุณได้นอนหง่าวอยู่ในรถคนเดียวทั้งคืนแน่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:27  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8780

คำตอบที่ 9
       31.ยางโดนตะปูเจาะ ประการแรกให้เปลี่ยนยางอะไหล่ทันที ถ้าไม่มียางอะไหล่ สำรวจยางเส้นนั้นว่ามียางในหรือไม่ ประการสำคัญไม่ควรดึงตะปูออกก่อนจะทำให้เวลาขับเคลื่อนรถ ยางจะแตก ระเบิดได้ควรขับออกไปช้า ๆ อย่างระมัดระวังประคับประคองให้ไปถึงอู่หรือปั๊ม ทำการปะให้เรียบร้อย
32. ยางอะไหล่ต้องพร้อมเสมอ รถเกือบทุกคันก็มักมียางอะไหล่ติดไว้เสมอ อย่าลืมที่จะตรวจสอบสภาพของยางอะไหล่บ้าง เป็นต้นว่าลมยางต้องมีความดันมาตรฐานเสมอ ไม่อ่อนจนเกินไปเพราะหากเกิดฉุกเฉินขึ้นมา ยางอะไหล่รั่วหรือแตก สถานการณ์จะเลวร้ายไปกันใหญ่
33. ยางรถยนต์เก่าก็มีประโยชน์ ยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว นำไปผูกแขวนไว้ในโรงรถตรงที่หัวรถจะแล่นเข้าจอด ยางจะเป็นกันชนเมื่อเวลาเราถอยรถเข้าเก็บในที่จอดรถ
34. เบรกจม อุบัติเหตุบางครั้งเกิดจากการที่อยู่ดี ๆ คันเบรกก็จมซึ่งทำให้การหยุดรถทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเช่นนี้ให้ลดความเร็วลงค่อย ๆ ปั๊มเบรกสองสามครั้งเพื่อให้ความร้อนไปไล่ฟองอากาศและความชื้น จากนั้นจึงค่อย ๆ ขับไปด้วยควมเร็วเป็นปกติ
35. อาการแบตเตอรี่หมดอีกกรณีที่สตาร์ทเครื่องรถไม่ติด แล้วไฟหน้ารถไม่สว่างให้สันนิษฐานได้ว่าแบตเตอรีหมดให้ชาร์จใหม่ได้ทันทีหากทำไม่เป็นให้โทรเข้าศูนย์บริการที่คุณใช้บริการ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 อังคาร, 7/6/2554 เวลา : 14:28  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8782

คำตอบที่ 10
       41. คลื่นรบกวนวิทยุ เกิดขึ้นหลายกรณี เพราะรถของเราเคลื่อนที่ตลอดเวลา โอกาสที่จะจับให้คลื่นคงที่คงเป็นไปได้ยาก แต่อาจเกิดจากเสาอากาศวิทยุเป็นสนิม คงต้องหมั่นดูแลโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นเช็ดด้วยความระมัดระวังให้ทั่ว วิทยุก็อาจมีคลื่นรบกวนน้อยลง ฟังดูชัดขึ้นก็ได้
(ส่วนของผมก็อยากจะทำอย่างที่ น้า..เล้ง แนะนำแต่ยังไม่มีวิทยุใครมีบ้างขอผมสักเครื่องดิ....อิอิอิอิ)





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rcsai555 จาก โต้งตะวันนา 223.204.95.139 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 05:57  IP : 223.204.95.139   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8792

คำตอบที่ 11
       46.. การปรับพวงมาลัยรถรุ่นใหม่ สามารถปรับแกนพวงมาลัยให้เข้ากับสภาวะร่างกายของผู้ขับขี่ได้อย่าปรับให้พวงมาลัยอยู่ในตำแหน่งที่มองแผงหน้าปัดยาก ล็อคแกนพวงมาลัยให้มั่นคงหลังจากปรับตำแหน่งจนได้ที่แล้ว ห้ามปรับพวงมาลัยในขณะรถเคลื่อนที่เด็ดขาด
47.. การควบคุมอารมณ์ การขับรถจำเป็นที่จะต้องควบคุมอารมณ์ ด้วยความอดทนยิ่งในสภาพรถติดแสนสาหัส แบบบ้านเรายิ่งต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่สวมวิญญาณร้ายขณะขับรถไม่ใช้วาจาหยาบคาย และอย่าพยายามสั่งสอนบทเรียนต่อผู้อื่น
48.โกรธและหงุดหงิดอย่าขับรถเด็ดขาด อารมณ์โกรธและหงุดหงิด มีผลเสียอย่างยิ่งต่อการใช้รถใช้ถนน ความกดดันทางอารมณ์จะทำให้มีผลต่อเนื่องไปยังผู้ขับขี่รถคนอื่น และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงได้
49.อย่าตอบโต้กับผู้ขับขี่รายอื่นหากคุณอารมณ์เสียเนื่องจากผู้ขับขี่รถคันอื่นต้องพยายามเก็บกดอารมณ์ไม่ตอบโต้การตอบโต้จะทำให้เกิดผลร้ายต่อเนื่องอย่างน้อยจะทำให้เราขาดสมาธิขาดการสังเกต สุดท้ายก็ลงเอยด้วยอุบัติเหตุ เป็นไปได้น่าจะจอดรถสงบสติอารมณ์สักครู่
50.หลีกเลี่ยงการเดินทางในสภาพอากาศเลวร้าย เรามั่นใจแค่ไหนในการขับขี่รถในสภาพอากาศ ที่เลวร้าย เช่น ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทางที่ดีควรจะงดการขับรถ หันไปใช้บริการของรถสาธารณะจะดีกว่า ทั้งนี้ต้องติดตามการพยากรณ์ของอุตุนิยมวิทยา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:46  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8802

คำตอบที่ 12
       51.เกียร์สูงสุด เป็นเกียร์ที่ใช้กับอัตราเร็วสูงแต่ให้กำลังน้อยที่สุดเราจะใช้เกียร์สูงสุดกับอัตราเร็วของรถยนต์ที่แตกต่างกันได้มา คุณสามารถใช้แล่นด้วยความเร็วคงที่บนถนนทางตรง
52.อย่าให้ไฟดวงหนึ่งดวงใดขาด การใช้สัญญาณไฟจะทำให้รถคันอื่นที่ตามหลัง หรือสวนทางเข้าใจในเจตนาของเรา แต่หากไฟสัญญาณดวงหนึ่งดวงใดขาดไป จะทำให้เป็นอันตรายแก่การใช้รถใช้ถนนควรตรวจสอบและหาฟิวส์ หรือไฟอะไหล่ไว้ในรถบ้าง
53.ไฟเตือนภัยมีความสำคัญอย่าขับรถยนต์ออกไปเด็ดขาดกรณีที่มีการเตือนของไฟบนแผงหน้าปัดขึ้น เช่น ไฟเตือนความดันน้ำมันหล่อลื่นเพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
54. กระพริบไฟหน้าแทนแตร การใช้ไฟสูง-ต่ำของไฟหน้า ทำให้เกิดการกระพริบสามารถเตือนผู้ขับขี่รายอื่นด้วย ที่คาดว่าจะไม่ได้ยินเสียงแตรจากรถของเรา
55.อย่าปล่อยเกียร์ว่างให้รถเคลื่อนลงทางลาดเองไม่ถูกต้องการปล่อยให้รถไหลไปเองโดยไม่ใช้การขับเคลื่อน จะทำให้ควบคุมรถยนต์ยาก โดยเฉพาะพวงมาลัยและเบรกเกียร์จะเข้ายากขึ้นอีกด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:46  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8803

คำตอบที่ 13
       56. ลดเกียร์ไม่จำเป็นต้องไล่ตามลำดับการลดลงเกียร์ต่ำไม่จำเป็นต้องไล่ตามลำดับ เช่น จากเกียร์ห้ามาเกียร์สาม จากเกียร์สามมาเกียร์หนึ่ง เช่นนี้ จะทำให้เรามีเวลามองถนน และจับพวงมาลัยได้นานขึ้น
57. ใกล้ทางแยกอย่าเปลี่ยนเลนกะทันหันต้องตัดสินใจให้ดีว่าคุณกำลังจะไปทางไหน+ ซ้าย-ขวาหรือตรง อย่าตัดเลนซ้ายมาขวา หรือขวามาซ้าย บริเวณใกล้ทางแยกจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ถูกตำรวจจับแน่นอน
58.จะไม่มีการชนท้ายรถคนอื่นเด็ดขาดไม่ขับชิดคันหน้าเกินไปหรือกะระยะการทำงานของเบรกได้ถูกต้อ
59.. สิ่งกีดขวางกลางถนน บังเอิญสิ่งกีดขวางอยู่ในช่องจราจรของเรา ตามหลักเราต้องให้รถยนต์วิ่งสวนทางมาผ่านไปก่อน กรณีสิ่งกีดขวางอยู่ฝังตรงข้ามอย่าผลีผลามเหยียบคันเร่งเลยไปเพราะรถคันสวนทางเราอาจไมยอมหยุดรถและหลบสิ่งกีดขวางออกมาในเลนของเราหน้าตาเฉย
60. สิ่งกีดขวางอยู่บนเนินนับว่าเป็นเรื่องท้าทายให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ การใช้เบรคจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาจัดการแก้ปัญหานี้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:46  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8804

คำตอบที่ 14
       61.อย่าเพิ่งดับไฟขณะรุ่งสางการรีบดับไฟเมื่อขับรถตอนรุ่งสางไม่เป็นผลดีต้องให้แน่ใจว่าคุณสามารถมองเห็น ถนนและผู้ขับขี่คันอื่นอย่างชัดเจนเสียก่อนจึงค่อยดับไฟ กรณีรถมีสีคล้ำ ดำหรือน้ำเงินซึ่งไม่ค่อยสะท้อนแสงต้องเปิดไฟแต่เนิ่น ๆเมื่อเริ่มจะมือและปิดไฟช้ากว่าคันอื่นเมื่อเวลารุ่งสาง
62.แซงรถที่กำลังวิ่ง ต้องเข้าใจว่ารถคันหน้าที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว หนึ่งหากเราคิดจะแซง แน่นอนว่าความเร็วของรถเรา ต้องมากกว่า เมื่อหักลบกับความเร็วคันหน้าก็จะได้ระยะทางที่ต้องใช้ในการแซงนั่นก็คือ แซงรถกำลังวิ่งครั้งหนึ่งต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ทางที่ดีไม่แน่ใจอย่าแซงจะดีกว่า
63. แซงระทางชันหากเป็นรถที่บรรทุกของหนักและวิ่งช้ากว่าเราการแซงจะใช้เวลาสั้นลงอย่างมากแต่พึงระวังรถสวนเลนตรงข้าม ซึ่งจะวิ่งลงทางลาดด้วยความเร็วสูง
64.อย่าเร่งรถหากกำลังถูกแซง จะเป็นการผิดมารยาทอย่างยิ่ง หากรถของคุณที่กำลังถูกแซงเร่งเครื่องหนีด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อเห็นว่ารถคันขวาของคุณกำลังจะถูกแซง ต้องชะลอความเร็วรถของคุณเพื่อให้รถของเขาแซงขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว
65.ขับรถขึ้นเขา กรณีขับรถขึ้นเขาหรือเนินแน่นอนว่ารถของคุณต้องใช้กำลังเพิ่มมากขึ้น การขับต้องเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำกว่าเดิมเพื่อรักษาความเร็วของรถ การเปลี่ยนเกียร์ต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเพราะขณะที่เรายกเท้าออกจากคันเร่งแล้วเหยียบคลัตช์เปลี่ยนเกียร์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:47  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8805

คำตอบที่ 15
       66. ขับรถลงทางลาดขึ้นเนินใช้เกียร์ต่ำเพื่อรักษาความเร็วของรถ ลงทางลาดต้องใช้เกียร์ต่ำ เพื่อลดอัตราเร็วของรถแทนการใช้เบรค หากใช้เบรคในทางลาดมากไป จะทำให้เบรกลื่นและจับไม่อยู่ เนื่องจากมีความร้อนสูง
67. ออกตัวของรถขึ้นทางชัน ผู้ขับขี่มือใหม่มักมีปัญหาการออกตัวขึ้นเนินแล้วรถเคลื่อนที่ถอยหลัง ต้องฝึกให้มีความสามารถในการใช้คันเร่งคลัตช์และเบรคมือพร้อมกัน โดยใช้เท้าซ้ายกดแป้นคลัตช์ลง โยกคันเกียร์จากเกียร์ว่างไปยังเกียร์หนึ่ง ใช้เท้าขวากดแป้นคันเร่ง โดยกดให้มากกว่าการออกตัวบนพื้นระดับ และต้องกดอย่างสม่ำเสมอตามปริมาณของความชัน
68. จดรถหันหน้าขึ้นเนินหลีกเลี่ยงได้ควรหลีก แต่ถ้าจำเป็นต้องจอดให้ชิดขอบขวาทางด้านซ้ายมากที่สุด หมุนพวงมาลัยให้ล้อหันไปทางขวาป้องกันการเคลื่อนที่ถอยหลังเป็นเกียร์หนึ่งและใช้เบรกมือให้มั่นคง
69.จอดรถหันหน้าลงเนินหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายให้ล้อหันเข้าหาขอบทางเท้า ป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่เดินหน้าใส่เกียร์ถอยหลังและเบรคมือไว้
70. ทางโค้ง ให้สังเกตป้ายจราจรว่า โค้งไปทางขวาหรือทางซ้าย การเข้าโค้งให้ใช้เบรคเท้าควบคุมความเร็วของรถ เลือกเกียร์ให้เหมาะสมใช้คันเร่งอย่างระมัดระวัง และบังคับรถให้ชิดเส้นแบ่งถนนทางซ้ายไว้ตลอดโค้ง



66. ขับรถลงทางลาดขึ้นเนินใช้เกียร์ต่ำเพื่อรักษาความเร็วของรถ ลงทางลาดต้องใช้เกียร์ต่ำ เพื่อลดอัตราเร็วของรถแทนการใช้เบรค หากใช้เบรคในทางลาดมากไป จะทำให้เบรกลื่น
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 9:00:12 [180.183.244.29]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:47  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8806

คำตอบที่ 16
       71. ระวังหลุดโค้ง ปรกติทางโค้งจะมีป้ายจราจรเตือนล่วงหน้า และมีเสาหลักปักตามระยะโค้งแต่หากผู้ขับขี่ไม่ควบคุมความเร็วเข้าโค้งด้วยความเร็ว โค้งธรรมดาก็จะกลายเป็นโค้งหักศอกให้ได้รับอันตรายให้เห็นกันอยู่บ่อย
72. ความดันลมของยางสัมพันธ์กับพวงมาลัย ยางรถยนต์จะต้องมีความดันลมในปริมาณพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไปถ้ามากไปทำให้ยากสึกหรอ ไม่ยึดถนนและลื่นไถลทางโค้งแต่หากความดันลมยางน้อยไปจะทำให้ยางร้อนจัดยางไม่เกาะถนนและสึกหรอง่าย สังเกตว่าความดันลมยางน้อยไปเมื่อพวงมาลัยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
73. เบรคบนทางโค้งอันตราย! ควรหลีกเลี่ยงการใช้เบรคบนถนนทางโค้งเพราะจะทำให้รถยนต์เสียการทรงตัวและมีแนวโน้มลื่นไถลหลุดโค้งออกไป.
74. รถใหญ่บังรถเล็กรถใหญ่ที่วิ่งตามทางแยกอาจบังรถเล็กอีกคันที่กำลังแซงขึ้นมา หากเราตัดสินใจเลี้ยวออกจากทางแยกแบบปัจจุบันทันด่วน โดยไม่ระวังให้ดีอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
75. ถอยหลังทางไหนหมุนพวงมาลัยทางนั้น การถอยหลังรถแรก ๆ อาจจะดูไม่ถนัด ต้องอาศัยประสบการณ์ โดยมีเคล็ดลับอยู่ว่าจะให้ส่วนท้ายของรถหันไปทางไหนก็หมุนพวงมาลัยไปทางนั้นส่วนผู้ขับก็เอี้ยวตัวไปดูข้างหลังโดยมือถือพวงมาลัยมือหนึ่ง อีกมือพาดบนพนักพิงผู้โดยสาร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:48  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8807

คำตอบที่ 17
       ที่ น้า..เล้ง พูดมาทั้งหมด...ผมทำเองทั้งหมดเลย...เพราะไม่เคยจ้างช่าง....อิอิอิอิอิอิ.....037.........55555555555555555



น้า.
จาก : หนุ่ม สัตห(หนุ่ม สัตห) 8/6/2554 7:17:51 [61.19.88.226]
น้า...น้า...ที่น้าเล้งพูดมา...ไม่เคยทำเลยง่ะน้า...เพราะทำไม่เป็น....555+........อิอิ......งุงิงุงิ
จาก : หนุ่ม สัตห(หนุ่ม สัตห) 8/6/2554 7:18:44 [61.19.88.226]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rcsai555 จาก โต้งตะวันนา 223.204.95.139 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 05:50  IP : 223.204.95.139   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8811

คำตอบที่ 18
       96. แมลงที่ติดหน้ารถ.. ล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่าโดยเร็วเมื่อถึงที่หมาย จะเข้าล้างรถที่คาร์แคร์ หรือล้างเองที่จุดหมายก็ได้ ถ้าล้างเองก็หาสายยางฉีดน้ำไล่ฝุ่นหรือกรวดก่อน แล้วใช้น้ำยาล้างรถ(หรือน้ำยาล้างจาน)ผสมน้ำแล้วลูบเบาๆทิ้งไว้ 2-3นาที แล้วล้างรถตามปรกติก็ออกครับ
97. อย่าปล่อยให้ซากแมลงติดอยู่บนสีรถนานเกินไป เพราะถ้านานเกินไป เคมีในตัวแมลงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสีรถบริเวณนั้น
98..ท่านสามารถปกป้องรถจากการเกาะแน่นของแมลงมาให้ลองทำดูทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆก่อนออกต่างจังหวัดยาว ๆ ให้เอาน้ำยาเคลือบสีที่มีอยู่ เคลือบเฉพาะบางส่วน ได้แก่ หน้าปะทะแมลงทั้งหลายคือ กันชนหน้า ฝากระโปรงหน้า ไฟหน้า กระจกมองข้าง กระจกหน้ารถ เพื่อให้ผิวสีได้รับการปกป้องจากการกัดของซากแมลง
96. การเคลือบสีเพื่อให้ ผิวสีมีความลื่น เมื่อแมลงเกาะจะได้ไม่ติดแน่นมากเกินไป และทำให้ล้างเอาซากแมลงออกไม่ยาก รวมทั้งพวกยางมะตอยด้วย
97..ฉีดน้ำให้แรงที่สุด เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด ควรล้างด้วยน้ำสะอาดหรือล้างด้วยแชมพู ควรล้างรถจากส่วนบน ลงล่าง โดยการใช้ผ้านุ่ม เช่นผ้าสำลี
98.อย่าใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะอาจจะมีเม็ดกรวดทรายฝังตัวอยู่ในรูฟองน้ำ มันจะทำให้คุณเสียเงินโดยไม่รู้ตัว
99. อย่าล้างรถกลางแดด เพราะแดด จะทำให้น้ำบนรถแห้งเร็ว และเกิดคราบน้ำขึ้นควรหาบริเวณที่มีร่มจะดีกว่า
100. .การล้างรถโดยใช้ถังใส่น้ำล้าง การล้างรถแบบนี้ ควรจะเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ มิฉะนั้นสิ่งสกปรกที่ผสมอยู่ในน้ำ อาจทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วนบนรถได้ (วิธีการนี้ ไม่แนะนำให้ทำ …. แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องหมั่นซักผ้าและเปลี่ยนน้ำ)



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:50  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8821

คำตอบที่ 19
       101.ไม่ควรล้างรถตอนเย็น ด้วยตนเอง เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้อาจทำให้เกิดสนิม ในบางจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง หรือไม่สามารถเช็ดแห้งได้ ยกเว้นแต่จะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้งหรือจะขับรถต่อไปเป็นระยะทางไกล ลมจะช่วยให้ทุกซอยทุกมุม แห้งสนิท
102.การเช็ดรถที่ถูกวิธี ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์ ในการเช็ดรถ เนื่องจากผ้าเหล่านี้ จะไม่ทำให้รถเป็นรอย แต่ถ้าผ้าชามัวร์แท้ ควรจะระวัง เวลาที่ผ้าชามัวร์แห้งสนิทจะแข็งตัว และเมื่อจะทำมาเช็ดรถ ก็ควรจะนำผ้าชามัวร์นั้น จุ่มน้ำให้เปียกจริง ๆ ทั้งผืน ก่อนเช็ดรถ เพราะถ้าไม่เปียกทั้งผืน แสดงว่ายังมีส่วนที่ยังไม่โดนน้ำที่ยังแข็งอยุ่ ซึ่งอาจทำให้สีรถเป็นรอยได้ง่าย
103. การดูแลรักษาสีรถยนต์ โดยวิธีการเคลือบสีรถด้วยตนเอง ล้างรถให้สะอาด เช็ดรถให้น้ำหมาด ๆแล้ว เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่ม ที่มีน้ำหมาด ๆ เช็ดบนตัวรถ โดยวนเป็นก้นหอย ให้ทั่วบริเวณตัวรถ ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่รถบุไว้ข้างกระป๋อง ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้านุ่ม เช็ดน้ำยาออกให้หมดทั่วตัวรถ
104.การเคลือบสี ทับลงไป ซึ่งจะทำให้รถมีความเงางาม ใส ไม่มีคราบสกปรกฝังอยู่แต่อย่างใด รถจะสวย ใสอยู่ตลอดเวลา ผิวสีรถจะลื่น น้ำไม่เกาะและฝุ่นไม่เกาะ รถไม่หมอง นอกจากจะให้ความสวย ใส เงา งามของรถ แล้ว ยังให้การปกป้องผิวสีรถจากสิ่งสกปรกต่าง ๆแสงแดด ยางมะตอย ริ้วรอย มูลนก ยางไม้ และมลภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้สีรถเสียหายได้อีกด้วย
105.การเคลือบสีอย่างเดียวบ่อย ๆ นั้น ถ้าบนผิวสีรถ มีคราบสกปรกฝังอยู่ ก็จะทำให้ผิวสีรถไม่ใส แล้วถ้าเคลือบทับไปบ่อย ๆ ก็จะทำให้คราบสกปรกเหล่านั้น ฝังตัวแน่นขึ้นด้วย แล้วถ้าแย่ไปกว่านั้น ถ้ามีละอองสี ยางมะตอยฝัง หรือคราบมลภาวะที่สามารถทำลายสีรถติดอยู่โดยที่เราไม่รู้และไม่ได้ขจัดมันออกไปก่อน แล้วเคลือบทับลงไป จะทำให้สิ่งเหล่านี้ ไปกัดกิน ผิวสีรถได้ และทำให้รถดูหมอง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:50  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8822

คำตอบที่ 20
       106.การป้องกันคราบขาวของฝนกรด กัดกินสีรถของเรา การล้างรถหลังจากที่รถถูกฝนมาเป็นการล้างเพื่อให้น้ำไปชะเอา ฝนที่อยู่บนผิวสีรถออกไป ก็จะช่วยไม่ให้รถเกิดคราบขาว ๆ ได้
107.เนื่องจากน้ำฝนในปัจจุบันมีสภาพเป็น กรดเจือจาง ทำให้เมื่อมีฝนตกลงมา แล้วทิ้งรถไว้จนแห้ง จะสังเกตเห็นคราบขาว ๆ เกิดขึ้น ดังนั้น ถ้ารถถูกฝนแล้ว ละก็ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าจอดรถตากแดด เพราะ ว่าความร้อนจากแสงแดด จะทำให้ฝนกรดแห้งเร็ว และ กัดกินรถเราได้เร็วขึ้น
108. จอดรถในโรงเก็บรถเพื่อป้องกันรังสีอุลตราไวโอเล็ต ล้างรถสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง น้ำยาล้างรถบางชนิด เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวสีเสีย ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของโรงงานผู้ผลิตรถยนต์
109. ใช้น้ำยาล้างรถที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้น้ำยาล้างรถเกินอัตราที่ทางผู้ผลิตแนะนำ ก็จะเป็นอันตรายต่อสีของรถได้และอย่าปล่อยให้บริเวณที่ล้างแห้ง ควรจะล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนที่จะล้างในส่วนอื่นต่อไป
110.ขจัดคราบน้ำมันบนตัวถังรถใช้ฟองน้ำจุ่มลงในน้ำผสมเบ็คกิ้งโซดาทาตรงบริเวณที่มีคราบน้ำมันจับ คราบน้ำมันจะหลุดออกอย่างง่ายดายไม่กระทบกระเทือนสีรถด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:51  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8823

คำตอบที่ 21
       111. กำจัดแมลงที่ติดฝาครอบรถยนต์และตะแกรงหน้ารถ ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้สเปรย์พ่นยุงพ่นที่ฝาครอบรถและตะแกรงหน้ารถตัวแมลงเล็ก ๆ ก็จะหลุดออกง่าย และไม่ทำลายความเป็นเงาของสีรถ
112..รอยเปื้อนกระจกหน้ารถจากตัวแมลงหรือน้ำที่กระเด็นใส่ แก้ไขด้วยใช้ฟองน้ำชุปเบ็คกิ้งโซดา แล้วเอาฟองน้ำสะอาดเช็ดกระจกจนแห้ง ผงเบ็คกิ้งโซดาจะไม่ทำให้กระจกเป็นรอยใช้ทำความสะอาดไฟหน้าไฟท้ายและกันชนได้
113. การขับรถตอนน้ำท่วม ถ้าไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่ต้องกลัวว่า รถจะดับหรือเปล่า หรือจะมีปัญหาอะไรตามมา เช่น น้ำจะเข้ารถหรือเปล่า แล้วจะเกิดผลเสียต่ออุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่
114. แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรทำอย่างไรดีละ คือ ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด เมื่อเราเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน สิ่งที่จะตามมาคือ ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง
115. ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ก็ใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้ ก็ใช้เกียร์ L ก็ได้ครับ รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:51  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8824

คำตอบที่ 22
       116. อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ การเร่งเครื่อง ยิ่งทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน และควรลดความเร็วลง เมื่อ กำลังจะขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น
117. เมื่อขับผ่านบริเวณที่มี น้ำท่วมแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อ ก็คือ พยายาม ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำ เพราะในช่วงแรก ๆ หลังจากการลุยน้ำลึกมา มันจะเบรกไม่อยู่ และเป็นอันตรายมาก ถ้าเราไม่ทำการย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก สำหรับ เกียร์ธรรมดา ต้องมีการย้ำคลัชเช่นเดียวกับการย้ำเบรก เพราะหลังการลุยน้ำมา อาจมีปัญหาคลัชลื่น จึงต้องทำทั้งย้ำคลัชและย้ำเบรก
118.. อีกข้อหนึ่งคือ เมื่อลุยน้ำมาแล้ว ไม่ควรดับเครื่องทันที ถึงแม้ถึงจุดหมายก็ตามเพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสีย ซึ่งควรสตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก ซึ่งจะสังเกตได้ว่า มีไอออกจากท่อไอเสีย ก็ไม่ต้องตกใจครับ ก็สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้น้ำในหม้อพักมันระเหยออกไปเพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะทำให้เกิดน้ำค้างอยู่ในหม้อพัก สิ่งที่จะตามมาคือ มันจะผุ
119. หลังจากวันที่เราลุยน้ำมาแล้ว เราควรจะ ล้างรถ รวมถึง การฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถด้วย รวมทั้งบริเวณซุ้มล้อ สำรวจน้ำมันเกียร์ ว่า มันมีสีผิดปกติหรือไม่ หรือถ้าเป็นไปได้ ก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มันซะเลย เพื่อความสบายใจ เช็คลูกปืนล้อ ซึ่ง พูดง่าย ๆ ว่า เจอน้ำทีไร ลูกปืนล้อมันก็จะดัง ตรวจสอบ พื้นพรมในรถ ว่า เปียกชื้นหรือไม่ รวมถึงกล่องฟิวส์ต่าง ๆ
120. วิธี จอดรถ ให้ ปลอดภัยพยายามหาที่จอดรถบริเวณที่มีผู้คนและยวดยานผ่านไปมามากหน่อย และควรเป็นที่สว่างๆ ควรจอดรถใกล้ประตูทางเข้าออกศูนย์การค้า อย่าจอดรถใกล้กับรถตู้หรือรถบรรทุก หากจอดบนอาคารที่จอดรถ ให้หาจุดจอดใกล้กับทางเดินหรือลิฟต์ ตามอาคารจอดรถที่ต้องรับบัตรจอดรถ จงเก็บบัตรนั้นไว้กับตัว อย่าทิ้งไว้ในรถ
121..อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว่า เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยัง “เย็น”อยู่ ไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ และละลายปนกับฟีล์มน้ำมันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่ ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียงพอ สร้างความสึกหรอในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมด และไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่องยังเย็นนี้ ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย
122. รถใหม่ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ต้องรันอิน รถรุ่นใหม่ๆ แม้จะมีการควบคุมคุณภาพอย่างดีแล้วก็ตาม แต่เครื่องยนต์ใหม่ควรต้องผ่านการรันอิน และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสักครั้งก่อนที่จะใช้งานอย่างเต็มที่ เพราะเศษโลหะที่ตกค้างอยู่ในระบบจะได้ถูกชะล้างออกไป
123. การยก “ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดไม่ได้ช่วยยืดอายุใบปัด แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม อีกส่วนคือ ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์ ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด การยกก้านเมื่อจอดตากแดดสปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลา อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุด
124 . ในกรณีรถติดไฟแดง ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่าง และเหยียบเบรคป้องกันรถไหล คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค ใส่เกียร์คาไว้ ให้เมื้อยขา ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ กลับมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน กลุ่มแรก เหยียบเบรคโดยค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง “D” กลุ่มที่2 เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง “N” กลุ่มสุดท้าย ดันคันเกียร์มาอยู่ที่“P” ไม่เหยียบเบรค ถ้าติดไฟแดงนานๆ กลุ่มแรก ต้องระวังมากที่สุด เพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า กลุ่มที่ 2 เบาหน่อยแค่เมื่อย ส่วนกลุ่มสุดท้าย สบายใจได้ แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด คือ ใช้เกียร์ว่าง และดึงเบรกมือ
125 ลมน้อย ยางมีโอกาสระเบิดได้มาก คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน ก็แนะนำตรงกันว่า ผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ และให้เพิ่มแรงดันลมยางอะไหล่ให้สูงขึ้นอีก 2- 3 ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล
126 ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้ และมีโอกาสเกิด “ยางระเบิด” มากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหนด เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:52  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8825

คำตอบที่ 23
       127. อย่าใช้ระบบขับเคลื่อนผิดประเภท จะได้ไม่ต้องเสียใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อนั้นอาจจะช่วยให้รถเกาะถนนมากกว่าระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกาะถนนดีเมื่อต้องเลี้ยวในความเร็วสูง ล้อหน้าที่ถกลอคให้หมุนจะเลี้ยวได้น้อยลง ทำให้ต้องใช้วงเลี้ยวที่กว้างขึ้น จึงมีรถประเภทนี้หลุดโค้งให้เห็นกันเป็นประจำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ทไทม์มีไว้เพื่อช่วยให้รถสามารถผ่านทางทุระกันดานได้ง่ายขึ้น ต่างกับพวกที่เป็นฟูลล์ไทม์หรือ “ตลอดเวลา” ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการยึดเกาะถนน
128 ตั้งศูนย์ล้อควรทำทั้ง 4 ล้อ ศูนย์ล้อหลังมีความสำคัญพอๆ กับศูนย์ล้อหน้า หรืออาจจะมากกว่า เพราะมุมที่ล้อหลังเอียงไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจทำให้รถเสียสมดุลเมื่อเบรค หรือเลี้ยวและทำให้รถเลี้ยวไปมากกว่าที่คิด รถยนต์ส่วนใหญ่จะปรับตั้งศูนย์ล้อได้หน้า/หลัง ยกเว้นรถขับเคลื่อนหน้าบางรุ่นที่ปรับได้แต่เฉพาะล้อหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถตั้งศูนย์ล้อหลัง ก็ต้องทำใจ
129. .เวลาข้ามแยก รอให้รถว่าง และไม่ควรเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ถ้าคุณเปิดไฟฉุกเฉิน รถทั้งด้านซ้าย/ขวา ต่างก็จะเห็นสัญญาณไฟเลี้ยวเพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น รถทางขวาอาจจะจอดให้ไป แต่สำหรับทางซ้ายอาจคิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้ายจึงไม่หยุดให้ อุบัติเหตุ จึงเกิดขึ้น ด้วยความเข้าใจผิด จากการใช้สัญญาณไฟแบบผิดที่…ผิดทาง
130. ไฟฉุกเฉินใช้เวลาจอดฉุกเฉิน ในสภาพอากาศที่ไม่ดี และมีทัศนะวิสัยแย่มาก จนมองแทบไม่เห็นรถคันหน้า การชะลอความเร็ว เปิดไฟหน้า และทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากขึ้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่การใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน ทำให้ที่วิ่งสวนทางมาเข้าใจผิดคิดว่ามีรถจอดเสียอยู่ทางซ้ายริมถนน และหักหลบไปทางขวา ซึ่งเป็นไหลทาง กว่าจะเห็นอาจจะสายเกินไป ไม่ลงไปข้างทางก็อาจพุ่งข้ามช่องทางมาชน หรือถ้าหยุดรถก็ขวางทาง และเกิดอุบัติเหตุ
131.การใช้ สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือไฟผ่าหมาก ควรใช้เฉพาะเวลาที่รถเสีย และต้องจอดอยู่ริมถนน เพื่อบอกให้เพื่อนร่วมทางที่สัญจรผ่านไปมา ใช้ความระมัดระวัง และชะลอความเร็วในจุดที่รถจอดเสียอยู่
132 ผ้าเบรคแข็ง หรือ ผ้าเบรคเนื้อแข็ง ไม่ดี” ไม่แน่เสมอไป ขึ้นอยู่กับความต้องการความเข้าใจผิดๆ เรื่อง “ผ้าเบรค” ที่ว่าผ้าเบรคอ่อนดีกว่าแข็ง ถ้าเน้นข้อดีข้อใดขึ้นมา ก็มักจะมีข้ออื่นด้อยลงไป
133. ..นั่งขับแบบไม่ต้องชะเง้อ จะได้ไม่เมื่อย และไม่อันตราย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ท่านั่งที่ถูกต้องเอาหลังพิงพนักจนสนิทแล้วเหยียดแขนข้างใดข้างหนึ่ง ไปวางบนส่วนบนสุดของพวงมาลัยแล้ว ตรงกับข้อมือ ขาต้องสามารถเหยียบแป้นคลัทจนจม โดยไม่ต้องเหยียดข้อเท้าสุด ส่วนใต้ของขาอ่อนดันกับเบาะนั่งส่วนหน้า จนรู้สึกว่าน้ำหนักตัวที่ลงตรงสะโพกพอดี และยังสัมผัสกับพนักพิง



129.เห็นบ่อยมากที่เปิดไฟกระพริบเพื่อวิ่งข้ามแยก
จาก : white-out(white-out) 8/6/2554 8:56:44 [180.183.244.29]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:52  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8826

คำตอบที่ 24
       134. นั่งชิดพวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ” อันตรายมาก ตัวอาจกระแทกกับพวงมาลัยบาดเจ็บ ผู้ที่นั่งใกล้พวงมาลัยเกินไป มักเป็นผู้ที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับรถนัก และได้รับการสอนท่านั่งมาแบบผิดๆ ลำตัวที่อยู่ชิดกับพวงมาลัย นอกจากจะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่ถนัดเพราะแขนงอมากเกินไป ยังเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตัวผู้ขับ ที่อาจจะบาดเจ็บจากการที่ลำตัวกระแทกกับพวงมาลัย และแรงระเบิดจากถุงลมนิรภัย
135. การหงายมือล้วงหรือสอดมือจับพวงมาลัย เพื่อเลี้ยวรถ เป็นการออกแรงดึงเข้าหาตัว จึงทำให้รู้สึกว่าออกแรงน้อยกว่าการจับแบบคว่ำมือหมุน แต่การทำแบบนั้นมี “อันตราย” มาก ถ้าหากล้อหน้าเกิดสะดุดก้อนหิน และเกิดมือหลุดจากพวงมาลัย ดึงมือออกมาไม่ทันก้านพวงมาลัยจะตีมืออย่างแรง
136. การจับพวงมาลัยที่ถูกต้องควรจับในตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ซึ่งแขนจะงออยู่เล็กน้อย และเพียงพอที่หมุนพวงมาลัยได้จนครบรอบ เมื่อต้องเลี้ยวรถมากกว่าหนึ่งรอบ จะปล่อยมือที่อยู่ด้านหลัง เพื่อมาจับในตำแหน่งเดิม โดยทำในลักษณะนี้ทั้งเลี้ยวซ้าย/ขวา
137. “เกียร์ ซีวีที.ขับง่ายและประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไป การขับแบบประหยัดเชื้อเพลิง ให้เหยียบคันเร่งไม่ลึกนักขณะออกรถและรักษาระยะที่เหยียบไว้ ช่วงแรกเครื่องยนต์จะส่งกำลังผ่านทอร์คคอนเวอร์เตอร์ พอล้อรถหมุนเร็วพอสมควร และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากทอร์คคอนเวอร์เตอร์แล้ว ระบบต่อตรงส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังจานทรงกรวยตัวขับก็จะทำงาน จากนั้นระบบควบคุมจะลดระยะห่างของจานทรงกรวยคู่ที่เป็นตัวขับ เป็นการลดอัตราทด เพื่อเพิ่มความเร็วรถ โดยที่ความเร็วของเครื่องยนต์ค่อนข้างคงที่
138. โรงงานผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น จำนวนไม่น้อย แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรอง หรือหม้อกรองทุกๆ ครั้งที่ 2 ของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ้าคำนึงถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่องยุคปัจจุบันแล้ว น้ำมันเครื่องหมดอายุแล้ว ในหม้อกรองน้ำมันเครื่องจำนวนหนึ่งปนเปื้อน ไม่ถึงกับให้โทษในด้านการหล่อลื่นหรือทำความสะอาดภายในเครื่องยนต์ แต่เมื่อคำนึงถึงราคาหม้อกรอง หรือไส้กรอง ซึ่งถูกกว่าราคาน้ำมันเครื่องแล้ว ควรเปลี่ยนทุกครั้งเพื่อให้น้ำมันเครื่องสะอาดที่สุด และทำหน้าที่รักษาเครื่องยนต์ของเราจะดีกว่า
139. ไม่ควรเติม หัวเชื้อน้ำมันเครื่องเพื่อถนอมเครื่องยนต์”อาจจะหนืดไป แค่ใช้น้ำมันเครื่องดี มีคุณภาพ ก็เพียงพอแล้ว น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงในปัจจุบันมีส่วนผสมของสารต่างๆ อยู่ในปริมาณและสัดส่วนที่เหมาะสม จึงไม่ควรใส่สารอื่นเข้าไปทำลายสัดส่วนสารเคมีเหล่านี้ให้เสียสมดุลและกลับให้โทษแก่เครื่องยนต์
140. ใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพมาตรฐานจะดีกว่า การนำน้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุดสักครึ่งลิตร มาผสมกับน้ำมันเครื่องคุณภาพปานกลาง ก็ไม่สามารถเพิ่มคุณภาพขึ้นมาได้ เอาเงินส่วนนี้ไปทำประโยชน์ส่วนอื่นจะดีกว่า
141. การเอาน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำมาเติมผสมลงไปน้ำมันเครื่องชั้นดีราคาสูง ซึ่งจะทำให้ส่วนผสมของสารเพิ่มคุณภาพในน้ำมันเครื่องเสียสมดุลไป เท่ากับน้ำมันเครื่องทั้งหมดคุณภาพต่ำไปการเติมน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อน้ำมันเครื่องเดิมใกล้จะถึงกำหนดเปลี่ยนถ่ายนั้น ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเพราะไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเพื่อแลกกับการใช้งานเพียงระยะสั้น ทางที่ดีเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเลยจะคุ้มกว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:53  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8827

คำตอบที่ 25
       141. ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ทุกๆ 10,000 กม.”ขึ้นอยู่กับคุณภาพน้ำมันเครื่องและความต้องการของเครื่องยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์แต่ละราย กำหนดมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์แต่ละรุ่นต้องการใช้ อยู่ในคู่มือประจำรถ และกำหนดระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว้แตกต่างกันด้วย
142. รถยนต์ของค่ายญี่ปุ่น จะมีกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นระยะทางที่สั้นกว่ารถยุโรปเช่น ทุกๆ 5,000 กม. และ 10,000 กม. ส่วนรถค่ายยุโรปส่วนใหญ่ที่เครื่องยนต์ใหญ่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ และมาตรฐานคุณภาพของน้ำมันเครื่องไว้สูง เช่น ระดับ SJ สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะกำหนดระยะทางถึง 15,000 กม. หรือมากกว่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนก่อนเวลาก็ไม่ได้ทำให้เสียหาย เพียงแต่เปลืองเงินกว่าที่ควร
143.. การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ก่อให้เกิดเขม่ามากกว่าในเครื่องยนต์เบนซินผงเขม่าขนาดเล็กสามารถลอดผ่านกระดาษกรองของหม้อกรองน้ำมันเครื่องได้ เมื่อสะสมแขวนลอยอยู่ในน้ำมันเครื่องมากขึ้น จะทำให้น้ำมันเครื่องมีค่าความหนืดสูงขึ้น คุณสมบัติในการหล่อลื่นจึงลดลงเครื่องยนต์ดีเซลระบบฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ หรือไดเรคท์อินเจคชันยุคใหม่มีเขม่าน้อยกว่าแบบ พรีแชมเบอร์ เราจึงสังเกตได้ว่า กำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์แบบนี้ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซินแล้ว
144. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ จุดเด่นแรกของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อยู่ที่ค่าความหนืดต่ำที่อุณหภูมิต่ำ จึงไหลไปหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มติดเครื่องยนต์ในสภาพเย็นจัด
145.น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ทนต่อความร้อนสูงที่ผนังกระบอกสูบได้ดีกว่า จึงมีอัตราการระเหยเป็นไอได้น้อยกว่าน้ำมันเครื่อง “ธรรมดา” อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่องอาจน้อยกว่าเล็กน้อย จุดเด่นอีกข้อของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ คือ การมีค่าดัชนีความหนืดสูง จึงไม่ “ใส” เกินไปเมื่อถูกความร้อนจัด น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีสารปรับดัชนีความหนืดผสมอยู่ในอัตราที่น้อยกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา เนื่องจากสารปรับดัชนีความหนืดนี้เสื่อมสภาพได้ง่ายตามอายุใช้งาน
146. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์จึงมีอายุใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดามาก เมื่อเปรียบเทียบราคาน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % กับราคาน้ำมันเครื่อง “ธรรมดา” ระดับคุณภาพสูงสุดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์จะมีราคาสูงกว่าราว 2 ถึง 4 เท่า
147.. ไม่ควรนำน้ำมันเครื่องราคาถูกมาเปลี่ยนบ่อยๆ แทนน้ำมันเครื่องมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนด แม้น้ำมันเครื่องระดับคุณภาพสูงที่เราซื้อมา ก็อาจเป็นของปลอมที่กรองและฟอกสีมาจากกากน้ำมันเครื่องใช้แล้วได้
148. เลือกใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพสูงสุด ก่อนอื่นต้องเลือก “ยี่ห้อ” และสถานที่จำหน่ายที่น่าไว้วางใจได้ เลือกระดับคุณภาพ แล้วจึงดูระดับความหนืด หรือความข้นของน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับอุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองไทย เช่น 10W-40/15W-40/15W-50 หรือ 20W-50 ระดับคุณภาพที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศไทย คือ ระดับคุณภาพตามมาตรฐานของ API (AMERICANPETROLEUM INSTITUTE) ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์เบนซิน ควรใช้น้ำมันเครื่อง ระดับคุณภาพ SJหรือ อย่างน้อย SH ถ้าเป็นรถใช้เครื่องยนต์ดีเซล ควรเลือกระดับ CG – 4 หรืออย่างน้อย CF – 4



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:53  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8828

คำตอบที่ 26
       149.. การใช้แบตเตอรีที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ขณะที่องค์ประกอบอื่นๆ ทั้งเครื่องยนต์ ไดสตาร์ท และไดชาร์จ ยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะเป็นความสิ้นเปลืองที่เกินกว่าความจำเป็น เพราะความต้องการไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ยังเท่าเดิมแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับไดชาร์จในอนาคต
150. แบตเตอรีที่มีขนาดใหญ่มากเกินไป ไม่เพียงต้องทำให้เจ้าของรถต้องดัดแปลงแทนวางแบตเตอรีใหม่เท่านั้น ยังอาจส่งผลให้ไดชาร์จทำงานเต็มกำลังตลอดเวลา เพื่อบรรจุไฟเข้าไปเก็บในแบตเตอรี ซึ่งจะหยุดก็ต่อเมื่อไฟเต็ม
151.. ควรปิดคอมเพรสเซอร์แอร์ ก่อนดับเครื่อง ช่วยยืดอายุตู้แอร์ ระบบทำความเย็นทั้งภายในรถและอาคาร อาศัยหลักการถ่ายเทความเย็น และระบายความร้อน ซึ่งตู้แอร์ หรือคอยล์เย็น จะมีสารทำความเย็นบรรจุอยู่ภายใน โดยมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลม การปิดพัดลมหลังดับเครื่อง ความเย็นยังคงอยู่ภายในระบบ ตู้แอร์จึงชื้น และกลายเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ซึ่งจะทำให้ลมผ่านได้ไม่สะดวก เกิดการอุดตัน และตู้รั่ว
152.. การปิดคอมเพรสเซอร์ หรือปิดสวิทช์ AC ก่อนดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 5 -10นาที จะช่วยไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นที่สะสมฝุ่น นอกจากจะช่วยยืดอายุตู้แอร์ ยังช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่มักเกิดพร้อมๆ กับความชื้นอีกด้วย
153.. แอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน ต่ำกว่าของเบนซิน การที่แกสโซฮอลสิ้นเปลืองกว่าเพราะแอลกอฮอล์มีพลังงานสะสมในตัวมันน้อยกว่า เมื่อเทียบมวลเท่ากัน เช่น มีพลังงานกี่กิโลแคลอรีต่อมวลหนึ่งกิโลกรัมเท่ากัน หรือกล่าวได้ว่าแอลกอฮอล์มีความหนาแน่นของพลังงาน หรือค่าความร้อน (HEATING VALUE) ต่ำกว่าของเบนซิน
154. น้ำยาเติมหม้อน้ำช่วยลดตะกอนและควบคุมอุณหภูมิของน้ำ น้ำยาเติมหม้อ หรือน้ำยาหล่อเย็น (COOLANT) ถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้หม้อน้ำและปั๊มน้ำรั่วอยู่เสมอ นั่นก็เพราะผู้ใช้รถจะพบปัญหาเหล่านี้หลังจากที่ได้เติมน้ำยาหล่อเย็น ซึ่งในความเป็นจริงเกิดจากระบบหล่อเย็นของรถขาดการบำรุงรักษามาเป็นเวลานาน หรือใช้น้ำที่มีค่าเป็นกรดเป็นด่างมากเกินไป จนเกิดการผุกร่อน
155. เราควรบำรุงรักษาหม้อน้ำด้วยการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาในระบบหล่อเย็นปีละครั้ง รวมทั้งทำความสะอาดถังพักน้ำด้วย ส่วนการผสมน้ำยาหล่อเย็น ควรทำตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตระบุไว้
156. หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจานเบรคใช้ได้ดีกับรถทุกรุ่นทุกขนาด แม้ว่าคุณสมบัติที่ดีของจานเบรคคือ ระบายความร้อนได้เร็ว ส่วนใหญ่ผู้ผลิตรถจึงใช้กับล้อหน้าที่ผ้าเบรคจับตัวจานเบรคแทบจะตลอดเวลา ดุมเบรคที่ระบายความร้อนได้ช้ากว่าเพราะมีฝาครอบ แต่มีพื้นที่สัมผัสมากกว่าจานเบรคและไม่มีปัญหาเบรคลอคเหมือนจานเบรคใช้ในล้อหลัง รถที่ใช้งานแบบทั่วไป รวมทั้งรถที่มีระบบเอบีเอส ซึ่งวิศวกรผู้ผลิตรถยนต์จะเลือกใช้จานเบรคตามความเหมาะสม การที่เจ้าของรถนำรถไปดัดแปลงใช้จานเบรคในล้อหลัง ต้องระวัง เพราะหากล้อหลังหยุดก่อนล้อหน้าเมื่อเบรค อาจทำให้รถหมุนได้
157. การเปลี่ยนกรองอากาศมาเป็นแบบกรองเปลือย ที่ไม่มีกล่องป้องกันฝุ่น และท่อนำอากาศ อาจจะช่วยให้อากาศเข้าได้สะดวกขึ้น แต่ความหนาแน่นของมวลอากาศน้อยลงเพราะอุณหภูมิความร้อนภายในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งปริมาณอากาศกับห้องเผาไหม้เท่าเดิม จึงให้กำลังตกลงเมื่อเครื่องร้อน อีกทั้งมีฝุ่นละอองมาก ทำให้ต้องล้างหรือทำความสะอาดบ่อยๆ การใช้หัวเทียนใหม่ช่วยให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ แต่ไม่ได้เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ให้สูงกว่ามาตรฐานผู้ผลิตรถยนต์ได้กำหนดไว้
158 .เปลี่ยนกรองอากาศใหม่ จะช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันไปได้นับพันบาท การใช้ลมเป่าใส่กรองอากาศที่นิยมทำกัน เมื่อมีฝุ่นติดเต็ม จนมองไม่เห็นสีเดิม วิธีนี้ช่วยให้ฝุ่นละอองเบาบางลงอากาศไหลผ่านได้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าเป่าแรงเกินไปแผ่นกรองอาจเสียหายจนใช้งานต่อไม่ได้ เพราะมีรูกว้างจนฝุ่นขนาดใหญ่สามารถผ่านเข้าไปได้ คิดแล้วไม่คุ้ม ยอมจ่ายเงินซื้อของใหม่มาใส่จะคุ้มกว่า การล้างคาร์บูเรเตอร์ หรือหัวฉีด แถมยังประหยัดค่าน้ำมันทางอ้อม อีกด้วย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:54  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8829

คำตอบที่ 27
       159. เดินเบาก่อนดับถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะเวลาที่เราขับรถทางไกลเวลานานๆ เพราะการปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบา หลังจากที่ต้องทำงานหนักมานาน ก็เสมือนกับการที่เราปล่อยให้เครื่องยนต์ปรับอุณหภูมิภายในให้เหมาะสม และระบายความร้อนที่สะสมอยู่ในชิ้นส่วนต่างของเครื่องยนต์ด้วย
160. เพื่อการรักษาเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน เราจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถซะใหม่ นั่นคือ ปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบาไว้ซัก 1-3 นาที ก่อนที่จะดับเครื่องทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานรถติดต่อกันนานเท่าใด ถ้าเป็นกรุงเทพก็ปล่อยให้เดินเบาซัก 1 นาที ก็น่าจะพอหอมปากหอมคอกับช่วงเวลาที่เร่งรีบ แต่ถ้าเป็นการเดินทางไกลใช้ความเร็วค่อนข้างสูง ติดต่อกันนานๆแล้ว ก็ควรจะปล่อยให้เครื่องเดินเบาไว้อย่างน้อยสัก 2-3 นาที
161. การดูแลน้ำมันเครื่อง หน้าที่หลักของน้ำมันเครื่องคือ ช่วยหล่อลื่นระบบต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ให้เดินสะดวก ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์จึงจำเป็นต้องตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำเมื่อใช้ไปนาน ๆ เพราะจะมีสิ่งปลอมปนทำให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นลดน้อยลงตามอายุการใช้งาน
162. การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 3 เดือน หรือทุก ๆ10,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ว่าจะถึงจุดไหนก่อน อย่างเช่น รถวิ่งทางไกลมาถึงระยะ 10,000กิโลเมตร ภายใน 2 เดือนครึ่ง ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้เลยไม่ต้องรอให้ครบ 3 เดือน) หรืออาจจะดูตามคู่มือรถของท่านแล้วก็ปฏิบัติตามนั้น ถ้าจะให้ดีในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรจะเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วยทุกครั้ง เพราะความสกปรกในไส้กรองอาจเข้าไปทำให้น้ำมันที่เติมใหม่มีสิ่งปลอมปน
163. การเช็คระดับน้ำมันเครื่อง การเช็คระดับน้ำมันเครื่องให้ทำหลังจากดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลา 2 นาที เพื่อให้น้ำมันไหลลงด้านล่างของเครื่องก่อน และรถจะต้องจอดอยู่บนพื้นราบด้วยให้ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาแล้วใช้ผ้าเช็คก้านวัดให้ไม่มีรอยน้ำมันเครื่องเดิมที่ติดขึ้นมาแล้วเสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องกลับเข้าที่จนสุด ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาอีกครั้งหนึ่ง ตรวจดูระดับน้ำมันเครื่องบนปลายก้านวัด ถ้าน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีดล่างและขีดบนแสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องถูกต้องแล้ว ถ้าน้ำมันเครื่องอยู่ที่ขีดล่างหรือต่ำกว่าให้เติมน้ำมันเครื่องจนได้ระดับที่ถูกต้อง
164.. การอ่านค่าจากก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง MAX หมายความว่า มาก / MIDหมายความว่า ปานกลาง/ MIN หมายความว่า น้อย เมื่อดึงก้านน้ำมันเครื่องขึ้นมาจะมีน้ำมันติดปลายก้านวัดมาด้วยให้ดูว่าน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่สูงสุดอยู่ในระดับใด
165. .ประโยชน์ของน้ำมันเครื่อง ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ช่วยลดการเสียดทาน และสึกหรอของเครื่องยนต์ รักษาความสะอาดภายในเครื่องยนต์ ลดตะกอนสะสมป้องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่อนช่วยให้รถสตาร์ทติดง่าย ฉะนั้นการเลือกใช้น้ำมันเครื่องจึงมีความสำคัญมาก
166. แบตเตอรี่ ขุมพลังไฟฟ้าแหล่งสำคัญที่ถูกบรรจุอยู่ในห้องเครื่องคอยจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ แอร์ โทรทัศน์ ที่ต่างสรรหามาติดกันในรถรวมไปถึงการจ่ายไฟฟ้าเพื่อการสตาร์ทเครื่องยนต์ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยแบตเตอรี่ทั้งสิ้น
167.ขั้นตอนในการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ เปิดฝาจุกด้านบนของหม้อแบตเตอรี่ 6 ฝา ให้หมด แล้วเช็คดูว่าทั้ง 6 ช่องน้ำกลั่นอยู่ในระดับที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าลดลงจนไม่ท่วมแผ่นทองแดงให้เติมน้ำกลั่นลงไปในช่องที่น้ำกลั่นลดลงไป (แต่ละช่องน้ำกลั่นจะลดลงไม่เท่ากัน) โดยให้ท่วมแผ่นทองแดงประมาณ 10-15 มิลลิเมตร อย่าเติมน้ำกลั่นให้ล้นออกมาจากหม้อแบตเตอรี่ ถ้าน้ำกลั่นหกเลอะออกมานอกหม้อแบตเตอรี่ ให้รีบนำผ้ามาเช็ดให้แห้งทันที เมื่อเติมเสร็จเรียบร้อยให้ปิดจุกฝาทั้ง 6 ฝาให้เรียบร้อย
168.. ในส่วนของขั้วแบตเตอรี่ ทั้งขั้วบวกและขั้วลบ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือขี้เกลือขึ้นบริเวณขั้วทั้ง 2 ข้าง ของแบตเตอรี่ รวมไปถึงสิ่งสกปรกอื่นที่ติดเป็นคราบ ถ้าพบให้รีบทำความสะอาดโดยทันที โดยใช้น้ำร้อน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสาเหตุทำให้รถสตาร์ทติดยาก การจ่ายไฟไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ จุดต่าง ๆ ที่ต้องตรวจสอบอีกคือ ขั้วสายไฟที่ต่อแบตเตอรี่หลวมหรือไม่ ฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่นหมุนเกลียวแน่นหรือเปล่า ตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วของหม้อแบตเตอรี่หรือไม่ ถ้ามีต้องรีบแก้ไข
169. การทำความสะอาดแบตเตอรี่ ถ้าเกิด ขึ้เกลือขึ้นในขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ข้าง ให้ถอดขั้วทั้ง 2 ออกมา ใช้แปรงลวดขัดบริเวณที่เกิดขี้เกลือบริเวณทั้งสองข้างถ้าเป็นรอยสกปรกธรรมดาใช้ผ้าเช็ดก็ได้ เมื่อทำความสะอาดเสร็จให้ใช้จาระบีทาที่ขั้วแบตเตอรี่และขั้วทองแดงทั้งสองขั้ว ให้ใส่ขั้วกลับลงไปที่เดิม โดยให้สายขั้วบวกใส่ในตำแหน่งขั้วบวก สายขั้วลบใส่ในตำแหน่งขั้วลบ
170.ข้อแนะนำเพิ่มเติมควรทำความสะอาดหม้อแบตเตอรี่ด้านนอก ทุก ๆ 6 เดือน โดยการยกหม้อแบตเตอรี่ออกจากรถแล้วใช้แอมโมเนียเช็ด ควรถอดขั้วแบตเตอรี่และทำความสะอาดทุก ๆ 3 เดือน อย่าให้โลหะอย่างเช่น ไขควง แหวน โดนขั้วแบตเตอรี่ เพราะอาจทำให้เกิดประกายไฟได้
171.ขณะจอดรถอย่าเปิดไฟ หรือวิทยุทิ้งเอาไว้นาน ๆ เพราะมันจะดึงไฟแบตเตอรี่ทำให้แบตเตอรี่อ่อน หรือในเวลาที่จะสตาร์ทรถควรจะปิดแอร์หรือวิทยุไว้ชั่วคราวก่อน
172. .หม้อน้ำถือว่าเป็นตัวจักรสำคัญอีกตัวหนึ่งของรถยนต์ เพราะหม้อน้ำจะช่วยระบายความร้อนในการทำงานของเครื่องยนต์ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง น้ำที่ใช้เติมหม้อน้ำก็ให้ใช้น้ำที่ใสสะอาดธรรมดาไม่มีตะกอน อย่างเช่น น้ำประปาทั่วไป สามารถผสมน้ำยารักษาหม้อน้ำลงไปด้วยได้ เพื่อเป็นสารช่วยในการบำรุงรักษาไม่ให้หม้อน้ำเกิดสนิม ลดการกัดกร่อน และยังช่วยให้เครื่องเย็นเร็ว
173.. พัดลมและสายพานจะทำหน้าที่สัมพันธ์กัน เมื่อสายพานหมุนพัดลมก็จะทำงานด้วยเพื่อทำหน้าที่เป่าลมไปยังหม้อน้ำเป็นการระบายความร้อนหากสายพานเกิดการชำรุดจนขาดใช้การไม่ได้จะทำให้พัดลมไม่หมุนและน้ำมีความร้อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงควรตรวจเช็คสายพานอยู่เสมอ
174.. หากพบว่าสายพานเก่าหรือเกิดการชำรุดให้รีบถอดเปลี่ยนทันที เพราะอาจจะไปขาดกลางทางได้
175. ถ้าพบว่าสายพานขาดขณะที่ใช้รถและหม้อน้ำมีความร้อนสูงห้ามเปิดฝาหม้อน้ำเติมน้ำโดยเด็ดขาด เพราะไอน้ำร้อนจะพุ่งกระจายออกมาเป็นอันตรายจนถึงขั้นเสียโฉมได้ ควรรอให้เครื่องเย็นเสียก่อน ที่สำคัญควรมีสายพานสำรองเอาไว้ในรถเพื่อเปลี่ยนได้ทันทีด้วย อาจจะเป็นสายพานเก่าที่เปลี่ยนออกก็ได้
176. การเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ถอดฝาครอบหม้อกรองอากาศออก ถอดไส้กรองอากาศตัวเก่าออก ใช้ผ้าหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดภายในหม้อกรอง วางไส้กรองอากาศตัวใหม่ลงไปในหม้อกรองอากาศปิดฝาครอบหม้อกรองอากาศกลับเข้าที่แล้วขันน็อตทั้งหมดให้แน่น
177.. ไส้กรองน้ำมัน ไส้กรองน้ำมันเบนซินและดีเซลควรจะเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี หรือ20,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อมาถึงก่อนหรือเปลี่ยนมือท่านสงสัยว่าไส้กรองตัน เนื่องจากระบบการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันมีความยุ่งยาก ควรทำโดยช่างเทคนิคของศูนย์หรือช่างตามอู่ต่างๆ ที่มีความชำนาญงาน ไส้กรองอาจจะถูกเปลี่ยนก่อนกำหนดถ้าพบว่ามีสิ่งสกปรกติดมาในน้ำมันที่เติม
178. การดูแลจานจ่ายและหัวเทียน (เครื่องเบนซิน)การตรวจสอบจานจ่ายควรทำทุก ๆ10,000 กิโลเมตร หรือตามที่บอกไว้ในหนังสือคู่มือรถของท่าน ซึ่งช่างจะทำการตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นส่วนประกอบของจานจ่ายด้วย อย่างเช่นปั้มเร่งน้ำมัน คอนเดนเซอร์ หน้าทองขาว การตั้งไทม์มิ่งจุดระเบิด
179. การเปลี่ยนหัวเทียนควรเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี หรือใช้งานไปได้ประมาณ 20,000กิโลเมตร ในส่วนของการปรับเขี้ยวหัวเทียนควรปรับทุก 6 เดือน หรือเมื่อใช้งานประมาณ 10,000กิโลเมตร เพราะเมื่อใช้งานไปนาน ๆ เขี้ยวหัวเทียนจะสึกหรอจากการเผาไหม้จึงต้องมีการปรับ
180 . เพื่อความเรียบร้อยและสมบูรณ์ของหัวเทียน ตรวจสอบระยะเขี้ยวหัวเทียนปรับแต่งตามคำแนะนำในหนังสือคู่มือ ใช้กระดาษทรายปลายมีดทำความสะอาดเขม่าที่ติดอยู่ตามขั้วหัวเทียน หากเขี้ยวหัวเทียนเปียกชื้นด้วยน้ำมันหล่อลื่น แสดงว่าระบบควบคุมน้ำมันหล่อลื่นบกพร่องให้ปรึกษาช่างจะดีที่สุด
181.. การทำงานของคอยล์จุดระเบิด คอยล์จะมีหน้าที่หลักคือ แปลงไฟจากแบตเตอรี่ให้เป็นไฟฟ้าแรงสูงเพื่อป้อนให้กับหัวเทียนทำการจุดระเบิดให้รถสตาร์ทติด เมื่อพบปัญหารถสตาร์ทไม่ติดตรวจสอบระบบอื่น ๆ แล้วไม่พบสิ่งผิดปกติให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากคอยล์ ควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อให้ช่างตรวจเช็คอีกครั้ง การจะตรวจเช็คด้วยตนเองนั้นทำได้เพียงแค่การทำความสะอาดสายคอยล์ และตรวจดูความแน่นของสายขั้วสายไฟ
182. การทำงานของมอเตอร์สตาร์ทหรือไดสตาร์ท มอเตอร์สตาร์ทมีอยู่ 2 แบบ คือแบบเฉลี่ย และแบบขับล่วงหน้า หรือบางที่เราจะเรียกว่า ไดสตาร์ท รถรุ่นใหม่นิยมใช้แบบขับล่วงหน้าหรือได้สตาร์ทกันมากกว่ามอเตอร์สตาร์ทจะทำงานร่วมกับโซลินอยด์ ซึ่งควบคุมกระแสไฟจากแบตเตอรี่ที่ใช้ในการสตาร์ทเครื่องเช่นเดียวกันการตรวจสอบคงจะต้องอาศัยช่างอย่างเดียว
183.. ถ้าเกิดกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่งภายในรถไม่ทำงานสิ่งแรกที่ควรทำก็คือตรวจดูว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ โดยการตรวจดูแผนผังที่หน้าหรือฝากล่องฟิวส์ดูว่าฟิวส์ตัวไหนบ้างที่ควบคุมอุปกรณ์ที่ไม่ทำงานให้เช็คฟิวส์เหล่านั้นก่อนแล้วจึงเช็คฟิวส์ตัวอื่น ๆ ที่เหลือ ถ้าเช็คแล้วว่าเกิดจากสาเหตุฟิวส์ขาดก็ให้เปลี่ยนฟิวส์ เมื่อเปลี่ยนเสร็จให้ทดลองเปิดอุปกรณ์ดูว่าทำงานหรือไม่
184. ในกรณีหลอดไฟหน้าขาดจำเป็นต้องเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ ส่วนใหญ่หลอดไฟที่ใช้ในรถยุคปัจจุบันจะเป็นหลอดไฟแบบ “ฮาโลเจน” เพราะจะให้ความส่องสว่างที่ดีกว่า ในการเปลี่ยนหลอดไฟชนิดนี้ให้ใช้มือจับเฉพาะส่วนฐานที่เป็นโลหะเท่านั้น ห้ามจับส่วนที่เป็นหลอดแก้วและโปรดระวัง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ บังเอิญไปจับโดนบริเวณหลอดแก้วให้ใช้ผ้าสะอาดชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาด เพราะหลอดไฟฮาโลเจนตัวหลอดจะมีความร้อนสูงมากเมื่อโดนคราบไขมันจะทำให้หลอดร้อนจัดมากขึ้นหลอดนั้นอาจแตกได้
185.. น้ำมันเบรกจะมีขายอยู่ตามปั้มน้ำมันทั่วไป คุณภาพมาตรฐานอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับท่านมากกว่าว่าต้องการหรือชอบยี่ห้อไหน หรืออาจจะดูตามมาตรฐานของคู่มือรถที่บอกมาก็ได้
186. การตรวจสอบน้ำมันเบรกนั้นทำได้ง่ายเพียงแค่มองด้วยตาเปล่าเพราะบริเวณกระปุกน้ำมันเบรกที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์จะมีขีดบอก MAX หมายถึงสูงสุด MIN หมายถึงต่ำสุด ต้องตรวจเช็คเสมอ เพราะถ้าหากปล่อยให้น้ำมันเบรกแห้งหรือรั่วออกไปจนหมดหรือเหลือน้อย การเบรกจะไม่มีประสิทธิภาพอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ น้ำมันเบรกควรจะเปลี่ยนทุก ๆ 1 ปี หรือ 20,000กิโลเมตร แล้วแต่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งจะมาถึงก่อน
187. น้ำมันเบรกจะสามารถทำปฏิกิริยากับสีรถได้ ในการเติมน้ำมันเบรกพยายามอย่าทำน้ำมันเบรกหกหรือหยดลงบริเวณตัวถัง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้รีบเช็ดให้แห้งทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเพราะจะทำให้สีรถถลอกได้และห้ามวางขวดน้ำมันเบรกบนฝากระโปรงรถเด็ดขาด
188. น้ำมันเบรกที่ใช้ควรจะอยู่ในเกรดเดียวกัน ห้ามเติมข้ามเกรดเป็นอันขาด อีกทั้งให้เช็คถึงคุณสมบัติว่าสามารถใช้ได้นานเท่าไหร่ถึงจะได้เวลาในการถ่ายน้ำมันเบรกเก่าออก แล้วเติมน้ำมันเบรกใหม่เข้าไป ในการถ่ายน้ำมันเบรกเก่าออก แล้วเติมน้ำมันเบรกใหม่เข้าไป ในการถ่ายน้ำมันเบรกควรใช้บริการช่างจะดีกว่าโดยจะไปตามปั้มที่ให้บริการถ่ายน้ำมันหรือศูนย์ต่าง ๆ ก็ได้
189. เบรกมือหรือเบรกจุดที่ 2 ที่มีติดอยู่ภายในรถยนต์ ซึ่งเบรกมือนี้จะใช้เฉพาะในเวลาที่รถจอดหยุดนิ่งสนิท หรือในเวลาที่รถติดและรถขึ้นสะพานทางลาดชัน ระบบเบรกมือจะมีระบบกลไกที่ใช้ล็อคล้อหลังไม่ให้เคลื่อนที่ บริเวณที่ตั้งของเบรกมือจะอยู่ที่บริเวณเกียร์หรือถัดลงมาด้านล่าง(สำหรับรถเก๋ง) แต่พวกรถกระบะรุ่นเก่าจะอยู่บริเวณด้านล่างพวงมาลัยทางซ้ายมือ
190. การดูแลเบรกมือคงไม่มีอะไรมาก มีแต่เพียงในเวลาที่ใส่เบรกมือแล้วจะขับรถออกไปให้ปลดเบรกมือลงก่อนทุกครั้ง จะสังเกตุได้จากไฟสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ที่หน้าปัดรถว่าในขณะนี้เราใส่เบรกมือรถอยู่ ถ้าเราปลดเบรกมือลงไฟที่หน้าปัดก็จะหายไป
191. แต่ถ้าเราลืมปลดเบรกมือรถในบางรุ่นก็สามารถเคลื่อนตัวไปได้แต่รถก็จะฝืด ๆ เร่งไม่ค่อยขึ้นและผลกระทบที่ตามมาก็คือ ระบบเบรกทางด้านหลังจะเสียหายได้ สำหรับรถยนต์ในบางรุ่นถ้าไม่ปลดเบรกมือลงรถยนต์ก็จะวิ่งไม่ได้ จนกว่าจะปลดเบรกมือลงให้เรียบร้อย
193. สำหรับการตรวจสอบคลัตซ์และเกียร์ควรจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างจะดีที่สุดเพราะในส่วนภายในจะมีความสลับซับซ้อนต้องอาศัยความรู้ความชำนาญของช่าง
194.เราสามารถตรวจเช็คคลัตซ์ได้ก็คือ การสังเกตุสิ่งผิดปกติ อย่างเช่น เมื่อพบว่าคลัตซ์แข็ง เหยียบคลัตซ์ต้องใช้แรงมาก มีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาจากคลัตซ์ (และเบรก) มีเสียงดัง เสียงโลหะกระทบกันเมื่อเหยียบคลัตซ์ยกขาออกเสียงก็จะหาย เข้าเกียร์ยาก ถ้าพบว่ามีอาการเช่นนี้ก็ให้รีบเตรียมแจ้งรายละเอียดให้ช่างทราบเพื่อการแก้ไขได้ถูกจุด
195.ในการเช็คน้ำมันเกียร์จะต้องทำหลังจากที่ดับเครื่องยนต์เป็นเวลา 2 นาที โดยการใช้แม่แรงยกรถขึ้นและรถจะต้องอยู่ในระดับเดียวกัน จากนั้นให้ถอดนอตเติมน้ำมันออก ระดับน้ำมันเกียร์จะต้องอยู่เสมอขอบล่างของรูเติมน้ำมัน ให้สอดนิ้วมือเข้าไปในรูเติมน้ำมันดูว่าได้ระดับหรือไม่ ถ้าไม่ได้ระดับให้เติมน้ำมันเกียร์ช้า ๆ จนกระทั่งน้ำมันเกียร์เริ่มไหลออกจากรูเดิมใส่นอตเติมน้ำมันกลับเข้าที่และขันให้แน่น
196. น้ำมันที่ใช้กับเกียร์ธรรมดาต้องเป็นน้ำมันเครื่องชนิด SF หรือ SG ที่มีความหนืด20W-40 หรือ 20W-50 เท่านั้น และควรถ่ายน้ำมันเกียร์ธรรมดาทุก ๆ 1 ปี หรือ 20,000กิโลเมตร เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งมาถึงก่อน (ที่กล่าวมานี้สำหรับรถบางรุ่นที่ไม่มีกระปุกเช็คน้ำมันเกียร์บริเวณห้องเครื่องยนต์)
197. ในรถยนต์บางรุ่นจะมีกระปุกน้ำมันเกียร์อยู่ภายในห้องเครื่องทำให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ได้ง่าย กระปุกน้ำมันเกียร์จะคล้ายกับกระปุกน้ำมันเบรกแต่จะเล็กกว่ามีขีดบอกระดับMAX สูงสุด MIN คือ ต่ำสุด เช่นเดียวกัน ซึ่งน้ำมันเกียร์จะต้องอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ ถ้าต่ำลงมามากก็ให้เติมน้ำมันเกียร์กลับลงไป
198.. การเช็คระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติจะตรงกันข้ามกับเกียร์ธรรมดาคือจะต้องเช็คในเวลาที่อุ่นเครื่องยนต์ได้สักพักแล้วโดยให้นำรถเข้าจอดบนพื้นที่ได้ระดับแล้วจึงค่อยดับเครื่องยนต์ ดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ออกมาจากตัวเกียร์ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดก้านวัด เสียบก้านวัดน้ำมันกลับเข้าที่แล้วดึงออกมาอีกครั้ง (ทำเช่นเดียวกับวัดระดับน้ำมันเครื่อง) เช็คระดับน้ำมันเกียร์ที่ก้านวัด ระดับน้ำมันเกียร์ควรจะอยู่ระหว่างขีดบนและขีดล่าง ถ้าระดับน้ำมันอยู่ต่ำกว่าขีดล่างให้เติมน้ำมันจนอยู่ในระดับขีดบนให้ใช้น้ำมันเกียร์อัตโนมัติสูตรพิเศษของยี่ห้อรถยนต์ท่านเท่านั้น
199.ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์อัตโนมัติทุก ๆ 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตรเมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งมาถึงก่อน ควรดูแลน้ำมันเกียร์ให้สม่ำเสมอ เพราะราคาซ่อมเกียร์แพงมาก
200. การเติมลมยาง ในการบำรุงรักษายางนั้นวิธีที่จะเหมาะที่สุดคงจะเป็นการรักษาระดับของลมยางให้มีแรงดันลมที่ถูกต้องอยู่เสมอ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แรงดันลมในยางทั้ง 4ล้อจะมีกำหนดมาให้ในคู่มือที่ติดมากับรถ ว่าล้อหน้าต้องเติมกี่ปอนด์ ล้อหลังเติมกี่ปอนด์ต่อตารางนิ้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คงจะต้องเติมตามคู่มือที่ให้มา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:54  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8830

คำตอบที่ 28
       ขอบคุณเวปพันทิป สำหรับข้อมูลดีๆ



น้ามันเยอะจัดอ่านไม่ไหว..ต้องคัดเฉพาะที่สำคัญๆใช้บ่อยๆอะน้า
จาก : ดอกดิน.(ดอกดิน.) 8/6/2554 11:01:27 [223.206.57.206]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:58  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8831

คำตอบที่ 29
       76. ข้อห้ามของการถอยหลังอย่าใช้วิธีกลับรถโดยการถอยหลังจากถนนซอยสู่ถนนใหญ่ เมื่อไม่แน่ใจว่าปลอดภัย อย่าถอยหลัง และอย่าถอยหลังเป็นระยะทางไกล ๆ โดยไม่จำเป็น
77. ไฟเขียวให้รีบไปแน่หรือ การขับรถบริเวณทางแยกที่มีไฟจราจรกำกับและเป็นไฟเขียวอยู่ ไม่ตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งให้ทันสัญญาณไฟ ควรสังเกตดูว่าไฟเขียวนั้นนานแค่ไหน แล้วสังเกตดูว่ารถจากถนนฝั่งหนึ่งมีแถวยาวเท่าไร และควรขับรถเว้นระยะกับรถคันหลังดูว่าหากเบรคกะทันหัน กรณีไม่ทันไฟเขียว แล้วคุณจะไม่ถูกชนท้าย
78. รีบร้อนไปไหนยังไฟแดงอยู่เลย ผู้ขับขี่หลายรายต้องเสียอกเสียใจทุกวันนี้เพราะประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากชอบออกรถในขณะที่สัญญาณไฟยังเป็นไฟแดงหรือเหลืองอยู่ โดยคาดเดาล่วงหน้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ในขณะที่รถอีกฝั่งยังไฟแดงอาศัยลูกติดพันจากไฟเขียว ผลก็คือ ประสานงากันจังเบ้อเริ่ม เดือดร้อนกันทั่วหน้า
79.ถูกจี้ท้ายและเตือนด้วยไฟสูงต่ำหลายคนคงเคยเจอนักเลงกลางถนน โดยขับขี่อยู่ ดี ๆ ก็มีรถคันอื่นมาจี้ท้าย
แถมใช้ไฟสูงต่ำยิงใส่ท้ายรถอย่าตกใจและห้ามตอบโต้เด็ดขาด เพียงแต่ค่อย ๆ เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้ายเพื่อให้เกิดช่องว่างให้รถคันหลังผ่านไปได้
80.ไม่แตะเบรกขณะรถลื่นไถล กรณีรถขาดการทรงตัว เมื่อเจอสภาพถนนมีน้ำมันเกลื่อนกลาดอย่าตกใจยกเท้าออกจากคันเร่งและหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางเดียวกับทิศทางการลื่นไถลโดยห้าม แตะเบรคโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:48  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8844

คำตอบที่ 30
       81. ปล่อยให้เขาแทรกบ้างเพื่อน้ำใจ การขับรถบนท้องถนน โดยเฉพาะบริเวณที่มีรถติดการขอเข้าแทรกของรถคันอื่นข้างหน้า เราจะเจอบ่อยครั้งหากเราอารมณ์เย็นสักหน่อยพยายามมองโลกในแง่ดีปล่อยให้เขาแทรกเข้าไปบ้าง ก็จะทำให้การใช้ถนนของคุณวันนั้นราบรื่น ไม่ต้องคอยฟังเสียงอาฆาตมาดร้ายจากรถคันอื่นให้เสียอารมณ์เปล่า ๆ
82. มีปัญหากับจราจร การใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงไม่ให้มีปัญหา กับตำรวจจราจรนั้นยากมาก เมื่อถูกเรียกให้รถคุณหยุดข้างทาง และกำลังจะแจ้งข้อกล่าวหา คุณไม่ควรแสดงอาการต่อต้านโต้เถียงรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ควรพูดคำสุภาพควบคุมมารยาทเอาไว้เหตุร้ายอาจกลายเป็นดีได้
83. วิ่งไปอุ่นไป…เงินเหลือเก็บน้ำมันเหลือใช้ หลังจากสตาร์ทรถแล้ว ควรออกรถด้วยการขับความเร็วต่ำไปสักรอบ 1 -2 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นการอุ่นเครื่องไปในตัวไม่สิ้นเปลืองน้ำมันและยังประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย
84. บรื้น-เอี๊ยด…ทั้งซด ทั้งแพง ใช่ว่าจะเท่ห์เพราะทุกครั้งที่ท่านขับรถแบบกระชาก หรือเบรกแรงนั้นสิ้นเปลืองทันตาเห็น ทั้งเครื่องยนต์จะพังแถมยังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าเดิมถึง 30%
85.ขับฉลาด…ประหยัดแบบนิ่มๆ ขับโดยรักษาระดับความเร็วให้สม่ำเสมอ หรือขับรถโดยใช้รอบเครื่องยนต์ในระดับที่ให้แรงบิดสูงสุด จะเป็นระดับที่ให้ความประหยัดน้ำมันสูงสุด พร้อมทั้งยังปลอดภัยทั้งคนขับและคนนั่ง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

white-out จาก white-out 180.183.244.29 พุธ, 8/6/2554 เวลา : 08:48  IP : 180.183.244.29   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 8845

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,19 มีนาคม 2567 (Online 2027 คน)