คำตอบที่ 1
       (ยกคำถามของคุณลุงมาไว้ก่อนครับ..กันตกหล่น)

อยากจะรบกวนสอบถามคุณสอ เรื่องการเทริ์นเพลา กับ ใต้เพลา และการปรับแต่งครับ พอดีผมได้รถมาใหม่เป็น sporty ครับ รถคันนี้ใช้งานสำรองครับไว้เข้าสวนบ้าง ว่างๆเข้าป่าพาครอบครัวเที่ยว อาจจะไปลุยหนักๆบ้าง เดิมรถใส่ยาง 31 ยกใต้เพลา 3นิ้วครับ เคยปรึกษาพี่ๆที่เคยเล่นและช่างหลายๆคนบอกว่ามันจะติด และค่อนข้างลำบากในกรณีเล่นหนักๆ ต้องเทริ์นเพลา แต่ผมก็ได้ยินหลายๆเสียงว่าเทริ์นแล้วมันพลิกง่าย การทรงตัว หรือทำความเร็วได้ไม่ดี แต่บางเสียงก้ว่าดีแล้วแต่เราทำ ก็เลยสงสัยครับ เคยป้อนคำถามหลายบอร์ดแต่ไม่กระจ่างเลยจะขอรบกวนชี้แนะครับ
แต่ส่วนตัวผมอยากใส่ยางมัด 32 ครับและหั่นตูดออก ยกให้มันสมส่วน แต่ไม่รู้จะเริ่มทำยังไงครับ มีคนแนะนำให้ใช้ยาง 32 เกียร์เดิม 1300 สโล 1300 เฟือง841 แล้วเทริ์นเพลา แหนบหน้าใช้แหนบหลังเดิมแล้วเสริมแหนบ แหนบหลังใช้ของมาสด้า ส่วนโชค แล้วแต่เลือก มอยากขอคำแนะนำและชี้เป้าไปเลยว่าควรใช้ของอะไร รุ่นไหนอย่างไรครับ เช่นยี่ห้อแหนบ ยี่ห้อโชค(ที่เล็งไว้มี รันโซ่ หรืออมานดาเอ๊กทีม) ยังไงแล้วรบกวนคุณสอครับ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงครับ อนาคตจะวางแผนเผื่อไว้วางเครื่อง G16a ครับแต่คงสักช่วงใหญ่ๆครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

(รออีกแป๊บนึงนะครับ..คำตอบอาจมีรายละเอียดพอสมควร)

คำตอบที่ 2
       ยกเนื้อหาหลักเกี่ยวกับแหนบ..5-6..คำตอบสุดท้ายมาขึ้นหัวข้อใหม่นี้ครับ..จะได้ดูต่อเนื่อง

(จากความเดิมตอนที่แล้ว)
โตงเตงแบบสวิงหน้า

คำตอบที่ 3
       (ในรูปโตงเตงแบบสวิงหลัง)

ประเด็นเกี่ยวกับการทำโตงเตงหน้าหรือโตงเตงหลังนั้น จริงๆแล้วน่าจะต้องมองย้อนไปยังหลายๆเรื่องเพื่อพิจารณาหาคำตอบ อย่างเช่น
1. ประเภทของรถ
จริงๆแล้วสำหรับเรื่องประเภทของรถที่เป็นระบบช่วงล่างเป็นแบบแหนบก็จะมีโตงเตงเป็นส่วนประกอบควบคู่กันในการทำงาน โดยที่ด้านหน้านั้นมักจะมีทั้งรถที่ได้ออกแบบให้โตงเตงมาอยู่หน้า บ้างก็มีรถที่ได้ออกแบบให้โตงเตงมาอยู่ที่ด้านหลัง ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากรถตลาด 4x4 รุ่นเก่าที่เป็นแบบคานแข็งทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็น สุดยอดรถคานแข็งในตำนานอย่าง LN106 หรือแม้กระทั่งรถเล็กๆอย่างซูซูกิคาริเบี้ยน จิมนี่ ซึ่งที่กล่าวมานั้นสามารถประมวลแยกจำพวกที่มีการออกแบบตำแหน่งของโตงเตงได้ดังต่อไปนี้
- รถที่ออกแบบให้โตงเตงอยู่ด้านหลังเป็นแบบสวิงหลัง เช่น ตระกูล LN ทุกประเภท(LN46/65/106)
- รถที่ออกแบบให้โตงเตงอยู่ด้านหน้าเป็นแบบสวิงหน้า เช่น คาริเบี้ยน จิมนี่ Landcruiser(series 40/60/70)
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก่อนอื่นใดเลย ก็คือ ทำไมโตงเตงแบบสวิงหน้ามันอยู่แต่ในรถเล็กๆ ตอนแรกคิดเช่นนั้นครับ แต่คิดไปคิดมาแล้วไม่ใช่ครับ เพราะมันก็มีรถประเภท SUV ขนาดกลางถึงใหญ่จำพวก Landcruiser ปนอยู่ด้วยเหมือนกัน ก็เลยคิดต่อไปว่าต้องเป็นรถที่ไม่ใช้บรรทุกของแต่ก็ไม่ใช่ เพราะพวกคาริเบี้ยนที่เป็นกระบะก็มี Landcruiser 70 ที่เป็นกระบะบรรทุกของก็มี ก็เลยคิดต่อไปอีกว่าพวกโตงเตงสวิงหน้ามันจะเป็นพวกรถรุ่นเก่าๆเลยที่ออกแบบล้าสมัยเหมือนกับพวกรถ JEEP ทหารสงครามโลกจำพวก M38 ก็ไม่ใช่เพราะพวก Jeep mitsu ที่ออกมาทีหลังแบบเชิงพาณิชย์ก็ยังเป็นโตงเตงหน้าอยู่ รวมทั้งรถรุ่นใหม่ๆอย่าง Landcruiser 70(โตงเตงสวิงหน้า) ที่ออกมาควบคู่กับรถคานแข็ง LN65 (โตงเตงสวิงหลัง) ในปีผลิตที่ใกล้เคียงกันก็ยังทำโตงเตงที่แตกต่างกัน คิดไปคิดมา .......จนในที่สุดก็พอได้คำตอบที่ค่อนข้างจะแน่ใจว่า เจ้าโตงเตงแบบสวิงหน้านั้นมันถูกออกแบบมาให้ใช้กับรถที่เป็นรถประเภทช่วงสั้นมากกว่าเหตุผลอื่นใดทั้งหมด
(ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวครับ)

แล้วเพราะอะไร....ที่ถึงออกแบบโตงเตงให้เป็นแบบสวิงหน้ามาใช้กับรถช่วงสั้น

คำตอบที่ 4
       การออกแบบโตงเตงให้เป็นแบบสวิงหน้ามาใช้กับรถช่วงสั้นนั้น หลักๆแล้วน่าจะมาจากที่ความเป็นรถช่วงสั้น..(คิดง่ายๆเบื้องต้น)...เพราะไม่เคยเห็นโตงเตงหน้าอยู่กับรถช่วงยาวเลย..รถ.LN46/65/106..ต่างเป็นรถกระบะช่วงยาวทั้งสิ้น

โดยปกติแล้วรถระบบแหนบจะมีโตงเตงเป็นหนึ่งในระบบการทำงานหลักของระบบช่วงล่างแบบนี้..โดยที่โตงเตงจะทำหน้าที่สวิงไปตามการทำงานของแหนบไม่ว่าจะแหนบยืดหรือแหนบยุบ..ซึ่งตรงจุดนี้เองจะมีผลต่อล้อและยางที่จะมีการทำงานไปตามระบบแหนบนั้นๆ(ณ..ตำแหน่งกลางสะดือแหนบ)..
กล่าวคือ
- ถ้าหากโตงเตงอยู่ด้านหลังเป็นแบบสวิงหลัง พอแหนบยุบตัว โตงเตงก็จะถีบตัวไปด้านหลังส่งผลทำให้ล้อและยางถอยหลังไปตามการสวิงของโตงเตงอยู่บ้าง..
- ถ้าหากโตงเตงอยู่ด้านหน้าเป็นแบบสวิงหน้า..พอแหนบยุบตัว..โตงเตงก็จะถีบตัวไปด้านหน้าส่งผลให้ล้อและยางเดินไปด้านหน้าตามการสวิงของโตงเตง
(ซึ่งทั้งหมดนี้จะแตกต่างกันกับพวกระบบคอยล์สปริงและระบบปีกนก เพราะจะยืดหรือยุบล้อก็จะขึ้นลงแนวดิ่งอย่างเดียวเท่านั้น)

และจากการที่ล้อมีการสวิงตัวไปตามการยุบของแหนบทำให้มีผลต่อช่วงล้อ..ดังนี้
-ถ้าโตงเตงอยู่ด้านหลัง..เวลาแหนบยุบ..โตงเตงก็สวิงถีบตัวไปด้านหลัง..ล้อก็จะถอยหลังตามการสวิงของโตงเตง..ส่งผลให้ช่วงล้อด้านนั้นๆจะสั้นลงจากเดิม
-ถ้าโตงเตงอยู่ด้านหน้า..เวลาแหนบยุบ..โตงเตงก็สวิงถีบตัวไปด้านหน้ารถ..ล้อก็จะเดินไปที่ด้านหน้ารถตามการสวิงของโตงเตง..ส่งผลให้ช่วงล้อด้านนั้นๆจะยาวมากกว่าเดิม

สรุปแล้วก็คือ..รถช่วงสั้นถ้าหากทำโตงเตงแบบสวิงหลัง..เมื่อล้อยุบตัวจะทำให้ช่วงล้อด้านนั้นๆสั้นลงกว่าที่เป็นอยู่ปกติ..ก็จะทำให้มีจุดบอดหรือจุดอ่อนได้..โดยเฉพาะในเหลี่ยมการลงเนินชัน.45.องศาแล้วต้องหักศอกไปในมุมที่ล้อนั้นยุบอยู่..หรือขับๆอยู่แล้วตกหลุมลึกๆแบบล้อหลังอีกฝั่งมันยกขึ้น..ทำให้เกิดการเพิ่มค่าความน่าจะเป็นในการพลิกคว่ำได้ในทันที..ซึ่งก็จะแตกต่างกับพวกโตงเตงที่สวิงหน้าเพราะเหลี่ยมดังกล่าวโตงเตงจะดันไปด้านหน้า..ทำให้ล้อเดินหน้าช่วงล้อเพิ่มยาว..โอกาสพลิกคว่ำมีน้อยกว่า
จากที่กล่าวมานี้จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ทางโรงงานผลิตรถช่วงสั้นทุกๆยี่ห้อได้ออกแบบโตงเตงเป็นแบบสวิงหน้ามาใช้ร่วมกัน..ไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้ออะไรก็ตาม..ช่วงสั้นคือโตงเตงหน้าหมด

ส่วนพวกบรรดา..LNทั้งหลายนั้นมันเป็นรถช่วงยาว..ซึ่งไม่มีเหตุผลอันใดที่จะต้องทำโตงเตงหน้ามาให้ใช้กับรถพวกนี้ให้มันยาวเข้าไปอีกเวลาแหนบทำงาน...โรงงานจึงออกแบบมาให้เป็นแบบสวิงหลัง(เป็นเรื่องหลัก)..อีกทั้งยังเป็นรถที่เน้นการใช้งานแบบบรรทุกเป็นหลักการลดมุมปะทะสำหรับรถที่ใช้บรรทุกก็น่าจะมีส่วนดีในทางบวกกับการใช้งาน(เป็นเรื่องรอง)

เดี๋ยวถ้ามีรูปจะหามาลงให้ชม..เผื่อเข้าใจง่ายขึ้นครับ
(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว)

คำตอบที่ 5
       จากรูป
ถ้าโตงเตงอยู่ด้านหน้า..เวลาแหนบยุบ..โตงเตงก็สวิงถีบตัวไปด้านหน้ารถ..ล้อก็จะเดินไปที่ด้านหน้ารถตามการสวิงของโตงเตง(เดินไปหากันชนหน้า)..ส่งผลให้ช่วงล้อด้านนั้นๆจะยาวมากกว่าเดิม..ซึ่งจะแตกต่างกันกับพวกโตงเตงหลังที่เวลาแหนบยุบตัว..ล้อก็จะถอยเข้าไปใกล้หรือติดกับซุ้มล้อด้านหลังครับ

โดยส่วนตัวแล้ว..โตงเตงแบบสวิงหลังนั้นเป็นรูปแบบการผลิตสำหรับรถช่วงยาว..ยังไม่เคยเห็นโตงเตงแบบสวิงหลังมากับรถช่วงสั้นที่เป็นรถแท้ๆจากโรงงานเลย..

คำตอบที่ 6
       ประเด็นที่..1. ประเภทของรถ (กล่าวไปแล้วเกี่ยวกับประเภทช่วงสั้นกับช่วงยาว)

ประเด็นต่อมา..คือ.."รูปแบบของคัทซีรถ"..กล่าวคือ..รถที่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับระบบโตงเตงแบบสวิงหลัง..มักจะมีแนวคัทซีที่ปลายสุดด้านหน้าย้อยโค้งลงมารับให้ใกล้เคียงกันหรือเท่ากันกับจุดยึดของโตงเตงด้านหลัง..เพื่ออะไร?....
-เพื่อที่จะให้แหนบมีการทำงานได้อย่างสมดุลย์
-เพื่อแหนบทำงานอิสระลอยตามธรรมชาติ
-เพื่อให้ความโค้งของแหนบขนานใกล้เคียงกับแนวระดับกับแนวพื้นโลก
-เพื่อให้ค่าของมุมล้อมีความสัมพันธ์กับระนาบของแนวแหนบ
(เข้าใจยากทีเดียวครับ..เพราะไม่ค่อยส่งผลต่อความรู้สึกในการขับขี่)

ทั้งหมดนี้สามารถสังเกตได้จากพวกแนวคัทซีของรถพวก..LN..จะมีปลายคัทซีด้านหน้าที่โค้งลงมารับกับแนวยึดโตงเตงด้านหลัง..เพื่อให้ปลายแหนบทั้ง..2..ด้าน..คือ..ด้านเต้าแหนบและด้านโตงเตงมีระยะที่บาลานซ์กันหรือใกล้เคียงกัน

รถที่มีคัทซีที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับโตงเตงแบบสวิงหลังอีกยี่ห้อที่เห็นได้ชัดก็คือ..รถพวกปีกนกไทเกอร์(เพราะช่วงล่างเป็นปีกนก)..คัทซีรถพวกนี้พอโค้งขึ้นมาก็จะตรงไปด้านหน้ารถเลย(แทบจะไม่โค้งลงมารับเลยด้วยซ้ำ)..รถพวกนี้เมื่อมีการดัดแปลงวางคาน(โดยใช้แหนบ)แล้วจึงต้องมีการต่อเต้าหน้ายาวๆให้ลงมารับให้ใกล้เคียงกันกับจุดยึดโตงเตงด้านหลัง..ถึงจะเหมาะสม..บ้างก็เจาะยึดรูร้อยโตงเตงให้ฝังขึ้นไปในคัทซีเลยเพื่อเป็นการชดเชยกับแนวคัทซีด้านหน้าเพื่อจะได้ไม่ต้องต่อเต้าหน้าลงมามากจนดูน่าเกลียด..และก็จะได้เหมือนกับการถอดแบบมาจาก.106.อีกด้วย

ส่วนพวกคาริเบี้ยนก็เป็นรถอีกยี่ห้อที่ปลายคัทซีจะโค้งลงมาแค่นิดเดียว(ดังรูปที่เป็นแนวเส้นสีแดง)..เพราะโรงงานเค้าออกแบบไว้สำหรับโตงเตงหน้า..เพราะเมื่อมีโตงเตงแล้วก็จะทำให้หูแหนบหน้าหลังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน..การทำงานก็จะสมบูรณ์แบบ

(ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว)

คำตอบที่ 7
       ส่วนการทำโตงเตงหลังสำหรับคัทซีคาริเบี้ยนแล้ว ถ้าหากไม่ได้ทำการต่อเต้าหน้าลงมาชดเชย..แหนบมันก็จะมีด้านหน้าที่เชิดขึ้นครับ..(เหมือนอย่างในรูปของฝรั่งที่เค้าทำ)..ซึ่งมันก็จะดูแปลกๆ(โดยส่วนตัว)แล้วการทำงานของแหนบก็จะผิดแปลกไปบ้าง..เพราะแทนที่แหนบจะทำงานยืดตัวยุบตัวในแนวดิ่ง กลับกลายเป็นทำงานในแนวเฉียงๆจากสาเหตุที่แหนบมันหน้าแหงน..แต่ก็ไม่ถึงกับรับรู้ได้ในการขับขี่ครับเพียงแต่มันจะผิดธรรมชาติแหนบไปนิดนึงเท่านั้นเอง....จริงๆก็ไม่ต้องคิดมากครับเพราะไม่มีผลต่อการขับขี่อะไร

แต่ถ้าหากต่อเต้าลงมามากๆเพื่อให้ได้ระดับกับแนวโตงเตงหลัง..ก็จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องดังจะเห็นได้จากพวกชุดยกแบบกล่องของพวก..CALMINI..หรือที่บ้านเรานิยมเรียกกันว่า..ชุดกล่อง..ซึ่งจะมีเต้าหน้าต่อลงมาค่อนข้างมากในลักษณะแบบน็อคดาวน์..เพื่อจะได้ให้สอดคล้องกับระดับโตงเตงแบบสวิงหลังครับเพราะจะทำให้ตัวแหนบมีระยะหัวท้ายที่ค่อนข้างจะบาลานซ์กัน..ซึ่งก็จะใช้งานได้ดีและค่อนข้างเหมาะสม..แต่ก็จะเหมาะสำหรับรถแบบใต้เพลา..เพราะถ้าหากนำมาเทินเพลาแล้วมักจะมีตัวรถที่สูงเกินไป..แต่ถ้าหากว่าเป็นแหนบแบบยกเดิมๆคาริเบี้ยนก็พอได้ครับ..
แต่ถ้าพวกแหนบยาวๆหน้ากว้างมายัดใส่แล้วทำเต้าหน้ายาวๆลงมารับด้วยแล้วรับรองเลยว่า..ท่านจะได้รถออกมาค่อนข้างสูง..แต่ถ้าไม่ต่อเต้าลงมาแหนบก็จะหน้าแหงน..ก็จะต้องรับสภาพไปตรงจุดนี้..แต่ถ้าหากทำการเซ็ตแหนบใหม่ให้มีความโก่งน้อยลงมาก็ได้ครับ...แต่อาจจะติดซุ้มล้อด้านหลังได้..เพราะรถจะเตี้ยและโตงเตงมันจะคอยสวิงให้ล้อมาหาซุ้มล้อด้านหลังอยู่ทุกๆครั้งที่แหนบทำงานยุบตัว บางคันจึงต้องทำการเฉือนมุมซุ้มล้อด้านหลังออกไป

ที่กล่าวมานี้ล้วนมีสาเหตุหลักมาจากแนวคัทซีของโรงงานที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับโตงเตงแบบสวิงหลังครับ.
(ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว)

คำตอบที่ 8
       ผ่านไป..2..ประเด็นแล้ว
1.ประเภทของรถ
2.การออกแบบคัทซี

ประเด็นต่อมา คือ “สปายเพลากลาง” (โดยเฉพาะท่อนหน้า)
กล่าวคือ รถซูซูกิคาริเบี้ยนเป็นรถที่ได้ออกแบบตัวสปายเพลากลางมาให้ใช้กับระบบโตงเตงแบบสวิงหน้า ซึ่งความยาวดังกล่าวก็จะเหมาะสมกันดีอยู่แล้ว..เพราะสามารถที่จะถอยตัวสวมมาให้ชิดได้ค่อนข้างมาก..เพราะการยืดการยุบของโตงเตงแบบสวิงหน้าเพลาก็จะมีแต่เลื่อนออก..แหนบยุบตัวโตงเตงก็สวิงไปข้างหน้าอยู่แล้วสปายก็ถอยออกไป..พอแหนบยืดตัวโตงเตงก็สวิงกลับมาดีดคานลงไปด้านล่างทำให้ตัวสปายก็ถอยออกไปเหมือนกัน..ปัญหาต่างๆจึงไม่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นตัวสปายยันหรือตัวสปายหลุด..
แต่ถ้าเราดัดแปลงทำการย้ายโตงเตงมาไว้ที่ด้านหลังก็จะต้องทำการเผื่อระยะของสปายสวมให้ถอยออกมาจากที่ควรจะเป็น เพื่อให้มีระยะที่เหมาะสมกับการสวิงตัวมาของชุดคานหน้า ตรงจุดนี้ปัญหาจึงเกิดขึ้นเพราะสปายเพลากลางเดิมของคาริเบี้ยนไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับโตงเตงหลังทำให้ไม่มีความยาวพอ ทำให้เกิดปัญหายันบ้าง(จากการยุบ) หลุดบ้าง(จากการยืด) ยิ่งถ้าหากเป็นพวกแหนบยาวหน้ากว้างด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

คำตอบที่ 9
       วิธีแก้ปัญหาคร่าวๆง่ายๆ ก็มีหลายวิธี..ก็คือ
1.สร้างระยะกันกระแทกให้เหมาะสม..เพื่อจำกัดการยุบของแหนบ..โดยจะต้องคำนวณค่าการยุบของแหนบกับการยุบของตัวสปายให้สัมพันธ์กันก็จะทำให้เพลากลางไม่ยัน..ตรงจุดนี้จะได้ผลพลอยได้ในเรื่องของการที่แหนบจะทรุดตัวยากด้วย..เพราะตัวกันกระแทกจะช่วยรักษาแหนบเอาไว้...( อีกอย่างจะช่วยทำให้รถไม่คว่ำด้วย....เวลาปีนเนินเอียงๆแบบขึ้น..2..ล้อพร้อมกัน......)
2.ในกรณีที่รถยังอยู่ในขั้นตอนการสร้างอยู่..แล้วยังไม่ได้เลือกซื้อโช้คอัพ..ก็น่าจะหาโช้คที่มีความยาวที่เหมาะสมหน่อย...โดยต้องคำนวณระยะโช้คให้เหมาะสมกับระยะยืดของแหนบและตัวสปายเพลากลาง..หรือพูดง่ายๆว่า..ให้โช้คอัพมันมีระยะที่สุดโช้คก่อนที่จะสุดแหนบหรือก่อนที่จะสุดตัวสปายเพลากลางที่จะหลุดครับ..เพราะว่าพอสุดโช้คแล้วช่วงล่างมันก็จะไม่ยืดต่อไป..สปายก็จะไม่หลุดออกมาครับ..แต่ก็ยากครับเพราะคนส่วนใหญ่ก็นิยมโช้คยาววววๆกัน..เพราะราคาจะยาวจะสั้นมันก็เท่ากันหมด..
3.ถ้าหากไม่เอากันกระแทก..และจะเอาโช้คยาวๆด้วย..ชอบยืดๆยุบๆเยอะๆ....ก็ต้องนำเอาสปายเพลากลางของรถใหญ่มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นของ 106/65 นิสสัน720 เป็นต้น หรือของอะไรก็ได้ที่ยาวกว่าของเดิม แต่ที่นิยมกันมากที่สุดก็คงจะเป็นของ 106/65 ที่หาง่ายๆตามท้องตลาดทั่วไป โดยเอามาทำการตัดต่อใหม่และดัดแปลงหน้าแปลน..ใช้ยอยเดิมหรือจะใช้ยอยรถใหญ่...ก็ว่ากันไป...แต่ก็จะมีข้อเสียอยู่นิดนึงก็คือ..น้ำหนักเพลากลางทั้งเส้นมันก็จะเยอะขึ้น..ส่งผลต่อหน้าแปลนต่างๆโดยเฉพาะถ้ารถคันนั้นยังคงใช้เกียร์สโลว์เดิมของคาริเบี้ยนเดิมอยู่..และยิ่งใส่ยอย..8..ทิศของโตโยต้าด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่..เพราะจะทำให้ลูกปืนหน้าแปลนเสียเร็วกว่าปกติ..หลวมครอน..ซีลก็รั่วง่าย..ต้องคอยขยันเปลี่ยนบ่อยหน่อย..แต่ถ้าหากว่าไม่ได้ใช้รถประจำ..เป็นรถคันที่2..หรือใช้น้อยอาทิตย์ละ..2..ครั้งก็โอเคครับ

คำตอบที่ 10
       จากรูป..เป็นการดัดแปลงเพลากลางของ..106..มาใช้ทั้งท่อน..จะเห็นว่าระยะสปายเพลากลางจะอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับโตงเตงแบบสวิงหน้า..จึงสามารถคำนวณระยะสปายให้ชิดได้..แตกต่างกับพวกโตงเตงแบบสวิงหลังที่ไม่สามารถทำให้ชิดได้แบบนี้เพราะจะมีปัญหาเพลากลางยันกับสโลว์แน่นอนเมื่อมีการยุบตัวของแหนบ..ยิ่งเป็นพวกสปายเดิมๆคาริเบี้ยนยิ่งไปกันใหญ่..และผลต่อเนื่องก็คือ..ประสิทธิภาพในการใช้งานก็จะด้อยลงไปกว่าปกติอีกต่างหากด้วย..เพราะคอยแต่จะยันคอยแต่จะหลุด

อย่าลืมว่า....รถโตงเตงหน้า..ไม่ว่าจะยืดหรือยุบมีแต่จะทำให้ตัวสปายถอยออกอย่างเดียวครับ..แตกต่างจากโตงเตงหลังที่เวลาแหนบยุบจะทำให้สปายเลื่อนเข้า..

คำตอบที่ 11
       สปายของพวก..106/65..สามารถใช้กับการยืดของช่วงล่างได้ในระบบโตงเตงทั่วไปและโตงเตงแบบ..2..ชั้น..แต่ถ้าหากจะชอบยืดมากๆเยอะๆเกินกว่าพวกสปาย..106..จะใช้ได้ก็คงจะต้องหาเพลาที่มีสปายสวมที่ยาวมากๆมาใช้อย่างเช่น..สปายเพลาดั๊มพ์ของพวกรถ..6..ล้อ..ที่มีความยาวเป็นศอกแต่เป็นลักษณะของฟันหยาบอาจจะมีผลเสียเกี่ยวกับการสึกหรอที่อาจจะมีมากกว่าพวกฟันละเอียด..แต่ถ้าจะเอาพวกฟันละเอียดก็คงจะต้องสั่งพิเศษมาจากต่างประเทศ..อย่างเช่น..สปายเพลาของสำนัก..TrailGear..แต่ก็น่าจะเหมาะสำหรับรถที่ทำช่วงล่างที่ไม่ใช่ระบบแหนบแล้ว..เพราะแค่ระบบแหนบพวกเพลาสปายของพวก..106/65..ก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ

คำตอบที่ 12
       สรุปแล้วก็น่าจะมีปัจจัยทั้ง..3..อย่าง(เท่าที่นึกได้)ที่ไม่ค่อยเหมาะกับการทำโตงเตงแบบสวิงหลังกับรถคาริเบี้ยน..ดังที่กล่าวมา..นั่นก็คือ
1.ประเภทของรถ(คาริเบี้ยนเป็นรถช่วงสั้น)
2.การออกแบบคัทซี(ไม่ได้ออกแบบให้ใช้กับโตงเตงแบบสวิงหลังมาจากโรงงาน)
3.สปายเพลากลาง(สปายสั้นไม่ได้เผื่อไว้สำหรับการทำโตงเตงสวิงหลัง)

ดังนั้นจึงเอามาตอบสมมติฐานในตอนต้นในประเด็นต่างๆตามแนวความคิด..คือ
1.การทำโตงเตงแบบสวิงหลังจะวิ่งดี โดยน่าจะรู้สึกดีแบบ 106
(การที่พวก106วิ่งแล้วรู้สึกดีนั้นโดยหลักๆใหญ่ๆแล้วไม่ได้มาจากการทำโตงเตงสวิงหลังซะทีเดียว..มันมาจากการที่106เป็นรถช่วงยาวแล้วโรงงานเค้าได้ออกแบบให้โตงเตงมาให้ใช้กับรถช่วงยาว..แหนบยาว..โตงเตงสวิงหลัง..ทำให้ความรู้สึกในการขับขี่โดยรวมแล้วออกมาดี..แตกต่างจากรถสั้นๆอย่างซูซูกิคาริเบี้ยนที่เป็นรถช่วงสั้น..แหนบสั้น..โตงเตงสวิงหน้า..ทำให้มีความรู้สึกในการขับขี่ที่ค่อนข้างเด้ง

2.การทำโตงเตงแบบสวิงหลังจะใช้งานได้ดีกว่า เนื่องจากสามารถลดมุมปะทะได้ เพราะมันจะรู้ดให้ตัวไปด้านหลัง รับแรงปะทะจากด้านหน้าได้ดีกว่าเพราะจะไม่สวนทางกัน ทำให้เหมาะกับการใช้งานแบบออฟโรดมากกว่า
(อันนี้พอได้ครับเพราะการทำโตงเตงสวิงหลังจะช่วยในเรื่องการลดมุมปะทะได้..และความรู้สึกที่ต่อเนื่องก็คือ..ทำให้รู้สึกขับขี่ที่ค่อนข้างลดแรงต้านพอสมควร..พริ้วให้ตัวไปด้านหลัง..แต่เรื่องของทางออฟโรดแล้วก็คงจะรู้สึกดีครับ..แต่ในความรู้สึกดีนั้นมันจะมีจุดที่เป็นข้อเสียเกี่ยวกับเรื่องของเซ็นเตอร์รถโดยรวมในบางเหลี่ยมของออฟโรดดังที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น...

ดังนั้นจึงมีทั้งข้อดีและข้อเสียจากการดัดแปลงโตงเตงเป็นแบบสวิงหลัง..ยังไงก็ต้องลองคิดกันเองแหละครับว่า..ดีหรือไม่ดี..เหมาะหรือไม่เหมาะ

คำตอบที่ 13
       (กลับมาสู่ขั้นตอนการดัดแปลงต่อ)
สืบเนื่องจากความยาวของแหนบที่นำมาใช้จะมีความยาวมากกว่าเดิมอยู่ค่อนข้างมาก..ดังนั้น..จึงต้องมีการดัดแปลงสร้างขึ้นมาใหม่..โดยทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้หลักการและความแข็งแรงอย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำขึ้นมานั้น..คือ..การสร้างขึ้นมาใหม่โดยเป็นการกำหนดจุดยึดของรถใหม่ทั้งคัน..ถ้าหากทำไม่ดีไม่แข็งแรงจะมีผลต่อการใช้งานทั้งทางดำและทางออฟโรดได้..
ในส่วนนี้จุดไหนที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นจุดที่ไว้ยึดแหนบนั้น..ไม่ว่าจะเป็นการต่อคัทซี..การขยายจุดยึดต่างๆ..การขยายช่วงล้อให้ยาวขึ้นตามความต้องการ..ตามสเปคของแหนบซึ่งล้วนแต่อยู่ในขั้นตอนนี้ทั้งสิ้น

(การขยายช่วงล้อจะเป็นการลดข้อด้อยของซูซูกิคาริเบี้ยนที่เป็นรถช่วงสั้นให้น้อยลง...และที่สำคัญมีผลดีทั้งการขับขี่ทางดำและทางโคลนอีกด้วย)

คำตอบที่ 14
       อย่าลืมว่า....เวลาที่ได้ตำแหน่งจุดยึดต่างๆที่เหมาะสมแล้วตามแบบที่ได้กำหนดไว้ตามจิ๊กแบบ..ยังไงแล้วควรจะทำการแต้มเชื่อมไว้ก่อนเพื่อดูความเหมาะสมในหลายๆเรื่อง...ความสูงกับขนาดยางที่ใส่..น้ำหนักรถแต่ละคันก็ไม่เหมือนกันทุกอย่างมีผลต่อระบบแหนบทั้งสิ้น..ควรจะแต้มเชื่อมไว้ก่อน..เมื่อดูระดับที่เหมาะสมแล้วค่อยปล่อยน้ำหนักรถลงทั้งหมด..จับเซ็นเตอร์ล้อทั้งหมด.4.ล้อ..จับแนวเส้นแทยง..วัดกับแนวคัทซีหัวท้าย..รูยึดเซ็นเตอร์รถตรงกลางคัทซีที่มีมาจากโรงงาน..เมื่อทุกอย่างได้ทุกจุดแล้วค่อยเดินแนวเชื่อมจริง

คำตอบที่ 15
       เชื่อมจริงเสร็จเรียบร้อยก็อย่าลืมเก็บงานสีตามจุดต่างๆด้วยครับ
(ในรูปจะเป็นจุดยึดของโตงเตงหน้าที่ได้มีการดัดแปลงโมดิฟายมาเรียบร้อยแล้ว)

คำตอบที่ 16
       ตัวแหนบตอนที่อยู่อิสระจะค่อนข้างโก่ง..แต่อย่างไรก็น่าจะโก่งน้อยกว่าพวกแหนบแต่งของพวกคาริเบี้ยนครับ...ความยาวของแหนบที่มากส่งผลทำให้ความโก่งนั้นไม่ได้เป็นปัญหาเมื่อมีการนำไปใช้งานแบบหนักๆ..เพราะความโก่งดังกล่าวเมื่อวางลงไปรับน้ำหนักแล้วจะเหมาะสมพอดีแหนบจะค่อนข้างนอน..(แหนบที่นอนๆจะไม่มีปัญหาในหลายๆเรื่องครับ)

คำตอบที่ 17
       ส่วนการทำโตงเตงหน้าก็จะเหมาะสมกับระดับของแนวคัทซีที่ได้ออกแบบมาจากโรงงานอยู่แล้ว..ดังนั้นระดับหูแหนบหัวท้ายค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกันถ้าหากมีโตงเตงเข้าไปด้วย..

(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)

คำตอบที่ 18
       แตกต่างจากการทำโตงเตงแบบสวิงหลังที่ระดับหูแหนบด้านหน้าจะเชิดขึ้นตามแนวเส้นสีแดง..ดูไม่ค่อยได้ระดับ

(อย่าลืมว่า..เป็นความเห็นส่วนตัวครับ)

คำตอบที่ 19
       ทำโตงเตงหลังแล้วแหนบจะเฉียงๆตามรูปของรถฝรั่งเค้า..ปะกับแหนบเฉียงๆแทยงขึ้น..ถือเป็นลักษณะของการนำแบบอย่างของรถช่วงยาวมาทำในรถช่วงสั้น..ว่ากันไปตามความคิดของแต่ละคนครับ

คำตอบที่ 20
       แหนบยาวที่วางตัวเปล่าจะค่อนข้างโก่งแต่เมื่อวางรับน้ำหนักรถทั้งหมดลงไปแล้วจะค่อนข้างนอนราบ..อันเนื่องมาจากความยาวของตัวแหนบที่มาก..ค่าKของแหนบที่แตกต่างกับแหนบสั้นๆแบบยกเดิมของคาริเบี้ยน..(ทำให้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโตงเตงดีดค้างดีดเกินแบบ100%).การยืดหยุ่นของตัวแหนบค่อนข้างมีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด..ทำให้ส่งผลดีในหลายๆเรื่อง..ทั้งเรื่องของการใช้งานขับขี่ทั่วไปและการใช้งานในแบบออฟโรด..

คำตอบที่ 21
       สร้างเสร็จ..ทำเสร็จ..แล้วก็เก็บงานสีตามจุดต่างๆให้ดีที่สุด..เหมาะสมที่สุด ..เก็บรายละเอียดให้หมดทุกอย่าง..หมดทุกจุด


ในรูปเป็นชุดคานจากPrado..เลยต้องเก็บงานสีที่เสื้อเพลาด้วยครับ..แต่จริงๆแล้วขั้นตอนต่างๆในการวางแหนบเหมือนกันกับการวางกับคานเดิมเพียงแต่ต้องขยายจุดยึดออกมาด้านข้างทั้ง.4.จุดครับ

คำตอบที่ 22
       ส่วนด้านหลังก็เช่นกันครับ..ไม่ว่าจะคานอะไรก็แล้วแต่เทคนิคในการวางแหนบนั้นเหมือนกันหมด..เพราะต้องให้มีความเหมาะสมกับระยะความยาวของตัวแหนบ

ในรูปจะเป็นด้านหลังของคานหลังของPrado..ครับกับตำแหน่งของแหนบกับเต้าด้านโตงเตงที่ได้วางเรียบร้อยแล้วพร้อมเก็บงานสี

คำตอบที่ 23
       ส่วนอันนี้รูปด้านหน้าของคานหลังครับ..ทำเสร็จ..ดัดแปลงเสร็จแล้วก็เก็บรายละเอียด..เก็บงานสีด้วยเช่นกันครับ

คำตอบที่ 24
       ส่วนอันนี้ก็เป็นแหนบยาวๆหน้ากว้างกับคานเดิมๆของคาริเบี้ยนครับ..ด้านหน้าของคานหน้าครับ

คำตอบที่ 25
       มิติมุมมองด้านหลังที่วางไปกับคานเดิมๆของคาริเบี้ยนครับ

คำตอบที่ 26
       มุมมองตรงกลางครับ

คำตอบที่ 27
       อีกมุมครับ..แลดูเผินๆ.เวลาเอาแหนบพวกนี้มาใส่คานคาริเบี้ยนดูเล็กไปนิดหน่อย

คำตอบที่ 28
       สัดส่วนความสูงด้านข้างครับ..คันนี้ยางตะขาบSimex..ขนาด32นิ้ว
ส่วนใหญ่แล้วการวางแหนบพวกนี้ก็จะเริ่มต้นกันตั้งแต่ยางขนาด..32นิ้วขึ้นไปครับ..ถ้ายางเล็กกว่านี้จะไม่ค่อยสมส่วนและเหมาะสมเท่าไหร่

คำตอบที่ 29
       (ฝากรูปให้คุณยูคาThesix)
คันนี้ทำยุคแรกๆครับ..ความโค้งของแหนบค่อนข้างน้อย..แต่ความยาวของแหนบค่อนข้างมาก..เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาเวลาเอาไปใช้งาน

ชุดคานคันนี้เป็นPradoเช่นกันครับ

คำตอบที่ 30
       ขยายเต้าแหนบออกด้านข้างเช่นกัน..และจำได้ว่า..ขยายออกมาเท่าอานแหนบ..LN..เลยครับ(เป๊ะ)
แต่จริงๆแล้วไม่ต้องขยายออกมามากขนาดนี้ก็ได้

คำตอบที่ 31
       สัดส่วนความสูงด้านข้าง..กับยางตะขาบ..35นิ้วครับ
และไม่ว่าแหนบจะยาวแค่ไหนในการดัดแปลงเอามาใส่..ต้องมีการดัดแปลงจุดยึดต่างๆหลายอย่าง..แต่สำคัญที่สุดกันชนหน้าต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมๆไม่ใช่ยืดยื่นเลยออกมาหน้ารถ..เพราะจะทำให้มุมองศาในการปีนไต่ทำได้น้อยลง

คำตอบที่ 32
       ขอบคุณครับสำหรับรูป ถ้าจะวางคานรถใหญ่ ยังไงก็ต้องขยายเต้าแหนบใช่มั่ยครับ เป็นไปได้มั่ยครับถ้าเราไม่ขยาย

คำตอบที่ 33
       (ตอบคุณยูคาThe six team)
การขยายแบ่งเป็น..2..กรณีคือ
1.การขยายเต้าแหนบหน้าหลังนั้น..เป็นผลเนื่องจากการนำแหนบที่มีความยาวเกินมาตรฐานมาใส่กับรถซูซูกิครับ(เป็นการขยายแบบหัวท้ายให้ยาวกว่าเดิม)
2.ส่วนการขยายด้านข้างนั้น..เป็นผลจากการนำเอาคานของรถต่างรุ่นที่มีความกว้างเกินมาตรฐานมาใส่กับรถซูซูกิครับ(เป็นการขยายแบบออกด้านข้างกว้างกว่าเดิม..)

คานรถใหญ่จำพวก..LN..Prado..จะต้องขยายออกมาด้านข้างในกรณีที่ใช้แหนบใหญ่เพราะถ้าไม่ขยายจะติดแนวตะโปดเฟืองท้าย..ส่วนจะขยายมากหรือขยายน้อยก็เป็นไปตามความเหมาะสม..แต่ถ้าหากใช้แหนบเดิมๆของคาริเบี้ยนที่เป็นแบบแหนบหน้าแคบ..อาจไม่จำเป็นต้องขยายครับแต่สาแหรกจะชิดติดกับตะโปดเฟืองท้ายพอดี

ส่วนคานพวกRocky.รุ่นคานกว้าง.(เน้นว่ารุ่นคานกว้าง)..จะต้องขยายออกด้านข้างสถานเดียวไม่ว่าจะแหนบเล็กหรือแหนบใหญ่(ถ้าคานนั้นๆไม่ได้ถูกดัดแปลงตัดต่อมานะครับ)..เพราะเสื้อเฟืองท้ายมันมาอยู่เต็มใบแทนแนวแหนบใต้คัทซีแบบเต็มๆครับ

ส่วนคานพวก..Rockyรุ่นคานแคบและคาน..JeepMitsu(รุ่นคานกว้าง)..ไม่ต้องขยายครับ..สามารถวางแบบเทินเพลาธรรมดาได้เลยครับ..ไม่ต้องไปดัดแปลงอะไรที่คัทซี

คำตอบที่ 34
       แจ่มครับ...

คำตอบที่ 35
       (ต่อเรื่องแหนบ)
หลากหลายคัน..หลากหลายรูปแบบ....
วางแหนบยาว..ขยายจุดยึด...แต่ไม่ได้ขยายออกด้านข้างครับ...
คันนี้เป็นคาน.Rocky.รุ่นคานแคบที่แคบเท่ากับพวก..JeepMitsu..สามารถวางในแนวใต้คัทซีได้โดยไม่ติดชุดเฟืองท้าย
(ฝากรูปให้คุณยูคาThe six team.เพิ่มเติม)

คำตอบที่ 36
       คานRocky..(แคบ)..สามารถวางแหนบหน้ากว้างได้ในตำแหน่งแนวใต้คัทซี..โดยไม่ต้องขยายออกด้านข้างครับ..
สังเกตจุดยึดแหนบด้านหน้าที่อยู่ใต้คัทซีพอดีครับ

คำตอบที่ 37
       สรุปคร่าวๆเกี่ยวกับข้อดีของแหนบยาวๆหน้ากว้างๆเมื่อนำมาใช้ในคาริเบี้ยน
1. เหมาะสำหรับการเล่นหนัก โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องใดๆทั้งสิ้น ถ้าระบบส่งกำลังยังคงไปไหว
2. สามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการขนสัมภาระเยอะเวลาไปเที่ยว วางเครื่องบล็อคใหญ่เกียร์ใหญ่ โดยมีผลเสียกับแหนบน้อยมาก.(ถ้าหากมีการเซ็ตอย่างถูกวิธี)
3. การทรุดตัวน้อยกว่า (ใช้คำว่า "น้อยกว่า") หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยเมื่อเทียบกับพวกแหนบเดิมๆของคาริเบี้ยน
4. เหมาะสมกับสเปคยางโตในระดับตั้งแต่ 32 นิ้วเป็นต้นไปจนถึงขนาด 37-38 นิ้ว..แต่อยู่ที่การเซ็ตความสูงและการตัดแต่งบอดี้ด้วยถ้ายางใหญ่มากๆ (แต่ที่ค่อนข้างเหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 34-36 นิ้วกับโตงเตงแบบธรรมดาทั่วไป)
5. ความนิ่มนวลมากกว่าเดิมค่อนข้างมาก อันเนื่องมาจากความยาวของแหนบ และค่า K ที่แตกต่างกัน
6. การยืดหยุ่นของช่วงล่างทำได้ดี
7.การตรวจเช็คเซอร์วิสและซ่อมบำรุงเท่าที่ทำมายังไม่เคยเกิดขึ้นเลย

ข้อเสีย
1. ต้องดัดแปลงและสร้างใหม่หลายจุด
2. อาจจะต้องแก้ไขอุปกรณ์เดิมๆที่ติดอยู่กับรถเพิ่มเติม เช่น ขายึดกันชนหน้า ขายึดกันชนหลัง หรือแท่นยึดวินช์

คำตอบที่ 38
       ข้อมูลการใช้งานจริงทั้งทางดำและทางออฟโรด..ยังไงคุยกับเจ้าของรถผู้ใช้จริงได้ครับ

รถคันนี้เป็นตู้ปลาเครื่องเดิมคานเดิม..เฟืองไม่เดิมและสโลว์ก็ไม่เดิม..
คันนี้เป็นเต้าหน้าตาย..โตงเตงเป็นแบบสวิงหลัง..วางแหนบยาวเทินเพลาหน้าหลัง..ความรู้สึกในการขับขี่และใช้งานจะไม่เหมือนคาริเบี้ยนทั่วๆไป
เบอร์โทร.081-615-4567..(พี่หนึ่ง)

คำตอบที่ 39
       หรือถ้าเป็นรถเปลี่ยนคานก็ถามผลการใช้งาน..และความรู้สึกในการขับขี่ได้ที่เจ้าของรถคันนี้ครับ..

คันนี้เป็นตู้ปลาวางคานหน้า/หลัง..LandcruiserPradoLJ78..วางเครื่องTD27turbo
วางแหนบยาวเทินเพลาหน้า/หลัง..และโตงเตงเป็นแบบสวิงหน้า..
(มีคนนั่งแล้วบอกนิ่ม/แน่นเหมือนยังกับVIGO..แต่อาจเป็นเพราะบอดี้คันนี้ค่อนข้างดีและแน่น..และอีกอย่างน้ำหนักรถโดยรวมค่อนข้างได้..วิ่งรู๊ดพวกหินลอยใหญ่พริ้วทีเดียวครับ)

โทร.081-849-8080
คันซ้ายมือ

คำตอบที่ 40
       คันซ้ายมือนะครับ
ส่วนคันขวามือก็คล้ายๆกันครับ..แตกต่างกันตรงที่รายละเอียดนิดหน่อย..เช่น..สีรถ ..กันชนหน้า..และการเซ็ตความสูงของตัวรถที่แตกต่างกันอยู่..1..นิ้ว
คันสีน้ำตาล
-เครื่องTD27turbo
-เกียร์ไดฮัทสุ..Rocky
-วางแหนบยาวเทินเพลาหน้า/หลัง
-อัตราทดเฟืองท้าย..8.39..แท้ตรงรุ่น(เฟืองกระดก)
-คานหน้า/หลังของ..Landcruiser..PradoLJ78
-Difflock..หลัง100%ติดมากับคาน

คันสีขาว
--เครื่องTD27turbo
-เกียร์ไดฮัทสุ..Rocky
-วางแหนบยาวเทินเพลาหน้า/หลัง
-อัตราทดเฟืองท้าย..8.39..แท้ตรงรุ่น(เฟืองกระดก)
-คานหน้า/หลังของ..Landcruiser..Prado..รุ่นKZJ78
-Difflock..หลัง100%..ของLJ78
-Difflock..หน้า100%..ของVX80+LJ78

(ทั้งหมดที่กล่าวมาฝากให้พี่ที่โทรมาสอบถามไปพร้อมกันด้วยเลยนะครับ)

คำตอบที่ 41
       คันนี้คันสีดำครับ..กับการใช้งานออฟโรด

สถานที่โป่งกระดังงาจะออกด่านเขารวก(ใกล้ๆกับปากทางโป่งตะแบก)
(ขออนุญาตและขอบคุณภาพจากเว็บคนออฟโรดด้วยนะครับ)

คำตอบที่ 42
       อันนี้ตอนข้ามห้วยที่ห้วยองค์พระครับ
(เหลี่ยมนี้คล้ายๆกับแถวๆบ้านใหม่เลย)

(ขออนุญาตและขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลสถานที่จาก.....เว็บฅนออฟโรดด้วยนะครับ)

คำตอบที่ 43
       อันนี้อีกมุมหนึ่งครับ..กับสถานที่เดิมคือห้วยองค์พระ..กับสัดส่วนของรถโดยรวม

(ขออนุญาตและขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลสถานที่จาก.....เว็บฅนออฟโรดด้วยอีกครั้งครับ)

คำตอบที่ 44
       จบไปแล้วนะครับ..เรื่องแหนบทั้งหมด
ใครจะทำใครจะดัดแปลง..ถ้าไม่เคยทำมาก่อนจะค่อนข้างเหนื่อยครับ..เพราะรายละเอียดของงานจะออกมาในลักษณะของงานสร้าง

แต่ถ้าทำออกมาใช้งานได้แล้ว..รับรองว่า"หายเหนื่อยครับ"..ไม่ต้องมานั่งรื้อเข้ารื้อออกบ่อยๆ..วนไปเวียนมาไม่จบซักที

คำตอบที่ 45
       จบแล้วหรือครับ อยากจะเปลี่ยนบ้างจังเลย
เห็นด้วยครับเรื่องแหนบกว่าจะลงตัวถูกใจได้เหนื่อยจริง ๆ
อยากทราบว่า ใช้เวลากี่วันเสร็จครับถ้าจะทำแหนบหน้ากว้างตามที่คุณสอแนะนำ
ขอบคุณมากครับ รอชมเรื่องต่อไปครับ

คำตอบที่ 46
       หนับหนุน มันเหนื่อยจริงๆ รอยที่ห้า ขอบอก
1. ชุดยกกล่อง 4WD Drive shop ใต้เพลา
2. เปลี่ยนแหนบ ยก 12 นิ้ว
3. เปลี่ยนคาน Jeep Mitsu
4. เปลี่ยนชุดแหนบใหม่ เป็นหน้ากว้าง โตงเตงหลัง
5.เปลี่ยนยาง จาก 34 เป็น 35 ติดบังโคลน ต้องย้าย ระยะเพลาใหม่
เหนื่อย ครับ แต่ก็คุ้ม นิ่ม หนึบ ครับ

คำตอบที่ 47
       ครับพี่แสง..จบเรียบร้อยแล้วครับ
ระยะเวลาในการทำขึ้นอยู่กับรายละเอียดของรถด้วยครับมีตั้งแต่เป็นอาทิตย์(6-7วัน)..หลายอาทิตย์..จนถึงเป็นเดือนครับ(ที่เป็นเดือนหมายถึงของเดิมเละมาแล้วแปลงมาแล้ว..ไม่ได้เริ่มจากสแตนดาร์ด..ทำให้ต้องนั่งแก้ของเก่าก่อน..นั่งหาเซ็นเตอร์...เพราะถ้าแปลงจากจุดที่เค้าแปลงมาแล้วก่อนหน้านี้อาจจะไม่ได้ดี..เดี๋ยวจะไปกันใหญ่)

ก่อนไปเรื่องต่อไปเดี๋ยวตอบคำถามของคุณลุงก่อน(ไม่ได้ตอบเป็นเดือนแล้วครับ)

คำตอบที่ 48
       สวัสดีครับ..พี่Kero..ส่วนใหญ่ก็แบบนี้ครับ..ถ้าไม่ผ่านรอบที่1-3..ก็มาไม่ถึงรอบที่4-5ครับ..

ส่วนเรื่องบังโคลนถ้าติดอีกทีหนึ่งไม่ต้องย้ายระยะเพลาเพิ่มอีกแล้วพี่(ไหนๆก็ไหนๆ..มาแนวนี้แล้ว..ปาดซุ้มเลยครับ)..เพราะยิ่งย้ายมันยิ่งเข้ามาใกล้เต้าด้านหน้า..ความยาวจากสะดือแหนบไปหูหลังมันยาวกว่าจากสะดือแหนบไปเต้าหน้ามากเกินไป..ยิ่งต่อเต้ารถก็จะยิ่งสูงเกินไป

คำตอบที่ 49
       (ตอบคุณลุง)
เรื่องการเทริ์นเพลา กับ ใต้เพลา และการปรับแต่งครับ พอดีผมได้รถมาใหม่เป็น sporty ครับ รถคันนี้ใช้งานสำรองครับไว้เข้าสวนบ้าง ว่างๆเข้าป่าพาครอบครัวเที่ยว อาจจะไปลุยหนักๆบ้าง เดิมรถใส่ยาง 31 ยกใต้เพลา 3นิ้วครับ เคยปรึกษาพี่ๆที่เคยเล่นและช่างหลายๆคนบอกว่ามันจะติด และค่อนข้างลำบากในกรณีเล่นหนักๆ ต้องเทริ์นเพลา แต่ผมก็ได้ยินหลายๆเสียงว่าเทริ์นแล้วมันพลิกง่าย การทรงตัว หรือทำความเร็วได้ไม่ดี แต่บางเสียงก้ว่าดีแล้วแต่เราทำ ก็เลยสงสัยครับ เคยป้อนคำถามหลายบอร์ดแต่ไม่กระจ่างเลยจะขอรบกวนชี้แนะครับ
แต่ส่วนตัวผมอยากใส่ยางมัด 32 ครับและหั่นตูดออก ยกให้มันสมส่วน แต่ไม่รู้จะเริ่มทำยังไงครับ มีคนแนะนำให้ใช้ยาง 32 เกียร์เดิม 1300 สโล 1300 เฟือง841 แล้วเทริ์นเพลา แหนบหน้าใช้แหนบหลังเดิมแล้วเสริมแหนบ แหนบหลังใช้ของมาสด้า ส่วนโชค แล้วแต่เลือก มอยากขอคำแนะนำและชี้เป้าไปเลยว่าควรใช้ของอะไร รุ่นไหนอย่างไรครับ เช่นยี่ห้อแหนบ ยี่ห้อโชค(ที่เล็งไว้มี รันโซ่ หรืออมานดาเอ๊กทีม) ยังไงแล้วรบกวนคุณสอครับ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงครับ อนาคตจะวางแผนเผื่อไว้วางเครื่อง G16a ครับแต่คงสักช่วงใหญ่ๆครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

ตอบ..เรื่องการเทินเพลากับไม่เทินเพลานั้นก็ถือว่าเป็นประเด็นกันมาช้านานมากๆแล้ว..ตั้งแต่กระทู้ใน4x4เอย..หรือในWeekendhobbyก็ตาม..ค่อนข้างที่จะกลายเป็นเรื่องโต้เถียงกันพอสมควร..บ้างที่มาตอบก็เป็นคนใช้รถทั่วๆไป.. บ้างก็เป็นนักท่องเที่ยว...บ้างก็เป็นนักแข่ง..บ้างก็เป็นคนใช้แบบอยากสวยอยากสูงดูเท่ดี..บ้างก็เป็นนักท่องเที่ยวแต่เอาไปให้นักแข่งแต่งก็เยอะ...คุยไปคุยมาจะกลายเป็นเรื่องทะเลาะกัน..เพราะลงท้ายกันไม่ค่อยจบ
เอาเป็นว่าสั้นๆคร่าวๆคือ..ถ้าหากว่าทำรถแข่งต้องเอาไว้ใต้เพลาครับ..แต่ถ้าเอาไว้ท่องเที่ยวก็คงจะต้องเทินเพลาครับเพราะจริงๆแล้วลักษณะพื้นที่ระหว่างสนามแข่งกับเส้นทางในป่าถือว่าแตกต่างกัน.. แต่การเทินเพลาที่ว่าควรจะให้เหมาะสมกับตัวรถและขนาดยางที่ใส่อยู่ไม่ใช่ว่าสูงโย่งเกินไป
(เดี๋ยวมาต่อครับ)

คำตอบที่ 50
       (ตอบคุณลุงต่อ)
เรื่องการเทินเพลานั้นถือว่าเป็นการยกสูงช่วงล่างที่ค่อนข้างนิยมกันมากในปัจจุบันเนื่องจากเป็นการยกที่ค่อนข้างประหยัดเมื่อเทียบกับพวกแหนบยกแบบต่างๆที่เป็นแหนบยกใต้เพลาจำพวก.3นิ้ว..4นิ้ว..และ5นิ้ว..แต่ผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเทียบกับพวกแหนบยกแบบใต้เพลานั่นก็คือ..ระยะเคลีย์ของใต้ท้องค่อนข้างโล่งและโปร่ง..ระยะใต้ท้องในที่นี้จะพยายามเน้นหลักๆในเรื่องของระยะใต้คานหน้าและคานหลังนะครับ..เพราะในส่วนดังกล่าวถ้าเป็นพวกยกใต้เพลาจะมีพวกชุดปะกับแหนบและสาแหรกแหนบย้อยต่ำลงมารวมทั้งตับแหนบเองด้วย..ซึ่งเวลาเอาไปใช้งานในป่าจำพวกร่องลึกๆ..ร่องหิน..ก้อนหินใหญ่ต่างๆมักจะขบไถทำให้ชิ้นส่วนต่างๆเกิดการเสียหายได้..หรือแทนที่จะเร่งกระแทกเพื่อให้สไลด์ผ่านไปได้กลับต้องมาติดพวกชุดแหนบ..ปะกับแหนบและสาแหรกแหนบ..แถมยังกลับมาเซอร์วิสค่อนข้างลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถอดเกลียวสาแหรก..หรือการคดงอของสาแหรกแหนบที่ทำให้ถอดตัวปะกับออกไม่ได้(ถ้าสาแหรกมีเกลียวยาวโผล่ออกมา)

คำตอบที่ 51
       จริงๆแล้วการเทินเพลาก็มีอีก.2.แบบ..คือ..
1.แบบที่ปะกับแหนบอยู่ด้านล่าง
2.แบบที่ปะกับแหนบอยู่ด้านบนทั้งหมด

แบบที่ปะกับแหนบอยู่ด้านล่างนั้น..เป็นการเทินเพลาแบบไม่ต้องดัดแปลงอะไรมากมาย..เพราะปะกับแหนบก็อยู่ตำแหน่งเดิม..เพียงแต่ต้องเปลี่ยนสาแหรกใหม่เป็นแบบเหลี่ยมและซื้อโช้คเปลี่ยนใหม่ให้ยาวขึ้น...จะมีดัดแปลงก็แค่ทำอานเชื่อมด้านบนเท่านั้น
การเทินเพลาแบบนี้จะเป็นการย้ายแหนบไปไว้ด้านบนเฉยๆแต่พวกปะกับแหนบและสาแหรกยังร้อยลงมาอยู่เหมือนเดิมครับ..เกลียวน็อตก็ยังคงอยู่ด้านล่าง

คำตอบที่ 52
       ส่วนการเทินเพลาแบบที่ปะกับแหนบอยู่ด้านบนทั้งหมดนี้จะเป็นการย้ายทุกอย่างขึ้นไปไว้ที่ด้านบนทั้งหมด..เวลาเอาไปใช้งานจะเกิดปัญหาในการกลับมาซ่อมบำรุงน้อยกว่าครับ..เพราะระยะใต้คานทั้งหน้าและหลังจะไม่มีอะไรมาขว้างกั้นเวลาเอาไปใช้งานขับผ่านข้ามอุปสรรคต่างๆ

ในรูปจะเป็นแบบย้ายทุกอย่างขึ้นไปไว้ที่ด้านบนทั้งหมด..รวมทั้งโช้คกันสะบัดด้วย

คำตอบที่ 53
       ส่วนการยกแบบใต้เพลาจะเป็นการยกโดยใช้แหนบยก3/4/5นิ้ว..จะเป็นการยกที่ตัวแหนบซึ่งเป็นแหนบแต่งของไทยหรือของนอกก็ว่าไป..การยกแบบนี้จะยังคงไว้ซึ่งตำแหน่งของชิ้นส่วนช่วงล่างอยู่โดยเฉพาะพวกปะกับแหนบและสาแหรกแหนบ..ทั้งหมดยังคงอยู่ใต้เพลาเหมือนเดิม..เพียงแต่จะได้ความสูงมาจากตัวแหนบยกอย่างเดียวเท่านั้น..หรืออาจจะมีชุดยกโตงเตงเสริมให้ยาวขึ้น..หรือแม้กระทั่งชุดกล่องก็จะสามารถเพิ่มความสูงขึ้นไปได้อีกตามความยาวของชิ้นส่วนนั้นๆ

(Before)
ยกตัวอย่างเช่น..ในรูปจะเป็นแหนบยกใต้เพลา+ชุดกล่อง..จะเห็นว่ามีชุดแหนบและปะกับแหนบห้อยย้อยลงมาในตำแหน่งใต้คานหน้าอยู่เหมือนกับรถเดิมๆโรงงาน..ยิ่งแหนบยกสูงมากๆของบางสำนักก็มีจำนวนแผ่นแหนบที่มากขึ้น..ก็ยิ่งทำให้ย้อยต่ำลงเข้าไปอีก(ตามรูปวงกลมใหญ่)
และยิ่งสาแหรกแหนบยิ่งยาว(ตามรูปวงกลมเล็ก)..คือบางครั้งจะมีการเผื่อความยาวของเกลียวสาแหรกไว้(เผื่อมีการเซ็ตแหนบอยู่บ่อยๆ)..ยิ่งทำให้มีเกลียวที่ยาวเกินเลยลงมาที่ด้านล่าง..เกลียวพวกนี้ถ้าหากเฉี่ยวก้อนหิน..พาดก้อนหินมักจะเสียหายและกลับมาซ่อมบำรุงยากมาก..ยิ่งถ้าหากมีการคดเบี้ยวบางครั้งถ่างจนถอดปะแหนบไม่ได้

คำตอบที่ 54
       (After)
ในรูปหลังจากที่มีการดัดแปลงเทินเพลาแล้ว..ก็จะมีระยะใต้คานหน้าที่โล่ง..ไม่มีอะไรย้อยลงมาต่ำ..เวลาขับข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆก็จะง่ายกว่า..ถ้าหากติดหรือกระแทกอะไรโอกาสเสียหายจะน้อยกว่าหรือไม่ก็สามารถสไลด์รูดไปได้โดยไม่มีพวกแหนบและปะกับแหนบมาขว้างครับ..และที่สำคัญที่สุดคือ..หลังจากที่ดัดแปลงเทินเพลาแล้วรถกลับเตี้ยลงมากว่าที่เป็นแหนบยกใต้เพลาอยู่อีก.1-2.นิ้ว..เตี้ยกว่าเดิมและระยะเคลีย์ใต้คานหน้าหลังก็โล่งกว่าเดิมด้วย..และคันส่งที่มาจากกระปุกพวงมาลัยก็ไม่ชันแบบใต้เพลาด้วยเพราะย้ายตำแหน่งมาที่คอม้าแทนครับ

คำตอบที่ 55
      

คำตอบที่ 56
       สวัสดีครับพี่โอม..สบายดีนะครับ
ยังไม่ได้ส่งรูปทริปไปให้ดูเลย..
ช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีทริปเข้าทุ่งใหญ่เหมือนกันครับ(เข้าทางด่านสะเนพ่อง)..ไปแม่น้ำสุริยะ..แต่ไม่ได้ชวน..ผมก็ไม่ได้ไปด้วย..ตอนแรกว่าจะไปแต่ก็2จิด2ใจ..แล้วก็ฉุกละหุกด้วย..ผลสุดท้ายก็เลยไม่ต้องไปไม่ต้องชวน

เดี๋ยวถ้ามีทริปจะเมล์ไปครับ

คำตอบที่ 57
       สบายดีครับ..คุณสอ
ดีจัง..จะได้ไปเที่ยวกับคุณสอแล้วซิ แล้วคุณสอสบายดีนะครับ ผมมีอะไรจะปรึกษาคุณสอด้วย แล้วจะโทรหานะครับ...

คำตอบที่ 58
       ไม่ค่อยสบายครับ..บางทีดูบอลดึกๆติดๆกันหลายคืนก็แย่เหมือนกันครับ

(ตอบคุณลุงต่อ)
จากเรื่องเทินเพลากับใต้เพลาที่กล่าวไปก็ลองพิจารณาดูนะครับ..แต่จากโจทย์ที่ถามมารถได้ใส่แหนบยกแบบ.3.นิ้วมาอยู่ก่อนแล้ว..ถ้าหากนำมาทำเทินเพลาก็จะมีสัดส่วนที่สูงกว่าการเทินเพลาโดยใช้แหนบเดิมอยู่พอสมควรแต่ก็ไม่ถึงกับเยอะมากเกินไปครับ..กล่าวคือ..โดยปกติแล้วถ้ารถใส่ยางอยู่ในระดับ30-32นิ้ว..ผมมักจะใช้แหนบเดิมของโรงงานมาใช้เทินเพลาครับเพราะจะได้สัดส่วนรถที่ค่อนข้างเหมาะสมทั้งเรื่องของการใช้งานและการทรงตัวในการขับขี่บนถนนดำ..แต่ถ้านำมาใช้กับยาง.31.นิ้วที่ใส่อยู่ตอนนี้เลยจะค่อนข้างไม่ค่อยสมส่วนเพราะจะทำให้ระยะซุ้มล้อค่อนข้างห่างจนเกินไป
แต่ถ้าหากในอนาคตมีแผนที่จะใส่ยางอยู่ในระดับ.32.นิ้วก็สามารถที่จะใช้กับแหนบยก.3.นิ้วที่ใส่อยู่ตอนนี้ได้..สรุปแล้วก็คือ..ตอนนี้ใส่ยาง31นิ้วก็ใช้แบบใต้เพลาไปก่อน..ถ้าหากเปลี่ยนเป็น.32.นิ้วเมื่อไหร่ก็ค่อยเทินเพลาครับ

ส่วนความสูงกับแหนบยก.3.นิ้ว..ถ้าหากว่าอยากจะให้มีการทรงตัวที่ดีก็อาจจะต้องเพิ่มเติมในส่วนควบต่างๆ..ไม่ว่าจะเป็น..ล้อเลื่อนออฟเซ็ท..สเปเซอร์ซัก1.5นิ้ว..เป็นต้น..ก็สามารถที่จะชดเชยกับความสูงที่เพิ่มขึ้นมาได้บ้าง..หรือพูดง่ายๆว่า..เมื่อตัวรถมีความสูงเพิ่มขึ้นมาเราก็จะต้องชดเชยความกว้างของฐานล้อให้กว้างออกไปเพื่อที่จะได้ดึงค่าความทรงตัวให้กลับมาให้ใกล้เคียงกับสแตนดาร์ดโรงงานไม่มากก็น้อย..
ส่วนผลเสียย่อมมีแน่นอนเกี่ยวกับระบบลูกปืนล้อต่างๆที่จะมีอายุที่สั้นลง..แต่ก็ต้องยอมรับในจุดนี้

คำตอบที่ 59
       ลองดูสัดส่วนความสูงของรถที่ปรับแต่งยกสูงเทินเพลาโดยใช้แหนบแบบยก..3.นิ้วควบคู่กับยางขนาด.32.นิ้วครับ


โดยส่วนตัวแล้วผมถือว่า..ความสูงที่อยู่ในระดับนี้กับยางขนาดนี้ก็ถือว่า..เต็มที่แล้ว..ถ้าสูงเกินกว่านี้จะเริ่มมีจุดด้อยเวลาเอาไปใช้งานในป่าจริงๆ

คำตอบที่ 60
       สวัสดีครับ น้องสอ
รบกวนถามครับ ปัจจุบันรถพี่ยกใต้เพลา 4 นิ้ว ยาง 30 ล้อออฟเซท-5 หากอนาคตจะเปลี่ยนเป็นยาง 31 สามารถทำได้ไหมครับ หากยังต้องการใต้เพลาเหมือนเดิม เพราะวิ่งทางดำเป็นส่วนใหญ่ หรือว่าต้องใส่สเปเซอร์ขนาดเท่าไร และหากเปลี่ยนเป็นกระทะผ่าต้องลบออฟเซทเท่าไรครับ ถึงจะสมสัดส่วนและไม่เบียดซุ้มล้อหน้าด้านหลังครับ การใส่สเปเซอร์มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ มีคำแนะนำไหมครับ ขอโทษที่ถามเสียเยอะเลย
ขอบคุณครับ
เอ็ม

คำตอบที่ 61
       อ้าว....สวัสดีครับพี่เอ็ม..สบายดีนะครับ..เคยเจอรถพี่วิ่งอยู่แถวขาออกทางด่วนไปบางนาก่อนที่จะถึงแยกไปทางสมุทรปราการด้วยครับ
ตอบดังนี้ครับ
แหนบยกใต้เพลา.4.นิ้วกับยาง.30-31.นิ้วค่อนข้างเฉียดฉิวทีเดียวครับ..ส่วนใหญ่แล้วที่จะติดและมีปัญหาก็จะเป็นตำแหน่งซุ้มล้อหน้าด้านหลังแหละครับ..ขนาดยก.4.5นิ้วโตงเตงสามเหลี่ยมยังเฉี่ยวๆเลยครับ..ติดหรือไม่ติดนี่..50/50ครับ
เอาเป็นว่าแบ่งกรณีที่ติดเป็น.2.กรณีคือ
กรณีที่1.ติดจากการที่ออฟเซ็ทล้อไม่ได้อันเนื่องมาจากยางที่จะใส่(31นิ้ว)มีความกว้างเพิ่มขึ้น
กรณีที่2.ติดจากการที่ความสูงของรถน้อยไป

กรณีที่1.นี้สามารถแก้ได้ด้วยการใส่สเปเซอร์ครับ..เพราะการใส่สเปเซอร์จะทำให้มุมล้อด้านที่ติดนั้นออกมาห่างจากมุมซุ้มล้อตามขนาดความกว้างของสเปเซอร์ที่เลือกใส่..แต่จะเลือกสเปเซอร์ขนาดเท่าไหร่นั้นจริงๆแล้วก็น่าจะต้องใส่ยาง.31นิ้วก่อนครับ..แล้วลองเลี้ยวสุดในตำแหน่งที่ติดซุ้มดูครับแล้วค่อยวัดห่างจากแนวยางที่ติดให้เลยออกมาพ้นระยะที่ไม่ติดว่ากี่นิ้ว..แล้วเอาค่านั้นไปเลือกซื้อสเปเซอร์ครับ..แต่โดยปกติแล้วก็น่าจะอยู่ประมาณ.1.5นิ้วครับ

หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ..เปลี่ยนล้อ..ส่วนจะออฟเซ็ทเท่าไหร่ที่จะไม่ติดซุ้มมันก็ขึ้นอยู่กับความกว้างของล้อด้วยครับ..อย่างเช่น..พวกล้อเหล็กที่มักจะมีหน้าแคบๆโดยที่ออฟเซ็ทลบไม่มากก็สามารถใส่ได้โดยที่ไม่ติดซุ้ม..แต่ถ้าเป็นพวกล้อแมกซ์ที่หน้ากว้างคงจะต้องมีออฟเซ็ทลบเยอะๆถึงจะได้ไม่ติดซุ้มครับ..แต่ถ้าหากเป็นล้อแมกซ์และออฟเซ็ทลบน้อยๆด้วยโอกาสติดจะมีมากครับ..เพราะล้อแมกซ์ส่วนใหญ่แล้วมีหน้าแคบสุดก็เริ่มกันที่..7-7.5นิ้วแล้วครับ..อีกอย่างโรงงานผลิตล้อแมกซ์ส่วนใหญ่จะมีสเกลล้อที่สัมพันธ์กันระหว่างความกว้างของล้อและออฟเซ็ทของมัน..เช่น..ล้อ7นิ้วจะมีออฟเซ็ทลบไม่น่าจะเกิน-5หรือ-10..แต่ถ้าเป็นออฟเซ็ท-28มักจะเป็นล้อที่มีหน้ากว้างอยู่ในระดับ8-8.5นิ้วครับ..ถ้าหากนำมาใส่แล้วก็จะดูอ้วนกว้างหนา..กินแรงเครื่อง..กินลูกปืน..และหนักพวงมาลัยครับ
แต่ถ้าอยากได้ล้อแมกซ์ที่กว้างในระดับแค่.7นิ้วแล้วได้ออฟเซ็ทเยอะคงต้องใช้ล้อเดิมและเลือกใช้สเปเซอร์แทนครับ..และก็จะเหมาะกับยางขนาด.31นิ้วด้วยครับ

ข้อดีข้อเสียของสเปเซอร์..คือ
ข้อดี
1.รถมีฐานล้อที่กว้างขึ้น..การทรงตัวในการขับขี่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดสำหรับทางดำและทางออฟโรด(สำหรับสเปเซอร์ที่มีขนาด.1.นิ้วขึ้นไป)
2.ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยวแล้วติดแหนบหรือติดซุ้ม
ข้อเสีย
1.ลูกปืนล้อมีอายุสั้นลง

ส่วนกรณีที่2.ติดจากการที่ความสูงของรถน้อยไป..คงต้องแก้ด้วยการเพิ่มความสูงของรถอีกซักประมาณ.1นิ้วครับ..แต่ถ้าหากว่าไม่อยากให้ตัวรถสูงขึ้นกว่านี้แล้ว..คงจะต้องดัดแปลงเดินคานหน้าออกมาหน้ารถอีกซัก.1.นิ้วครับ(โดยการเจาะรูสะดืออานแหนบ)เพื่อให้ห่างซุ้มล้อด้านหลัง..แต่ต้องระวังมาติดที่มุมกันชนด้านหน้าแทน..เดี๋ยวจะต้องปาดมุมกันชนอีก..เดี๋ยวจะกลายเป็นไม่เดิม

สรุป
กรณีที่1.ลงทุนเยอะหน่อย..แต่รถยังเดิมๆทั้งหมด
กรณีที่2.ลงทุนน้อย..แต่อาจต้องปาดมุมกันชน


(ยังไงลองพิจารณาดูอีกทีนะครับ)

คำตอบที่ 62
       ขอบคุณมากครับ น้องสอ ดีใจที่ยังจำกันได้
กระทู้ของสอพี่ติดตามอ่านตลอดเพราะเป็นความรู้มากๆ เหมือนโรงเรียนเลย คุณพ่อคุณแม่สบายดีนะ...เจอกันระหว่างทางทักทายได้ครับ
ถ้ามีพี่มีโครงการเปลี่ยนยางเมื่อไร คงเข้าไปปรึกษาและใช้บริการครับ
ขอให้มีความสุขกับการแต่งรถซูซูกินะครับ
เอ็ม

คำตอบที่ 63
       คุณพ่อคุณแม่สบายดีครับ..ขอบคุณเช่นกันครับ

(ตอบคุณลุงต่อ)
ลองดูอีกคันครับ..คันนี้เป็นของพี่KeKeแห่งกลุ่มไร้สังกัด..
คันนี้ถือว่าเป็นต้นแบบเดียวกันกับคันในค.ห.ที่59..โดยเฉพาะในเรื่องของสัดส่วนความสูงที่เป็นแหนบยก.3นิ้วโตงเตงสามเหลี่ยม+เทินเพลา..กับยางขนาด.32นิ้ว..Stepเดิมๆคานเดิมๆครับ..ล้อเลื่อนออฟเซ็ทกับสเปเซอร์นิ้วครึ่ง

คำตอบที่ 64
       อีกมุมหนึ่งครับสัดส่วนด้านหน้า..ยาง32นิ้ว..ใส่กับล้อหน้าแคบของคาริเบี้ยน..ไม่กินแรงเครื่อง..ไม่หนักพวงมาลัย..คันนี้ยังคงใช้กระปุกพวงมาลัยแบบเดิมๆอยู่(ไม่ใช่เพาเวอร์)..

ขออนุญาตและขอขอบคุณข้อมูลภาพจากเว็บไร้สังกัดด้วยครับ

คำตอบที่ 65
       ดังนั้นจึงสรุปข้อดีข้อเสียได้ดังนี้
ข้อดีของการเทินเพลา
1.เป็นการยกสูงที่ประหยัด(เมื่อเทียบกับการยกแบบใต้เพลาที่เป็นแหนบยกไม่ว่าจะของไทยหรือของนอก)
2.ระยะเคลียร์ใต้ท้องค่อนข้างโล่งทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างต่างๆมีโอกาสเสียหายน้อยกว่า
3.ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดแบบไม่คาดคิดหรือเผลอเลอ..จะทำให้มีผลเสียตามมาน้อย..อย่างเช่น..การลืมขันปะกับแหนบหรือขันไว้แบบหลวมๆพอเวลาใช้งานหนักๆไปเรื่อยๆจะมีการคลายทำให้สาแหรกเกิดการเสียหายก็ยังคงไม่เสียหายมากอันเนื่องมาจากน้ำหนักแหนบที่ได้กดลงที่ด้านบนของคานก็ยังคงประคองไว้ในตำแหน่งเดิมได้

ข้อเสียของการเทินเพลา
1.ถ้าหากยกไม่สมส่วน..ตัวรถจะมีสัดส่วนที่สูงมากเกินไปทำให้มีผลเสียต่อการขับขี่และการทรงตัว

ส่วนข้อเสียอื่นๆนอกจากนี้ก็จะเป็นข้อเสียที่มาจากการดัดแปลงนะครับ..อย่างเช่นปัญหาเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของมุมเพลา..มุมลูกปืนเลี้ยวที่ผิดจากสแตนดาร์ด. ..ซึ่งถือว่าเป็นการดัดแปลงนอกเหนือไปจากความเป็นสแตนดาร์ดของรถ

คำตอบที่ 66
       (ตอบคุณลุงต่อ)
ส่วนในเรื่องของสัดส่วนความสูงของตัวรถสำหรับรถเทินเพลา..โดยปกติทั่วไปแล้วการยกสูงที่เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะหลากหลายรูปแบบนั้น..จะต้องเป็นความสูงที่สมส่วน..พอดีๆ..ไม่ควรที่จะมีความสูงมากเกินไป..เพราะถ้าหากสูงมากๆจะหาขับดีไม่ค่อยได้..เนื่องจากรถจะสูญเสียการทรงตัวทั้งการขับขี่บนถนนปกติและทางออฟโรด..ซึ่งคำว่า"พอดีๆ..ไม่มากเกินไป"นั้น..ก็ยากที่จะกำหนดกะเกณฑ์ว่าควรจะเป็นเท่าไหร่..ซึ่งก็มักจะเป็นไปตามการมองภาพของรถและยางที่ใส่โดยรวม..แต่มุมมองของแต่ละคนก็แตกต่างกัน..เพราะบางคนชอบสูง..บางคนชอบเตี้ย..จึงยากที่จะกำหนดตายตัวครับ..

แต่ถ้าเอาตามรูปแบบที่ผมมองและกำหนดมันขึ้นมานั้น..ก็คือ..ระยะที่เหมาะสมกับยางที่เลือกใส่..โดยที่ระยะดังกล่าวก็ดูจากเส้นตัวถังชายล่างสุดลากขีดมาที่ยางและล้อ..มันจะต้องอยู่ในช่วงระหว่างขอบล้อแมกซ์จนถึงกึ่งกลางของแก้มยางไซส์ที่ใส่อยู่นั่นเอง(ใช้วัดกับยางได้ทุกขนาด)..เพราะระยะดังกล่าวจะเป็น
-ระยะที่ดูโดยรวมแล้วตัวรถจะไม่โย่งเกินไป
-ระยะนั้นจะเป็นระยะที่เมื่อมีการยุบตัวของช่วงล่างจะค่อนข้างพอดิบพอดี..ไม่ติดซุ้ม(แต่ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของตัวแหนบและการกำหนดระยะกันกระแทกด้วย)
-ระยะที่รถสูญเสียการทรงตัวน้อยที่สุด..ทั้งการขับขี่บนถนนดำและทางออฟโรด
ระยะที่กล่าวมานี้..ถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างจะเตี้ยที่สุดแล้วกับรูปแบบการใช้งานออฟโรดทั้งหนักและเบาโดยทั่วๆไป..ถ้าหากอยากจะให้เตี้ยมากกว่านี้ต้องมองๆเกี่ยวกับเรื่องปาดซุ้มล้อแล้วครับ.

(อย่าลืมว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)

คำตอบที่ 67
       ระยะที่เหมาะสมกับยางที่เลือกใส่..โดยที่ระยะดังกล่าวก็ดูจากเส้นตัวถังชายล่างสุดลากขีดมาที่ยางและล้อ..มันจะต้องอยู่ในช่วงระหว่างขอบล้อแมกซ์จนถึงกึ่งกลางของแก้มยางไซส์ที่ใส่อยู่นั่นเอง(ใช้วัดกับยางได้ทุกขนาด)

อธิบายขยายความของคำว่า"อยู่ในช่วงระหว่างขอบล้อจนถึงกึ่งกลางของยาง"..ในที่นี้คือ..อยู่ในช่วงใดก็ได้ที่ไม่น่าจะเกินกึ่งกลางของแก้มยางนะครับ..ถ้าเกินกว่านี้..จะค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเกินใช้งานทั้งทางดำและทางออฟโรด..

ยกตัวอย่าง..การวัดสัดส่วนตามที่ได้แจ้งไว้ก็จะเป็นดังรูปครับ
-เส้นสีฟ้าขีดบนล่างและจุดกลาง..คือ..เนื้อที่ของแก้มยาง
-เส้นสีแดง..คือ..ชายตัวถังด้านล่างสุดที่ลากขีดให้ผ่านมาถึงแก้มยาง
รถคันนี้เป็นแหนบยกทั่วไปของสำนักแต่งชื่อดัง..ขนาด.4.นิ้ว(แต่พอใส่จริงก็สูงแค่.3.นิ้ว)..กับโตงเตงสามเหลี่ยม..ก็จะเหมาะสมพอดีกับยางขนาด.32.นิ้วตะขาบ(หรือเท่ากับยางM/Tทั่วๆไปก็คือ..33นิ้ว)...จากภาพก็จะเห็นว่า..แนวเส้นใต้ตัวถังที่ลากมาก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแก้มยางอยู่พอประมาณ

(อย่าลืมว่าทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว..และเป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นมาเองครับ)

คำตอบที่ 68
       งานสายไฟเน้นรายละเอียดมากกว่าทั่วไปอีกนิดนึง เดินหลบๆ เห็นเฉพาะแต่ขั้วปลั๊ก
แต่เดี๋ยวเที่ยวหน้าจะเอาแบบไม่เห็นสายไฟเลย เพราะจะเอาลงข้างซุ้มเกียร์ให้หมด

คุณสอพอจะมีเวลาที่จะรับงานเดินสายในวีทาร่า 3D ไหมครับ เครื่อง G16A เกียร Auto
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 69
       แวะมาเยี่ยมครับ
ต๋อย รฟ.ระยอง

คำตอบที่ 70
       สวัสดีครับ..พี่ต๋อยว่างๆก็เข้ามาเที่ยวได้นะครับ


สวัสดีครับ..พี่KERO..งานสายไฟเป็นงานละเอียดทำให้ดีจริงๆก็คงต้อง2-3วันครับ...เผื่อเช็คตามขั้วและระบบต่างๆของเครื่องยนต์ด้วย..และที่สำคัญสุดตอนนี้รับอะไรเพิ่มไม่ไหวครับ.. ..ทั้งเก่าค้างและใหม่เพิ่ม..กว่าจะพอหายใจได้คงต้องกลางก.ย.ไปแล้วครับ

คำตอบที่ 71
       ไม่ทราบว่าเก็บงานเก่า..หรือเก็บวางมาใหม่ครับ..
ถ้าเป็นงานเก่าค่อยๆใจเย็นๆค่อยๆไล่เก็บเองได้ครับ

คำตอบที่ 72
       งานสายไฟเป็นงานละเอียดทำให้ดีจริงๆก็คงต้อง2-3วันครับ...เผื่อเช็คตามขั้วและระบบต่างๆของเครื่องยนต์ด้วย..และที่สำคัญสุดตอนนี้รับอะไรเพิ่มไม่ไหวครับ.. ..ทั้งเก่าค้างและใหม่เพิ่ม..กว่าจะพอหายใจได้คงต้องกลางก.ย.ไปแล้วครับ

จองคิวไว้ได้ไหมครับ ...... ขอเป็นงานเดินสายไฟอย่างเดียวครับ ส่วนงานวางเครื่อง ยกเข้า ยกออกเดี๋ยวจัดการเองครับ มีช่างประจำอยู่
ขาดแต่งานเดินสายไฟงานเนียบๆแบบนี้ทำทีเดียวจะได้จบ


ไม่ทราบว่าเก็บงานเก่า..หรือเก็บวางมาใหม่ครับ.. ถ้าเป็นงานเก่าค่อยๆใจเย็นๆค่อยๆไล่เก็บเองได้ครับ

ต้องการให้จัดระเบียบใหม่เลยครับเพราะเปลี่ยนเครื่อง จาก 8 วาล์ว มาเป็น 16 วาล์วครับ
ของเก่ามันก็ลกเต็มทน อยากได้สะอาดๆแบบว่าทำ 5 ส.ไปเลยครับ เลยต้องให้คุณ สอจัดการ

คุณ สอ อยู่ที่ไหนครับ ขอเส้นทางด้วยครับ จะได้เวะเข้าไปเยี่ยมครับ

คำตอบที่ 73
       รับทราบครับพี่Kero..เดี๋ยวดูแนวทางให้ครับ..ยังไงแล้วจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกทีครับ(น่าจะอยู่แถวๆปลายก.ย.ครับ....นานเลยนะครับพี่..จริงๆแล้วช่างไฟเก่งๆทั่วไปก็มีไม่ใช่น้อยนะครับ..แต่ถ้ารอได้ก็โอเคครับ)

ไม่ทราบว่า..พอจะมีอีเมล์ไหมครับ..เผื่อส่งแผนที่เส้นทางไปให้ครับ
หรือไม่ก็SMSอีเมล์มาให้ก็ได้ครับ...081-754-5376

คำตอบที่ 74
       (ตอบคุณลุงต่อ)
การวัดสัดส่วนที่เหมาะสมของความสูงรถเทินเพลา(กำหนดขึ้นมาเอง)

คันนี้เป็นแหนบยก.3.นิ้วโตงเตงสามเหลี่ยม..ยกสูงเทินเพลาและใส่ยางตะขาบขนาด.32นิ้ว(เทียบเท่าM/T..33.นิ้ว)
จากภาพก็จะเห็นว่า..แนวเส้นใต้ตัวถังที่ลากมาก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแก้มยางอยู่อีกเช่นกันกับคันก่อนหน้านี้

คำตอบที่ 75
       E-mail ครับ Atit.Arunotai@TRW.COM.

คำตอบที่ 76
       พี่อธิฐ ไปกับผมก็ได้ อยู่ใกล้บ้านผมที่บางกรวยครับ
ผมเคยไปคุยกับน้องเขามาแล้ว พี่มาหาผมที่บางพลีแล้วไปด้วยกัน
แป๊ปเดียวก็ถึง

คำตอบที่ 77
       ขอบคุณครับพี่แสง เดี๋ยงรอพี่กลับจากเมืองกาญจ์ก่อน จะถ่ายรูปไอ้ตัวเล็กวาง G16A แบบนี้ไห้พี่ดู แล้วค่อยนัดกัน

คำตอบที่ 78
       (ตอบคุณลุงต่อ)
แต่ถ้าหากว่า..ต้องการเทินเพลาแบบให้เตี้ยกว่าตัวอย่าง.2.คันแรก...ก็ต้องประมาณนี้ครับ..ระยะตามรูปนั้นซุ้มล้อห่างจากยางไม่ถึง.1.คืบครับ
(ระยะดังกล่าวต่ำสุดแล้ว..สำหรับการใช้งานแบบเผื่อยุบและเผื่อยืด..แต่ถ้าต้องการต่ำกว่านี้อีก..คงต้องปาดซุ้มครับ)

คำตอบที่ 79
       จากรูปจะเห็นว่า..ระยะดังกล่าวเมื่อลากเส้นใต้ตัวถังมาจะอยู่ต่ำกว่าคันตัวอย่าง.2คันแรกครับ..เพราะเส้นใต้ตัวถังจะลากยาวมาที่ยางจะเห็นว่าเส้นที่ลากมาจะอยู่ตรงแนวขอบล้อแมกซ์หรือต่ำกว่าซะด้วยซ้ำครับ(เตี้ยกว่าตัวอย่าง.2.คันแรกอยู่..2-3นิ้ว)

รถที่เน้นเตี้ยหน่อยจะมีการทรงตัวที่ดีทั้งทางป่าและทางออฟโรด..โอกาสและความน่าจะเป็นในการพลิกคว่ำก็จะลดลงไปด้วย..ยิ่งถ้าหากเป็นคนชอบขับรถเร็วด้วยยิ่งเหมาะสม

(อย่าลืมว่าเป็นความเห็นส่วนตัวครับ)

คำตอบที่ 80
       คุณสอ สวัสดีครับตอนนี้รถผมมีปัญหานิดหน่อยอยากปรึกษาครับ ปัญหาก็คือตอนนี้รถผมทีเสียงรบกวนเหมือนน็อตหรืออะไรก็ไม่รู้ มันกระทบกะตัวถังบริเวณใต้คอนโซนหน้าด้านคนขับผมพยายามแล้วหาไม่เจอเลยอยากรู้ว่าจะเอาไปให่คุณสอช่วยฟังว่ามันอยู่ตรงไหนจะได้ไหมครับหรือว่ามีร้านแนะนำไหมครับเพราะเวลาวิ่งถนนขุรขระมันจะดังมากรำคาญแล้วก็ว่าได้ รบกวนหน่อยนะครับ

คำตอบที่ 81
       (ตอบพี่เป๋ง)
คุณสอ สวัสดีครับตอนนี้รถผมมีปัญหานิดหน่อยอยากปรึกษาครับ ปัญหาก็คือตอนนี้รถผมทีเสียงรบกวนเหมือนน็อตหรืออะไรก็ไม่รู้ มันกระทบกะตัวถังบริเวณใต้คอนโซนหน้าด้านคนขับผมพยายามแล้วหาไม่เจอเลยอยากรู้ว่าจะเอาไปให่คุณสอช่วยฟังว่ามันอยู่ตรงไหนจะได้ไหมครับหรือว่ามีร้านแนะนำไหมครับเพราะเวลาวิ่งถนนขุรขระมันจะดังมากรำคาญแล้วก็ว่าได้ รบกวนหน่อยนะครับ

ตอบ..สวัสดีเช่นกันครับ..ปัญหาดังกล่าวถ้าดูจากเท่าที่เคยลองรื้อออกมานั้นผมคิดว่า..ด้านหลังคอนโซลขึ้นไปด้านบนนั้นแทบจะไม่มีอะไรแล้ว..มีแผ่นเหล็กอยู่ชั้นหนึ่ง..ตัวมอเตอร์ปัดน้ำฝน..และที่เหลือก็เป็นพวกชิ้นส่วนที่ติดอยู่กับคอนโซล..อาจจะมีพวกท่อแอร์ที่อาจจะหลุดละอะไรบางอย่าง(แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะไม่น่าจะมีเสียงและช่องแอร์ทุกช่องยังมีลมออกอยู่)
ผมคิดว่า..เสียงดังกล่าวน่าจะมาจากแถวๆตู้เย็น(ตู้แอร์)ในรถนะครับ..เพราะไม่ทราบว่าก่อนที่พี่เคยทำสีมีเสียงที่น่ารำคาญนี้หรือเปล่าครับ..บางทีช่างสีอาจจะรื้อออกมาแล้วช่วงตอนที่ทำสีอาจจะใส่กลับไม่ถูกตำแหน่งเดิม...งัดบิดกันหรือน็อตยึดไม่ครบ..หรือยึดไม่แน่น..หรือล้วงเอามือเข้าไปใส่น็อตทำน็อตหล่นเข้าไปในตู้แอร์...จึงทำให้เวลาวิ่งในลักษณะขรุขระ..หินลอยลูกรัง..รูดทางรถไฟ..จะทำให้เกิดเสียงดังแก๊กๆๆๆๆๆอยู่ตลอดที่รถวิ่งผ่าน

โดยที่การหล่นของน็อตนั้นจะหล่นเข้าไปที่ด้านข้างของตู้ครับ..เพราะว่าตู้แอร์แขวนของคาริเบี้ยนนั้นจะมีช่องพัดลมอยู่ด้านข้าง..ซึ่งเป็นตำแหน่งใกล้เคียงกันกับจุดที่จะใส่น็อตยึดที่ด้านข้างเหมือนกัน..พอหล่นเข้าไปแล้วมันก็จะกลิ้งอยู่ใต้ใบพัดลมแอร์ครับ..พอรถมีการสั่นสะเทือนมันก็จะดัง..บางคันผมเคยรื้อตู้ออกมาล้างแผงเย็นนี่เคยเจอแหวนอีแปะคาอยู่ข้างในตั้ง..3-4ตัวแน่ะครับ..แถมที่ตัวแผงยังมีเปลือกท็อฟฟี่ติดอยู่อีกด้วย..ยังไงลองเช็คที่ตู้แอร์ดูก่อนด้วยครับ..

วิธีเช็คคร่าวๆง่ายๆ..ก็คือ..เอามือทุบให้มันสะท้านสะเทือน..แบบทุบให้มันมีเสียงครับ..ถ้าหากยึดน็อตไม่แน่นก็จะดัง..แต่ถ้ายึดน็อตแน่นก็ต้องลุ้นเกี่ยวกับของที่ตกลงไปอีกครับ..ถ้ารื้อออกมาดูต้องแวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่หมด
(ยังไงลองเช็คดูก่อนครับ)

คำตอบที่ 82
       รูปตู้แอร์เย็นในรถครับ..ถ้าจะรื้อดูต้องถอดออกมาสถานเดียว

คำตอบที่ 83
       และลักษณะวิถีการหล่นของน็อต..มักจะหล่นลงมาในแนวเฉียงซึ่งตรงกันกับตู้แอร์ที่ยึดเอียง..และก็จะหล่นลงไปในช่องนี้ครับ(จำพวกแหวนอีแปะและน็อตตัวเล็กๆ)

(ยังไงลองใช้มือทุบๆดูก่อนนะครับ..เผื่อไม่ใช่)

คำตอบที่ 84
       เสียงที่ดัง ลองเช็คที่ยางแท่นเครื่องมีการทรุดตัวหรือเปล่า ผมเคยเป็นค้นหาอยู่นาน สุดท้ายพอเปลี่ยนยางแท่นเครื่อง เสียงดังกล่าวก็หายไปครับ ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า ต้องลองดูครับ

คำตอบที่ 85
       (ตอบคุณลุงต่อ)
สัดส่วนความสูงโดยรวมของคันนี้ครับ..เทินเพลาเหมือนกันแต่จะค่อนข้างที่จะเตี้ยกว่าตัวอย่าง.2.คันแรกอยู่..2-3.นิ้วครับ..แต่ก็ใส่ยางขนาด.33นิ้วได้เหมือนกัน
สัดส่วนยางขนาด..33นิ้ว..กับความสูงของตัวรถเลยดูยางไม่ใหญ่หรืออ้วนกลมบวมมากจนเกินไป

คำตอบที่ 86
       ลองดูคันตัวอย่างอีกคันหนึ่งครับ..กับสัดส่วนความสูงของรถเทินเพลาแบบเน้นความสูงไม่มาก..ระยะห่างอยู่ประมาณไม่ถึงคืบ..เน้นการทรงตัวและการขับที่ดี
คันนี้ยกสูงเทินเพลาโดยใช้แหนบเดิม+ยางขนาด.32นิ้ว

คำตอบที่ 87
       เมื่อลากเส้นแนวใต้ตัวถังมาที่ยาง..จะเห็นว่า..อยู่ต่ำกว่าขอบล้อนิดนึง(ไม่ได้เข้าไปในเนื้อที่ของแก้มยางเลย)..ก็สามารถใส่ยางได้ในขนาด..32นิ้ว..ถ้าหากจะต่ำกว่านี้ต้องปาดซุ้มแล้วครับ

(อย่าลืมว่าเป็นความเห็นส่วนตัว)

คำตอบที่ 88
       จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น..ก็สรุปว่าการเทินเพลาควรจะต้องให้สมส่วนและเหมาะสม..ยกตัวอย่างเช่น..การยกแบบใช้แหนบสไตล์เดิมๆของคาริเบี้ยนที่เป็นแหนบยกทั่วไปไม่ควรใช้แหนบยกเกิน.3.นิ้ว(เต็มที่)ใส่กับยางขนาด.31-32นิ้วหรืออาจจะใช้แหนบเดิมๆคาริเบี้ยนก็ใช้ได้ครับแต่อาจต้องมีการปรับแต่งการเลื่อนระยะของเพลาหน้าตามความเหมาะสมด้วย..แต่ถ้าเป็นยางขนาด.33-35นิ้วขึ้นไปจะปรับแต่งเป็นแหนบยาวทั้งหมดครับ..หรือถ้ายังจะใช้แหนบพวกยกเดิมคาริเบี้ยนอยู่ก็ต้องมีการตัดแต่งบอดี้แทนครับ..เพื่อให้ตัวรถสูงแค่เท่าเดิมแต่สามารถใส่ยางได้ใหญ่ขึ้นแทน

หลังเทินเพลาแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ..ควรจะมีการปรับแต่งการขยายฐานล้อให้กว้างขึ้นตามความเหมาะสมเพื่อชดเชยกับความสูงที่เพิ่มขึ้น..อย่างเช่น..การใส่ล้อเลื่อนออฟเซ็ท..การใส่สเปเซอร์ล้อขนาดต่างๆ..หรือการเปลี่ยนชุดคานหน้า/หลังให้กว้างเพื่อรองรับกับความสูงที่เพิ่มขึ้นและขนาดยางที่ใหญ่ขึ้น

สุดท้ายหลังจากที่ปรับแต่งรถมาทั้งหมดแล้ว..ก็ต้องปรับแต่งที่คนขับ..ต้องพยายามทำความคุ้นเคยกับรถแบบใหม่..แม้ว่าเราจะชดเชยความสูงและความกว้างได้อย่างเหมาะสมจนสามารถขับขี่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับสแตนดาร์ดแล้วก็ตาม

คำตอบที่ 89
       (ตอบคุณลุงต่อ)
จากข้อความในคำถามที่ว่า.."รถคันนี้ใช้งานสำรองครับไว้เข้าสวนบ้าง ว่างๆเข้าป่าพาครอบครัวเที่ยว อาจจะไปลุยหนักๆบ้าง เดิมรถใส่ยาง 31 ยกใต้เพลา 3นิ้วครับ เคยปรึกษาพี่ๆที่เคยเล่นและช่างหลายๆคนบอกว่ามันจะติด และค่อนข้างลำบากในกรณีเล่นหนักๆ ต้องเทริ์นเพลา แต่ผมก็ได้ยินหลายๆเสียงว่าเทริ์นแล้วมันพลิกง่าย การทรงตัว หรือทำความเร็วได้ไม่ดี แต่บางเสียงก้ว่าดีแล้วแต่เราทำ ก็เลยสงสัยครับ เคยป้อนคำถามหลายบอร์ดแต่ไม่กระจ่างเลยจะขอรบกวนชี้แนะครับ "

ตอบ..รายละเอียดก็เป็นไปตามที่ได้แจ้งตอบไปแล้วนะครับ..ไม่แน่ใจว่าจะละเอียดพอหรือเปล่า..แต่ถ้าใช้งานเข้าไร่เข้าสวน..และเป็นรถคันที่สอง..อนาคตต้องการใส่ยาง..32นิ้ว..ก็น่าจะเทินเพลานะครับ..(แต่ยังไงลองคิดเองดูอีกทีนะครับ)..แต่จริงๆแล้วผมจะเชียร์ให้ใช้กับแหนบเดิมๆสแตนดาร์ดจะได้ความสูงที่เหมาะสมและสมส่วน..แต่ในกรณีนี้มีแหนบยก..3นิ้วอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับยังคงพอใช้ได้อยู่ครับแต่ตัวรถจะสูงหน่อย..และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินหาซื้อแหนบเดิมเพิ่มเติมด้วยครับ

คำตอบที่ 90
       คุ้มค่าการรอคอยครับ คุณสอครับ ขอบคุณจากใจครับ ขอรบกวนถามอีกนิดนะครับ ถ้าผมไม่เทรินและจบด้วยการใส่ยาง 31 ยก3นิ้วเหมือนเดิม เวลาไปลุย มันจะผ่านได้มั๊ยครับ หรือต้องทำอะไรเพิ่มมั๊ยครับ ไม่อยากปาดซุ้มครับ รบกวนและขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งครับ

คำตอบที่ 91
       (ตอบคุณลุง)
คุ้มค่าการรอคอยครับ คุณสอครับ ขอบคุณจากใจครับ ขอรบกวนถามอีกนิดนะครับ ถ้าผมไม่เทรินและจบด้วยการใส่ยาง 31 ยก3นิ้วเหมือนเดิม เวลาไปลุย มันจะผ่านได้มั๊ยครับ หรือต้องทำอะไรเพิ่มมั๊ยครับ ไม่อยากปาดซุ้มครับ รบกวนและขอบคุณล่วงหน้าอีกครั้งครับ

ตอบ..ถ้าไม่เทินเพลาแล้วใช้แหนบยก.3นิ้วกับยาง..31นิ้วเห็นถ้าจะติดนะครับ..เพราะถ้าจะไม่ติด..แหนบควรจะต้องยกอยู่ที่.4-5นิ้วครับ(ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกันกับแหนบเดิมและเทินเพลาก็จะได้ประมาณ.4-5นิ้วเหมือนกัน)..หรือถ้าหากว่าไม่ติด..เวลาไปเที่ยวลุยในป่าน่าจะติดแน่นอนครับเพราะว่าในป่ามีขึ้นเขาลงห้วย..หักเหลี่ยมหักมุมหักศอก..ยางน่าจะติดซุ้มและก็อาจจะเกิดการเสียหายได้ง่าย..อย่างเช่น..มุมบังโคลนล้อหรือมุมกันชนบาดยางเวลาแหนบมีการยุบตัว
วิธีแก้ถ้าไม่เอาการปาดซุ้มก็คงต้องเพิ่มความสูงของตัวรถ..อย่างเช่นการเปลี่ยนแหนบใหม่เป็นแบบที่ยกสูงมากกว่านี้..ก็อาจจะเอาชุดเดิมถอดขายแล้วไปซื้อชุดใหม่ก็ลงทุนเพิ่มไม่มากครับ(ซัก3,000-4,000บาท)ก็จะได้รถใต้เพลาเหมือนเดิมแต่แหนบจะยกมากกว่าเดิม..หรืออีกอย่างคือเอาชุดแหนบถอดขายแล้วหาแหนบเดิมมาใส่แล้วเทินเพลาครับก็จะลงทุนเพิ่มมากกว่า(ซัก6,000-7,000บาท)

อันที่จริงก็ยังตอบไม่หมดเลยครับ..แต่เดี๋ยวจะค่อยๆทยอยตอบในส่วนของคำถามที่เหลือให้อีกทีครับ..

คำตอบที่ 92
       แจ่มๆ ครับ

คำตอบที่ 93
       (ตอบคุณลุง)
ส่วนตัวผมอยากใส่ยางมัด 32 ครับและหั่นตูดออก ยกให้มันสมส่วน แต่ไม่รู้จะเริ่มทำยังไงครับ มีคนแนะนำให้ใช้ยาง 32 เกียร์เดิม 1300 สโล 1300 เฟือง841 แล้วเทริ์นเพลา แหนบหน้าใช้แหนบหลังเดิมแล้วเสริมแหนบ แหนบหลังใช้ของมาสด้า ส่วนโชค แล้วแต่เลือก มอยากขอคำแนะนำและชี้เป้าไปเลยว่าควรใช้ของอะไร รุ่นไหนอย่างไรครับ เช่นยี่ห้อแหนบ ยี่ห้อโชค(ที่เล็งไว้มี รันโซ่ หรืออมานดาเอ๊กทีม) ยังไงแล้วรบกวนคุณสอครับ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงครับ อนาคตจะวางแผนเผื่อไว้วางเครื่อง G16a ครับแต่คงสักช่วงใหญ่ๆครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ

ตอบ..ยางขนาด32นิ้ว+สโลว์1300+8.41..จริงๆแล้วก็ค่อนข้างโอเคครับ..ใช้งานได้ดีทั้งทางดำและทางออฟโรด..เข้าไร่เข้าสวนสบายๆ..กับน้ำหนักรถแบบสปอร์ตตี้ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าพวกตู้ปลาทั่วๆไป...แต่ถ้าเป็นพวกตู้ปลาแล้วเน้นใช้งานจริงๆน่าจะมีสโลว์1000อีกซักอย่างครับ
ส่วนเรื่องแหนบที่ว่าใช้แหนบหลังมาไว้ด้านหน้าและแหนบหลังก็ใช้ของมาสด้าก็โอเคครับจริงๆก็โอเคครับ..แต่ทว่าทำทั้งทีเผื่อๆเหลือๆเป็นการใช้แหนบใหญ่มาวางเลยน่าจะเหนื่อยแค่ทีเดียวครับ(ถ้าวางอย่างถูกวิธีและเหมาะกับโครงสร้างของรถ)..แต่ถ้าให้ถูกตังสุดก็แหนบเดิมที่ใส่อยู่ตอนนี้เลยครับ(แหนบยก3นิ้ว)ยกขึ้นมาไว้เทินเพลาก็น่าจะเหมาะสมกับอนาคตที่จะใส่ยางขนาด32นิ้วครับ

ส่วนเรื่องโช้คอัพอันนี้แล้วแต่เลยครับ..จริงๆถ้าไม่ซีเรียสมากโช้คอะไรก็ใช้ได้ครับ..แต่ถ้าเน้นยี่ห้อที่ระบุมาถ้าเป็นผมๆเลือกรันโช่ครับ..ส่วนอีกยี่ห้อไม่มีข้อมูลครับ..แต่ถ้าหากดูรวมๆทั้งตลาดโช้คเลยมันก็จะมีอยู่หลากหลายยี่ห้อ..ถ้าเอาเฉพาะยี่ห้อดั้งเดิม(ไม่รวมยี่ห้อใหม่ๆ)..เช่น..Rancho..Procomp...Westcoast..เป็นต้น..จริงๆแล้วก็ใช้ได้ทั้งหมดแหละครับ..เพียงแต่ถ้าหากว่าชอบหนึบๆแข็งๆหน่อยก็เป็นพวกProcomp..ถ้าหากชอบนิ่มๆก็Westcoast..ถ้าหากชอบทั้งแข็งและนิ่มได้ด้วยก็เอาแบบปรับระดับได้อย่างRancho..ก็ว่ากันไปครับ..แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับระบบแหนบด้วยนะครับ..

คำตอบที่ 94
       ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมด้วยนะครับ...!!! พอดีเพิ่งจะทำรถเสร็จแล้วไปลองมาครับรถคันนี้ผมปั้นตามคำชี้แนะจากข้อมูลต่างๆที่ได้ศึกษาจากพวกพี่ๆ ครม. ในเว็ปนี้มาโดยตลอดจนจบที่ ยกเทรินเพลา+แหนบยก 3"+โตงเตง 5"+เกียร์สโลว์ 650+เครื่องเดิม 1300 คาบู+เฮดเดอร์4-2-1+ยาง 32 จากการทดสอบผมว่าโอเคนะครับ แรงต้นหายไปนิดหน่อยแต่พอติดรอบแรงปลายใช้ได้ขับมันดีเหมือนขับรถกะบะทั่วไปเลย ต้องขอขอบคุณชาว ครม. ที่ให้ข้อมูลในการแต่งรถในแง่ต่างๆสำหรับผู้ที่เริ่มหัดแต่งโดยที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถและเครื่องยนต์เลย ( ผมไม่ใช่ช่าง ) ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 95
       ดีทีเดียวครับ..STEPนี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่หัดแต่งครับ..ยังไงต้องลองใช้งานดูแบบระยะยาวครับ..ทั้งทางเรียบและทางออฟโรด..

คำตอบที่ 96
       ซูซูกิ ตู้ปลา ต้องการวางเครื่องวิทาร่า เกียร์ออโต ระหว่างเครื่อง 1600 CC กับเครื่อง J20 ตัวไหนดีกว่าครับ และราคาค่าวางเท่าไหร่สำหรับเครื่อง 2 ตัวนี้ เพราะอยากให้แม่บ้านสามารถขับได้ครับ ถ้าไม่สะดวกตอบในนี้ก็เมลล์มาที่ noppadon.kit@hotmail.com
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 97
       ถามคุณ สอ สายไฟขั้วสีขาวต่อเข้ากับอุปกรณ์ตัวไหนครับ G16A

คำตอบที่ 98
       แล้วสายที่ต่อไปสั่งคอมแอร์กับพัดลล เป็นสายเส้นไหนครับ

คำตอบที่ 99
       (ตอบพี่KERO)
ถามคุณ สอ สายไฟขั้วสีขาวต่อเข้ากับอุปกรณ์ตัวไหนครับ G16A

ตอบ..สายไฟขั้วสีขาวตามรูปเป็นสายไฟที่มาในชุดเดียวกันกับชุดสายไฟที่ไปตัวTP..ผมไม่เคยต่อใช้ครับเพราะขั้วปลั๊กดังกล่าวไม่ปรากฎใน..WiringDiagramของเครื่องG16A..ซึ่งเท่ากับว่าไม่เกี่ยวข้องกันกับระบบการทำงานของเครื่องยนต์..และในส่วนของรถวีทาร่าที่เป็นเครื่องหัวฉีดเดิมๆเองก็เป็นปลั๊กห้อยลอยๆไว้แบบนี้เหมือนกันครับแต่เป็นลักษณะพันรวบคว่ำลงย้อนกลับไปไว้ที่ด้านล่าง..สวิทช์ดังกล่าวผมเข้าใจว่าอาจจะไว้ใช้ในลักษณะของการนำอุปกรณ์บางอย่างมาเสียบเพื่อที่จะไว้ตรวจเช็คอะไรซักอย่างก็เป็นได้ครับ


แล้วสายที่ต่อไปสั่งคอมแอร์กับพัดลม เป็นสายเส้นไหนครับ
ตอบ..ในส่วนของระบบแอร์ที่เป็นของเครื่องวีทาร่าเอง..มันจะมีสายจากกล่องไปยังระบบวงจรA/CCircuit..เกี่ยวกับระบบแอร์ภายในรถด้วยครับ..ถ้าหากว่าได้สายไฟมาครบหมดเลยทั้งชุดก็อาจจะมีแผงสวิทช์แอร์ติดมาทั้งระบบเลยครับรวมทั้งพวกตัวRelayต่างๆของระบบมันด้วย..ส่วนวงจรACของมันจริงๆผมไม่ทราบเลยครับ
แต่ในส่วนของการวางกับรถซูซูกิคาริเบี้ยน..ผมสร้างระบบRelayของชุดแอร์ใหม่ทั้งหมดแทนครับ(ก็อาจจะคล้ายๆกับวงจรของวีทาร่า..แต่ของวีทาร่ามันมีระบบของมันภายในรถด้วย)..

ส่วนสายไฟเส้นไหนในกองที่ส่งรูปมาให้ดูนั้น..จนด้วยเกล้าครับ(ว่าแต่สายไฟในกองดูเหมือนๆจะมีร่องรอยในการเก็บมาบ้างแล้วนะครับ)..แต่ถ้าถามว่าสายไฟเส้นไหนเกี่ยวข้องกับระบบแอร์..ก็มีที่ตำแหน่งA9ครับทำหน้าที่เป็นตัวชดเชยรอบแอร์..ส่วนสายที่จะไปสั่งคอมแอร์กับพัดลมไฟฟ้าน่าจะผ่านสวิทช์ใช้งานมาที่ชุดRelayอีกทีหนึ่งก่อนที่จะไปยังปลายทางที่ตัวคอมแอร์กับพัดลมไฟฟ้า..ส่วนจะเป็นสายไฟเส้นไหนนั้นในกองนี้อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ครับ..(ผมไม่เคยไล่ดูเลยครับ..ก็เลยไม่รู้ว่าเส้นไหนหรือสีไหน)

คำตอบที่ 100
       ของพี่MixerKCBเดี๋ยวตอบให้อีกทีครับ(หรือไม่ก็เดี๋ยวเมล์ไปให้ครับ)

คำตอบที่ 101
       ขอขอบคุณ คุณสอ มากครับ ก็พอจะเข้าใจระดับหนึ่งครับ ถูกต้องแล้วครับที่เห็นในรูป ผมเก็บรายละเอียดแล้วครับ แต่ก็ติดปัญหาตรงระบบแอร์นี่แหละครับ ผมไม่ได้ชุด AC มาครับ ก็ใช้การต่อระบบ ใหม่แบบที่คุณสอ กล่าวก็เลยไม่แน่ใจว่าเมื่อแอร์ทำงานแล้วเครื่องมันจะชดเชยรอบได้อย่างไร เพราะเราต่อเข้ากับตัวควบคุมอุณหภูมิเองเมื่อมันสั่งคอมทำงานรอบก็จะตก (เคยเห็นมีคนถามบ่อยๆเกี่ยวกับวีทาร่าว่าเครื่องไม่ค่อยนิ่งเมื่อแอร์ทำงาน) ก็เลยอยากจะหาสายเส้นที่มันไปควบคุมระบบชดเชยรอบครับ
คุณสอ เอาสายเส้นไหนจากกล่องมาต่อระบบครับ สายเส้นนั้นมันจะชดเชยรอบใช่ไหมครับ ผมจะได้เอามาต่อระบบไหมอีกครั้งจะได้จบในคราวเดียวกันเลย ตอนนี้งานยังค้างอยู่เลยครับ ขอรบกวนอีกครั้ง ขอบคุณมากครับ

ปล. ตอนแรกว่าจะให้คุณสอ ทำ Wiring ให้ แต่งานคุณสอ เยอะมากผมเลยคอยไม่ไหวจริงๆถึงสิ้นเดือนกันยายน เลยจัดการเองเลยคงเป็นระเบียบไม่เท่าคุณสอ แต่ก็คงพอรับได้กับผลงานตัวเอง ผมลื้อใหม่ทั้งระบบเลยครับเอาของเก่าออกหมด ใส่ของใหม่เข้าไปเลยจะได้แก้ปัญหาได้ถ้าภายหลังเกิดปัญหาขึ้นเพราะเราทำกับมือรู้ในรายละเอียด

คำตอบที่ 102
       เครื่องก็วางเองเลยครับทำที่บ้านไม่ต้องไปเสียเวลาดูงานกับช่าง เห็นเพื่อนๆบอกทะเลาะกับช่างตลอด เลยจัดการเองอยากได้อย่างไรทำอย่างนั้น การวางเครื่องถ้าเราไม่ไปเปล่ยนข้ามตระกูล มันง่ายครับหลายๆอย่างมันจะเหมือนกัน ขอแนะนำเพื่อนๆที่คิดจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ อย่าเปลี่ยนข้ามตระกูลเลยครับ มับจบยากแบบนี้จบง่านครับ

คำตอบที่ 103
       กะไว้ว่าจะจบงานแบบนี้ให้ได้ สุดยอดจริงๆๆ

คำตอบที่ 104
       เทียบกับป้ายแดงได้เลย

คำตอบที่ 105
       (ตอบพี่KERO)
เมื่อแอร์ทำงานแล้วเครื่องมันจะชดเชยรอบได้อย่างไร เพราะเราต่อเข้ากับตัวควบคุมอุณหภูมิเองเมื่อมันสั่งคอมทำงานรอบก็จะตก (เคยเห็นมีคนถามบ่อยๆเกี่ยวกับวีทาร่าว่าเครื่องไม่ค่อยนิ่งเมื่อแอร์ทำงาน) ก็เลยอยากจะหาสายเส้นที่มันไปควบคุมระบบชดเชยรอบครับ
คุณสอ เอาสายเส้นไหนจากกล่องมาต่อระบบครับ สายเส้นนั้นมันจะชดเชยรอบใช่ไหมครับ

ตอบ..สายเส้นนั้นคือ..A9..ตามที่ได้แจ้งไป..กล่าวคือปลั๊กที่กล่องECUจะมีอยู่.2.ปลั๊ก..คือปลั๊กเล็กกับปลั๊กใหญ่..ปลั๊กเล็กคือ..ปลั๊กA..ส่วนปลั๊กใหญ่คือปลั๊กB..การมองให้คว่ำเขี้ยวที่ล็อคปลั๊กลงด้านล่างจะมีอยู่2แถวคือ..แถวบนกับแถวล่าง..แล้วให้เริ่มนับหนึ่งที่แถวล่างโดยเรียงจากซ้ายไปทางขวา(นับเป็นA1/A2./A3......ไปเรื่อยๆจนถึงA9)..สีสายไฟของมันคือ..เหลือง/ดำ(มีอยู่สีเดียวครับ)
แล้วหลังจากนั้น..(โจทย์)...พี่จะต้องหาวิธีทำให้เจ้าตัวนี้ลงกราวด์ให้ได้ตอนเปิดแอร์ครับ...???????

คำตอบที่ 106
       ไม่ยากต่อผ่านรีีเลย์คับให้รีเลย์สั่งลงกาวล์แทนที่จะสั่งไฟเดิน

คำตอบที่ 107
       รอคำตอบอยู่นะครับ

คำตอบที่ 108
       ขอขอบคุณ คุณสอมากครับที่ให้คำแนะนำ

คำตอบที่ 109
       ไม่เป็นไรครับพี่..ตามสะดวกเลยนะครับ..ถ้าหากพอรู้หรือเคยลองมาก็พอแนะนำได้บ้างครับ..แต่ถ้าอันไหนไม่รู้จริงๆก็เดี๋ยวจะไปทำการบ้านมาให้อีกทีครับ

คำตอบที่ 110
       (ตอบพี่MixerKCB)
ซูซูกิ ตู้ปลา ต้องการวางเครื่องวิทาร่า เกียร์ออโต ระหว่างเครื่อง 1600 CC กับเครื่อง J20 ตัวไหนดีกว่าครับ และราคาค่าวางเท่าไหร่สำหรับเครื่อง 2 ตัวนี้ เพราะอยากให้แม่บ้านสามารถขับได้ครับ ถ้าไม่สะดวกตอบในนี้ก็เมลล์มาที่ noppadon.kit@hotmail.com
ขอบคุณครับ

ตอบ..ระหว่าง..2ตัวที่กล่าวมาถ้าหากนำมาใช้ทั้งเกียร์ด้วยเลยดูจะไม่ค่อยเหมาะสมครับ..เพราะว่าระบบเกียร์ทั้ง2รุ่นนี้จะเป็นเกียร์ออโต้และเกียร์สโลว์อยู่ในชุดเดียวกัน(ต่อท้ายติดกันเหมือนพวกเกียร์4wdทั่วๆไป)..อีกทั้งท้ายเกียร์สโลว์ก็มีตำแหน่งออกกลางซึ่งไม่ตรงกันกับเพลาหลังของคาริเบี้ยนที่เยื้องขวาครับ..ส่วนใหญ่ที่นำมาใช้วางกันก็มักจะชนกับเกียร์เดิมๆ1300ครับ..แต่ดูกันจริงๆแล้วมันก็พอมีพวกรุ่นที่มีเฉพาะเกียร์ออโต้แต่ไม่มีสโลว์เหมือนกันนะครับแต่คงหากันไม่ได้(เห็นแต่ของเมืองนอก)...ดังนั้นเลยต้องมองย้อนกลับไปดูว่าถ้ามันหายากขนาดนี้ก็คงต้องนำมาใช้ชนกับเกียร์เดิมดูจะจบกว่าครับ..ทีนี้ถ้าหากว่าชนกับเกียร์เดิมควรจะเลือกเครื่องตัวไหนดี..(อันนี้แล้วแต่ครับ)..แต่ถ้าเป็นผมๆเลือกG16Aครับ..เพราะว่าถ้าหากเป็นJ20Aจะมีจุดอ่อนเกี่ยวกับเรื่องของเกียร์เมนเดิมที่จะนำมาชน..การใช้งานแบบออฟโรดหนักๆคงอยู่ได้ไม่ค่อยนาน..แต่ถ้าหากวิ่งทางดำหรือเข้าป่าเบาๆนานๆค่อยหนักทีก็พอได้ครับ..ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากอัตราทดของเกียร์เมนเดิม1300และขนาดชุดเฟืองเกียร์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับเครื่องขนาด2000ซีซีครับ...ดูอย่างเกียร์เมนของเครื่องJimnyขนาด1000ซีซียังมีชุดเฟืองเกียร์..เสื้อเกียร์..และหัวหมูเกียร์ที่เล็กกว่าของเกียร์เมนเครื่อง1300บ้านเราเลยครับ..และนับประสาอะไรที่จะเอาเกียร์เมน1300ไปชนเข้ากับเครื่องJ20A2000ซีซี..

(ยังไงขอโทษด้วยครับที่เข้ามาตอบช้าไปนิดนึง..พอดีช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งมากถึงมากที่สุดครับ)

คำตอบที่ 111
       (อ้างอิงภาพจากต่างประเทศ)
เครื่องJ20Aเกียร์ออโต้....แบบที่ไม่มีสโลว์อยู่ในตัว(น่าจะเป็นรถESCUDOที่ไม่ได้เป็นแบบ4wd..อันนี้ไม่แน่ใจครับ)

แล้วบ้านเราจะหาจากไหน????

คำตอบที่ 112
       อันนี้เห็นชัดหน่อยครับ..ดูที่ท้ายเกียร์มันไม่มีสโลว์ครับ(มันก็เหมือนกับเครื่องเกียร์ออโต้ทั่วๆไป)

คำตอบที่ 113
       ส่วนอันนี้เป็นJ20Aแบบไม่มีเกียร์สโลว์อยู่ในตัว.....และก็เป็นเกียร์ธรรมดาด้วย

คำตอบที่ 114
       (ภาพอ้างอิงจากต่างประเทศ)
อยู่ในรถแกนรด์วีทาร่าครับ

คำตอบที่ 115
       รบกวนถามคุณสอ
ช่วยเปรียบเทียบพละกำลัง เครื่อง 1600 คาร์บู วิทาร่า กับเครื่อง 1300 เดิมๆ หน่อยครับ

ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 116
       สอบถามเรื่องเฟืองท้ายครับ
ซูตู้ปลา เครื่องคาร์บู 1300 เกียร์เดิม ตอนนี้ยาง 215 70 15

หากเปลี่ยนเป็นยาง 31 หรือ 32 ควรปรับ แต่ง พวก เกียร์ หรือ เฟืองท้าย อย่างไรบ้างครับ

ที่อ่านๆ มา ให้เปี่ยนเป็นเกียร์ 1000 บ้าง 650 บ้าง หรือ ไม่ก็เปลี่ยนเฟืองท้ายเป็น 8 41

หลายสูตร พยายามทำความเข้าใจก็ยัง งง ครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คำตอบที่ 117
       (ตอบพี่MixerKCBต่อ)
ลองดูดีๆอีกทีครับ...ผมว่ามันไม่มีเกียร์สโลว์นะครับ(รึว่า..มันแอบอยู่ทำให้มองไม่เห็น)

คำตอบที่ 118
       เดี๋ยวเข้ามาตอบอีก2ท่านให้ครับ..ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยครับ
(ขอเวลานึกและเรียบเรียงแป๊บนึงครับ)

คำตอบที่ 119
       ขอถามต่ออีกนิดนะครับ ถ้าใส่เกียร์ออโตแล้วไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัวไหน จะลากตู้ปลายาง 33 นิ้วไหวหรือเปล่าครับ เพราะตอนนี้รถใช้ยาง 33 นิ้วอยู่ครับ
ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 120
       รับทราบครับ
กำลังสะสมปัจจัยไว้ดำเนินการครับผม


ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 121
       (ตอบพี่MixerKCBต่อ)
ขอถามต่ออีกนิดนะครับ ถ้าใส่เกียร์ออโตแล้วไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัวไหน จะลากตู้ปลายาง 33 นิ้วไหวหรือเปล่าครับ เพราะตอนนี้รถใช้ยาง 33 นิ้วอยู่ครับ
ขอบคุณครับ .

ตอบ..จริงๆแล้วถ้าเป็นเกียร์ออโต้ที่ขึ้นระดับเครื่องเป็น..2000ซีซีใช้ได้หมดครับ..ยังไงก็ดีกว่าเครื่องเดิม1300ซีซีอยู่มากอยู่แล้ว..
แต่ถ้าหากว่าไม่จำกัดหรือซีเรียสเกี่ยวกับว่าจะต้องเป็นเครื่องพวกตระกูลซูซูกิJ20A2000ซีซี..มันก็ยังพอมียี่ห้ออื่นให้เลือกมากมายครับ..โดยเฉพาะพวกค่ายโตโยต้าอย่างพวกเครื่องตระกูล3Sที่มีมาให้พร้อมเกียร์ออโต้และมีอยู่มากมายล้นตลาดมากกว่าเครื่องJ20Aที่แสนจะหายาก..ก็ถือว่าน่าใช้ครับ
ซึ่งจากที่เคยลองขับดู..เกียร์ออโต้เครื่อง2000..ที่เป็นยางขนาด33นิ้ว(ยี่ห้อSimexซึ่งจะมีน้ำหนักที่หนักกว่าพวกยางมัดทั่วๆไป)เกียร์สโลว์1300เดิมเฟืองท้าย11.43เดิม..ช่วงตีนต้นก็ใช้ได้ทีเดียวครับ...จะมีแผ่วหน่อยก็ช่วงเกียร์4(อยู่ในช่วงโหมดโอเวอร์ไดรฟ์)จะเป็นลักษณะค่อยๆขึ้นครับ..ซึ่งก็เป็นผลมาจากเรื่องเฟืองท้ายที่ไม่เหมาะสม...แต่ถ้าหากเซ็ตเฟืองท้ายให้เหมาะสม(อย่างเช่น8.37/8.39)ก็น่าจะวิ่งได้จมไมล์ไม่ยากเหมือนกัน...สำหรับยางขนาด33นิ้ว

คำตอบที่ 122
       สวัสดีครับ สอ
อ้างถึง คำตอบที่ 60-61

ส่วนกรณีที่2......คงจะต้องดัดแปลงเดินคานหน้าออกมาหน้ารถอีกซัก.1.นิ้วครับ(โดยการเจาะรูสะดืออานแหนบ)เพื่อให้ห่างซุ้มล้อด้านหลัง..แต่ต้องระวังมาติดที่มุมกันชนด้านหน้าแทน..เดี๋ยวจะต้องปาดมุมกันชนอีก......

หมายถึง มุมตามรูปที่ส่งมาใช่ไหมครับ ถ้าใช่รถพี่ถูกปาดมาอยู่แล้ว ถ้าหากพี่จะเปลี่ยนเป็นยาง 31 แล้วเลื่อนเจาะรูสะดืออานแหนม สอพอมีเวลารับงานพี่ไหมครับ รบกวนเท่านี้ครับ
เอ็ม

คำตอบที่ 123
       สวัสดครับ พี่ สอ. ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบ แต่ผมมีโจทย์ที่จะถามอีกซัก สอง สาม ข้อครับ
๑. ผมต้องการเปลี่ยนเครื่องเป็นเกียร์ออโต ควรวางเครื่องอะไรดีครับ ที่ไม่มีปัญหามาก ( ต้องการเบนซินนะครับ เพราะเอาไว้ติดแก๊ส)
๒. ราคาค่าเครื่อง + ค่าวางเท่าไหร่ครับ เอาแบบม้วนเดียวจบ
๓. คุณ สอ. รับวางหรือเปล่าครับ
ปล. ข้อมูลรถครับ ตู้ปลา ยางไซแม๊ก 33 นิ้ว เฟือง 8:41 สโลว์ 1000 ครับ
เหตุผลที่เปลี่ยน เพราะผมไม่ค่อยอยู่ไทย รถจึงจอดเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเปลี่ยนเครื่องเป็นออโต แฟนผมจะได้ขับได้ครับ

คำตอบที่ 124
       คุณสอ ปั้มติ๊กที่ว่ามันคือตัวนี้ครับ ทำไมมันไม่มีแรงดันเอาเสียเลย
เช็คดูแล้ว 1.กรองอลูมิเนียม ไม่ตัน
2.กรองพลาสติก ไม่ตัน
3.ท่อตัวเล็กที่ว่าเป็นท่อไหลกลับนั้นไม่มีน้ำมันไหลกลับครับ
4.ท่อไหลไปหัวฉีดที่ผ่านกรองอลูมิเนียมไม่มีแรงดันไหลอ่อนๆ แต่ถ้าใช้นิ้วอุดจะมีแรงดันออกเป็นละออง
เครื่องติดได้ แต่เร่งไม่ได้ครับ ตามที่คุยไว้
ทำไงดี ยังหาไม่เจอปัญหา

คำตอบที่ 125
       (ตอบคุณjnipon)
รบกวนถามคุณสอ
ช่วยเปรียบเทียบพละกำลัง เครื่อง 1600 คาร์บู วิทาร่า กับเครื่อง 1300 เดิมๆ หน่อยครับ

ขอบคุณครับ

ตอบ..1600คาร์บูจริงๆแล้วผมไม่เคยลองขับเลยครับ..ก็เลยไม่รู้ว่าพละกำลังมันจะดีมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับเครื่องเดิม1300...แต่ก็น่าจะดีกว่าในสัดส่วนที่มากแหละครับ..แต่ถ้าหากจะเทียบกับตัว1600หัวฉีดจะดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดและดีขึ้นมาในระดับ50%ทีเดียวครับ(เมื่อเทียบกับเครื่อง1300เดิม)แต่ถ้าใช้การอนุมานเอาระหว่าง1600หัวฉีดกับ1600คาร์บูแล้ว..เครื่อง1600คาร์บูก็น่าจะด้อยกว่า1600หัวฉีดอยู่นิดหน่อยนะครับ(เหมือนกับ1300คาร์บูกับ1300หัวฉีด)
ดังนั้น..สรุปแล้วเครื่อง1600คาร์บูถ้าวางแล้วก็น่าจะดีกว่า1300คาร์บูเดิมๆอยู่ซัก40%ได้ล่ะมั๊งครับ..ทั้งในเรื่องของความจัดจ้านของเครื่องยนต์และแรงบิดของเครื่องยนต์(หรือเรียกได้อีกอย่างว่า"สามารถรับรู้ได้อย่างเห็นได้ชัดครับ")

คำตอบที่ 126
       (ตอบพี่Emmy)
สวัสดีครับ สอ
อ้างถึง คำตอบที่ 60-61
ส่วนกรณีที่2......คงจะต้องดัดแปลงเดินคานหน้าออกมาหน้ารถอีกซัก.1.นิ้วครับ(โดยการเจาะรูสะดืออานแหนบ)เพื่อให้ห่างซุ้มล้อด้านหลัง..แต่ต้องระวังมาติดที่มุมกันชนด้านหน้าแทน..เดี๋ยวจะต้องปาดมุมกันชนอีก......

หมายถึง มุมตามรูปที่ส่งมาใช่ไหมครับ ถ้าใช่รถพี่ถูกปาดมาอยู่แล้ว ถ้าหากพี่จะเปลี่ยนเป็นยาง 31 แล้วเลื่อนเจาะรูสะดืออานแหนม สอพอมีเวลารับงานพี่ไหมครับ รบกวนเท่านี้ครับ
เอ็ม

ตอบ..มุมขายึดกันชนน่าจะพ้นแล้วครับพี่..แต่ที่กลัวจะต้องปาดอีกก็คือ..มุมกันชนแล้วครับ(ในวงกลมใหม่)..ส่วนเรื่องเวลานี่ลำบากมากทีเดียวครับตอนนี้..เนื้องานมีแต่เป็นโปรเจคทั้งนั้นเลยครับ

คำตอบที่ 127
       ฝนตกถล่มทลาย..เดี๋ยวมาตอบส่วนที่เหลือพรุ่งนี้ครับ

ปัญหาของพี่Kero..ยังไงผมก็ยังเน้นไปที่ระบบน้ำมันเกี่ยวกับตัวปั๊มติ๊กนี่แหละครับ..ไม่น่าจะมีจุดอื่นแล้วครับ(พรุ่งนี้ว่ากันต่อครับ)

คำตอบที่ 128
       (อ้าว...ลืมแนบรูปให้พี่Emmy)
ตอบ..มุมขายึดกันชนน่าจะพ้นแล้วครับพี่..แต่ที่กลัวจะต้องปาดอีกก็คือ..มุมกันชนแล้วครับ(ในวงกลมใหม่ตามรูปครับ)

คำตอบที่ 129
       (ตอบพี่Kero)
คุณสอ ปั้มติ๊กที่ว่ามันคือตัวนี้ครับ ทำไมมันไม่มีแรงดันเอาเสียเลย
เช็คดูแล้ว 1.กรองอลูมิเนียม ไม่ตัน
2.กรองพลาสติก ไม่ตัน
3.ท่อตัวเล็กที่ว่าเป็นท่อไหลกลับนั้นไม่มีน้ำมันไหลกลับครับ
4.ท่อไหลไปหัวฉีดที่ผ่านกรองอลูมิเนียมไม่มีแรงดันไหลอ่อนๆ แต่ถ้าใช้นิ้วอุดจะมีแรงดันออกเป็นละออง
เครื่องติดได้ แต่เร่งไม่ได้ครับ ตามที่คุยไว้
ทำไงดี ยังหาไม่เจอปัญหา

ตอบ..บรรดากรองทั้งหลายไม่ตัน..ก็แทบจะไม่เหลืออะไรแล้วครับ..จะว่าต่อสายใดสายหนึ่งผิด..วนผิด..น้ำมันมันก็จะต้องออกที่ท่อใดท่อหนึ่งแต่ที่แจ้งมาก็ไม่ค่อยมีน้ำมันออกซักท่อ..ลักษณะเหมือนกับว่าปั๊มติ๊กหัวฉีดตัวนี้ไม่ค่อยมีแรงดันครับ
ตอนนี้ก็เลยลองตั้งประเด็นขึ้นมา..3ประเด็นคือ
1.ระบบไฟ(เผื่อไว้ก่อน)..พวกตัวRelayเปิดวงจรกับRelayปั๊มติ๊กต้องต่อครบสมบูรณ์หมด..(ตรวจเช็คได้จากการเปิดสวิทช์กุญแจที่เมื่อบิดมาตำแหน่งonแล้วต้องมีเสียงRelayทำงานเปิดวงจร..ช่วงนี้น้ำมันก็จะฉีดมา..ปั๊มติ๊กก็จะต้องทำงาน..พอถ้าไม่บิดสตาร์ทภายในระยะเวลาเพียง4-5วินาทีRelayปั๊มติ๊กก็จะตัดการทำงานไป...ดังนั้นเมื่อบิดมาOnพี่จะต้องได้ยินเสียงRelayทำงาน(แต๊กที่1พร้อมกับเสียงน้ำมันที่ฉีดมา)แล้วเว้นไป4-5วินาที(แต๊กที่2พร้อมกับเสียงน้ำมันหยุด)..ถ้ามี2แต๊กจากRelay..2ตัวก็จบเรื่องระบบไฟ

2.ต่อสายน้ำมันวนถูกหรือไม่..จากรูปน้ำมันจากถังน้ำมันจะมาเข้าที่เลข1โดยผ่านกรองน้ำมันแบบพลาสติก..แล้วก็มาเข้าตัวปั๊มหัวฉีด..ก่อนที่จะออกไปเลข2ที่เป็นกรองมิเนียมของปั๊มแรงดันเพื่อที่จะไปยังรางหัวฉีดที่เครื่องยนต์..ส่วนหมายเลข3ที่แยกออกไประหว่างที่1จะไป2นั้นแยกไปเรกูเรเตอร์ของตัวปั๊มใช่ไหมครับพี่..พี่ได้ต่อวนกลับเป็นสายน้ำมันกลับลงถังเวลามันฉีดแรงดันเกินใช่ไหมครับ..ซึ่งจากทั้งหมดที่ดูมาก็น่าจะต่อถูกทั้งหมดแล้วครับ..กรองก็ไม่ตัน(ลองเอาลมเป่าไล่แล้วใช่ไหมครับ)..เรกูเรเตอร์ก็ไม่น่าจะเสียถึงจะเสียก็น้ำมันก็จะวนกลับแบบมาตรฐานรถทั่วไป..ยังไงอย่าลืมเช็คสายกราวด์ที่ตัวปั๊มด้วยนะครับ(ขั้วหลวมหรือสายขาดในหักในหรือเปล่า)

3.ปั๊มติ๊กที่ซื้อมาไม่มีแรงดัน..จริงๆแล้วปั๊มนอกถังของยี่ห้อBosch..จะมีแรงดันที่สูงกว่าพวกปั๊มในถังทั่วๆไปอยู่แล้วสำหรับการใช้งานกับรถที่ใหญ่ระดับเครื่อง3-4พันซีซี..แต่ในจุดนี้พี่บอกว่าพอตัวปั๊มมันทำงานมันฉีดน้ำมันออกมาน้อยมากเหมือนไม่มีแรงดัน..ก็สันนิษฐานได้ว่า..อาจจะมีปัญหามาจากปั๊มตัวนี้..ยังไงเช็คได้ง่ายๆครับโดยเอาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันมาต่อระหว่างปั๊มกับรางหัวฉีดครับ(ตรงจุดไหนก็ได้)หรือถอดออกมาลองต่อวนข้างนอกเลยก็ได้..ถ้าปั๊มทำงานแล้วเกจ์วัดมันขึ้นไม่ถึง30ปอนด์ถอดออกสถานเดียวครับ..เพราะถือว่าปั๊มไม่มีแรง..ใช้ไม่ได้.เพราะว่าโดยปกติแล้วปั๊มหัวฉีดไม่ว่าจะในถังหรือนอกถังจะต้องทำงานได้อยู่ในระดับ30-40ปอนด์(หรือประมาณ2.5บาร์)

(ยังไงลองดูนะครับ)

คำตอบที่ 130
       ขอบคุณมากครับสอ ที่ให้ความกระจ่าง...งานเยอะไม่เป็นไร ขอให้สนุกกับงานที่ทำครับ
เอ็ม

คำตอบที่ 131
       ขอบคุณมากครับสอ ที่ให้ความกระจ่าง...งานเยอะไม่เป็นไร ขอให้สนุกกับงานที่ทำครับ
เอ็ม

คำตอบที่ 132
      

ขอบคุณมากๆ ครับคุณสอ

คำตอบที่ 133
       คุณสอ ปั้มติ๊กรุ่นนี้มันมี เรกูเรต ในตัวโดยจะออกที่สายหมายเลข 3 ดังนั้นเมื่อปั้มทำงานมันจะไม่ฉีดน้ำมันออกจนกว่าจะมีแรงดันที่สายหมายเลข 3
ผมลองอุดดู ปารกฎว่ามีแรงดันน้ำมันออกที่สายหมานเลข 2 เข้ากรองครับ ดังนั้นถือว่าปั้มทำงานใช้ได้ครับ แล้วไปใช้ เรกูเรตที่ตัวรางหัวฉีดแทนครับ
แล้วมี่เครื่องติดแต่เร่งไมขึ้นก็เกิดจากการที่หัวฉีดไมได้ทำงานนานๆก็จะตายครับ ทางเชียงกงให้ทำการเขี่ยหัวฉีดโดยการกระตุ้นให้เกิดการช็อตลงกราว์ครับ ตอนนี้ทุกอย่าทำงานเป็นปกติ รถออกว่งได้แล้วครับ

คำตอบที่ 134
       ขอขอบพระคุณ คุณสอมากครับที่ให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ ทำให้ประสบห์ความสำเร็จครับ ผมไม่เคยวางเครื่องหัวฉีดที่มีระบบไฟฟ้าและสายไฟที่ยุ่งยากแบบนี้มาก่อน ทำให้ใช้เวลาในการทำ เฉพาะระบบไฟก็ราวๆ 3 สัปดาห์ แต่ทำวันละ 3-4 ชั่วโมงนะครับ ทำนานๆไม่ได้เครียดครับ วางเครื่องลงใช้เวลา 2 วันเอง ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น ล้างแล้วครับออกวิ่งแล้ว

คำตอบที่ 135
       ยินดีด้วยครับพี่Kero..ได้ใช้รถแล้ว..ถ้าได้ลองไปใช้วิ่งยาวๆก็น่าจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้นอีก..
(ยังไงก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ)

คำตอบที่ 136
       ของพี่MixerKCB..เดี๋ยวยังไงจะผ่านไปทางเมล์ให้นะครับ

คำตอบที่ 137
       ตอบให้พี่MixerKCBไปให้ทางเมล์แล้วนะครับ(ยังไงลองพิจารณาดูนะครับ..ม้วนเดียวจบ..ไม่ต้องไล่แก้ไข)

คำตอบที่ 138
      

คำตอบที่ 139
       (ตอบคุณNoWhite)
สอบถามเรื่องเฟืองท้ายครับ
ซูตู้ปลา เครื่องคาร์บู 1300 เกียร์เดิม ตอนนี้ยาง 215 70 15

หากเปลี่ยนเป็นยาง 31 หรือ 32 ควรปรับ แต่ง พวก เกียร์ หรือ เฟืองท้าย อย่างไรบ้างครับ

ที่อ่านๆ มา ให้เปี่ยนเป็นเกียร์ 1000 บ้าง 650 บ้าง หรือ ไม่ก็เปลี่ยนเฟืองท้ายเป็น 8 41

หลายสูตร พยายามทำความเข้าใจก็ยัง งง ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตอบ..สำหรับรถตู้ปลาเฟืองเดิม..ถ้าจะเปลี่ยนเป็นยาง31หรือ32นิ้ว..จะต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของอัตราทดของระบบส่งกำลังเพื่อให้มีความเหมาะสมกับขนาดยางที่เลือกใส่ครับ
1.เกียร์1000(2.5รอบ)
จริงๆแล้วถ้านำมาใช้กับตู้ปลา..ผมว่ากำลังจะขาดไปหน่อยครับ..เพราะรถค่อนข้างมีน้ำหนัก(ตู้ปลา)บวกกับเครื่องยนต์ที่เป็นคาร์บูตามสภาพอายุการใช้งาน..ดังนั้นน่าจะเหมาะกับพวกSportyหรือSportmindมากกว่าครับ..ยิ่งถ้าหากรถมีโหลดสัมภาระด้วยแล้วเดี๋ยวจะขับเหนื่อยมากขึ้นไปอีก..โดยทั่วๆไปการเปลี่ยนเกียร์1000นั้นจะช่วยในเรื่องอัตราทดได้อยู่ในประมาณ10-15%ครับ..และจะเห็นผลได้ชัดเจนกับยางขนาด235/30นิ้ว..แต่ถ้ายางขนาด31นิ้วจะเห็นผลน้อยหน่อย

2.เกียร์650(3รอบ)
เกียร์650กับยางขนาด..31-32นิ้ว..ค่อนข้างโอเคครับ..สำหรับการใช้งานแบบทั่วไปและเน้นทางดำเป็นหลัก..คือรถสามารถวิ่งได้คล้ายๆรถสแตนดาร์ดเดิมครับ..เพราะเกียร์650ค่อนข้างมีอัตราทดที่สูงสุดของเกียร์ทดคาริเบี้ยนแล้ว(ไม่นับรวมพวก4รอบ/6รอบนะครับ)..อีกอย่างการเปลี่ยนที่ตัวเกียร์สโลว์จะค่อนข้างประหยัดงบมากที่สุดแล้ว
แต่...สำหรับการใช้งานในระยะยาวรวมทั้งการใช้งานในรูปแบบออฟโรดนั้น..พวกเกียร์650จะมีอัตราการสึกหรอที่มากกว่าเกียร์ทั่วๆไปเพราะว่าชุดเฟืองเกียร์นั้นเป็นชุดที่เล็กกว่าพวกเกียร์1300และเกียร์1000..และอย่าลืมว่าการเซ็ตอัตราทดโดยใช้วิธีเซ็ตที่ตัวเกียร์สโลว์นั้น..ถึงแม้ว่าจะทดเยอะจริงแต่ก็ยังคงไปปั่นเฟืองท้ายหน้า/หลังที่เป็นเฟืองเร็วเดิมๆอยู่..นั่นคือ..11.43..ดังนั้นเมื่อมีการใช้งานหนักๆจริงๆแล้วอย่างเช่น..การขับขี่ขึ้นเขาต่อเนื่องหลายๆช่วงแล้วต้องบี้คันเร่งบ่อยๆอาจจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องของความร้อน(อย่างเช่น..เส้นสังขละบุรี..ขึ้นอีต่อง)..เพราะว่าเครื่องยนต์จะดันรอบขึ้นสูงแต่เฟืองท้ายดันไม่ค่อยไปทำให้โหลดที่ตัวเครื่องยนต์ครับ..จะมีผลต่อเรื่องความร้อนและอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงอีกด้วย

3.เฟือง8.41
การเปลี่ยนเฟืองค่อนข้างที่จะแก้ปัญหาได้ต้นเหตุมากที่สุด..เพราะไม่มีจุดไหนที่โหลดรับภาระเพราะรถจะใช้เครื่องวิ่ง50%และเฟืองวิ่งอีก50%..ทุกๆอย่างจะช่วยบาลานซ์ได้อย่างเหมาะสม..แตกต่างจากสโลว์650ที่ต้องใช้เครื่องวิ่งถึง80%ที่เหลือคือสโลว์อีก20%ส่วนเฟืองแทบไม่ช่วยเลย
ส่วนเรื่องขนาดยาง31นิ้ว..กับเฟือง8.41นั้น..อาจจะเหลือนิดหน่อยสำหรับพวกSporty..แต่ถ้าเป็นตู้ปลาผมว่าใช้ได้เลยครับ
ส่วนยาง32นิ้ว..กับเฟือง8.41...ก็ใช้ได้ครับ

คำตอบที่ 140
       ขอรบกวนสอบถามคุณสอครับ
ผมวางเครื่องG16Aครับตอนนี้รถมีปัญหาเรื่องแอร์ครับ ผมใช้คอมแอร์507 เวลาวิ่งด้วยโหมดน้ำมันแอร์จะฉุดรถมากครับวิ่งไม่ออกเลย แต่ถ้าใช้เป็นโหมดแก๊สจะฉุดไม่มาก รอบเครื่องยนต์ไม่ตกนะครับทั้งน้ำมันและแก๊ส รบกวนสอบถามว่าควรจะเปลี่ยนคอมแอร์ให้เล็กลงจะสามารถแก้ไขได้หรือเปล่าครับ

คำตอบที่ 141
       (ตอบคุณlexman)
ขอรบกวนสอบถามคุณสอครับ
ผมวางเครื่องG16Aครับตอนนี้รถมีปัญหาเรื่องแอร์ครับ ผมใช้คอมแอร์507 เวลาวิ่งด้วยโหมดน้ำมันแอร์จะฉุดรถมากครับวิ่งไม่ออกเลย แต่ถ้าใช้เป็นโหมดแก๊สจะฉุดไม่มาก รอบเครื่องยนต์ไม่ตกนะครับทั้งน้ำมันและแก๊ส รบกวนสอบถามว่าควรจะเปลี่ยนคอมแอร์ให้เล็กลงจะสามารถแก้ไขได้หรือเปล่าครับ

ตอบ..จริงๆแล้วการที่คอมแอร์จะฉุดมากฉุดน้อยมันมีหลายสาเหตุครับ..อย่างเช่น..
-เติมน้ำมันคอมแอร์มากเกินไป..ก็จะดึงเครื่องยนต์เวลาเปิดแอร์
-หรือเปิดแอร์แล้วเครื่องไม่ชดเชยรอบให้รอบเครื่องก็จะตก..ก็แสดงว่าตัวชดเชยรอบแอร์ไม่ทำงานหรือทำงานไม่เต็มที่..อาจจะค้าง/เสีย..สกปรก..ซึ่งก็จะต้องถอดออกมาล้าง
-หรือต่อสายไฟไม่ครบ..เดินระบบผิด..หรือสายไฟขาดใน(เช็คได้ด้วยการTestlamp)
(ทดสอบได้จากการที่รถจอดเฉยๆแล้วเปิด/ปิดแอร์..ถ้ารอบเครื่องไม่ถูกดึงลงมามากก็ไม่น่าใช่ปัญหาครับ..ปกติก็จะอยู่800-1000รอบครับ)

ซึ่งในที่นี้ตามที่ได้แจ้งมาว่า"รอบเครื่องยนต์ไม่ตกนะครับทั้งน้ำมันและแก๊ส"..ก็ไม่น่าจะใช่สาเหตุจากที่กล่าวมาครับ..เพราะรอบเครื่องชดเชยให้รอบไม่ตกแล้ว..และอีกอย่างก็คือ..การที่รอบเครื่องจะตกหรือไม่ตกเวลาเปิดแอร์นั้นมันจะต้องเป็นทั้งแก๊สและน้ำมันครับ(ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน..ไม่ใช่น้ำมันฉุดมากหรือแก๊สฉุดน้อย)

ส่วนเรื่องของคอม507..ก็เป็นไปได้ที่อาจจะฉุดเครื่องมากกว่าคอมแอร์กระป๋องของวีทาร่าทั่วๆไป..แต่อย่างที่บอกครับว่า..มันก็จะต้องฉุดเหมือนกันทั้งแก๊สและน้ำมัน
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาอาจจะไม่ได้เป็นที่คอมแอร์ก็ได้ครับ..ดังนั้นถ้าหากถามว่าเปลี่ยนคอมแอร์เป็นของเดิม(คอมกระป๋อง)แล้วจะแก้ปัญหาได้ไหม..คำตอบอาจจะแก้ไม่ได้ก็ได้ครับ

(ทั้งหมดสามารถตรวจสอบปัญหาได้โดยการปิดระบบแอร์แล้วลองวิ่งดู..ถ้ายังคงมีอาการฉุดเครื่องยนต์อยู่ทั้งแก๊สและน้ำมัน..ก็ไม่ใช่ระบบแอร์แล้วครับ)

คำถาม?
ไม่ทราบว่า..รถพี่เป็นเครื่อง..5สายหรือเปล่าครับ??...ถ้าเป็นเครื่อง5สาย..พี่อาจจะเจอกับปัญหาของระบบแอร์โฟลแบบลูกชักกับการวางตำแหน่งของMixerอยู่ก็เป็นได้ครับ
หรือถ้ารถพี่เป็นเครื่อง..3สาย..ก็น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการวางตำแหน่งMixerกับรูขนาดมิลของMixerที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่วาง..หรือไม่เหมาะสมกับหม้อต้มที่ใช้อยู่
ซึ่งทั้ง..2อย่างที่ว่านี้..มีผลโดยตรงกับการที่เครื่องยนต์วิ่งใช้งานครับ..เช่น..Mixerกว้างเกินไปจนหลุด..Mixerขวางท่ออากาศและทำงานซ้ำซ้อนกันกับตัวลูกชักของเครื่อง5สาย..ทำให้อากาศเข้าไม่พอหรือไม่สัมพันธ์กันกับปริมาณแก๊สที่จ่าย..เหยียบคันเร่งแล้วไม่ค่อยขึ้นเหมือนติดๆดึงๆ..ยิ่งเหยียบลงไปมากๆยิ่งติดๆดึงๆเข้าไปอีก..ต้องขับแบบค่อยๆเหยียบรอบถึงค่อยๆขึ้น

คำตอบที่ 142
       ขอรบกวนพี่สอคับกำลังจะใส่มาลัยพาเวอร์ให้กับตู้ปลานอกจากของซูกิแล้วจะเอาของรุ่นไหนใส่ใด้บ้างคับ ดัดแปลงน้อยสุด ขอรบกวนคับ

คำตอบที่ 143
       (ฝากรูปตำแหน่งโช้คกันสบัดให้พี่กริช)
ตำแหน่งที่1(แบบทั่วๆไป)
รูปนี้จะเป็นตำแหน่งทั่วๆไปที่ติดตั้งกัน..จะเป็นตำแหน่งหน้าเสื้อเพลาโดยเกาะที่คันชักตัวล่างครับ..แต่ต้องแก้ไขดัดแปลงตัดต่อขายึดให้ยาวใหม่พร้อมกับดามเสริมความแข็งแรง..เพราะถ้าหากเอาขายึดตามท้องตลาดมาติดตั้งเข้าไปมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเลี้ยวซ้ายสุดหรือขวาสุดจะเฉี่ยวกับเสื้อเพลา..อีกทั้งยังงัดขืนกันกับลูกยางที่เดือยโช้คทำให้เสียเร็วด้วยครับ

คำตอบที่ 144
       อันนี้เป็นตำแหน่งรูปด้านหลังครับ..เป็นเหล็กร้อยคล้องยึดกับเสื้อเพลา

คำตอบที่ 145
       ตำแหน่งที่2
ตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งที่ผมปรับแต่งยึดลงไปใหม่ครับ..เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบออฟโรดมากขึ้น..โดยจะยึดอยู่ที่คันส่งตัวบนครับเพื่อให้หลบการปะทะพวกตอไม้..หินขนาดเล็กที่ต้องขับคร่อมซึ่งอาจจะแขวนและทำให้กันสะบัดเสียหายได้..ทำให้รั่ว..โช้คบุบ..หรือแกนคด..แต่ตำแหน่งนี้จะต้องสร้างตัวยึดขึ้นมาใหม่ที่เสื้อเพลาบนเฟืองท้ายครับ

การยึดกันสะบัดจะต้องลอยอิสระไม่งัดขืนกัน..ทำงานสมบูรณ์แบบ..ก่อนขัดน็อตแน่นต้องลองเลี้ยวซ้ายสุดและขวาสุดเพื่อดูระยะอีกครั้งด้วยครับ

คำตอบที่ 146
       ของคุณboogboon..เดี๋ยวเข้ามาตอบให้อีกทีครับอีกซัก2-3วัน...ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยครับ

(อยากให้วันนึงมีเท่ากับ365วัน)..รอแป๊บนึงนะครับ

คำตอบที่ 147
       ขอบคุณครับน้าสอ กระจ่างแล้วครับ

คำตอบที่ 148
       (ตอบคุณboogboon)
ขอรบกวนพี่สอคับกำลังจะใส่มาลัยพาเวอร์ให้กับตู้ปลานอกจากของซูกิแล้วจะเอาของรุ่นไหนใส่ใด้บ้างคับ ดัดแปลงน้อยสุด ขอรบกวนคับ

ตอบ พวงมาลัยเพาเวอร์ที่จะนำมาใส่กับตู้ปลานั้นมีอยู่หลากรุ่นครับที่สามารถนำมาใช้ดัดแปลงใส่ทดแทนกันได้
เอาเป็นว่าผมแบ่งเป็น 2 ประเภทแล้วกันครับ
1. แบบกระปุกปะด้านในคัทซี อย่างเช่น กระปุกวีทาร่า กระปุกโตโยต้าคราวน์ กระปุกไม่ตี้ กระปุกนิสสัน และอื่นๆที่จะสรรหามาใช้ดัดแปลงกัน
2. แบบกระปุกปะด้านนอกคัทซี อย่างเช่น กระปุกโตโยต้าเซิฟ กระปุกพราโด้ กระปุกVX80

โดยที่การติดตั้งถ้าต้องการแบบดัดแปลงน้อยที่สุดเห็นจะต้องตัดประเภทที่ 2 ออกไปครับ เพราะการดัดแปลงค่อนข้างมากและแพง แถมถ้าทำไม่ดีมีถึงคัทซีร้าวหรือขาดได้ ดังนั้นก็เหลือประเภทที่ 1 (วิเคราะห์กันแบบทีละตัวเลยนะครับ)
1. กระปุกวีทาร่า
จริงๆแล้วก็อยู่ในสังกัดเดียวกันกับคาริเบี้ยน(ซูซูกิเหมือนกัน) ตำแหน่งติดตั้งก็คล้ายๆกัน ระยะวงเลี้ยวต่างๆก็ไม่แตกต่างกันมาก แต่รูยึดจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นวิธีการดัดแปลงที่ง่ายที่สุดคือจะต้องสร้างAdaptorขึ้นมาใหม่เพื่อแปลงรูจากกระปุกมาเข้ากับรูเดิมที่คัทซีของคาริเบี้ยน แต่ก็มีผลเสียที่ตามมาอีกก็คือ ระยะกระปุกก็จะชิดเข้ามาที่ด้านในเครื่องมากขึ้น และที่สำคัญเจ้าตัวกระปุกวีทาร่านี้แกนกระปุกจะเฉียงเข้าไปหาที่ตำแหน่งไดชาร์จทำให้ระยะค่อนข้างชิดเกินไปครับ อีกอย่างขาไก่ของวีทาร่าเป็นลักษณะที่ค่อนข้างตรงไม่ค่อยจะเหมาะกับรถที่เทินเพลาหรือยกสูงมา อาจจะต้องหาขาไก่ดร็อปมาใช้แทนขาไก่ของกระปุกเดิมครับ
กระปุกวีทาร่าหาค่อนข้างง่ายในท้องตลาดครับ ราคาไม่แพง แต่จะแพงตรงแปลงขายึดและขาไก่ดร็อป ที่เห็นมีขายกันจัดกันเป็นเซ็ตก็อยู่ราวๆ 4,000-5,000 บาท โดนขาไก่อีก 1,000-1,500 บาท บวกค่าแรงติดตั้งอีก (ไปๆมาๆบวกลบแล้วถูกกว่ากระปุกแท้ไม่มากครับ)

(เดี๋ยวมาต่อพรุ่งนี้ครับ)

คำตอบที่ 149
       (กว่าจะมาต่อหลายวันเลยครับ)

2. กระปุกโตโยต้าคราวน์
จริงๆแล้วของโตโยต้าคราวน์นั้นมีหลายรุ่นครับ และก็มีทั้งพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา ส่วนใหญ่จะเป็นพวงมาลัยขวา โดยมีรูปแบบในการติดตั้งที่ตำแหน่งด้านในคัทซี และก็มีทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ถ้ารุ่นเก่าๆจะเป็นตัวกระปุกแบบทั่วๆไปคล้ายๆกับของคาริเบี้ยนแต่จะมีขนาดและมิติที่ใหญ่กว่าพอสมควร ส่วนรุ่นใหม่ๆที่มีขายกันจะมีตัวเซ็นเซอร์ไฟที่ตัวกระปุกด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำมาดัดแปลงใช้กับคาริเบี้ยนได้หรือเปล่าเพราะไม่เคยแปลง แต่ถ้าเป็นคราวน์รุ่นเก่าละก็ใส่ได้ครับ

กระปุกพวกนี้ถือว่าเป็นของต่างรุ่น ทำให้พวกตำแหน่งรูยึดไม่ตรงกันกับของคาริเบี้ยน การติดตั้งจึงต้องทำ Adapter อีกเช่นกันเพื่อเป็นการแปลงรูเข้าไปหาตำแหน่งที่คัทซีเดิมครับ และในส่วนของขาไก่ก็ต้องแก้ไขใหม่เพราะของที่ติดมากับกระปุกจะเป็นแบบลูกหมากย้ำมา ต้องกลึงออกแล้วสร้างเทเปอร์ใหม่ให้ตรงกันกับลูกหมากคันชักคันส่งครับ
โดยส่วนตัวแล้วกระปุกของคราวน์นี้(คราวน์รุ่นเก่านะครับ) น่าใช้กว่าของวีทาร่าครับเพราะว่าตำแหน่งและมิติค่อนข้างเหมาะสมกับซูซูกิคาริเบี้ยน ถึงแม้ว่าตัวกระปุกจะใหญ่กว่าแต่พอติดตั้งแล้วกลับไม่เสียเนื้อที่ด้านในมากนัก(คล้ายๆกับว่ามันจะขึ้นไปกว้างที่ด้านบนคัทซีแทนครับ) ก็ถือว่าน่าใช้ครับ
(อย่าลืมนะครับว่า"คราวน์รุ่นเก่า")

หน้าตาเหมือนกับในรูป

คำตอบที่ 150
       อีกรูปครับ อันนี้จะมีการดัดแปลงโดยใช้ Adapter แปลงรูเพื่อยึดในตำแหน่งคัทซีเดิมด้วยครับ จะเป็น Adapter แปลงรูหรือเป็นแบบหัวจมแล้วน็อคดาวน์ก็ได้ครับ

(ภาพจากเว็บ 4x4 ของพี่ที่เคยประกาศขายไว้ ขอยืมรูปด้วยครับ)

คำตอบที่ 151
       จากคำตอบที่ 140
อยากจะเข้าไปให้ k.สอช่วยเช็คระบบให้ไม่รู้ว่าจะสะดวกหรือเปล่าครับ ไม่มีเบอร์k.สอเลยไม่รู้จะติดต่ออย่างครับ 086-0673954 ผมอยู่ ม.เกษตร

คำตอบที่ 152
       ของผมใช้ของ Pajaro โชกุน รุ่น 4 รู แปะนอก ( ดูให้ดีมันมีรุ่น 3 รูด้วย อันนั้นเป็นของปาเหลี่ยม ) ใหญ่ดี รองรับยาง 35 ขึ้นไปสบายๆ ราคาย่อมเยาร์ 4500 บาท
ถ้าใช้ของ Toyota ปราโด มันแพงไปหน่อย 6000-7000 บาท

คำตอบที่ 153
       (ตอบคุณboogboon (ต่อ))
3. กระปุกไมตี้
กระปุกไมตี้นี้ จริงๆแล้วราคาไม่ใช่ว่าจะถูกเท่าไหร่ครับ เพียงแต่ว่าอาจจะหาของแท้จริงๆไม่ได้ ก็เลยเอาของไมตี้มาแปลงใส่ ซึ่งมักจะพบในยุคก่อนๆแต่สำหรับยุคปัจจุบันแล้วไม่ค่อยมีใครเอาของไมตี้มาใส่ซักเท่าไหร่ครับ การดัดแปลงก็เหมือนกันกับ 2 ยี่ห้อแรกที่ได้กล่าวไป รูยึดต่างๆไม่ตรงกับคัทซีเดิม ส่วนความรู้สึกที่ได้จากกระปุกตัวนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกันกับของคาริเบี้ยนแท้ทีเดียวครับ

4. กระปุกนิสสัน(ไม่ทราบรุ่น)
อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับว่า เป็นนิสสันรุ่นไหนแต่เป็นของรถเก๋งแน่นอน ตัวกระปุกค่อนข้างใหญ่ และน่าจะใหญ่เกินไปสำหรับคาริเบี้ยน โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่และที่สำคัญกระปุกค่อนข้างไวครับ ไวในที่นี้คือ การเลี้ยวซ้ายหรือขวาค่อนข้างมีผลต่อล้อในทันที แล้วจำนวนรอบค่อนข้างน้อย รอบกว่าๆก็สุดแล้ว หักเลี้ยวนิดหน่อยรถก็เลี้ยวเยอะในทันที ทันใด ขับไม่คุ้นไม่เคยเลี้ยวเฉี่ยวรั้วเฉี่ยวเสาตามซอยได้ง่ายๆครับ ไม่เหมาะกับรถคาริเบี้ยน

แต่ละยี่ห้อที่กล่าวมาก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป มากบ้างน้อยบ้าง บางทีแล้วทำเสร็จอาจจะถูกกว่าของคาริเบี้ยนแท้ๆอยู่ไม่น่าจะเกิน 2,000 บาท(ในแบบติดตั้งเบ็ดเสร็จทั้งหมดแล้ว) ยังไงก็ลองพิจารณาดูอีกทีนะครับ

คำตอบที่ 154
       (ตอบพี่ Lexman)
จากคำตอบที่ 140
อยากจะเข้าไปให้ k.สอช่วยเช็คระบบให้ไม่รู้ว่าจะสะดวกหรือเปล่าครับ ไม่มีเบอร์k.สอเลยไม่รู้จะติดต่ออย่างครับ 086-0673954 ผมอยู่ ม.เกษตร

ตอบ ช่วงนี้ไม่ว่างเลยจริงๆครับ แต่ถ้าพอมองๆดูๆ หรือวิเคาระห์ก็อาจจะพอได้ครับ เบอร์โทรครับ 081-754-5376 (บางทีถ้าติดงานอยู่ก็อาจจะไม่ได้รับโทรศัพท์นะครับ ยังไงขอโทษล่วงหน้าก่อนครับ)

(ตอบพี่Kero)
สวัสดีครับพี่ พี่เอาเจ้า TD ออกแล้วจะไปวางอะไรครับ??
อย่าบอกว่า G16A นะครับ

คำตอบที่ 155
       ตอบ คุณสอ คงหนีไม่พ้น G16 A ครับ พอลองใช้ดุใน Vitara 3D แล้วมันแรงดีครับ ดอนนี้มีปัญหาอยู่อย่างคือเข้าเกียร์ D และ R มันจะกระตุกเหมือนขับเกียร์ธรรมดาแล้วออกตัวกระชากคลัช กำลังหาจุดปัญหาอยู่ครับ แต่โดยรวมเป็นที่พอใจครับ เลยมีความสุขกับเจ้า G16 A แล้วครับ
สาเหตุที่ยก TD27 TURBO ลงก็เพราะในกลุ่มเน้นเดินทางไกล แล้วมีติดปลายนวมนิดหน่อย เลยทำให้เวลาเอาเจ้าน้อง Vitara 3 D ไปแล้วหมดสนุก สงสารมัน
ตามความคิดเห็นของผม พี่แสงลงToyota 3S ก็ใช่ว่าจะจบง่ายๆ ค่าเครื่องรวมเกียร์ 18K แต่เจ้า G16 A ตอนนี้ 29-32K แต่ผมว่ามันจะจบง่ายกว่า
แล้วก็มีประสบการณ์แล้วก็เลยคิดว่าน่าจะเหมาะสมที่สุด อีกอย่างกะว่าจะเอาเกียร์ธรรมดาติดมาเก็บไว้ด้วยเผื่ออนาคต เจ่าเกียร์ Auto เสียจะได้ยกสับกันไปเลย ถ้าแยกเครื่องแยกเกียร์ราคามันลดไม่ลง

คำตอบที่ 156
       แหม...เดี๋ยวนี้ใช้กันหลายคันเลยนะครับในกลุ่ม
อย่างนี้ต้องเรียกว่า "ทนกระแสความแรง G16A ไม่ไหว" แทนแล้วครับ

ว่าแต่ว่า Step G16A+คานJeep8.43+ยาง 35 นิ้ว ผมว่าใช้ได้ทีเดียวเลยครับ ปลายได้ซัก 120-125 กม./ชม.ได้ครับ (ทั้งแก๊สและน้ำมัน)

คำตอบที่ 157
       เกียร์ออโต้ ตัวนี้ เรียงอัตราทด ตามเกียร์ เมื่อเทียบกับเกียร์เดิม ต่างกันไหมครับ
เกียร์ 1 - 5 ของเดิมเท่าไร
ตัวนี้ เท่าไร
แล้วสโลว์ ที่ติดท้ายเกียร์มา เทียบเป็นสโลว์เบอร์อะไรครับ

คำตอบที่ 158
       น้ากวาง จะวางเมื่อไรครับ
ถ้าว่าง จะได้ ไปเป็นลูกมือช่วย

คำตอบที่ 159
       Old School Modify

ในรูปแบบเครื่องดีเซลแบบ 2000 เทอร์โบ

คำตอบที่ 160
       นามว่า 2C-Turbo
(Old School Diesel Engine)

โดยมีข้อมูลทางเทคนิคดังนี้
เครื่อง 2C-turbo (จากค่ายโตโยต้า)
4 Cylinder OHC turbo
ขนาดความจุ 2000 ซีซี แบบ 4 สูบเรียง
กระบอกสูบxช่วงชัก 86X85
88 แรงม้า/ 4000 รอบ
แรงบิด 18 กก.ม./ 2200 รอบ

คำตอบที่ 161
       ได้ถูกจัดวางลงไปแบบค่อนข้างรก และเกะกะ เพราะแน่นไปด้วยระบบสายไฟ และการจัดวางที่ดูจะไม่ค่อยเหมาะสม

คำตอบที่ 162
       แน่นและรกไปด้วยชุดสายไฟ Relay และชุดฟิวส์ในแบบต่างๆ

คำตอบที่ 163
       แล้วจะทำอย่างไร??? เพื่อที่จะได้เก็บงานใหม่ให้ดี ค่อยๆจัดระบบ จัดวาง และแก้ไขใหม่เพื่อให้เหมาะสม

คำตอบที่ 164
       (Intro)

ยกตัวอย่างเช่น
- สายคันเร่งที่ยาวมากเกินไป
- สายน้ำจากหม้อน้ำไปเข้ากระป๋องพักน้ำที่ไม่ควรไปอ้อม หรือพาดผ่านเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเครื่องยนต์ (ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ)

คำตอบที่ 165
       สายคันเร่งที่ยาวมากจนเกินความจำเป็น อ้อมวนมาถึงหลังไฟหน้าก่อนที่จะวนเข้าไปที่ข้างหม้อลมเบรค ทำให้ยาวเกะกะ
จริงๆแล้ว ในส่วนของสายคันเร่งนี้จะสั้นหรือจะยาวก็จะต้องดูให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์รุ่นนั้นๆ และก็บอดี้ของรถยี่ห้อนั้นด้วย บางทีแล้วสายคันเร่งที่ยาวกับเครื่องของรถเดิมๆ แต่อาจจะไม่เหมาะสมกับที่มาวางใช้กับรถคาริเบี้ยนครับ

คำตอบที่ 166
       (Intro)

ค่อยๆรื้อ ค่อยๆจัดเก็บระบบ โดยเฉพาะเรื่องของระบบไฟ ทั้งๆที่เป็นเครื่องดีเซล แต่ระบบไฟค่อนข้างยุ่งเหยิงทีเดียวครับ ถ้าให้ดีที่สุดจะต้องรื้อเริ่มต้นกันใหม่ถึงจะสวยและเรียบร้อยครับ
สายไฟบางเส้นลากพาดผ่านแนวยึดหม้อน้ำ ซึ่งเป็นสายไฟเพียวๆ ไม่ได้จัดรวบเป็นหมวดหมู่ อาจจะเกิดปัญหาจากการเสียดสี ลงกราวน์ ช็อต หรือสายไฟขาดได้ครับ

คำตอบที่ 167
       (Intro)

ส่วนสายไฟบางเส้นก็ใช้ไม่เหมาะสม เพราะรวบเข้าไปในท่อกระดูกงู(ท่อโปโล) แต่กลับมีสายไฟอยู่แค่เส้นเดียว ใหญ่เกินความจำเป็น ทำให้เกะกะเทอะทะครับ

คำตอบที่ 168
       (Intro)

กระป๋องไดรเออร์แอร์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ห้องเครื่องดูแน่น เนื่องจากถูกติดตั้งอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม(ใกล้ๆหลังหม้อน้ำฝั่งคนนั่ง) เพราะตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่ทำให้ต้องลากสายแอร์ทั้งสายร้อนและสายเย็นยาวมากเกินความจำเป็น

คำตอบที่ 169
       (Intro)

สายไฟที่นำมาใช้บางทีก็ไม่ใช่สายไฟที่ใช้สำหรับรถยนต์ครับ(สายไฟผิดประเภท) เพราะมีลักษณะเป็นทองแดงแข็ง (ขนาดเท่ากับลวดดัดไม้แขวนเสื้อ) ยากต่อการเข้าโค้งเข้ารูปตามเหลี่ยมห้องเครื่องหรือแม้กระทั่งการรวบเข้าท่อโปโลก็ทำได้ยากเพราะค่อนข้างแข็ง

คำตอบที่ 170
       ได้หัวใจใหม่ให้เจ้า Kero แล้วครับคุณสอ เอาเกียร์ ธรรมดามาเลยไว้เป็น Spare ให้เจ้าตัวเล็ก V 3D เผื่อเบื่อเกียร์ ออโต้

ถาม คุณสอชุดคลัชของ G16A ตัวนี้ชนกับเกียร์เเมน Caribian 1300 ได้ไหมครับ

คำตอบที่ 171
       ต้องเปิดอู่ชั่คราวอีกแล้ว เหนื่อยจริงๆๆๆๆ

คำตอบที่ 172
       คำตอบที่ 156
แหม...เดี๋ยวนี้ใช้กันหลายคันเลยนะครับในกลุ่ม
อย่างนี้ต้องเรียกว่า "ทนกระแสความแรง G16A ไม่ไหว" แทนแล้วครับ

ว่าแต่ว่า Step G16A+คานJeep8.43+ยาง 35 นิ้ว ผมว่าใช้ได้ทีเดียวเลยครับ ปลายได้ซัก 120-125 กม./ชม.ได้ครับ (ทั้งแก๊สและน้ำมัน)

ถามคุณสอ ชุดนี้ของผมมันชนกับเกียร์ Slow ของ Nissan 720 ครับ มันต้องไปใช้ยางเท่าไรดีครับ เน้นทางดำแล้วเดี๋ยวนี้

คำตอบที่ 173
       ติดเเก็สวิทาร่าระบบดูดธรรมดาได้มั้ยพี่

คำตอบที่ 174
       ทำได้ครับ ต้องทำระบบเมื่อเดินแก๊สต้องตัดการทำงานปั้มติ๊ก ไม่งั้นกินน้ำมันด้วย และ ใส่ตััวหลอกหัวฉีดด้วย แต่ต้องจูนดีๆๆไม่งั้น Back fire แอร์โฟร์พัง

คำตอบที่ 175
       (ตอบพี่KERO)
ได้หัวใจใหม่ให้เจ้า Kero แล้วครับคุณสอ เอาเกียร์ ธรรมดามาเลยไว้เป็น Spare ให้เจ้าตัวเล็ก V 3D เผื่อเบื่อเกียร์ ออโต้
ถาม คุณสอชุดคลัชของ G16A ตัวนี้ชนกับเกียร์เเมน Caribian 1300 ได้ไหมครับ

ตอบ ชุดคลัชของ G16A นำมาใช้ได้แต่ผ้าคลัชและจานกดครับ ส่วนฟลายวีลจะใหญ่เกินไปไม่สามารถนำหัวหมูของเกียร์เมน 1300 คาริเบี้ยนครอบชนได้ครับ แต่ถ้าแปลงในส่วนของหัวหมูได้ผมว่า น้ำหนักจะดีมาก สามารถสร้างแรงบิดจากแรงเหวี่ยงของฟลายวีลได้ดีทีเดียวครับ เพราะฟลายวีลของวีทาร่าหนากว่าและใหญ่กว่า

ถามคุณสอ ชุดนี้ของผมมันชนกับเกียร์ Slow ของ Nissan 720 ครับ มันต้องไปใช้ยางเท่าไรดีครับ เน้นทางดำแล้วเดี๋ยวนี้

ตอบ ถ้าเป็นสโลว์ 720 ผมเข้าใจว่า อัตราทดมันน่าจะเป็น 1:1 (จะทดน้อยกว่าสโลว์ 1300 ของคาริเบี้ยน) ถ้าหากว่าเทียบกับเครื่องเดิมที่เป็นดีเซล TD27 ผมว่า น่าจะหายไปบ้างโดยเฉพาะในเรื่องของแรงบิดในตอนออกตัว แต่ก็มาได้ตรงคานจี๊ปที่มีอัตราทดเป็น 8.43 (5.2) ก็น่าจะพอได้อยู่แต่ไม่แน่ใจว่า เจ้าของรถจะพึงพอใจหรือเปล่าสำหรับยางขนาด 35 นิ้ว แต่ถ้าสำหรับผมผมว่า ยางที่เหมาะสมคือ 34 นิ้วครับ เพราะว่าถ้าเป็น 35 นิ้ว+คานจี๊ปมันจะเหมาะสมอยู่ที่สโลว์พวกคาริเบี้ยน 1300/1000 ซึ่งจะมีอัตราทดที่มากกว่า 720 ครับ

(ยังไงก็ลองดูก่อนครับ ถ้าไม่ประทับใจก็ลองหาสโลว์คาริเบี้ยนมาใส่แทน แต่คงต้องเหนื่อยแปลงตำแหน่งจุดยึดจากสโลว์ 720 มาเป็นสโลว์คาริเบี้ยนอีก)

คำตอบที่ 176
       (ต่อครับต่อ)
(Introๆ)

ชุดสายไฟอีกหนึ่งชุดใหญ่ที่ช่างไฟได้ทำการเพิ่มเติมเข้าไป ตรงจุดนี้อธิบายคร่าวๆคือ รถคาริเบี้ยนเป็นรถที่มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วๆไป ดังนั้นวัสดุต่างๆที่นำมาใช้โดยเฉพาะพวกปลั๊กสายไฟต่างๆค่อนข้างมีราคาถูก และไม่สามารถรับโหลดไฟได้มากซักเท่าไหร่ ทำให้บางครั้งเมื่อถึงอายุการใช้งานบ้าง ขั้วปลั๊กเป็นขี้เกลือบ้าง สกปรกบ้าง ไฟเดินได้ไม่ดี ปลั๊กไม่สนิท เวลาโหลดไฟมากๆจึงทำให้ปลั๊กไหม้ และปลั๊กดังกล่าวที่รับโหลดจะเป็นปลั๊กไฟเมนที่เข้าไปในรถจนถึงชุดไฟที่คอพวงมาลัยต่างๆด้วย ทำให้ระบบไฟของรถดับลงทั้งหมด ช่างไฟทั่วๆไปที่ไม่อยากไล่ระบบตรวจเช็คว่า ไหม้ตรงไหน ก็จะทำการแก้ไขโดยการเดินชุดรีเลย์ใหม่โดยลากตรงมาใหม่จากแบต ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุทำให้มีชุดสายไฟที่เพิ่มขึ้นในห้องเครื่องโดยไม่จำเป็น ทำให้รกและแน่นห้องเครื่องโดยใช่เหตุ

แต่ถ้าหากว่าเข้าใจระบบ ก็ไม่ต้องเดินใหม่ให้รก เพียงแต่หาปลั๊กเปลี่ยนใหม่เพียงแค่ตัวเดียวแทนปลั๊กที่ไหม้ก็ใช้งานได้ใหม่หมดเหมือนเดิมครับ

คำตอบที่ 177
       ขอบคุณ คุณสอมากครับสำหรับคำแนะนำดีๆๆ
แล้วมีปัญหาจะขอรบกวนอีกครับ

คำตอบที่ 178
       (Intro ครับ)

รื้ออุปกรณ์ต่างๆออกจนดูโล่งขึ้นเยอะ จะได้เห็นอะไรอย่างชัดเจนมากขึ้น การจะทำอะไรก็จะได้สะดวก หม้อกรอง หม้อน้ำ ชุดสายไฟ แบตเตอรี่ หม้อพักน้ำ กระป๋องน้ำ ถูกรื้อออกไปหมด

คำตอบที่ 179
       (Intro ต่อครับ)

รื้อหลายๆอย่างออก็ลองมองดูด้านล่าง ก็เห็นอะไรชัดเจน มากขึ้น เริ่มต้นจากสายน้ำมัน Power ที่เป็นท่อยางน้ำมันกลับ ได้คดเลี้ยวไปเบียดใกล้ๆกับมูเล่ปั๊มปั่น สีกันจนใกล้จะขาดรั่วแล้ว ตรงจุดนี้บางทีแล้วการวางเครื่องในตอนแรกช่างอาจจะมองว่าห่าง แต่พอใช้งานไปเรื่อยท่ออาจจะเสื่อม หรือบวมนิ่ม อาจจะหักย้อยจนลงมาใกล้มูเล่ได้ ประกอบกับการเป็นเครื่องดีเซลซึ่งมีแรงสั่นสะเทือนที่มากกว่าเครื่องเบนซินยิ่งทำให้เกิดการเสียหายได้ง่ายในระยะยาวครับ

คำตอบที่ 180
       (Intro)

ถอดชุดPower ออกมาก็จะโล่งขึ้นอีก ก็จะสังเกตเห็นจุดยึดต่างๆของแท่นเครื่องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ดูจากเนื้องานแล้วเป็นการนำขาแท่นเครื่องที่คัทซีเดิมมาแก้ไขใหม่
ในจุดนี้สามารถบอกได้เลยครับว่า ถ้าหากไม่ได้วางเครื่องในตระกูลซูซูกิแล้ว แต่ถ้าเอาจุดยึดที่คัทซีเดิมมาดัดแปลงใช้หรือแก้ไขเพื่อใช้กับเครื่องยนต์ตัวใหม่ ค่อนข้างได้ดียากครับ เนื่องจากจุดยึดของโดเว่นที่ยางแท่นเครื่องตัวใหม่จะไม่เท่ากันกับรูยึดที่คัทซีเดิม อีกทั้งจะเป็นการจำกัดมิติในการวางเครื่องตัวใหม่เพื่อให้ได้อยู่ในระดับตำแหน่งที่เหมาะสม หรือในระดับที่พอใจตามที่ต้องการได้ค่อนข้างยากครับ

คำตอบที่ 181
       (Intro)

ผลสืบเนื่องต่อจากการที่นำแท่นเครื่องที่คัทซีเดิมมาดัดแปลงใช้ ทำให้มีลักษณะจุดยึดที่ค่อนข้างสูง พอสูงแล้วการจะให้ได้ระดับเครื่องที่เหมาะสม(ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป) จึงถูกจำกัด และอาจจะส่งผลถึงเซ็นเตอร์ของเครื่องด้วย และสิ่งต่อมาก็คือ ลูกยางแท่นเครื่องที่พอใส่เข้าไปแล้วจากการใช้แท่นเครื่องคัทซีเดิมมาดัดแปลงใช้ต่อ มันก็จะไม่ได้องศาของมัน ทำให้มีผลต่อยางแท่นเครื่องในการรับน้ำหนักของเครื่องตัวใหม่ที่จะวางครับ

คำตอบที่ 182
       (Intro)

องศาของลูกยางแท่นเครื่องถ้าหากว่า เฉียงตั้งมากจนเกินไปก็จะไม่ค่อยเหมาะสม เพราะอาจจะทำให้ลูกยางรับน้ำหนักในแนวดิ่งผิดธรรมชาติตามที่โรงงานได้ออกแบบมา รับน้ำหนักเครื่องได้ไม่เต็มหน้า อายุการใช้งานอาจจะย้วยลงมาได้เร็วกว่าปกติครับ

คำตอบที่ 183
       (Intro)

รื้ออุปกรณ์แทบทุกอย่างออกเกือบหมด เพื่อให้โล่งที่สุด เพียงเพื่อที่จะเก็บงานสายไฟให้ได้ดีที่สุด ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่ กับเพียงแค่เครื่องดีเซลแบบยุคเก่า (Old school Diesel Engine)


แต่พอดูโดยภาพรวมแล้ว ไหนๆรื้อออกมาแล้วมันก็เหลือเพียงแค่เครื่องอยู่อย่างเดียวเท่านั้น อืม.......อืม.......

คำตอบที่ 184
       คือใช้ตู้ปลาปี90 เทินเพลา แหนบกระทิง ประมาณ3'' ยางตะขาบ31'' โตงเตง5นิ้ว โช้คอัพหน้า ยืด22ยุบ13 หลัง23ยุบ14 วัดจากพื้นถึงขอบบังโคลนได้38.3นิ้ว จะสามารถใส่ยางขนาด33 นิ้วได้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องเพิ่มเติมอะใรบ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

คำตอบที่ 185
       (Intro)

ไหนๆก็เหลือแต่เครื่องอย่างเดียว ก็ตั้งระดับเครื่องใหม่ด้วยเลยทีเดียวครับ

คำตอบที่ 186
       (Intro)

เครื่องต้องตั้งระดับใหม่ ก็ส่งผลต่อเนื่องถึงเกียร์ด้วย ต้องเริ่มกันใหม่หมดเลย

(เดี๋ยวคำถามของคุณzu เดี๋ยวเข้ามาตอบให้อีกทีครับ)

คำตอบที่ 187
       (Intro)

เครื่องกับเกียร์ออกไปหมดแล้ว ไหนๆแล้วก็เช็คปั๊มคลัชด้วยเลยซะทีเดียว ว่ายังอยู่ในสภาพดีอยู่หรือเปล่า โดยการถอดออกไปก่อน

ในส่วนของรูปั๊มคลัชนี้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ เพราะเป็นการเจาะโดยใช้แก๊ส จริงๆจะให้ดีต้องใช้หัวเจาะแบบเฉพาะ หรือที่เรียกว่า Holesaw นะครับ เพื่องานที่สวยและเหมาะสมพอดีกับความโตของกระบอกปั๊มคลัช

คำตอบที่ 188
       (Intro)

หัวเจาะแบบนี้จะเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่าครับ บางทีช่างทั่วๆไปอาจจะเอาง่ายเข้าว่า เอะอะอะไรก็ใช้แก๊ส บางทีเจาะรูสว่านยังใช้แก๊สเลย (รูน็อตเบอร์ 10 กลายเป็นเบอร์ 12-14 ทันที) แต่ถ้าหากบางอู่ที่ทำแก๊สก็อาจจะมีหัวเจาะพวกนี้เพื่อเอาไว้เจาะท่อแก๊สครับ ก็สามารถนำมาใช้งานได้เหมือนกันเพราะเป็นหัวเจาะแบบเดียวกัน

คำตอบที่ 189
       (Intro)

หรือถ้าหากว่าเป็นหัวเจาะแบบนี้ก็จะยิ่งดีเข้าไปอีก แต่ก็ใช้กันคนละสถานการณ์กันครับ แต่สามารถใช้งานหนักๆได้ดีกว่า มีความสามารถในการเจาะเหล็กหนาๆได้
ยังไงก็มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ครับ ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน เหล็กหนา เหล็กบาง เหล็กใหญ่ เหล็กเล็ก

คำตอบที่ 190
       (Intro)

ผลเสียจากการเจาะโดยใช้แก๊ส
1. ความคลาดเคลื่อนที่จะไม่ได้ตามขนาดรูที่ต้องการจะใช้ เพราะเป็นการกะเอา
2. เหล็กร้อน เสีย และทำให้เกิดสนิม
3. เกิดความเสียหายในระยะยาว เช่น กรณีที่ยึดน็อตปั๊มคลัชได้ไม่แน่นแนบสนิท อาจจะเกิดน็อตคลายตัวได้เวลาเราเหยียบคลัช ถ้าหากปั๊มคลัชขยับตัวได้อาจจะทำให้กระบอกยางกันฝุ่นขาดได้ง่าย
4. อุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในรถอาจจะเสียหายได้ เช่น ชุดสายไฟหลังคอนโซล(โดยเฉพาะชุดไฟแอร์ในรถ) แผงยึดขาคลัชขาเบรค
5. ถอดใส่ยาก บางทีขัดๆขืนๆ รูไม่ตรง
6. งานไม่สวย (เอาไว้เป็นข้อสุดท้ายครับ เพราะว่า ถ้าหากงานไม่สวยแต่ใช้งานได้ดีจริงๆก็ยังพอทนครับ แต่กลัวว่างานไม่สวยด้วยแล้วแถมใช้งานไม่ค่อยได้ด้วยยิ่งหนักใจ)

คำตอบที่ 191
       (Intro)

แก้ไขให้ดีได้ด้วยการขัดสนิมออกให้หมด
หรือถ้าจะให้ดีที่สุดมันจะต้องตัดออกแล้วปะเข้าไปใหม่ แล้วค่อยเจาะรูปั๊มคลัชใหม่ แต่จะมากเรื่องครับ

คำตอบที่ 192
       (ตอบคุณ zu)
คือใช้ตู้ปลาปี90 เทินเพลา แหนบกระทิง ประมาณ3'' ยางตะขาบ31'' โตงเตง5นิ้ว โช้คอัพหน้า ยืด22ยุบ13 หลัง23ยุบ14 วัดจากพื้นถึงขอบบังโคลนได้38.3นิ้ว จะสามารถใส่ยางขนาด33 นิ้วได้เลยหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องเพิ่มเติมอะใรบ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

ตอบ แหนบ 3 นิ้วยกสูงด้วยการเทินเพลา+โตงเตง 5 นิ้ว ค่อนข้างสูงครับกับยางขนาด 31 นิ้ว จริงๆแล้วก็น่าจะใส่ยางขนาด 33 นิ้วได้แบบพอดีๆ แต่ถ้าหากเลี้ยวซ้ายสุดหรือขวาสุดอาจจะติด หรือถ้าหากนำไปใช้งานในรูปแบบออฟโรดก็จะทำให้มีปัญหาได้ครับ ปัญหาจะอยู่ที่ติดซุ้มล้อด้านหลังนะครับ วิธีแก้แบบไม่เพิ่มความสูงให้กับตัวรถไปมากกว่านี้แล้ว จะต้องใช้วิธีการเดินเพลาหน้าไปด้านหน้ารถซัก 1.5 นิ้วครับ(โดยการเจาะรูเยื้องศูนย์) ก็จะใช้งานได้ต่อโดยที่ใส่ยางขนาด 33 นิ้วได้และความสูงของรถก็ยังเท่าเดิมอีกด้วยครับ
อ้อ....แล้วก็ช่วยเพิ่มช่วงล้อให้ยาวขึ้นอีกด้วยครับ ทำให้ขับดีขึ้นอีกหน่อย

ตามรูป เดินแบบในรูปตัวอย่างนะครับ แต่ในรูปจะเดินค่อนข้างมากเกินไป(ประมาณ 3.5 นิ้ว) ปกติแล้วก็เดินพอให้ห่างซุ้มล้อด้านหลังนิดหน่อยก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องเดินมากๆแบบในรูป

คำตอบที่ 193
       (Intro)

หลังจากที่ขัดสนิมออกแล้วก็พ่นสีรองพื้นกันสนิมและรองพื้นธรรมดาและก็สีจริง

คำตอบที่ 194
       (Intro)

พอพ่นสีจริงเสร็จ ก็แก้ไขใหม่ให้สวยโดยการตัดเหล็กเพื่อปะปิดไป แทนที่จะต้องปะเชื่อมใหม่ทั้งแผง
เอ...แล้วปั๊มคลัชจะไปติดตั้งไว้ตรงไหน?? ในเมื่อปะเหล็กปิดไปแล้ว
เดี๋ยวยังไงก็..เอาไว้ว่ากันทีหลังครับ

คำตอบที่ 195
       (Intro)

ขายึดหม้อกรองอากาศเดิม จริงๆแล้วถ้าหากไม่ได้ใช้อะไรก็เจาะออกไปก็ได้ครับจะได้ไม่เกะกะ เกะกะในที่นี้ก็คือ การถอดเปลี่ยนยางแท่นเครื่อง การถอดเปลี่ยนไดสตาร์ท หรือชุดเทอร์โบของเครื่องยนต์ที่จะวางลงไปใหม่ที่อาจจะมีมิติเครื่องที่ใหญ่กว่าของเดิมค่อนข้างมาก ซึ่งก็จะทำให้การซ่อมบำรุงนั้นง่ายขึ้นครับ

คำตอบที่ 196
       (Intro)

เจาะออกไป ข้างใต้จะเป็นจุดที่มักจะเกิดสนิม เนื่องจากสีที่พ่นไม่ถึง จุดนี้ถ้าหากเราเจาะออกไปได้ ยังไงก็เก็บงานสีด้วยนะครับ เดี๋ยวผุทะลุ

คำตอบที่ 197
       (Intro)

ตั้งเครื่อง....(ใหม่) ก็จะต้องเลาะแท่นเครื่องเก่าออก เพื่อหาตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมที่สุด และแน่นอนที่สุดก็คือ เมื่อเครื่องมีตำแหน่งที่ผิดไปจากของเดิมก็จะต้องบานปลายต่อเนื่องไปถึงเกียร์สโลว์ที่จะต้องตั้งใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่ว่า เอาตำแหน่งเกียร์สโลว์มาเป็นตัวกำหนดการวางเครื่อง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสร้างดัดแปลงอะไรมากมาย ถ้าขืนเป็นเช่นนั้นรับรองว่า ทำยังไงก็ไม่ได้ดีครับ แถมจะไม่จบอีกด้วย