คำตอบที่ 1
       (เริ่มต้นการเปิดประเด็นการวางเครื่อง 3S-FE เกียร์ AUTO นับแต่บัดนี้)

คำตอบที่ 2
       เริ่มจากข้อมูลทางเทคนิคของเครื่อง ดังนี้
- เครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบเรียง
- 4 DOHC 16 V.
- ขนาดความจุ 2000 ซีซี
- กระบอกสูบxช่วงชัก 86x86
- แรงม้า 130/5600 รอบ
- แรงบิด 18.5/4400 รอบ

**เป็นเครื่องยนต์ที่มีทั้งระบบเกียร์แบบธรรมดา(M/T) และเกียร์ Auto**
เกียร์ธรรมดาในที่นี้คือ เกียร์แท้ๆของเครื่อง 3S เลยนะครับ

ส่วนรถที่ใช้เจ้าเครื่องตัวนี้ หลักๆจะมักพบอยู่ใน TOWNACE,LITEACE และ NOAH (ซึ่งในรุ่นดังกล่าว จะผลิตควบคู่กับเครื่องยนต์แบบดีเซล จำพวก 3C-E/ 3C-TE/ 3C-T อีกด้วย)
ส่วนรุ่นหลังๆที่ผลิตออกมาจะมีเครื่องยนต์ที่ใหม่ขึ้นมาโดยที่ยังคงมีสเปคเหมือนเดิมเพียงแต่อยู่ในรถรุ่นที่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น NADIA,GAIA,IPSUM,RAV 4 ซึ่งรูปแบบของเครื่องยนต์ก็จะผิดแปลกไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์ สายเกียร์ กรองอากาศ และเซ็นเซอร์ต่างๆตามจุดต่างๆ

คำตอบที่ 3
       ดีใจจัง รอชมครับ รอมานานแล้ว นึกว่าจะรักแต่ G16A อย่างเดียว
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับน้องสออออออ.

คำตอบที่ 4
       (โอเคครับ)

แล้วเจ้ารถ TOWNACE,LITEACE หรือ NOAH อะไรเนี่ยมันเป็นรถแบบไหน??

รถพวกนี้จัดอยู่ในรถประเภทมินิแวน แบบ 8 ที่นั่ง ปีผลิตน่าจะเริ่มตั้งแต่ 1996-2004 (ตามในคู่มือ Service Mannual) โดยที่ในปีดังกล่าวจะอยู่ในช่วงที่ได้ใช้เครื่องในรหัส 3S-FE, 5K, 7K/7K-E, 2C, 3C/3C-E/3C-TE แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า รถรุ่นนี้จะเลิกผลิตนะครับ เพียงแต่ว่าหลังจากปี 2004 ขึ้นไปแล้วนั้นจะเป็นเครื่องรุ่นที่ใหม่ขึ้นไปอีก และก็ยังคงผลิตไล่ขึ้นมาจนถึง ปี 2010 ด้วยครับ
ในส่วนของเครื่องยนต์ 3S-FE แบบเบนซินนั้น ในช่วงปี 1996-2004 จะเป็นเครื่องที่มีสเปคแรงม้าอยู่ที่ 130 แรงม้า ส่วนในปี 2001-2010 จะเป็นเครื่องที่มีสเปคแรงม้าอยู่ที่ 156 แรงม้า(แต่ในเชียงกงบ้านเรานั้นยังคงมีเข้ามาน้อยอยู่ครับ ไม่ค่อยได้เห็น เห็นอย่างมากก็ปี 1999-2000) โดยทั้ง 2 แบบนี้ยังคงระดับซีซีอยู่ที่ 2000 ซีซีเหมือนเดิม และในคู่มือยังระบุด้วยอีกว่า ระบบเชื้อเพลิงให้ใช้เบนซิน 95 เท่านั้น จริงๆแล้วก็น่าจะเติม 91 ได้เหมือนกันแต่ทว่าเครื่องยนต์พวกนี้เป็นเครื่องในตระกูล Direct coil ซึ่งไม่มีจานจ่ายทำให้ไม่สามารถปรับตั้งไฟให้ได้ตามความเหมาะสมของประเภทเชื้อเพลิงที่จะใช้ และรถประเภทนี้ไม่รู้ว่าประเทศรัสเซียนำเข้าไปใช้กันเยอะหรือเปล่า (เห็นคู่มือเป็นภาษารัสเซีย)

คำตอบที่ 5
       หน้าตารถแบบเต็มคันครับ เป็นลักษณะมินิแวนแบบ 8 ที่นั่ง คนนั่งกันมากๆเครื่องยนต์ยังสามารถแบกรับภาระโหลดบรรทุกได้สำหรับการใช้งานแบบเต็มรูปแบบครับ

คำตอบที่ 6
       อันนี้อีกภาพครับ เป็นรุ่นที่น่าจะใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย โคมไฟหน้าเป็นไฟเต็มแล้ว แต่ยังคงเครื่องยนต์แบบเดิมอยู่ คือ 2000 เบนซิน แต่อาจจะปีใหม่ขึ้นและอาจจะไม่มีสาย Kickdown เกียร์ออโต้

คำตอบที่ 7
       (กลับมาที่หน้างาน)
สภาพเครื่องพร้อมเกียร์ออโต้ ตอนห้อยอยู่ครับ อุปกรณ์ติดเครื่องครบถ้วนสมบูรณ์

คำตอบที่ 8
       อีกด้านครับ อุปกรณ์ติดเครื่องทั้งหมด เน้นเป็นของเครื่อง 3S ทั้งหมดทุกๆชิ้นส่วนครับ เพื่อความถูกต้องและตรงรุ่น ถ้าหากมีการซ่อมแซมจะได้กำหนดชื่อรุ่นได้ถูก แต่ยังไงก็ค่อนข้างสบายอยู่แล้วครับ เพราะความที่เป็นโตโยต้าอะไหล่ส่วนใหญ่ถ้าหากหาไม่ได้สามารถหาเทียบๆได้หลากหลายรุ่นครับ หรือไม่ก็ของตัว 3S ขับหน้าก็มีอยู่หลายชิ้นส่วนที่ใช้ร่วมกันได้

(เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่ากันต่อครัรบ)

คำตอบที่ 9
       กล่องฟิวส์ติดเครื่องยนต์มาจะเป็นแบบใหญ่ๆ ดูแล้วค่อนข้างยุ่งยากต่อการนำมาใช้ร่วมกันกับคาริเบี้ยน ซึ่งเป็นรถที่มีเนื้อที่ภายในห้องเครื่องค่อนข้างน้อย ในจุดนี้เองจึงเป็นที่มาของการที่เราจะต้องสร้างระบบ Relay ต่างๆขึ้นมาทดแทนชุดเดิมที่อยู่ในกล่อง (จะกล่าวอีกทีในช่วงหลังครับ)

คำตอบที่ 10
       แจ้งอีกทีครับว่า เครื่องยนต์รุ่นนี้มาจากค่าย "TOY" นะครับ
(โตโยต้า) เดี๋ยวอ่านๆไปเดี๋ยวจะงง

คำตอบที่ 11
       ในส่วนของท่อยางน้ำด้านบนที่จะวนเข้าหม้อน้ำจะต้องขาวนวล อันเนื่องมาจากการใส่น้ำยาหม้อน้ำ ซึ่งเครื่องยนต์จากญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วมักจะใส่เพื่อเป็นการถนอมท่อน้ำต่างๆ ของเครื่องยนต์

คำตอบที่ 12
       เพลาสวมท้ายเกียร์จะต้องราบเรียบ ลูบไม่สดุด และไม่โดนซีลกัดเป็นร่องครับ

คำตอบที่ 13
       ในส่วนของยอยท้ายเกียร์จะเห็นว่า เป็นลักษณะแบบยอยย้ำ ไม่สามารถซ่อมบำรุงได้หรืออาจได้แต่ไม่คุ้ม เนื่องจากยากต่อการถอดเปลี่ยนยอยกากบาท(ทางโรงงานไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ถอดเปลี่ยน) การตรวจเช็คก็ถือว่าค่อนข้างยากเพราะเพลาที่คาอยู่ระหว่างเกียร์จนไปถึงเฟืองท้ายลูกหลังถ้าไม่หลวมคลอนจริงก็จะจับโยกไม่รู้สึกครับ ต้องถอดเพลากลางออกมาโยกถึงจะตรวจเช็คได้ ส่วนใหญ่แล้วเครื่องที่มาจากญี่ปุ่นเจ้ายอยตัวนี้มักจะเสียครับ(กว่า 95%) เหมือนกันกับยอยท้ายเกียร์ที่มากับเครื่อง J ซึ่งก็เป็นยอยแบบย้ำเหมือนกันครับ

(อาการเสียหรือเริ่มไม่ค่อยดี คือ จับหักซ้ายหักขวาแล้วเริ่มงัดๆขัดๆ)

(ตรงจุดนี้จะเอ่ยอีกทีในตอนหลังครับ)

คำตอบที่ 14
       ตรวจเช็คความเรียบร้อยของชุดสายหัวเทียน

คำตอบที่ 15
       สภาพแห้ง สีนวล ไม่มีรอยน้ำเข้า เดิมๆแน่นๆจากโรงงาน

คำตอบที่ 16
       กระบอกหัวเทียนปกติ ไม่มีรอยน้ำเข้า
ตรงจุดนี้ต้องระวังนะครับ บางทีการล้างเครื่องจากร้านที่ขายเครื่องบางครั้งถ้าหากมีน้ำเข้า เวลาจะถอดหัวเทียนจะต้องเอาลมเป่าให้แห้งก่อน ไม่งั้นถ้าถอดหัวเทียนออกมาตอนที่มีน้ำขังอยู่ จะทำให้น้ำลงไปได้

คำตอบที่ 17
       ลองดูลักษณะของลูกยางแท่นเครื่องที่ติดมากับเครื่อง 3S ถือว่าผ่านเลยครับ สำหรับการรองรับการใช้งานแบบ 4WD เนื่องจากมีฝาครอบเหล็ก และลูกยางแท่นเครื่องข้างในก็มีปีกรับบนล่างเพื่อป้องกันการสวิงตัวของเครื่องยนต์ทั้งกระเด้งขึ้น/ลง และการเคลื่อนตัวโยนไปด้านหน้ารถ(ไปหาหม้อน้ำ) รวมทั้งลูกยางแท่นเครื่องขาดก็จะไม่หล่นลงมาและเสียหายได้ครับ

จริงๆแล้วเรื่องลูกยางแท่นเครื่องนี้ ส่วนใหญ่เครื่องขับหลังของค่ายโตโยต้ามักจะออกแบบมาเป็นแบบนี้ทั้งหมดครับ เช่น 3Y 2C 3S 4S 3RZ 5VZ ยกเว้นพวกเครื่องตระกูล J ที่เป็นลูกยางคนละแบบกัน

คำตอบที่ 18
       ในเรื่องของสรีระเสื้อสูบ โรงงานได้ออกแบบมาในลักษณะเสื้อสูบเหล็ก ซึ่งมักจะเป็นลักษณะของรูปแบบเครื่องยุคเก่า ส่วนพวกเครื่องยุคใหม่มักจะออกแบบมาเป็นเสื้อสูบแบบอลูมิเนียมแล้วเพื่อน้ำหนักที่เบาและการระบายความร้อนที่ตัวเครื่องยนต์ได้ดีกว่าแบบเสื้อสูบเหล็ก

(เน้นว่า เสื้อสูบนะครับ ไม่ใช่ฝาสูบ)

เครื่อง 3S ฝาสูบจะเป็นอลูมิเนียมครับ
ส่วนเครื่องคาริเบี้ยนและวีทาร่า ฝาสูบและเสื้อสูบเป็นอลูมิเนียมทั้งหมดครับ

ส่วนท่อหม้อน้ำบนจะเป็นลักษณะวนอ้อมมาจากทางหลังเครื่อง และเป็นท่อแบบสแตนเลสเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ลักษณะของเครื่องโดยหลักๆแล้ว ผมว่าหลายๆจุดค่อนข้างที่จะคล้ายคลึงกับเครื่อง J20A ของ Grandvitara ทีเดียวครับ

คำตอบที่ 19
       เอาอีกครับพี่ สอ น่าสนใจเครื่องตัวนี้ แล้วไม่ทราบว่าถ้าเราเอามาพร้อมเกียร์ธรรมดาของ3s ชนกับโลว์1000 กับตะขาบ 35 พอไหวไหมครับพี่ แล้วงบประมาณคร่าวๆ อยูที่เท่าไรครับ ตอนนี้เครื่องเดิมสปอร์ตมายด์ 1300 คานจีพ มิตซู 8:43 อยากแรงบ้างพี่

คำตอบที่ 20
       คุณสอครับ เครื่องตัวนี้ผมก็สนใจอยู่ไม่น้อยถ้าวางแล้วจะจุกจิกหรือป่าว แต่ก็ไม่เป็นไรยังไงจะติดตามแบบติดๆเลยครับ ไม่ทราบว่าที่อู่น้ำท่วมไหมครับยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

คำตอบที่ 21
       เตรียมตัวเลยท่าน สอ เสี่ยพัฒเอาแน่เทพตะวันออกซูจันท์ของจริงลง 3S.แหม่ถ้าใด้ตัวใหม่ 150กว่าม้าคงเอามาลงแทน 1 UZ.ใด้เลยเอหรือจะเปลื่ยนใจดีน้า.

คำตอบที่ 22
       ลืมไปเสี่ยอินท่าเอา 3Sบีมไปโลด 200 ม้าแรงๆแบบฝา YAMAHA.

คำตอบที่ 23
       เพิ่งจะเข้ามาเปิดดูครับ
รับทราบของ พี่ intha ยังไงก็คร่าวๆตามที่คุยกันนะครับ

(ตอบพี่เป๋ง)
ตอบ สวัสดีครับพี่เป๋ง เครื่องตัวนี้ไม่จุกจิกครับ การใช้งานโดยทั่วไปก็ถือว่า โอเคทีเดียวครับ ก็ดีตรงที่ว่ามีเกียร์ออโต้ให้เลือกใช้ด้วย ถ้าวางอย่างรถพี่แล้วจะเอาไมล์ที่ไหนวิ่งครับ แค่ G16A ก็จมไมล์อยู่แล้ว แต่ไม่เป็นไรครับยังไงลองติดตามกันไปเรื่อยๆได้ครับ
ส่วนเรื่องน้ำท่วมก็นิดหน่อยครับ (ประมาณเอว ยางตะขาบ 35 จมมิดไม่เห็นยางพอดี) แต่ก็กันไว้อยู่ครับ อยู่กับมันมานานแล้ว เพียงแต่ปีนี้ค่อนข้างดุเดือดไปหน่อยครับ
ยังไงก็ขอบคุณมากๆเลยครับที่เป็นห่วง
อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยเช่นกันนะครับ

คำตอบที่ 24
       คูณสอ ตอนนี้ผมลง G16A แทน TD 27 Turbo แล้ว ชนเกียร์แบบใช้แผ่นเหล็กเสริมเพื่อมีเนื้อเหล็กไว้จับปั้มครัชครับ แบบว่าเป็นครัชแต่งหวี 2 ชั้น แผ่น 8 นิ้วมันหนัก อีกอย่างกลัวถ้าใช้แบบสายแล้วจะขาดเอาง่ายๆ ครับ

คำตอบที่ 25
       วางลงไปแล้วเนื่องจากแท่นเครื่องเดิมแปลงไปยึดกับ TD 27 แล้ว เลยต้องเสียเวลาเละเอามาใส่กับ G16A ใหม่อีกรอบ ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ยาง 33-34-35 ดี เน้นทางดำครับ

คำตอบที่ 26
       ช่วงนี้เหนื่อยทีเดียวครับ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาดูเท่าไหร่

ปั๊มคลัชของพี่ Kero ไอเดียดีทีเดียวครับ แหม...ขยายซุ้มหัวหมูจาก TD27 ไปแล้วเอา G16A มาวางเลยโล่งสบายเลยนะครับ เนื้อที่ดัดแปลงเหลือเฟือเลย

คำตอบที่ 27
       (ต่อเรื่อง 3S ครับ)
เมื่อวิเคราะห์คร่าวๆเกี่ยวกับตัวเครื่องยนต์เรียบร้อยแล้ว ก็ย้ายกลับมาในส่วนของห้องเครื่อง เพื่อวิเคราะห์ดูมิติที่เหมาะสม พร้อมกับเลาะจุดยึดแท่นเครื่องเดิมออกทั้งหมด เพราะถ้าใช้จุดเดิมจะทำให้เป็นการจำกัดการหาตำแหน่งของเครื่องที่จะวางลงไปใหม่

คำตอบที่ 28
       เลาะเสร็จออกทั้งหมด เก็บรายละเอียด เก็บงานสี
แว๊บ...แว๊บ...เห็นรูอะไรเล็กๆ อยู่ภายใต้เหล็กยึดแท่นเครื่องฝั่งคนนั่ง

คำตอบที่ 29
       ซูมเข้าไปดูรอยแผลใกล้ๆ แล้วเอาเมจิกวงไว้จะได้เห็นอย่างชัดเจน
สาเหตุเกิดจากช่างเก่าที่ได้วางมาได้เลาะแท่นเครื่องเก่าออกมาใช้แล้วเกิดทะลุคัทซีเข้าไปที่ด้านในครับ แล้วตำแหน่งใหม่ก็อยู่ในตำแหน่งที่ปิดด้านบนพอดีก็เลยมั่วทับไปในตำแหน่งที่มองไม่เห็น(หมกเม็ด) พอเลาะทิ้งออกไปก็เลยเห็นขึ้นมา

คำตอบที่ 30
       หลังจากขีดเมจิกวงตีกรอบไว้ ก็จัดการบรรจงตัดเพื่อให้เป็นกรอบตามที่ได้วงไว้ เพื่อเป็นการสร้างขอบในการที่จะนำแผ่นเหล็กตีพับแล้วเอามาปิดไว้ให้เหมือนเดิม เพราะตำแหน่งรูดังกล่าวใหญ่เกินกว่าที่จะเชื่อมพอกให้เต็มได้และอาจจะไม่แข็งแรง

ในตำแหน่งรูดังกล่าวถ้าหากไม่ทำการแก้ไขถ้าใช้งานไปในระยะยาวคัทซีมีการบิดตัวขยับตัวและอาจทำให้คัทซีร้าว หรือมีรอยวิ่ง และเกิดการเสียหายได้ครับ

คำตอบที่ 31
       พับเหล็กปะเข้ารูปให้มิดชิด เชื่อมและเจียรแต่งใหม่เพื่อให้เหมาะสม

คำตอบที่ 32
       เสร็จแล้ว พ่นสีพื้นเพื่อป้องกันสนิม ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ทีนี้เวลาสร้างชิ้นงานต่างๆมาเพื่อยึดในตำแหน่งต่างๆที่ต้องการก็ถือเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หมดครับ

คำตอบที่ 33
       สวัสดีครับคุณสอ
ต้นเดือนกุมภาน่ะครับตามที่คุยกัน

คำตอบที่ 34
       (ตอบคุณเพชรKCB)
รับทราบครับ

(ต่อเรื่องวางเครื่อง 3S ครับ)
ในส่วนของห้องเครื่องส่วนที่เหลือ ตรงจุดไหนที่แก้ไขให้ดีได้ก็แก้ไขไปเลยครับ เพราะการแก้ไขค่อนข้างสะดวกเนื่องจากไม่มีเครื่องเกะกะอยู่ในรถ
และในจุดที่มักจะถูกแก้ไข หนึ่งในนั้นก็คือ ตำแหน่งใต้หม้อลมเบรค ซึ่งมักจะมีน้ำมันเบรคหยดลงไปอยู่เสมอๆ(อันที่จริงแล้วถ้าเติมระวังๆมันก็ไม่หกเลอะออกมาหรอกครับ)
น้ำมันเบรคเมื่อหกออกมาแล้วไม่รีบเอาน้ำเปล่ามาล้างจะทำให้เกิดการกัดสีจนลอกออกมาครับ เมื่อสีลอกออกมาก็เหลือแต่เนื้อเหล็กและปล่อยไว้นานๆเข้าก็จะเป็นสนิมได้ง่ายครับ

คำตอบที่ 35
       ขัดพื้นผิวให้สะอาด ขัดสนิมออกให้หมดแล้วลงสีพื้นรอง จะได้สะอาดๆใช้งานได้นานๆเหมือนเดิมๆจากโรงงานครับ

คำตอบที่ 36
       สีพื้นเรียบร้อย ก็ตามด้วยสีจริง

คำตอบที่ 37
       จากการประเมินเบื้องต้นสำหรับเครื่อง 3S แล้ว น่าจะมีการยกเข้ายกออกอีกหลายรอบ เนื่องจากต้องหาระยะ ระดับเครื่องที่ถูกใจและเหมาะสมที่สุด การขยายซุ้มเกียร์และหัวหมู และอะไรๆอีกหลายอย่าง เพื่อให้ได้ดีและง่ายต่อการทำงาน และเพื่อเก็บรายละเอียดได้ดีกว่าจึงจำเป็นต้องรื้อคานยึดหม้อน้ำด้านบนออก คันนี้ดีตรงที่กันชนเป็นลักษณะแบบ Knockdown เลยสามารถถอดเฉพาะบาร์ด้านบนออกได้ก็เลยไม่ต้องถอดกันชนออกทั้งชุด

(วิธีนี้แล้วแต่ความถนัดและความเหมาะสมนะครับ จะรื้อถอดหรือไม่ถอดก็ได้ ผมเชื่อว่า อู่ส่วนใหญ่มักจะไม่ถอด เพราะการถอดไม่ใช่เรื่องง่ายและค่อนข้างเสียเวลา โดยเฉพาะระบบน็อตหัวแฉกที่ใช้ในการยึดชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของคานหม้อน้ำ ถ้าหากรถคันนั้นๆไม่เคยถอดมาก่อน รับรองความันส์...ในการถอดได้เลยครับ มันส์ทุกจุด โดยเฉพาะบางจุดที่อยู่ในซอกเวลาถอดแล้วหักคา)

คำตอบที่ 38
       เริ่มยกขึ้นทาบ เพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด

คำตอบที่ 39
       ยกขึ้นเพื่อดูมิติ และความเป็นไปได้ และความเหมาะสมของห้องเครื่องคาริเบี้ยน

และในส่วนของเครื่องยนต์ 3S-FE ระดับเครื่อง 2000 ซีซี อุปกรณ์ทุกอย่างที่มีติดของเดิมแท้ๆมาจากโรงงาน จำพวก ใบพัดฟรีปั๊ม ไดชาร์จ ไดสตาร์ท คอมแอร์ ลูกยางแท่นเครื่องเดิม ตัวปั่นเพาเวอร์ ทุกๆอย่างและทุกๆจุด ไม่มีคำว่า "ถอดทิ้ง" ครับ จะต้องใช้เข้าไปให้ได้หมด ทั้งหมด และทุกอย่างด้วย
ยกตัวอย่างเช่น
- ใบพัดแบบฟรีปั๊ม สำหรับเครื่องยนต์แบบ 2000 ซีซี ค่อนข้างมีผลอย่างมากในเรื่องของระดับความร้อน ถึงแม้ว่า บางครั้งเราใช้หม้อน้ำที่เล็กเกินกว่าสเปคของเครื่องยนต์เล็กน้อย แต่ถ้าเราใส่ใบพัดแบบฟรีปั๊มมันก็ยังคงสามารถควบคุมความร้อนของเครื่องยนต์ได้อย่างเหมาะสมครับ แต่ถ้าหากหม้อน้ำเล็กเกินไปมากๆก็ไม่ไหวครับ ส่วนเรื่องพัดลมไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผมหลีกเลี่ยงเลยตั้งแต่ข้อแรก
- ตัวปั่นเพาเวอร์ ควรใช้ของเดิม เพราะว่าตัวปั่นเดิมนั้นจะมีระบบชดเชยรอบเครื่องหรือกำลังของเครื่องยนต์เมื่อมีการหมุนพวงมาลัย โดยระบบดังกล่าวจะใช้ลมแบบแวคคั่มในการเข้ามาควบคุมผ่านลิ้นวาล์ว ถ้าหากว่าเราเปลี่ยนเป็นตัวปั่นรุ่นอื่นระบบนี้ก็จะไม่ครบเพราะตัวปั่นบางรุ่นจะใช้ไฟเข้ามาช่วยสั่งชดเชยรอบเครื่องแทนลมดูด (เช่น ตัวปั่นเพาเวอร์ของเครื่อง G16A เป็นต้น)

และข้อดีอีกอย่าง เมื่อเราใช้อุปกรณ์ต่างๆครบถ้วนตรงของเดิมทั้งหมด เวลาใช้ๆไปแล้วเสีย ก็ยังสามารถไปหาอะไหล่ได้โดยที่ระบุรุ่นได้ถูก ไม่ต้องไปหาเทียบรุ่นไล่ดูเพราะไม่รู้ว่าที่ดัดแปลงแต่แรกมันรุ่นอะไร(ลืม)

(โจทย์ข้อนี้ยากหนักหนาครับ แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปครับ เพียงแต่ต้องเข้าใจโจทย์และตีโจทย์ให้แตกเท่านั้นเอง)

คำตอบที่ 40
       หย่อนเครื่องลงไปเพื่อดูระยะและมิติของเครื่องที่เหมาะสมที่สุด ระยะอ่างแคร้งน้ำมันเครื่อง(ซึ่งเป็นอ่างแคร้งเดิมของเครื่อง 3S) ปลดคันส่งตัวบนออกก่อนเพื่อให้เครื่องสามารถเดินเข้าออกเพื่อดูระยะและความเหมาะสม

ในรูปจะเห็นเหล็ก 2 ข้างซ้าย/ขวาที่เจาะเป็นรูกลมๆไว้ จะเป็นเหล็กยึดหม้อน้ำเดิมครับ ลักษณะเนื้องานแบบทากาวตัดแปะสุกเอาเผากิน จำเป็นต้องเลาะทิ้งออกไปทั้งหมดเนื่องจากไม่มีความแข็งแรง เหล็กตัวนี้ต้องรับน้ำหนักหม้อน้ำ ถ้าหากไม่แข็งแรงอาจะหักหล่นลงมาได้ง่ายๆครับ

คำตอบที่ 41
       พอได้ตำแหน่งและระยะเครื่องคร่าวๆแล้วก็ลองวางตำแหน่งหม้อน้ำ พร้อมกับประกอบคานยึดหม้อน้ำคร่าวๆเพื่อดูระยะความห่างระหว่างเครื่องกับหม้อน้ำ โดยจะต้องยึดระยะใบพัดฟรีปั๊มเป็นตัวแปรสำคัญ

ระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับใบพัดฟรีปั๊มกับหม้อน้ำ นั่นก็คือ ระยะที่ไม่ใกล้หรือห่างมากจนเกินไป เพราะถ้าห่างมากๆการกินลมดูดผ่านหม้อน้ำเข้ามาจะคลาดเคลื่อน หรือถ้าชิดมากเกินก็อาจจะมีการขยับตัวจนใบพัดมาตีกับหม้อน้ำได้โดยเฉพาะในการใช้งานบนเส้นทางออฟโรด และที่สำคัญที่สุดนอกเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ การถอดใบพัดฟรีปั๊มจะต้องถอดเช็คหรือซ่อมบำรุงได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องมานั่งถอดหม้อน้ำออกก่อนครับ

คำตอบที่ 42
       หลังจากวางหม้อน้ำลงไปคร่าวๆแล้ว ก็เฝ้าดูและพิจารณาระยะห่างระหว่างเครื่อง ใบพัดฟรีปั๊ม และหม้อน้ำ ทั้งตอนที่ใส่ใบพัดฟรีปั๊มและตอนที่ถอดออกเพื่อหาจุดที่น่าจะเหมาะสมมากที่สุด รวมทั้งระยะห่างที่ด้านหลังเครื่องด้วยจะต้องเผื่อเนื้อที่ในการเซอร์วิสเนื่องจากจะมีท่อน้ำวนที่ด้านหลังเครื่องและยังมีพวกสวิทช์เซ็นเซอร์ต่างๆที่อาจจะต้องคอยถอดเช็คดูในบางครั้ง

คำตอบที่ 43
       สุดยอดเลยพี่สอ ตามที่เราคุยกันไว้คร่าวๆ นะครับประมาณมีนาคม 54 เจอกันครับ(3s) ปล.น้ำยุบหรือยังครับ(intha/Jeep'Chan)

คำตอบที่ 44
       รับทราบครับ ส่วนเรื่องสถานการณ์น้ำตอนนี้แถวๆหน้าบ้านก็ยังทรงๆอยู่ครับ ความสูงอยู่ในระดับหัวเข่าก็ยังน้อยกว่าอาทิตย์ก่อนๆ แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระวัง โดยเฉพาะช่วง 7-9 พ.ย.นี้
ยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งครับ

คำตอบที่ 45
       เมื่อได้ ระยะหม้อน้ำ ระยะฟรีปั๊ม ระยะคร่าวๆเหมาะสมแล้ว ก็ถอดด้านหน้าออกเพื่อดูระยะด้านข้าง 2 ฝั่งที่เหมาะสมที่สุด ระยะช่องไฟซึ่งจะมีผลต่อการวางตำแหน่งลูกยางแท่นเครื่อง(ต้องง่ายต่อการเช็คและเซอร์วิส) ระดับความสูงของตัวเครื่องยนต์ และการหย่อนหรือห้อยท้ายเกียร์ให้เฉียงลงไปรับกับองศาของเกียร์สโลว์เพื่อไปยังเฟืองท้ายลูกหลังอย่างเหมาะสมที่สุดสำหรับรถ 4x4

รถ 4x4 จากโรงงานทุกประเภทให้ลองสังเกตดูครับว่า รถ 4X4 ที่มาจากโรงงานทุกยี่ห้อจะมีระดับท้ายเกียร์ที่ห้อยต่ำลง ด้วยเหตุผลที่ว่า จะเป็นการลดระดับความชันของท้ายเกียร์เพื่อให้ไปรับกับแนวเพลากลางที่จะไปยังเฟืองท้ายลูกหลัง ลดการเครียดและการหักงอของระบบยอยกากบาทต่างๆ ลดการสั่นสะท้าน ลดการสบัดตัว รวมทั้งแรงบิดของเครื่องที่สามารถส่งมาได้แบบเต็มๆ และผลดีอีกหลายๆอย่างมากมายครับ
(จากจุดนี้เองก็มีผลต่อการวางตำแหน่งของเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน)

คำตอบที่ 46
       เก็บปัจจัยรออยู่นะครับพี่สอ ยังไงขอเป็นเกียร์ธรรมดานะครับ

คำตอบที่ 47
       ณ ระดับเครื่องที่ถอยไปด้านหลังอย่างเหมาะสมแล้ว ระยะหม้อน้ำได้แล้ว ระยะฟรีปั๊มได้แล้ว ระยะด้านหลังเครื่องในการตรวจเช็คซ่อมบำรุงได้แล้ว ระยะอ่างแคร้งน้ำมันเครื่องกับคันส่งตัวบนได้แล้ว ก็มาถึงการจับเซ็นเตอร์ ณ ระดับกึ่งกลางของคัทซีซ้ายและขวาโดยจะต้องเป็นไปตามความเหมาะสมที่สุด

ในรูป จะเป็นตำแหน่งช่องไฟของยางแท่นเครื่องฝั่งคนขับ

ในส่วนของการห้อยท้ายเกียร์ให้ต่ำลงนั้น ต้องดูความเหมาะสมกับการวางตำแหน่งของเกียร์สโลว์เบื้องต้นคร่าวๆด้วยนะครับ อย่างเช่น
- การห้อยท้ายเกียร์ลงมามากเกินไปก็อาจจะทำให้ตำแหน่งเกียร์สโลว์นั้นต่ำลงมามากตามไปด้วย (บางทีต่ำมากๆก็ไม่ดีครับ)
- การไม่ห้อยท้ายเกียร์ก็อาจจะทำให้เกียร์สโลว์อยู่สูงเกินไปหรืออาจจะไม่ตรงกับตำแหน่งเพลาสวมที่ออกมาจากท้ายเกียร์ออโต้ และยังหักมุมชันลงไปที่เฟืองท้ายมากเกินไปด้วย มีผลต่อการสั่นและสะท้าน

จริงๆแล้วการวางเครื่องต่างตระกูลนั้น แบ่งการวางออกเป็น 2 ช่วงคือ
1. การวางเครื่อง+เกียร์
2. การวางตำแหน่งเกียร์สโลว์ (เนื่องจากซูซูกิคาริเบี้ยนเป็นระบบเกียร์ฝากลอยแยกต่างหาก)
ดังนั้น การวางจึงสามารถถือได้ว่า ยากกว่าการวางเครื่องในรถทั่วๆไป และก็ยากกว่าการวางในรถ 4x4 ที่เป็นรถใหญ่ด้วย เนื่องจากมากขั้นตอน(หลายขนาน)

คำตอบที่ 48
       ส่วนรูปนี้ จะเป็นตำแหน่งช่องไฟของยางแท่นเครื่องฝั่งคนนั่ง ถือได้ว่าค่อนข้างเท่ากันเลยก็ว่าได้ครับ

คำตอบที่ 49
       พอได้ระยะความห่างทั้งด้านซ้ายและด้านขวาที่เหมาะสมแล้ว ก็ทาบความฉากกับตัวมูเล่หน้าข้อเหวี่ยงว่า ได้ฉากกับคัทซีหรือเปล่า(หรือไม่ก็ขนานกับคานแป๊บหน้าคัทซีหรือเปล่า) ตรงจุดนี้ถ้าหากว่าไม่ได้ฉากแสดงว่า เครื่องไม่ได้เซ็นเตอร์ เพราะตำแหน่งหน้ามูเล่ของเครื่องทุกๆตัว ทุกๆยี่ห้อ ทุกๆประเภทจะเป็นจุดที่เป็นเซ็นเตอร์ฉากมากที่สุด

คำตอบที่ 50
       พอได้ตำแหน่งเครื่อง ระยะเครื่องที่เหมาะสมถูกใจแล้วก็ล็อคเครื่องไว้ในตำแหน่งนั้นให้แน่นๆ แล้วเริ่มดำเนินการสร้างขายึดแท่นเครื่องขึ้นใหม่ทั้งหมดทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา

คำตอบที่ 51
       ตรวจเช็คมิติของเครื่องโดยรวมอีกทีเพื่อความเหมาะสมในหลายๆจุด ทั้งระยะคอมแอร์ ระยะตัวปั่นเพาเวอร์ แกนพวงมาลัย ขายึดท่อไอดี บริเวณด้านหลังเครื่อง และที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง ก็คือ หม้อลมเบรค ซึ่งจะต้องมีระยะห่างระหว่างท่อไอดีกับตัวปั๊มเบรคและท่อไอดีกับหม้อลมเบรคที่เหมาะสม ซึ่งหมายความว่า ในตำแหน่งดังกล่าวจะต้องรื้อถอดเปลี่ยนหม้อลมเบรคได้โดยง่ายไม่ติดท่อไอดี(ถึงแม้ว่าเครื่องจะมีการถอยหลังมาบ้างก็ตาม) และในทางกลับกันก็จะต้องเอื้อมมือเพื่อเข้าไปถอดน็อตยึดท่อไอดีต่างๆได้อย่างสะดวกด้วยเช่นกันครับ

คำตอบที่ 52
       พอได้ตำแหน่งเครื่องที่แน่นอนแล้ว พร้อมกับสร้างขาแท่นเครื่องทั้ง 2 ข้างเสร็จก็ทำการเชื่อมแต้มในจุดที่ต้องการทั้งหมด

คำตอบที่ 53
       แต้มแท่นเครื่องฝั่งคนขับ

คำตอบที่ 54
       (แต้มแท่นเครื่องฝั่งคนนั่ง)

จุดยึดยางแท่นเครื่องที่เป็นน็อตยึดฝั่งละ 2 ตัว จะต้องอิสระไม่ขืนกัน เวลาวางเครื่องลงไปนั่งแล้วสามารถใส่น็อตได้โดยง่ายครับ

คำตอบที่ 55
       พอแต้มทั้งหมดแล้ว ก็ลองปล่อยน้ำหนักเครื่องลงเพื่อดูว่า เป็นไปตามตำแหน่งที่ต้องการหรือเปล่า ทั้งระดับความสูงต่ำ และมิติโดยรอบ

คำตอบที่ 56
       ณ ตำแหน่งเครื่องที่ได้ระดับ และเกียร์ที่ห้อยท้ายลงอย่างเหมาะสมก็จัดการสร้างคานรับเกียร์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เลาะของเดิมออกทั้งหมดและสร้างขึ้นมาใหม่ โดยเน้นในเรื่องของความกระชับหลบมุมต่างๆ ความฉากเข้าเหลี่ยม พร้อมกับเป็นจุดยึดยางแท่นเกียร์ด้วย

ในส่วนของคานรับเกียร์นี้ โดยปกติของเดิมสแตนดาร์ดคานเกียร์จะห้อยย้อยต่ำลงมาเพื่อเป็นทางเดินของแนวเพลากลางท่อนหน้า(ไปเฟืองหน้า) ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่เกียร์สโลว์จะอยู่ค่อนมาทางด้านหน้า แต่พอเราดัดแปลงวางเครื่องต่างรุ่นลงไปใหม่ทำให้ท้ายเกียร์มีลักษณะที่ยาวกว่าเกียร์เมนเดิมของคาริเบี้ยนทำให้ต้องถอยตำแหน่งเกียร์สโลว์ไปทางด้านหลังมากขึ้นตามความเหมาะสม จึงต้องสร้างคานรับเกียร์ให้หักหลบไปที่ด้านบนเพื่อหลบแนวเพลากลางท่อนหน้าโดยจะต้องเผื่อระยะการทำงานของเพลากลางที่จะยุบขึ้นลงและสวิงตัวด้านข้างตามการทำงานของคานหน้าด้วย

คำตอบที่ 57
       ยอดเยี่ยมเลยครับ เรียบร้อยละเอียดดีครับ
ถ้าเป็นไปได้ ระยะต่าง ๆ ที่เหมาะสมแล้วควรทำเกจไว้สำหรับติดตั้งคันต่อไป
เพื่อความรวดเร็วและได้ระยะเดียวกัน ง่ายต่อการวิเคราะห์ปัญหาวันหลัง
ชิ้นส่วนทีทำเพิ่มเข้ามา เขียนแบบไว้ ด้วยก็ดี วันหน้าต้องการหลายอันก็
สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว คิดว่าคุณสอต้องเหนื่อยกับเครื่องตัวนี้อีกนาน

คำตอบที่ 58
       ติดตามผลงานตลอดครับ ทึ่งครับในความละเอียด

คำตอบที่ 59
       ติดตามพี่สอ มานานและเป็นงานที่เนียนมากๆ และยังหวังว่าจะต้องใช้บริการพี่สอแน่นอนครับผม ยังไงคิวผมขอเป็นซักเดือนมีนาคาน่าจะสะนวกหรือเปล่าครับพี่สอ 3s MT นะครับ

คำตอบที่ 60
       (ตอบพี่แสง)
ตอบ ขอบคุณมากครับ ทำแบบไว้เหมือนกันครับ มาตรฐานจะได้เหมือนกันทั้งหมด

(ตอบพี่เพชรKCB)
ตอบ ขอบคุณครับ

(ตอบพี่ intha)
ตอบ ขอบคุณอีกเช่นกันครับ ตามนั้นครับ (มี.ค.) Sportmind 3S M/T ครับ

คำตอบที่ 61
       ขอบคุณเช่นกันครับพี่ สอ

คำตอบที่ 62
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S ครับ)
พอเสร็จตำแหน่งเครื่อง วางคานรับเกียร์ ปล่อยน้ำหนักเครื่องปล่อยน้ำหนักเกียร์ลงทั้งหมด ก็ดูระยะว่าเป็นไปตามที่วัดไว้ทีแรกหรือเปล่า
เสร็จแล้วก็ลองเอาตัวปั่นเพาเวอร์ คอมแอร์มาลองใส่ดูว่าโอเคหรือเปล่า

คำตอบที่ 63
       พอทุกอย่างโอเคลงตัวทั้งหมด ก็เตรียมตัวยกลงเป็นรอบสุดท้าย (จริงๆแล้วยกขึ้นลงหลายเที่ยวครับกว่าจะหาระยะ และระดับได้ตามต้องการ ประมาณ 5-6 รอบ แต่ลงรายละเอียดในนี้เหมือนกับยกขึ้นลง 2 รอบเอง)


***หลายๆท่านที่โทรเข้ามาสอบถาม จริงๆแล้วคันนี้ทำเสร็จไปนานหลายเดือนแล้วนะครับ แต่พอดีไม่ค่อยว่าง ประกอบกับค่อยๆทยอยลงรูปและรายละเอียดต่างๆ อีกทั้งภาษาที่ใช้ในการเขียนครับ ก็เลยอาจจะช้าหน่อยนะครับ***

คำตอบที่ 64
       ยกออกมาเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะเก็บงานเชื่อมทั้งหมด พร้อมกับเช็คความเรียบร้อยที่ตัวเครื่องยนต์อีกครั้ง

คำตอบที่ 65
       ไล่เชื่อมแท่นเครื่องฝั่งขวา

คำตอบที่ 66
       เชื่อมแท่นเครื่องฝั่งซ้าย

คำตอบที่ 67
       เชื่อมทุกจุดให้แน่นหนา

คำตอบที่ 68
       เชื่อมทุกจุดให้แข็งแรง เวลาเอาไปใช้งานจริงจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง

คำตอบที่ 69
       เสร็จแล้วก็เก็บงานสีให้เรียบร้อยทั้งหมด

คำตอบที่ 70
       ยอดเยี่ยมเลยพี่สอ ขอติดตามผลงานของพี่ต่อไปนะครับ เห็นผลงานแล้วอยากใหถึงคิวเร็วๆแล้วซิพี่

คำตอบที่ 71
       ขอบคุณครับ

ไล่เก็บงานสีให้หมดทุกจุด

คำตอบที่ 72
       การเก็บงานสีในขณะที่ยกเครื่องออกมานั้น สามารถเก็บรายละเอียดในจุดต่างๆได้ค่อนข้างละเอียดครับ เพราะไม่มีตำแหน่งเครื่องมาบังเกะกะ

ในส่วนด้านหลังของผนังห้องเครื่อง เรายังสามารถออกแบบทางเดินของสายไฟได้ใหม่ อันเนื่องมาจากว่า ด้านหลังของเครื่อง 3S นั้นมีทั้งท่อน้ำวน และสวิทช์เซ็นเซอร์ต่างๆ บางทีอาจจะต้องเอามือล้วงเพื่อทำการตรวจเช็คต่างๆ ดังนั้น สายไฟไม่ควรจะมาอยู่เกะกะ อีกทั้งอาจจะทำให้สายไฟเบียดกับตัวเครื่องหรือท่อต่างๆทำให้สายไฟขาดได้ง่าย

คำตอบที่ 73
       พอเสร็จจากงานห้องเครื่องทุกอย่างหมดแล้ว ก็ย้ายกลับมาดูในส่วนของเครื่องยนต์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูตรวจเช็คเซอร์วิส ไม่ว่าจะเป็น ระบบสายพาน Timing ลูกรอกสายพาน ซีลต่างๆ ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพดี ไม่มีตำแหน่งรั่วซึม

เครื่อง 3S นั้นสายพานเครื่องค่อนข้างยาวทีเดียวครับ มีลูกรอก 2 ตัว(ตั้งตัวนึง ผ่านอีกตัวนึง) ถ้าหากว่าเสียหรือเปลี่ยนใหม่ก็ควรดำเนินการพร้อมกันทั้ง 2 ตัวเลยนะครับ

คำตอบที่ 74
       พอเซ็ตที่ตัวเครื่องหมดทุกอย่างแล้วก็ดำเนินการวางกลับลงไปที่เดิมที่ได้จัดวางไว้แล้วอีกครั้งหนึ่ง ทุกอย่างง่ายดายและเหมาะสม

คำตอบที่ 75
       เยี่ยมเลยครับ คุณสอ

คำตอบที่ 76
       เมื่อเครื่องถูกวางลงไปแล้ว ก็นำกระปุกพวงมาลัยเพาเวอร์มาติดกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม ตำแหน่งเดิม และก็ตำแหน่งเดิม

ขอเน้นว่า "ตำแหน่งเดิม" เพราะว่าเป็นตำแหน่งกระปุกเพาเวอร์เดิมแท้ๆของซูซูกิคาริเบี้ยน ที่ปะไว้ด้านในคัทซีตำแหน่งเดิมๆครับ ไม่มีการดัดแปลงกระปุกใหม่ใดๆทั้งสิ้น ส่วนข้างๆกันนั้นก็อยู่อิงคู่กันกับใบพัดลมแบบฟรีปั๊ม ฟรีปั๊ม และก็ฟรีปั๊ม

คำตอบที่ 77
       สวัสดีครับลุงต๋อย ไปเที่ยวลอยกระทงที่ไหนครับ

คำตอบที่ 78
       ติดตั้งตัวปั่นเพาเวอร์เดิมๆของเครื่อง 3S เข้าไปในตำแหน่งเดิมๆอีกเช่นกัน (ตัวปั่นเดิม ขายึดก็เดิม) ตำแหน่งดังกล่าวจะเห็นระยะห่างระหว่างมูเล่สายพานกับแนวคัทซี ซึ่งเป็นระยะห่างที่เพียงพอและเหมาะสมทั้งในเรื่องการซ่อมบำรุง ถอดเปลี่ยนสายพาน ตั้งสายพาน หรือแม้กระทั่งการใช้งานแบบออฟโรดที่มีความห่างเหลือเฟือ

(แต่จริงๆแล้ว เครื่องเบนซินก็ค่อนข้างนิ่งและไม่ค่อยมีการสวิงตัวมากเหมือนเครื่องดีเซลอยู่แล้วครับ)

คำตอบที่ 79
       ลองดูระยะอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นระยะห่างของคอมแอร์กับคัทซี เรียกได้ว่า ค่อนข้างห่างทีเดียวครับ การซ่อมบำรุงตรวจเช็ค และการใช้งานต่างๆค่อนข้างเหมาะสมมากครับ

ในเรื่องของคอมแอร์นั้นเป็นคอมแอร์ยี่ห้อ Nippon นะครับ เบอร์ 17 ติดกับเครื่อง 3S มาเลย ขนาดความโตของลูกสูบเหมือนกันกับคอมแอร์ของเครื่องขนาดใหญ่ อะไหล่ต่างๆหายห่วงครับ ทั้งอะไหล่เล็กๆน้อยๆจำพวกซีลหน้าคอม ลูกปืนคอม หรือโอริงต่างๆ หรือแม้กระทั่งคอมแอร์ทั้งลูกหาได้ตามเชียงกงทั่วไป

คำตอบที่ 80
       สายพานคอมแอร์ไดชาร์จ และสายพานตัวปั่นเพาเวอร์ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดเพื่อการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น

คำตอบที่ 81
       ระยะห่างด้านหลังเครื่องที่น่าจะเหมาะสมสำหรับการตรวจเช็คขั้วปลั๊กและเซ็นเซอร์ต่างๆ

คำตอบที่ 82
       (ค่อนข้างมืด มองไม่ค่อยชัด ลองดูอีกมุมครับ)

ระยะห่างด้านหลังเครื่องที่น่าจะเหมาะสมสำหรับการตรวจเช็คขั้วปลั๊กและเซ็นเซอร์ต่างๆ สวิทช์ที่มีอยู่ในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสวิทช์เกี่ยวกับการรับรู้อุณหภูมิน้ำครับ ไม่ว่าจะเป็น ตัว CoolantTemperature และตัวอุณหภูมิเครื่องยนต์(THW) เป็นต้น

ยกตัวอย่างเช่น
- กรณีที่การสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนเช้าๆหรือเครื่องเย็นๆแล้ว แต่เครื่องไม่สั่งการให้ชดเชยรอบให้สวิงตัวสูงขึ้น(เพื่อให้เครื่องร้อนและพร้อมใช้งาน) อาจจะต้องตรวจเช็คเกี่ยวกับสวิทช์ดังกล่าวว่า เซ็นเซอร์เสียหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าเสียก็จะไม่สามารถสั่งการประมวลผลการรับรู้ไปที่กล่อง ECU ได้ ทำให้กล่องไม่สามารถสั่งการดันรอบให้สูงขึ้น หรือแม้กระทั่งสายไฟขาดใน ขั้วปลั๊กเสียบแตก หรืออีกหลายๆกรณี

ดังนั้น จากที่กล่าวมาระยะของการเซอร์วิสด้านหลังเครื่องจึงถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญครับ

คำตอบที่ 83
       ขยับลงมาอีกนิด มองผ่านสาย O2 sensor ลงไปจะเห็นน็อตยึดหัวหมู ซึ่งก็จะต้องถอดเซอร์วิสได้ง่ายอีกเช่นกัน น็อตตัวดังกล่าวก็จะเป็นน็อตยึดตัวเดียวกันกับยึดไดสตาร์ทด้วยครับ

(มุมมองอาจจะมืดๆไปหน่อยนะครับ)

คำตอบที่ 84
       ด้านหลังเครื่องยนต์ หรือหน้าผนังห้องเครื่องปกติจะมีสายไฟเป็นแนวเดินลงไปยังท้ายรถผ่านซุ้มเกียร์ ซึ่งเมื่อมีการวางเครื่องลงไปใหม่ทำให้ต้องการเนื้อที่ในการตรวจเช็คเซอร์วิส จึงทำให้ต้องออกแบบทางเดินสายไฟชุดดังกล่าวใหม่เพื่อไม่ให้เกะกะและรกหรือแม้กระทั่งเกิดการเสียหายจากการถูกเบียดขบกันกับเครื่องยนต์

คำตอบที่ 85
      

คำตอบที่ 86
       ยึดน็อตลูกยางแท่นเครื่อง 2 ตัว(2 ข้าง 4 ตัว) ร้อยลงรูไปแบบสบายๆไม่มีขอบ หรือแม้กระทั่งการใส่แบบงัดขืนลงไปครับ จุดนี้สำคัญสุดก็ตั้งแต่ตอนตั้งเครื่องก่อนวางในตอนแรกครับ วางไม่ดี วางเอียงวางเบี้ยวการถอดใส่หรือการเซอร์วิสซ่อมบำรุงก็ย่อมยากลำบากตามไปด้วย

ถ้าจำไม่ผิด ในส่วนของขายึดยางแท่นเครื่องฝั่งคนขับรู้สึกว่า เป็นขาต่อเนื่องอันเดียวกันกับขายึดตัวปั่นเพาเวอร์เลยนะครับ เป็นขาเหล็กหล่อด้วย ถ้าหากใครดัดแปลงไม่ใช้ตัวปั่นของเดิมของเครื่อง 3S ต้องระวังเกี่ยวกับการสร้างขายึดใหม่ด้วยนะครับ ถ้าทำไม่ดีอาจมีปัญหาตามมาในภายหลัง

คำตอบที่ 87
       ส่วนอันนี้เป็นระยะห่างระหว่างใบพัดฟรีปั๊มกับกระปุกเพาเวอร์แท้ของคาริเบี้ยนครับ ถือได้ว่าค่อนข้างห่างครับสามารถที่จะตีบังลมได้แบบครอบเต็มวงครับ

คำตอบที่ 88
       มุมมองจากหน้ารถ กับระดับของเครื่องที่วางลงไปอยู่ในห้องเครื่องของซูซูกิคาริเบี้ยนแล้ว

คำตอบที่ 89
       ย้ายลงมาดูในส่วนของด้านล่างกันบ้างครับ
ตำแหน่งอ่างน้ำมันเครื่องตรงและเหมาะสม อ่างน้ำมันเครื่องเดิมๆของเครื่อง 3S จะเป็นแบบแคร้งหน้านะครับ ถ้าหากวางกับรถใต้เพลาค่อนข้างจะมีปัญหาเพราะจะต้องดัดแปลงอ่างแคร้งเพื่อให้หลบคานหน้า หรือไม่ก็กำหนดตำแหน่งของเครื่องยนต์ใหม่ให้อยู่ในระดับสูงขึ้นมาอีกตามความเหมาะสม

จากรูป คันส่งตัวบนได้ถูกถอดออกมาทิ้งไว้ด้านล่างจากตอนที่วางเครื่อง จะเห็นระยะความสูงระหว่างอ่างแคร้งน้ำมันเครื่องกับคานหน้าที่ค่อนข้างห่างเพียงพอกับการใช้งานครับ

คำตอบที่ 90
       ใส่คันส่งตัวบนกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม หลบมาหน้าอ่างแคร้งน้ำมันเครื่องแบบสบายๆไม่ติดอะไรใดๆทั้งสิ้น ระยะดังกล่าวเผื่อสำหรับการสวิงตัวของเครื่องยนต์มาที่ด้านหน้าได้อย่างเพียงพอครับ

ส่วนขางอๆตามภาพนั้นเป็นขายึดหม้อน้ำเดิม ซึ่งไม่แข็งแรงและเปราะบาง อีกทั้งระดับหม้อน้ำจะต้องตั้งใหม่ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ใหม่ด้วย จึงต้องเลาะทิ้งและสร้างขึ้นมาใหม่ดูจะเหมาะสมมากกว่า

คำตอบที่ 91
       สร้างขายึดหม้อน้ำขึ้นมาใหม่ให้แข็งแรง และเหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น

คำตอบที่ 92
       พี่สอครับแล้วตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ 3RZ ต้องชนกับเกียร์อะไรดี แล้วคานจี๊พมิตซู 8:43 มันจะไหวมั๊ยครับ งบประมาณจะบานปลายหรือเปล่าครับพี่สอ ไหนๆจะวางเครื่องให่อยากได้แบบแรงๆ น่ะครับพี่เพราะมันไม่ได้วางกันบ่อยๆ อีกอย่างคิวพี่สอ ก็ยาว แต่ก็คุ้มการรอคอย เลยต้องรบกวนสอบถามพี่สอครับ

คำตอบที่ 93
       หม้อน้ำถูกยึดลงบนขายึดที่สร้างขึ้นมาใหม่ทั้ง 2 ข้าง โดยนั่งลงบนลูกยาง ซึ่งสามารถเซอร์วิสยกเข้ายกออกได้โดยง่าย ส่วนสายออยเกียร์ถูกเดินเข้าระบบหม้อน้ำตามสเปคเดิมๆของโรงงานเพื่อความเหมาะสม อีกทั้งยังไม่เกะกะกับชิ้นส่วนที่มากชิ้นถ้าหากเป็นออยอากาศ

ในจุดนี้ถ้าหากเป็นหม้อน้ำเดิมๆ อาจจะไม่เหมาะสมนะครับอันเนื่องมาจากหม้อน้ำเดิมๆนั้นเล็กเกินไป ทำให้การระบายความร้อนทำได้ไม่ดี อาจจะเพิ่มความร้อนให้ทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์
- เพิ่มความร้อนให้เครื่องยนต์ เพราะหม้อน้ำเดิม 1300 เล็กอยู่แล้ว การนำออยเกียร์ไปใส่ในหม้อน้ำทำให้เพิ่มความร้อนมากขึ้นไปอีก
- เพิ่มความร้อนให้ระบบเกียร์ จากการที่เครื่องยังระบายไม่ค่อยทัน แล้วต้องมาระบายความร้อนของระบบเกียร์อีก

คำตอบที่ 94
       ฝังออยเกียร์ไว้ในหม้อน้ำด้านล่างตามสเปคโรงงานแท้ๆ และยังคงขอเน้นเหมือนเดิมนะครับ ว่า ถ้าหากว่าใช้หม้อน้ำเดิมคาริเบี้ยนจะกี่ช่องก็แล้วแต่การฝังออยเกียร์ไว้ในหม้อน้ำจะไม่ก่อให้เกิดผลดีแถมยังอาจจะเกิดผลเสียเรื่องความร้อนมากขึ้นกว่าเดิมอีกนะครับ แต่จริงๆแล้วหม้อน้ำเดิมๆของคาริเบี้ยนก็ไม่ควรใช้กับเครื่องยนต์ระดับ 2000 ซีซีอยู่แล้วครับ

สำหรับคันนี้ ขนาดหม้อน้ำอยู่ที่ 49X49 ซม.ครับ (วัดรังผึ้งนะครับ ไม่รวมฝาหม้อน้ำบน/ล่าง)
ระดับความร้อนที่แน่นอนของคันนี้คือ
- ระดับความร้อนใช้งานในเมือง รถติดๆนานๆ ความร้อนอยู่ที่ 75-76 องศา(ไม่ขึ้นไปมากกว่านี้แล้ว)
- ระดับความร้อนในการวิ่งใช้งานต่างจังหวัด ความร้อนอยู่ที่ 65 องศา
ทั้งหมดนี้อันเป็นผลมาจากการใช้หม้อน้ำที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ และการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ก็ใช้ระบบพัดลมแบบฟรีปั๊มที่ติดมากับเครื่องแท้ๆจากโรงงานครับ ทุกอย่างจึงใกล้เคียงกันกับสเปคของมัน

"จบ" ครับเรื่องการระบายความร้อน (แต่เดี๋ยวจะสรุปตอนท้ายสุดให้อีกทีครับ)
ข้อมูลต่างๆที่ได้มาเพราะว่า รถคันนี้ทำเสร็จหลายเดือนแล้วนะครับ

คำตอบที่ 95
       ส่วนขายึดหม้อน้ำด้านบน ปกติแล้วมักจะดัดแปลงตามแบบรูปกันซะส่วนใหญ่ แต่โดยส่วนตัวแล้วดูไม่ค่อยเหมาะสมเพราะเหมือนกับเป็นส่วนเกินของรถ อีกทั้งยังเกะกะไม้ยึดค้ำฝากระโปรงด้วย(ถ้ายังมีอยู่) การยึดแบบนี้เป็นการนำแบบอย่างของพวกหม้อน้ำรถเก๋งมาใช้ อีกอย่างคานหม้อน้ำบนของซูซูกิคาริเบี้ยนเป็นลักษณะเหล็กแบบกล่อง ซึ่งถ้าหากทำตัวยึดหม้อน้ำบนลักษณะนี้เวลาขันจะบีบไม่ค่อยนั่ง ไม่ค่อยแน่น น็อตเอียงน็อตเบี้ยว ถอดเปลี่ยนน็อตยาก บางทีเอาง่ายเข้าว่าก็ใช้เกลียวปล่อยยิ่งไม่เหมาะสม ทำแล้วเหมือนปะคองหม้อน้ำไว้แค่พอดีๆเท่านั้น ต้องคอยหายางรองเปลี่ยน ถ้าไม่มียางใช้ๆไปเดี๋ยวเหล็กสีกับฝาทองเหลืองหม้อน้ำเดี๋ยวก็รั่วอีก

เวลาเปิดฝากระโปรงดูเครื่อง แล้วเอามือลูบบนคานหน้าหม้อน้ำก็มักจะสะดุดเจ้าพวกตัวยึดพวกนี้ ค่อนข้างเกะกะทีเดียวครับ เพราะมันไม่เรียบเนียนเสมอไป ดังนั้น แก้ด้วยการสร้างจุดยึดใหม่แบบด้านข้างทั้ง 2 ข้างแทน

(ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)

คำตอบที่ 96
       สร้างขายึดด้านบนใหม่แล้วก็ไม่มีอะไรมาเกะกะแล้ว ในเรื่องของการวางตำแหน่งหม้อน้ำนั้น ก็พยายามดูให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ระดับใบพัดลมให้สัมพันธ์กันกับรังผึ้ง ท่อน้ำที่หม้อน้ำด้านบนจะต้องอยู่สูงกว่าระดับท่อน้ำที่เข้าเครื่องยนต์ เป็นต้น จริงๆก็ถือว่าเป็นเรื่องทั่วๆไปของการวางเครื่องอยู่แล้วครับ

คำตอบที่ 97
       อีกมุมครับ อันนี้ค่อยชัดขึ้นมาหน่อย

คำตอบที่ 98
       เครื่องลง หม้อน้ำวาง จัดแป๊บเบรคให้เข้ารูปเข้าร่าง ก็ดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ ดูๆแล้วก็เหมาะสมกับห้องเครื่องคาริเบี้ยนดีเหมือนกันครับ

คำตอบที่ 99
       สวย ลงตัวจังครับ วางตัวนี้ ค่าสินสอดเท่าไหร่ครับ คุณสอ

คำตอบที่ 100
       รูปด้านหลังหม้อน้ำครับ

คำตอบที่ 101
       และนี่คือ ความห่างระหว่างหม้อน้ำกับใบพัดลมฟรีปั๊ม ค่อนข้างเหมาะสมพอดี ไม่ชิด ไม่ห่างจนเกินไป เพียงพอสำหรับการใช้งานแบบออฟโรดครับ

คำตอบที่ 102
       กลับมาดูด้านล่างใหม่อีกครั้ง ในตำแหน่งใต้ยางแท่นเครื่องฝั่งคนขับก็ได้ทำการเพิ่มตัวล็อคแป๊บเบรคเข้าไป จะได้เหมือนสแตนดาร์ดโรงงานเดิมๆ จะได้ไม่ต้องอยู่ลอยๆ

คำตอบที่ 103
       อีกมุมครับ แป๊บเบรคจะได้อยู่เป็นสัดเป็นส่วน จุดนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มรายละเอียดเล็กๆน้อยๆลงไปเพื่อความลงตัว เรียบร้อยเป็นระเบียบ และความเหมาะสมครับ

คำตอบที่ 104
       ส่วนอันนี้คือ ระยะห่างระหว่างคันส่งกับอ่างแคร้งน้ำมันเครื่องครับ คันส่งตัวที่ว่า จะเป็นตัวที่ส่งมาจากขาไก่ของกระปุกพวงมาลัย ซึ่งกระปุกพวงมาลัยจะเป็นกระปุกเพาเวอร์ของคาริเบี้ยนที่เป็นแบบขาไก่กวาดหลัง และกระปุกปะด้านในคัทซีครับ ตรงรุ่นของคาริเบี้ยนครับ

คำตอบที่ 105
       คุณสออย่าลืมลงวิธีระบบอุ่นเครื่องให้หน่อยครับ ของผมมันไม่ทำงาน
อู่ที่ทำให้ ก็โดนยึดที่คืน เลยเลิกกิจการกลับต่างจังหวัดไปแล้ว

ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ

คำตอบที่ 106
       รบกวนแผนที่ด้วยนะครับ

คำตอบที่ 107
       (ตอบคุณ intha)
พี่สอครับแล้วตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ 3RZ ต้องชนกับเกียร์อะไรดี แล้วคานจี๊พมิตซู 8:43 มันจะไหวมั๊ยครับ งบประมาณจะบานปลายหรือเปล่าครับพี่สอ ไหนๆจะวางเครื่องให่อยากได้แบบแรงๆ น่ะครับพี่เพราะมันไม่ได้วางกันบ่อยๆ อีกอย่างคิวพี่สอ ก็ยาว แต่ก็คุ้มการรอคอย เลยต้องรบกวนสอบถามพี่สอครับ

ตอบ ฝากข้อมูลคร่าวๆของเครื่องทั้ง 2 ตัวไว้เบื้องต้นก่อนครับ
ข้อมูลทางเทคนิคของเครื่อง 3S-FE ดังนี้
- เครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบเรียง
- 4 DOHC 16 V.
- ขนาดความจุ 2000 ซีซี
- กระบอกสูบxช่วงชัก 86x86
- แรงม้า 130/5600 รอบ
- แรงบิด 18.5/4400 รอบ

ข้อมูลทางเทคนิคของเครื่อง 3RZ-FE ดังนี้
- เครื่องยนต์แบบเบนซิน 4 สูบเรียง
- ขนาดความจุ 2700 ซีซี
- กระบอกสูบXช่วงชัก 95X95
- แรงม้า 145/4800 รอบ
- แรงบิด 23.2/3600 รอบ

จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เครื่องทั้ง 2 ตัวนี้แทบจะเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยครับ ถึงแม้ว่า แรงม้าจะแตกต่างกันอยู่ไม่มาก แต่ด้วยความที่ 3RZ เป็นเครื่องบล็อคใหญ่กว่า แบกความจุมากกว่า ช่วงชักกระบอกสูบยาวกว่า จึงสามารถสร้างแรงบิดได้ออกมาในรอบที่ต่ำกว่า จริงๆแล้วแรงม้าในรอบเครื่องที่เท่าๆกันเครื่อง 3RZ ก็น่าจะสร้างแรงม้าได้มากกว่าอีกเยอะครับ เรียกได้เลยว่า "กระดูกมวยคนละเบอร์"

เครื่อง 3RZ นี้จริงๆแล้วอัตราเร่งแทบจะต่างจากเครื่อง 1KZ ไม่มากนักถ้าเลือกอัตราทดที่ถูกต้องและเหมาะสม เพราะเครื่องรุ่นดังกล่าวได้ออกมาประกบคู่กันโดยแยกเป็นรุ่นเครื่องเบนซินและเครื่องดีเซลเท่านั้น ตัวรถก็มีทั้งรถ 4WD รถตู้ใหญ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรถที่ใช้งานทางด้านพละกำลังแบบเพียวๆ ซึ่งถ้าหากเครื่องตัวนี้เข้ามาอยู่ในบอดี้อย่างคาริเบี้ยนแล้ว(ยิ่งเป็น Sportmind ด้วยแล้ว) ยิ่งหายห่วงครับ

(เดี๋ยวมาต่อครับ แต่อาจจะสลับฉากกับการวางเครื่อง 3S ที่ลงต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ)

คำตอบที่ 108
       ถามคุณสอครับระหว่างเครื่อง G13BB กับ G16A วางใน Jimny แนะนำตัวไหนดีครับเน้นทางดำ ข้อมูลตัวรถยาง30 ยก 3 นิ้ว นอกนั้นเดิมๆครับ อยากได้ความเร็วซัก 120 แบบสบายๆครับ

คำตอบที่ 109
       รังผึ้งหม้อน้ำถ้าหากใส่ใจในรายละเอียดบ้าง(ถ้าเป็นหม้อน้ำเก่า) พวกครีบที่ล้มๆก็ค่อยๆจับตั้งขึ้น ก็จะช่วยในเรื่องความโล่งของอากาศที่จะรอดผ่านได้ไม่มากก็น้อยครับ

คำตอบที่ 110
       ครีบที่ล้มจะบดบังช่องทางอากาศ ทำให้การระบายความร้อนขาดประสิทธิภาพลงไปบ้าง
ค่อยๆจับตั้งขึ้นทีละแถว ทีละแถว ด้านหน้าและด้านหลัง ทำอย่างอื่นสลับกันไป ใช้เวลาเป็นวันเหมือนกันครับ ตาลายอีกต่างหากด้วย

คำตอบที่ 111
       เคยโทรหาคุณ สอ ไปครั้งนึงละ แต่ไม่กล้าโทรอีกครับเกรงใจมาก ตอนนี้ตกลงปลงใจได้แล้วว่า จะเปลี่ยนหัวใจเป็น SR20DET ดำหลังหักแน่นอนแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยนิดนึงคือ ถ้าผมเอาเกียร์ 4WD ออกเลย แล้วหาคานที่เพลาออกกลางมาใช้ ผมสามารถเลือกคานรถที่ไม่ต้องเป็น 4WD ได้หรือไม่ เพราะคานอย่าง Prado ก็ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน ถ้าวางคานรถเก๋ง หรือคาน Silvia ให้มันตรงรุ่นกับเครื่องจะได้ไหม (อันนี้ถามแบบคนไม่รู้จริงๆ ครับ) ขอบคุณนะครับ

คำตอบที่ 112
       (ตอบคุณจูเลียต)
ถามคุณสอครับระหว่างเครื่อง G13BB กับ G16A วางใน Jimny แนะนำตัวไหนดีครับเน้นทางดำ ข้อมูลตัวรถยาง30 ยก 3 นิ้ว นอกนั้นเดิมๆครับ อยากได้ความเร็วซัก 120 แบบสบายๆครับ

ตอบ ความเร็วซัก 120 กม./ชม.แบบสบายๆ คงต้องตัด G13BB ไปได้เลยครับ เพราะเครื่องมีความจุ 1300 ซีซี ซึ่งก็เท่ากันกับเครื่อง 1300 เดิมๆของคาริเบี้ยนทั่วๆไปเพียงแต่อาจจะสดกว่าเท่านั้น ยังไงยังไงก็คือเครื่อง 1300 ยิ่งถ้ากำหนดสเปคว่ายางใส่อยู่ในขนาด 30 นิ้วก็น่าจะยิ่งหนืดลงไปอีก กว่าจะดันได้ถึง 100 ค่อนข้างหนื่อย วิ่งแบบสะสมกำลัง และทำให้เครื่องโทรมไวอีกด้วย
แต่ถ้าหากเทียบกับ G16A คงจะเหมาะสมมากกว่ากับยางขนาด 30 นิ้ว เฟืองเดิม สโลว์เดิม วิ่งได้ถึง 130-140 กม./ชม. ปลายค่อนข้างไหลครับ ขับสบายๆตั้งแต่ 100-120 กม./ชม.รอบเครื่องคงที่เหมาะสม รถยก 3 นิ้วมาแล้วก็เพียงพอสำหรับการวางเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่สวยได้ครับ เพราะการวางเครื่อง G16A กับรถ Jimny จะแตกต่างจากการวางในรถคาริเบี้ยนอยู่นิดหน่อยครับ

ดังนั้น ถ้าระหว่างเครื่อง 2 ตัวที่แจ้งมา ก็น่าจะเล่น G16A ครับ

คำตอบที่ 113
       ยึดหม้อน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็ประกอบคานหน้าหม้อน้ำกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม ในจุดนี้จำพวกน็อตยึดตามจุดต่างๆของเดิมของคาริเบี้ยนจะเป็นแบบน็อตหัวกลมแฉก บางครั้งในการถอดตอนแรกบางตัวอาจไม่ดี บางตัวอาจจะเสีย ดังนั้นในตอนประกอบกลับเข้าไปในตอนนี้ควรเปลี่ยนเป็นน็อตหัวเหลี่ยมธรรมดา เพื่อความสะดวกในการถอดครั้งต่อไปครับ

คำตอบที่ 114
       อย่าลืมต๊าฟเกลียว และใส่จารบีด้วยนะครับ

คำตอบที่ 115
       การวางเครื่อง G16A กับรถ Jimny จะแตกต่างจากการวางในรถคาริเบี้ยนอยู่นิดหน่อยครับ


ช่วยแนะนำเพิ่มได้ปล่าวครับว่าที่ว่าต่างกันนี้ต่างกันอย่างไรต้องทำอะไรเพิ่มบ้างต้องแปลงตัวรถด้วยรึปล่าวต้องระเบิดห้องเครื่องด้วยรึปล่าวคือจริงๆไม่อยากดัดแปลงมากๆอ่ะครับ รบกวนด้วยน่ะครับ

คำตอบที่ 116
       พี่สอครับ ขอโปรเจค เครื่อง 3RZ หน่อยครับพี่
intha17@gmail.com

คำตอบที่ 117
       (ตอบ จูเลียต)
"การวางเครื่อง G16A กับรถ Jimny จะแตกต่างจากการวางในรถคาริเบี้ยนอยู่นิดหน่อยครับ"
ช่วยแนะนำเพิ่มได้ปล่าวครับว่าที่ว่าต่างกันนี้ต่างกันอย่างไรต้องทำอะไรเพิ่มบ้างต้องแปลงตัวรถด้วยรึปล่าวต้องระเบิดห้องเครื่องด้วยรึปล่าวคือจริงๆไม่อยากดัดแปลงมากๆอ่ะครับ รบกวนด้วยน่ะครับ

ตอบ โดยปกติแล้ว ในส่วนของตัวบอดี้รถ ซุ้มแก้มต่างๆจะเหมือนกันกับคาริเบี้ยนแทบทุกอย่าง จะมีแตกต่างกันก็หลักๆคือ ฝากระโปรงหน้าครับ ซึ่งจะมีความราบเรียบแบนกว่าของคาริเบี้ยน(ของคาริเบี้ยนจะมีโหนกตรงกลางสูงขึ้นไป) ดังนั้น การวางเครื่องถ้าวางในลักษณะเดียวกันกับคาริเบี้ยนเวลาปิดฝากระโปรงมันจะติดครับ ติดเยอะด้วยครับ อันนี้ไม่ต้องพูดถึงการวางแบบใช้แท่นคัทซีเดิมๆเลยครับ(ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ เพราะเวลาเปิดฝากระโปรงดูเครื่อง มันจะอยู่สูงมาก ดูเหมือนวางแล้วไม่เนียนไม่สวยครับ) ส่วนใหญ่จะแก้กันด้วยการใช้ตัวต่อฝากระโปรงที่ด้านหลังแทนซึ่งดูแล้วแย่ครับ แก้แบบปลายเหตุ แก้แบบผ่านๆไปที ดังนั้น การวางโดยทั่วไปแล้วถ้าจะให้ได้ระดับที่ดีที่สวย เปิดฝากระโปรงขึ้นมาดูแล้วเหมือนเครื่องของมันมาเลยจากโรงงาน จะต้องวางในตำแหน่งที่ต่ำกว่าคาริเบี้ยนทั่วๆไปอีก 1.5-2 นิ้วครับ แต่เรื่องยุ่งมันก็ต่อเนื่องตรงที่ ถ้าหากหย่อนเครื่องให้ต่ำลงได้แล้วที่ 2 นิ้ว ท้ายเกียร์มันก็จะกระดกขึ้นโดยอัตโนมัติ(แถมด้านหน้าเครื่องก็ทิ่มลง) เกิดผลเสียในทันทีคือ ยอยเพลาสวมท้ายเกียร์ที่จะไปยังเกียร์สโลว์งัดกัน ถ้าหากใช้แบบนี้ไปก็จะเกิดผลเสียในเรื่องของการสั่นกระพือตามมา ณ ระดับความเร็วใดความเร็วหนึ่ง หรืออาจจะสั่นตั้งแต่การออกตัวไปเลยก็เป็นได้เพราะจุดดังกล่าวเป็นจุดที่เสียเซ็นเตอร์ไปแล้ว
ดังนั้นจะทำยังไงให้ท้ายเกียร์ไม่กระดกขึ้น คำตอบก็คือ มันก็จะต้องดร็อปต่ำลงไปทั้งแพ ทั้งเครื่องและเกียร์ครับ แต่ก็จะต้องไม่เกินแนวระดับเพลาของเกียร์สโลว์อีกด้วยครับ จริงๆแล้วถ้าไม่เข้าใจระบบ มองไม่เห็นภาพ จะค่อนข้างเข้าใจยากทีเดียวครับ

ส่วนเรื่องการดัดแปลงที่ตัวรถ ซุ้มเกียร์ หรือการระเบิดห้องเครื่องนั้น ไม่มีครับ ไม่มีอะไรให้เสียรถครับ แต่ถ้าเป็นช่างทั่วๆไปที่ไม่เคยทำก็ไม่แน่เหมือนกันครับเพราะเค้าอาจจะไม่เข้าใจในเนื้องาน แถมดัดแปลงไปแล้วอาจจะไม่ได้ดีอีกด้วย จะยิ่งไปกันใหญ่

แต่อย่างไรก็ตาม Jimny ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นที่ฝากระโปรงแบนเรียบนะครับ บางรุ่นเป็นฝากระโปรงแบบคาริเบี้ยนก็มี(ก็ถือว่าวางในระดับเดียวกันกับคาริเบี้ยนได้ครับ) หรือแม้กระทั่งแบบสปอร์ตมายด์ที่มีในส่วนของผนังห้องเครื่อง(คอจิ้งหรีด) ที่สูงกว่า Jimny และคาริเบี้ยนทั่วไปอีก

คำตอบที่ 118
       (ต่อเรื่องการวาง 3S)
มาถึงอีกขั้นตอนสำคัญ นั่นก็คือ กรองอากาศ สำหรับการใช้งานกับเครื่อง 3S ว่าจะใช้กรองแบบไหน กรองของอะไร และวางในตำแหน่งไหน
โดยแยกออกเป็น
1. กรองแบบไหน ประเภทกรองอากาศ พวกกรองเปลือยตัดทิ้งไปได้เลย ดูว่ากรองแบบไหนที่เหมาะสมกับเครื่องระดับ 2000 ซีซี
2. กรองของอะไร ที่สามารถดีไซน์กับห้องเครื่องคาริเบี้ยนได้อย่างเหมาะสม จะใช้ของเครื่องรุ่นไหน ที่จะมีปริมาณลมที่เพียงพอ
3. วางตำแหน่งไหน ที่น่าจะลงตัว ไม่เกะกะ ไม่แน่น

ในรูปจะเป็นกรองอากาศเดิมๆของเครื่อง 3S ครับ(ตรงรุ่น)

คำตอบที่ 119
       ขอบคุณครับคุณสอที่แนะนำรายละเอียดดีครับเข้าใจเห็นภาพครับ

คำตอบที่ 120
       เมื่อกี้แวะไปหาคุณ สอ มาละ คุณแม่กะคุณสอใจดีมากๆ เลยครับ ยังไงฝากเรื่องแต่งซิ่งให้ตู้ปลานะครับ

คำตอบที่ 121
       อีกมุมครับ สำหรับกรองเดิมๆของเครื่อง 3S-FE

คำตอบที่ 122
       ต่อเลยพี่ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องอยู่พอดีขอหลายมุมเลยนะครับ

คำตอบที่ 123
       สวัสดีครับ พี่สอ สบายดีนะครับพี่ ผมขอสอบถามพี่สอ หน่อยครับว่า เครื่อง SUZUKI G 15 A ประจำการอยู่รถอะไรครับพี่ ขอบคุณครับ

คำตอบที่ 124
       (ตอบ jomhlong)
สวัสดีครับ พี่สอ สบายดีนะครับพี่ ผมขอสอบถามพี่สอ หน่อยครับว่า เครื่อง SUZUKI G 15 A ประจำการอยู่รถอะไรครับพี่ ขอบคุณครับ

ตอบ เท่าที่หาๆดู เห็นมีแต่ขับหน้าครับ น่าจะอยู่ในพวกรถเก๋งซะส่วนใหญ่ แต่รูปลักษณ์ของเครื่องก็ดูคล้ายๆกับ G16A เหมือนกัน (น่าจะมาก่อนที่จะเป็น G16A)

คำตอบที่ 125
       จานจ่ายอยู่ด้านหลังของเครื่องครับ แต่มันคือ ด้านข้างของเครื่องยนต์ครับ เพราะเครื่องขับหน้าจะวางขวาง การออกแบบตัวเครื่องยนต์เป็นลักษณะของเครื่องขับหน้าแล้วครับ

คำตอบที่ 126
       หลังจากที่ดูมาหลากหลายยี่ห้อแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกรองอากาศของเครื่องรุ่นต่างๆ ที่เหมาะสมมากที่สุด ปริมาณลมเพียงพอกับเครื่อง ความลงตัวกับห้องเครื่องคาริเบี้ยน โดยเริ่มต้นจาก
1. กรองอากาศของเครื่อง 4A/5A/7A จากรถ AE รุ่นต่างๆ ซึ่งก็ดูแล้วน่าจะวางได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างเกะกะ และแนวท่ออากาศที่จะเดินเข้าเครื่องแตกต่างกันมากเกินไป และก็เป็นกรองของเครื่อง 1600 ซีซี ซึ่งจริงๆแล้วก็พออนุโลมใช้กับเครื่อง 2000 ได้

คำตอบที่ 127
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S)
วางในรถเดิมๆจะเป็นแบบในรูป แต่ถ้าเอามาใช้กับคาริเบี้ยนจะต้องวางตามยาวแทน ซึ่งจะทำให้แน่น เกะกะ ถ้าเดินท่ออากาศมาเข้าเครื่องด้วยแล้วยิ่งน่าจะเกะกะมากขึ้นไปอีก

คำตอบที่ 128
       2. กรองอากาศของ 4E จากรถ Starlet ดูแล้วสบายๆสำหรับการติดตั้ง แต่เป็นกรองของเครื่อง 1300 ซึ่งไม่สอดคล้องกับปริมาณลมที่จะเข้าเครื่อง 3S ที่เป็นเครื่องขนาด 2000 ซีซี

คำตอบที่ 129
       3. กรองอากาศของโตโยต้า Surf ทรงกลม ปริมาณลมเพียงพอ แต่น่าจะคลาสสิคกับพวกเครื่องใหญ่ๆมากกว่า หรือไม่ก็พวกเครื่องดีเซล เพราะท่ออากาศเข้าอยู่ที่ด้านบน ถ้าเอามาใช้กับเครื่อง 3S ต้องดัดโค้งเข้าท่อไอดีของ 3S ทำให้เกะกะและรก

คำตอบที่ 130
       อีกมุมครับ กับกรองอากาศ Surf ทรงกลม ดูแล้วเหมาะกับเครื่องใหญ่ๆมากกว่า หรือเครื่องดีเซล

คำตอบที่ 131
       4. กรองอากาศเดิมๆของคาริเบี้ยนทรงกลมเหมือนกัน แต่นั่นสำหรับเครื่อง 1300 ซีซี

คำตอบที่ 132
       บางทีแล้วกรองอากาศที่วางได้อย่างลงตัวในบอดี้รถคันหนึ่ง แต่มาวางกับอีกคันอาจจะไม่ลงตัวก็ได้ครับ

(เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่าต่อครับ)

คำตอบที่ 133
       5. อันดับต่อมา ก็คือ กรองอากาศของวีทาร่า ไม่ว่าจะเป็น 5 สายหรือ 3 สาย ก็ใช้ไม่ได้ เพราะอยู่คนละฝั่งกัน ถ้าย้ายมาอยู่ฝั่งคนขับจะต้องแปลงเยอะและไม่ค่อยลงตัวอีกด้วย

คำตอบที่ 134
       6. กรองอากาศของเครื่องตระกูล J ทรงเหลี่ยม ยิ่งวางยาก เพราะใหญ่เกินไป ไม่เหมาะสำหรับซูซูกิคาริเบี้ยน

คำตอบที่ 135
       7. กรองอากาศของเครื่อง V6 ซูซูกิ ตระกูล H20/25/27A หรือแม้กระทั่ง กรองของเครื่อง 3S ขับหน้า รุ่นแรกๆ ก็น่าจะเหมาะสมดี แต่ว่าจะไปหาได้จากที่ไหน เนื่องจากมีน้อย แถมต้องขายพร้อมกับเครื่องเป็นเซ็ตรวมกันอีกด้วย

ในรูปจะเป็นเครื่อง H27A V6 ของซูซูกิแกรนด์วีทาร่า

คำตอบที่ 136
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S)
จากการที่ดูลักษณะกรองอากาศมามากมายหลายแบบหลายยี่ห้อแล้ว ค่อนข้างยากทีเดียวครับที่จะหากรองที่เหมาะสมมาใช้กับเครื่องตัวนี้และพอที่จะดูแล้วลงตัวกับห้องเครื่องของคาริเบี้ยนด้วย ประกอบกับการที่จะได้ตัวกรองมาแล้วยังไงๆก็ต้องเอามาดัดแปลงวางหาตำแหน่งให้เหมาะสมอยู่ดี

ผลสุดท้าย ก็เลยเลือกใช้ กรองเดิมๆของมันนั่นแหละ นั่นก็คือ กรองของ 3S ครับ

คำตอบที่ 137
       และก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะนำกรองของ 3S นี้วางในตำแหน่งของห้องเครื่องคาริเบี้ยน เท่าที่ดูๆหาตำแหน่งในการติดตั้งวาง ก็มองไว้ 2 จุดครับ คือ
จุดที่ 1 ตำแหน่งหลังไฟหน้า
จุดที่ 2 ไว้แทนตำแหน่งลังแบตเตอรี่เดิม

**ทั้ง 2 จุดดูแล้วพอสวยงามและลงตัวกับห้องเครื่องคาริเบี้ยนทั้ง 2 แบบ** แต่ที่สำคัญทั้ง 2 แบบต้องใช้การดัดแปลงที่กรองอากาศด้วย ไม่ใช่นึกจะวางก็วางเจาะยึดได้เลย
จุดที่ 1 ตำแหน่งหลังไฟหน้า ต้องดัดแปลงที่ตัวกรองอากาศที่ด้านล่าง อาจจะเป็นการปาดเพื่อให้เตี้ยลง และปาดไม่พอ ยังคงต้องปาดซุ้มบังโคลนรถเว้าลงไปเพื่อทำเป็นห้องสำหรับกรองอากาศอีกด้วย เพราะถ้าหากใช้วิธีปาดที่ตัวกรองอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการสร้างจุดยึดและเนื้อกรองอากาศด้านล่างก็หายไปแทบหมด เหลืออยู่ไส้กรองเพียวๆ ซึ่งใช้ไม่ได้

จุดที่ 2 ตำแหน่งแทนแบตเตอรี่เดิม ซึ่งคาริเบี้ยนโดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่จะวางอยู่ตำแหน่งฝั่งคนขับ(ข้างๆหม้อลมเบรค) ถ้าหากจะวางกรองอากาศในตำแหน่งแทนแบตเตอรี่ก็จะต้องย้ายแบตเตอรี่ไปฝั่งคนนั่งแทน ซึ่งก็จะมีงานสร้างอยู่เยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเลาะฐานแบตออก สร้างฐานแบตใหม่อีกฝั่ง ออกแบบทางเดินสายไฟใหม่ทั้งหมดให้ไปอยู่อีกฝั่ง สร้างตัวยึดแบตใหม่ ยิ่งแบตลูกใหญ่ยิ่งต้องสร้างมาก งานสี ย้ายตำแหน่งไดร์เออร์แอร์ใหม่ เดินท่อแป๊บแอร์ใหม่ และก็ยังคงต้องปาดกรองอากาศที่ด้านล่างอยู่เหมือนเดิมแต่ปาดน้อยหน่อยครับ หรือเรียกอีกอย่างว่า "ปาดแล้วยังคงความเป็นกรองอากาศอยู่"

ผมเลือกจุดที่ 2 ครับ เพื่อความเหมาะสมและลงตัว

คำตอบที่ 138
       เป็นมหากาพย์ แห่งSUZUKI เลยนะครับพี่สอ (เดี๋ยวของผมขอเป็นเรื่องต่อไปนะครับ 3RZ FE)

คำตอบที่ 139
       (ต่อเรื่องการวาง 3S)
เมื่อจัดที่ทางต่างๆไว้พร้อมแล้ว ก็ลองวางกรองลงไปในตำแหน่งดังกล่าว(แทนแบตเตอรี่เดิม) โดยตอนแรกที่วางก็ถอดกรองด้านล่างออกไปก่อนเพื่อหามิติที่จะปาด รวมถึงความลงตัวโดยรวมทั้งหมดของห้องเครื่อง

คำตอบที่ 140
       ปาดเสร็จเรียบร้อยก็นำกลับมาใส่ในตำแหน่งเดิม ดูเป็นกรองอากาศขึ้นมาในทันทีครับ และจากการที่ปาดฐานกรองด้านล่างออกไปก็จะต้องสร้างจุดยึดกรองขึ้นมาใหม่ 1 จุด เจาะย้ายรูทางเข้าอากาศจากตำแหน่งเดิมแล้วใช้เครื่องเชื่อมพลาสติกเชื่อมในตำแหน่งใหม่ตามที่ต้องการ

คำตอบที่ 141
       และเนื่องมาจากว่า รถคันนี้มีระบบท่อสน็อคเกิ้ล เราก็สามารถที่จะออกแบบท่ออากาศเข้าให้ตรงกับรูทางเข้าสน็อคเกิ้ลได้ครับ แล้วค่อยเชื่อมพลาสติก
ซึ่งก็ถือว่า เป็นรายละเอียดที่เพิ่มเติมเข้าไปให้ระบบทั้งหมดดูสมบูรณ์เพิ่มมากขึ้นครับ

คำตอบที่ 142
       เสร็จแล้วก็ติดสน็อคเกิ้ลกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม ก็สามารถผ่านระบบสน็อคเกิ้ลเข้ากรองอากาศ 3S ก่อนที่จะเข้าเครื่องยนต์ได้อย่างปกติ

คำตอบที่ 143
       อีกมุมครับ หลังจากที่ดัดแปลงที่ตัวกรองอากาศเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ก็จะต้องสร้างจุดยึดกรองขึ้นมาใหม่ 1 จุด ส่วนอีก 2 จุดยังคงใช้ตำแหน่งเดิมได้ และอย่าลืมว่า ในทุกๆจุดจะต้องนั่งอยู่บนลูกยางทั้งหมดด้วยครับ และกิ๊บล็อคกรองทั้งหมด 4 จุดยังคงต้องมีอยู่นะครับ เพราะถ้าไม่มี ทำให้ปิดกรองได้ไม่สนิทปิดแบบเผยอๆไม่แน่นจะทำให้เครื่องยนต์จะกลับบ้านเร็วกว่ากำหนดเพราะจะดูดเอาฝุ่นละอองเข้าไปในเครื่องยนต์

ข้อดีที่พอจะรวบรวมได้จากการใช้กรองอากาศของ 3S ดังนี้
1. ได้กรองของมันตรงรุ่นแท้ๆ ตรงสเปคโรงงาน
2. ระบบอากาศ ระบบไฟครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องระบบไฟที่มีตัวเซ็นเซอร์ THA ตรงรุ่นของเครื่องครบถ้วน ซึ่งเป็นตัวอ่านค่าปริมาณอากาศเพื่อที่จะใช้คำนวณในกล่อง ECU ถ้าตัวนี้ไม่มีก็จะมีผลต่อระบบเครื่องยนต์ อย่างเช่น การบริโภคน้ำมัน เป็นต้น
3. แบตไปอยู่อีกฝั่ง ทำให้เป็นการเฉลี่ยน้ำหนักของรถไปที่ด้านคนนั่งมากขึ้น
4. การที่แบตอยู่ฝั่งขวาจะทำให้อยู่ฝั่งเดียวกับทางเดินสายไฟของเครื่อง 3S ทำให้เก็บสายไฟได้ค่อนข้างละเอียด ไม่รก ไม่ว่าจะเป็นสายบวก สายไดสตาร์ท สายลบ ต่างอยู่ฝั่งคนนั่งทั้งสิ้น ทำให้ไม่ต้องลากโยงข้ามไปข้ามมา

ข้อเสียดังนี้
1. ดัดแปลงเยอะแยะมากมายหลายจุด ทำให้เสียเวลาในการทำ(ในส่วนของกรองอากาศ) ค่อนข้างมากครับ

คำตอบที่ 144
       จบไปครับ สำหรับเรื่องกรองอากาศ 3S เหลือแต่การต่อท่ออากาศมาเข้าท่อยางเดิมของเครื่องตรงลิ้นปีกผีเสื้อเท่านั้น ดูมิติโดยรวมของห้องเครื่องครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ

คำตอบที่ 145
       ตำแหน่ง Drier แอร์ในตำแหน่งใหม่ที่ย้ายหลบเข้ามาในห้องเครื่องอีกนิดนึงเพื่อหลบแบตเตอรี่ที่จะมาอยู่แทนในตำแหน่ง Drier เดิม ตำแหน่งดังกล่าวยังคงสามารถใช้ความยาวของสายแอร์เดิมได้อยู่ และที่สำคัญก็คือ ยังคงอยู่ในระดับแนวตั้งซึ่งสามารถที่จะดูปริมาณน้ำยาแอร์ที่เติมลงไปได้อย่างเหมาะสม เพราะว่าน้ำยาแอร์ถ้าหากเติมมากเกินไปก็ไม่ดีเพราะดึงกำลังคอมและกำลังเครื่องยนต์และก็จะไม่เย็น หรือถ้าหากเติมน้อยเกินไปก็จะไม่เย็นหรืออาจจะทำให้คอมเสียได้ ดังนั้น การเติมน้ำยาแอร์จะมากหรือน้อยก็เป็นไปตามความเหมาะสมโดยจะต้องดูจากตัว Drier เป็นหลักครับ

คำตอบที่ 146
       แล้วทำไมเครื่องพวกนี้ถึงใช้เป็นระบบ Direct coil?

คำตอบที่ 147
       พี่สอครับแล้วตัว 3rz พี่คุยกันพอจะหาตัวที่เป็น Direct coil บ้างหรือเปล่าครับ ยังไงเอาแน่ครับเดือนมีนาคม 54 นี้ครับ
สวัสดีปีใหม่ครับพี่สอ ขอให้มีสุขภาพดีแข็งแรง ไม่ป่วย ไม่จน นะครับ

คำตอบที่ 148
      

คำตอบที่ 149
       ทำไมเครื่องยนต์ถึงได้ถูกออกแบบให้เป็นระบบ Direct coil ก็เพื่อ
1. ระบบการจุดระเบิดจะเป็นลักษณะของการจุดโดยตรงไปยังสูบแต่ละสูบเลย ไม่ผ่านชิ้นส่วนหรืออ้อมไปยังระบบอื่น ซึ่งส่งผลดีในเรื่องของการจ่ายไฟที่ค่อนข้างแม่นยำ ลื่นกว่า อีกทั้งความต่อเนื่องในการจ่ายไฟก็ดีกว่าด้วย (อันนี้ข้อดีหลักๆเลยครับ)
2. ลดปัญหากระแสไฟรั่วได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับระบบจานจ่ายเดิม
3. ลดขั้นตอนการผลิต (ในแง่ของผู้ผลิต)
4. การผลิตชิ้นส่วนในแบบ Electric(เช่น แผงวงจร) จะผลิตได้ง่ายกว่าชิ้นส่วนในลักษณะ Machanic (เช่น ชิ้นงานต่างๆ ฟันเฟือง หัวนกกระจอก) ซึ่งค่อนข้างมากระบบกว่าแบบ Electric
5. การตรวจเช็ค ตรวจสอบ หรือการซ่อมบำรุงจะทำได้ง่ายกว่าแบบจานจ่ายทั่วไป เพราะว่าสามารถแยกเช็คได้ว่า เสียที่ตัวไหน สามารถเปลี่ยนได้ทีละตัว ซึ่งแตกต่างจากระบบจานจ่ายที่จะต้องรื้อตัวจานจ่ายและไล่เช็คดูว่า ในจานจ่ายนั้นเสียที่กลไกไหนอีกที

ข้อดีมี ประโยชน์ก็เยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย (แถมเป็นข้อเสียที่น่าสนใจซะด้วย)
ข้อเสียดังนี้
1. ระบบ Direct Coil เป็นระบบที่จ่ายไฟโดยตรงอยู่แล้ว ปริมาณค่าไฟจึงสร้างมาให้เหมาะสมกับสเปคของเครื่องยนต์มาแต่แรกเริ่ม การปรับเปลี่ยนค่าไฟจึงทำได้ค่อนข้างยาก หรือที่เรียกอีกอย่างก็คือ การปรับตั้งค่าไฟ(จะให้อ่อนหรือให้แก่) จะต้องกระทำที่ Software นั่นเอง ไม่สามารถปรับตั้งเองได้ในแบบ Mannual
2. ผลพวงมาจากข้อ 1 นั่นก็คือ การนำเครื่องยนต์ประเภท Direct Coil มาใช้กับพลังงานทางเลือกอย่างแก๊ส LPG จึงทำให้มีปัญหามากกว่าพวกเครื่องที่มีจานจ่าย เพราะค่าของแก๊ส LPG จะมีค่าอ็อกเทนอยู่ที่ 105 ซึ่งสูงกว่าค่าอ็อกเทนของน้ำมัน(91/95) ดังนั้นโดยปกติแล้วเมื่อเรานำเครื่องยนต์ไปติดแก๊สจึงต้องมีการปรับตั้งค่าไฟที่ตัวจานจ่ายใหม่เพื่อให้แก่มากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับค่าอ็อกเทนของแก๊ส แต่ทว่าเจ้าพวกเครื่องแบบ Direct coil ทั้งหลายไม่สามารถที่จะปรับตั้งค่าไฟให้แก่ได้จึงค่อนข้างมีปัญหากับการใช้ระบบแก๊ส ส่งผลถึงความเรียบเนียนในการขับขี่และอัตราเร่งที่ค่อนข้างด้อยลงไปกว่าการใช้น้ำมันมาก อีกทั้งปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการ Backfire หรือ Backspark จะต้องไปแก้ไขที่ปลายเหตุแทน ไม่ว่าจะเป็น การปรับจูนที่ระบบแก๊ส การเร่งขนาดไซส์ของมิกซ์เซอร์ การพึ่งพาอุปกรณ์บางตัวจากระบบNGV บ้างก็เปลี่ยนไปติดตั้งระบบแก๊สเป็นแบบหัวฉีดเลยก็เยอะครับ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะใช้งานไม่ได้ ทุกอย่างใช้งานได้ปกติครับ เพียงแต่ว่าไม่เกิดประสิทธิผลสูงสุดเหมือนกับเครื่องที่มีจานจ่ายแล้วใช้ระบบแก๊สเท่านั้นเอง


(ในรูปจะเป็น 3RZ Direct coil เหมือนกัน)

คำตอบที่ 150
       อันนี้เป็น 3RZ แบบโมดิฟายเทอร์โบเพิ่มเติมเข้าไป

คำตอบที่ 151
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S)
เสร็จจากงานหน้ารถก็ลงมาต่อที่งานใต้ท้องรถครับ
เนื่องจากระดับเครื่องและเกียร์ที่ได้วางลงไปในตำแหน่งใหม่ ทำให้ระยะเกียร์สโลว์นั้นไม่สามารถอยู่ในระยะเดิมได้ ทุกอย่างจึงผิดไปทั้งหมด ดังนั้นจะต้องเริ่มยกที่ 2 สำหรับงานวางเครื่องต่างรุ่นกับคาริเบี้ยนครับ นั่นก็คือ การตั้งระดับเกียร์สโลว์ใหม่ โดยจะต้องดูในเรื่องของ
- ระดับเกียร์ในตำแหน่งใหม่จะต้องเหมาะสมกับตำแหน่งเครื่องที่ได้วางมา (ซึ่งก็ควรดูเอาไว้คร่าวๆแล้วตั้งแต่ตอนวางตำแหน่งเครื่อง) การวางเครื่องสูงหรือต่ำมีผลต่อการวางตำแหน่งสโลว์โดยตรง
- ระดับเกียร์ในตำแหน่งใหม่ไม่ควรถอยหลังมากจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลต่อระยะเพลากลางท่อนหลังที่จะสั้นลง และทำให้มุมเพลาหักชันมากเกินไป อีกทั้งระยะเดินของคันเกียร์ที่ด้านบนจะต้องเหมาะสมด้วย

คำตอบที่ 152
       สวัสดีปีใหม่ครับ สอ, ขอให้น้องและครอบครัวมีความสุข สุขภาพแข็งแรง งานเยอะเงินมากๆ นะครับ
พี่เอ็ม

คำตอบที่ 153
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S)
ในเรื่องของการวางเกียร์สโลว์นั้น ต้องพิจารณากันตั้งแต่ระบบยอยที่จะนำมาใช้ ว่าเราจะนำมาต่อเข้าระบบไปยังเกียร์สโลว์ได้อย่างไร และแบบไหน การใช้งานยังไงถึงจะได้ผลดี


ยอยในรูปฝั่งขวาจะเป็นยอยที่ติดมากับเครื่องเกียร์ของ 3S ส่วนยอยฝั่งซ้ายจะเป็นยอยในตระกูลโตโยต้ารุ่นเก่า ทั้ง 2 ตัวนี้ระยะสปายเพลาสวมเท่ากันหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฟันเฟือง ความยาว แต่....มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ดังนี้

คำตอบที่ 154
       ข้อที่ 1
ในส่วนของยอยฝั่งขวา ที่เป็นยอยติดมากับเครื่อง 3S ซึ่งมักจะมีปัญหาค่อนข้างมากเกี่ยวกับเรื่องของยอยตายหรือขัดตัว เรียกได้ว่า 95% ของเครื่องรุ่นนี้ในเชียงกงทั้งหมด ยอยที่ติดมากับเครื่องมักจะเสีย และยอยแบบนี้ก็เป็นยอยแบบเดียวกันกับเครื่องในตระกูล J ที่มักจะขัดฝืดหรือบางเครื่องก็ตายขยับไม่ได้เลยก็มี ก็ต้องขอร้านเปลี่ยนกันไปหาตัวดีๆมาใช้แต่พอใช้ๆไปก็เสียเร็วอีก อันมีสาเหตุหลักๆมาจากการที่ยอยดังกล่าวจะเป็นยอยแบบย้ำมาจากโรงงานซึ่งไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเมื่อถอดเปลี่ยนไม่ได้ ประกอบกับเครื่องยนต์แต่ละตัวจะเป็นเครื่องมือสองซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้วในระดับหนึ่ง พอใช้ไปนานๆการสึกหรอเกิดขึ้น ความร้อน อายุยอยได้ จารบีแห้ง จึงทำให้ยอยพวกนี้มักจะเสีย และโอกาสเสียก็มากกว่ายอยทั่วๆไปด้วยเพราะไม่มีที่อัดจารบี เรียกได้ว่า อายุสั้นกว่ายอยแบบทั่วๆไป

แต่ยังคงหาสาเหตุไม่ได้เกี่ยวกับที่ทำไม? ทางโรงงานถึงได้ออกแบบยอยแบบนี้มาให้ใช้ ยอยพวกนี้ถ้าหากอยู่ในส่วนของเพลากลางจะท่อนหน้าหรือท่อนหลังยังพอที่จะตรวจเช็คได้ง่าย แต่ในทางกลับกันกับตรงกันข้ามกับรถซูซูกิคาริเบี้ยนที่ได้มีระบบเกียร์สโลว์แยกลอยต่ออีกหนึ่งทอด ทำให้ยอยพวกนี้จะอยู่ตรงกลางจากเกียร์เมนไปเข้าที่เกียร์สโลว์(ท่อนสวมเกียร์เมนมาเข้าที่สโลว์) ทำให้ยิ่งตรวจเช็คยากมากขึ้นไปอีก นอกซะจากถอดตัวสวมออกมาทั้งชุดเพื่อตรวจเช็คระบบยอย แต่การที่จะถอดเจ้าตัวนี้ได้มันก็จะต้องถอดสโลว์ออกก่อน เพราะระยะดังกล่าวจะไม่พอที่จะถอยจนสปายเพลาหลุดออกมาได้(มันจะติดหน้าแปลนสโลว์ก่อน) ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณระยะเพลากลางท่อนสวมให้มีความยาวที่เพียงพอในการที่จะถอด แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ จะทำให้เกียร์สโลว์ถอยล่นไปด้านหลังมากเกินไป เพลากลางท่อนหลังก็จะหักชันมากเกินไป..........***จนกระทั่งยอย 8 ทิศก็อาจจะ..ไม่..สามารถมาช่วยแก้ปัญหาได้***

คำตอบที่ 155
       ข้อแตกต่างข้อที่ 1 ไปแล้วนะครับ นั่นก็คือ ระบบยอยที่เป็นแบบย้ำมาจากโรงงานทำให้เปลี่ยนซ่อมไม่ได้
ต่อมาข้อที่ 2 ขนาดความโตของตัวยอยกากบาทเล็กกว่า ซึ่งตัวยอยที่ว่าเล็กกว่าก็คือ ตัวยอยของเครื่อง 3S นะครับ ดังนั้นจากการที่มีขนาดยอยที่เล็กกว่า ทำให้ความทนทาน ความแข็งแรงต่อการใช้งานในระยะยาวย่อมด้อยค่าลงไป การรับแรงบิดของเครื่อง อายุการใช้งานจะสั้นกว่ายอยที่มีขนาดโตกว่าครับ พอมาผนวกเข้ากับข้อที่ 1 ที่ยอยยังเป็นแบบเปลี่ยนไม่ได้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ยอยพวกนี้เสียเร็วมากขึ้นไปอีกครับ

จากรูปตัวซ้ายจะมีขนาดยอยที่ใหญ่กว่าตัวขวา(ตัวขวาของเครื่อง 3S) มองจากรูปอาจจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างกันมากนัก แต่เอาเวอร์เนียร์จับวัดดูแล้วรับรองว่า คนละไซส์เลยครับ

คำตอบที่ 156
       ในส่วนของยอยตัวใหญ่นั้นนอกจากจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ทนกว่าแล้ว ยังคงสามารถถอดเปลี่ยนระบบยอยได้ถ้าหากเริ่มเสียหรือถึงอายุการใช้งานของมัน ยอยพวกนี้มักจะอยู่ในสปายเพลาของรถในค่ายโตโยต้ารุ่นเก่าๆครับ ตระกูลเครื่อง 2C RT100 หรือ Crown ในบางรุ่น

ยอยดังกล่าวนี้ ยังคงมีรุ่นที่เป็นยอยแบบใหญ่กับยอยแบบเล็กอีกด้วย(แต่ทั้ง 2 แบบก็ยังคงเปลี่ยนตัวยอยได้ตามร้านอะไหล่ทั่วๆไป) โดยที่ยอยแบบเล็กนั้นจะอยู่ในรถที่เป็นเกียร์แบบธรรมดา ส่วนยอยแบบใหญ่นั้นจะอยู่ในรถที่เป็นเกียร์ออโต้ อันเนื่องมาจากว่ารถที่เป็นเกียร์ออโต้จะมีแรงบิดหรือแรงกระชากจากการเปลี่ยนเกียร์ที่มากกว่ารถเกียร์ธรรมดา แตกต่างจากรถที่เป็นเกียร์ธรรมดาที่มีระบบคลัชในการลดแรงกระชากหรือกระตุกในการออกตัวครับ

ส่วนในรูปนั้นจะเป็นยอยแบบเล็กที่อยู่ในรุ่นของเกียร์ธรรมดาครับ สามารถเอามาใส่แทนยอยแบบย้ำของ 3S ได้เลยแบบตรงรุ่นครับ
(นี่ขนาดยอยเล็กนะครับ แต่ยังใหญ่กว่ายอยย้ำของ 3S อีก)

คำตอบที่ 157
       พอเลือกประเภทยอยที่จะใช้กับเจ้าเครื่อง 3S ได้แล้ว ก็กลับมาต่อกันที่เรื่องการวางเกียร์สโลว์
จากรูปนั้นจะเห็นว่า หน้าแปลนยังคงอยู่ในระดับที่ต่างกันกับท้ายเกียร์เมนออโต้อยู่ ตรงจุดนี้จะต้องวางใหม่ให้ตรงกับท้ายเกียร์นะครับ แต่ก็มีระยะในการวางอยู่หลากหลายแบบ เอาเป็นว่า แบ่งออกเป็น 2 กรณีง่ายๆแล้วกันครับ คือ

กรณีที่ 1 วางชิดกับเกียร์เมน
การวางในลักษณะที่จะให้ชิดๆกับเกียร์เมน ก็จะต้องดูเรื่องเทคนิคการตัดต่อยอย ระดับการวางที่จะต้องให้ตรงกับเกียร์เมนมากที่สุด(95-100%) เนื่องจากการวางชิดๆจะไม่มีระยะการหักตัวของยอยและระยะบาลานซ์ของระดับเพลาก็ไม่มี ถ้าหากวางเกียร์สโลว์ไม่ตรงรับรองสั่น 100% ครับ วิธีนี้จะมีข้อดีในเรื่องของเกียร์สโลว์จะไม่ถอยหลังไปมาก ทำให้เพลากลางท่อนหลังไม่ค่อยชันเท่าไหร่(แต่ยังไงก็ต้องพึ่งยอย 8 ทิศอยู่ดีครับ) การวางค่อนข้างยากและต้องใช้ฝีมือมากพอสมควร

กรณีที่ 2 วางห่างจากเกียร์เมน
การวางในลักษณะนี้จะสามารถวางเกียร์สโลว์ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าท้ายเกียร์เมนได้นิดหน่อยครับ เนื่องจากในระยะดังกล่าวจะมีพื้นที่ในการหักตัวของยอยกากบาทและมีระยะเพลาไว้สำหรับบาลานซ์ การวางก็จะง่ายกว่าเพราะไม่ต้องตั้งระดับเกียร์ให้ถึงกับตรง 100% แต่ก็ไม่ใช่ว่าวางมั่วๆนะครับ พวกหน้าแปลนเกียร์ต่างๆก็จะต้องอยู่ใน Slope เดียวกัน เพียงแต่ระดับอาจจะต่ำกว่าแนวเกียร์เมนได้นิดหน่อย แต่การวางแบบนี้จะมีข้อเสียคือ ตัวเกียร์สโลว์อยู่ห้อยลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควร(ก้มไม่ต้องมากก็มองเห็น) อีกทั้งระยะเพลากลางท่อนหลังจะหักมุมชันมาก คันเกียร์ต้องต่อและระยะเดินของคันเกียร์ด้านบนห้องโดยสารก็มาก(จากการดร็อปเกียร์ที่ต่ำลง) จะต้องเปิดพื้นตัวถังกว้าง

**ทั้ง 2 กรณี วางดีๆจบทั้ง 2 แบบครับ แล้วแต่จะเลือกแบบไหนเท่านั้นเอง**
(ยังไงลองพิจารณาเลือกดูครับ)

คำตอบที่ 158
       พอดีรูปที่ตั้งเสร็จแล้ว เห็นมุมชัดๆไม่มีครับ(ไม่ได้ถ่ายไว้) มีแต่มุมอื่น
อธิบายคร่าวๆดังนี้แล้วกันครับ จากรูป ระดับหน้าแปลนเกียร์สโลว์จะอยู่สูงกว่าเพลาที่มากจากท้ายเกียร์เมน ดังนั้นจะต้องตั้งระดับเกียร์ใหม่ให้อยู่ในระดับลาดชันเท่ากันตามเส้นสีแดงที่ขีดไว้ ถ้ายิ่งเกียร์สโลว์อยู่ใกล้ท้ายเกียร์เมนมากเท่าไหร่ยิ่งจะต้องให้ระดับหน้าแปลนเท่ากันแทบจะ 100% แต่ถ้าหากว่าวางเกียร์สโลว์ต่ำกว่าเกียร์เมนเล็กน้อยก็จะต้องมีระยะเพลาท่อนสวมให้ยาวตามความเหมาะสมครับเพราะถ้าใกล้กันจะสั่น

ทีนี้ในส่วนของการตั้งระดับ ก็ยังแบ่งคร่าวๆไว้เป็น 2 จุด
จุดที่ 1 ระดับความสูงต่ำของตัวเกียร์(มุมตามรูป)
จุดที่ 2 ระดับขนานกับคัทซีรถ ตัวเกียร์จะต้องอยู่ในระดับขนานตามคัทซีนะครับ

คำตอบที่ 159
       การวางเกียร์สโลว์สำหรับคันนี้ได้เลือกการวางในลักษณะชิดกับเกียร์เมนออโต้ครับ เพื่อ
- เพื่อจะได้ไม่ทำให้เกียร์สโลว์ถอยหลังมากเกินไป ทำให้เพลากลางท่อนหลังไม่ชันมาก
- เพื่อลดความมากระบบของท่อนเพลากลางสวมตัวบนให้สั้นลงมากที่สุด ระบบจุดต่อต่างๆโดยรวมจึงลดน้อยลงไปด้วย
- เพื่อให้ระดับเกียร์สโลว์อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำจนเกินไป เนื่องจากต้องขึ้นไปอยู่ชิดใกล้ๆกับท้ายเกียร์เมน
- เพื่อการซ่อมบำรุง ตรวจเช็คเซอร์วิส ระบบยอยกากบาทที่ง่ายกว่าเดิม

คำตอบที่ 160
       พอได้ระดับเกียร์สโลว์แล้ว ระบบยอยที่จะใช้แล้ว ระยะความสั้นของเพลาสวมที่เหมาะสมแล้ว ก็ดำเนินการขั้นต่อไปก็คือ การสร้างขายึดเกียร์สโลว์ใหม่ทั้งหมด เพื่อจะได้ยึดเกียร์สโลว์ไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ และเพื่อเป็นการรองรับกับระบบที่ได้ดัดแปลงขึ้นมาใหม่ทั้งหมดอีกด้วย อย่างเช่น
- ระบบเพลาสวมยอยที่สั้นๆก็จะต้องออกแบบขายึดเกียร์สโลว์ใหม่ เพื่อให้สามารถตรวจเช็คระบบยอยกากบาทได้ง่ายๆ
- ระบบยางแท่นเกียร์สโลว์ที่มักจะขาดจากการที่จะต้องรับแรงบิดของเครื่องยนต์ที่มากขึ้นซึ่งก็มักจะเป็นปัญหาเวลาไปเที่ยวป่าหรือยางแท่นเกียร์หมดอายุก็จะขาดได้ง่ายเช่นกัน บางครั้งแค่เครื่อง 1300/1600 ยังขาดง่ายเลยครับ ถ้าเที่ยวป่าบ่อยๆต้องหมั่นตรวจเช็คหรือเปลี่ยนลูกยางบ่อยๆเพราะถ้าหากว่ายางเริ่มแข็งหรือแตกร้าวก็จะเสียหายได้ง่ายเมื่อเอาไปใช้งานจริง

(ทุกอย่างได้ถูกสร้างและกำหนดพื้นฐานขึ้นใหม่ทั้งระบบ เพื่อให้ทุกอย่างมีระบบที่สอดคล้องกันทั้งหมด)

ส่วนในรูปคือ ขายึดเกียร์สโลว์เดิมๆ ที่ได้มีการย้ายตำแหน่งมาก่อนแล้ว ใช้ยางแท่นเครื่องคาริเบี้ยนมาเป็นยางแท่นเกียร์แทน ขาพวกนี้จะต้องถูกเลาะทิ้งออกไปทั้งหมด

คำตอบที่ 161
       หลังจากพิจารณาอยู่นานเกี่ยวกับระบบของขายึดเกียร์สโลว์ว่า จะออกแบบให้เป็นแบบไหนถึงจะโอเคใช้งานได้ดี ไม่เสียหายง่าย เหมาะสมกับเครื่องยนต์ เหมาะสมกับการบำรุงรักษา กลไกง่ายๆ(แต่อาจจะทำยาก) ไม่มากชิ้นมากระบบ

ประการแรกเลย คือ เลาะของเดิมออกทุกจุด และสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
ประการที่ 2 คือ ระบบบูชที่ใช้คือ แบบบูชขวาง(แบบกลมทั่วไป) เพื่อให้มีการให้ตัวที่น้อย สามารถรับแรงบิดของเครื่องได้เยอะๆ (กระแทกคันเร่งหนักๆแล้วเกียร์สโลว์จะไม่ขยับตาม)
ประการที่ 3 คือ ขาเกียร์ที่สร้างขึ้นมาใหม่จะต้องรับแรงบิดได้โดยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับขาเกียร์สโลว์บิดงอ

คำตอบที่ 162
       อีกมุมชัดๆครับ ระบบบูชจะเป็นบูชขวางแล้วร้อยน็อตผ่านทะลุมาอีกข้างหนึ่ง บูชยางให้ตัวได้น้อยก็จะทำให้ไม่เสียเร็ว และระบบที่ร้อยขวางแบบนี้ก็จะล็อคตัวไว้ด้วยน็อตแข็ง(น็อตแข็งนะครับ น็อตแข็ง) และระบบน็อตแบบนี้คำว่า "น็อตขาด" คงไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้แน่นอนครับ

ภายใต้การดัดแปลงแบบนี้ อย่าลืมว่าจะต้องได้ระดับสโลว์ที่แน่นอนแล้วนะครับ หรือพูดง่ายๆว่า เกียร์จะต้องอยู่ในระดับที่ต้องการแล้วค่อยสร้างขายึดเกียร์มาหาที่ตัวเกียร์สโลว์นั่นเอง ไม่ใช่ว่าสร้างขาขึ้นมาก่อนแล้วเอาเกียร์สโลว์มายึดเพราะถ้าอย่างนั้นก็คงไล่กันไม่จบครับ

คำตอบที่ 163
       เสร็จแล้วอย่าลืมเก็บงานสีเหมือนเดิมครับ

คำตอบที่ 164
       ส่วนขายึดเกียร์อีกด้านก็สร้างขึ้นมาใหม่ในลักษณะของเหล็กกล่อง หรือเหล็กรางตามยาว เนื่องจากเหล็กที่เป็นกล่องหรือรางจะสามารถรับแรงบิดแรงกระชากจากเครื่องยนต์ที่ซีซีสูงๆได้เป็นอย่างดี ส่วนระบบบูชก็เป็นบูชขวางใหม่ทั้งหมดเหมือนกับอีกฝั่งที่ได้ทำไป ซึ่งถ้าหากเทียบกับของเดิมแล้วเหล็กขายึดเดิมจะเป็นเพียงแค่เหล็กบางๆถ้าหากรับแรงบิดจากเครื่องยนต์มากๆจะมีปัญหาเกี่ยวกับขาเกียร์บิดคด(ก็นิยมดามกันซะส่วนใหญ่) และปัญหาเกี่ยวกับลูกยางเกียร์ขาดก็พบบ่อยเช่นกัน ดังนั้นปัญหานี้จึงหมดไปแบบ 100% ครับ

คำตอบที่ 165
       เสร็จแล้วก็เก็บงานสีอีกทีครับ งานจะได้สมบูรณ์
อุปกรณ์น้อยชิ้นไม่มากระบบ ซ่อมเซอร์วิสง่าย มีอยู่ 2 ชิ้นส่วน แขนซ้ายแขนขวา มักนิยมเรียกกันว่า "T-Case Arm"

คำตอบที่ 166
       สร้างเสร็จหมดทุกจุด ระบบยอยท้ายเกียร์แบบตัวเดียว T-case Arm และระบบบูชล็อคเกียร์สโลว์ คำนวณระยะสปลายเพลาสวมและตัดต่อเพลากลางให้สั้นตามความเหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็เริ่มยกเกียร์สโลว์ขึ้นใส่ครับ โดยเริ่มใส่จากตัวแขนยึดเกียร์สโลว์ตัวยาวก่อน

คำตอบที่ 167
       ยึดขายาวเสร็จแล้วก็นำเพลาสวมท้ายเกียร์เมนใส่เข้าไป ก่อนที่จะสวิงขาอีกข้างขึ้นไปยึดก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ครับ ล็อคน็อตบูชทั้ง 3 ตัวให้แน่น ใส่คันเกียร์ด้านบน และก็เติมน้ำมันเกียร์สโลว์

คำตอบที่ 168
       ระยะแนวขายึดฝั่งคนนั่งออกแบบขายึดให้อยู่สูงหลบบนเพื่อองศาเกียร์สโลว์ที่เหมาะสม และเผื่อที่ไว้สำหรับเดินแนวท่อไอเสียด้วยครับจะได้ไม่เกะกะห้อยย้อยลงมามาก

คำตอบที่ 169
       สวัสดีตอนเช้าๆ ครับพี่สอ ยังไงรบกวนพี่สอเล็งๆ เครื่องไว้ให้ผมด้วยนะครับ เหลือเวลาอีกไม่นานก็ถึงคิวแล้ว (((ดีใจจังโว๊ย.....)))

คำตอบที่ 170
       สวิงขาขึ้นไปเรียบร้อยก็ขันล็อคบูชทุกจุดให้แน่นๆ

คำตอบที่ 171
       ในส่วนของตัวสปลายสวมเลื่อนนี้ ถ้าหากวางระยะถอยชิดเลื่อนเข้าไปติดยันที่ด้านในเฟืองเกียร์เลยถือว่าใช้ไม่ได้นะครับ เพราะระยะดังกล่าวจะต้องเผื่อระยะไว้สำหรับการโยนตัวของเครื่องยนต์ที่อาจจะเดินหน้าหรือถอยหลังได้ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเพลาสวมยันเกียร์ที่ด้านใน

คำตอบที่ 172
       ถ้าได้ระยะที่เหมาะสมแล้วจะเห็นว่า ตัวปลอกครอบเหล็กกันฝุ่นจะอยู่ในระยะที่ค่อนข้างเหมาะสม ไม่ลึกจมเข้าไปในเกียร์ จริงๆแล้วระยะดังกล่าวโรงกลึงที่ตัดต่อเพลากลางแทบจะทุกที่จะรู้ระยะเป็นอย่างดีครับ มักจะต้องบอกระยะหน้าแปลนเกียร์สโลว์จนถึงตำแหน่งจุดที่ยันแล้วโรงกลึงจะคำนวณระยะเผื่อตรงจุดนี้ก่อนที่จะตัดต่ออีกทีครับ (พูดง่ายๆก็คือ ระยะด้านหน้ายันสุดจนมาถึงหน้าแปลนสุดแล้วต้องหักลบเผื่อระยะให้สั้นลงไปอีกเพื่อกันเพลายันเกียร์จากการที่เครื่องมีการให้ตัวครับ)

คำตอบที่ 173
       เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็วัดระยะเพื่อตัดต่อเพลากลางทั้งท่อนหน้าและท่อนหลังให้เหมาะสมกับตำแหน่งเกียร์สโลว์ใหม่ ซึ่ง ณ ตำแหน่งใหม่นี้จะทำให้เพลากลางท่อนหน้าจะมีความยาวมากกว่าเพลากลางท่อนหลังอันเนื่องมาจากความยาวของเครื่องและเกียร์ที่วางลงไปใหม่นั่นเอง

อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ที่มีซีซีสูงขึ้นยังไงแล้วการตัดต่อเพลากลางก็อย่าลืมดูขนาดความเหมาะสมของแป๊บเพลาที่จะนำมาใช้ตัดต่อด้วย อย่าไปใช้พวกแป๊บเพลาที่บางจนเกินไป หรือแป๊บเพลาที่หนักจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น
- แป๊บเพลาที่บางจนเกินไป อาจจะทำให้บุบได้ง่ายจากการกระแทกเพียงเล็กน้อย หรือเพลาขาดหรือคดดุ้งจากการรับแรงบิดของเครื่องยนต์
- แป๊บเพลาที่หนาจนเกินไป จะทำให้ลูกปืนท้ายเกียร์สโลว์เสียเร็ว สปลายเฟืองครอนเร็ว เรียกได้ว่า มีผลเสียค่อนข้างมากในระยะยาว

คำตอบที่ 174
       ยอย 8 ทิศ
ยอย 8 ทิศถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นิยมนำมาใช้สำหรับรถที่ได้มีการปรับเปลี่ยนวางเครื่องใหม่แต่ยังคงใช้สโลว์เดิมคาริเบี้ยนอยู่ อันเนื่องมาจากระยะท้ายเกียร์สโลว์ได้มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งถอยมาด้านหลัง ทำให้มุมเพลากลางท่อนหลังมีความชันมากขึ้น ระดับส่วนต่างระหว่างหน้าแปลนท้ายสโลว์กับหน้าแปลนเฟืองท้ายแตกต่างกันมากขึ้น ดังนั้นจึงมักจะนิยมนำยอย 8 ทิศมาปรับใช้เพื่อเป็นการทดแทนการหักงอของยอยกากบาทที่มากเกินจนทำให้เกิดเสียงดัง

คำตอบที่ 175
       เครื่อง เกียร์ เกียร์สโลว์และเพลากลางเรียบร้อยหมด คราวนี้ก็ย้ายเข้ามาในโซนห้องโดยสารกันบ้าง รื้อเบาะ คอนโซลเกียร์ คันเบรคมือออกให้หมด เพื่อย้ายและผ่าช่องคันเกียร์สโลว์ในตำแหน่งใหม่ ผ่าเพื่อหาตำแหน่งคันเกียร์ออโต้เพื่อให้ได้จุดที่เหมาะสมที่สุด

คำตอบที่ 176
       ผ่าช่องแล้วช่องเล่า ก็หาตำแหน่งที่ดีและเหมาะสมมากที่สุดไม่ได้ซักที ก็เลยผ่าเอาแบบเหว่อะหวะไปเลยครับ

คำตอบที่ 177
       โดยปกติแล้วถ้าหากไม่ผ่าแบบนี้ จะใช้ผ่าเอาแค่ให้คันเกียร์ขึ้นในตำแหน่งที่ถอยหลังมาจริงๆก็พอใช้ได้ แต่เพื่อความเหมาะสมและลงตัวสำหรับเกียร์ที่เป็นแบบออโต้ครับ

คำตอบที่ 178
       ลักษณะการผ่ากว้างๆนี้ เราจะสามารถเซอร์วิสอะไรต่ออะไรได้ค่อนข้างสะดวกครับ ยิ่งถ้าหากว่าเป็นระบบเกียร์ธรรมดาด้วยแล้วเราก็จะสามารถถอดเปลี่ยนบูชคันเกียร์ต่างๆตรวจเช็คต่างๆได้ง่าย หรือเกียร์ไฟฟ้าของโตโยต้า หรือเกียร์ไดฮัทซุ Rocky ที่มักจะมีชุดไฟโซลินอยด์ต่างๆอยู่ด้านข้างหรือด้านบนเราก็สามารถตรวจเช็คได้ง่าย หรือแม้กระทั่งการถอดน็อตหัวหมูเกียร์ ก็ยังสามารถต่อด้ามบล็อคยาวขันถอดจากในรถก็ยังได้

คำตอบที่ 179
       เสร็จแล้วก็ย้ายมางานนอกรถบ้าง สำหรับการจัดเตรียมเหล็กซิงค์แผ่นใหญ่เพื่อที่จะนำมาใช้งานในจุดนี้
และจากนี้ไป...เราจะทำการสร้างฝาครอบเหล็กเพื่อปิดซุ้มเกียร์ด้านบนขึ้นมาใหม่ครับ เพื่อทดแทนในตำแหน่งเดิมที่ได้ถูกตัดออกไป

คำตอบที่ 180
       ตัดเหล็กขึ้นมาใหม่แล้วพับให้เข้ารูปเข้าแบบตามที่ต้องการ เราก็จะได้ซุ้มปิดด้านบนในรูปแบบใหม่โดยมีความราบเรียบมากกว่าของเดิม ทุกๆจุดทุกๆมุมถูกกำหนดขึ้นมาใหม่หมด

คำตอบที่ 181
       สวัสดีครับ ผมกำลังทำสีรถเก่า พึ่งซื้อมาใหม่ เพื่อนๆเขาแนะนำมาว่า ซูคาริเบียนก็สามารถติดตั้งพวงมาลัยเพาเวอร์ได้ ใช้ของวีทาราแทนได้ ก็เลยสั่งซื้อมาชุดหนึ่ง พอซื้อมาแล้วกลับติดตั้งไม่ได้ เลยทิ้งเอาไว้ อยากถามว่า เราจะใช้เพาเวอร์แบบใดได้ครับ ผมมีปัญหาข้อไหล่มักเจ็บบ่อย ถ้าใช้งานหนักครับ ขอบคุณมากครับ

คำตอบที่ 182
       (ตอบลุงหนวด)
สวัสดีครับ ผมกำลังทำสีรถเก่า พึ่งซื้อมาใหม่ เพื่อนๆเขาแนะนำมาว่า ซูคาริเบียนก็สามารถติดตั้งพวงมาลัยเพาเวอร์ได้ ใช้ของวีทาราแทนได้ ก็เลยสั่งซื้อมาชุดหนึ่ง พอซื้อมาแล้วกลับติดตั้งไม่ได้ เลยทิ้งเอาไว้ อยากถามว่า เราจะใช้เพาเวอร์แบบใดได้ครับ ผมมีปัญหาข้อไหล่มักเจ็บบ่อย ถ้าใช้งานหนักครับ ขอบคุณมากครับ

ตอบ กระปุกเพาเวอร์ของวีทาร่าสามารถนำมาใช้ได้แต่ต้องดัดแปลงครับ เพราะว่ารูยึดที่กระปุกของวีทาร่าจะไม่ตรงกันกับที่คัทซีของคาริเบี้ยน ซึ่งวิธีดัดแปลงโดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมทำสเปเซอร์แปลงรูเข้าไปหาที่รูเดิมคัทซี นั่นก็คือ ตัวสเปเซอร์จะมีรูที่เจาะทั้งหมด 6 รูครับ โดยที่ 3 รูจะยึดสเปเซอร์เข้ากับตัวคัทซี และอีก 3 รูจะยึดตัวกระปุกเข้ากับตัวสเปเซอร์ครับ ในกรณีที่ซื้อมาแล้วนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ก็ใช้ตัวนี้ไปแหละครับ ทางผู้ขายเค้าไม่ได้ให้ตัวสเปเซอร์นี้มาด้วยคุณลุงก็จะต้องให้ช่างสร้างขึ้นมาเองครับ

กระปุกเพาเวอร์ที่ไม่ได้ตรงรุ่นคาริเบี้ยนแท้เลย จะต้องทำการแปลงสเปเซอร์ยึดรูเข้าไปหาที่จุดเดิมทุกๆรุ่นครับ

คำตอบที่ 183
       แต่ก็จะมีอยู่บางรู ที่อาจจะต้องเสริมปลอกเหล็กเกลียวให้สูงขึ้นเพื่อเป็นการปรับมุมกระปุกให้แนบคัทซีและให้ตรงกันกับแกนพวงมาลัย เพราะขากระปุกของวีทาร่าจะมีอยู่บางขาที่ไม่เท่ากันถ้าหากใส่เข้าไปเลยจะกระดก และแกนกระปุกพวงมาลัยจะแทงเข้าไปหาที่ตัวไดชาร์จครับ ซึ่งจะไม่ตรงกับแกนพวงมาลัยที่มาจากใต้หม้อลมเบรค

(ยังไงลองดูนะครับ)

คำตอบที่ 184
       (ต่อเรื่องการวางเครื่อง 3S)
พอเข้ารูปแล้วก็เจาะรูยึดน็อตรอบๆให้แน่นหนา หาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะวางคันเกียร์แบบออโต้ เจาะวางให้พอดี หาระยะขาเตะเกียร์ เสร็จเรียบร้อยก็เอาออกมาเก็บงานข้างนอกครับ

คำตอบที่ 185
       ข้างใต้ฝาครอบเกียร์ มาร์คตำแหน่งเรียบร้อยแล้วก็อาร์คตัวเมียผูกไว้ด้านล่างเพื่อเป็นจุดยึดสำหรับแป้นเกียร์ออโต้ครับ ถอดเข้าออกจะได้สะดวกง่ายดายครับ

คำตอบที่ 186
       ขอบคุณน้าสอมากๆด้วยครับ แล้วผมจะให้ช่างเขาทำลองดูอีกที ยังไงถ้ามีปัญหาก็คงจะได้รบกวนน้าสออีกครั้งแหละครับ

คำตอบที่ 187
       เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เก็บงานสีตามซุ้มเกียร์ต่างๆที่ได้ทำการผ่าขยายรวมทั้งฝาครอบซุ้มกียร์ที่ได้สร้างขึ้นมา แล้วยึดติดตั้งกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม พร้อมกับยึดแป้นเกียร์ออโต้ตามจุดที่ได้เจาะเอาไว้

คำตอบที่ 188
       อีกมุมครับ ตัวแป้นเกียร์ออโต้จะลาดเอนนิดๆตามความชันของซุ้มเกียร์ที่ได้ตีขึ้นมาใหม่ เวลาขับมองเห็นง่ายตามมาตรฐานรถยนต์ คันเกียร์ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป และมีเนื้อที่สำหรับตีคอนโซลเพื่อมาครอบอีกทีได้อย่างสบายๆครับ เนื้อที่ในห้องโดยสารก็กว้างขึ้นกว่าเดิม

คำตอบที่ 189
       ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮ่วใช้ เฮงๆ ตลอดปีนะครับพี่สอ...

คำตอบที่ 190
       ด้านหลังแป้นเกียร์ออโต้มาหน่อยก็จะเป็นตำแหน่งคันเกียร์สโลว์ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมอีกเช่นกันครับ ไม่ต้องถอยไปมาก คันเกียร์เดินวงไม่กว้างมาก(ใกล้เคียงกับของเดิม)

แต่.....ความยุ่งยากมันไม่ได้อยู่ที่จุดนี้ครับ สำหรับเกียร์ออโต้

คำตอบที่ 191
       ความยุ่งยากสำหรับการวางเครื่องเกียร์ออโต้ที่เป็นเครื่องต่างรุ่นลงในคาริเบี้ยนนั้น จะมีปัญหาเกี่ยวกับคันเกียร์ออโต้ที่มานั้นส่วนใหญ่แล้วจะต่างรุ่นกับเกียร์ที่มากับเครื่อง อย่างในกรณีนี้เครื่องเกียร์ 3S แต่คันเกียร์จะเป็นของเครื่องตระกูล J ซึ่งจะมีอยู่มากมายในท้องตลาด เชียงกงส่วนใหญ่ก็จะให้มาเป็นเซ็ตแบบนี้อยู่แล้ว ปัญหาจะมีอยู่ว่า ระยะเดินของคันเกียร์ที่แป้นเกียร์ในแต่ละช่วงเกียร์ (เช่น P/R/N/D) จะไม่ตรงกันกับที่ขาของเกียร์ ซึ่งขาเกียร์ของเครื่อง 3S ในแต่ละช่วงเกียร์ก็ไม่เท่ากันกับที่แป้นเกียร์ เราอาจจะสามารถที่จะสร้างเหล็กเตะขาเกียร์จากแป้นเกียร์ไปยังขาเกียร์ออโต้ 3S ได้ แต่ยากทีเดียวครับที่จะทำให้มันตรงช่วงกันกับที่แป้นเกียร์ (อ่านและงงไหมครับ)
ยกตัวอย่างเช่น
- เราเข้าเกียร์ที่ตำแหน่งบนแป้นเกียร์ ตั้งแต่ P มาเป็น R มาเป็น N มาเป็น D มาเป็น D2 แต่พอมาที่ตำแหน่ง L จะเข้าไม่ค่อยได้เพราะว่ามันสุดที่เกียร์ 3S ก่อนแล้ว
- ถ้าปรับแก้ให้มันเข้าเกียร์ L ได้ พอเลื่อนขึ้นกลับไปหาตำแหน่ง P ก็จะเข้าไม่ได้ มันจะสุดที่ตำแหน่ง R ก่อน
- หรือปรับแก้ไขให้มันเข้าเกียร์ได้ทุกตำแหน่ง แต่ที่แป้นเกียร์มักจะไม่ค่อยตรงตามหน้าจอครับ เช่น การเข้าเกียร์ตำแหน่ง P บนแป้นเกียร์บนรถแต่จริงๆแล้วที่เกียร์ 3S มันคือ R ครับ แล้วพอมาตำแหน่ง L ก็เข้าได้แต่ที่แป้นเกียร์ไม่ล็อคครับ ถ้าใช้งานจริงก็คงเด้งกลับไปหาเกียร์ D2 ได้ง่ายๆ

ปัญหานี้อยู่ที่ปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกันครับ เช่น การวางตำแหน่งแป้นเกียร์ที่ชันสูงมากเกินไปทำให้ขาเตะเกียร์ชัน การทำขาเตะยาวเกินหรือสั้นเกิน ซึ่งสำหรับคันนี้แล้วขาเตะยาวที่ประมาณคืบ ทำร่องสไลด์ไว้ปรับความละเอียดของระยะคันเกียร์ได้ด้วยเวลาซ่อมหรือถอดเกียร์เข้าออกก็จะได้ไม่ต้องมานั่งตั้งกันใหม่ เสียเวลากับตรงจุดนี้อยู่ 2 วันเต็มๆครับ ไม่ง่ายครับ ถือว่ายากทีเดียว แต่ทำเสร็จแล้วก็หายเหนื่อยครับ ทุกตำแหน่งเกียร์ตรงเป๊ะกับคันเกียร์ทั้งหมด แน่นปึ๊ก ไม่มีระยะหลวม ล็อค P ล็อค L ตรงครบถ้วน ตรงรุ่นเหมือนกับแป้นเกียร์ของ 3S แท้ๆเลยครับ
(นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่ต้องใช้ความละเอียดและความเข้าใจในการแก้ไขครับ)

คำตอบที่ 192
       รอคิวอยู่ครับคุณสอ