คำตอบที่ 1
fiogf49gjkf0d
พอดีสนใจอยากเปลี่ยนคอยล์แยกเลยเจอบทความนี้
ระบบจุดระเบิด : เริ่มกับขั้นต้นที่ไม่บานปลาย
บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเรื่องระบบจุดระเบิดมันเพิ่งมาจั่วหัวเอาในตอนนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจ ผมแค่อยาก
เก็บไว้ให้ท่านได้ปรับปรุงการนำอากาศเข้า และการเอาไอเสียออกให้ครบกระบวนเสียก่อน แล้วค่อยมาว่า
กันเรื่องจุดระเบิด เพื่อที่จะได้เซ็ตกันครั้งเดียวแล้วจบอย่างเหมาะสมกับสถานภาพของเครื่องยนต์เลย
เริ่มต้นก่อนกับหัวเทียน ซึ่งเป็นชิ้นที่เลือกง่ายและไม่ค่อยมากเรื่องนักในรถที่โมดิฟายเพียงเล็กน้อย ที่จริงแล้ว
คุณสามารถใช้หัวเทียนเบอร์เดิมตามสเป็คโรงงานได้เลยโดยที่ชีวิตไม่หดหู่ แต่หากมีโอกาสในการเลือกหัวเทียน
ให้เหมาะกับการขับขี่ในสไตล์ของตนเองและความโหดในการขับขี่ก็จะดีกว่า เคยได้ยินคำพูดว่า "หัวเทียนเบอร์
6 หรือหัวเทียนเบอร์ 7" ไหมครับ? ไม่ต้องคิดมาก เพราะสิ่งที่เขาพูดกันมันคือความสามารถในการขับความร้อน
ออกจากตัวเองของหัวเทียนนั่นเอง พวกหัวเทียนที่สามารถเก็บความร้อนไว้ในตัวเองได้มากๆนั้น เขาเรียกว่า
หัวเทียนร้อน ซึ่งมีข้อดีคือทำให้รถสตาร์ทติดง่าย และเผาไหม้หมดจดในการขับขี่ทั่วไป แต่เมื่อทารุณกรรม
มันหนักเข้า ตัวหัวเทียนเองก็จะอมความร้อนจนทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เขาจึงต้องมีหัวเทียนเย็น ซึ่งมีแกน
เก็บความร้อนไว้ในตัวเองเล็ก และจะระบายความร้อนจากตัวหัวเทียนไปสู่เบ้าหัวเทียนและรอบนอกได้ดี
เพื่อช่วยให้ตัวหัวเทียนไม่ร้อนเกินไป จึงทำงานได้เสถียรกว่าในเครื่องที่โมดิฟายมา หรือเครื่องที่เจ้าของ
ชอบขับแบบไอร์ตั้น เซนน่ากลับชาติมาเกิด ส่วนข้อเสียก็กลับกันกับหัวเทียนร้อน ก็คือเวลาอากาศเย็นจะ
สตาร์ทยากหน่อย
หัวเทียนยี่ห้อ NGK คือค่ายที่เลือกใช้เลข เบอร์ 5,6,7,8 ในการบอกระดับความร้อน-เย็นของหัวเทียน
หัวเทียนเบอร์ 5 นั้นใช้ในรถบ้านรักสันติและรถสเป็คโรงงานบางรุ่น ในขณะที่เบอร์ 7 เป็นหัวเทียนเย็น
สามารถรองรับการขับขี่ที่ดุดันได้ดีสำหรับรถโมดิฟายแบบประถม ส่วนเบอร์ 6 นั้นจะอยู่กึ่งกลาง ขอให้เลือกใช้
ได้ตามความเหมาะสม ส่วนเกรดของหัวเทียนยุคใหม่นี้ก็มักจะมีการแบ่งเป็นพวกหัวเทียน Platinum หรือ
หัวเทียน Iridium ไปจนถึงหัวเทียน Iridium เกรดขนาดรถซิ่ง ราคาก็มีตั้งแต่หัวละ 200 บาทไปจนถึงระดับเทพ
หัวละเกือบพันก็มี ผมแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเทพขนาดนั้นก็ได้ครับ เพราะเรายังไม่ได้จะทำรถแข่งสนาม
ลำพังหัวเทียน Iridium เกรดดี ราคาหัวละไม่เกิน 400 บาท ก็ใช้การได้ดีพอ รองรับม้า 100กว่าตัวต่อลิตรได้
แถมใช้กับเครื่องเทอร์โบยังพอเลยด้วยซ้ำ
ถัดมาจากหัวเทียน ทีนี้ต้องมาสำรวจก่อนแล้วว่าระบบจุดระเบิดของรถคุณเป็นแบบไหน ในรถยุค 90s หรือ
รถเก่า มักใช้ระบบจุดระเบิดแบบจานจ่าย ต่อส่งไฟมายังหัวเทียนด้วยสายหัวเทียน ถ้าเป็นแบบนี้ยินดีด้วยครับ
Old fashion ของดีราคาถูกยังมีลูกเล่นให้ไปต่อได้ง่าย 55 พวกที่ทันสมัยใช้ไดเร็คคอยล์ เชิญไปพักดื่มน้ำได้เลย
เครื่องยนต์ที่ใช้จานจ่าย ถึงมีข้อเสียที่ความโบราณ แต่สามารถเพิ่มขีดความสามารถได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น
คอยล์จุดระเบิดซึ่งทำหน้าที่ส่งกระแสไฟไปจุดหัวเทียนนั้น สามารถดัดแปลงเอาคอยล์จุดระเบิดของเครื่อง
โรตารี่ Mazda (13B หรือ 20B) มาดัดแปลงใส่แทนคอยล์เดิมได้ คอยล์โรตารี่มีจุดเด่นตรงที่ให้ไฟแรงสูง
มีความเสถียรในการทำงานรอบสูง เพราะในเครื่องโรตารีนั้นมีจังหวะการจุดระเบิดถี่วิปริตมากๆอันเกิดจาก
การที่ข้อเหวี่ยงหมุนรอบเดียวต้องจุดไฟให้ 3 หัวเทียนต่อ 1 โรเตอร์ ในขณะที่รถ 4 สูบของพวกเราข้อเหวี่ยง
หมุน 1 รอบมีการจุดระเบิดแค่ 2 ครั้ง ราคาอะไหล่มือสองก็แค่พันบาทบวกลบ สำหรับรถที่มีคอยล์จุดระเบิด
แยกมาจากจานจ่ายอย่างพวก Nissan GA หรือ SR นั้นแปลงใส่ง่ายมาก ส่วนเครื่อง Honda บล็อค D และ B
ซึ่งคอยล์เดิมฝังอยู่ในจานจ่ายก็จะแปลงยากขึ้นเล็กน้อย แต่จะได้ประโยชน์จากการย้ายคอยล์มาอยู่ข้างนอก
เพราะความร้อนสะสมน้อยลง และอายุการใช้งานยืนยาวขึ้นกว่าการฝังคอยล์ไว้ในชุดกะลาจานจ่าย
ส่วนสายหัวเทียนนั้น หากของเดิมติดรถไม่ได้ชำรุดอะไร ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเป็น
ของซิ่ง หรือของที่มีราคาแพง อย่างรถของผมเอง มีการโมดิฟายเปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดที่กำลังไฟสูงกว่า
คอยล์เดิมโรงงาน ก็สามารถใช้สายหัวเทียนเดิมได้ ลองสลับใส่สายหัวเทียนแต่งกลับไม่รู้สึกว่ามันแรงขึ้น
แต่รู้น่า..ว่าบางทีเห็นไอ้สายพวกนี้ห้อยๆอยู่ตามเซียงกงเห็นสีสันสวยงามน่าเอากลับบ้าน ก็ถ้าราคาไม่แรง
เกิน 2,500 บาท และของอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยฉีก รอยหนูแทะ สายไม่หักใน เอามาลองใส่ก็ได้ครับ
แต่บอกไว้ตรงนี้ว่ารถคอยล์เดิม เปลี่ยนสายหัวเทียน กับรถที่สายหัวเทียนเดิม (และสภาพดี) แล้วเปลี่ยน
คอยล์ที่ไฟแรงขึ้น ไอ้อย่างหลังนี่ให้ผลดีกว่าชัดเจนนะ
เอ้า! เปลี่ยนอวัยวะจุดระเบิดกันแล้ว ก็อย่าลืมตั้งองศาจุดระเบิดเสียด้วยเลย เพราะนี่ก็นับเป็น
"Free horse without extra cost" อย่างหนึ่ง การที่เราขันน็อตและหมุนจานจ่ายไปมานั้นก็คือการเลื่อน
ไทม์มิ่งการจุดระเบิดพื้นฐาน (Base timing) ของ ECU ด้วยวิธีการทางกลไก หมุนจานจ่ายไปทาง
ข้างหลังรถจะเป็นการเลื่อนจังหวะจุดระเบิดให้เข้าใกล้จุดศูนย์ตายบนมากยิ่งขึ้น และถ้าหมุนมากไป
ทีนี้ก็จะกลายเป็น Advance มากจนไปจุดระเบิดเอาในจังหวะที่ลูกสูบเลื่อนขึ้น..ก็จะมีอาการน็อคให้เห็น
บางคนรถเก่า เปลี่ยนจานจ่ายมา ช่างตั้งจานจ่ายมาแบบขอไปที หรือไม่ก็ตั้งมาเผื่อเติมน้ำมันออคเทนต่ำๆ
ก็สามารถปรับตั้งให้เหมาะกับออคเทน 95 ได้ สามารถทำแบบถูกและเป็นระเบียบด้วยการค้นหาข้อมูล
ในเว็บว่าเครื่องยนต์รุ่นที่เราใช้นั้นเขาตั้งไฟจุดระเบิดบวกกันกี่องศา แล้วก็ไปให้อู่ยิง Timing light
ปรับให้ตามที่เราต้องการ แต่กับพวกผมซึ่งขี้เหนียวขี้เกียจซื้อ Timing light ก็ใช้วิธีหมุนจานจ่ายเอาเลย
แล้วก็ไปลองวิ่งดู หากไม่พบอาการเขก ก็ดับเครื่องแล้วหมุนไปอีก หมุนทีละ 1-2 ม.ม.พอ จนกระทั่ง
เริ่มพบอาการเขก เมื่อพบแล้วค่อยถอยจานจ่ายกลับทีละ 0.5-1 ม.ม. จนกระทั่งเสียงเขกหายไปหมดสิ้น
นั่นคือวิธีการตั้งจานจ่ายแบบขี้เหนียว แต่ใช้การได้เหมือนกัน
สิ่งที่ไม่ควรลืมคือศึกษาวิธีตั้งจานจ่ายให้ดี เพราะจานจ่ายนั้นแม้จะเป็นกลไก แต่คอยล์นั้นมีระบบ
สั่งการมาจากกล่อง ECU รถส่วนมากต้องวอร์มเครื่องให้เข็มความร้อนอยู่ตรงกลางก่อนจึงจะปรับได้
ยิ่งพวก Nissan นี่เรื่องมากที่สุด เรียกได้ว่าต้องประกอบพิธีกรรมตามแบบแผนของมันก่อนจึงจะปรับ
ได้สำเร็จ ไม่งั้น ECU จะปรับค่าการจุดระเบิดเข้าที่เดิม
วิธีการปรับของพวก Nissan ก็คือ วอร์มเครื่องให้ถึงอุณหภูมิทำงานก่อน จากนั้นดับเครื่อง
ถอดเซนเซอร์ลิ้นคันเร่งออก (ถ้าถอดถูก รอบเครื่องจะสวิงขึ้นนิดหน่อย) จากนั้นเบิ้ลเครื่องให้รอบ
กวาดผ่าน 2,500 รอบ 3 ครั้ง และปรับหมุนจานจ่าย จากนั้นดับเครื่อง เสียบเซนเซอร์คืน แล้ว
สตาร์ทอีกรอบ เป็นอันจบ ..ยุ่งดีไหม? Toyota กับ Honda ไม่เห็นต้องทำอะไรแบบนี้
เป็นอันว่างานของพวกจานจ่ายก็จบแล้ว..แล้วบรรดารถที่มีระบบจุดระเบิดแบบ Direct Coil ทั้งหลายล่ะ?
ไม่ต้องทำอะไร นอกจากนำรถไปที่ศูนย์แล้วเช็คดูว่าสามารถปรับองศาจุดระเบิดจากเดิมได้หรือไม่
รถจากโรงงานส่วนมากมักปรับมาเผื่อไว้สำหรับน้ำมันออคเทนต่ำ ซึ่งถ้าเราคิดจะเติมแต่โซฮอล์ 95
หรือเบนซิน 95 ก็แปลว่ามีโอกาสที่จะใช้เครื่อง Consult ของศูนย์ดันองศาไฟจุดระเบิดเพิ่มได้อีก
อย่างของ Nissan HR16DE นั้นสามารถขอให้ช่างปรับบวกเพิ่มได้อีก 2 องศา และ Teana ก็สามารถ
ทำได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ทำอะไรได้อีกหรือไม่? ทำได้ครับ เช่นพ่วงกล่องอัดไฟอย่าง HKS Twin Power หรือ
อุดหนุนของชาวไทยอย่าง Winning Power Booster เพื่อเพิ่มกำลังไฟ และรักษากระแสไฟให้
มีความเสถียรก็ได้ แต่ถ้าผมบอกราคาในการใส่อุปกรณ์เหล่านี้ (หมื่นกลางๆ) คุณอาจจะเก็บเงิน
ไว้ก่อน แล้วไปทุ่มลงที่สิ่งของในย่อหน้าข้างล่างต่อไปนี้จะคุ้มกว่า