WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


" การเตือนภัย และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติ ในอนาคต... "
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:115.87.62.36

ศุกร์ที่ , 25/11/2554
เวลา : 21:12

อ่านแล้ว = 81892 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


fiogf49gjkf0d
ยืนยันจากผู้มีประสบการณ
จาก : คนเดือน10(คนเดือน10) 12/12/2554 10:29:32 [124.122.29.171]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

คำตอบที่ 61
      

fiogf49gjkf0d
พอพี่กบพูดเรื่องน้ำฝน... ลองดูตัวนี้หน่อยมั๊ยครับ.. เจ๋งดีครับไอเดียนี้... อิอิ
คนไทยเราเก่งๆ ความคิดสร้างสรรเยอะดีครับ..

Rain Generator เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำฝน
http://www.youtube.com/watch?v=G4PfCKu7R5c&feature=related

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำฝนRain Generator Ver 3
http://www.youtube.com/watch?v=9mB5OmP2EdM&feature=related

สงสัยต้องขอไปกางตำราเรียน.. เปิดสูตรคำนวณให้ละเอียดก่อนที่จะลงมือสร้างบ้านนี่..มันจะได้อินทีเกรตรวมๆเอาหลายๆอย่างเข้ามาประยุกต์ใช้งานดีครับ..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.19.34 อาทิตย์, 11/12/2554 เวลา : 11:41  IP : 110.168.19.34   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113195

คำตอบที่ 62
      

fiogf49gjkf0d
ไม่ทราบว่าท่านใดทราบวิธีการใช้.. การสร้าง.. "ตะบันไฟ" บ้างมั๊ยครับ..???

การจุดไฟในสมัยก่อน..... ( Copy เขามาอีกทีครับ.. )

เท่าที่เคยค้นหามานะครับ มีอีกอย่างที่อยากแนะนำเป็นภูมิปัญญาเลย ของไทยครับ
"ตะบันไฟ เป็นเครื่องจุดไฟ ชนิดหนึ่งของคนสมัยก่อน มีรูปร่างคล้ายกับตะบันที่ใช้ตำหมาก
วิธีใช้จะใช้ลูกตะบันกระทุ้งเข้าไปในรูตะบันโดยเร็วการเสียดสีทำให้เกิดความร้อนและเป็นไฟได้
การจุดไฟในสมัยก่อนมีหลายวิธีการ นับตั้งแต่การใช้ “ไม้สีไฟ” คือการเอาไม้แห้ง 2 แท่ง มาเสียดสีกันจนทำให้เกิดไฟ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ต่อมาได้พบว่าเมื่อเอาหินที่เรียกว่า หินเหล็กไฟกับเหล็กมาตีเฉียดๆ กัน ก็จะเกิดประกายไฟขึ้น

จากนั้นก็นำปุยนุ่นหรือปุยสำลีมารองรับประกายไฟ จนเกิดไฟลุก การใช้ตะบันไฟก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งคนในสมัยก่อนค้นคิดขึ้น โดยใช้หลักการเสียดสีอย่างแรงและรวดเร็ว ทำให้เกิดไฟลุกในที่สุด
ตะบันไฟมีส่วนประกอบอยู่ 3 ส่วนคือ กระบอกตะบัน ลูกตะบัน และปุย

กระบอกตะบัน ทำมาจากเขาควายหรือเขาวัว ตัดเขายาวประมาณ 15 เซนติเมตร เลือกในส่วนปลายเขามีรูตันหรือรูเล็กๆ ฝนหรือเหลาตกแต่งให้กลมมีรูปร่างสวยงามเจาะแต่งรูให้กลมเกลี้ยง ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร

ลูกตะบัน บางทีเรียกว่าไม้กระทุ้ง ทำด้วยเขาควายเขาวัว หรือไม้เนื้อแข็งก็ได้ ขนาดของลูกตะบันต้องเหลาให้พอดีกับรูกระบอก ปลายลูกตะบันตะบันเจาะรูเขาหรือไม้ให้เว้าลึกไปเล็กน้อยเพื่อใช้บรรจุปุย
หากลูกตะบันหลวมไม่พอดีก็จะใช้ใยไหมหรือด้ายดิบพันปลายลูกตะบันแล้วทาขี้ผึ้งให้ลื่น เมื่อลูกตะบันคับกับรูกระบอกตะบันจะทำให้เกิดการเสียดสีมากยิ่งขึ้น ปุย หรือเชื้อเพลิงทำให้ติดไฟ สมัยก่อนใช้ปุยลูกเต่ารั้ง ซึ่งมีลักษณะแห้งติดไฟง่าย ใส่ไว้ในรูปลายลูกตะบัน
ต่อมาขุยเต่ารั้งหายาก จึงใช้ปุยสำลีหรือปุยนุ่นโดยจะผสมกับตะกั่วแดง ทำให้ติดไฟง่ายขึ้น

วิธีใช้ตะบันไฟ จะใช้ลุกตะบันใส่ปุยสำลีไว้ที่รู กระทุ้งเข้าไปในรูกระบอกตะบันด้วยแรงกระแทกอย่างเร็ว
แล้วรีบกระชากออกแรงอัดทำให้เกิดความร้อนลุกเป็นไฟขึ้นที่ขุยปลายลูกตะบัน
จากนั้นก็ทำเป็นเชื้อไฟเพื่อไปจุดเตาไฟ หรือวัสดุที่ต้องการ

วิธีการจุดไฟแบบภูมิปัญญาไทย ง่ายไหมครับ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง สารเคมีหรือกลไกลที่ซับซ้อนเลย
ก็สามารถจุดไฟติดขึ้นมาได้เหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันจะหาดูตะบันไฟได้อยากแล้ว ต้องหาดูตามพิพิธภัณฑ์จึงจะได้เห็น"






fiogf49gjkf0d
สื่อเทศ แห่ฟ้อง รบ"ปู" เป็นกรณีตัวอย่าง ล้มเหลวแก้น้ำท่วม ( คนไทยชอบการเมืองแบบนี้มีความสุข555)
จาก : TTC077(TTC077) 12/12/2554 0:16:00 [110.169.224.248]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.49.99 อาทิตย์, 11/12/2554 เวลา : 20:24  IP : 110.168.49.99   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113205

คำตอบที่ 63
      

fiogf49gjkf0d
" พายุสุริยะ "

ตั้งแต่สมัยโบราณมนุษย์รู้ว่า ดวงอาทิตย์มีความสำคัญต่อชีวิต เพราะดวงอาทิตย์ให้แสงสว่างและความร้อนแก่โลก และสิ่งมีชีวิต ทุกชนิดใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการดำรงชีพ คนโบราณจึงนับถือดวงอาทิตย์เสมือนเป็นเทพเจ้าผู้ทรงอำนาจลึกลับ และถึงแม้ว่า วันเวลาจะผ่านไปนานร่วมพันปีแล้วก็ตาม มนุษย์ก็ยังไม่เข้าใจธรรมชาติของดวงอาทิตย์

ย้อนอดีตไปเมื่อ 300 ปีก่อนนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้รู้ว่า ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยก๊าซร้อนและความดันที่มีอยู่ในก๊าซนั้นมีค่าสูงพอที่จะรับ น้ำหนักของก๊าซที่กดลงมาได้ ดังนั้นดวงอาทิตย์จึงสามารถทรงตัว ทรงรูปร่างและทรงขนาดอยู่ได้

และเมื่อ 100 ปีก่อนนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มรู้ว่า ดวงอาทิตย์มีไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบหลัก และมีฮีเลียมเป็นองค์ประกอบรอง และนอกจากธาตุทั้งสองนี้แล้วดวงอาทิตย์ก็ยังมีธาตุอื่นๆ เช่น คาร์บอน โซเดียม แคลเซียม และเหล็กบ้าง

ต่อมาในปี พ.ศ. 2476 นักดาราศาสตร์ได้พบว่า ในบางขณะผิวดวงอาทิตย์จะมีเหตุการณ์ระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้มีเปลวก๊าซร้อน พุ่งออกจากผิว และในบางครั้งเปลวก๊าซอาจจะพุ่งไกลถึงล้านกิโลเมตร เหตุการณ์ระเบิดที่ผิวแล้วทำให้มีเปลวก๊าซร้อนพุ่งออกไปใน อวกาศนี้ เราเรียกว่า พายุสุริยะ (solar wind)

การศึกษาพายุสุริยะในเวลาต่อมาได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า พายุนี้เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง เพราะเมื่อเรารู้ว่า เปลวก๊าซร้อนที่พุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์นั้นนำอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าออกมากมายด้วย ดังนั้น เมื่ออนุภาคเหล่านี้พุ่งถึงชั้นบรรยากาศ เบื้องบนของโลก ถ้าขณะนั้นมีนักบินอวกาศร่างกายของนักบินอวกาศคนนั้นก็จะได้รับอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าและรังสีต่างๆ มากเกินปรกติ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเป็นอันตรายได้

นอกจากนี้ พายุอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าอาจพุ่งชนดาวเทียมที่กำลังโคจรอยู่รอบโลกจนทำให้ดาวเทียมหลุดกระเด็นออกจากวงโคจรได้ และถ้าอนุภาคเหล่านี้พุ่งชนสายไฟฟ้าบนโลก ไฟฟ้าในเมืองทั้งเมืองก็อาจจะดับ ดังเช่นเหตุการณ์ไฟฟ้าดับที่เมือง Quebec ในประเทศ คานาดาเป็นเวลานาน 9 ชั่วโมง เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2532 เพราะโลกถูกพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง

ความจริงเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 11 ปีมาแล้ว แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์รู้อีกว่า ทุกๆ 11 ปีจะเกิดเหตุการณ์พายุสุริยะ ที่รุนแรงบนดวงอาทิตย์อีก ดังนั้นปี พ.ศ. 2543 จึงเป็นปีที่นักวิทยาศาสตร์คาดหวังจะเห็นโลกถูกดวงอาทิตย์คุกคามอย่างหนักอีก ครั้งหนึ่ง และเมื่อขณะนี้โลกมีดาวเทียมที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 800 ดวงและสหรัฐอเมริกาเองก็มีโครงการจะส่งนักบินอวกาศ ขึ้นไปสร้างสถานีอวกาศนานาชาติในปีนั้นอีกเช่นกัน บุคลากรและดาวเทียมเหล่านี้จึงมีโอกาสถูกพายุสุริยะจากดวงอาทิตย์พัดกระหน่ำ จนเป็นอันตรายได้ ก็ในเมื่อเวลาพายุไต้ฝุ่นหรือทอร์นาโดจะพัด เรามีสัญญาณเตือนภัยห้ามเรือเดินทะเลและให้ทุกคนหลบลงไปอยู่ห้อง ใต้ดิน จนกระทั่งพายุพัดผ่านไป การเตือนภัยพายุสุริยะก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน เพราะถ้าเรารู้ว่าพายุสุริยะกำลังจะมาถึงโลก โรงไฟฟ้า ก็ต้องลดการผลิตกระแสไฟฟ้า คือไม่ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากเครื่องเต็มกำลังเพราะถ้าไฟฟ้าเกิดช็อต ภัยเสียหายก็จะไม่มาก ดังนั้น การแก้ไขล่วงหน้าก็จะสามารถทำให้ความหายนะลดน้อยลง

แต่ความสามารถของผู้เชี่ยวชาญสภาวะของอวกาศ วันนี้ก็ดีพอๆ ความสามารถของนักอุตุนิยมวิทยาที่สามารถทำนายสภาพของอากาศ บนโลก เมื่อ 40 ปีมาแล้ว ดังนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ จึงได้จัดตั้งศูนย์สภาวะแวดล้อมของอวกาศ (Space Environment Center) ขึ้นมา โดยให้นักวิทยาศาสตร์มีหน้าที่ทำนายสภาพของอวกาศล่วงหน้า และผลงานการพยากรณ์เท่าที่ผ่านมาได้ทำให้เรารู้ว่า คำพยากรณ์นี้มี เปอร์เซ็นต์ถูกถึง 90% ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดในหนึ่งชั่วโมง แต่เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาดก็จะสูง ถ้าเป็นกรณีการทำนายล่วงหน้า หลายวัน

เพื่อให้คำทำพยากรณ์ต่างๆ มีเปอร์เซ็นต์ความถูกต้องมากขึ้น องค์การ NASA ของสหรัฐฯ จึงได้วางแผนส่งดาวเทียมดวงใหม่ขึ้น อวกาศเพื่อสำรวจสถานภาพของพายุสุริยะทุกลูกที่จะพัดจากดวงอาทิตย์สู่โลกในอีก10 ปี ข้างหน้านี้

ความรู้ปัจจุบันที่เรามีอยู่ขณะนี้คือ ผลกระทบของพายุสุริยะจะรุนแรงอย่างไร และเช่นไร ขึ้นกับ 3 เหตุการณ์ต่อไปนี้ คือ

เหตุการณ์แรกเกี่ยวข้องกับจุดดับบนดวงอาทิตย์ (sunspot) ซึ่งเป็นบริเวณผิวดวงอาทิตย์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณส่วนอื่น และเป็น บริเวณที่สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์สามารถทะลุออกจากดวงอาทิตย์ออกมาสู่อวกาศภายนอกได้ ดังนั้น เมื่อเกิดการระเบิดที่ผิวดวง อาทิตย์ในบริเวณนี้ กระแสอนุภาคจะถูกผลักดันออกมาตามแนวเส้นแรงแม่เหล็กนี้มาสู่โลก และเมื่อกระแสอนุภาคจากจุดดับพุ่งชน บรรยากาศเบื้องบนของโลก มันจะปะทะอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก (ionosphere) การชนกันเช่นนี้จะทำให้ เกิดกระแสประจุซึ่งมีอิทธิพลมากมายต่อการสื่อสารทางวิทยุ

เหตุการณ์สองที่มีอิทธิพลทำให้สภาวะของอวกาศระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ปรวนแปร ในกรณีมีพายุสุริยะที่รุนแรงคือ ชั้นบรรยากาศ ของโลกอาจจะได้รับรังสีเอกซ์มากกว่าปกติถึง 1,000 เท่า รังสีเอกซ์นี้ จะทำให้อิเล็กตรอนที่กำลังโคจรอยู่รอบอะตอม กระเด็นหลุดออก จากอะตอม และถ้าอิเล็กตรอนเหล่านี้ชนยานอวกาศ ยานอวกาศก็จะมีความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง ซึ่งจะทำให้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในยานเสีย และนั่นก็หมายถึงจุดจบของนักบินอวกาศ

ส่วนเหตุการณ์สาม ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มก๊าซร้อนหลุดลอยมาถึงโลก และเมื่อมันพุ่งมาถึงโลกสนาม แม่เหล็กในก๊าซร้อนนั้นจะบิดเบนสนามแม่เหล็กโลก ทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในชั้นบรรยากาศของโลกอย่างมากมาย กระแสไฟฟ้านี้ จะทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น มันจึงขยายตัว ทำให้ยานอวกาศที่เคยโคจรอยู่เหนือบรรยากาศ ต้องเผชิญแรงต้านของ อากาศ ซึ่งจะมีผลทำให้ยานมีความเร็วลดลงแล้วตกลงสู่วงโคจรระดับต่ำ และตกลงโลกเร็วกว่ากำหนด

เหล่านี้คือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเวลาโลกถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ดังนั้น เพื่อเตือนภัยล่วงหน้า ศูนย์สภาวะแวดล้อมของอวกาศจึงได้ประกาศ คำพยากรณ์สภาวะของอวกาศล่วงหน้าหนึ่งวันทุกวัน เพื่อให้คนเกี่ยวข้องได้รู้ว่า พายุจากอวกาศที่กำลังจะเกิดนั้นรุนแรงเพียงใด และจะมาถึงเมื่อใด โดยใช้ดาวเทียมที่ชื่อ Solar and Heliospheric Observatory (SOHO) ซึ่งถูกส่งขึ้นไปเมื่อ 5 ปีก่อนนี้ ให้สำรวจดวงอาทิตย์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพราะดาวเทียมดวงนี้อยู่ห่างจากโลก 1.5 ล้านกิโลเมตร และมีกล้องโทรทรรศน์สำหรับ วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ บนดวงอาทิตย์ ดังนั้น SOHO ก็สามารถบอกได้ว่า ความเร็วของกลุ่มก๊าซร้อนเป็นเช่นไร และกลุ่มก๊าซนั้นมี ขนาดใหญ่หรือไม่เพียงใด และนอกจากดาวเทียม SOHO แล้วสหรัฐฯ ก็ยังมีดาวเทียมที่ชื่อ Advanced Composition Explorer หรือ ACE อีกด้วย ซึ่ง ACE ถูกส่งไปโคจรรอบดวงอาทิตย์กับโลก และทำหน้าที่รายงานให้โลกรู้ว่า มหพายุสุริยะกำลังจะมาหรือไม่

ภาพ : Solar Strom : พายุสุริยะ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.49.99 จันทร์, 12/12/2554 เวลา : 04:03  IP : 110.168.49.99   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113206

คำตอบที่ 64
      

fiogf49gjkf0d
ใช้ไฮดรอลิค แรมแบบที่คุณกบลงรูปให้ดูเลยตาบอยจะได้เข้าเทรนด์ แบบชีวิตพอเพียงถ้าจะหนีน้ำท่วมปทุมไปอยู่ภูเขา



fiogf49gjkf0d
ว่าแต่.. พี่หมึกเป็นอย่างไรบ้างครับ.. ทั้งครอบครัวและบ้านเรือน... ท่วมลึกเสียด้วยสิครับ.!!1
จาก : 005 (005 ) 12/12/2554 22:01:08 [110.168.36.169]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เด็กเขื่อนเพชรTER1 จาก หมึก หมอชิตTTC126 124.122.45.124 จันทร์, 12/12/2554 เวลา : 07:40  IP : 124.122.45.124   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113207

คำตอบที่ 65
      

fiogf49gjkf0d
พี่กบ.. ถ้าสนใจจะซื้อที่ดินเพิ่มเติม..
ลองพิจารณาแผนที่นี้ประกอบไว้สักนิดก็ดีนะครับ...
ถ้าเป็นไปได้.. อยากจะแนะนำให้สูงกว่าระดับน้ำทะเลสัก.. 85 เมตรขึ้นไปน่ะครับพี่.. !!!







fiogf49gjkf0d
ฮิๆแค่ 1 เมตร น้ำหนักหายไป 3 กิโล ถ้า 2 เมตรคง 6 กิโล ถ้าเกินนั้นตายๆไปสะ 555
จาก : TTC077(TTC077) 12/12/2554 22:20:55 [58.11.128.138]
http://service.nso.go.th/nso/nso_center/project/table/files/1100400/2550/000/00_1100400_2550_000_000
จาก : saliga(เรือง) 13/12/2554 6:21:04 [125.25.192.55]
น่านสิ... พี่กบ... อิอิ
จาก : 005 (005 ) 13/12/2554 8:56:04 [110.168.36.169]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.168.36.169 จันทร์, 12/12/2554 เวลา : 22:07  IP : 110.168.36.169   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113240

คำตอบที่ 66
      

fiogf49gjkf0d
ลองดูครับ.เผื่อใครหาจังหวัดที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอยู่
http://service.nso.go.th/nso/nso_center/project/table/files/1100400/2550/000/00_1100400_2550_000_000000_00100.xls



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เรือง จาก เรืองร้อยแปด 125.25.192.55 อังคาร, 13/12/2554 เวลา : 06:30  IP : 125.25.192.55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113251

คำตอบที่ 67
      

fiogf49gjkf0d
ตาราง 1 ปริมาณฝน และความสูงของสถานีเหนือระดับทะเลปานกลาง เป็นรายสถานีอุตุนิยมวิทยา พ.ศ. 2550
TABLE 1 MEAN OF RAINFALL AND ELEVATION OF STATION ABOVE MEAN SEA-LEVEL BY STATION: 2007

ความสูง
ปริมาณฝน จำนวนวัน ฝนสูงสุด จากระดับน้ำทะเล
(มิลลิเมตร) ที่มีฝนตก (มิลลิเมตร) (เมตร)
สถานีอุตุนิยมวิทยา (วัน) Elevation of station Station
Mean of Number of Daily Maximum above
rainfall rainy days (milimetre) mean sea-level
(milimetre) (day) (metre)
แม่ฮ่องสอน 1,207.2 132 52.7 267 Mae Hong Son
แม่สะเรียง 1,287.5 122 56.4 212 Maesariang
เชียงราย 2,041.7 139 89.3 394 Chiang Rai
พะเยา 1,138.4 110 73.5 377 Phayao
เชียงใหม่ 1,125.3 101 103.3 312 Chiang Mai
ลำปาง 1,101.2 118 77.4 241 Lampang
ลำพูน 890.2 96 63.3 296 Lamphun
แพร่ 1,046.1 115 48.5 161 Phrae
น่าน 1,096.3 115 60.3 200 Nan
ท่าวังผา 1,215.0 136 68.5 235 Tha Wangpha
ทุ่งช้าง 1,594.8 122 106.0 235 Thung Chang
อุตรดิตถ์ 1,083.8 103 66.3 63 Uttaradit
หนองคาย 1,404.8 118 80.6 174 Nong Khai
เลย 1,270.7 120 62.4 253 Loei
อุดรธานี 1,159.9 113 93.4 177 Udon Thani
สกลนคร 1,823.4 126 108.8 171 Sakon Nakhon
นครพนม 2,308.4 129 127.6 140 Nakhon Phanom
สุโขทัย 1,173.0 111 69.4 48 Sukhothai
เถิน 1,200.0 101 112.6 241 Thoen
ตาก 1,203.1 100 99.8 121 Tak
แม่สอด 1,595.7 137 78.5 196 Mae Sot
เขื่อนภูมิพล 1,150.8 105 75.8 142 Bhumibol Dam
อุ้มผาง 1,325.1 164 84.7 456 Umphang
พิษณุโลก 1,642.4 126 124.1 44 Phitsanulok
เพชรบูรณ์ 1,179.6 118 143.1 114 Phetchabun
หล่มสัก 1,149.6 112 115.6 144 Lom Sak
วิเชียรบุรี 1,138.6 102 75.6 69 Wichian Buri
กำแพงเพชร 1,426.5 129 72.9 80 Kamphaeng Phet
ขอนแก่น 1,378.9 101 90.6 165 Khon Kaen
ตาราง 1 ปริมาณฝน และความสูงของสถานีเหนือระดับทะเลปานกลาง เป็นรายสถานีอุตุนิยมวิทยา พ.ศ. 2550 (ต่อ)
TABLE 1 MEAN OF RAINFALL AND ELEVATION OF STATION ABOVE MEAN SEA-LEVEL BY STATION: 2007 (Contd.)

ความสูง
ปริมาณฝน จำนวนวัน ฝนสูงสุด จากระดับน้ำทะเล
(มิลลิเมตร) ที่มีฝนตก (มิลลิเมตร) (เมตร)
สถานีอุตุนิยมวิทยา (วัน) Elevation of station Station
Mean of Number of Daily Maximum above
rainfall rainy days (milimetre) mean sea-level
(milimetre) (day) (metre)
มุกดาหาร 1,300.3 116 90.6 138 Mukdahan
โกสุมพิสัย 1,554.8 107 82.9 153 Kosum Phisai
กมลาไสย 1,509.1 100 167.9 0 Kamalasai
นครสวรรค์ 1,185.6 107 97.7 34 Nakhon Sawan
ชัยภูมิ 1,342.9 109 110.4 182 Chaiyaphum
ร้อยเอ็ด 1,515.2 103 71.1 140 Roi Et
อุบลราชธานี 2,035.5 112 94.1 123 Ubonratchathani
สุพรรณบุรี 782.0 98 50.8 7 Suphan Buri
ลพบุรี 900.9 95 79.8 10 Lop Buri
บัวชุม 1,177.9 108 110.1 50 Bua Chum
ไพลอตสเตชั่น 826.5 97 56.9 14 Pilot Station
ปราจีนบุรี 1,908.7 129 106.4 5 Prachin Buri
กบินทร์บุรี 1,176.4 121 70.0 12 Kabin Buri
นครราชสีมา 1,177.8 106 73.4 187 Nakhon Ratchasima
โชคชัย 1,194.8 108 100.3 190 Chok Chai
สุรินทร์ 1,522.4 115 85.0 146 Surin
ท่าตูม 1,258.6 97 95.1 128 Tha Tum
บุรีรัมย์ 1,214.5 105 83.3 179 Buri Ram
นางรอง 1,417.5 109 120.5 179 Nang Rong
อรัญประเทศ 1,370.8 122 74.6 47 Aranya Prathet
สระแก้ว 1,158.6 127 72.3 49 Sa Kaew
กาญจนบุรี 1,091.7 110 93.9 28 Kanchanaburi
ทองผาภูมิ 1,854.5 148 77.5 97 Thong Phaphum
กรุงเทพมหานคร 1,684.2 139 117.9 2 Bangkok Metropolis
ท่าเรือคลองเตย 1,419.0 143 125.1 6 Bangkok Port Khlong Toei
สนามบินดอนเมือง 1,543.0 128 89.8 4 Don Muang Airport
ชลบุรี 1,254.3 126 60.7 1 Chon Buri
เกาะสีชัง 983.6 96 83.3 25 Ko Sichang
พัทยา 882.0 104 56.4 59 Phatthaya
ตาราง 1 ปริมาณฝน และความสูงของสถานีเหนือระดับทะเลปานกลาง เป็นรายสถานีอุตุนิยมวิทยา พ.ศ. 2550 (ต่อ)
TABLE 1 MEAN OF RAINFALL AND ELEVATION OF STATION ABOVE MEAN SEA-LEVEL BY STATION: 2007 (Contd.)

ความสูง
ปริมาณฝน จำนวนวัน ฝนสูงสุด จากระดับน้ำทะเล
(มิลลิเมตร) ที่มีฝนตก (มิลลิเมตร) (เมตร)
สถานีอุตุนิยมวิทยา (วัน) Elevation of station Station
Mean of Number of Daily Maximum above
rainfall rainy days (milimetre) mean sea-level
(milimetre) (day) (metre)
สัตหีบ 1,269.8 120 101.5 16 Sattahip
แหลมฉบัง 940.4 104 49.0 81 Laem Chabang
เพชรบุรี 1,113.4 99 74.4 2 Phetchaburi
ระยอง 1,366.4 117 128.4 3 Rayong
จันทบุรี 3,434.9 180 199.4 3 Chanthaburi
ประจวบคีรีขันธ์ 1,408.3 118 199.8 4 Prachuap Khiri Khan
หัวหิน 1,239.2 116 161.3 5 Hua Hin
คลองใหญ่ 4,860.9 198 408.0 2 Khlong Yai
ชุมพร 2,290.3 156 137.2 3 Chumphon
ระนอง 4,138.1 186 147.0 7 Ranong
สนามบินสุราษฎร์ธานี 1,518.4 162 74.6 7 Surat Thani Airport
เกาะสมุย 2,345.5 161 202.6 5 Ko Samui
พระแสง 1,374.4 171 77.8 0 Phra Sang
นครศรีธรรมราช 2,598.6 178 241.1 7 Nakhon Si Thammarat
ฉวาง 2,070.1 183 79.2 0 Chawang
ตะกั่วป่า 4,044.7 199 131.0 3 Takuapa
ภูเก็ต 2,396.0 181 82.7 2 Phuket
สนามบินภูเก็ต 2,952.4 175 143.6 6 Phuket Airport
เกาะลันตา 2,329.4 147 142.3 2 Ko lunta
กระบี่ 1,369.4 105 99.6 0 Krabi
สนามบินตรัง 2,452.1 175 97.4 14 Trang Airport
สะเดา 1,590.5 124 163.6 40 Sa Dao
สงขลา 1,861.6 165 182.0 4 Songkhla
สนามบินหาดใหญ่ 1,958.1 160 95.9 34 Hat Yai Airport
สตูล 2,300.2 196 76.8 4 Satun
สนามบินปัตตานี 1,841.2 152 117.9 5 Pattani Airport
นราธิวาส 2,006.2 173 74.5 2 Narathiwat


ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
Source: The Meteorological Department, Ministry of Information and Communication Technology


แก้ไขครับ



fiogf49gjkf0d
ความสูงจากระดับน้ำเลให้ดูตัวท้ายนะครับเช่น.แม่ฮ่องสอน 267 เมตรจากระดับน้ำทะเล
จาก : saliga(เรือง) 13/12/2554 6:42:12 [125.25.192.55]
ขอบคุณครับ..พี่เรือง
จาก : 005 (005 ) 13/12/2554 8:58:13 [110.168.36.169]
ของพี่เรืองสูงอยู่ น่าจะย้ายเมืองหลวงไปเพชรบูรณ์นะ
จาก : 130(130) 13/12/2554 9:26:57 [118.175.78.76]
สิ่งที่จะเกิดไม่ใช้ว่าอยู่ที่สูงจะรอดนะครับ 555 แผ่นดินมันจะคลุกขั้วกลิ้ง 555แล้วแต่สภาพพื้นที่คอยดู
จาก : TTC077(TTC077) 13/12/2554 21:05:47 [124.122.244.169]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

เรือง จาก เรืองร้อยแปด 125.25.192.55 อังคาร, 13/12/2554 เวลา : 06:36  IP : 125.25.192.55   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113252

คำตอบที่ 68
      

fiogf49gjkf0d
มีรุ่นพี่ที่ผมมักจะไปพูดคุยปรึกษาหารืออยู่ประจำๆท่านหนึ่ง..
พี่เขาแนะนำให้กลับไปอ่านเรื่องที่ในหลวงทรงแต่งขึ้น..

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง..
"พระมหาชนก กับ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง..."

รุ่นพี่ท่านนั้นบอกว่า..เป็นที่ทราบๆกับอยู่แล้วว่าท่านทรงปฏิบัติฌานสมาธิมานานแล้ว
ดังนั้น.. การที่ท่านเป็นกษัตริย์ ถึงแม้ว่าท่านจะทราบ ท่านจะรู้ และอยากจะเตือนพสกนิกรของท่านให้เตรียมเนื้อเตรียมตัวรับมือภัยต่างๆนั้น.. ท่านจะมาพูดอะไรพล่อยๆไม่ได้.. จะบอกตรงๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครเชื่อหรือไม่.. เพราะไม่สามารถจินตนาการไปถึงได้..

ท่านถึงได้ใช้ช่องทางหนังสือเป็นสื่อในการสื่อสาร..
ดังนั้น.. ถ้าอยากทราบว่าอะไร หรืออย่างไร.. ก็ต้องไปอ่านดู

ผมก็มีหนังสือดังกล่าว.. แต่ไม่ค่อยได้นำพา... จริงๆครับ.. โง่จริงๆ..
อีกทั้ง.. หนังสือเศรษฐกิจพอเพียง..
ก็ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือที่บอกว่าต้องแบ่งที่ดินเท่าไร.. ไว้ใช้ทำอะไรเท่านั้น..

แต่ต้องอ่านทั้ง 2 เล่ม..
เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่ท่านต้องการจะสื่อ ที่แอบซ่อนความหมายของสิ่งต่างๆเอาไว้ในนั้น..

สำหรับผมเอง.. ไม่ใช่แค่เพียงต้องกลับไปศึกษาความหมายของทั้ง 2 เล่มเท่านั้น.. แต่ยังต้องไปค้นหาในพระราชดำรัสเก่าๆถอยหลังกลับไปว่า.. ท่านต้องการจะสื่อบอกอะไรพวกเราครับ...

ขอจงทรงพระเจริญ และมีพระชนมายุยิ่งยืนนานครับ...






fiogf49gjkf0d
ต้องให้ผู้นำบางท่านอ่าน และนำไปทำ แต่ส่วนใหญ่ จะน้อมรับเฉยๆ แต่ไม่ปฎิบัติตาม เฮย..นี่แหละประเทศไทย
จาก : 130(130) 13/12/2554 20:17:40 [49.48.141.100]
ส่วนใหญ่ยืนตรงมือปิดเป้าน้อมรับ 555 พอหันหลัง เปิดเป้าครับฮิๆ
จาก : TTC077(TTC077) 13/12/2554 21:07:52 [124.122.244.169]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 อังคาร, 13/12/2554 เวลา : 16:50  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113265

คำตอบที่ 69
      

fiogf49gjkf0d
ทุบสถิติ! อินทนนท์หนาวจัดทำ “แม่คะนิ้ง” เกิดยาว 6 กม.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อากาศหนาวยะเยือก-อุณหภูมิติดลบ ส่งผล “แม่คะนิ้ง” ดอยอินทนนท์เกิดต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 ด้านนักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจได้เห็นแม่คะนิ้งกินพื้นที่ยาวถึง 6 กม.ตั้งแต่กิ่วแม่ปาน ถึงสถานีเรดาร์ แถมปริมาณทุบสถิติในรอบปีด้วย

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เช้าวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้เกิดน้ำค้างแข็ง หรือ “แม่คะนิ้ง” หรือ “เหมยขาบ” ปรากฏตามใบไม้และต้นหญ้า กินพื้นที่เป็นระยะทางถึง 6 กม.โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ไปจนถึงบริเวณสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศบนยอดดอยอินทนนท์

การเกิดแม่คะนิ้งต่อเนื่องบนยอดดอยอินทนนท์ นับตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.เป็นต้นมา และปริมาณของแม่คะนิ้งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าวันอื่นๆ ที่ผ่านมา ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นไปท่องเที่ยว และพักแรมบนยอดดอยดินทนนท์ในช่วงนี้เป็นอย่างมาก

ปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันนี้ เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่มีความหนาวเย็นและอุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ โดยในวันนี้อุณหภูมิต่ำสุดบนดอยอินทนนท์ วัดได้ที่ลบ 1.4 องศาเซลเซียส ณ ยอดหญ้าบริเวณสถานีเรดาร์ดอยอินทนนท์

ขณะที่ปริมาณการเกิดแม่คะนิ้งความยาวกว่า 6 กม.ในครั้งนี้ยังถือเป็นปริมาณที่มากที่สุด นับตั้งแต่เริ่มพบเห็นแม่คะนิ้งบนยอดดอยอินทนนท์ในปีนี้อีกด้วย

ภาพ : น้ำค้างแข็งที่เกิดบนดอยอินทนนท์เช้าวันนี้(14 ธ.ค.54)

Note : เมื่อก่อนผมจะรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวนี้มากๆเลยครับ.. และก็ดีใจที่ได้เห็นแม่คะนิ้งจริงๆ..
แต่ตอนนี้มันกลับตรงข้ามกันเลย.. ผมกลับรู้สึกว่า..ความวิบัติกำลังค่อยๆคืบคลานเข้ามาแล้ว... และก็คงไม่นานนักหรอกที่เมืองไทยจะมีหิมะตกเหมือนเมืองนอก...






fiogf49gjkf0d
เห็นด้วยครับว่าน่าจะเป็นสันญานเตือนภัยจากธรรมชาติ ยิ่งหิมะตกละก็ใช่เลย ต้องรีบไปวางมัดจำ ฮ่าๆๆๆ
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 15/12/2554 5:24:32 [124.120.79.189]
กะว่าจะไปวางมัดจำตัดหน้าแต่คงจะไปไม่ทันเพราะไม่ได้ใช้ vg-30
จาก : singh2005(singh2005) 15/12/2554 17:25:23 [110.168.196.124]
อิอิ.... 555
จาก : 005 (005 ) 15/12/2554 20:09:08 [124.121.96.163]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.39.68 พฤหัสบดี, 15/12/2554 เวลา : 01:52  IP : 124.121.39.68   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113304

คำตอบที่ 70
      

fiogf49gjkf0d
http://www.oknation.net/blog/RESCUE/2010/10/24/entry-2 เวปอื่นๆก็ตื่นกลัวเหมื่อนกันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.120.79.189 พฤหัสบดี, 15/12/2554 เวลา : 09:35  IP : 124.120.79.189   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113305

คำตอบที่ 71
      

fiogf49gjkf0d
เออ!!... ไม่ใช่แค่ชาวพม่าที่มาทำงานอยู่บางกะปิอย่างที่พี่เรเคยเล่าเอาไว้...
แต่เมื่อเช้าคุยกับรุ่นพี่อีกท่านหนึ่ง.. ซึ่งก็หนีน้ำท่วมก็หนีน้ำไปอยู่คอนโดแถวเขาสามมุก ชลบุรี..

ก็เล่าให้ฟังเช่นกันว่า.. คนใช้ชาวพม่าที่คอนโด ก็บอกว่า..
พระพม่าเตือนให้หนีน้ำท่วมกรุงเทพออกมา จะท่วมหนักมาก..
พอคนใช้คนนี้ ยังไม่ได้กลับพม่า.. ทางพ่อ-แม่ของเขาทางโน้นก็โทรมาสั่งให้กลับพม่าอย่างเดียวเลย..

เมื่อวานคุยเล่นๆกับตาเอกยากูซ่า..
ตาเอกเล่าว่า.. คนลาวก็เป็นครับพี่..!!
ของผมนี่บอกว่า.. เดี๋ยวเดือนกุมภาจะกลับไปลาวแล้ว
ถ้าน้ำไม่ท่วมก็จะกลับมาใหม่อีกทีปลายๆปีเลย.. แต่..
ถ้าท่วม.. ก็จะไม่กลับมาอีกแล้ว.... กรรม !!!

ส่วนเจ้าแอน.. สาวมอญ คนต้นเรื่อง..
ตอนนี้.. ทางบ้านก็ยังคงโทรมาสั่งให้กลับบ้านเหมือนกัน... เอ้อ !!!



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 15/12/2554 เวลา : 10:24  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113306

คำตอบที่ 72
      

fiogf49gjkf0d
รถบัส ใช้พลังงานเผาใหม้ ฝากพี่สิงห์





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.120.79.189 พฤหัสบดี, 15/12/2554 เวลา : 19:27  IP : 124.120.79.189   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113309

คำตอบที่ 73
      

fiogf49gjkf0d
ภาพคาดการณ์ หลังจากโลกสลับแกนแล้ว พื้นโลกก็ขยับ(กระชับพื้นที่) แผ่นดืนก็คงจมน้ำไปอีกเยอะ(แนวเดิมเส้นสีขาว ที่ว่างๆคือพื้นที่ๆหายไป ถ้าเป็นจรืงจะเหลือภาคเหนืออิสานเท่านั้นครับ





fiogf49gjkf0d
ใครจะเป็นเขยอิสาน เขยเหนือ ก็รีบๆกันนะครับ เวลาเหลือน้อย จริงๆ
จาก : 130(130) 15/12/2554 19:52:02 [223.206.131.132]
หุๆๆพลิกวิกฤติเป็นโอกาสเลยนะครับพี่หนึ่ง..
จาก : cowboyttc076(cowboyttc076) 15/12/2554 20:26:07 [101.108.208.147]
แม่นแล้ว ฮิๆ
จาก : 130(130) 15/12/2554 22:02:47 [223.206.131.132]
อยู่อิสานใกล้แม่น้ำโขงระวัง เพราะจะกว้างเป็นทะเลเลย ดูดีๆอินเดีย ญี่ปุ่น สิงคโป แทบจะหายไปเลยครับ
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 16/12/2554 5:33:29 [115.87.112.237]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.120.79.189 พฤหัสบดี, 15/12/2554 เวลา : 19:42  IP : 124.120.79.189   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113310

คำตอบที่ 74
      

fiogf49gjkf0d
หาดูยาก! ปรากฏการณ์ “เมฆสึนามิ” เหนือท้องฟ้าสหรัฐฯ

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปบนท้องฟ้า ขณะที่กลุ่มเมฆประหลาดรูปทรงคล้าย “สึนามิ” เคลื่อนตัวผ่านรัฐแอละแบมาของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ภาพ : ปรากฎการณ์เมฆสึนามิซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "ความไม่เสถียร เคลวิน-เฮล์มฮอลต์ส" เกิดขึ้นที่รัฐแอละแบมาของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 22/12/2554 เวลา : 09:37  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113478

คำตอบที่ 75
      

fiogf49gjkf0d
ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันเหลือเชื่อนี้ ถูกบันทึกลงในกล้องโทรศัพท์มือถือเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์(16) ที่เมืองเบอร์มิงแฮม โดยได้รับการขนานนามอย่างเป็นทางการว่า “ความไม่เสถียร เคลวิน-เฮล์มฮอลต์ส” (Kelvin-Helmholtz instability)

ปรากฏการณ์เช่นนี้มักเกิดขึ้นในเขตที่ราบกว้างใหญ่ ซึ่งความเร็วลมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดภาวะปั่นป่วน เมฆซึ่งมีความหนาแน่นน้อยและเคลื่อนที่เร็วกว่าจะเลื่อนขึ้นไปอยู่เหนือชั้นเมฆที่หนาทึบและเคลื่อนที่ช้า ทำให้เกิดการดึงพื้นผิวเมฆจนเป็นรูปทรงคล้ายคลื่นในทะเล







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 22/12/2554 เวลา : 09:38  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113479

คำตอบที่ 76
      

fiogf49gjkf0d
ประชาชนในรัฐแอละแบมาต่างพากันบันทึกภาพ และถ่ายวิดีโอปรากฏการณ์ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และส่งไปยังสถานีตรวจอากาศในท้องถิ่นเพื่อถามว่า “สึนามิบนท้องฟ้านี่เกิดขึ้นได้อย่างไร”

สมาคมผู้นิยมเมฆ (The Cloud Appreciation Society) อธิบายว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดจากความปั่นป่วนภายในชั้นเมฆซีร์รัส (Cirrus) ซึ่งกระแสลมมีความเร็วและทิศทางต่างกัน ทำให้เมฆม้วนตัวเหมือนคลื่นบนผิวน้ำ

สำหรับชื่อเรียกปรากฏการณ์นี้ มาจากการรวมชื่อของ ลอร์ด เคลวิน บารอน ชาวสกอตแลนด์ กับนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน เฮอร์มันน์ เฮล์มฮอลต์ส ซึ่งอธิบายที่มาของปรากฏการณ์ประหลาดนี้ได้เป็นครั้งแรก

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000162245






fiogf49gjkf0d
อากาศมันแปลกๆ... มันมีความหมายบางอย่าง อะไรซ่อนอยู่หรือป่าวนี่ ???
จาก : 005(005) 22/12/2554 9:42:32 [202.122.130.31]
เทคโนโลยีการถ่ายภาพทำได้ง่ายขึ้น ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารก็มากขึ้น ทำให้เรารับรู้อะไรได้มากขึ้นน่ะครับ
จาก : TTC-132(Nui_Terr_II) 22/12/2554 14:09:57 [124.121.213.254]
เป็นตาย่าน (น่ากลัว)
จาก : 130(130) 22/12/2554 18:33:16 [223.206.20.91]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 22/12/2554 เวลา : 09:39  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113480

คำตอบที่ 77
      

fiogf49gjkf0d

" เตรียมชุดการอยู่รอด ด้วยตัวคุณเอง (Survival Kit Prepared) "

การวางแผนการอยู่รอด เป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด หากคุณต้องเจอในสถานการณ์ฉุกเฉิน การวางแผนเป็นการทำให้คุณมีโอกาสในการอยู่รอดมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากกรณีที่คุณต้องเข้าไปในพื้นที่ขนาดเล็ก ที่มีความจำกัดเรื่องของขนาด สิ่งที่คุณสามารถทำได้คือ คุณต้องวางแผนที่จะลดสัมภาระลง หรือจำเป็นที่จะต้องทิ้งเป้หรือสัมภาระขนาดใหญ่ คุณต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่มีขนาดเล็กกว่า เพื่อที่จะเข้าไปในจุดๆนั้นได้ และพร้อมทุกสถานการณ์ที่จะนำสิ่งๆนั้น มาใช้เพื่อการอยู่รอดได้

สภาพแวดล้อมเป็นกุญแจสำคัญ ในการจัดทำแต่ละรายการในชุดการอยู่รอดของคุณ (Survival Kit) และมันต้องมีขนาดเล็ก สามารถพกพาได้สะดวกสบาย นอกจากนี้ ชุดการอยู่รอดของคุณต้องให้เหมาะสมกับตัวของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น นกหวีดควรที่จะมีไว้เพื่อขอความช่วยเหลือ เป็นต้น และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้อุปกรณ์ อย่าให้เป็นภาระในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ในการจัดทำชุดการอยู่รอดของคุณ คุณควรเลือกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้เอนกประสงค์ เนื่องจากว่าหากคุณเลือกอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกันหรือเหมือนกัน 2 ชิ้น นั่นหมายความว่า มันจะเป็นภาระให้คุณ รวมไปถึงขนาดและน้ำหนักในการพกพาอีกด้วย

ชุดการอยู่รอดของคุณ ไม่จำเป็นต้องทำอย่างละเอียด หรือ ทำเหมือนที่ขายกันตามทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญคือ การทำให้เหมาะกับตัวคุณเอง

การทำชุดการอยู่รอด (Survival Kit) ควรคำนึงถึง ดังนี้

- อุปกรณ์ทุกชนิดที่อยู่ในชุดการอยู่รอด สามารถกันน้ำได้
- ง่ายต่อการพกพา
- เหมาะสมกับคุณเอง
- มีความทนทาน แข็งแรง

ชุดการอยู่รอดของคุณ ควรจะมีดังต่อไปนี้

- อุปกรณ์ปฐมพยาบาล
- ยาบำบัดน้ำ หรือ ยาเม็ดฆ่าเชื้อโรคในน้ำ
- อุปกรณ์จุดไฟ เช่น แท่งจุดไฟ หรือ ไม้ขีดไฟ
- อุปกรณ์ส่งสัญญาณ เช่น นกหวีด กระจกสะท้อนแสง
- อาหารที่ให้พลังงาน เช่น ลูกอม
- อุปกรณ์สำหรับสร้างที่พักอาศัย

ตัวอย่างชุดการอยู่รอด (Survival Kit) มีรายการ ดังต่อไปนี้

- ไม้ขีดไฟกันน้ำ และกันลม
- ลวดบ่วง สำหรับไว้ทำกับดักสัตว์
- กระจกสะท้อนแสงส่งสัญญาณ
- เชือกสำหรับตกปลา
- เบ็ดตกปลา
- เทียนไข
- เลนส์ขยายขนาดเล็ก
- ยาแก้ท้องร่วง กรณีติดเชื้ออุจาระร่วง
- ยาบำบัดน้ำ หรือ ยาเม็ดฆ่าเชื้อโรคในน้ำ
- ผ้าห่มฉุกเฉิน
- ใบมีดแบบผ่าตัดที่ใช้กันในโรงพยาบาล
- ถุงยางอนามัย สำหรับไว้ใส่น้ำ หรือกักเก็บน้ำ
- เข็มและด้าย
- เข็มกลัด
- มีดขนาดเล็ก

อ้างอิงข้อมูล : คู่มือ SAS Survival
อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/

fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 25/12/2554 2:46:05





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.183.235 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 01:51  IP : 124.121.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113604

คำตอบที่ 78
      

fiogf49gjkf0d

" 5 ทักษะของการอยู่รอดขั้นพื้นฐาน "

การเรียนรู้ การฝึกทักษะ ด้านการอยู่รอด จากสถานการณ์จำลองนั้น จะทำให้คุณได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งในด้านความเชี่ยวชาญ ความสามารถ ในหลายๆด้าน เป็นการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเราไม่สามารถทราบแน่ชัดว่า จะเกิดที่ไหนอย่างไร สภาพแวดล้อม เวลา สถานการณ์เป็นอย่างไร

ผู้ที่เคยผ่านการรอดชีวิตมาก่อนนั้น ได้วิเคราะห์แล้วว่า 5 ทักษะ ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้ จำเป็นในการอยู่รอด และนอกจากนี้ ควรมีการฝึกฝน ให้เกิดความชำนาญ เพื่อที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

1. รู้วิธีการจุดไฟ การอยู่รอดที่ดี ควรรู้จักการจุดไฟให้เป็น ไฟให้ความอบอุ่นได้ ถึงแม้คุณจะอยู่สภาพแวดล้อมที่หนาวจัด หรือมีเสื้อผ้าแค่น้อยชิ้น คุณก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ นอกจากนี้ ไฟยังสามารถให้แสงสว่างในเวลากลางคืน ป้องกันอันตรายจากสัตว์ แมลงบิน ทำให้เสื้อผ้าแห้ง อีกทั้งสามารถทำอาหารและต้มน้ำเพื่อดื่มได้ ปราศจากเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่นี้ ควันไฟก็ยังสามารถขอความช่วยเหลือได้ในระยะไกลมากๆอีกด้วย

วิธีการจุดไฟ นอกจากไม้ขีดไฟและไฟแช็คแล้ว ยังมีแท่งจุดไฟ (Firesteel) ที่คุณก็สามารถจุดไฟได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งอากาศชื้น หรือฝนตก ก็ตาม

2. ที่พักอาศัยและเครื่องนุ่งห่ม เนื่องด้วยสภาวะอากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ร้อน ฝน หนาว หิมะ แสงแดด ลม ที่พักอาศัยและเครื่องนุ่งห่มจึงจำเป็นอย่างมาก เพื่อปกป้องร่างกายของคุณ นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องคุณจากแมลงและสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่เป็นอันตรายต่อคุณ

ผู้เชี่ยวชาญการอยู่รอดได้ให้คำแนะนำ ว่าขั้นแรกควรเลือกเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม ที่คุณคาดว่าอาจได้พบ และต่อไปให้สร้างที่พักอาศัย ที่คุณสามารถทำได้ไม่ยากเกินไป อาจจะเป็นเพิงเล็กๆ หุ้มด้วยวัสดุธรรมชาติ หากเป็นไปได้ในระหว่างการเตรียมอุปกรณ์ คุณอาจเตรียมผ้าห่ม หรือผ้าใบกันน้ำ เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถสร้างที่พักอาศัยได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจ คุณควรมีการฝึกการสร้างที่พักอาศัยอยู่เป็นประจำ เพื่อทดสอบว่า วัสดุที่คุณหาได้ทั่วไป สามารถใช้งานได้จริง

3. ส่งสัญญาณ การส่งสัญญาณเป็นการติดต่อสื่อสารกับผู้ที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น การใช้ควันไฟ การใช้ไฟฉาย การใช้เสื้อผ้าสีสดใส การใช้กระจกสะท้อนแสง การเป่านกหวีด การใช้แท่งเรืองแสงต่างๆ

4. อาหารและน้ำ เมื่อได้ก็ตามที่คุณวางแผนไปไหน เพื่อให้แน่ใจว่า คุณมีอาหารและน้ำ ติดตัวไว้เสมอ เพื่อความอยู่รอดของคุณ หากเกิดสถานการณ์ที่คุณไม่เคยคาดฝัน อาหารและน้ำ มีความจำเป็นต่อร่างกายมากที่สุด หากอาหารและน้ำมีจำกัด ดังนั้นสิ่งสำคัญ คุณควรรู้จักวิธีการวางแผนการดื่มน้ำ และอาหาร นอกจากนี้ ควรรู้จักการหาอาหารตามสภาพแวดล้อมที่คุณไปเยือน คุณสามารถไม่ทานอาหารได้เป็นเดือน แต่คุณไม่สามารถขาดน้ำได้เกิน 3 วัน นอกจากนี้ ควรเรียนรู้การทำน้ำให้สะอาด เช่น การต้มน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรค การใช้เครื่องกรองน้ำพกพา การใช้ยาเม็ดเพื่อบำบัดน้ำ เป็นต้น

5. การปฐมพยาบาล คุณควรเตรียมชุดปฐมพยาบาลไว้ตลอดเวลา เพราะการบาดเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นการลดความบาดเจ็บที่เกิดขึ้น นอกจากนี้การมีชุดปฐมพยาบาลยังสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อีกด้วย

อาการตกใจ (Panic) ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจาก อาการตกใจเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของคุณ เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณจะทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นควรตั้งสติ และปฐมพยาบาลด้วยจิตใจที่แน่วแน่ หรือ โดยวิธีการ STOP เพื่อลดอาการตกใจ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อีกด้วย

STOP

Sit = นั่ง
Think = คิด
Observe = สังเกต
Plan = วางแผน

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/


fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 25/12/2554 2:45:17





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.183.235 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 02:39  IP : 124.121.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113605

คำตอบที่ 79
      

fiogf49gjkf0d
" พายุหิมะ...เรื่องใหม่ที่คนไทยอาจจำเป็นต้องรู้ "

พายุหิมะเป็นพายุที่ทำให้เกิดหิมะจำนวนมาก จนมองไม่เห็นทางข้างหน้า ผลที่เกิดขึ้นคือ ทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นแทบจะเหลือศูนย์หรือมองไม่เห็นเลย กองหิมะที่สูงใหญ่และลึก พร้อมกับอากาศที่หนาวสั่น จะสามารถก่อให้เกิดความเสียหายและขัดขวางต่อการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการติดต่อสื่อสารด้านโทรคมนาคม

ดังนั้นขอให้เราอยู่แต่ภายในบ้านหรืออาคาร และอยู่ให้ห่างจากความหนาวเย็นมากที่สุด จากสถิติด้านสภาพอากาศระบุว่า ผู้คนเป็นจำนวนมากที่ไม่เอาใจใส่ต่อข้อแนะนำเรื่องนี้

การเตรียมการ

สิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ คือ มีความเป็นไปได้มากที่จะสูญเสียความร้อน สูญเสียพลังงานไฟฟ้า สูญเสียการสื่อสารโทรคมนาคม และขาดแคลนเสบียง (ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด) ดังนั้นเราจึงควรที่จะ

- เก็บตุนอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น ผลไม้อบแห้ง ของหวาน และอาหารที่ไม่เน่าเสียง่าย ต้องเป็นอาหารที่พร้อมรับประทานทันที เช่น อาหารกระป๋อง เป็นต้น
- เตรียมเชื้อเพลิงสำหรับการก่อไฟ เช่น ถ่านไม้ ไม้แห้ง โดยต้องเก็บไว้ในที่หยิบได้ง่าย
- อุปกรณ์จุดไฟ เช่น ไม้ขีดไฟ ไฟแช็ค โดยต้องเก็บไว้ในที่หยิบได้ง่าย
- ควรมีเตาถ่านสำหรับผิงไฟ ไม่ควรจุดไฟไว้บนพื้น หรือจุดเตาถ่านในสถานที่อับ หรือในอากาศที่ไม่ถ่ายเท
- ควรมีอุปกรณ์ดับเพลิง และมีการตรวจสภาพอยู่สม่ำเสมอเพื่อสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

การอยู่รอด

- หากไม่มีเครื่องทำน้ำร้อน หรือเตาผิงไฟ ให้ปิดห้องที่ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมด
- ปิดร่องหรือช่องใต้ประตู ไม่ให้อากาศเข้า ด้วยผ้าขนหนู ผ้าขี้ริ้ว หรือ หนังสือพิมพ์
- ปิดหน้าต่าง โดยเฉพาะเวลากลางคืน
- รับประทานอาหารให้อิ่ม เพราะว่าอาหารที่รับประทานเข้าไปนี้ จะเป็นพลังงานที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
- ดื่มน้ำให้มาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
- ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ แต่หลายๆชั้น ควรเป็นเสื้อที่บางเบา อบอุ่น และอย่าให้รัดแน่น เพื่อช่วยให้ท่านสะดวกในการถอด หากท่านอยู่ในสภาวะที่ร่างกายร้อนเกินไป
- ควรสวมหมวกไหมพรมขณะนอน และห่มด้วยผ้าห่มบางๆ แต่หลายชั้น การห่มหลายๆชั้น ด้วยผ้าห่มที่บาง จะดีกว่าห่มด้วยผ้าห่มหนาๆ แต่เพียงผืนเดียว
- รับฟังข่าวสารจากสถานีวิทยุ หรือ สื่ออื่นๆ เพื่อรับทราบเกี่ยวกับอากาศ เพื่อที่ท่านจะได้ช่างใจว่า ควรหลบอยู่ในบ้าน หรือตัดสินใจหลบภัยไปที่อื่น
- อยู่ในอาคารก่อน ยกเว้นว่าจะเกิดอันตราย หากอยู่ในอาคารต่อไป เช่น กรณีเป็นอาคารที่อันตราย เพราะกำลังจะถล่มลงมา
- รอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย

เรียงเรียงจาก Disaster Survival โดย Brian Beard

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.183.235 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 02:43  IP : 124.121.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113606

คำตอบที่ 80
      

fiogf49gjkf0d
" ผ้าห่มฉุกเฉิน (Emergency Blanket)...สารพัดประโยชน์ "

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น นั่นคือ “ผ้าห่มฉุกเฉิน” หรือ บางคนเรียกว่า “ผ้าห่มอวกาศ” เหตุที่เรียกกันว่าผ้าห่มอวกาศ เนื่องจากว่า ได้รับการผลิตและพัฒนาครั้งแรกโดยองค์การนาซ่า (NASA) ในปี 1964 โดยวัสดุจะเป็นพลาสติกบาง และเคลือบฟิล์มด้วยอลูมิเนียม ได้ถูกใช้ในภารกิจยานอวกาศอะพอลโล่

ผ้าห่มฉุกเฉิน มีคุณประโยชน์มากมาย มันมีขนาดเบา และเล็ก ไม่เปลืองเนื้อที่ในการเก็บ ผ้าห่มฉุกเฉินไม่ใช่เพียงแค่การรักษาความอบอุ่น แต่การรักษาความอบอุ่น เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการอยู่รอด ในสถานการณ์ฉุกเฉิน มันสามารถใช้งานได้หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น

1. แน่นอนวัตถุประสงค์หลักผ้าห่มฉุกเฉินนี้ จะช่วยให้คุณและคนอื่นอบอุ่น โดยการห่มกับร่างกายและคลุมศรีษะ ป้องกันการสูญเสียความร้อนในร่างกาย ป้องกันการหมดสติของผู้ป่วย มันจึงจำเป็นที่คุณจะต้องเก็บไว้ในชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

2. คุณสามารถนำผ้าห่มฉุกเฉินนี้ มากางเป็นผ้าใบหลังคา เพื่อกันฝน เป็น “ที่พักฉุกเฉิน” ชั่วคราว หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย เช่น อากาศเย็น หรือ หิมะตก คุณสามารถใช้ประโยชน์จากผ้าห่มฉุกเฉินนี้ โดยการ กางผ้าห่มฉุกเฉิน ใกล้กับกองไฟ ความร้อนจากกองไฟ จะไปสะท้อนกับผ้าห่ม พื้นผิวอลูมิเนียม จะช่วยกักเก็บความร้อนและช่วยให้คุณอุ่นได้

3. ผ้าห่มฉุกเฉินช่วยกักเก็บความร้อน ในกรณีที่คุณติดอยู่รถ ในช่วงฤดูหนาวจัด คุณสามารถป้องกันได้โดยการนำผ้าห่มฉุกเฉิน มาปิดไว้ภายในรถ เช่น คลุมปิดกระจกหน้าต่าง หรือ สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณภายในรถ ด้านที่เป็นอลูมิเนียมจะช่วยสะท้อนความร้อนภายในร่างกายของเรา ทำให้ภายในรถของคุณอบอุ่นมากขึ้น

4. ในทางเดียวกัน ผ้าห่มฉุกเฉินสามารถสะท้อนความร้อนกลับมาตัวคุณ มันยังสามารถสะท้อนความร้อนออกจากตัวคุณได้อีกด้วย ถ้าคุณอยู่ในเต็นท์ในเวลากลางวัน ที่มีอากาศร้อน และแสงแดดรุนแรง คุณสามารถนำผ้าห่มฉุกเฉินมาคลุมทับหลังคาเต็นท์ได้ เพื่อให้แสงแดดได้สะท้อน ออกไปจากเต็นท์ของคุณ ทำให้เต็นท์ของคุณมีอุณหภูมิที่เย็นขึ้น

5. เนื่องจากพื้นผิวของผ้าห่มฉุกเฉิน เป็นอลูมิเนียม มีความมันเงา มันสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทางอากาศได้

ความคิดสร้างสรรค์เพียงเล็กน้อยนี้ จะช่วยให้คุณหาประโยชน์จากผ้าห่มฉุกเฉินได้อีกมากมาย

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/








fiogf49gjkf0d
like
จาก : R20S034(R20S034) 25/12/2554 7:38:31 [101.109.133.109]
ขอโทษทีครับพี่ภาพ.. ลืมลงรูป... งุงิ..งุงิ..
จาก : 005 (005 ) 25/12/2554 10:07:44 [115.87.12.32]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.183.235 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 02:52  IP : 124.121.183.235   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113607

คำตอบที่ 81
      

fiogf49gjkf0d
" ภัยพิบัติที่ควรรู้... พายุหมุนเขตร้อน "

พายุหมุนเขตร้อนเป็นคำที่ใช้เรียกพายุหมุนหรือไซโคลนที่มีถิ่นกำเนิด เหนือมหาสมุทรในเขตร้อนแถบเส้นรุ้งต่ำใกล้เขตศูนย์สูตร มีการหมุนเวียนของลมพัดเวียนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือและพัดเวียนตามเข็ม นาฬิกาในซีกโลกใต้พายุหมุนเขตร้อนเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่มีอนุภาพรุนแรง และมีผลกระทบต่อลักษณะอากาศในเขตร้อน ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย เช่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และเกิดคลื่นสูงในทะเล พายุหมุนเขตร้อนนี้เมื่อมีกำลังแรงสูงสุดมีชื่อเรียกแตกต่างออกไปตามแหล่ง กำเนิด เช่น พายุที่เกิดในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า “ไซโคลน” เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลแคริเบียน อ่าวเมกซิโกและทางด้านตะวันตกของแม็กซิโกเรียกว่า “ไต้ฝุ่น” และเกิดแถบทวีปออสเตรเลียเรียกว่า”วิลลี่-วิลลี่”

พายุหมุนเขตร้อนทีมีแหล่งกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตกและทะเล จีนใต้ มีการแบ่งเกณฑ์ความรุนแรงของพายุตามข้อตกลงระหว่างประเทศโดยใช้ความเร็วลม ใกล้ศูนย์กลางพายุกำหนดมีดังนี้

- พายุดีเปรสชั่น : มีความเร็วลมไม่เกิน 33 นอต (61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

- พายุโซนร้อน : มีความเร็วลม 34 นอต (62-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

- ไต้ฝุ่น : มีความเร็วลม 64 นอต (118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)


ประเทศไทยตั้งอยู่ระหว่างบริเวณแหล่งกำเนิดของพายุหมุนเขตร้อนสอง ด้าน ด้านตะวันออกคือมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ส่วนด้านตะวันตกคืออ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน โดยพายุมีโอกาสเคลื่อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้เข้าสู่ประเทศไทยทาง ด้านตะวันออกมากกว่าทางด้านตะวันตก ปกติประเทศไทยจะมีพายุเคลื่อนผ่านเข้ามาได้โดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 ครั้งต่อปี บริเวณที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุดคือภาคเหนือและภาคตะวันออก เฉียงเหนือ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ซึ่งในระยะต้นปีระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมเป็นช่วงที่ประเทศไทยปลอดจาก อิทธิพลของพายุ จนถึงเดือนเมษายนนับเป็นเดือนแรกของปีที่พายุเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ทางภาคใต้ได้ แต่ก็มีโอกาสน้อยและเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 51 ปี ผ(พ.ศ. 2494-2544) ซึ่งพายุเริ่มมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและ โดยส่วนใหญ่เป็นพายุที่เคลื่อนมาจากด้านตะวันตกเข้าสู่ประเทศไทยทางตอนบน และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไปพายุส่วนใหญ่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทาง ด้านตะวันออก โดยช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมพายุยังคงเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอน บน ซึ่งบริเวณตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่พายุมี โอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุด และเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมพายุมีโอกาสเคลื่อนเข้ามาได้ในทุกพื้นที่ของ ประเทศ โดยเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตั้งแต่เดือนกันยายน ในสองเดือนนี้เป็นระยะที่พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยได้มาก โดยเฉพาะเดือนตุลาคมมีสถิติเคลื่อนเข้ามามากที่สุดในรอบปี สำหรับช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนพายุจะเคลื่อนเข้าสู่ปะเทศไทยตอนบน น้อยลงและมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้มากขึ้น เมื่อถึงเดือนธันวาคมพายุมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้เท่านั้น โดยไม่มีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอยบนอีก

พายุที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่เป็นพายุดีเปรสชั่น เพราะพื้นดินและเทือกเขาของประเทศพม่า เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ที่ล้อมรอบประเทศไทยตอนบนเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความรุนแรงของพายุก่อนที่จะ เคลื่อนมาถึงประเทศไทย ดังนั้นความเสียหายที่เกิดจากลมแรงจึงน้อยกว่าภาคใต้ซึ่งมีภูมิประเทศเป็น พื้นที่สู่ทะเล พายุที่เคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยและขึ้นฝั่งภาคใต้ขณะมีกำลังแรงขนาดพายุโซน ร้อนหรือไต้ฝุ่นจะมีผลกระทบเป็นอย่างมากจากคลื่นพายุซัดฝั่ง ลมพัดแรงจัด และฝนตกหนักถึงหนักมากจนเกิดอุทกภัย รวมทั้งคลื่อลมแรงในอ่าวไทย ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้น 3 ครั้งในอดีย ได้แก่พายุโซนร้อน “แฮเรียด” ที่เคลื่อนเข้าสู่แหลมตะลุมพุกจังหวัดนครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 25-26 ตุลาคม พ.ศ.2505 พายุไต้ฝุ่น “เกย์” ที่เคลื่อนเข้าสู่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2532 และพายุไต้ฝุ่น “ลินดา” ที่เคลื่อนเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันต์ขณะมีกำลังเป็นพายุโซนร้อนเมื่อวัน ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540

ที่มา : มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/

fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 25/12/2554 10:12:19





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.12.32 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 10:10  IP : 115.87.12.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113608

คำตอบที่ 82
      

fiogf49gjkf0d
" ภัยพิบัติที่ควรรู้.... สึนามิ (Tsunami) "

สึนามิ เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่า Harbour Wave คำแรก สึ แปลว่า harbour คำที่สอง นามิ แปลว่า คลื่น ปัจจุบันใช้เป็นคำเรียก กลุ่มคลื่นที่มีความยาวคลื่นมากๆขนาดหลายร้อยไมล์ นับจากยอดคลื่นที่ไล่ตามกันไป เกิดขึ้นจากการที่น้ำทะเลในปริมาตรเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ถูกผลักดันให้เคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ด้วยเหตุมาจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกส่วนที่อยู่ใต้ทะเลลึก บางครั้งก็เรียกว่า seismic wave เพราะส่วนใหญ่เกิดจากการเคลื่อนไหวดังกล่าว เรามักจะสับสนกับคำว่า สึนามิ กับ tidal wave ซึ่งเกิดจากน้ำขึ้นน้ำลง แต่ สึนามิ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการขึ้นลงของน้ำเลย

สึนามิ ส่วนใหญ่ เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใต้ทะเลอย่างฉับพลัน อาจจะเป็นการเกิดแผ่นดินถล่มยุบตัวลง หรือเปลือกโลกถูกดันขึ้นหรือยุบตัวลง ทำให้มีน้ำทะเลปริมาตรมหาศาลถูกดันขึ้นหรือทรุดตัวลงอย่างฉับพลัน พลังงานจำนวนมหาศาลก็ถ่ายเทไปให้เกิดการเคลื่อนตัวของน้ำทะเลเป็น คลื่นสึนามิ ที่เหนือทะเลลึก จะดูไม่ต่างไปจากคลื่นทั่วๆไปเลย จึงไม่สามารถสังเกตได้ด้วยวิธีปกติ แม้แต่คนบนเรือเหนือทะเลลึกที่ คลื่นสึนามิ เคลื่อนผ่านใต้ท้องเรือไป ก็จะไม่รู้สึกอะไร เพราะเหนือทะเลลึก คลื่นนี้ สูงจากระดับน้ำทะเลปกติเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น จึงไม่สามารถแม้แต่จะบอกได้ด้วยภาพถ่ายจากเครื่องบิน หรือยานอวกาศ

นอกจากนี้แล้ว สึนามิ ยังเกิดได้จากการเกิดแผ่นดินถล่มใต้ทะเล หรือใกล้ฝั่งที่ทำให้มวลของดินและหิน ไปเคลื่อนย้ายแทนที่มวลน้ำทะเล หรือภูเขาไฟระเบิดใกล้ทะเล ส่งผลให้เกิดการโยนสาดดินหินลงน้ำ จนเกิดเป็นคลื่น สึนามิ ได้ ดังเช่น การระเบิดของภูเขาไฟ คระคะตัว ในปี ค.ศ. 1883 ซึ่งส่งคลื่น สึนามิ ออกไปทำลายล้างชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในเอเชีย มีจำนวนผู้ตายถึงประมาณ 36,000 ชีวิต

ที่มา : มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.12.32 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 10:13  IP : 115.87.12.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113609

คำตอบที่ 83
      

fiogf49gjkf0d
" สาระน่ารู้เกี่ยวกับการยังชีพ ( Survival )..."
" แนวคิดในการจัดเป้ฉุกเฉิน เพื่อรองรับภัยแผ่นดินไหว... "

แผ่นดินไหว เป็นภัยพิบัติที่ไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้าได้ ดังนั้นการเตรียมตัวที่ดีนั้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัตินี้ จึงจำเป็นต้องมีความคล่องตัว และรวดเร็ว โดยการจัดเป้ฉุกเฉินขึ้นมา และควรคำนึงถึง ปัจจัย 4 อาหารและน้ำ ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์

แนวคิดในการเตรียมตัว การจัดเป้ฉุกเฉิน

- อาหารและน้ำพร้อมรับประทาน จัดให้พอ ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง หรือ ภายใน 3 วัน หลังเกิดแผ่นดินไหวแล้ว ควรหาสถานที่ปลอดภัย และควรอยู่กับที่ และวางแผนการทานอาหาร เพื่อให้สามารถอยู่ได้หลายๆวัน และรอการช่วยเหลือต่อไป เวลาซื้อ ควรดูวันเดือนปี หมดอายุด้วย เพราะมีผลต่อการเก็บรักษานานๆ

- หากมีการแจกเสบียง โดยองค์กรบรรเทาสาธารณภัย ชุดจาน ช้อน ส้อม กระติกน้ำ สามารถนำไปใช้ได้ อย่างปลอดภัย ไม่ปะปน กับผู้อื่น และเป็นการป้องกันเชื้อโรค

- อุปกรณ์กันหนาว ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม หรือถุงนอน จำเป็นอย่างยิ่ง หากสถานที่พักพิงของเรา มีผ้าห่มไม่เพียงพอ เพราะอาจมีผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก

- อุปกรณ์ให้แสงสว่าง ไฟฉายพร้อมถ่าน มีความจำเป็นอย่างยิ่งในเวลากลางคืน นอกจากใช้ส่องสว่าง แล้ว ยังสามารถใช้สำหรับขอความช่วยเหลืออีกด้วย

- เพื่อเป็นการประหยัดถ่านไฟฉาย ควรมีเทียนไขและไม้ขีดไฟ ด้วย ไม้ขีดไฟควรเก็บใส่ถุงซิปเพื่อกันน้ำอีกชั้น ไม่แนะนำไฟแช็ค เนื่องจากว่า ไฟแช็ค มีน้ำมันเป็นของเหลว หากมีการเสียหาย หรือมีการกระแทก อาจทำให้เป้ฉุกเฉินเราเลอะเทอะไปด้วยน้ำมันไฟแช็ค และไฟแช็คส่วนใหญ่ ในระยะยาว จะเสียค่อนข้างง่าย

- เสื้อผ้าชั้นใน (ยกทรง , กางเกงใน) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จะไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้า ได้เลย บางครั้งต้องออกไปเพียงชุดเดียว อย่างน้อย เราไม่มีเสื้อนอก แต่เรายังมีเสื้อผ้าชั้นในเปลี่ยน เพื่อป้องกันการอับชื้น และเชื้อราในร่มผ้า

- ถุงเท้า สำรองมีไว้เพื่อป้องกันความหนาว เท้าเป็นส่วนที่สามารถสูญเสียความร้อนได้ง่าย ถุงเท้า ช่วยให้เราอบอุ่นมากขึ้น และมีไว้เพื่อเปลี่ยนเวลาที่ถุงเท้าที่เราใส่อยู่ เปียกชื้น ป้องกันรองเท้ากัด

- ผ้าอนามัย มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้หญิง จากการสำรวจภัยพิบัติต่างๆ ช่วยภัยพิบัติสิ่งที่ขาดแคลนมากที่สุด คือ ผ้าอนามัย นอกจากนี้ ผ้าอนามัยสามารถห้ามเลือดได้ ควรซื้อแบบใช้กลางคืน เพราะมีขนาดใหญ่ และรองรับปริมาณเลือดได้ค่อนข้างดีกว่าแบบกลางวัน

- ผ้าเช็ดตัว ควรเป็นแบบผืนใหญ่ อาจจะเป็นผ้าขาวม้า หรือ ผ้าถุงก็ได้ ไว้ใช้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า และเช็ดตัว

- อุปกรณ์ปฐมพยาบาล ยาประจำตัว ควรเตรียมให้พร้อม หากท่านใดมีโรคประจำตัวอยู่ กรุณานำยาประจำตัวของท่านเก็บไว้ในกระเป๋าพยาบาล ด้วย และควรนำกระเป๋าพยาบาล ใส่ไว้บนสุดของเป้ฉุกเฉิน เพื่อที่จะหยิบได้ง่าย ทันท่วงที

- ผ้าห่มฉุกเฉิน เป็นผ้าห่มสำหรับ กรณี ร่างกายเรา กำลังสูญเสียความร้อนในร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น เป็นไข้ หนาวเย็น เป็นต้น ผ้าห่ม จะทำหน้าที่เป็นฉนวน กักเก็บความร้อนภายในร่างกายเรา ไม่ให้ออกไป เพื่อเป็นการรักษาอุณหภูมิในร่างกายเรา

- หน้ากากปิดจมูก ควรใช้แบบผ้า หรือ หน้ากากชนิด N 95 เพื่อกรองฝุ่นละออง ผงซีเมนต์ เชื้อโรค ในแหล่งที่เกิดภัยพิบัติ

- เสื้อกันฝน ควรเลือกใช้แบบผ้ากันน้ำอย่างดี ไม่ควรใช้แบบพลาสติก เพราะจะไม่คงทน และยังขาดง่ายอีกด้วย

- ถุงมือ ให้ใช้แบบผ้า เพื่อป้องกัน การจับของมีคม เช่น เสี้ยนไม้ รอยแตกของหินหรือปูน เป็นต้น

- วิทยุ AM FM ใช้ในกรณีที่เราอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องเผชิญกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ อย่าง After Shock ของแผ่นดินไหว และสึนามิ วิทยุ AM FM มีส่วนช่วยที่ทำให้เรารับรู้ข่าวสาร จากสถานีวิทยุกระจายเสียง ได้อย่างรวดเร็ว และนำข้อความเหล่านั้น มาประเมิน วิเคราะห์ วางแผนสถานการณ์ต่อไปได้

- ถุงพลาสติก ถุงดำ ควรเลือกแบบหนา ไว้ใช้สำหรับใส่อุปกรณ์อื่นๆ เพื่อกันน้ำ และ เอาไว้ใส่สิ่งปฏิกูล อาจจะเป็นขยะ หรือ อุจจาระ เพื่อสุขภาพอนามัยและเป็นการป้องกันเชื้อโรค

- เชือกร่ม 20 เมตร มีไว้เพื่อผูกสิ่งของต่างๆ ทำราวตากผ้า ผูกเชือก กางผ้าใบ เป็นหลังคา กันฝน กันแดด และสามารถใช้ในยามฉุกเฉินต่างๆ ได้ เช่น ใช้ช่วยคนจมน้ำ หรือ ทำเป็นราวเชือก เวลาเดินผ่านกระแสน้ำแรงๆ เป็นต้น

- มีดอเนกประสงค์ โดยส่วนใหญ่จะมีอุปกรณ์หลายประเภท เช่น มีดขนาดเล็ก เลื่อย ที่เปิดขวด ที่เปิดกระป๋อง กรรไกร ไขควง แหนบ ไม้จิ้มฟัน เป็นต้น ซึ่งมีความสารพัดประโยชน์มากกว่ามีดพกธรรมดา สามารถนำไปใช้งานได้หลายประเภท เช่น ตัดเชือก เลื่อยกิ่งไม้ ตัดผ้าก็อชทำแผล เปิดกระป๋อง ซ่อมอุปกรณ์อื่นๆ ฯลฯ

- อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ มีไว้เพื่อขอความช่วยเหลือ นกหวีด ไว้ส่งสัญญาณทางเสียง แท่งเรืองแสงเหมาะสำหรับใช้ก็ต่อเมื่อเวลากลางคืน และเพื่อขอความช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ควรใช้เพื่อให้แสงสว่าง โดยไม่จำเป็น และผ้าสีสะท้อนแสง ช่วยให้ผู้อื่นได้เห็นเราได้ชัดขึ้น

- เงินสด เหรียญ ธนบัตร ควรมีติดตัวไว้ ยามจำเป็น เครื่อง ATM เครื่อง รูดบัตรเครดิต อาจไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไฟฟ้าอาจถูกตัด และระบบเครือข่ายออนไลน์ล่ม การมีเงินสดทำให้เราสามารถซื้อเครื่องอุปโภคและอุปโภคได้ในยามฉุกเฉิน

- เป้ หรือกระเป๋า ควรมีขนาดพอดี สามารถใส่อุปกรณ์ที่เราเตรียมไว้ได้ทั้งหมด ไม่ใหญ่ ไม่เล็กเกินไป โปรดตรวจสอบความแข็งแรงของเป้ โดยเฉพาะ ก้นเป้ จุดสายสะพายเป้หรือกระเป๋า และควรมีสีสันสดใส เวลากลางคืนจะได้เห็นชัดเจน

- เป้ฉุกเฉิน ควรไว้ในสถานที่ ที่หยิบฉวยได้ง่าย เช่น หัวนอน ปลายเตียง ใกล้โต๊ะทำงาน ไม่ควรไว้บริเวณประตู หรือกระจก หากมีแผ่นดินไหว อาคารจะมีการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ได้

- เป้ 1 ใบ เหมาะสำหรับ 1 คน ควรจัดให้พอดีกับจำนวนคนในบ้าน หรือคนในครอบครัว

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.12.32 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 10:18  IP : 115.87.12.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113610

คำตอบที่ 84
      

fiogf49gjkf0d
เพิ่มเติม...
มีคนเอาเข้ามาขายด้วยครับ..

Grabber Space Emergency Blanket - Silver
ผ้าห่มอวกาศ จาก NASA
ราคา : 200.00 บาท

ผ้าห่มฉุกเฉิน Grabber เป็นผ้าห่มอลูมิเนียม ป้องกันการสูญเสียความร้อนในร่างกาย ออกแบบและพัฒนาโดย องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ ที่เราเรียกกันว่าองค์การนาซ่า (NASA)

ยี่ห้อ : Grabber

รุ่น : Space Emergency Blanket

สถานที่ผลิต : สหรัฐอเมริกา

สี : Silver

คุณสมบัติ :

- ป้องกันการสูญเสียความร้อนในร่างกาย กรณีที่อุณหภูมิร่างกายเย็นจัด(Hypothermia)
- ผลิตจากโพลีเอสเตอร์อลูมิเนียม สามารถกันและสะท้อนความร้อนที่ออกจากร่างกายได้ดี
- ปกป้องจาก ความหนาวเย็น , ลม และ ฝน ได้
- ขนาด 56 x 84 นิ้ว น้ำหนัก 85 กรัม
- เหมาะสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือ ไว้สำหรับใส่ชุดฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง
- สามารถใช้ได้ประมาณ 2-3 ครั้ง เท่านั้น (Emergency)
- เหมาะสำหรับใช้ปฐมพยาบาลผู้ป่วย
- ได้รับการพัฒนาโดย องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (NASA)

อ้างอิง : http://www.thailandsurvival.com/

fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 25/12/2554 10:33:03





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.12.32 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 10:31  IP : 115.87.12.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113611

คำตอบที่ 85
      

fiogf49gjkf0d
ใครว่างเชิญครับ...






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.12.32 อาทิตย์, 25/12/2554 เวลา : 10:39  IP : 115.87.12.32   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113612

คำตอบที่ 86
      

fiogf49gjkf0d
... " มาเร็ว.. มาเร็วครับน้องกระต่าย... เรามาตื่นตูม กันต่อดีกว่า... 555 "

จากการสัมมนา.. ล่าสุดครับ..

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 1-6
http://www.youtube.com/watch?v=d9Gv-2H_mm8&feature=related

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 2-6
http://www.youtube.com/watch?v=G2Dyu3UPi4c&NR=1&feature=endscreen

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 3-6
http://www.youtube.com/watch?v=NrxjWILzOfU&feature=endscreen&NR=1

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 4-6
http://www.youtube.com/watch?v=U8co3U1wEhA&feature=related

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 5-6
คุณหนุ่ย... คลิปนี้สิ..ครับ.. !!!
ที่คุณอาจจะไม่อยากจะฟัง...???
http://www.youtube.com/watch?v=mleWdyeKmuk&feature=related

ดร.เสรี-พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว 6-6
http://www.youtube.com/watch?v=DqjB0DO9UxM&feature=related>



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 26/12/2554 เวลา : 21:15  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113624

คำตอบที่ 87
      

fiogf49gjkf0d
เรามาตื่นตูม.. กับ ดร. อาจอง กันอีกท่านกันครับ...

วิกฤตน้ำท่วมโลก 1-6
http://www.youtube.com/watch?v=xnb9fs3_it0&feature=related

วิกฤตน้ำท่วมโลก 2-6
http://www.youtube.com/watch?v=LZhLnEtwc9E&NR=1&feature=endscreen

วิกฤตน้ำท่วมโลก 3-6
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=BxF6CU6blN0&feature=endscreen

วิกฤตน้ำท่วมโลก 4-6
http://www.youtube.com/watch?v=lsKQim2thXA&NR=1&feature=endscreen

วิกฤตน้ำท่วมโลก 5-6
ไม่พบ File ครับ...

วิกฤตน้ำท่วมโลก 6-6
http://www.youtube.com/watch?v=RsZpviCqIjU&feature=related




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 จันทร์, 26/12/2554 เวลา : 22:10  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113627

คำตอบที่ 88
      

fiogf49gjkf0d
คำถามจากนาซ่า คุณเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ไว้แล้วหรือยัง?

จากภัยพิบัติที่มาเยือนจนแทบจะกลายเป็นเพื่อนที่มาเยี่ยมเยียนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งแต่ละครั้งก็สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และสร้างความสูญเสียทางจิตใจไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว คงไม่เกิดขึ้นกับเราแน่ๆ แต่ใครจะรู้ว่าภัยทางธรรมชาตินั้น จะเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อไหร่ใช่ไหมครับ และยิ่ง ล่าสุดหน่วยงานใหญ่ยักษ์อย่างองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration) หรือ องค์การนาซา (NASA) ได้ออกมาตั้งคำถาม "คุณเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน ไว้แล้วหรือยัง?" เช่นนี้อีก เราจะไม่สนกันสักนิดเลยเหรอครับ .... ไปดูกันดีกว่าว่าเนื้อหาประกาศนี้มีอะไรบ้าง






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:31  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113724

คำตอบที่ 89
      

fiogf49gjkf0d
คุณพร้อมหรือยัง...???
"ชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน"

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ โลกของเรามีภัยพิบัติเกิดขึ้นมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งที่สร้าง
ความเสียหายเพียงเล็กน้อยและมหาศาล ซึ่งดูเหมือนว่า ยิ่งนับวัน ภัยพิบัติต่าง ๆ ก็
ยิ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือ ภัยพิบัติต่าง ๆ
ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในหลายพื้นที่ที่ไม่เคยมีภัยพิบัติใดๆ เกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวัติ
ศาสตร์ สิ่งนี้จึงแสดงให้เห็นว่า ธรรมชาติไม่มีความปรานีให้กับหลายพื้นที่ทั่วโลกอย่าง
ที่มันเคยเป็นอีกต่อไป ภัยพิบัติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกที่ แม้ในพื้นที่ที่เราไม่คิด
ว่ามันจะเกิดขึ้นได้เลยก็ตาม
และหากวันหนึ่งเกิดภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่ที่คุณอยู่แล้ว มันก็อาจทำให้คุณและครอบ
ครัวต้องอพยพไปอยู่ที่ใดที่หนึ่งในระยะเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีหน่วย
ฉุกเฉินเข้ามาให้ความช่วยเหลือในขณะนั้น แต่บางครั้ง กว่าที่การช่วยเหลือเหล่านั้น
จะมาถึงคุณ ก็อาจต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงหรือหลายวันเลยทีเดียว ดังนั้น
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA จึงได้ออกประกาศเตือน
เกี่ยวกับการเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ทั้งในบ้านและในรถของคุณเอง เพื่อใช้ในยาม
เกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยอุปกรณ์และสิ่งของที่ควรมีในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินแต่ละชุด ควร
ประกอบด้วยสิ่งของตามรายการต่อไปนี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่มรายการสิ่งของอื่น ๆ ที่
ต้องใช้ในยามฉุกเฉินได้ตามความเหมาะสม
ไอคอน หมายถึง ควรเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินประเภทนั้นไว้ในรถยนต์ด้วย
เผื่อว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วคุณอาจอยู่ในรถยนต์ ซึ่งจำนวนของสิ่งของอาจแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน แต่ละครอบครัว โดยอุปกรณ์ฉุกเฉินในรถนี้จะใช้
ในกรณีที่ต้องอพยพเป็นเวลายาวนาน โดยเฉพาะหากเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว
อย่าลืมเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อม...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:39  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113727

คำตอบที่ 90
      

fiogf49gjkf0d
..." น้ำ & อาหาร "

"น้ำ"...

- น้ำคนละ 1 แกลลอนต่อ 1 วัน (สำหรับดื่ม ประกอบอาหาร
และชำระล้างร่างกาย)
- น้ำสำหรับสมาชิกในครอบครัวไว้บริโภคเป็นเวลา 3 วัน
- เครื่องกรองน้ำ

"อาหาร"...

สมาชิกทุกคนในบ้านควรเตรียมอาหารแห้งสำหรับบริโภคอย่างน้อย 3 วัน โดยเลือกอาหารที่เก็บ
ไว้ได้นาน ไม่ต้องแช่เย็น และทานได้ง่าย ซึ่งต้องกะปริมาณอาหารไว้ให้เพียงพอ นอกจากนี้ อาหาร
ที่แพ็คไว้ใช้ยามฉุกเฉินควรมีขนาดกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา และหากยังไม่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
ควรเปลี่ยนอาหารในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินทุก ๆ 6 เดือน

- อาหารกระป๋อง
- น้ำผลไม้กระป๋อง หรือผงชงน้ำผลไม้
- ซุปหมูหรือไก่ก้อน ผงปรุงรสอาหาร
- อาหารตากแห้ง เช่น ปลาหมึก เนื้อแดดเดียว
- นมกระป๋องหรือนมผง
- อาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น โปรตีนบาร์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:45  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113728

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 3 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,12 ธันวาคม 2568 (Online 4648 คน)