WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


" การเตือนภัย และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติ ในอนาคต... "
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:115.87.62.36

ศุกร์ที่ , 25/11/2554
เวลา : 21:12

อ่านแล้ว = 81890 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


fiogf49gjkf0d
ยืนยันจากผู้มีประสบการณ
จาก : คนเดือน10(คนเดือน10) 12/12/2554 10:29:32 [124.122.29.171]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

คำตอบที่ 91
      

fiogf49gjkf0d
"ชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาล"...

ควรเตรียมชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไว้ 2 ชุด คือ สำหรับในบ้าน 1 ชุด และในรถยนต์อีก 1 ชุด
โดยในชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลแต่ละชุด ประกอบไปด้วยสิ่งของดังต่อไปนี้

- ผ้าพันแผล
- สำลีปิดแผล
- พลาสเตอร์ปิดแผล ชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
- ผ้ากอซแบบสามเหลี่ยม และแบบม้วน
- กรรไกร
- ปากคีบ
- เข็ม
- สบู่ก้อน
- ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก หรือผ้าเย็น
- สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค
- เทอร์โมมิเตอร์แบบหลอดพลาสติก
- ไม้กดลิ้น
- ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือเจลหล่อลื่น
- เข็มกลัด
- น้ำยาทำความสะอาด
- ถุงมือยาง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:47  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113729

คำตอบที่ 92
      

fiogf49gjkf0d
"ยาสามัญประจำบ้าน"...

-ยาพาราเซตามอน หรือยาบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ
- ยาแก้ท้องเสีย
- ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ยาขับเสมหะ
- วิตามินต่าง ๆ
- ยาระบาย
- น้ำยาล้างตา/ ยาหยอดตา
- แอลกอฮอล์
- ยาฆ่าเชื้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:49  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113730

คำตอบที่ 93
      

fiogf49gjkf0d
"อุปกรณ์อำนวยความสะดวก"...

- แก้ว ชาม ช้อน ที่เป็นกระดาษหรือพลาสติก
- แผนการฉุกเฉินที่บันทึกไว้
- วิทยุและแบตเตอรี่หรือถ่านสำหรับวิทยุ
- ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย
- มีดพับเอนกประสงค์
- ที่เปิดขวดและกระป๋อง
- แผนที่
- อุปกรณ์ชาร์จแบตโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ
- อุปกรณ์ดับเพลิงขนาดพกพา
- คีมคีบหรือคีมตัดลวด
- เทปพันสายไฟ หรือเทปกาว
- กระเป๋ากันน้ำ หรือกล่องพลาสติก
- แผ่นฟอยล์
- พลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ
-ดินสอและกระดาษ
- อุปกรณ์เย็บผ้าแบบพกพา
- หลอดหยดยา
- ประแจสำหรับขันเกลียวและปลดล็อกอุปกรณ์ต่าง ๆ
- นกหวีด
- พลาสติกม้วน หรือถุงพลาสติก
- หน้ากากป้องกันฝุ่นและถุงมือ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:51  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113731

คำตอบที่ 94
      

fiogf49gjkf0d
"อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย"...

- ผ้าขนหนู
- สบู่
- ผ้าอนามัย
- อุปกรณ์แต่งตัวต่าง ๆ
- ถุงขยะและเชือก
- พลั่วสำหรับขุดหลุมขนาดกะทัดรัด
- ถังน้ำพร้อมฝาปิด
- ยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นและเครื่องสุขภัณฑ์
- ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า

"เสื้อผ้าและเครื่องนอน"...

- เสื้อผ้าและถุงเท้าอย่างน้อย 1 ชุด
- รองเท้าที่แข็งแรง
- เสื้อกันฝน
-ผ้าห่ม หรือถุงนอน
- หมวกและถุงมือ
- ชุดชั้นใน
- แว่นกันแดด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:53  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113732

คำตอบที่ 95
      

fiogf49gjkf0d
" สิ่งของจำเป็นอื่นๆ.... "

"สิ่งของจำเป็นสำหรับเด็ก"...

- นมผง อาหารผง
- ผ้าอ้อม
- ขวดนม
- ยารักษาโรค
- ผ้าห่ม

"สิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ใหญ่"...

- ยารักษาโรค
- ฟันปลอม กาวติดฟันปลอม
- คอนแท็คท์เลนส์ และอุปกรณ์สำหรับล้างคอนแท็คส์เลนส์
- แว่นตา
- อุปกรณ์สำหรับฟัง
- อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่น ๆ

"สิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง"...

- อาหารสัตว์
- หีบ หรือลัง
- น้ำ
- ยารักษาโรค
- เชือกจูงสุนัข/แมว
- ถาดอาหารพับได้
- เอกสารเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของสัตว์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 10:57  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113733

คำตอบที่ 96
      

fiogf49gjkf0d
" สิ่งของจิปาถะ.... "

"สิ่งของให้ความเพลินเพลิน"...

- เกมส์สำหรับเด็กเล่น
- หนังสือสำหรับผู้ใหญ่


"เอกสารสำคัญ"...

ควรเคลือบเอกสารต่อไปนี้ หรือเก็บรักษาไว้ในซองกันน้ำ

- เอกสารเกี่ยวกับการประกันชีวิต
- พาสปอร์ต ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชน
- เลขบัญชีธนาคาร
- บัตรเครดิต และบัตรประจำตัวพนักงานบริษัท
- สูจิบัตร ทะเบียนสมรส เอกสารเกี่ยวกับโรคประจำตัว
- เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น

ข้อแนะนำ:
ควรเก็บอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดรวมกันไว้ในกระเป๋าหรือกล่องที่สะดวกต่อการเคลื่อน
ย้าย เช่น กล่องพลาสติก เป็นต้น และพยายามเลือกสิ่งของทุกประเภทให้มีขนาดกะทัดรัดไว้ในรถ
อีกชุดหนึ่งเพื่อสะดวกต่อการขนย้าย
เบอร์โทรศัพท์ที่สำคัญ เช่น เบอร์โทรศัพท์ญาติพี่น้อง โรงพยาบาล สถานีตำรวจทั้งใน
พื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง



fiogf49gjkf0d
ขอบคุณครับคุณบอย งานเพิ่มอีกอื้อเลย
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 29/12/2554 14:18:19 [110.168.106.136]
ยินดีหาข้อมูลมาให้ทราบกันครับ... มันยังมีวิธีการเตรียมตัวรับภัยพิบัติอีกมากครับ.. จะพยายามมหาเอามาลง
จาก : 005 (005 ) 31/12/2554 8:45:38 [124.121.110.198]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 29/12/2554 เวลา : 11:00  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113734

คำตอบที่ 97
      

fiogf49gjkf0d
หลังจากรอมาหลายๆวัน..
ในที่สุด.. ก็มีคนใจดี เอาเนื้อหาในการสัมมนา
" เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2 "
มา post ไว้ใน youtube ..... ขอบคุณครับ

"เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2 01.MP4" ( ตอนที่ 1 )
http://www.youtube.com/watch?v=wqgy4MnPqtQ

"เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_02.MP4" ( ตอนที่ 2 )
http://www.youtube.com/watch?v=REBzXFMweq4&feature=endscreen&NR=1

ท่าผมเอามาโพสนี้.. เป็นเพียงตอนที่ 1 กับตอนที่ 2 ครับ..
ถ้าท่านสนใจเพิ่มเติม.. เมื่อฟังแต่ละตอนจบแล้ว
ก็คลิ๊ก.. ดูตอนต่อไปได้เรื่อยๆ ตามที่คุณอยากจะฟังครับ..

งั้น.. !!!.... ผมขอฟังตอนที่ 2 ต่ออีกดีกว่า...
ไปก่อนละครับ..



fiogf49gjkf0d
เฮ้อ!!.. ยิ่งฟังแล้วยิ่งว้าเหว่จริงๆกับรัฐบาลเราเอง.... ต้องพึ่งตนเองอย่างเดียวจริงๆ..
จาก : 005 (005 ) 31/12/2554 7:54:36 [124.121.110.198]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.38.245 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 00:45  IP : 124.122.38.245   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113768

คำตอบที่ 98
      

fiogf49gjkf0d
เอามาโพสเพิ่มเติม.. สำหรับพี่ๆที่อาวุโสที่อาจจะเข้าไปคลิ๊กหัวข้อใน Youtube ไม่ค่อยถูกน่ะครับ...

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_03.MP4 ( ตอนที่ 3 )
http://www.youtube.com/watch?v=t2dkMj0iLd0&NR=1&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_04.MP4 ( ตอนที่ 4 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=--3vZW3WqXE&feature=endscreen
ตอนที่ 4 นี้... มีพูดถึงรอยเลื่อน"องครักษ์" ซะด้วยสิครับพี่กบ...

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_05.MP4 ( ตอนที่ 5 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=22crgWSfHbk&feature=endscreen
พึ่งทราบว่า "รอยเลื่อนองครักษ์" เคยเกิดการไหวถึง 7 ริกเตอร์มาแล้ว...
ยิ่งฟัง.. ยิ่งรู้สึกถึงการปกปิดข้อมูลของหน่วยงานรัฐ...



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.110.198 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 08:36  IP : 124.121.110.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113772

คำตอบที่ 99
      

fiogf49gjkf0d
เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_06.MP4 ( ตอนที่ 6 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=y_K9dFTkzMY&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_07.MP4 ( ตอนที่ 7 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=rQFXLL678Ms&feature=endscreen

ในตอนที่ 7 นี้... ทั้งพี่สิงห็ กับคุณนาวี ต้องชอบแน่ๆ..เรื่องการใช้และผลิตพลังงาน
สงสัย.. เราคงต้องขอไปดูงานที่โรงเรียนของ ดร. อาจอง ซะแล้วสิครับ.. น่าสนใจจริงๆ

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_08.MP4 ( ตอนที่ 8 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=JqJWRcafTis&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_09.MP4 ( ตอนที่ 9 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=c-QqlDjkUao&feature=endscreen>



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.110.198 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 13:52  IP : 124.121.110.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113780

คำตอบที่ 100
      

fiogf49gjkf0d
นับถอยหลังกับเด็กชายปลาบู่.....จะจริงหรือเปล่าน๊อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ttc009 จาก 009 223.206.127.101 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 16:14  IP : 223.206.127.101   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113781

คำตอบที่ 101
      

fiogf49gjkf0d
เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_10.MP4 ( ตอนที่ 10 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=OuSqPUCSVCc&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_11.MP4 ( ตอนที่ 11 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=6s93RT0E05s&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_12.MP4 ( ตอนที่ 12 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=f0DIVHn_vtU&feature=endscreen



fiogf49gjkf0d
เอ๊ะ.!!!... อะไรอยู่บนหัวผมหว่า ???...... อ๋อ !!!... กะลานั่นเอง.... 555
จาก : 005 (005 ) 31/12/2554 19:02:16 [124.121.110.198]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.110.198 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 16:30  IP : 124.121.110.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113783

คำตอบที่ 102
      

fiogf49gjkf0d

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_13.MP4 ( ตอนที่ 13 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=_NkDeBUBtrU&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_14.MP4 ( ตอนที่ 14 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=6YKEgbCF2bU&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_15.MP4 ( ตอนที่ 15 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=Rek5WYP6iqk&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_16.MP4 ( ตอนที่ 16 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=H6sg2gmMVHg&feature=endscreen

เจาะลึกภัยพิบัติ ครั้งที่ 2_17.MP4 ( ตอนที่ 17 )
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=gzv3gGgrrl8&feature=endscreen

.... อืม...!!!

อ้าว.. !!.... และอะไรอยู่บนหัวผมอีกล่ะนี่.. ???
เอ๊ย !!... กะลาอีกแล้ว... !!!
คนอะไร.. จะมีกะลาอยู่บนหัวตั้งสองสามใบ... เฮ้อ !!!!!



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.110.198 เสาร์, 31/12/2554 เวลา : 21:35  IP : 124.121.110.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113789

คำตอบที่ 103
      

fiogf49gjkf0d
'สมิทธ' เตือน5 จว. ภาคใต้ ระวัง 'สึนามิ' !

ภัยธรรมชาติอีกลักษณะหนึ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือภัยที่เกิดจาก 'คลื่นขนาดใหญ่ ' ที่สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและอาคารร้านค้าที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล ไม่ว่าจะเป็น 'สึนามิ' ซึ่งเป็นปรากฏการณ์คลื่นยักษ์ที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใต้ทะเล หรือ 'สตอร์ม เซิร์จ' ปรากฏการณ์คลื่นพายุหมุนที่มีความสูงหลายเมตร อันเกิดจากความแรงของลมพายุที่ทำให้น้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น เนื่องเพราะเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และแต่ละครั้งก็ได้สร้างความสูญเสียต่อทรัพย์สิน และคร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนไม่น้อยทีเดียว

สำหรับในปี 2555 นี้ แนวโน้มการเกิดสึนามิ และสตอร์ม เซิร์จ ในประเทศไทยจะเป็นเช่นไร 'สมิทธ ธรรมสโรช' ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นักวิชาการคนแรกที่ออกมาเตือนว่าประเทศไทยกำลังจะเผชิญกับมหันตภัยสีนามิ ก่อนที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นเมื่อปลายปี 47 จะไขข้อข้องใจให้ทราบ

ในส่วนของการเกิดสึนามินั้น สมิทธ ระบุว่า จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์พบว่าปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวเร่งให้เกิดสึนามิก็คือ การที่โลกมีแนวโน้มจะล้ม หรือเกิดการกลับขั้ว อันเนื่องจากน้ำมือมนุษย์ เนื่องจากมีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ 2 แห่งในจุดที่ก่อให้เกิดปัญหา นั่นคือ การสร้างเขื่อน 3 ขา ที่ขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตร เพื่อเก็บกักน้ำปริมาณมหาศาลเอาไว้ แห่งที่สองคือเขื่อนอัสวาน ในประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่กลางทะเลทราย ซึ่งการทำงานของเขื่อนทั้งสองแห่งดังกล่าวส่งผลให้ขั้วโลกเหนือมีแรงเหวี่ยงผิดปกติ และมีการการยกตัวของเปลือกโลกใต้ทะเล ส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง ที่เรียกว่า 'สึนามิ '

สำหรับการเกิดสึนามิในประเทศไทยนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวย โดยจากการสืบค้นข้อมูลที่ชาวเนเธอร์แลนด์ได้บันทึกไว้พบว่า ประเทศไทยเคยเกิดสึนามิ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2426 หรือประมาณ 128 ปีที่ผ่านมา โดยมีคลื่นสูงถึง 35 เมตร มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่ผู้คนที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เสียชีวิตถึง36,000 คน จากนั้นก็เกิดสึนามิขึ้นเป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 ส่งผลให้มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งสถิติเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยมีโอกาสเกิดสึนามิขึ้นได้อีก โดยจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง มีโอกาสที่จะเกิดสึนามิในระยะเวลาอันใกล้นี้ ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต สตูล และนราธิวาส

“ ผมกล้าพูดได้ว่าต้องเกิดสึนามิขึ้นอีกในอนาคต เมื่อมันสะสมพลังงานมากพอที่จะยกเปลือกโลกบริเวณใต้มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่าพระองค์เป็นห่วงมาก ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องเร่งหาข้อมูลโดยด่วน ซึ่งล่าสุดจากการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นและชาวไอแลนด์เหนือ พบว่าในอนาคตจะเกิดสึนามิในทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย 4 จุด ซึ่งผมก็วิเคราะห์ต่อว่า สึนามิที่จะส่งผลกระทบถึงประเทศไทยมี 2 จุดคือ หากเกิดสึนามิในจุดที่ 1 ซึ่งอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศไทย คลื่นจะเข้ามาตั้งแต่ระนอง พังงา ภูเก็ต ถึงสตูล และจุดที่ 4 ซึ่งเกิดบริเวณฟิลิปปินส์และเวียดนาม ซึ่งอยู่ใกล้แถบภาคใต้ ฝั่งตะวันออกของไทย จะเกิดคลื่นที่ส่งผลกระทบต่อนราธิวาสไล่ขึ้นมาถึงก้นอ่าวไทย” นายสมิทธ ระบุ

สำหรับการเกิด 'สตอร์ม เซิร์จ' หรือคลื่นพายุหมุน ในประเทศไทยนั้น ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ยืนยันว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ และจากสถิติที่ผ่านมาประเทศไทยก็เคยเกิดสตอร์ม เซิร์จ ครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง เช่น พายุหมุนที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2505 มีคนตายถึง 900 กว่าคน บ้านเรือนเสียหายอย่างหนัก , พายุเกย์ ซึ่ง เกิดที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อปี 2532 มีความเร็วลมจากศูนย์กลาง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีคนเสียชีวิตนับพันคน

และล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.54 ได้เกิดสตอร์ม เซิร์จ ซึ่งเป็นคลื่นพายุหมุนที่มีความสูงถึง 5 เมตร ใน 4 จังหวัดของภาคใต้ ไดแก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และประจวบฯ' ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและร้านค้าจำนวนไม่น้อย

“คลื่นยักษ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.2554 เป็น สตอร์ม เซิร์จ (storm surge) ที่เกิดขึ้นจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดแรงเกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูงเกิน 5 เมตร ซึ่งคลื่นพายุลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้อีกเพราะช่วงนี้ลมมรสุมมีกำลังแรง โดยพื้นที่เฝ้าระวังคือตั้งแต่ชุมพรไปถึงสุราษฎร์ธานี รวมทั้งจังหวัดปัตตานี ทั้งนี้จากสถิติพบว่าสตอร์ม เซิร์จ มักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ในช่วงเดือน ก.ย-ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่พายุเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคใต้ และก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อาจจะเป็นปีหน้านี้ก็ได้

ทั้งนี้ หากสตอร์ม เซิร์จ เกิดจากพายุที่มีความเร็ว30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงของคลื่น ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3-4 เมตร แต่ถ้าเกิดจากพายุที่มีความเร็ว 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูงของคลื่นก็จะสูงถึง 5-10 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งจะส่งผลให้บ้านเรือนและร้านค้าที่อยู่ตามแนวชายฝั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากลักษณะชายหาดของไทยมีความลาดเอียงมาก ความตั้งของชายหาดไม่มี ดังนั้นพอคลื่นมา ความแรงของคลื่นก็จะทำลายอาคารบ้านเรือนที่อยู่ริมหาดเสียหาย”

ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญที่ทำให้ผลกระทบจากสึนามิและสตอร์ม เซิร์จ รุนแรงกว่าที่ควรจะเป็นก็คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบก่อนเกิดเหตุ

" อย่างสตอร์ม เซิร์จ เที่เกิดเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.54 ที่ผ่านมานั้น เท่าที่รู้กรมอุตุฯ เขาได้แจ้งเตือนแล้ว มีการแจ้งเหตุล่วงหน้าเป็นวัน แต่ทางศูนย์เตือนภัยไม่ยอมนำคำเตือนของกรมอุตุฯไปเผยแพร่ ประชาชนที่อยู่ชายฝั่งทะเลก็ไม่รู้ จึงไม่ได้เตรียมอพยพหรือขนย้ายสิ่งของ ทั้งที่ในสมัยที่ผมเป็น ผ.อ.ศูนย์เตือนภัยฯลงทุนทำระบบเตือนภัยไปตั้งหลายร้อยล้านบาท มีหอเตือนภัยในจังหวัดต่างๆเป็นร้อยแห่ง แต่สัญญาณเตือนภัยไม่ดัง คนในพื้นที่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุคลื่นสูงถึง 4-5 เมตร บ้านเรือนที่อยู่ชายทะเลพังหมด และแม้สตอร์ม เซิร์จ จะไม่ใช่สึนามิ แต่สามารถสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นได้ไม่แตกต่างกัน โดยสตอร์ม เซิร์จ ในไทยมักเกิดจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง และเกิดขึ้นได้เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น อีกทั้งขณะนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดสตอร์ม เซิร์จ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมชายฝั่งจึงต้องเฝ้าระวังมากขึ้น” ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวตบท้าย

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166603






fiogf49gjkf0d
เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่แหลมตะลุมพุกเมื่อ50กว่าปีก่อน แต่ไม่หนักขนาดนี้ ธรรมชาติกำลังเตือนอะไรเราอย
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 1/1/2555 5:31:15 [124.120.107.149]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.110.198 อาทิตย์, 1/1/2555 เวลา : 00:20  IP : 124.121.110.198   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113791

คำตอบที่ 104
      

fiogf49gjkf0d






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.120.107.149 อาทิตย์, 1/1/2555 เวลา : 17:08  IP : 124.120.107.149   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113798

คำตอบที่ 105
      

fiogf49gjkf0d
สำหรับเรื่องชาวมายัน...พระอาจารย์รัต์
ได้เคยอธิบายเอาไว้ก่อนหน้านี้น่ะครับ.. ลองฟังดูครับพี่เร..

พระอาจารย์รัต์ รตนญาโณ 1-4
http://www.youtube.com/watch?v=EeQMLHpONX4&feature=related

พระอาจารย์รัต์ รตนญาโณ 2-4
http://www.youtube.com/watch?v=93NxV6jhdy0&feature=related

พระอาจารย์รัต์ รตนญาโณ 3-4
http://www.youtube.com/watch?v=8f8yiIsjuQY&feature=related

พระอาจารย์รัต์ รตนญาโณ 4-4
http://www.youtube.com/watch?v=GUGA6T8nE6I&feature=related>



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.38.158 อาทิตย์, 1/1/2555 เวลา : 21:02  IP : 124.122.38.158   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113801

คำตอบที่ 106
      

fiogf49gjkf0d
ระดับน้ำวันนั้นเกือบล้นเขื่อน มาวันนี้ก็ยัง 100 เปอร์เซ็น แล้วยังค้างทุ่งอีกเท่าไหร่ ปี2555 ไม่ต้องรอน้ำผนมาก แค่น้ำฝนตกปกติผสมกับน้ำค้างในทุ่ง ก็มิดหัวแล้ว 55555555 ประเทศไทยจงเจริญ ยังไม่คิดสถานะการณ์หนักไปกว่านี้เอาแค่ เบาะๆ
เขื่อนขุนด่านครับ ดูในทีวีเขื่อนภูมิพลน่ากลัวจิงๆน้ำมากพิเศษจริงๆ ถ้ามันยังบริหารจัดการเป็นอยู่อย่างนี้ ปีหน้ากุ...มิงแน่





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

TTC077 จาก TTC-077oTAKOBo 110.169.255.179 อาทิตย์, 1/1/2555 เวลา : 22:06  IP : 110.169.255.179   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113802

คำตอบที่ 107
      

fiogf49gjkf0d
คุณหนุ่ม... ที่ว่าปีใหม่นั้นน่ะ !!!
คุณว่า.. ปีใหม่ของใครหรือ ???

ปีใหม่สากล.... 1 ม.ค. ...... หรือ
ปีใหม่ไทย/ลาว.... 13 เม.ย. ..... หรือ
ปีใหม่จีน.... ตรุษจีน....ล่ะ !!!

คุณอยู่ทางโน้น.. ไม่น่าห่วงเท่าไร !!!
ไอ้ผมมันโดนบังคับให้ต้องอยู่ทางนี้...
นอกจากจะพยายามทำจมูกให้ไวแล้ว
ยังต้องไล่ติด sensor ตรวจจับสัญญาณเตือนภัยไว้ให้เพียบ.. 555
ที่หลบภัย.. ก็ยังไม่ได้สร้างเลย.. เฮ้อ !!!

อ้อ !!... พี่เรครับ..

ไม่ทราบว่าผมจะขอฝากลังอะไหล่รถไว้ที่ชั้นดาดฟ้าบ้านพี่เรได้มั๊ยครับ..
จะแพ็คใส่ลังมาอย่างดีปิดฝามาให้เรียบร้อยน่ะครับ...

เพราะว่าบ้านที่ปากช่องก็คงอาจจะเสร็จไม่ทันกาล
และดูท่าทางยกหน้าไปจากข้อมูลที่ได้รับมา...
น่าจะมีระดับน้ำสูงมากแต่ก็จะมาอยู่ไม่นานนัก ( แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะท่วมขังนานแค่ไหน ?)

แต่ยกถัดไป..
รอบโน้นคงจะไม่รบกวนล่ะครับ..
ก็คงขนไปไว้ที่ปากช่องทั้งหมดเลยครับ..
สงสัยว่า.. คงต้องขายอะไหล่ออกไปบ้างซะแล้วครับ..จะไม่มีที่เก็บที่ปากช่องสักเท่าไร !!!
fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 2/1/2555 0:04:41

 แก้ไขเมื่อ : 2/1/2555 0:06:32

 แก้ไขเมื่อ : 2/1/2555 0:08:15

 แก้ไขเมื่อ : 2/1/2555 0:09:41



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.38.158 อาทิตย์, 1/1/2555 เวลา : 22:29  IP : 124.122.38.158   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113806

คำตอบที่ 108
      

fiogf49gjkf0d
คุณบอยครับบ้านสร้างไม่ทันเอาแบบนี้มั้ยครับ น่าสนใจครับ ลากหนีน้ำใด้ด้วย ลากไปตลาดก็ใด้ตรับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.121.219.44 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 05:44  IP : 124.121.219.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113809

คำตอบที่ 109
      

fiogf49gjkf0d
ส่วนผม จะเอาแบบนี้ไปลากบนปากช่อง คลายเครียดครับ





fiogf49gjkf0d
มินิ(โรเวอร์) คูเปอร์-เอส จะมีฝาถัง 2 ฝาๆแบบนี้ใหม่เกือบหมื่น แต่คันนี้มี 4 ฝา จะเรียกว่าอะไรเนี่ยะ
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 2/1/2555 11:13:02 [124.121.219.44]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.121.219.44 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 05:47  IP : 124.121.219.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113810

คำตอบที่ 110
      

fiogf49gjkf0d
ตาวีเอาแบบนี้แล้วกันครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.121.219.44 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 05:49  IP : 124.121.219.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113811

คำตอบที่ 111
      

fiogf49gjkf0d
แถมครับแถม แบบดุๆ 4X6





fiogf49gjkf0d
ขอบคุณครับ.. พี่เร..
จาก : 005 (005 ) 2/1/2555 9:44:24 [124.122.3.156]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047 Mr.RAY ฅนบางกอก 124.121.219.44 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 05:51  IP : 124.121.219.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113812

คำตอบที่ 112
      

fiogf49gjkf0d
" แนวโน้มปีงูใหญ่ น้ำมาอีก ระวัง 4 ปัจจัยเสี่ยงมหาอุทกภัย "

กล่าวได้ว่าในปี 2555 นี้ สิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศพากันหวั่นวิตกก็คือจะมีเหตุการณ์ 'น้ำท่วมใหญ่' เกิดขึ้นอีกหรือไม่ เนื่องเพราะบทเรียนจากวิกฤตมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความบอบช้ำและความสูญเสียทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยหลายสิบล้านคน อีกทั้งอยากรู้ว่าควรทำอย่างไรหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ซ้ำรอยอีกครั้ง ?

แม้ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกมาฟันธงว่าในปีหน้าจะมีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เกิดอีกหรือไม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งตลอดช่วงวิกฤตอุทกภัยในปี 54 ที่ผ่านมา อย่าง ' รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์' ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร และผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า น้ำท่วมจะมาถี่ขึ้นและแรงขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันจากสถิติพบว่าปัจจุบันวงรอบของภัยพิบัติในประเทศไทยก็มีความถี่เพิ่มขึ้น กล่าวคือเดิมเจ้าพระยาเกิดน้ำท่วมใหญ่ทุก 20-25 ปี แต่ปัจจุบันเกิดน้ำท่วมทุกๆ 2 -4ปี ทั้งนี้เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มขึ้น

และในอนาคตรอบการเกิดของภัยธรรมชาติก็จะสั้นลงอีก หากไม่มีมาตรการแก้ไขและรับมืออย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่นั้นมีอยู่ 4 ปัจจัย ด้วยกันคือ

1.ฝนตกหนัก ปริมาณน้ำในแม่น้ำลำคลองจึงมากขึ้น
2.ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เนื่องจากเมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำก็ถูกทำให้ระเหยกลายเป็นไอมากขึ้น ความชื้นมากขึ้น ฝนก็ตกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้นด้วย
3.แผ่นดินทรุดตัว ซึ่งเมื่อแผ่นดินทรุดตัวลง แม้ปริมาณน้ำที่ไหลบ่ามาจะไม่ได้เพิ่มมากขึ้นแต่ก็สามารถท่วมบ้านเรือนซึ่งอยู่ในบริเวณที่แผ่นดินทรุดตัวได้
4.ผังเมืองแออัด เนื่องการความแออัดของบ้านเรือนเป็นตัวกีดขวางทางไหลของน้ำ จะเห็นว่าเมื่อก่อนกรุงเทพฯ มีพื้นที่ชุ่มน้ำอยู่ถึง 600 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 1,500 ตารางกิโลเมตร แต่ปัจจุบันพื้นที่ชุ่มน้ำของกรุงเทพฯเหลือเพียง 300 ตารางกิดลเมตร นอกจากนั้นพื้นที่ฟลัดเวย์ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริก็เหลือน้อยลง ทำให้การระบายน้ำไม่คล่องตัว

นอกจากนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาปัญหาสำคัญในการรับมือกับอุทกภัยใหญ่ในปี 54 คือการที่ประชาชน รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ขาดข้อมูลและขาดระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เวลาที่ภาครัฐจะนำมาตรการต่างๆ ออกมาใช้ ประชาชน ภาคเอกชน รวมทั้งหน่วยงานต่างๆที่ได้รับผลกระทบทั้งในเชิงบวกเชิงลบต่างก็ไม่ได้รับรู้ว่ามาตรการนั้นๆจะนำไปสู่อะไร ประชาชนจึงไม่ทราบว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ควรทำสิ่งใดก่อน-หลัง ขณะเดียวกันภาครัฐเองก็แก้ปัญหาแบบลองผิดลองถูก ทำให้สถานการณ์ยิ่งบานปลาย

“ประชาชนจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำว่าจะมามากน้อยเพียงใด เพราะถ้าน้ำจะมามาก แต่ประชาชนไม่รู้ เขาจะไม่วางแผนชีวิต ไม่ขนย้ายข้าวของ ไม่อพยพ เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเขา ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็น ส่วนภาครัฐเองก็ต้องมีฐานข้อมูลอยู่ในลิ้นชักแล้วว่าหากใช้บิ๊กแบ็กจะเกิดอะไรขึ้น หากเปิดประตูน้ำตรงจุดนี้ ในระดับ 1 เมตรจะเกิดอะไรขึ้น เปิดระดับ 2 เมตรจะเกิดอะไรขึ้น แล้วก็แจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้ประชาชนรับทราบ แต่ที่ผ่านมามันกลายเป็นว่าแก้ปัญหาแบบลองผิดลองถูกอยู่ตลอดเวลา ลองใช้บิ๊กแบ็กดูซิ ลองเปิดประตูน้ำตรงจุดนี้ดูซิน้ำจะลดลงไหม ถ้าได้ผลก็จะเปิดประตูน้ำเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ได้ผลก็จะปิดประตู คำสั่งที่ออกมามันเป็นอย่างนี้ตลอด แต่สถานการณ์มันรอไม่ได้ รอ 3 วันน้ำมันเข้ามากี่ร้อยล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว”

“ปัจจุบันปริมาณน้ำฝนที่ตกทั่วประเทศเพิ่มขึ้นถึง 30% ขณะที่ปริมาณน้ำในปี 2554 ซึ่งเป็นปริมาณน้ำสะสมจากฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เดือน ส.ค.จนถึง ต.ค.ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปริมาณน้ำที่ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ มีถึง 34,000ล้านลูกบาศก์เมตร ประเด็นสำคัญคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประเมินว่าปริมาณน้ำเหล่านี้จะไหลไปที่ไหนบ้าง และแจ้งเตือนให้ประชาชนรู้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ลึกลับอะไรมีอยู่ในเว็บไซต์ของกรมชลประทาน พร้อมทั้งบอกให้ประชาชนรู้ด้วยว่าถ้าเอากระสอบทรายมากั้นที่คลองหกวาสายล่างจะเกิดอะไรขึ้น กั้นที่คลองมหาสวัสดิ์จะเกิดอะไรขึ้น เพื่อเป็นการสื่อสารเรื่องความเสี่ยงให้ประชาชนรับรู้ ไม่ใช่ว่าแม้แต่พระคุณเจ้าก็ต้องลงมารื้อกระสอบทรายกลางถนน เพราะไม่รู้จะแก้ปัญหาน้ำท่วมวัดยังไง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคม” รศ.ดร.เสรี กล่าว

นอกจากนั้นที่ผ่านมาแต่ละรัฐบาลก็ไม่ได้ใส่ใจกับข้อมูลและปัจจัยที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่อย่างใด หากย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่าคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือไอพีซีซี (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ได้มีรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มและสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นกับไทยและภูมิภาคแถบนี้ ออกมาตั้งแต่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว อีกทั้งยังมีรายงานต่อเนื่องออกมาทุกๆ 5 ปี กระทั่งรายงานฉบับล่าสุด ซึ่งออกมาเมื่อปี 2007 คือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่ง IPCC ระบุชัดเจนว่าความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติมีมากน้อยเพียงใด อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และที่สำคัญคือรายงานฉบับนี้ได้มีการแจ้งให้รัฐบาลของแต่ละประเทศหันกลับมามองประเทศของตัวเองว่ามีความเสี่ยงในเรื่องอะไรบ้าง พร้อมทั้งแนะให้ใช้มาตรการปรับตัวเพื่อให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติได้ โดยให้พิจารณาว่าจะใช้มาตรการป้องกันและลดผลกระทบอย่างไร แต่รัฐบาลที่ผ่านมากลับไม่สนใจ ไม่ได้มีการเตรียมการรับมือกับภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าคูคลองหลายแห่งของไทยขาดศักยภาพในการระบายน้ำ สภาพเมืองไร้ระเบียบ มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างระเกะระกะ ขวางทางน้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุทกภัยในปี 2554 นั้นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

“ เมื่อปี 2509 เวิลด์แบงก์ ก็มีรายงานสิ่งแวดล้อมฉบับหนึ่งเกี่ยวกับกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะ ซึ่งรายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่ากรุงเทพฯเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ แต่คนไทยกลับไม่เคยรู้ว่ามีรายงานฉบับนี้ เพราะไม่มีการแปลเป็นภาษาไทยออกมาเผยแพร่ ขณะที่ภาครัฐก็บอกว่าเวิลด์แบงก์วิตกจริตเกินไปหรือเปล่า แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งหากมีการแปลเป็นภาษาไทยออกมาเผยแพร่คนไทยก็รู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้ว่ามีความเสี่ยง และคิดหาวิธีรับมือ ถ้าได้รับข้อมูลนี้ผมคิดว่าผู้อยู่อาศัยที่จะทำเฟอร์นิเจอร์แบบบิวอินก็คงไม่ทำ อย่างน้อยเขาก็ไม่เสียหาย”

“ในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะมีรายงานการวิเคราะห์เหตุน้ำท่วมใหญ่ ของไทยในปี 54ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร โดยรายงานฉบับนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ถึง 500 กว่าคนร่วมกันเขียน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมก็อยากให้รัฐบาลกรุณาแปลออกมาให้ประชาชนได้รับทราบด้วย ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าวนั้นไม่ได้มองเฉพาะกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่เรามองสถานการณ์ของโลกด้วย เพราะอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของโลกย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไทยด้วย ดังนั้นเราต้องดูสถานการณ์โลกก่อน แล้วค่อยมองมายังภูมิภาค แล้วค่อยมองมาประเทศไทย แล้วค่อยมองมาที่กรุงเทพฯ ” รศ.ดร.เสรี ระบุ

ทั้งนี้ สำหรับการเตรียมรับมือกับปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นั้น ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม แนะนำว่าประชาชนควรติดตามข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับน้ำและพร้อมที่จะใช้ชีวิตในช่วงที่เกิดอุทกภัย คนในชุมชนควรมีการรวมตัวกันซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดการกับปัญหา ขณะที่ภาครัฐก็ต้องศึกษาและวางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำให้ดี เพื่อลดผลกระทบให้เหลือน้อยที่สุด และที่สำคัญต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วแก่ประชาชน เพื่อให้ชาวบ้านรู้เท่าทันสถานการณ์และวางแผนรับมือได้อย่างถูกต้อง

“ ทางออกของประเทศไทยในการรับมือกับอุทกภัยก็คือ หาที่ให้น้ำอยู่ หาทางให้น้ำไป ต้องพิจารณาให้ดีว่าน้ำปริมาณหลายหมื่นล้านลูกบาศก์ที่ไหลลงมานั้นจะนำไปไว้ที่ไหน ทางระบายน้ำมีเพียงพอหรือยัง แล้วก็ต้องพูดความจริงกับประชาชน ขณะที่ประชาชนก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย ผมไม่แนะนำให้ถมดินบริเวณบ้านตัวเองให้สูงขึ้นนะ เพราะถ้าน้ำท่วมอีกบ้านที่ไม่ได้ถมดินจะได้รับความเดือดร้อน วิธีที่ดีที่สุดคือหาทางเสริมหรือต่อเติมบ้านให้สูงขึ้น ถ้าเดิมเป็น 2 ชั้น ก็เสริมเป็น 3 ชั้น ส่วนชั้น 1 ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมก็เปิดเป็นที่โล่ง ให้น้ำผ่าน เพราะจากข้อมูลพบว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะมาถี่ขึ้นและแรงขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น ประชาชนต้องตระหนักในความเสี่ยง ติดตามข่าวสารข้อมูลอย่างใกล้ชิด ต้องพิจารณาถึงเรื่องการทำประกันภัยครัวเรือน”

“ขณะที่ภาครัฐต้องหาเส้นทางให้น้ำไหลผ่าน เช่น ทำฟลัดเวย์ ขุดลอกคลองสาธารณะ จัดทำระบบการเตือนภัย ระบบสนับสนุนการตัดสินใจในระดับชุมชน ทำผังเมืองชุมชน โดยเริ่มตั้งแต่ระดับท้องถิ่นขึ้นไป ถ้าระดับหมู่บ้านทำไม่ไหวก็ต้องส่งต่อไปทางจังหวัด ถ้าจังหวัดทำไม่ได้ก็ส่งต่อไประดับประเทศ ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดในวิกฤตการณ์น้ำท่วมปี 54 ก็คือ ถ้าชุมชนเข้มแข็งและมีส่วนร่วม ปัญหาต่างๆ ก็จะคลี่คลายไปได้ เราได้รู้จักคลองไทยประดิษฐ์ที่สำเร็จได้เพราะความร่วมมือระหว่างบริษัทเอกชน ชาวบ้าน และส่วนราชการในจังหวัดสมุทรสาคร ได้เห็นความร่วมมือของชุมชนสวนส้มโอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งปรากฏกาาณ์เหล่านี้อาจหาไม่ได้ในประเทศอื่นๆ” รศ.ดร.เสรี กล่าวตบท้ายถึงการเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166605



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.3.156 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 09:46  IP : 124.122.3.156   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113813

คำตอบที่ 113
      

fiogf49gjkf0d
ในอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะมีรายงานการวิเคราะห์เหตุน้ำท่วมใหญ่ ของไทยในปี 54ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร โดยรายงานฉบับนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ถึง 500 กว่าคนร่วมกันเขียน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
ยินดีด้วยครับคุณบอย ฝากบอกพี่ไทยให้ย้ายเมืองหลวงด้วยละกัน อยู่แถว อ.บึงสัมพันธ์ บ้านพี่เรือง 108



fiogf49gjkf0d
เดี๋ยวก่อนครับพี่.. ยินดีเรื่องอะไรเอ่ย ???
จาก : 005(005) 3/1/2555 9:39:33 [202.122.130.31]
อ้าว.. เป็น 1 ใน 500 คน หรือเปล่าครับ หรือผมเข้าใจผิด
จาก : 130(130) 3/1/2555 14:37:46 [49.48.151.89]
ที่เป็น 1 ใน 500... คือ ดร. เสรี ณ Thai PBS ครับผม... แต่ก็ยังต้องขอบคุณด้วยครับที่ร่วมยินดีมา..
จาก : 005(005) 4/1/2555 10:08:50 [202.122.130.31]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

130 จาก หนึ่ง กาฬสินธุ์ 49.48.151.89 จันทร์, 2/1/2555 เวลา : 22:21  IP : 49.48.151.89   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113817

คำตอบที่ 114
      

fiogf49gjkf0d
" รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ "

ท่านใดสนใจหาความรู้ก็เข้าไปศึกษาดูเอานะครับ..
รายละเอียดมันเยอะมาก.. ผมแค่ชี้เป้าให้เท่านั้นครับ..

http://board.palungjit.com/f178/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-51726-65.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 อังคาร, 3/1/2555 เวลา : 09:42  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113820

คำตอบที่ 115
      

fiogf49gjkf0d
อ่านเจอเข้า... อื้ม... !!!... จริงแฮะ !!!





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พุธ, 4/1/2555 เวลา : 10:09  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113843

คำตอบที่ 116
      

fiogf49gjkf0d
นั้นสิ !!!....
นี่.. ก็อีกชุดนึงครับ...






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พุธ, 4/1/2555 เวลา : 10:11  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113844

คำตอบที่ 117
      

fiogf49gjkf0d
ได้คุยโทรศํพท์กับคุณก้อง แห่ง http://www.thailandsurvival.com/
ซึ่งมีหัวข้อการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติที่น่าสนใจมากๆ
เลยขออนุญาตนำเอาบทความจากประสบการณืของคุณก้องมาเผยแพร่ให้เพื่อๆพี่ๆได้รับทราบกันครับ..

รวมเว็บไซต์ที่คุณก้องได้ศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ Emergency และ Survival

http://www.americanfamilysafety.com/
http://www.uscav.com/Category.aspx?CatID=1297&TabID=1287
http://www.comet-pyro.de/AllProduct.aspx?LinkBtn=LinkBtnMarine&Page=1
http://www.rei.com/category/4500041
http://www.haringroup.com/en/services/liferaft_service_station/liferaft_service_station.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พุธ, 4/1/2555 เวลา : 10:52  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113845

คำตอบที่ 118
      

fiogf49gjkf0d
นักวิทยาศาสตร์เตือนรับมือภัยพิบัติ2012'สึนามิ-พายุสุริยะ'ถล่ม-กทม.วิบัติแน่!

นักวิทยาศาสตร์เตือน “สึนามิ” เข้าอ่าวไทยปี 55 แนะซ้อมหนีภัยทุกชุมชน จับตา “พายุสุริยะ” ทำไฟดับ ระบบสื่อสารขัดข้อง แนะคนไทยเรียนรู้สู้ปัญหาจากอุทกภัยปี 54 เตือนชุมชนซ้อมหนีภัย ฝึกสติ มีปัญญาสู้ทุกภัย ชี้ 10 ปีเห็นชัด น้ำท่วมเมืองหลวงอยู่ไม่ได้ ต้องย้าย หรือสร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทย

เข้าสู่ปี ค.ศ.2012 ซึ่งมีคำทำนายชะตากรรมธรรมชาติหลายกระแสทั่วโลก ทั้งในแง่วิทยาศาสตร์ และโหราศาสตร์ สำหรับประเทศไทยมีโหราจารย์และนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้สังเกตการณ์ธรรมชาติและออกมาคาดการณ์ภัยพิบัติล่วงหน้าเป็นเวลาหลายปี บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ แต่ทุกคนกำลังเฝ้าจับตาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรับมือความแปรปรวนของธรรมชาติที่ปรากฎให้เห็นมากขึ้นทุกวัน

ปลายปี พ.ศ.2554 นักวิทยาศาสตร์หลายคนต่างพูดตรงกันว่า อุทกภัยของประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่หนังตัวอย่าง ที่ธรรมชาติส่งมาให้คนไทยได้เตรียมใจและเรียนรู้ที่จะรับมือกับ “ของจริง” ที่กำลังจะมาเร็วๆ นี้!

ในแง่มุมของนักวิทยาศาสตร์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการโรงเรียนสัตยาไส หรืออดีตนักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นระบบควบคุมการลงจอดบนดาวอังคารของยานไวกิ้งร่วมกับองค์การนาซาที่คนไทยรู้จักกันดี เผยว่า ตนได้พูดมานานแล้วว่า อีกหน่อยน้ำจะต้องท่วมภาคกลาง แต่อุทกภัยใหญ่ปีที่ผ่านมายังไม่ใช่สาเหตุหลัก และยังไม่ถึงที่สุด

“ระดับน้ำทะเลค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วงชีวิตของผมน้ำทะเลขึ้นมาแล้วประมาณ 20 เซนติเมตร และตอนนี้ยิ่งเร่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะแก๊สมีเทนที่เริ่มขึ้นมาจากขั้วโลกเหนือ ทำให้โลกร้อนขึ้นทุกปี เมื่อความร้อนระเหยขึ้นจากมหาสมุทร เมฆจะมากขึ้น มีพายุมากขึ้น ฝนตกหนักขึ้น”

เฝ้าระวัง “สึนามิ” จ่ออ่าวไทย

ดร.อาจอง อธิบายว่า น้ำแข็งที่ละลายจากภูเขาทางขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และน้ำหนักในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำหนักของแผ่นดินลดลง เช่น ภูเขาหิมาลัยมีน้ำหนักลดลงเพราะน้ำแข็งละลายไหลลงมา เมื่อน้ำหนักไม่สมดุลกันรอบๆ โลก ทำให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนไหวเพื่อปรับสมดุลขึ้นใหม่ เหตุการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก หรือแผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริกเตอร์ที่เกิดนอกชายฝั่งของเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นผลมาจากการเคลื่อนที่และชนกันของขอบแผ่นเปลือกโลกนี้เอง

“สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ โอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะทำให้เกิดสึนามิเข้ามาทางอ่าวไทยได้ เวียดนามและเขมรจะโดนหนัก รวมถึงภาคใต้ของเราด้วย แต่จะไม่หนักเท่าที่ญี่ปุ่น ประชาชนต้องเข้าใจและรู้ทัน ต้องมีการวางแผนในทุกจังหวัดว่าชุมชนต่างๆ ต้องหนีไปอยู่ตรงไหน”

ดร.อาจอง บอกอีกว่า หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น คนไทยจะได้รับการเตือนภัยล่วงหน้า 16 ชั่วโมง จึงสามารถหนีได้ทัน ไม่มีความเสียหายมาก แต่ทางราชการต้องมีการเตรียมพร้อม และซักซ้อมให้ประชาชนหนีขึ้นในพื้นที่สูง

โดยการเกิดสึนามิในอ่าวไทย มีแนวโน้มที่จะเกิดในระยะเวลาไม่นานหลังจากนี้ เพราะปัจจุบันเปลือกโลกมีการชนกันค่อนข้างมากบริเวณรอบมหาสมุทรแปซิฟิก จึงเกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างบ่อย ซึ่งปี2555มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ๆ ที่ทำให้สึนามิเข้ามาในอ่าวไทย

แผ่นดินไหวไม่น่าเป็นห่วง

ดร.อาจอง บอกอีกว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่เริ่มแตกร้าวอยู่บ้าง จึงอาจเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในหลายจุด แต่จะไม่รุนแรงมากนัก อย่างมากสุดประมาณ 5 ริกเตอร์ จึงไม่น่าเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ “เขื่อนแตก” เช่นที่กลัวกัน เพราะเขื่อนสามารถทนต่อแผ่นดินไหวได้ถึง 7.5 ริกเตอร์

อย่างไรก็ตาม คนไทยไม่ควรประมาท เพราะเขื่อนศรีนครินทร์มีรอยร้าวที่เชื่อมโยงไปถึงประเทศพม่า ดังนั้นหากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในพม่าจะมีแรงสั่นสะเทือนเข้ามาในประเทศไทย ดังนั้นจึงควรวางแผนซ้อมอพยพหากเกิดสถานการณ์การณ์ฉุกเฉิน

“พายุสุริยะ”แรงสุดปีนี้-ทำระบบสื่อสารพังชั่วคราว

“อีกปัญหาหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้คือ ดวงอาทิตย์ที่จะปะทุขึ้นแรงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งจะมีรังสีพุ่งเข้ามาที่โลกของเรา ทำให้ระบบสื่อสารพังชั่วคราว เราอาจจะโทรศัพท์คุยกันไม่ได้ เพราะสัญญาณพังหมด แม้กระทั่งไฟฟ้าก็อาจจะดับ เช่นเดียวกับที่ดับในอเมริกาในปีที่แล้ว”

ดร.อาจอง บอกด้วยว่า ผลกระทบจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจะรุนแรงมากที่สุดในปีนี้ สอดคล้องกับการศึกษาเรื่อง “พายุสุริยะ” ของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น นักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า ซึ่งพบว่า เมื่อมีแรงระเบิดในดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจะมีแผ่นดินไหวใหญ่ๆ เกิดขึ้นบนโลก แต่ประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากสึนามิที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวในประเทศฟิลิปปินส์มากกว่า เพราะเมืองไทยมีรอยเลื่อนไม่มากนัก

แนะเรียนรู้อยู่รอดจากปัญหา

แม้โลกกำลังเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกที แต่ ดร.อาจอง มีแนวคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเครียด หรือกลุ้มใจต่อความไม่แน่นอน ปัญหามีไว้เพื่อเรียนรู้ ซึ่งโรงเรียนสัตยาไสของเขาเป็นตัวอย่างที่ดีจากการป้องกันน้ำท่วมได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา

“ร.ร.สัตยาไสของเราตั้งอยู่เหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ซึ่งปี 2553 น้ำท่วมโรงเรียนอย่างหนัก เพราะเขื่อนป่าสักกักเก็บน้ำเกินไป 25% เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งผมบอกให้ทุกคนสังเกตว่าน้ำไหลเข้ามาในโรงเรียนผ่านทางไหนบ้าง จุดไหนมีน้ำซึมเข้ามา และอุดทุกรูที่น้ำซึมเข้าได้ ดังนั้นในปี54น้ำจึงไม่ท่วมโรงเรียนแม้ว่าเขื่อนป่าสักฯ จะกักเก็บน้ำในเขื่อนเกินไปถึง 36%”

ดังนั้นการแก้ปัญหาน้ำท่วมในประะเทศไทยก็ควรใช้วิธีเดียวกัน คือสังเกตดูว่า น้ำท่วมหนักปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นเพราะอะไร น้ำไหลลงมาทางจุดไหนแล้วเราจึงไปแก้ไขตรงนั้นให้น้ำสามารถไหลผ่านลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว ถ้าน้ำระบายได้เร็ว น้ำก็ไม่ท่วม

ย้ายเมืองหลวงดีหรือไม่

ดร.อาจอง ให้ความเห็นต่อการย้ายเมืองหลวงว่า ภายในไม่เกิน 10 ปี คนไทยจะเริ่มรู้แล้วว่ากรุงเทพฯ จะอยู่ไม่ได้ และภายใน 20 ปี น้ำทะเลจะท่วมกรุงเทพฯ ดังนั้นต้องวางแผนตั้งแต่เดี๋ยวนี้ว่าจะจัดการอย่างไร ซึ่งมี 2 แนวทาง คือ 1.ย้ายเมืองหลวง 2.สร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทย

“ประเทศฮอลแลนด์อยู่ใต้ทะเล แต่มีเขื่อน จึงสามารถอยู่ได้โดยไม่จม ทั้งที่เขาจะต้องจมไปนานแล้ว แต่ยังอยู่ได้ ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เราจะสามารถป้องกันอู่ข้าวอู่น้ำในประเทศของเราไว้ได้”

เตือนชุมชนฝึกสติ-ซ้อมหนีภัย

ด้าน ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ นักวางยุทธศาสตร์และนักบริหารองค์กรแนวพุทธ พูดว่า “ขณะนี้ภัยธรรมชาติเกิดที่หัวใจพวกเราเสียแล้ว ภัยพิบัติถูกหัวใจตั้งแต่ยังไม่มาจริงแล้ว ดังนั้นเราควรทำจิตใจให้สดใสไว้ ใจไม่ตื่นตูม กายก็พร้อม เราต้องเตรียมพร้อมเหมือนการใส่เข็มขัดนิรภัยหรือหมวกกันน็อก ไม่เกิดเรื่องก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่ถึงกับแย่

เขาคิดว่าภัยธรรมชาติไม่มีทางจะเบาลงนับจากนี้ เนื่องเพราะพฤติกรรมมนุษย์ที่ยังคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า เผาอ้อย รุกป่าสงวน กระทั่งพฤติกรรมการผลาญพลังงานที่ไม่รู้จักพอของมนุษย์

“เมื่อยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติเหล่านี้ให้เห็นชัดๆ ภัยธรรมชาติก็ไม่มีทางเบาลงได้เลย และยังทำนายไม่ได้ว่าจะเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือแผ่นดินไหว จึงบอกไม่ได้ว่าจะทำอะไร”

โดยสิ่งแรกที่อยากให้คนไทยเตรียมตัวก็คือ เตรียมใจ และปล่อยวาง อุทกภัยในปีที่ผ่านมาเหมือนเราได้ซ้อมใหญ่ ได้ฝึกเรียนรู้ว่าสิ่งไหนจำเป็น-ไม่จำเป็น คนไหนเพื่อนแท้-เพื่อนเทียม คนไหนพึ่งได้-พึ่งไม่ได้ ความน่าไว้วางใจของหน่วยงานรัฐบาลมีมากแค่ไหน เราเริ่มรู้แล้วก็เริ่มทำใจได้ไง

วิธีเตรียมใจขั้นต่อมาที่เขาแนะนำคือ การปฏิบัติธรรม เพื่อทำให้ตั้งสติได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อสติมา ปัญญาย่อมเกิด

“วิกฤตน้ำท่วมทำให้คนเห็นธรรมะมากขึ้น คนฉลาดที่สุดคือคนเอาวิกฤตมาฝึกสติ เอาวิกฤตมาปฏิบัติธรรม ทำให้เกิดสติ เมื่อสติมา ใจจะโล่งสบาย ปัญญาก็ออก ไม่เหมือนเวลาเครียดเกร็ง คนจะไม่มีปัญญา มีแต่การเอาเปรียบ เอาตัวรอด จนอาจจะฆ่าคนข้างๆ ตายได้ หรือแย่งกันกิน เห็นแก่ตัว กักตุน ไม่มีความเมตตา ขณะที่คนมีสติ ถึงตายเขาก็ไม่กลัว”

สำหรับการเตรียมพร้อมทางโลก ดร.วรภัทร์ แสดงความเห็นว่า ประเทศไทยยังไม่มีมาตรการรองรับเรื่องแผ่นดินไหวเท่าที่ควร ซึ่งรัฐบาลควรบอกความจริงประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับรอยแยกรอยแตก หรือปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว นอกจากนั้นอาจจะมีการเปิดหลักสูตรสอนชัดเจนในแต่ละพื้นที่ของแต่ละชุมชน เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเมื่อมีปัญหาจะรวมตัวกันที่ไหน อุปกรณ์ช่วยชีวิตมีอะไรบ้าง ศูนย์อุบัติเหตุจะอยู่ที่ไหน จะช่วยคนเจ็บอย่างไรไม่ให้เป็นเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาต การเตรียมแม่แรง การงัดตึก และน่าจะมีการซ้อมในชุมชน โดยการช่วยกันทำ และอาจเชิญคนที่เคยผ่านแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทอดความรู้ให้เราว่า ถ้าแผ่นดินไหว ไฟไหม้ แก๊สรั่ว ต้องทำอย่างไร การเกิดอุบัติภัยหมู่ ทางโรงพยาบาลส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาจจะเคยซ้อมกันบ้าง แต่ประชาชนกลับไม่เคยได้ซ้อมเลย

สถานการณ์อุทกภัยใหญ่ที่ผ่านมาจึงฉายภาพการแย่งกันกินแย่งกันใช้ น้ำดื่มขาดแคลน คนไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเกิดภัยพิบัติ “ประเทศไทยจะบอกว่าเป็นประเทศไม่มีภัยธรรมชาติไม่ได้อีกแล้ว เมื่อก่อนไม่มี แต่ตอนนี้ภัยธรรมชาติคุกคามเข้ามา ดังนั้นเราต้องให้งบประมาณกับหน่วยงานด้านภัยพิบัติ และสอนให้ประชาชนเรียนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ”

ดร.วรภัทร์ บอกอีกว่า หากเกิดน้ำท่วมโลกในปี ค.ศ.2012 ขึ้นจริง คนไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ แทบพึ่งพาตัวเองไม่ได้เลย ดังนั้นควรสอนเรื่องนี้ตั้งแต่เด็ก ให้สามารถเอาตัวรอดได้ คนที่พักอาศัยในเมืองหากปลูกผักได้ก็ควรปลูกผักตามระเบียงหรือดาดฟ้าเพื่อรองรับวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารจากสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นอีก

Ref. : http://www.manager.co.th/mgrweekly/ViewNews.aspx?NewsID=9550000001459



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.122.42.200 ศุกร์, 6/1/2555 เวลา : 21:48  IP : 124.122.42.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 113896

คำตอบที่ 119
      

fiogf49gjkf0d
อุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถยนต์

เพราะเหตุฉุกเฉินกับรถยนต์อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอขณะที่เราเดินทาง ไม่ว่ารถของคุณจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือจะเป็นรถมือสองก็ตาม เพราะรถมีเรื่องให้เกิดปัญหาได้สารพัด ไล่ตั้งแต่ยาง เครื่องยนต์ กลไก หรือแม้แต่น้ำมันหมดกลางทาง ซึ่งเบาที่สุดก็แค่สร้างความรำคาญให้เท่านั้น แต่ถ้าแย่ที่สุดอาจทำให้ความปลอดภัยน้อยลง รถใช้การไม่ได้ ต้องเสียเงินเสียทองในการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ต่างๆ

วันนี้จะมานำเสนอแนวทางการเตรียมพร้อมไว้ก่อน ด้วยอุปกรณ์ติดรถยนต์ที่ “ทุกคันต้องมี” ซึ่งต้องมีติดรถไว้ยามฉุกเฉิน โดยรถยนต์ใหม่ๆ ในปัจจุบันก็มักจะมีให้พร้อมอยู่แล้ว ทั้งนั้นทั้งนี้เพื่อความมั่นใจในการขับขี่ปลอดภัย และใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณเพื่อให้คุณเดินทางต่อไปได้

แม่แรง ประแจขันล้อ และยางอะไหล่ - รถยนต์ทุกคันจะมีชุดอุปกรณ์ในการเปลี่ยนล้อติดมาให้ทั้งนั้น (หากคุณซื้อรถมือสองมา ก็ให้ตรวจสอบด้วยว่ามีอุปกรณ์ติดรถยนต์นี้ให้มาครบด้วยหรือไม่) ให้ดูจากคู่มือถึงตำแหน่งที่เก็บและวิธีการใช้งานเบื้องต้น ถ้าเป็นรุ่นทีใช้ยางรถยนต์แบบ Run Flat จะไม่มียางอะไหล่ให้ เพราะยาง Run Flat สามารถใช้งานวิ่งต่อได้ (มีข้อแม้ว่าต้องไม่เกินระยะทางที่กำหนด เพื่อทำการเปลี่ยนยางใหม่) แม้จะไม่มีลม เพราะยางรถยนต์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างแก้มยางที่แข็งกว่าปกติ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุยางแบนโดยเฉพาะ

เกจวัดแรงดันลมยาง - ควรมีติดรถยนต์ไว้เสมอ และใช้วัดเดือนละครั้ง หรือทุกครั้งหลังมีการเปลี่ยนอุณหภูมิภายนอกมาก เพราะลมยางจะลดลงประมาณ 2-3 ปอนด์ต่อเดือน อย่าลืมว่าต้องวัดขณะที่ยางรถยนต์ยังเย็นอยู่ และเติมที่ยางอะไหล่ของรถคุณด้วย

ฟิวส์สำรอง – ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟในรถยนต์ไม่ว่าส่วนไหนก็ตาม อย่างแรกที่สามารถตรวจสอบได้ทันทีและง่ายก็คือ ตรวจที่กล่องฟิวส์ ดูตำแหน่งฟิวส์ของอุปกรณ์ที่มีปัญหาตามที่ระบุจากตารางในคู่มือรถยนต์ หรือที่หลังกล่องฟิวส์ ถ้าพบว่าฟิวส์ขาด ก็สามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนฟิวส์สำรองทดแทนไปก่อน โดยในกล่องจะมีตำแหน่งบอกฟิวส์สำรอง ด้วย

สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ – ควรมีติดรถยนต์ไว้ตลอดการเดินทาง แม้แบตเตอรี่ของรถจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ เพราะโอกาสที่แบตเตอรี่รถยนต์จะมีปัญหาระหว่างการเดินทางก็ยังคงมีความเป็น ไปได้ ขณะเดียวกันก็อาจเป็นฝ่ายให้ความช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย

ชุดปฐมพยาบาล - เลือกใช้แบบทั่วไปเพื่อกรณีอย่าง รอยแผลบาด โดนของร้อน เคล็ดฟกช้ำ และควรมีผ้าพันแผลไว้ด้วย

กระป๋องดับเพลิง - ไฟอาจเกิดขึ้นได้กับรถด้วยสาเหตุง่ายๆอย่าง สายไฟช็อต หรือ น้ำมันรั่ว ทันทีที่เกิดเปลวไฟขึ้นกับรถยนต์ของคุณ ให้รีบออกจากรถโดยเร็วที่สุด ส่วนการใช้กระป๋องดับเพลิงนั้น จะใช้กับกรณีที่เป็นเปลวไฟเล็กๆ ที่เพิ่งเริ่มก่อตัว กระป๋องดับเพลิงจะช่วยดับและลดความเสียหายได้ แต่ถ้าเกิดเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่ กระป๋องดับเพลิงอาจไม่เพียงพอ ควรพาตัวเองออกจากรถให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยกระป๋องดับเพลิง หาซื้อได้ตามแผนกอุปกรณ์รถยนต์ หรือร้านประดับยนต์ตามห้างทั่วไป อย่าลืมทำความเข้าใจวิธีการใช้งานก่อนด้วย

ไฟเตือนระวัง - เป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดรถไว้ในกรณีที่รถยนต์ของคุณเกิดมีปัญหาต้องจอดข้าง ทาง เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแสดงให้ผู้ใช้รถยนต์คนอื่นๆเห็นและระวัง โดยเฉพาะเวลากลางคืน นอกจากเปิดไฟฉุกเฉินที่รถแล้ว เราอาจะใช้ไฟเตือนระวังวางไว้บนหลังคา (แต่ต้องใช้แบตเตอรี่) ซึ่งผู้ใช้รถยนต์คันอื่นจะสามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล หรือถ้าไม่มีก็อาจใช้อุปกรณ์สามเหลี่ยมสะท้อนแสงบอกตำแหน่งแทน

ถุงมือ ครีมทำความสะอาด และผ้าสะอาด – ต่อให้เป็นงานที่ง่ายที่สุดในการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษารถยนต์ ก็ยังทำให้มือของท่านเปื้อนได้เช่นกัน ด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ อย่างน้อยก็ไม่ทำให้มือที่เลอะของท่านไปโดนเสื้อผ้า เบาะ หรืออุปกรณ์ภายในรถยนต์ ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด

บัตรสมาชิกหรือเอกสาร Roadside Assistance - ที่สมัครเอาไว้ ให้เก็บไว้ในรถยนต์หรือกระเป๋าสตางค์เพื่อความสะดวกในการติดต่อใช้บริการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินทุกครั้ง
กล้องดิจิตอล หรือกล้องจากโทรศัพท์มือถือ – เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ เราสามารถใช้กล้องบันทึกภาพและเสียงได้เอง เพื่อไว้เป็นหลักฐาน หรือประโยชน์ต่อการเอาประกันภัย
โฟมปะยาง และเครื่องเติมลมไฟฟ้าแบบพกพา – เป็นอุปกรณ์ที่ควรซื้อติดรถยนต์ไว้ (สำหรับคนที่อาจจะขี้เกียจเปลี่ยนยางอะไหล่) สำหรับรอยรั่วเล็กน้อยบนยาง โฟมที่ว่านี้จะสามารถเข้าไปอุดรูรั่วเพื่อให้สามารถใช้งานยางรถยนต์ต่อไปได้ แต่ใช้งานเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น หลังจากที่หาร้านยางรถยนต์ได้ให้รีบทำการแก้ไข อย่างไรก็ตามร้านยางทั่วไปจะไม่ปะยางที่ได้รับการยิงโฟมอุดรั่วมาเพราะว่า ข้างในยางจะเต็มไปด้วยคราบเหนียวของโฟม อย่าลืมว่าโฟมใช้เพื่อการใช้งานแบบชั่วคราวเท่านั้น นอกจากโฟมอุดรั่ว เราอาจใช้เครื่องเติมลมไฟฟ้าแบบพกพาได้ แต่ก็จะทำได้แค่ประวิงเวลาสำหรับรอยรั่วเล็กๆเท่านั้น

กระดาษและปากกา – หลายคนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แต่จริงๆ เราใช้ประโยชน์จากมันได้หลากหลาย เช่นเขียนโน้ตเหน็บไว้ที่กระจกหน้ารถยนต์ เป็นต้น

GPS (Global Positioning System) – เมื่อต้องเดินทางไปในที่ใหม่ๆ หรือสถานที่ไม่คุ้นเคย การมีเครื่อง GPS ติดรถยนต์ไปด้วยจะช่วยในเรื่องการบอกพิกัดของตำแหน่งที่อยู่ และที่ๆ จะไปได้อย่างชัดเจนและง่ายขึ้น

และเมื่อต้องเดินทางไกลควรตรวจสอบว่าโทรศัพท์มีแบตเตอรี่เพียงพอต่อการ ใช้งานไป ตลอดการเดินทางๆ รถยนต์หรือไม่ เพื่อการโทรขอความช่วยเหลือยามเกิดเหตุฉุกเฉินโดยเฉพาะเวลาอยู่ในพื้นที่ เปลี่ยว และควรบันทึกเบอร์โทรศัพท์สำคัญเช่นของสถานีตำรวจท้องที่ ตำรวจทางหลวง (1193), 191, และจส.100 (0-2711-9160-2) เอาไว้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องสำคัญที่ควรจะมีการตรวจเช็คอุปกรณ์ติดรถยนต์ต่างๆ ให้แน่ใจ ว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เช่น ยางอะไหล่รถยนต์ มีลมเพียงพอหรือไม่ , ชุดปฐมพยาบาล ยังมียาและอุปกรณ์ใช้งานได้ไม่หมดอายุหรือเปล่า, แม่แรงและเครื่องมือประจำรถยนต์อื่นๆ อยู่ครบถ้วนหรือไม่ และควรทำความคุ้นเคยในการใช้อุปกรณ์ด้วย

แหล่งที่มา : 3M ประเทศไทย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 12/1/2555 เวลา : 16:35  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 114027

คำตอบที่ 120
      

fiogf49gjkf0d
ได้มีโอกาสอ่านกระทู้จาก Bloggang ทองกาญจนา ในเวปพลังจิต..
เลยขออนุญาตนำมาเผยแพร่ เพื่อเป็นไอเดียรับมือภัยพิบัติคราวหหน้าครับ..

เผยกลเม็ด.. “วิธีรับมือน้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล”
ตุลาคม 4, 2011

เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายคนที่คงจะกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมหรือกำลังหาวิธีป้องกันบ้านของตนเองให้ปลอดภัยจากน้ำได้นำไปใช้หรือเรียนรู้ไว้ก็คงไม่เสียหายอะไร
วิธีป้องกันไม่ให้น้ำท่วมบ้านอย่างได้ผล

น้ำท่วมเชียงใหม่ปีนี้ บ้านผมก็หนีไม่พ้นอีกเช่นเคย เพราะอยู่ในโซนหมายเลข 1 ที่น้ำจะต้องท่วมก่อนโซนอื่น ๆ ยังโชคดีที่ อบต.ปรับปรุงถนนหน้าหมู่บ้านให้มีความสูงมากขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นถึงแม้ระดับน้ำจากแม่น้ำปิงจะสูงเกินค่าวิกฤติ คือ 3.70 เมตร น้ำก็ยังไม่ล้นตลิ่งข้ามถนนเข้าไปท่วมหมู่บ้าน แต่ในที่สุดก็ไม่รอด เพราะปีนี้น้ำขึ้นสูงสุดถึง 4.94 เมตร สรุปว่าน้ำเริ่มเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้านตั้งแต่ตอนบ่ายวันพุธที่ 28 กันยายน 2554 และหยุดท่วมในเช้าวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554

ถึงน้ำจะท่วมถนนภายในหมู่บ้านสูงถึง 60 ซม. จนไม่สามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวเข้า-ออกได้ตามปกติ แต่จากประสบการณ์ที่ต้องผจญกับน้ำท่วมในหมู่บ้านนี้มาหลายครั้ง ทำให้เกิดองค์ความรู้ที่จะป้องกันไม่ให้น้ำจากถนนภายในหมู่บ้าน ไหลเข้าไปท่วมในบริเวณบ้านอย่างได้ผล ขอนำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่น ๆ ในวันนี้ครับ

เตรียมการก่อน

ประสบการณ์จากน้ำท่วมเมื่อครั้งที่แล้ว พบว่าถึงแม้จะกั้นกระสอบทรายไว้ที่ประตูรั้ว แต่ก็ไม่สามารถกั้นน้ำเข้าบ้านได้ เพราะ (1)บริเวณสนามหญ้าและลานอิฐบล็อกภายในบริเวณบ้านจะมีน้ำปุดทะลุพื้นดินขึ้นมา (2)กระสอบทรายไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ เมื่อถูกคลื่นที่เกิดจากรถยนต์วิ่งฝ่าเข้ามาในถนนที่น้ำท่วม จะมีแรงดันมหาศาลทำให้กำแพงกระสอบทรายพัง และน้ำไหลเข้าบริเวณบ้านได้ในที่สุด
จากประสบการณ์ดังกล่าวผมได้เตรียมการไว้หลังจากน้ำลดครั้งที่แล้ว ดังนี้..

(1) ปรับปรุงพื้นรอบ ๆ บริเวณบ้านใหม่ โดยทำพื้นให้เรียบและเทพื้นด้วยคอนกรีตซีแพ็คลงไปจนเต็มชิดรั้วทุกด้าน

(2) ทำบานเหล็กสำหรับกั้นน้ำพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง โดยทำกรอบรางเหล็กสำหรับสวม ติดถาวรไว้ที่ประตูรั้วบ้านทั้งซ้ายและขวา ส่วนบานเหล็กและเสาค้ำยันถอดออกได้ เพื่อให้สามารถใช้ประตูบ้านได้ในยามปกติ

(3) ซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดแช่ขนาดเล็กที่เรียกว่าไดรโว่ ราคาประมาณ 1,500-2,000 บาท เครื่องสูบน้ำชนิดนี้จะขาดตลาดทันทีที่เกิดน้ำท่วม จึงต้องซื้อเก็บไว้ล่วงหน้า แล้วก็ไม่ลืมสายไฟพร้อมปลั๊กที่จะใช้ต่อพ่วงมาจากตัวบ้านจนถึงประตูรั้ว

(4) ดินน้ำมันจำนวนหนึ่ง ใช้สำหรับอุดในช่องว่างที่ประกอบบานเหล็กกั้นน้ำเข้ากับประตูรั้วบ้าน
น้ำมาแล้ว

เสียงประกาศเตือนภัยจาก อบต. ตั้งแต่เช้า แจ้งว่าน้ำคงจะเข้าท่วมหมู่บ้านในช่วงบ่าย ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันทรัพย์สินของตนเอง ผมนำรถยนต์ออกจากบ้านไปจอดไว้ยังที่ปลอดภัยนอกหมู่บ้าน กลับเข้ามาก็เริ่มติดตั้งบานเหล็กเข้ากับประตูรั้วบ้าน ติดตั้งเสาค้ำยัน ใช้ดินน้ำมันอุดตามรอยต่อระหว่างบานกับกรอบรางเหล็ก นำเครื่องสูบน้ำไดรโว่มาวางไว้ใกล้ประตูรั้ว ในตำแหน่งที่คาดว่าน้ำจะซึมเข้ามาและท่วมขังอยู่ ต่อสายไฟพร้อมใช้งาน แล้วรอน้ำที่กำลังเริ่มไหลเข้ามาในหมู่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ...

เวลาประมาณ 16.00 น. น้ำท่วมถนนภายในหมู่บ้านทุกถนนแล้ว มีน้ำซึมผ่านบานเหล็กที่ประตูรั้วเข้ามาในบ้านของผมปริมาณหนึ่ง แต่เมื่อเปิดเครื่องสูบน้ำก็สามารถควบคุมระดับน้ำไม่ให้สูงจนเกิดความเสียหายได้ เมื่อน้ำในถนนลดลง ผมไม่ต้องลำบากในการทำความสะอาดบริเวณบ้าน ที่มีดินโคลนตกค้างจากน้ำท่วมขัง เหมือนน้ำท่วมเมื่อครั้งก่อนอีกแล้ว...

ภาพบรรยากาศการติดตั้งบานเหล็กเข้ากับเสาประตูรั้วบ้าน พร้อมติดตั้งเสาค้ำยัน






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 ศุกร์, 13/1/2555 เวลา : 14:22  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 114098

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 4 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,11 ธันวาคม 2568 (Online 6285 คน)